เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 68 – คัมภีร์ชั้นเทพ

===============
พอเย่ว์หยางจับคัมภีร์สีเงินซึ่งดูหมองลงเล็กน้อยไว้แน่น สัญญาณความรู้สึกไร้เสียงที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นในใจเขาอีกครั้ง

แทนที่จะรอเก็บคัมภีร์ทอง, ทองขาวหรือคัมภีร์เพชรมาทำสัญญาด้วยในอนาคต เขาอาจทำสัญญากับคัมภีร์เงินในตอนนี้ได้เลย ถ้าเขาใช้มันอย่างต่อเนื่องในการต่อสู้ บางทีอาจยกระดับขึ้นกลายเป็นคัมภีร์ทอง หรือทองขาว (แพลตตินัม) โดยตัวมันเองก็ได้

พอคิดได้อย่างนี้ เย่ว์หยางเลิกความคิดเตะถ่วงอีกต่อไป เขายื่นมือออกไปวางไว้บนคัมภีร์เงินเบาๆ

เมื่อมีข้อความผุดขึ้นมาในใจของเขา เขายืนยันความตั้งใจที่จะทำสัญญา จากนั้นมีแสงสีทองลอดผ่านระหว่างนิ้วของเขา ตอนแรกนุ่มนวล แต่ค่อยๆ แรงกล้าขึ้น ในที่สุด คัมภีร์เงินทั้งเล่มก็ฉายแสงสีทองแพรวพรายส่องสว่างทั่วรอบบริเวณ แม้แต่เย่คงและคนอื่นๆ ที่หมดสติอยู่อีกชั้น ก็มีแสงสีทองฉายไปถึงพวกเขา

ลำแสงสีทองกระจายออกมาจากคัมภีร์เงิน เมื่อเย่ว์หยางชูขึ้นเหนือศีรษะแล้วมองดู เขาพบว่าลำแสงส่องขึ้นไปสูงมาก เหมือนกับว่ามันยิงทะลุเมฆผ่านเลยไป เป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นยอดสุดของลำแสง

ขณะที่เย่ว์หยางตะลึง ทันใดนั้นเขาพบว่า บางส่วนของข้อมูลพิเศษผุดขึ้นมาในใจของเขา

พอมองลงมา เขาเห็นว่าคัมภีร์ชั้นเงินขั้นกลางระดับกำลังลดลง กลายเป็นคัมภีร์ชั้นเงินขั้นเริ่มต้น แค่นี้ยังไม่จบ ระดับของมันยังคงลดลงต่อไปอีกเป็น คัมภีร์ทองแดงขั้นสูง จากนั้นเป็นคัมภีร์ทองแดงขั้นกลาง และในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นคัมภีร์ทองแดงขั้นเริ่มต้น เย่ว์หยางเริ่มมีเหงื่อผุดเต็มหน้าที่เห็นเหตุนี้เกิดขึ้น จึงดูเหมือนว่า ไม่ต้องคำนึงถึงว่าคัมภีร์อัญเชิญจะเป็นระดับใด ชั้นใด พอมีการทำสัญญามันก็จะกลับไปเป็นคัมภีร์ชั้นทองแดงขั้นเริ่มต้น หลายๆ สิ่งที่เป็นของเจ้าของคนก่อนจะถูกลบไป และทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับไปสู่สถานะเริ่มต้น ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้ เขาจะไม่ลังเลใจที่จะทำสัญญาเลย

ก็ไม่ถึงกับน่าสงสารเกินไปที่คัมภีร์เงินจะระดับตกลงมาขนาดนี้ ถ้าเขาได้รับคัมภีร์เพชรแล้วมันกลับกลายเป็นคัมภีร์ทองแดง เขาคงร้องไห้จนน้ำตาแห้งแน่

แต่ทำไมคัมภีร์อัญเชิญของเสี่ยวเหวินหลียังเป็นคัมภีร์ชั้นเพชรระดับ 1 ตอนเธอใช้ครั้งแรกล่ะ

ขณะที่เกิดความคิดนี้ในใจของเย่ว์หยาง ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเจี๊ยบ เจี๊ยบที่ไพเราะจากส่วนลึกของวิญญาณของเขา มันไพเราะมากจนวิญญาณของเขาสั่นสะท้าน

พลังงานแฝงลึกลับที่เขารู้สึกว่าคงอยู่ในร่างเขาตลอดไปก็เริ่มทำงานอีกครั้ง

มันเหมือนกับต้องการจะแยกออกมาจากร่างของเขา ทันใดนั้นเย่ว์หยางต้องตกใจแทบช็อค

เป็นไปได้ว่าคือเทพธิดากระบี่ฟ้าหรือเปล่า?

นางจะจากไปหรือ?

มือขวาของเขาที่วางบังคัมภีร์อัญเชิญนี้เบาๆ ทำให้คัมภีร์เปลี่ยนจากชั้นเงินเป็นชั้นทองแดง เริ่มรู้สึกถึงคลื่นความเจ็บปวด ผิวของเขาปริออก และเลือดสดๆ ซึมออกมาจากมือของเขา จนทำให้คัมภีร์อัญเชิญทั้งหมดย้อมไปด้วยเลือด ขณะเดียวกัน พลังปราณพลังภายในพุ่งออกมาจากกายเขาเข้าสู่คัมภีร์อัญเชิญอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากกว่าเมื่อเทียบกับตอนสละเลือดให้นางพญาเฟ่ยเหวินหลี ในช่วงเวลาสั้นๆ เขากลายเป็นคนอ่อนแอเพราะเสียเลือดและใช้พลังภายในมากเกินไป เดิมทีเย่ว์หยางต้องการจะดึงมือออกไป แต่พอมาถึงจุดนี้ เขาไม่สามารถควบคุมมือตนเองได้ต่อไป เขาทำได้แต่เพียงจ้องมองอย่างทำอะไรไม่ได้ขณะที่คัมภีร์อัญเชิญสูบเลือดสดๆ ไปจากมือของเขา…

ทันใดนั้น ประกายลำแสง 7 สีคล้ายสายรุ้งปรากฏขึ้น

จากนั้นมันเปลี่ยนสภาพเป็นโล่ห์แสงสวยงามดูเหมือนวงล้อ วงแหวนหรือดวงจันทร์ ออกมาจากทุกส่วนของเย่ว์หยาง ไม่ว่าจะเป็นมือ นิ้วมือ หลังมือ ข้อมือจนกระทั่งแขนของเขา กลิ่นหอมยอดเยี่ยมที่ยากอธิบายและเสียงไพเราะที่ยากจะบรรยายเป็นคำพูดปรากฏออกมาในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนเย่ว์หยางจะเห็นหงส์หลากสีพร่างพราย 2 ตัวบินรอบแขนของเขา ก่อนที่จะหายเข้าไปในคัมภีร์นั้นในที่สุด ก่อนที่เขาจะเข้าไปดูใกล้ๆ เสียงดัง “ปัง” ดังก้องอยู่ในหัวของเขาทำให้เขาหมดสติล้มลงบนพื้น

ตำหนักปีศาจพระจันทร์สีเลือด

ในคุกเลือด แดนอเวจี บารุธ หนึ่งในสามจ้าวปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ตอนนี้กำลังหน้าเคร่งเครียดขณะค้นคว้าอักษรเทพโบราณ แต่อักษรอัญเชิญรูปแบบพิเศษที่มีความซับซ้อน ลึกลับ ลึกซึ้งเกือบจะเป็นเหตุให้จ้าวปีศาจบารุธเกิดอาการเลือดคั่งในสมอง แม้ว่าจะใช้เวลาถึง 3 วัน 3 คืนให้คุ้มค่ากับการค้นคว้า ก็ยังแทบไม่มีความคืบหน้าเลย

ถึงตอนนี้ แม่ทัพปีศาจผู้รักษาความสงบตรงเข้ามาในตำหนักอย่างหงุดหงิดและกังวล เขาซัดองครักษ์เฝ้าตำหนักจนพวกเขากระเด็นกระจายไป ขณะที่ตัวเขาบุกเข้าไปในห้องนั่งเล่นของบารุธ

“ตู้หลาน, เกิดอะไรขึ้น?” จ้าวปีศาจบารุธมองคนทางขวามืออย่างประหลาดใจเล็กน้อย

“เรียนท่านจ้าวปีศาจ เสาแก้วผลึกสำหรับผนึกได้แตกทำลายแล้ว เราต้องซ่อมผนึกเดี๋ยวนี้ ข้าหมายความว่า เราเกือบทุ่มพลังแทบทั้งประเทศไปไล่จับอสูรศักดิ์สิทธิ์ไม่ทราบชนิดจากหอทงเทียนชั้นเจ็ด มันตื่นขึ้นและพลังของมันทำลายเสาแก้วที่ใช้ผนึกอยู่” แม่ทัพปีศาจนามตู้หลานรีบรายงาน

“มันหลับมานานถึง 300 ปีแล้วไม่ใช่หรือ?” ขณะที่จ้าวปีศาจบารุธได้ยินเรื่องนี้ อาการปวดหัวของเขากำเริบรุนแรงขึ้นอีก พลังของอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่รู้จักนั้นสูงส่งจริงๆ และไม่มีใครสามารถทำสัญญากับมันได้ มันอันตรายที่จะเก็บมันไว้ และยิ่งน่าสงสารถ้ามันถูกปล่อยออกมา เขาไม่รู้จริงๆ จะดำเนินการอย่างดีที่สุดได้ยังไง

“ใช่แล้ว มันหลับอยู่เงียบๆ ในม่านผนึกมานาน 300 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม อยู่ๆ ในวันนี้มันตื่นขึ้นจากหลับลึกด้วยตัวเอง พอมันตื่นขึ้นแล้ว มันเริ่มกู่ร้องไปทางทิศใต้ทันที เป็นไปได้ว่ามีสิ่งที่ปลุกมันมาจากตำแหน่งนั้น หรือบางทีมันคงร้องเรียกความช่วยเหลือจากสหายของมัน ข้าไม่เข้าใจถึงสิ่งที่มันพยายามทำและทำได้เพียงเพิ่มพลังของผนึก และบังคับให้มันกลับไปหลับลึกอีก แม้ว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เป็นที่รู้จักจะกลับไปหลับลึกอีก เวทผนึกของเราก็ถึงขีดจำกัดของมันแล้ว เสาแก้วผลึกสำหรับใช้ผนึกแตกทำลายไป 6 ต้นจาก 10 ต้นแล้ว” แม่ทัพปีศาจอธิบายสถานการณ์ เขากังวลแทบตาย

“ตำแหน่งทิศใต้หรือ? ส่งคนไปตรวจสอบดูและดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่ทางทิศอาคเนย์” แต่แม่ทัพปีศาจตู้หลานสั่นศีรษะทันทีที่จ้าวปีศาจบารุธพูด

“ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ, ท่านจ้าวปีศาจ นอกจากนักรบชาวมนุษย์ไม่กี่สิบคนเข้ามาก่อกวนที่ประตูเทเลพอร์ตเป็นการโต้ตอบ ก็ไม่มีอะไรอื่นเกิดขึ้น พวกที่ถูกส่งจากหอทงเทียนเข้ามาที่นี่ก็เป็นนักรบไม่มีชื่อเสียง นอกจากหญิงมนุษย์คนหนึ่งชื่อโล่วฮัวที่มีชื่อเสียงอยู่บ้าง พวกมนุษย์คนอื่นๆ ก็เป็นเด็ก ข้าไม่คิดว่ามนุษย์พวกนั้นจะมีพลังพอปลุกหรือทำสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ ถ้าพวกเขาต้องการทำสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์หรืออสูรในตำนาน ก่อนอื่นพวกเขาต้องมีคัมภีร์มหาเทพ.. ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น ระยะห่างระหว่างเรากับที่แห่งนั้นยังไกลเกินไปอีกด้วย” แม้ว่าแม่ทัพปีศาจตู้หลานไม่อาจค้นหาเหตุผลที่อสูรศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้น เขายังไม่รู้สึกว่าการที่ถูกพวกมนุษย์โจมตีตอบโต้ทำให้อสูรศักดิ์สิทธิ์ตื่นขึ้นมา

“ถ้าอย่างนั้น ทำไมถึงเกิดขึ้นได้? จ้าวปีศาจบารุธยังคงรู้สึกพิศวงกับเรื่องนี้ เขาเลิกคิ้วอยู่บ่อยๆ เสมอ

ณ สนามสู้รบ

เมื่อเย่ว์หยางฟื้นขึ้น เขาพบคัมภีร์ยังคงส่องแสงสีรุ้งอยู่ต่อหน้าเขา มันเหมือนเพชร ระยิบระยับ เหมือนดวงแก้วที่ไม่มีตำหนิ มันงามสมบูรณ์แบบจนคนชมดูจนปากอ้าตาค้าง

“คัมภีร์เทพหรือ?” เย่ว์หยางอัศจรรย์ใจเมื่อเห็นสิ่งที่เขียนไว้บนปก

จากที่เขารู้ มีเพียงคัมภีร์ทองแดง, เงิน, ทอง, ทองขาว,และเพชร รวมแล้ว 5 ชนิด เขาไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับคัมภีร์เทพเลย

ความจริง คัมภีร์อัญเชิญระดับสูงที่สุดที่เขาเคยเห็นก็คือคัมภีร์ระดับเพชรของเสี่ยวเหวินหลี

และคัมภีร์ที่เขาเพิ่งทำสัญญาด้วย เดิมทีเป็นคัมภีร์ชั้นเงินขั้นกลางซึ่งถูกลดระดับลงจนกลายเป็นคัมภีร์ชั้นทองแดงขั้นเริ่มต้น แล้วอยู่ๆ มันกลายเป็นคัมภีร์เทพขั้นเริ่มต้นได้อย่างไร? คัมภีร์เทพนี่คืออะไรกันแน่? ในตอนนี้ ภาพๆ หนึ่งแว่บเข้ามาในใจของเย่ว์หนาง ก่อนที่นางพญาเฟ่ยเหวินหลีจะหลับลึก ครั้งหนึ่งนางเคยเรียกคัมภีร์อัญเชิญเล่มใหญ่โตออกมาเล่มหนึ่ง ดูเผินๆ มันคล้ายกับคัมภีร์เทพที่เขาครอบครองอยู่ในตอนนี้ แต่เล่มนั้นใหญ่กว่าฉบับนี้ถึง 2-3 เท่า

เป็นไปได้ว่าในดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุด นักสู้เหล่านั้นที่ถึงระดับสุดยอด ใช้คัมภีร์เทพมากกว่าคัมภีร์ทองแดง, เงิน, ฯลฯ ระดับธรรมดาหรือ?

เย่ว์หยางตกใจหนัก มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ ขณะที่เขายังคงสังเกตคัมภีร์เทพของตัวเขาต่อไป มันมีขนาดยาว 1 เมตร กว้างครึ่งเมตร หนังสือเล่มนี้หนาบางทีมีไม่กี่สิบหน้า ไม่ต้องคำนึงถึงหน้าปกหรือรายละเอียด ในหน้าหนังสือได้รับการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ยังคงออกแบบด้วยอักขระโบราณลึกลับ

แบบอักขระแบบนี้มีความซับซ้อน ลึกซึ้งและลึกลับ มันเป็นเหมือนกับผลงานของเทพเจ้า

ชมดูชั่วขณะจนทำให้เย่ว์หยางรู้สึกมึนเมา

เขาต่อยตัวเองเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ฝันไป จู่ๆ ชีพจรของเขาก็เต้นแรงถึงนาทีละ 300 ครั้ง แทบจะทำให้ชีพจรระเบิด

พร้อมกับแสงสีรุ้งแว่บขึ้นมา เสี่ยวเหวินหลีออกมาจากตัวของเย่ว์หยาง เธออัญเชิญคัมภีร์ชั้นเพชรออกมา และพอเธอลืมตางดงาม เธอก็เข้าไปอยู่ในคัมภีร์เทพแล้ว เย่ว์หยางตะลึงอีกแล้ว เป็นไปได้หรือว่าแม่หนูน้อยจะย้ายบ้านเธอได้เอง? แต่ก่อนนี้เธอไม่ยินดีจะอยู่ในคัมภีร์ทองแดง อย่างนั้นเหตุผลก็คือเพราะเธอไม่ชอบคัมภีร์ทองแดงซึ่งอยู่ในระดับต่ำสินะ ตอนนี้เขามีคัมภีร์เทพแล้ว แม่หนูน้อยจึงย้ายเข้าไปอยู่ทันที

เย่ว์หยางต้อการเปิดคัมภีร์เทพและเพื่อดูทักษะธรรมชาติใหม่ที่ตนได้รับและอสูรผู้พิทักษ์

แต่เมื่อเขายื่นมือมาที่มัน ส่วนของข้อมูลที่ผุดขึ้นในใจเขาทำให้เขาถึงกับเหงื่อตก

ระดับปราณก่อกำเนิดและพลังภายในของเขาไม่พอจะเปิดคัมภีร์เทพได้ ทำให้เขาประหลาดใจ มีอย่างนี้ด้วยเหรอที่เขาจะเปิดคัมภีร์ของตนเองไม่ได้ เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนโดนแมวข่วนที่หัวใจ เขาต้องการเห็นสิ่งที่ลึกลับภายในคัมภีร์อัญเชิญระดับเทพจริงๆ แต่เปิดมันไม่ได้

ชั่วขณะต่อมา เขาเห็นปีศาจอสรพิษน้อยออกมายิ้มเต็มใบหน้า แขนทั้ง 6 ของเธอกอดเย่ว์หยางไว้แน่น ทำท่าเหมือนเป็นเด็กหยอกเล่นกับเขา

ดูเหมือนเธอมีความสุขจริงๆ ในบ้านหลังใหม่หรือ?

แต่ มีอะไรอยู่ในคัมภีร์เทพกันนะ?

“ข้าอยากรู้จริงๆ เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าในนั้นมีอะไร? รางวัลใหม่และอสูรพิทักษ์ใหม่คืออะไร?” เย่ว์หยางถามอย่างเร็ว

**************************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset