เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 423 – อย่ารังแกเด็ก

ตอนที่ 423 อย่ารังแกเด็ก!

หอทงเทียนชั้นหก

ลีน, แอนนา, เลโอ, ฟ่านหลุนเถี่ยและที่เหลือกำลังรออยู่หน้าวงแหวนเทเลพอร์ต สำหรับเป่าเอ๋อ ถ้าเย่ว์หยางพี่ชายใจดำไม่กลับมา นางคงร้องไห้อยู่ที่นี่จนตาย แน่นอนว่านางหมายถึงว่าเป็นการเปรียบเปรยเท่านั้น ความจริงนางแค่ร้องไห้ช่วงเวลาสั้นๆ เหตุผลก็คือคนมากมายเดินไปมาอยู่แถววงเวทเทเลพอร์ต พอคนมากมายมองดู นางก็รู้สึกอับอายจนร้องไห้อีกเหมือนกัน

“เขาจะกลับมาหาข้า, เขาจะไม่กลับมา, เขาจะกลับมา…”

เป่าเอ๋อจับไพ่ทาโรต์เสี่ยงทายสำหรับพวกเผ่าทอเรน นางจะมีความสุขมากถ้านางเปิดได้ไพ่สีแดง เพราะบ่งบอกถึงโชคดี แต่นางจะทำหน้ามุ่ยถ้าได้ไพ่สีดำ เพราะผลจะตรงกันข้าม

นางสุขใจอยู่ชั่วครู่แล้วก็เศร้าในเวลาต่อมาและจมจ่อมอยู่กับคำทำนายตัวเอง นางเอาแต่หมกมุ่นจนไม่มีเวลาชำเลืองมองฟ่านหลุนเถี่ยที่ดูเหมือนเกือบเป็นลมอยู่กับพื้น

ปกติฟ่านหลุนเถี่ยจะไม่เชื่อเรื่องโชคลาง ความจริงไพ่ทาโรต์ของเผ่าทอเรนนี้ ถูกใช้เป็นเครื่องลางจากผู้เฒ่าในเผ่ามอบให้หลานสาวของเขา เขายืนยันให้นางนำไปด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนั้น ฟ่านหลุนเถี่ยคงไม่พกไพ่ที่ไร้ประโยชน์นี้ติดตัวมาด้วยแน่ ฟ่านหลุนเถี่ยเห็นว่าเป่าเอ๋อเศร้าเสียใจจึงเอาออกมาเพื่อปลอบใจนาง นางหลอกเป่าเอ๋อว่าถ้านางพลิกได้ไพ่สีแดง เย่ว์หยางจะกลับมาโดยเร็ว ขณะที่ไพ่แดงจะมากกว่าไพ่ดำถึงสองเท่า และด้วยโชคของเป่าเอ๋อ มีทางเป็นไปได้สูงที่นางจะเปิดได้ไพ่แดง อาจมีแนวโน้มมากพอจะเกลี้ยกล่อมปลอบโยนนางได้บ้าง

ใครจะรู้ว่ามันจะเป็นไพ่ดำเมื่อเป่าเอ๋อพลิกออกมา ดังนั้นนางยืนยันจะหงายไพ่อีกครั้ง

นี่เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ

เมื่อเป่าเอ๋อหงายได้ไพ่แดง นางจะปลาบปลื้มดีใจ แต่นางรู้สึกว่ายังไม่ปลอดภัยเพียงพอ นางจึงหงายไพ่แดงใบอื่นอีก แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยพอ นางจึงลองครั้งที่สาม นางเปิดได้ไพ่ดำ ดังนั้นนางตัดสินใจพลิกไพ่แดงมากกว่าสิบใบเพื่อกำจัดโชคร้าย… ในที่สุดนางก็ได้แต่หงายไพ่ไปเรื่อยเปื่อย ฟ่านหลุนเถี่ยไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิต ทำให้นางพูดไม่ออก

ผู้ใช้สามารถเสี่ยงไพ่ทำนายได้เพียงครั้งเดียว แล้วจะทำนายถูกได้ยังไง ถ้าหงายไพ่ครั้งเดียวหลายๆ ใบ?

แต่นางหงายได้ไพ่ดำในการลองครั้งแรก ดังนั้นอาจเป็นได้ว่าเย่ว์หยางคงประสบเคราะห์บางอย่าง

“เขาจะกลับมา, เขาจะกลับมา, เขาจะกลับมา…นั่นไง.. ข้าเปิดได้ไพ่แดงสิบใบต่อเนื่องกัน พี่ไตตันจะต้องกลับมาเร็วๆ นี้แน่” เป่าเอ๋อวิ่งไปหาแอนนาเพื่ออวดว่านางมีโชคดีเพียงไหน

“ใช่แล้ว, เขาจะกลับมาแน่นอน!” แอนนาทั้งอัศจรรย์ในโชคของนางและทั้งขำขันที่นางเชื่อว่าเรื่องการเสี่ยงทายไพ่จะเป็นความจริง การทำนายโชคที่แท้จริงจะต้องมีอสูรชนิดพิเศษซึ่งมีพลังแบบพิเศษ และใช้พลังทำนายนักรบที่มีสภาวะจิตใจเหมือนกับอสูรของเขาเพื่อตรวจดูอนาคตที่เลือนราง แล้วคนธรรมดาจะสามารถทำนายด้วยไพ่ทาโรต์ได้อย่างไร? นางไม่ปล่อยให้เป่าเอ๋อเศร้าซึม แต่ปลอบโยนนางอย่างนุ่มนวล นางรู้สึกไม่พอใจ เพราะถ้าว่าตามนิสัยของเย่ว์หยาง เขาคงไม่กลับมาก่อนจบศึกกับราชาเฮยอวี้แน่

“ข้าอยากถามพวกเจ้าทุกคนหน่อย รู้จักนักรบคนหนึ่งฉายาว่า ปีศาจอ้วนหน้าด้านบ้างไหม เขามีชื่อจริงว่าไห่ต้าฟู่?”

บุรุษร่างสูงสองคนเดินเคียงคู่กันมา

พวกเขามีพลังระดับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิด

นี่ไม่ใช่จุดมุ่งหมายแท้จริง สิ่งที่ทำให้ลีนและเลโอกังวลก็คือมีตราประจำแปลกๆ ที่หน้าอกของบุรุษประหลาดทั้งสองคน

พื้นผิวของตรานั้นสีดำ เปล่งแสงสว่างสีแดงเพลิงและสีเงิน มันดูเหมือนสายฟ้าแล่บแหวกอากาศผ่าลงที่พื้นทำให้ลาวาระเบิดกระจาย

ก่อนหน้านี้ ลีนและเลโอไม่ได้สังเกตดูตราที่หน้าอกแม้แต่น้อย

เพราะตราเครื่องหมายในหอทงเทียนมีมากนับไม่ถ้วน และไม่มีใครรู้จักได้หมด ยิ่งกว่านั้น ตรานี้หาพบได้ยากมาก แต่ตอนนี้ เนื่องจากเจ้าอ้วนไห่, เย่คงและเพื่อนร่วมทีมบางส่วนจากไปแล้ว ลีนและเลโอก็รู้เรื่องราชาเฮยอวี้และกองกำลังของเขามากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักเครื่องหมายนั้น มันเป็นตราของกองกำลังนรกดำ

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ บุรุษทั้งสองคนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขามาจากกองกำลังนรกดำ

“อย่ากลัวเลย, เราแค่กำลังพยายามทำความเข้าใจสถานการณ์ เรานับถือความรักสงบของเอลฟ์ทอง, ความกล้าหาญของนักรบเผ่าทอเรนและนักรบเผ่าคิวบัวร์ผู้ร่าเริง เราแค่อยากถามว่าพวกเจ้าทุกคนรู้จักไห่ต้าฟู่ หรือนักรบจากทวีปมังกรทะยานคนอื่นๆ หรือไม่ พวกเจ้าจะให้ข้อมูลที่ปลอดภัยแก่พวกเราได้ไหม? เราจะจ่ายให้พันเหรียญทอง หวังว่าพวกเจ้าสามารถบอกเราได้ว่าทักษะที่ดีที่สุดของไห่ต้าฟู่คืออะไร อสูรของเขา และเรื่องอื่นๆ ที่เจ้ารู้เกี่ยวกับเขา” บุรุษคนซ้ายมือดูผิวเผินเหมือนกับยิ้ม แต่เป่าเอ๋อรู้สึกว่าเขาเหมือนหมาป่าที่คลุมหนังแกะ และกลัวรอยยิ้มลวงโลกของเขา

“พวกเจ้าต้องการให้เราหักหลังสหายเพื่อเงินพันเหรียญทองหรือ? ฮึ!” ฟ่านหลุนเถี่ยชวนทะเลาะ

“อย่าเสียมารยาทขณะที่เรายังให้เกียรติอยู่นะ!” บุรุษจากต่างเผ่าพันธุ์ด้านขวามือระเบิดอารมณ์เหมือนดินระเบิด เขาใจร้อนยิ่งกว่ากระทิงป่าเสียอีก เขาจ้องมองฟ่านหลุนเถี่ย “ข้าเชื่อว่าเจ้าได้รับข่าวทีเราประกาศสงครามกับอาณาจักรต้าเซี่ยแล้ว พวกเจ้าทุกคนเป็นมิตรสหายของพวกมัน เราสามารถกำจัดพวกเจ้าทุกคนได้ง่ายๆ ทางที่ดีแล้ว อย่ายั่วโมโหข้า มิฉะนั้นข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน”

“เสียใจด้วย, เราคือเผ่าทอเรนที่ดื้อด้าน ถ้าเจ้าคิดว่าสามารถกดดันคุกคามพวกเราได้ นั่นเป็นเรื่องตลกชัดๆ ค่านิยมของเราเป็นอย่างนี้เอง ยอมตายดีกว่าคุกเข่าร้องขอชีวิต” หัวหน้าเลโอยืนขึ้นจ้องมองกลับ

แม้ว่าเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่า แต่เขาไม่อาจแสดงความอ่อนแอได้

นักรบเผ่าทอเรนยอมตายในการต่อสู้ แต่ไม่ยอมถอยหนีเพราะความกลัวแน่

บุรุษจากต่างเผ่าพันธุ์คนขวามือคำรามลั่นราวสายฟ้า ขณะจ้องมองลีน, แอนนา, เป่าเอ๋อและสี่สาวคิวบัวร์ “เจ้าทอเรนดื้อด้านตัดสินใจอย่างนี้แล้ว เอลฟ์ทองจะตัดสินใจอย่างนี้ด้วยหรือเปล่า? เคยคิดบ้างไหมว่าการตัดสินใจของพวกเจ้าจะส่งผลต่อความเจ็บปวดทุกข์ยากให้คนของพวกเจ้าอย่างไร?”

ลีนมีสีหน้าเย็นชา สายตาคมประดุจกระบี่ “ข้ารู้ ถ้าข้าอ่อนข้อให้ ทั้งหมดที่ข้านำมาให้คนของข้าเมื่อข้ากลับไป ก็คงมีแต่ความขายหน้าที่มิอาจยกโทษได้ ร่างกายของเอลฟ์ทองไม่เหมาะกับการต่อสู้โดยตรง ต่างจากนักรบทอเรนที่สามารถสู้ระยะประชิดได้ดี แต่ระดับพลังจิตวิญญาณ เอลฟ์ทองเป็นนักรบที่ไม่กลัวตาย”

นักรบจากกองกำลังนรกดำที่อยู่ด้านขวายิ้ม “มั่นใจเถอะว่า เราไม่ได้ประกาศสงครามกับนักรบทอเรนและเอลฟ์ เรามาที่นี่เพื่อสอบถามเท่านั้น”

“เราไม่มีข้อมูลที่เจ้าต้องการ ตอนนี้ไปได้แล้ว เราไม่ต้อนรับเจ้า” แอนนาบอกให้เขาจากไป

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราจะถาม?” บุรุษต่างเผ่าพันธุ์คนขวามือเริ่มโกรธ

“ไสหัวไปซะ!”

เสียงตะเพิดไล่ดังลั่นมาจากที่ไกล

โอวเกินจากสมาคมนักรบ เดินก้าวยาวๆ ออกมาจากอุโมงค์ เขาตวาดใส่คนที่มาจากกองกำลังนรกดำ “ที่นี่อยู่ภายใต้การดูแลของสมาคมนักรบ สมุนปลายแถวอย่างพวกเจ้าจะออกไป หรือจะให้ข้าฆ่าเจ้า!”

บุรุษต่างเผ่าพันธุ์ทั้งสองคาดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะได้รับการปกป้องจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดจากสมาคมนักรบ พวกเขาจ้องโอวเกินอย่างเย็นชา “ก็ได้ ไว้ค่อยเจอกันนะ ทุกคน”

โอวเกินตบไหล่ลีน “กลับบ้านไปซะ ข้าเชื่อว่าไตตันน้อยและพวกที่เหลือรับทราบความตั้งใจดีของพวกเจ้า สิ่งที่พวกเขาต้องการที่สุดก็คือเห็นพวกเจ้าทุกคนอยู่ในที่ปลอดภัย เจ้าก็เพิ่งเห็นกับตาตัวเองมาแล้ว ชั้นหกหอทงเทียนไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยอีกต่อไป กองกำลังนรกดำได้เสนอรางวัลที่ยอดเยี่ยมให้กับสมาคมนักผจญภัยแล้ว พวกโจรได้ปล่อยข้อมูลพวกเจ้าให้พวกเขาเพื่อแลกเงินและสมบัติ และนี่แค่เพียงเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเพิ่มอันตรายมากยิ่งขึ้น”

ลีนพยักหน้า “เข้าใจแล้ว เราจะคอยแค่อีกวันเดียว! ที่สำคัญ ไตตันน้อยกับพวกบอกว่าถ้าสถานการณ์ยังไม่เป็นอะไร พวกเขาจะมารับเราไปทวีปมังกรทะยาน”

“……” โอวเกินต้องการบอกพวกเขาว่าไตตันตอบก็เพื่อเอาตัวรอดเท่านั้น

แต่ คิดดูอีกที

ก็เหมือนกับวิธีที่เขาใช้เมื่อเขาช่วยสหายของเขา ตราบใดที่ยังมีความหวัง แม้ว่าจะไม่สำคัญมาก เขาก็จะไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ

โอวเกินตบไหล่ลีนเบาๆ และลูบหัวเป่าเอ๋อเบาๆ ยืนยันการสนับสนุนของเขา

นักรบเลือดเหล็กคนหนึ่งวิ่งตรงมาหาโอวเกินเพื่อรายงานว่าพบเห็นร่องรอยนักล่ามังกร

พอได้ยินข่าว โอวเกินสะดุ้งเล็กน้อย

เขาคิดอยู่ชั่วขณะ “ลีน ตอนนี้เจ้ามีทางเลือกสองทาง ทางแรก เจ้าสามารถไปจากชั้นที่หกและกลับไปยังแผ่นดินของเจ้า ทางเลือกที่สอง รอไตตันน้อยอยู่ที่สมาคมนักรบ ข้าสงสัยว่า ศัตรูของเราพยายามหลอกล่อให้เราออกไป เนื่องจากการปรากฏตัวของนักล่ามังกรเป็นการบังเอิญเกินไป ข้าไม่อาจปฏิเสธคำสั่งให้สอบสวนการปรากฏตัวของนักล่ามังกรได้ ขณะที่ภารกิจนี้เป็นหน้าที่ของข้า อย่างไรก็ตาม ข้าห่วงความปลอดภัยของพวกเจ้าจริงๆ รีบไปเดี๋ยวนี้ ไปหอสำนักงานใหญ่สมาคมนักรบ เจ้าจะปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นั่น”

ลีนและพวกที่เหลือส่วนใหญ่มองหน้ากันเอง พวกเขาไม่ได้ตัดสินใจกลับกันตอนนี้

ทุกคนรู้สึกว่าควรรอเย่ว์หยางอยู่ที่สมาคมนักรบดีกว่า

ไม่ว่ากองกำลังนรกดำจะผยองเพียงใดก็ตาม พวกเขาคงไม่ฆ่าคนในสมาคมนักรบ…

โอวเกินพาพวกเขาไปที่ลานเมือง และเมื่อเขาเห็นสมาคมนักรบอยู่ไม่ไกล เขาจึงจากไปอย่างวางใจ เขาเร่งรุดไปยังที่ซึ่งนักล่ามังกรปรากฏตัวเพื่อปฏิบัติภารกิจ

เลโออยู่ข้างหน้า, ลีนอยู่ด้านหลัง ขณะที่แอนนาจูงเป่าเอ๋อ พวกเขาเดินไปทางสมาคมนักรบอย่างเร่งรีบ แม้ว่าจะมีการต่อสู้เกิดขึ้นที่ลานเมืองชั้นหกบ้าง แต่ก็เป็นพื้นที่ๆ สมาคมนักรบควบคุมอยู่ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่พวกนักรบวิบัติไม่กล้าปรากฏตัวที่นี่ เมื่อเห็นว่ารอบๆ ตัวพวกเขาไม่มีอะไรผิดปกติ และสมาคมนักรบก็อยู่ข้างหน้า ลีนลอบถอนใจด้วยความโล่งอก

ไม่ว่ากองกำลังนรกดำจะห้าวหาญอย่างไรก็ตาม พวกเขาคงไม่กล้าบ้าบิ่นจนเกินไปแน่

นี่คือที่ตั้งของสมาคมนักรบ เป็นที่ซึ่งได้รับการรับรองจากนักรบทุกคนและพันธมิตรปราณก่อกำเนิด พวกเขาไม่กล้าท้าทายสมาคมนักรบไม่ว่าจะห้าวหาญเพียงใด เพราะนั่นเท่ากับว่าเป็นการท้าทายพันธมิตรปราณก่อกำเนิดด้วย

แต่ขณะที่แอนนาและเป่าเอ๋อเตรียมตัวก้าวเข้าไปในสมาคมนักรบ

เงาร่างสองสายพุ่งวาบผ่านมา

เป็นบุรุษต่างเผ่าพันธุ์สองคนจากกองกำลังนรกดำก่อนหน้านั้นนั่นเอง คนหนึ่งยิ้มขณะที่อีกคนหนึ่งดูเหมือนจะโกรธ พร้อมกันนั้นพวกเขาขวางทางสองสาวไว้ทั้งสองด้าน

“ข้าบอกแล้วว่าเราจะต้องพบกันอีก” บุรุษที่ยิ้มหัวเราะ “อย่านึกว่าสมาคมนักรบของชั้นหกหอทงเทียนจะห้ามเราได้ ยิ่งกว่านั้น พวกเจ้ายังไม่ก้าวขึ้นบันไดของสมาคมนักรบ ดังนั้นจึงถือได้ว่าพวกเจ้ายังอยู่นอกสมาคมนักรบ พูดเจาะจงก็คือ ถ้าเราจะฆ่าพวกเจ้า ก็คงไม่ถือว่าเป็นการท้าทายสมาคมนักรบ อย่ามาทำเข้มแข็งต่อหน้าเลย พวกเจ้าทุกคนจะไม่ได้รับความช่วยเหลืออะไรอีกแล้ว เจ้าโง่นั้นกำลังเล่นซ่อนหากับนักล่ามังกรอยู่ มันคงไม่กลับมาภายในสองชั่วโมงนี้แน่ ไม่มีใครในสมาคมนักรบที่มีพลังมากกว่าเรา ข้ามีข้อเสนอที่ดี จงมากับเราเสียแต่โดยดี ถ้าคู่หูของข้าโกรธขึ้นมา สถานการณ์จะแย่ อย่าว่าแต่คิวบัวร์เลย เอลฟ์ทองที่มีผิวนุ่มเนียนอย่างพวกเจ้าคงไม่ต้องการให้สหายของข้าเปลี่ยนเป็นอสูรร้ายและทำเรื่องน่าอายกับพวกเจ้าในที่โจ่งแจ้งอย่างนี้ใช่ไหม?”

“ข้าขอบอกไว้ตรงนี้เลย มีแต่นักรบที่สู้ตายเท่านั้น แต่จะไม่มีนักรบขี้ขลาด” แอนนาดูสงบและมุ่งมั่น นางโบกมือทั้งสอง ขณะที่สาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยและสี่สาวคิวบัวร์ปลดปล่อยพลังเตรียมสู้เสี่ยงชีวิต

“ข้าโกรธแล้วนะ พวกเจ้าทั้งสองคนจะต้องตาย!” เป่าเอ๋อหยิบธนูเถาวัลย์ออกมาด้วยความโกรธและเล็งไปทางศัตรูของนาง

“ตลกเหลือเกิน ธนูเด็กเล่นจะใช้ทำอะไรได้? หนังสติ๊กยิงนกยังยิงได้แรงกว่านี้อีก! ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” บุรุษหน้ายิ้มหัวเราะออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน

“อย่าว่าแต่เราสองคนเลย ต่อให้มีข้าเพียงคนเดียว ข้าก็จัดการพวกเจ้าทุกคนได้ภายในนาทีเดียว! ข้าเกลียดเผ่าทอเรนที่สุด ดังนั้นข้าจะบอกวิธีทำให้เจ้าตาย ข้าจะหักเขาของเจ้าและจะเสียบเข้าที่เบ้าตาจนทะลุศีรษะของเจ้า ข้าอยากให้เจ้าได้เห็นตัวเจ้าเองว่าไร้ประโยชน์และศักดิ์ศรีขนาดไหนและเขาของเจ้าจะเป็นของข้า! ส่วนเผ่าคิวบัวร์สกปรกอย่างพวกเจ้าทุกคนทำให้ข้ารู้สึกว่า พวกเจ้ามันก็แค่ทำให้สิ้นเปลืองอาหารทุกนาทีที่พวกเจ้ายังมีชีวิตอยู่ในโลก ข้าไม่ต้องการเนื้อสกปรกของพวกเจ้า แต่จะแล่เนื้ออกและควักหัวใจของพวกเจ้าเอามากินแกล้มเหล้าก็คงใช้ได้ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด สำหรับเอลฟ์ทองอย่างเจ้าทั้งสอง อย่านึกว่าเจ้าจะตายได้ง่ายๆ! หลังจากที่ข้าเบื่อเจ้า ข้าจะส่งพวกเจ้าไปเป็นทาส ไว้ค่อยเป็นวีรบุรุษวีรสตรีชาติหน้าเถอะ จงใช้เนื้อหนังเรียบเนียนของเจ้าสร้างความพึงพอใจให้เจ้านายของเจ้าเป็นดีสุด” บุรุษผู้ฉุนเฉียวต่างเผ่าพันธุ์อ้าปากกว้างจนเห็นเขี้ยวที่น่ากลัว

“ตายซะเถอะ” ฟ่านหลุนเถี่ยกวัดแกว่งขวานด้วยท่าประหลาด

“น่าขัน” บุรุษจอมฉุนเฉียวเหยียดแขนทั้งสองออก ทำให้ฟ่านหลุนเถี่ยถูกคลื่นกระแทกกระเด็นลอยไปในอากาศหล่นกระแทกกับพื้น

สี่สาวคิวบัวร์รับร่างนางทันที แต่น้ำหนักที่แฝงมากับแรงร่วงหล่นของฟ่านหลุนเถี่ยรุนแรงมาก พวกนางไม่สามารถต้านรับได้ ต่างพากันล้มระเนระนาดกันหมด

พลังของพวกนางเพิ่มขึ้นมากหลังจากที่พวกนางรู้จักเย่ว์หยาง

แต่ก็ยังคงห่างไกล เพราะพลังของบุรุษทั้งสองคนนั้นเทียบเท่าเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิด

“เราจะสู้เอง” ลีนและเลโอที่เงียบก่อนหน้านี้ แต่การกระทำของพวกเขาดังกว่าคำพูด ขณะที่พวกเขาคิดเตรียมเสียสละตนเอง พวกเขาเริ่มตั้งท่าโจมตีเสี่ยงชีวิตกับศัตรู ด้วยวิธีนี้พวกผู้หญิงจะเข้าไปในสมาคมนักรบได้ก่อน เพราะไม่ว่าสองคนนี้จะผยองเพียงไหน พวกเขาคงไม่กล้าไล่ตามเข้าไปในสมาคมนักรบเป็นแน่

แม้ว่าพวกเขาจะทำเช่นนั้นจริงๆ แต่สมาคมนักรบจะปกป้องพวกนาง

พนักงานต้อนรับจากสมาคมนักรบมาอออยู่ที่ประตูแล้ว ขณะที่หนึ่งในพวกเขาโบกมือเรียกแอนนาให้รีบเข้ามา แม้ว่าพนักงานต้อนรับทั้งสองคนมิได้มีพลังพอต่อสู้กับคนจากกองกำลังนรกดำได้ แต่พวกเขายื่นมือช่วยเหลือเป่าเอ๋อและแอนนาโดยไม่เกรงกลัว ตราบใดที่พวกเขาสามารถเข้าไปในสมาคมนักรบได้ พวกเขาจะสามารถปกป้องพวกนางได้

มีห้องลับหลายห้องในสมาคมนักรบเตรียมให้นักรบที่แสวงหาที่ลี้ภัยให้โดยเฉพาะ

เมื่อลีนและเลโอยังไม่ทันได้ปลดปล่อยพลังเตรียมต่อสู้เสี่ยงชีวิตกับศัตรูพร้อมกัน

มีเสียงเฉื่อยชาดังขึ้น “เจ้ากำลังข่มเหงชนกลุ่มน้อยที่นี่เหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเจ้าทุกคนคงไม่ว่ากระไรนะ ถ้าจะข่มเหงข้าด้วยอีกคน

“เอ๊ะ?” พอได้ยินเสียงนี้แล้ว หลายคนแทบไม่เชื่อหู

“ฮึกๆ…แง้…..” โดยเฉพาะเป่าเอ๋อที่ตื่นเต้นมากที่ได้เห็นบุรุษผู้สวมหน้ากากเจมินี่ ถือไพ่เสี่ยงทายของทอเรนที่นางใช้ทำนายถึงเขา นางร้องไห้และโผเข้าอ้อมกอดของเขาร้องไห้อย่างน่าสงสาร

“บัดซบ, ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!” บุรุษเจ้าอารมณ์จากเผ่าพันธุ์อื่นพุ่งเข้ามาหาเย่ว์หยาง เห็นว่าเขาเป็นแค่เพียงนักสู้ระดับหกและรู้สึกขัดหูขัดตา

เขาควงหมัดใส่เย่ว์หยาง เตรียมจะฆ่าเย่ว์หยางทันที

ในท้องฟ้า เงาดำยักษ์ร่างหนึ่งบินพุ่งลงมาด้วยความเร็วเหนือกว่าสายฟ้าถึงสิบเท่า

ด้วยพลังคมเคียว มันตัดแขนข้างหนึ่งที่เตรียมต่อยใส่เจ้านายของมันจนขาดครึ่ง ก่อนที่บุรุษฉุนเฉียวเจ้าอารมณ์จะทันรู้ตัว แขนเคียวอีกข้างก็ตรึงยืดร่างของเขาไว้ มันยื่นศีรษะเข้ามาใกล้และกัดแขน ฉีกแขนของเขา ไม่ใช่ใครอื่น เป็นตั๊กแตนมัจจุราชนั่นเอง

“ปล่อยหัวเขา อย่าฆ่าเขา ข้าจะให้โอวาทเขาหน่อย” เป็นเย่ว์หยางนั่นเอง ตอนนี้เย่ว์หยางดูเหมือนนักศึกษาระดับสูง ขณะที่เขาพูดกับบุรุษที่ส่งเสียงครางผู้ถูกฉีกแขนออกไป “สหาย! เจ้าต้องรู้ไว้นะว่าการขู่เด็กให้กลัวเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เจ้าทำให้เด็กกลัวจนร้องไห้ มันยากมากที่จะปลอบโยนนางในตอนนี้ได้ เจ้าต้องการให้ข้าต้องสิ้นเปลืองลูกอมอีกมากขนาดไหน? ยิ่งกว่านั้น การกินแต่ลูกอมหวานก็เป็นเรื่องแย่ อาจจะทำให้ฟันผุได้ ดูสิฟันเธอขาวน่ารักแค่ไหน เจ้าอยากตายใช่ไหมถึงได้พยายามทำให้นางฟันผุ”

“……” ลีนและคนที่เหลือพูดไม่ออก

“….” บุรุษอีกคนที่ยิ้มตลอดเวลาในตอนนี้ดูย่ำแย่กว่าตอนโอ้อวดเสียอีก เขาไม่สามารถเค้นรอยยิ้มออกมาได้ ไม่ว่าจะพยายามอย่างหนักเพียงใดก็ตาม เหงื่อเม็ดเท่าลูกปัดเกาะพราวเต็มหน้าผาก เขาโชคไม่ดีที่มาพบกับคนที่มีความคิดและพลังผิดธรรมดา ตอนนี้ เขาไม่ยอมแม้แต่จะคิดช่วยเหลือคู่หูของเขา เขาคิดแต่เพียงจะเอาตัวรอดให้ได้เท่านั้น

เขาคงไม่อาจช่วยคู่หูของเขาได้แน่นอน ต่อให้เขาทำ คงต้องสูญเสียค่ารักษาอีกมาก

ยิ่งกว่านั้น จะช่วยคนต่อหน้าตั๊กแตนมัจจุราช อสูรแพลตตินัมระดับสี่ได้หรือ? ต่อให้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดก็ยังทำได้ยาก

ตอนนี้ คิดหาวิธีหลบหนีโดยปลอดภัยโดยไม่ถูกตั๊กแตนมัจจุราชจับฉีกกิน เป็นเรื่องสำคัญที่สุด

เขามีแผนอยู่ไม่กี่แผน แผนแรกคือโจมตีเอลฟ์ทองที่อยู่ใกล้ที่สุด ขณะที่นางจิตใจว้าวุ่นเพราะเย่ว์หยาง ดังนั้นจัดการโจมตีนางคงง่ายที่สุด แผนที่สองก็คือหนีไปเลย ขณะที่ทุกคนยังตะลึงกับการปรากฏตัวของเย่ว์หยาง

เขาสามารถเลือกได้เพียงแผนเดียว

ถ้าเขาอยู่ เขาจะต้องมีตัวประกันคนหนึ่ง ไม่ว่าตั๊กแตนมัจจุราชจะว่องไวเพียงใดก็ตาม มันจะไม่โจมตีเขาเนื่องจากต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวประกัน

การหลบหนีดูเหมือนเป็นไปได้มากเช่นกัน เนื่องจากเขาเองก็มีความเร็วสูง ยิ่งกว่านั้นตั๊กแตนมัจจุราชยังคงหนีบคู่หูของเขาไว้ ดังนั้นคงไม่สามารถไล่ตามเขาได้แน่

หลังจากลังเลอยู่ครึ่งวินาที บุรุษจากเผ่าพันธุ์อื่นที่ก่อนหน้านี้ยิ้มตลอดเวลา แต่ตอนนี้ยิ้มอย่างขมขื่นเลือกใช้แผนแรก นั่นคือจู่โจมทำร้ายเอลฟ์ทอง! ด้วยตัวประกันคนหนึ่ง เขาจะช่วยให้เขาได้มีโอกาสต่อรอง ก่อนจะทุบศิลาเทเลพอร์ต เขาแค่ต้องการหลบหนี และแผนนี้ดูเหมือนจะปลอดภัยกว่าแผนที่สอง

ขณะที่เขาคิดว่าสามารถจะดำเนินการตามแผนชั่วร้ายได้ คิดไม่ถึงเลยว่าทุกคนจะมีปฏิกิริยาทันที

“เจ้ากำลังหาเรื่องตาย” ลีน, เลโอและสาวทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยมีปฏิกิริยาพร้อมกัน พวกเขาคาดว่าบุรุษผู้นั้นคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และจะโจมตีแอนนา ขณะเดียวกันแอนนาก็เรียกคัมภีร์อัญเชิญกางโล่ปกป้องนาง ป้องกันกรงเล็บแหลมคมของบุรุษผู้นั้น..

แต่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

หมาป่าปีศาจหลังเหล็กขี้เซาตัวหนึ่งปรากฏตัวอยู่หลังบุรุษจากเผ่าพันธุ์อื่นเมื่อใดไม่มีใครรู้

เป็นเรื่องไม่แตกต่างกันนักขณะที่มันตวัดกรงเล็บ ทำให้นักสู้เตรียมปราณก่อกำเนิดผู้นี้ล้มลงกับพื้น ดูเหมือนว่าหมาป่าปีศาจหลังเหล็กกำลังหาว ภายใต้สายตาสะดุ้งหวาดหวั่นของคนเฝ้าประตู หมาป่าปีศาจหลังเหล็กอ้าปากและฉีกแขนศัตรูของมัน เขาได้แต่ดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์และร้องอย่างเจ็บปวด หมาป่าปีศาจเคี้ยวกินแขนของเขา ความเคลื่อนไหวของมันยังดูสบายๆ กว่าตั๊กแตนมัจจุราชเสียอีก เหมือนกับว่ามันเป็นสุนัขเลี้ยงกำลังเพลิดเพลินกับเนื้อน่าอร่อย

ฮุยไท่หลางนั่นเอง!

เย่ว์หยางดูเหมือนพ่ายแพ้ขณะที่เขาถอนหายใจ “ข้าเคยเห็นคนที่ขอตายมาแล้ว แต่ไม่เคยเห็นคนที่อยากตายแบบนี้เลย บางทีเจ้าคงอิจฉาสหายที่ถูกกินจนตาย หรือบางทีเจ้าอาจจะชอบวิธีนี้เป็นพิเศษ, ไม่มีทางเลือก ข้านับถือความชอบของเจ้า ข้าจะยอมให้เจ้าได้มีประสบการณ์ถูกกินทั้งเป็น เชิญเพลิดเพลินกับกิจกรรมนี้ได้เลย”

“…..” เมื่อหลายคนได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนพูดไม่ออก

 

******************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset