เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 409 – เด็กใหม่ที่น่าทึ่ง

ตอนที่ 409 เด็กใหม่ที่น่าทึ่ง

คนทั่วไปคงไม่สามารถระบุสถานะของดาบมืดได้

ตามปกติ ถ้ามีคนสันนิษฐานว่าเขาเป็นขโมย เขาก็ควรดูเหมือนขโมย บางทีอาจจะมีลักษณะที่เรียบง่ายธรรมดาเพื่อปกปิดร่องรอย อย่างไรก็ตาม หน้ากากที่ดีที่สุดไม่ใช่รูปร่างลักษณะ แต่เป็นสถานะ ไม่มีผู้ใดจะคาดได้ว่าขโมยจะปลอมตัวเป็นนักรบได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นหนึ่งในสามนักรบ นี่คือเคล็ดลับที่ไร้พิรุธ

ดังนั้น สถานะที่แท้จริงของขโมยผู้นี้ ที่ไม่เคยถูกพบมาก่อน กลับถูกเย่ว์หยางเปิดโปงเป็นครั้งแรก

ทุกคนตกตะลึง

เมื่อมีจักษุญาณทิพย์ เย่ว์หยางก็ไม่ต้องการคำอธิบาย

แม้ไม่มีจักษุญาณทิพย์ เย่ว์หยางก็คงไม่ถูกหลอก เพราะคนฉลาดมักจะระแวงสงสัย แค่โดนสะกิดใจอย่างหนึ่งก็เชื่อคนอื่นได้ง่าย

“ถูกแล้ว, ข้าคือดาบมืดตัวจริง” ปราณนักรบเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่าขยายตัวออก จากนักสู้ระดับเจ็ดเป็นนักสู้ชั้นเตรียมปราณก่อกำเนิด พอเขาตวัดกรงเล็บคมสองครา รวดเร็วปานสายฟ้า เขาก็อยู่ในชุดดำทั้งตัวเพียงชั่วพริบตา กลายเป็นขโมยจากเผ่าพันธุ์จิ้งจอก เขาปกปิดสถานะตนเองอยู่ในร่างนักรบ แม้แต่สถานะเผ่าหมาป่าก็เป็นสถานะปลอม

เย่ว์หยางคิดว่าการอวดหางหมาป่าใหญ่ (หมายถึงอวดอ้างเป็นสุภาพบุรุษผู้มีเกียรติ) จะอธิบายคนผู้นี้ได้ดี

อย่างไรก็ตาม นี่นับเป็นวิธีปกปิดร่องรอยที่ดีที่สุด

คำพูดของเฉินเซียนเซิงเกี่ยวกับเรื่องที่ดาบมืดชำนาญในการปลอมตัวย่อมเป็นเรื่องจริงแน่นอน เย่ว์หยางสงเกตเห็นเอวของดาบมืดและสังเกตว่ามีมีดชั้นเงินอยู่เล่มหนึ่งเล่มสีเขียวเข้ม มีอักษรรูนสวรรค์สลักไว้อย่างโดดเด่น นี่แสดงว่าอย่างน้อยต้องเป็นมีดสมบัติชั้นทอง อย่างไรก็ตาม มันอยู่ในปลอกหนังทำให้ดูเหมือนมีลักษณะของสมบัติชั้นทองแดง นับว่าเป็นความคิดที่ฉลาดอย่างแท้จริง

“ขอข้อมูลให้ข้าด้วยเถอะ ข้าจะจ่ายให้เจ้าถ้ามันมีประโยชน์” เย่ว์หยางทำเหมือนว่าเขากำลังซื้อข้อมูลสำหรับก๊วนขโมย

“อย่าบอกเขา! เจ้าเด็กนี่ดูเหมือนไม่ใช่คนดี” คนเผ่าแคระทั้งสองคัดค้านพร้อมกัน

“ข้าจะแบ่งข้อมูลเบื้องต้นให้ รังมังกรปีศาจมีอยู่จริงๆ แต่ปัจจุบันนี้เป็นฐานของนักล่ามังกรและเป็นที่ปฏิบัติการของพวกนักล่ามังกรมากกว่าสองกลุ่ม พวกมันร่วมมือกับมังกรยักษ์ปีศาจข้างใน พวกมังกรจะไล่ติดตามมังกรที่ไม่รู้เรื่องราวอื่นๆ ขณะที่นักล่ามังกรจะทำหน้าที่สังหารพวกมัน จากนั้นพวกมันก็จะแบ่งสมบัติอย่างเท่าเทียมกัน ตอนนี้ พลังของพวกเราไม่พอจะโค่นพวกนักล่ามังกร ขณะที่พวกมันมีคนระดับหัวหน้าอย่างน้อยสองคนที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด และไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของพันธมิตรปราณก่อกำเนิด ลืมไปได้เลยเรื่องฆ่ามังกรยักษ์ผู้ชั่วร้าย” ทอเรนหัวหน้ากลุ่มผู้เปลือยกายท่อนบนร่างกำยำมองดูเย่ว์หยางและพูดว่า “ขอทราบหน่อยได้ไหมว่า กลุ่มของเจ้ามีนักสู้ปราณก่อกำเนิดคอยสนับสนุนอยู่หรือเปล่า? ถ้าท่านมีอย่างน้อยสักคน บางทีเราจะยอมร่วมมือกัน ทางฝ่ายเรามีนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนเดียว เขาคือความภูมิใจของเผ่าพันธุ์เรา “ท่านเขาเงิน”

“เรามีนักสู้ปราณก่อกำเนิด แต่เราจะไม่ร่วมมือกัน เราจะแยกกันแล้วหาสมบัติที่เราจะหาได้” เย่ว์หยางปฏิเสธ

“อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจ ค่อยทำหลังจากได้รับข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมก็ได้” ผู้เฒ่าปากู่ผู้ฉลาดรีบเสริม หลังจากรู้ว่าเย่ว์หยางได้รับการสนับสนุนจากนักสู้ปราณก่อกำเนิด นัยน์ตาของเขาเป็นประกายทันที เมื่อเขารู้ว่ามีหรือไม่มีการสนันสนุนจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดจะมีความแตกต่างกันเพียงไหน

“ฮืม…” คนแคระทั้งสองไม่ได้คัดค้านการแบ่งปันข้อมูลให้เย่ว์หยางอีกต่อไป

“ทางเข้าถ้ำมังกรปีศาจจะแตกต่างจากของรังมังกรโดยทั่วไป ไม่ได้ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงที่เป็นรังของมังกรตามปกติ แต่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของป่าหิน ในป่าหินนั้นจะเต็มไปด้วยภูมิประเทศและหน้าผา อันตรายมากขนาดที่นักรบธรรมดามิอาจเข้าไปใกล้ได้ ภูมิประเทศที่เป็นอันตรายนี้ทอดตัวยาวหลายสิบกิโลเมตร และในท่ามกลางภูมิประเทศที่เป็นอันตรายนี้ มีหน้าผาสูงชัน ทางเข้าถ้ำมังกรปีศาจจะอยู่ตรงกลางหน้าผาสูงชันนี้ ด้านล่างทางเข้าจะเป็นหน้าผาที่เรียบลื่น ดังนั้นจึงไม่มีทางอื่นที่จะเข้าไปได้ ยกเว้นด้วยวิธีบิน นักผจญภัยเกือบทั้งหมดตายเพราะถูกฝูงมังกรปีศาจที่อยู่รอบทางเข้าโจมตีทำร้าย มังกรที่สร้างความลำบากเหล่านี้บางส่วนเป็นอสูรทองแดงระดับเก้า ขณะที่บางส่วนเป็นอสูรเงินระดับแปด โชคดีที่ มังกรปีศาจระดับจ้าวอสูร ที่เป็นอสูรทองระดับเจ็ดมีอยู่ไม่กี่ตัว” ดาบมืดเหลือบมองเย่ว์หยางขณะที่ค่อยๆ บอกเล่าข้อมูลเหล่านี้ “ปัจจุบันนี้ เท่าที่ข้ารู้ มีมังกรดำหนึ่งตัว มังกรแดงสองตัว มังกรดำนั้นยังไม่ใช่มังกรดำนรกหรือเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ แต่มันก็ยังทรงพลังอย่างน่าทึ่ง แม้ว่ามังกรทุกตัวจะเป็นอสูรทองระดับสิบ แต่พลังของมังกรดำยังมากกว่ามังกรอีกสองตัวอยู่หลายเท่า ตามการประเมินของข้า นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้า ยังมิอาจทำอันตรายมังกรเหล่านี้ได้แม้แต่น้อย นอกจากนี้ เราจำเป็นต้องได้นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสามเป็นอย่างน้อยเอาไว้สู้กับมังกรแดง ยิ่งกว่านั้น ข้าไม่อาจรับรองได้ว่ายังมีมังกรปีศาจอยู่ในรังมังกรเพิ่มขึ้นหรือไม่ บางทีอาจจะมีก็ได้ และบางทีพวกมันอาจมีลักษณะที่แข็งแกร่งยิ่งกว่ามังกรทั้งสามตัวข้างนอกก็ได้

“นักสู้ปราณก่อกำเนิดจะต้องร่วมกำลังกันและให้ความร่วมมือกันเพื่อให้ได้ชัยชนะ” ผู้เฒ่าปากู่ผู้ฉลาดแนะนำเย่ว์หยาง “

“ท่านเขาเงินผู้ยิ่งใหญ่จากเผ่าของเราเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้า ข้าขอทราบระดับนักสู้ปราณก่อกำเนิดฝ่ายท่านได้หรือไม่? ทอเรนหัวหน้ากลุ่มแสดงอย่างชัดเจนว่าต้องการต่อรอง ถ้ากลุ่มของท่านอ่อนแอกว่าของข้า ก็เสียใจด้วย อย่างนั้นท่านต้องเป็นฝ่ายรับคำสั่งข้า

“ระดับหก” ทันทีที่เย่ว์หยางพูดเช่นนี้ ดาบมืดและสมาชิกในกลุ่มแสดงสีหน้าแตกต่างกันไป

มีทั้งดีใจ, ไม่สบายใจ, ปลาบปลื้ม, ตื่นเต้นและกังวล

มองอย่างผิวเผิน ได้พันธมิตรชั้นยอดนับเป็นข่าวดีแน่นอน มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งจะพิชิตภารกิจได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม พันธมิตรที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง ก็หมายความว่า จะต้องแบ่งสมบัติให้คนอื่นมากขึ้น นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกจะต้องได้รับสมบัติมีค่ามากและหาได้ยากแน่นอน เขาจะไม่สนใจสมบัติโดยทั่วไป

ทอเรนหัวหน้ากลุ่มส่งสายตาเป็นนัยกับผู้เฒ่าปากู่และพูดว่า “ข้าไม่ได้ลบหลู่อะไรหรอกนะ แต่ข้าขอทราบนามนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้นี้ได้ไหม? วิธีนี้ ข้าจะได้รายงานท่านเขาเงินได้สะดวกใจ”

เย่ว์หยางมองหน้าเขาและกล่าวอย่างเรียบเฉยว่า “ไตตัน”

ทุกคนตะลึงอีกครั้ง

เพราะเป็นชื่อที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกที่หนุนหลัง ทุกคนในหอทงเทียนชั้นที่หกจะต้องรู้จักทั้งนั้น คาดไม่ถึงเลยว่า บุรุษสวมหน้ากากนี้จะอ้างถึงชื่อที่พวกเขาไม่คุ้นเคย

“โกหก!” คนแคระสองคนอารมณ์เสียและกล่าวหากลับทันที “เราไม่เคยได้ยินชื่อไตตันมาก่อน”

“ข้าขอทราบว่าไตตันผู้นี้มีผลงานโดดเด่นใดบ้าง ที่พวกเราพอจะเชื่อใจยอมรับนับถือได้?” ทอเรนหัวหน้ากลุ่ม ในตอนแรกก็คิดว่าบุรุษผู้นี้กำลังโกหก เป็นเรื่องที่เสี่ยงมากกับการหลอกว่าเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด แต่ความจริงบุรุษผู้นี้กลับโกหกว่าเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกซึ่งสามารถถูกเปิดโปงได้ง่าย บุรุษที่สวมหน้ากากนี้ควรจะรู้ความจริงข้อนี้ดี อย่างนั้นทำไมเขาถึงตั้งใจโกหก? หัวหน้าทอเรนรู้ตัวว่าเขาไม่ควรจะขัดแย้งกับนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก ดังนั้นเขาจึงรอบคอบเป็นอย่างยิ่งก่อนที่เขาจะสามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลนี้เป็นข้อมูลปลอม”

“เขาสังหารเอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ตามรายชื่อวายร้ายในบัญชีเลือดเมื่อเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ก็มีเยาถง ผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดในป้อมสายฟ้า เรื่องเช่นนี้ พวกเจ้าสามารถสอบถามได้ที่สมาคมนักรบ” เย่ว์หยางออกไปก่อนที่จะทิ้งคำพูดประโยคสุดท้ายให้พวกเขา “ข้าจะให้เวลาสามชั่วโมง, ไม่ว่าพวกท่านจะร่วมด้วยหรือไม่ก็ตาม”

“แล้วท่านไตตันที่น่านับถือเล่า?” ผู้เฒ่าปากู่รีบถาม

“เขาจะปรากฏตัวเมื่อถึงคราวจำเป็น” เย่ว์หยางหายตัว

“….” ทุกคนมองหน้ากันเองด้วยความตกใจ ไม่แน่ใจว่าพวกเขาควรจะเชื่อหรือไม่

บุรุษผู้นี้หยิ่งยโสเกินไป ถ้าเขาไม่มีความมั่นใจ เขาก็คงไม่เอาชีวิตมาทิ้งที่ถ้ำมังกรปีศาจเป็นแน่ ถ้าไม่ได้รับการปกป้องจากนักสู้ปราณก่อกำเนิด คนระดับเขาจะต้องกลายเป็นอาหารของมังกร แต่ชื่อไตตันนี้ พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ โดยปกติ นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกจะต้องเป็นที่รู้จักกว้างขวางยาวนานอย่างน้อยก็หลายร้อยปี เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนได้ยังไง?

แม้ว่าจะตั้งใจซ่อนพลังที่แท้จริงไว้ แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่ชื่อนั้นจะฟังดูไม่คุ้นเคย

พวกเขามองกันและกันและรีบไปที่สมาคมนักรบในเมืองถ่ากู่ในทันทีต่อมา เพื่อคาดคั้นเอาความจริง

อย่างไรก็ตาม คำตอบที่ได้รับจากสมาคมนักรบทำให้พวกเขาอึ้งตะลึงไปหมด จนอยากจะร้องไห้และหัวเราะพร้อมกัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่บันทึกประวัติได้รับเงินค่าที่ปรึกษาร้อยเหรียญทองแล้ว เขาเดินเข้าไปในสำนักงานเพื่อมองหาบันทึกและนำกลับมาเล่าให้พวกเขาฟัง “ไตตัน, คนผู้นี้มีอยู่จริงๆ เขาเป็นคนใหม่มาจากทวีปมังกรทะยาน เพิ่งเข้าหอทงเทียนชั้นที่หกมาได้ไม่นานนี้เอง”

คนแคระทั้งสองคนถึงกับพูดไม่ออกและทรุดตัวลงกับพื้น เจ้าเด็กมาใหม่กล้าดียังไงมาอวดอ้างตัวเองว่าเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก?

ดาบมืดและทอเรนรู้สึกหมดหวัง ถ้ามีนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกผู้ทรงพลังคอยสนับสนุนช่วยเหลือจริงๆ พวกเขาอาจมีโอกาสถล่มถ้ำมังกรปีศาจได้ แต่ว่ามีแต่เรื่องโกหก

ผู้เฒ่าปากู่ผู้ฉลาดไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเขากำลังคิดเรื่องอะไร

ขณะที่พวกเขาเตรียมจะออกมา เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลก็เปิดไปดูหน้าอื่น “เมื่อสองสามวันที่แล้ว เด็กใหม่ไตตันได้สังหารเอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ที่ป้อมสายฟ้า โอว, พระเจ้าช่วย เขาฆ่าเอ้อเมิ่งกับเหนียนหู่หรือนี่? ข้าไม่ได้อ่านผิดใช่ไหมนี่? ต้องมีคนเอาผลงานนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนอื่นมาบันทึกไว้ในนามเขาเป็นแน่ แต่พวกเขาจะทำผิดพลาดขนาดนี้ได้ยังไง? ดูบรรทัดต่อไปซิ ไตตันแลกรับรางวัลที่สมาคมนักรบสำนักงานใหญ่ ที่ลานเมืองหอทงเทียนชั้นที่หก… พระเจ้าช่วย นี่บันทึกผิดพลาดขนาดนี้เชียวหรือนี่? โอย..ตอนนี้ข้าสับสนไปหมดแล้ว.. ข้ากำลังฝันร้ายอยู่แน่ๆ และนี่..อีกหน้าหนึ่ง ไตตันอ้างว่าเขาได้ฆ่าเยาถง หนึ่งในสามผู้นำป้อมสายฟ้าและขอแลกน้ำพุอมตะเป็นรางวัล ข่าวนี้ได้รับการยืนยันแล้ว เยาถง หนึ่งในสามผู้นำป้อมสายฟ้าถูกไตตันผู้น้องฆ่าตาย, ไตตันน้อย, มารมังกรฟ้าหนึ่งในสิบมารฟ้าก็ปรากฏตัวที่นั่น อย่างไรก็ตาม เขาพ่ายแพ้ต่อไตตันน้อย หลังจากนั้น เขาหลบหนีออกไปจากป้อมสายฟ้า หนีไปโดยไม่ทิ้งร่อยรอย ขณะเดียวกัน ร้านค้าและผู้คนที่เกี่ยวข้องกับไตตันก็เปลี่ยนชื่อทันที เพื่อแสดงความเคารพยกย่องยอดวีรบุรุษหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น โอย..คุณพระ..คุณเจ้า..นี่มันคนมาใหม่ที่ไหนกัน? ยกโทษที่ข้าเข้าใจผิดและปากพล่อยด้วยเถิด ข้าสาบานได้ว่า ข้ามิได้แสดงความลบหลู่ใดๆ ต่อนักสู้ปราณก่อกำเนิด..ไม่เค้ย…ไม่เคยเลยจริงๆ”

เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลผู้นั้นหมอบกราบคำนับบันทึกซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยความเคารพ เขาเกรงว่าคำพูดพล่อยๆ ของเขาจะทำให้นักสู้ปราณก่อกำเนิดหงุดหงิด

ต่อให้นักสู้ปราณก่อกำเนิดไม่ตามหาเขา ทางสมาคมนักรบคงจะไล่เขาออกในไม่ช้าแน่

พวกที่ประหลาดใจที่สุดกลับเป็นทอเรน, ผู้เฒ่าปากู่และคนที่เหลือ

ทุกคนปิดปากขณะที่พวกเขาพยายามทบทวนถึงความสามารถที่ดีที่สุดของพวกเขา หากพวกเขาต้องล่วงเกินเด็กใหม่ไตตันนี้ผู้สังหารนักสู้ปราณก่อกำเนิดมาแล้วสามคน? พวกเขาไม่มีทางเหนือกว่า หรือพวกเขาอาจประสบชะตากรรมที่น่าอนาถจริงๆ

คนแคระทั้งสองถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ตะโกนว่าไตตันเป็นแค่เด็กใหม่หรือไตตันเป็นแค่สวะที่ดีแต่โกหกในสมาคมนักรบ

เอ้อเมิ่งกับเหนียนหู่เป็นผู้คลั่งไคล้การฆ่าที่เมื่อได้ยินชื่อพวกเขา แม้แต่เด็กทารกก็ยังหยุดร้อง

พวกเขาไม่เพียงแต่มีพลังของนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสามเท่านั้น แต่ยังมีอสูรสายพันธุ์ประหลาด ที่แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสูงยังหลีกเลี่ยงไม่ยั่วโมโหพวกเขา ขณะที่เยาถง เป็นหนึ่งในสามผู้นำป้อมสายฟ้า เขายังคงเป็นนักฆ่าผู้บ้าคลั่งที่มีมือทั้งสองชุ่มเลือด ฆ่าคนเหมือนฆ่ามดปลวก การมีพลังปราณก่อกำเนิดระดับห้าทำให้เขาเป็นผู้เหี้ยมหาญในหอทงเทียนชั้นที่หก ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาก็พ่ายแพ้ไตตัน

เรื่องที่เหลวไหลที่สุดก็คือมารมังกรฟ้า หนึ่งในสิบมารฟ้าก็ยังกลายเป็นกระสอบทรายให้เด็กใหม่ไตตันซ้อมมือ

ชื่อเสียงของมารมังกรฟ้าในหอทงเทียนชั้นหกโด่งดังมานานสามร้อยปีแล้ว

แม้ว่าเขาจะอยู่ในลำดับที่สิบ ในสิบสุดยอดมารฟ้า? แม้จะเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกที่อ่อนแอที่สุด แต่อันดับหนึ่งของพวกเขา มารสัมฤทธิ์ฟ้าคือตำนานที่สั่นสะท้านหอทงเทียนทั้งหมดด้วยการย่ำเท้าครั้งเดียว

แม้แต่ราชันย์จ้าวปีศาจที่เย่อหยิ่งที่สุดจากแดนอเวจีก็ยังต้องแสดงความนับถือต่อมารสัมฤทธิ์ฟ้า

อย่างไรก็ตาม มารมังกรฟ้าผู้มีชื่อร่วมทำเนียบเดียวกับมารสัมฤทธิ์ฟ้า กลับพ่ายแพ้เด็กใหม่คนหนึ่ง

ใครเล่าจะกล้าเชื่อเรื่องเช่นนั้น?

แค่ประโยคที่ว่ามารมังกรฟ้าโดนเด็กใหม่เล่นงานก็สร้างความตื่นตกใจราวกับว่ามดตัวน้อยคว่ำช้างแมมม็อธได้

ยังเป็นเรื่องน่ากลัวยิ่งกว่ากุ้งตัวเล็กกินปลาฉลาม

ตอนนี้ ทอเรนและคนที่เหลือเข้าใจแล้ว

ทำไมเด็กกหนุ่มสวมหน้ากากถึงได้หยิ่งยโสนัก? เหตุผลก็คือเขามีพลังพอจะยืนหยัดด้วยตนเองได้

เบื้องหลังของเขายังมีไตตัน ยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้ฆ่าเยาถง, เอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ ทั้งยังเอาชนะมารมังกรฟ้าต่อหน้าธารกำนัลหลังจากที่เขาเข้ามายังหอทงเทียนชั้นที่หก

“ตายแล้ว, เราเกือบตกใจตายเสียแล้ว” คนแคระทั้งสองคนปาดเหงื่อที่หน้าผากและปลอบใจตนเองที่บังเอิญชีวิตของพวกเขาไม่ได้พลิกผันเพราะคำพูดตนเอง

“ฮู้วว!” ชายชราหัวเถิกถอนหายใจเฮือกใหญ่ โชคดีที่ไม่มีใครต่อต้านนักสู้ปราณก่อกำเนิด

“ตอนนี้ เรามีความหวังแล้ว!” จู่ๆ ดาบมืดก็มีความคิดว่าเย่ว์หยางทำตัวหยิ่งนั้นเป็นเรื่องสมเหตุสมผล นักรบที่ทรงพลังควรมีทัศนคติแบบนี้ เพราะถ้าพวกเขาเอาแต่เจียมเนื้อเจียมตัว คนที่อ่อนแอกว่าจะวางตัวยังไง?

“ข้าจะรายงานให้ท่านเขาเงินทราบเดี๋ยวนี้ ได้มิตรที่แข็งแกร่งขนาดนี้ บางทีเราสามารถถล่มถ้ำมังกรปีศาจได้ในศึกคราวเดียว” ทอเรนผู้นำควงหมัดอย่างฮึกเหิม มีเรื่องกังวลอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่เพราะสงสัยเรื่องพลังของผู้อื่น แต่กลัวว่าผู้อื่นจะละอายใจต่อพลังของเขา เพื่อดึงดูดและท้าทายคนที่ยินยอมเสียสละตนเอง สมาคมเขาเงินจึงกระจายข้อความออกไป ตอนนี้มีคนอย่างน้อยสองร้อยคนจะไปรังมังกรปีศาจ ถ้าเขาทำอะไรผิดพลาดก็อาจมีเรื่องขัดแย้งบางอย่างโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้

หลังจากนั้นสามชั่วโมง

เมื่อเย่ว์มาถึงจุดเทเลพอร์ตเตรียมจะเทเลพอร์ตไปยังเมืองโบราณปั๋วหนานที่อยู่ใกล้ถ้ำมังกรปีศาจมากที่สุด ทอเรน, ดาบมืดและคนที่เหลือทั้งหมดยิ้มกว้างเต็มใบหน้า ทำตัวเหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทกับเย่ว์หยางและรายล้อมตัวเขา “ท่านเขาเงินตอบรับและเชิญท่านไตตันเข้าร่วมด้วยความจริงใจ เราขอส่วนแบ่งเป็นสี่ต่อหก เราขอรับสี่ส่วน ขณะที่ท่านรับหกส่วน เราไม่ทราบว่าท่านไตตันจะเห็นด้วยกับข้อตกลงในสัดส่วนนี้หรือไม่?”

“ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ดังนั้นเราควรแจกจ่ายผลประโยชน์ตามผลงานดีกว่า ถ้าทั้งสองฝ่ายพยายามอย่างดีที่สุด สัดส่วนสี่ต่อหกก็ยอมรับกันได้” เย่ว์หยางเล่นบทบาทของผู้เจรจา ทอเรนนั้นชื่นชมยินดี ขณะที่เขาสามารถบอกได้ว่าบุรุษสวมหน้ากากนี้ จะต้องเป็นตัวแทนที่ไตตันไว้วางใจที่สุด เขาอาจจะเป็นพี่น้อง, ลูกหรือหลานที่มีสัมพันธ์ที่สนิทสนมก็เป็นได้ ทอเรนตื่นเต้นกับความจริงที่ว่าเขาสามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับบุรุษนี้ นั่นหมายความว่า เขาจะมีบันไดเข้าหานักสู้ปราณก่อกำเนิดอีกคนหนึ่ง ขณะที่ไตตันนั้นก็เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่ยอดเยี่ยม

“….” ดาบมืดตั้งใจจะทำตัวดีต่อเย่ว์หยาง แต่ผลึกเวทระดับหกในมือของเขาดูเหมือนจะโทรมไปหน่อย

เขาสามารถบอกได้จากหน้ากากระดับทองที่เย่ว์หยางสวมอยู่ไม่มีทางพอใจกับแค่ผลึกเวทระดับหกแน่ ที่ยิ่งกว่านั้น เขามีสัมผัสที่ว่องไวรู้สึกได้ว่ามีพลังผันผวนไม่ชัดเจนจากกระเป๋าหลังที่เย่ว์หยางนำมาด้วย นั่นต้องเป็นสมบัติระดับทองอีกชิ้นหนึ่งอย่างแน่นอน

นักสู้ระดับหก สร้างความประหลาดใจให้พวกเขา เขามีสมบัติระดับทองถึงสองชิ้น

ถ้าไม่มีนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่เหนือธรรมดาคอยหนุนหลังเขาอยู่ บุรุษหนุ่มผู้นี้คงถูกปล้นชิงทันทีที่ออกไป สำหรับเขาแล้ว ผนึกเวทระดับหกเป็นของไร้ประโยชน์ ดาบมืดกัดฟันคิดว่า ถ้าเขาหาโอกาสให้ “สมบัตินั้น” กับชายหนุ่มผู้นี้และขอให้ส่งมอบให้ท่านไตตัน เขาอาจได้รับการปกป้องจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้นี้ และมีอนาคตที่สดใสอยู่เบื้องหน้าก็เป็นได้

แน่นอนว่าอยู่ต่อหน้าสหายร่วมงานทุกคน เขาไม่เคยแสดงถึงไมตรีจิตต่อไตตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าทอเรน มิฉะนั้นท่านเขาเงินจะเกลียดเขาได้

ตั๊กแตนมัจจุราชบินลงมาจากท้องฟ้า

การปรากฏตัวของมันสร้างความหวาดกลัวให้กับนกนางนวลปีกฟ้าหลังขาวจนแตกตื่นไม่เป็นกระบวน

อสูรที่อยู่บนภาคพื้นกำลังสั่นและร้องด้วยความกลัว

อสูรทั้งหมดที่ผ่านมาจะก้มหัวให้กับตั๊กแตนมัจจุราช อสูรแพลตตินัมระดับสี่ ตัวนี้

หลังจากมันรวบปีกและลงมายืนอยู่ด้านหลังของเย่ว์หยาง ทอเรนถึงกับกลืนน้ำลายถามพยายามแสดงออกอย่างใจเย็นว่า “นี่คือสัตว์อสูรของท่านหรือ?”

 

**********

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset