เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 547 – ข้าจะไม่ชดใช้ต่อให้กลัวเจ้าแทบตายก็ตาม

ตอนที่ 547 ข้าจะไม่ชดใช้ต่อให้กลัวเจ้าแทบตายก็ตาม

เฮยหูตายด้วยอาการอย่างนั้นจริงหรือ?

หวงฉวน, เฝินเทียนและหวิ่นซิงตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะเห็นการต่อสู้ทั้งหมดตลอดกระบวนการ แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าตนเองกำลังฝันไป

คุณชายสามตระกูลเย่ว์ยังไม่ทันได้เป็นนักสู้ปราณฟ้า ก็สามารถฆ่าเฮยหูนักสู้ปราณฟ้าระดับห้าได้… ใครจะยินยอมเชื่อเรื่องเช่นนี้กัน! แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน! แม้ว่าเฮยหูจะตายหลังจากถูกจื้อจุน, จักรพรรดินีราตรี, หมาป่าปีศาจทำลายโลกและเทพธิดาศึกของแดนสวรรค์ตะวันตกทำร้ายก็ตาม และแม้แต่จะถูกอาวุธระดับเทพของเย่ว์หยางทำร้าย หวงฉวนและพวกพ้องก็ยังไม่อยากเชื่อเรื่องนี้

สำหรับพวกเขา ชางเหยียน, เฮยหูและคนระดับนั้นนับว่าสูงส่งเกินเอื้อมจริงๆ

คนแบบไหนกันที่สามารถเป็นผู้อาวุโสตำหนักไฟและตำหนักน้ำในตำหนักกลางได้?

“พวกเจ้าจะจ้องมองหาอะไรกัน? คะแนนของพวกเจ้ายังไม่พอ พวกเจ้าจะเอาแต่ยืนอยู่อย่างนั้นหรือ? รีบฆ่าพวกมันซะ! เจ้าบัดซบชางเหยียนนั่นจะกลับมาโดยเร็วพร้อมกับกำลังเสริมเป็นจำนวนมากได้นะ…” เมื่อเย่ว์หยางมองดูหวงฉวนและคนอื่นที่เอาแต่จ้องมองด้วยสีหน้าโง่งม เขาอดหลั่งเหงื่อเยียบเย็นมิได้ คนพวกนี้ไม่รู้สึกถึงสถานการณ์วิกฤติหรือไง

“อา.. ได้” หวงฉวนและคนอื่นๆ สะดุ้งทันที เหมือนกับว่าพวกเขาเพิ่งตื่นจากฝัน

ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แม้แต่ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพก็เริ่มโจมตีสังหารปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก ไม่ว่ายังไงก็ตามพวกเขาก็ต้องเก็บคะแนน เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ไม่ต้องถูกกฎรหัสโบราณสังหาร

กฎรหัสโบราณของสังเวียนมรณะไม่สนใจถึงสภาพเหตุการณ์

ตราบใดที่คะแนนพวกเขาไม่เพียงพออย่างนั้นพวกเขาจะต้องตายแน่นอน

จักรพรรดิใต้พิภพยอมละความตั้งใจจะฆ่าพะยูนนรกให้ได้ มันเป็นอสูรที่เขาไม่สามารถจะฆ่าได้ภายในวันหรือสองวัน แต่สามารถทำร้ายสิ่งมีชีวิตในแดนสวรรค์ได้อย่างนี้ก็ทำให้เขาภูมิใจได้แล้ว แดนสวรรค์มีแต่สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอยู่มากมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อสามารถต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งทั้งที่ตนเองอ่อนแอกว่า พิสูจน์ให้เห็นว่าระดับปราณฟ้ามิใช่ว่าจะเข้าถึงไม่ได้ เป็นเพียงเพราะเขายังไม่พบโอกาสที่ดีที่สุดที่จะทำเช่นนั้นได้

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหลังจากศึกใหญ่ครั้งนี้แล้ว เขาจะไม่ลังเลสับสนเมื่อเขาพยายามไต่ระดับฝีมือให้ถึงระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดให้ได้อีกครั้ง ครั้งนี้ เขาเข้าใจแล้วว่ามันอยู่ใกล้ๆ

ในอนาคต เขาจะกลับมาที่นี่ให้ได้!

พะยูนนรกหนีกระจายไปทั่วทุกทิศ

เนื่องจากเจ้านายของมันเฮยหูตายแล้ว พวกมันสูญเสียผู้สนับสนุนผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด เนื่องจากพลังมหาศาลของพวกมันได้จากพวกมันไป พวกมันจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ความสามารถในฐานะที่เป็นองครักษ์ของพวกมันถูกทิ้งไปตามปกติ ในฐานะอสูรปราณฟ้าระดับสอง ไม่มีใครขวางพวกมัน ขณะที่ปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก หรืออสูรปราณดินระดับหก กลับพบกับโชคร้ายครั้งใหญ่ พวกมันแตกต่างจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดในดินแดนที่ต่ำกว่า พวกมันไม่มีคัมภีร์อัญเชิญและไม่มีสติปัญญา เมื่อเจ้านายของพวกมันตาย กลุ่มของพวกมันทั้งหมดก็เริ่มวุ่นวาย และทุกตัวก็เริ่มแตกตื่น…. ด้วยพลังของหวงฉวน เฝินเทียน หวิ่นซิงและคนอื่นๆ ที่เริ่มต้นสังหารพวกมัน ทำให้กลุ่มพวกมันทั้งหมดอยู่ในสภาพน่าเอน็จอนาถ

“เหวี่ยงแหเลย!” มนุษย์สมิงสามตาคำรามเหมือนสัตว์ป่า กรงเล็บของเขาฉีกคู่ต่อสู้ทุกครั้งที่เขาลงมือโจมตี

“ยิงปืนใหญ่” มนุษย์ไซบอร์กร่างกายเสียหายไปครึ่งหนึ่งจนต้องอยู่กับพื้น อย่างไรก็ตาม การสังหารปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกและพะยูนนรกที่อ่อนแอก็ยังเป็นงานง่าย

ด้วยพลังปืนใหญ่พลังงานที่ยิงออกไปหนึ่งครั้ง ศัตรูมากกว่าสิบพ่ายแพ้น่าอนาถทันที

คนที่ฆ่าได้ช้าที่สุดก็คือเวิ่งจิน

หลังจากเขาฆ่าได้ถึงร้อยคะแนนแล้ว ทุกคนมาฉลองแสดงความยินดีกับเย่ว์หยางและเตรียมจะอำลาจากไป

ชางเหยียนอาจกลับมาได้ทุกเมื่อ ยิ่งกว่านั้นเขาจะต้องนำยอดฝีมือระดับสูงมาจากตำหนักกลางเป็นแน่ สถานการณ์วิกฤติขนาดนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องเกรงใจต่อไป หลังจากรอจนเวิ่งจินมาถึง หวงฉวนพยักหน้าทักทายเย่ว์หยาง “เรากำลังจะจากไปแล้ว คุณชายสาม เมื่อเจ้ามาถึงแดนสวรรค์ในอนาคตข้างหน้าอีก ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม ข้าหวงฉวน ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะมาพบเจ้าให้ได้”

“เผ่ามนุษย์เพลิงยินดีต้อนรับอาคันตุกะสำคัญจากทวีปมังกรทะยาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณชายสาม เราจะถือว่าเจ้าคือญาติมิตรของเราแน่นอน” เฝินเทียนรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก

“ได้ต่อสู้แลกเปลี่ยนกันทำให้มิตรภาพของพวกเราแนบแน่นขึ้น ในอนาคตเราคือพี่น้องกัน” หวิ่นซิงพยักหน้าให้เขา

“อะแฮ่ม.. เวิ่งจินผู้นี้ได้พ่ายแพ้เจ้ามาก่อนหน้านั้น เจ้าเอาชนะข้าได้แล้ว ดังนั้นข้าหวังว่าเราจะสามารถระงับข้อขุ่นข้องหมองใจกันในอดีตได้ เผ่ากระดูกของเราจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนเป็นสหายเช่นกัน” เวิ่งจินรีบแสดงความปรารถนาดีต่อเย่ว์หยาง ความจริง ถ้าเย่ว์หยางไม่มีฝีมือน่าประทับใจมากขนาดนี้ พวกเขาคงตายกันหมดอยู่ในสังเวียนมรณะแน่นอน คงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ คุณชายสามตระกูลเย่ว์ไม่เพียงแต่พยายามอย่างหนักเพื่อช่วยให้พ้นวิกฤติร้ายแรง แต่เขายังเอาชนะเฮยหูผู้ทรงพลังและสามารถสร้างโอกาสให้ทุกคนมีชีวิตต่อไปได้ ในช่วงเวลาสั้นๆ ถ้าเย่ว์หยางไม่อยู่ที่นั่นด้วย แดนสวรรค์ระดับล่างทั้งสามดินแดนคงจบสิ้นด้วยเช่นกัน

“ข้าซานเหยี่ยน (สามตา) ไม่มีอะไรจะพูดมาก ครั้งต่อไปหากมีเรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นอีก อย่าลืมเรียกข้าด้วย มันตื่นเต้นดีเหลือเกิน” มนุษย์สมิงสามตาหัวเราะลั่น

“…..” คนสุดท้าย มนุษย์แสงไม่ได้พูดอะไร อย่างไรก็ตาม เขาคำนับเย่ว์หยางอย่างไม่ถือตัว

หวงฉวนและคนอื่นๆ ต่างคนต่างใช้ม้วนเทเลพอร์ตจากไป เป็นการประกาศว่าการต่อสู้ยุติแล้ว

กฎรหัสโบราณอนุญาตให้พวกเขาไปและไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด

หวงฉวนและพวกจากไปโดยปลอดภัย

คนอื่นๆ รีบเข้ามาเช่นกัน จักรพรรดิใต้พิภพ ผู้เฒ่าหนานกง ราชันย์ปีศาจใต้ นางเซียนหงส์ฟ้า องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เสวี่ยอู๋เสียและคนอื่นๆ ไม่เพียงแต่ได้คะแนนกันเพียงพอเท่านั้น พวกเขายังคงจับปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกได้อีกมาก

ความจริง ปีศาจปลาสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกต่างยอมแพ้กันหมดแล้ว พวกมันเห็นว่าสถานการณ์เลวร้าย พวกที่ฉลาดก็หมอบลงกับพื้น

เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ ผู้แข็งแกร่งกว่าย่อมดีกว่า

พวกมันทั้งหมดเป็นตระกูลข้ารับใช้ทั้งนั้น

แม้ว่าพวกมันจะติดตามเฮยหูมาเป็นเวลานาน แต่ความภักดีของพวกมันไม่มากขนาดนั้น ความสัมพันธ์ของพวกมันกับเฮยหูไม่ดีนัก

“ดาวตก” เสียงของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้น

เกิดความเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์กับสนามพลังดารานภากาศ ขณะที่ดวงดาวนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา

ศัตรูพวกนั้นที่วิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปไกลกว่าสิบกิโลเมตรตกตะลึงในทันใด ขณะที่พวกเขาเห็นภาพนี้ ในท้องฟ้ามีดาวตกนับไม่ถ้วนตกลงมาราวกับห่าฝน เทียบกับแสงทำลายล้างของจื้อจุนแล้ว พลังของฝนดาวตกนี้มีเป็นเวลาสั้นๆ ตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ระยะโจมตีกลับทำได้ไกลยิ่งกว่าเมื่อเทียบกัน… ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่าเป้าหมายอยู่ไกลเพียงไหน พลังฝนดาวตกก็ไม่ลดพลังลงเลย

ฝนดาวตกเป็นไปตามความต้องการของจักรพรรดินีราตรี ไม่ว่าศัตรูจะหลบหนีดาวตกยังไงก็ตาม แต่พวกมันถูกจับเป็นเป้าหมายแล้วจะไม่มีใครหลบเอาชีวิตรอดไปได้

แม้แต่เย่ว์หยางก็ยังอึ้งเมื่อเขาเห็นความเคลื่อนไหวของจักรพรรดินีราตรี

พลังควบคุมของจักรพรรดินีราตรีแข็งแกร่งเกินไปหรือเปล่า?

ระยะมากกว่าสิบกิโลเมตร และไม่ใช่แค่สองสามกิโลเมตร!

“อู๋เสีย เชี่ยนเชี่ยน! เข้ามายืนอยู่ใกล้สนามพลังดารานภากาศ ผู้อาวุโสหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพก็ควรเข้ามาใกล้ๆ ด้วย! เย่ว์หยาง, ไปฆ่าพะยูนปีศาจเหล่านั้นซะ” จื้อจุนหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และยกมือขาวผ่องของนางอย่างสง่างาม “พวกเจ้าเอาแต่ซุกหัวโผล่แต่หางออกมา ต้องการให้ข้าลากเจ้าออกมาหรือไม่?”

“แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจว่าทำไมทวีปมังกรทะยานถึงให้กำเนิดนักสู้ผู้แข็งแกร่งได้.. อย่างไรก็ตาม เจ้าแข็งแกร่งมากจริงๆ เรื่องนี้ช่างคาดไม่ถึงเสียจริง” ยักษ์ตนหนึ่งที่ตลอดร่างของเขามีเพลิงลุกฮือเต็มไปหมด และหน้าของเขามองเห็นไม่ชัดปรากฏออกมาจากพื้นที่ว่างทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพียงเมื่อเขาปรากฏตัว จักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางจึงค่อยตรวจพบยักษ์เพลิงกำลังใกล้เข้ามา จากตรงนี้ อาจเห็นได้ว่าพลังของยักษ์เพลิงเหนือกว่าระดับของเย่ว์หยางมากมาย

“แล้วอีกคนหนึ่งเล่า? เขาไม่ได้เตรียมจะออกมาหรือ?” จากนั้นจื้อจุนหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

“ไม่เลว ชางเหยียนบอกข้าว่ามีนักสู้จากทวีปมังกรทะยานที่น่าสนใจมาถึง ข้าเองยังไม่กล้าเชื่อเขา แต่ก็เป็นความจริง ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าข้าสามารถได้เล่นบ้างแน่ ทั้งหมดอย่าเพิ่งรีบตายก็แล้วกัน ข้ามีชีวิตมาหลายพันปีแล้วยังไม่เคยพบใครที่เป็นคู่มือข้าได้เลย!”

ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ บุรุษร่างสีน้ำเงินคล้ายมนุษย์มากกำลังปลดปล่อยอุณหภูมิสูง ปรากฏตัว

ทันทีที่เขาปรากฏตัว เย่ว์หยางและคนอื่นๆ รู้สึกเหมือนกับว่าทั่วทั้งร่างกำลังถูกเผา

แม้ว่าเขาจะอยู่ในกลางอากาศ สภาพแวดล้อมก็ยังหลอมละลาย

ตรงกันข้ามนี่ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อยักษ์เพลิงด้านข้าง

ราวกับจะอธิบายต่อเย่ว์หยางและคนอื่นๆ เสียงนุ่มนวลของจักรพรรดินีราตรีดังขึ้น “แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรจากตำหนักกลาง แต่ระดับของพวกเขาเป็นชั้นนักสู้ปราณฟ้าระดับหกแล้ว พวกเขาน่าจะเป็นพวกมีระดับในแดนสวรรค์ นอกจากนี้ ชางเหยียนก็ยังอยู่ที่นี่ การต่อสู้ครั้งนี้คงลำบาก!”

มนุษย์เพลิงโบกมือและพูดยืนยัน “ไม่เลย นี่จะไม่ยากลำบากอะไร พวกเจ้าคลายกังวลใจได้เลย”

ผู้เฒ่าหนานกงและจักรพรรดิใต้พิภพไม่พูดอะไร ขณะที่พวกเขาเข้าไปในโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยาง

ราชันย์ปีศาจใต้ต้องการจะคุยกับเย่ว์หยาง แต่นางเซียนหงส์ฟ้ารีบฉุดรั้งนางไว้

ด้วยความไม่เต็มใจนัก ราชันย์ปีศาจใต้กลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ของเย่ว์หยางโดยการนำของเสี่ยวเหวินหลี เดิมทีนางต้องการจะบอกเขาให้ระวัง แต่นางเกรงว่าจะรบกวนสมาธิเขา

เสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกอดเย่ว์หยางและรีบกลับเข้าไปยังโลกคัมภีร์ พวกนางรู้ว่าศัตรูที่แท้จริงมาถึง พวกนางยังไม่สามารถรับมือกับเรื่องนี้ได้ นอกจากจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรี เย่ว์หยางจำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด แค่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว เขาอาจถูกศัตรูฆ่าตายได้ทันที เสวี่ยอู๋เสียต้องการเรียกสาวกิเลนออกมาปกป้องเย่ว์หยาง แต่โชคร้ายที่ สาวกิเลนเป็นอสูรอมตะ นางมีกฎอยู่ว่าจะต้องไม่เข้าไปแทรกแซงเว้นแต่เขาตกอยู่ในอันตรายที่แท้จริง นางพญากระหายเลือดหง นางพญาดอกหนามมงกุฎทองตั่วตั่ว โคเงาอาหมัน สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงและอสูรสาวอื่นๆ ที่กำลังเก็บกวาดสนามรบ ต่างถอนกำลังกลับเข้าไปทีละคนๆ

นอกจากเสี่ยวเหวินหลีที่อยู่ข้างๆ เย่ว์หยางแล้ว ฮุยไท่หลางยังคงรั้งอยู่

เด็กสาวยักษ์ที่เป็นนักสู้ปราณฟ้าระดับสาม ต้องการจะรั้งอยู่ เย่ว์หยางจ้องมองนางแล้วดุนาง “อย่าก่อเรื่องยุ่งยาก ถ้าเจ้าไม่กลับเข้าไป พี่ชายคนนี้จะหวดก้นของเจ้าให้บวมเลย คอยดูสิ”

“พี่ใจร้าย!” เด็กสาวยักษ์สะดุ้งและรีบเอามือปิดก้นของนาง พร้อมกับเสียงดังสะเทือนนางรีบยื่นหน้าล้อเลียนเย่ว์หยางก่อนจะหายกลับเข้าไป

“…….” สำหรับการกระทำของนาง ทำให้ทุกคน แม้แต่จื้อจุนก็พูดไม่ออก

นางเข้าใจเสน่ห์ของเจ้าเด็กนี่แล้ว

สำหรับเจ้านายระดับสูง นี่ยังพอรับกันได้ และดูไม่เป็นการพูดเกินจริง อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กสาวยักษ์ผู้บริสุทธิ์ ความคงอยู่ของเขานั้นยอดเยี่ยม ไม่เคยมีเด็กสาวสักคนที่ไม่ชอบเขามาก่อน นี่อาจเป็นหนึ่งในคุณลักษณะของเขา! นอกจากเขาแล้ว จะมีใครอื่นที่สามารถควบคุมเด็กสาวยักษ์เผ่าไตตันได้กัน?

ชางเหยียนปรากฏตัว

ตอนนี้เขากลับคืนสู่ลักษณะที่สงบแล้วเหมือนกับว่าได้รับการรักษาเป็นอย่างดี

ผมหยักศกสีทองยาวประบ่าอย่างสง่างาม หน้าตาที่หยิ่งยโสโผล่มาให้เห็นอีกครั้ง สภาพไม่น่าอนาถเหมือนเมื่อตอนถูกรังสีทำลายล้างแผดเผา

ชางเหยียนผู้หนีจากไปแล้วกลับมาขมวดคิ้วและจ้องดูสนามต่อสู้ เขาถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย “เฮยหูอยู่ไหน?”

ชางเหยียนรู้สึกว่าเฮยหูสามารถใช้สนามพลังของเขาและใช้วงเวทเทเลพอร์ตที่ก้นทะเลสาบหลบหนีไปได้ แต่ก่อนนั้นเขาคงต้องถูกเล่นงานย่ำแย่สภาพน่าอนาถ เมื่อเห็นว่าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด เขาคาดว่าเฮยหูจะต้องเจ็บตัวอย่างหนัก ยิ่งกว่านั้น คู่ต่อสู้ยังคงมีพลังเหลืออยู่ หากไม่มีผู้แข็งแกร่งมาช่วยเหลือ ชางเหยียนคงไม่หวนกลับมาแน่ ทั้งนี้เพราะ ไม่ว่าจะเป็นจื้อจุนผู้มีพลังโจมตีที่น่ากลัว หรือจักรพรรดินีราตรีผู้ลึกลับ เขาไม่สามารถตอแยได้เลย… ตามธรรมดา ชางเหยียนไม่ได้ลืมเย่ว์หยางที่มีพลังทำให้คนตะลึงได้ เขาไม่อาจลืมเพลิงอมฤตที่ไม่มีเพลิงใดในโลกเทียบได้

“เสียเวลาพูดเปล่าๆ” เย่ว์หยางไม่เห็นชางเหยียนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ เขาชูกริชสังหารเทพขณะที่ฆ่าพะยูนนรกที่ไม่ตายทันทีเพราะฝนดาวตก

“เจ้าเด็กนั่นคือจักรพรรดิอวี้คนใหม่หรือ?” บุรุษร่างสีน้ำเงินเข้มถาม

“ผู้อาวุโสเหยียนจง, เหยียนจุน คนที่น่ากลัวที่สุดคือสตรีคนนั้น นอกจากทักษะต่อสู้ระยะประชิดที่อ่อนแล้ว ฝีมืออื่นๆ ของนางแข็งแกร่งมาก นอกจากนี้นางยังมีพลังที่ไม่ธรรมดาอยู่มาก นางสามารถทำลายมิติให้แตกและควบกลั่นวัตถุได้” ชางเหยียนมองดูเย่ว์หยาง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขายังคงฆ่าพะยูนนรกต่อไป ทั้งที่อยู่ในเงื้อมมือแล้ว

“เทียนหลุน, เชียนเย่และอู๋เซ่อสบายดีหรือเปล่า?” จู่ๆ ยักษ์เพลิงก็เอ่ยปากถามถึงชื่อที่ไม่รู้จักสามคน

“…..” จื้อจุนไม่ตอบ

“เป็นไปได้ไหมว่านักสู้ผู้แข็งแกร่งที่สุดจากทวีปมังกรทะยาน, บันไดสวรรค์และแดนนรกตายกันหมดแล้ว?” เสียงของบุรุษร่างน้ำเงินเข้มมีแววประหลาดใจ

“เทียนหลุน, เชียนเย่และอู๋เซ่อจะแค่ไหนกันเชียว อาจารย์อีกคนของข้าก็คือนางพญาเฟ่ยเหวินหลี” เย่ว์หยางตะโกนขณะที่เขาบินกลับมา เมื่อพูดเช่นนี้ ชางเหยียน, ยักษ์เพลิงและบุรุษร่างน้ำเงินเข้มอดสะดุ้งไม่ได้ ชางเหยียนแทบอยากจะเผ่นหนีทันที แต่เมื่อเห็นว่ายักษ์เพลิงและบุรุษร่างน้ำเงินเข้มไม่ขยับ เขาได้แต่ข่มความกลัวและอยู่ต่อไป

เย่ว์หยางแค่นเสียงเย็นชาและหัวเราะอย่างลี้ลับ เขาต้องการขู่พวกเขาให้ขวัญฝ่อตาย

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset