เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 57 – ขโมยไข่

===============
พอโยนเหรียญทองขึ้นไปแล้ว เย่ว์หยางไม่ได้รับมันไว้

ปล่อยให้มันตกลงพื้น และข้างๆ มีคำว่าจักรพรรดิผู้สถาปนาอาณาจักรต้าเซี่ยปรากฏออกมา นี่คือหัวข้อ

“จะให้ยุติธรรมก็ต้องเสี่ยง 2 ใน 3 สิ” พอเห็นว่าไม่ออกก้อย เย่ว์หยางชักจะหงุดหงิด น่าจะเป็นไปได้ที่จะทำบะช่อปีศาจ 9 หัวขณะรอเย่ว์ปิง มิฉะนั้น ถ้าให้เขารอจนกว่านางมา ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่าสัตว์ประหลาด 9 หัว

แม้ว่านางเป็นน้องสาวของเขาและไม่เสียหายที่จะให้ความรู้นางบางส่วน ถ้ามันเป็นไปได้ที่จะปกป้องความลับของเขา ก็ยังดีกว่าที่จะไม่ให้นางได้รู้อะไร นางก็ไม่ใช่คนที่ไม่รู้ว่าอันตรายและการนินทาเกิดได้ทุกที่ แต่ว่านางยังเด็กและยังอ่อนเดียงสาเกินไป ถ้าศัตรูหลอกล่อนาง นางจะพลาดท่าได้ง่าย ยิ่งกว่านั้น มีเด็กใหม่ในทวีปมังกรทะยานจำนวนมาก และทุกคนมีทักษะธรรมชาติหลากหลาย ถ้ามีใครสักคนที่สามารถมองเห็นผ่านคนอื่นได้ เย่ว์ปิงไม่มีทักษะธรรมชาติประเภทหลอกลวง และโกหกคนอื่นไม่เก่ง ซึ่งถ้ามีคนเห็นทักษะนักสู้โดยธรรมชาติใหม่ของนาง จากนั้นก็จะทำให้ครอบครัวของหญิงงามทั้งหมดตกอยู่ในอันตรายได้

เขาโยนปั่นเหรียญทองอีกครั้ง แต่มันก็ยังออกหัว

“ธ่อเว้ย.. ครั้งนี้ไม่นับ ครั้งสุดท้ายแล้วนะ เอาจริงเลยนะ ข้าตัดสินใจแล้ว” เย่ว์หยางตั้งใจโยนให้มันออกก้อย

ในความพยายามครั้งที่ 3 เหรียญถูกโยนขึ้นไปและหลังจากตกมาบนพื้น มันตกลงไปในโคลนอย่างน่าอัศจรรย์ เหรียญทั้งเหรียญตั้งอยู่ด้วยขอบมันเอง เรื่องที่แทบไม่น่าเป็นไปได้นี้ทำให้เย่ว์หยางงง แต่เขารีบช่วยพลิกเหรียญจนออกก้อย จากนั้นจึงรีบเก็บขึ้นมา “งั้นสวรรค์คงต้องการให้เราฆ่าปีศาจ 9 หัวขณะรออยู่ นั่นก็ดีเหมือนกัน เนื่องจากเป็นประสงค์ของฟ้า อย่างนั้นข้าจะรับไปทำเอง”

ฮุยไท่หลางตะลึงเล็กน้อยขณะมองเจ้านายของมัน ทันใดนั้น มันรู้สึกว่าได้เรียนรู้จากเจ้านายได้อีกมาก

เย่ว์หยางเตะมัน “ถ้าแกกลัวตาย ก็จงรออยู่ที่นี่ เมื่อข้าย่างสัตว์ประหลาด 9 หัวเสร็จ แกจะไม่ได้ส่วนแบ่งเลย

ฮุยไท่หลางรีบแสดงออกถึงการว่าง่ายของมันและกระดิกหางเพื่อรับรองกกับเย่ว์หยาง

แม้ว่าเขาไม่ได้รั้งรอเย่ว์ปิง แต่เย่ว์หยางย้ายแผ่นหินขนาดใหญ่มาวางหน้าเสาแก้วผลึก และเขียนข้อความว่า “เย่ว์ปิง รอข้ากลับมาด้วยนะ” เป็นข้อความที่สะดุดตา แม้ว่าเขาจะไม่ใช่พี่ชายที่ดีนัก แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ลืมน้องสาวของเขาเอง ความอยากรู้อยากเห็นของเขามีมากเกินไป และเขาต้องการรู้เรื่องสัตว์ประหลาด 9 หัวเพิ่มขึ้นจริงๆ

แน่นอนว่า เย่ว์หยางต้องการไปสู้กับสัตว์ประหลาด 9 หัวในตอนนี้ กำลังรบของเขามีแค่เพียงเสี่ยวเหวินหลี นับว่าน้อยไปนิด

โคเงาไม่สามารถจะเรียกมาได้ทันที และเงายักษ์จำเป็นต้องเก็บไว้อีก 2-3 วัน ฮุยไท่หลาง อสูรชั้นทองแดงระดับ 4 ก็ยังนับว่าไม่เลว แต่สัตว์ประหลาด 9 หัวเต็มวัยอย่างน้อยก็เป็นอสูรชั้นทองแดงระดับ 7 แตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากนี้ สัตว์ประหลาด 9 หัวไม่กลัวถูกล้อมเล่นงาน มันแตกต่างจากไคเมรา 3 หัวที่วิหารราศีเมษ วันนี้เขาจะสู้กับสัตว์ประหลาด 9 หัวนี้ได้อย่างไร?

“แกคิดว่าข้าคงไม่มีวิธีสู้กับมันแบบนี้ใช่ไหม?” สำหรับคนหน้าด้านอย่างเย่ว์หยาง การมุ่งหน้าไปสู้กับสัตว์ประหลาด 9 หัวในบึงเลือดปีศาจก็เหมือนโดดเรียนไปตีกับเด็กนักเรียนในโรงเรียนใกล้เคียงกัน นี่คือดินแดนของคนอื่น ไม่ว่าเขาจะเก่งแค่ไหน ก็ยังอาจพ่ายแพ้ได้ง่ายเพราะโดนกลยุทธ์ในท่ามกลางผู้คนหลากหลาย เย่ว์หยางคงไม่ทำอะไรโง่ๆ เขาจะไม่เอาแต่โจมตี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีวิธีโจมตีอื่นๆ คนทั่วไปเห็นว่าหนูเบญจธาตุค้นสมบัติปกติจะไม่ใช้ในการรบ แต่ในเงื้อมมือของเย่ว์หยาง หนู 5 ตัวนี้คือเทพศัตราเอาไว้สร้างกลโกงได้

บึงเลือดปีศาจสีแดงเข้มทั้งบ่อเท่าที่สายตาจะมองเห็นได้

อากาศมีกลิ่นคาวโชยมา

อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่กลิ่นเลือด เย่ว์หยางคิดว่า บางทีมันอาจเป็นกลิ่นที่น่าขยะแขยงของสัตว์ประหลาด 9 หัวก็ได้

สัตว์ประหลาด 9 หัวอาศัยอยู่ในบึงเลือดปีศาจมานานแล้ว ตลอดทั้งบึงเต็มไปด้วยกลิ่นของมัน แมลงปีศาจนับไม่ถ้วนและสัตว์อสูรป่าถูกกำจัดจนไม่เหลือซาก สิ่งเดียวที่เห็นได้ก็คืองูบึงทุกขนาดเลื้อยกันยุ่บยั่บอยู่ในโคลนตม

“หารังของสัตว์ประหลาด 9 หัวให้ข้า ถ้ามันไม่อยู่ในรังก็ให้ขโมยไข่มันมา”

เมื่อเขายังเล็ก เย่ว์หยางเคยอ่านการ์ตูนเรื่องที่มีหนู 2 ตัวขโมยไข่ไก่ หนูตัวหนึ่งจะแบกไข่ขณะที่อีกตัวคอยดึงหางลากเพื่อนมันขโมยไข่หนีไปได้สบายๆ เรื่องนี้ประทับใจเขามาก ตอนนี้เขาจะใช้หนูเบญจธาตุตัวที่มีคุณสมบัติธาตุน้ำและธาตุดินปล่อยให้มันเคลื่อนไหวในโคลนยังไงก็ได้ตามที่มันพอใจ ด้วยวิธีนี้ เย่ว์หยางตัดสินใจส่งหนูออกไป 2 ตัวเพื่อขโมยไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวเอามาให้เขา

หนูวารีในชุดหนูเบญจธาตุไปในโคลนได้เร็วมาก เหมือนปลาว่ายน้ำในทะเล

หนูดินจะไปได้ช้ากว่านิดหน่อย แต่ก็ไม่มาก

เย่ว์หยางใช้จิตสำนึกของเขาควบคุมพวกมัน มันสนุกเหมือนกับใช้รีโมตคอนโทรลรถยนต์ เป็นไปตามคาด ผลงานที่น่าภูมิใจของภูตอัจฉริยะเย่ว์กง หนูเบญจธาตุค้นสมบัติเหล่านี้ใช้ง่ายจริงๆ ทักษะของพวกมันสมบูรณ์แบบ พวกมันทนไฟและกันน้ำ บำรุงรักษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

มันเป็นเครื่องมือชั้นเทพจริงๆ จำเป็นสำหรับการเดินทางจากบ้านและสำรวจโลกเพื่อล่าสมบัติ

หลังจากหามานานเกินชั่วโมง หนูค้นสมบัติทั้ง 2 ตัวก็ค้นหาทั้งบึงเสร็จไป 2 ใน 3 พบสัตว์ประหลาด 9 หัว 6 ตัว ยังเด็กอยู่ 2 ตัว และมีเพียง 3 หัว อีก 2 ตัวเกือบโตเต็มวัย และมีหัวเพียง 6 หัว อีก 2 ตัวเป็นตัวพ่อและตัวแม่ และหลับอยู่ในรังใหญ่ พวกมันไม่ตอบสนองต่อการเข้ามาใกล้ของหนูค้นสมบัติ เพราะหนูค้นสมบัติ ไม่มีทักษะการรบ พลังก็ต่ำ แม้ถ้าสัตว์ประหลาด 9 หัวจะได้สังเกตเห็นมัน พวกมันจะคิดว่าหนูก็คือก้อนหินที่กลิ้งได้ ถ้าสัตว์ประหลาด 9 หัวฉลาดพอๆ กับมนุษย์ พวกมันอาจสงสัยว่าหิน 2 ก้อนนี้มันกลิ้งได้อย่างไร

แต่สัตว์ประหลาด 9 หัวมันยังไม่มีความคิดที่ชาญฉลาด นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวของหนูค้นสมบัติเบามาก แอบแฝงและไม่กระตุ้นความสนใจ

เป็นไปตามคาด มีไข่อยู่ในรัง

อย่างไรก็ตาม ไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวใบใหญ่มาก ดังนั้นหนูค้นสมบัติตัวเล็กจึงไม่มีทางขโมยมันมาได้

“อย่านึกว่าข้าจะทำอะไรไม่ถูกนะ ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าข่าย” เย่ว์หยางทำข่ายดิบลวกๆ ง่ายๆโดยใช้กกสีดำที่ขึ้นอยู่ข้างๆ บึง แม้ว่าข่ายนี้มันจะดูน่าเกลียด แต่มันใส่หินใหญ่ลากได้ไม่มีปัญหา มันแข็งแรงพอแน่นอน

ฮุยไท่หลางมองดูข่ายที่เย่ว์หยางทอด้วยความสนใจ มันรู้สึกว่าตอนนี้ได้เวลาแสดงทักษะของมัน

เย่ว์หยางเตะมัน ตาข่ายนี้ไม่ได้ใช้จับปลา แต่เอาไว้ใช้ขโมยไข่ ไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวเป็นไข่ชั้นทอง เมื่อมันฟัก ก็จะมีลูกเป็นทอง และเอาไปประมูลขายได้หลายพันเหรียญทอง ลองคิดถึงสิ่งที่แกใช้เงินทั้งหมดซื้อได้สิ? สำหรับคนอย่างเย่ว์หยางผู้เพ้อถึงเรื่องเงิน เขารู้สึกว่าด้วยตาข่ายผืนนี้ เขาจะไม่ขาดแคลนเงินใช้อีกต่อไป

แน่นอนว่า แค่อาศัยหนูค้นสมบัติ 2 ตัวจะใช้ดึงตาข่ายและลากขโมยของที่สัตว์ประหลาด 9 หัวปกป้องอยู่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เขาต้องหลอกล่อสัตว์ประหลาด 9 หัวออกมานอกรัง

เวลานี้ต้องใช้ฮุยไท่หลางเป็นเหยื่อล่อ

ฮุยไท่หลางไม่มีปัญหายามอยู่บนพื้นดินแห้ง แต่การลงไปในน้ำโคลนเพื่อหลอกล่อสัตว์ประหลาด 9 หัวทำให้ขาของมันอ่อนบ้างนิดหน่อย

“แกน่ะเป็นคู่หูที่ไม่มีอะไรดี แกต้องคิดในแง่บวกเข้าไว้ แค่นึกแค่นี้ว่า ถ้ามขโมยไข่องสัตว์ประหลาด 9 หัวได้สำเร็จ จากนั้นเราจะได้ลูกชั้นทอง ซึ่งหมายความว่าเราจะได้เหรียญทองระยิบระยับ แล้วก็หมายถึงกระดูกและเนื้ออีกมากมาย แกเข้าใจไหม? นอกจากนี้ สัตว์ประหลาด 9 หัวจะแค่ไหนกัน? อีกไม่นานข้าจะฆ่าพวกมันให้หมดและจับมันมาทำบาร์บีคิว เลิกสั่นได้แล้ว ก้าวออกไปตรงนั้นเดี๋ยวนี้! มิฉะนั้น ข้าจะเอาขาแกมาทำบาร์บีคิวแทน” เย่ว์หยางเตะฮุยไท่หลางกระเด็นลงบึง

ฮุยไท่หลางไม่เคยว่าย 100 เมตรในบึงเลือดปีศาจมาก่อน ก่อนที่มันจะตกลงใกล้ๆ กับสัตว์ประหลาด 9 หัว 2 ตัว นี่ทำให้ฮุยไท่หลางกลัวมากขนาดว่ายกลับเข้าฝั่งจนสุดชีวิตของมัน

โชคดี ที่สัตว์ประหลาด 9 หัวดูเหมือนไม่มีความสนใจเนื้อหมาป่าและไม่สนใจไล่ตามมันด้วย

เย่ว์หยางถึงกับโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาเตือนฮุยไท่หลางว่า ถ้ามันบังอาจว่ายน้ำกลับมาอีก เขาจะจับมันมัดแล้วเหวี่ยงออกไป ฮุยไท่หลางกลัวตายและค่อยๆ คลานลงบึงไป ครั้งนี้มันเริ่มเห่าไม่ยอมหยุด เสียงของมันสะท้อนอยู่รอบบึงเลือดปีศาจ คราวนี้สัตว์ประหลาด 9 หัวตื่นพร้อมกันหมด ฮุยไท่หลางไม่กล้าว่ายน้ำกลับ มันว่ายตรงไปยังตำแหน่งอื่น โชคดีที่ยังมีโคลนที่เป็นพื้นแข็งทำให้มันพอวิ่งเหยาะๆ ได้

มิฉะนั้นแล้ว สัตว์ประหลาด 9 หัวก็จะไล่มันทันและจับกินได้ในคำเดียว

หนูค้นสมบัติรู้สึกว่าสัตว์ประหลาด 9 หัวไม่ได้ออกมาไล่ฮุยไท่หลางทุกตัว ตัวเมียที่ใหญ่ที่สุดคงรั้งปกป้องรังไม่ยอมออกมา

เย่ว์หยางไม่ยินดีปล่อยให้เสี่ยวเหวินหลีออกไปในป่าเลน

เขากัดฟันถอดเสื้อผ้าและร่อนผ่านโคลนด้วยตัวเอง

ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่เขาจะข้ามมิติเข้ามา ต่อให้เขามี 100 คนก็คงไม่พอติดซอกฟันของมันได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาเป็นนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดที่ได้เรียนวิชาลับ 3 แบบ แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเดินบนน้ำและคงไม่สามารถเดินบนน้ำโดยไม่รบกวนมัน แต่ก็ยังสามารถก้าวไปบนบางส่วนของโคลนได้สบายๆ ทำให้เขามีความรู้สึกเหมือนมีขาเหล็กลอยอยู่บนโคลน เดิมทีเป็นวิชาที่สง่างามหาที่เปรียบมิได้ที่เทพธิดากระบี่ฟ้าใช้ แต่เมื่อเขาใช้มัน ก็ดูเหมือนจะสมบูรณ์ไม่มากก็น้อย

การปรากฏตัวของเขาทำให้สัตว์ประหลาด 9 หัวตัวเมียที่เฝ้ารังหงุดหงิดอย่างมาก คอทั้ง 9 ของมันโผล่ออกมาจากใต้ป่าพรุ และส่ายไปมารอบๆ อย่างหงุดหงิดมันพ่นกรดสีดำจำนวนมากออกมาจากปาก ใส่ตรงตำแหน่งที่เย่ว์หยางพุ่งออกมา

กรดสีดำยิงออกมาเหมือนกระสุน ทำให้เย่ว์หยางตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เขาตกใจมาก เขารีบถอยกลับออกมาอย่างรวดเร็ว

โดยไม่ทันคาดคิด เย่ว์หยางหนีอย่างเร็วเท่าที่จะทำได้ สัตว์ประหลาด 9 หัวตัวเมียกลับไปเฝ้ารังของมัน มันไม่สนใจไล่ตามเขาจริงๆ เย่ว์หยางสบถอยู่ในใจ และเริ่มวิ่งตรงไปหามันอีกครั้งขณะที่ตะโกนส่งเสียงดัง เพื่อดึงดูดความสนใจของมัน

เพื่อให้ขโมยไข่ได้ง่ายๆ เย่ว์หยางและฮุยไท่หลาง นายและบ่าว ผลัดกันหลอกล่อให้สัตว์ประหลาด 9 หัวให้ออกมา

ภายใต้บึงเลือดปีศาจ หนูค้นสมบัติทั้ง 2 ตัวใช้ตาข่ายลากไข่ออกมาและเริ่มว่ายน้ำกลับมาด้วยความเร็วที่เห็นแล้วปวดใจ ด้วยความเร็วขนาดนั้น อาจต้องใช้เวลา 2 ชั่วโมงก่อนที่พวกมันจะว่ายกลับมาถึงฝั่งได้

“โอว..พระเจ้า! ต้องการแค่จะทำเงินนิดหน่อยช่างยากเย็นเสียจริง” เย่ว์หยางวิ่งไปรอบๆ บึงและเกือบจมเพราะความเหนื่อย

อย่างไรก็ตาม แม้ในตอนนี้ เขาไม่ยินดียอมเสียไข่ที่เขาพยายามขโมยแน่ แต่เขากัดฟันและพยายามต่อ

ทั้งนี้ก็เพื่อเอาไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวมาให้ได้

ไฮดร้า สัตว์ประหลาด 9 หัว

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset