เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 85 – เจ้าเมืองโล่วฮัว

===============
เย่ว์หยางเก็บทองของเขาไว้และใช้เงินสดส่วนเกินซื้อสินค้าดีๆ หลายอย่าง เขาพร้อมที่จะเทเลพอร์ตไปยังแดนดาวและดำเนินภารกิจที่วงกตศิลาดำต่อไป

เขาคาดว่าตอนนี้อี้หนานและเย่ว์ปิงคงไปถึงต้นโอ๊คหมื่นปีแล้ว และอาจเริ่มทำภารกิจต้นโอ๊คหมื่นปีกันแล้ว ยังมีฮุยไท่หลางอยู่ที่นั่นด้วย พวกนางจะรู้สึกมั่นใจเมื่อทำภารกิจขณะรอเขาก็ได้ เกี่ยวกับเย่คง, เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ เย่ว์หยางคาดว่าพวกเขาจะสามารถไปถึงต้นโอ๊คหมื่นปีหลังจากผ่านไปอีกวัน ดังนั้นยังคงมีเวลาได้พบพวกเขาถ้ารีบกลับไปตอนนี้

“ไฮ้..อย่างนั้นก็เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย” ทันใดนั้นเจ้าเมืองโล่วฮัวไล่ตามหลังเขามาทัน แล้วรีบคว้าหูเย่ว์หยางดึงไว้ทันที “โจรน้อย! ทำไมเจ้าพยายามหลบหนีให้พ้นสายตาข้าอยู่เรื่อยนะ?”

“เจ้าเมืองหญิงที่นับถือ! โปรดอย่าเข้มงวดกวดขันข้านักเลย ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” เย่ว์หยางรีบหลบนิ้วมือเรียวงามขาวผ่องของนาง

พอเห็นว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวสามารถหาเขาพบได้โดยง่าย เขาค่อนข้างประหลาดใจ

แต่พอเห็นว่ามีจิ้งจอกหิมะสามหางตัวน้อยน่ารักอยู่ที่แทบเท้าเจ้าเมืองโล่วฮัว ในที่สุดเขาก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด อย่างนั้นพลังวิญญาณของจิ้งจอกน้อยนี้ไม่ใช่แค่เป็นสหายต่อสู้ที่ดีเท่านั้น มันยังเชี่ยวชาญในการติดตามร่องรอยคนอื่นได้ สิ่งเดียวที่เย่ว์หยางไม่เข้าใจก็คือเหตุผลในการไล่ตามร่องรอยของเขา ทำไมเจ้าเมืองโล่วฮัวถึงตามหาเขา

เจ้าเมืองโล่วฮัวทำหน้าบึ้งขณะที่นางมองดาบฮุยจินที่แขวนอยู่ที่เอวเย่ว์หยาง น้ำเสียงของนางไม่พอใจขณะที่พูดว่า “โง่จริงๆ เจ้า, ทำไมเจ้าถึงเอาคะแนนสัมฤทธิ์ผลมาแลกทองเล่า? ถ้าเจ้าขาดเงิน ทำไมไม่มาหาข้า? แม้ว่าข้าจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ข้าก็ยังเป็นเจ้าเมืองคนหนึ่ง ข้าให้เจ้ายืมได้สัก 2-3 ร้อยเหรียญทอง ถ้าเจ้าต้องการ มีหลายวิธีที่ดีกว่า ใช้คะแนนสัมฤทธิ์ผลไปแลกทอง เจ้ารู้เรื่องนั้นไหม? ที่ชั้นสามหอทงเทียน มีหลายที่ซึ่งต้องใช้คะแนนสัมฤทธิ์ผลถึงจะเข้าไปได้ มันไม่ง่ายเหมือนอย่างที่เจ้าต้องการจะเข้าไปเมื่อไหร่ก็ได้ ตามปกติแล้ว ที่ไหนจะมีขุนพลปีศาจให้ฆ่ามากนักเล่า? เหนือชั้นสามขึ้นไป พวกปีศาจที่เหนือกว่าขุนพลปีศาจก็คือเสนาธิการปีศาจ แม่ทัพปีศาจ มักจะอยู่กันเป็นกลุ่ม พวกมันมีกองกำลังที่แข็งแกร่งและมีจำนวนมาก พวกมันแข็งแกร่งกว่ามนุษย์นักรบธรรมดาถึง 10 เท่า หากเจ้าไม่ได้ลอบโจมตีพวกมัน ก็ค่อนข้างยากที่จะเอาชนะการรบได้

พอได้ยินเช่นนี้ เย่ว์หยางถึงกับเหงื่อแตกเป็นเม็ดพราว เขาไม่รู้เรื่องอย่างนี้มาก่อนเลย

ใครจะรู้ว่าคะแนนสัมฤทธิ์ผลในการรบจะใช้ได้มากมาย? ตอนนี้ เขายังถูกเหตุจำเป็นบังคับให้ไปชั้น 3 ที่เป็นชั้นเกียรติยศเพื่อเอาผลสำเร็จไปแลกเป็นทอง ถ้าเขามีเงิน มีหรือที่จะไปฟังคุณพี่ชุดขาวถากถางกันเล่า? สหายชุดขาวผู้นั้นวอนเจ็บตัวจริงๆ ยิ่งกว่าเจ้าอ้วนไห่เสียอีก แต่พอนึกอย่างนั้น หรือว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับเจ้าอ้วนไห่จริงๆ?

พอเห็นเย่ว์หยางมีเหงื่อเต็มหน้าและกังวล สีหน้าขุ่นเคืองของเจ้าเมืองโล่วฮัวเปลี่ยนไปทันที นางเริ่มหัวเราะออกมาดังๆ นางหัวเราะจนไหล่ไหวและร่างงามสั่นคลอน

การได้หัวเราะอย่างเปิดเผยตรงๆ ของนางเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากคนอื่น

เมื่อหญิงสาวนางนี้หัวเราะแบบไม่ยั้ง นางดูน่าหลงใหลจริงๆ จนเย่ว์หยางคิดอยากจะเป็นเสือผู้หญิงอยู่ในใจ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะทหารรับจ้างบางส่วนเดินผ่านเขาไปเป็นระยะๆ เย่ว์หยางนึกอยากจะผลักให้นางนอนลงกับพื้นโดยมีเขาอยู่ด้านบน แน่นอนว่าความรู้สึกเช่นนี้ ก็แค่ฟุ้งขึ้นมาเพราะเสียงหัวเราะที่น่าหลงใหลของนาง ไม่มีอะไรอย่างอื่น เย่ว์หยางอาจพูดได้เป็นบางครั้งว่า หัวใจของเขาทำขึ้นจากเหล็ก เขาเห็นผู้หญิงทุกคนเหมือนกับเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ทว่าความรักที่เขามีต่อแม่สี่ เย่ว์ปิงและน้องสาวคนเล็กคือสิ่งที่เขาไม่อาจเอาชนะได้

ขณะที่สำหรับอี้หนาน ถ้ามีใครถามเย่ว์หยาง เขาคงบอกได้ว่าเขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับนาง

แต่ไม่ว่ามันจะเป็นจริงในใจเขาหรือไม่ก็ตาม ด้วยทักษะลวง ที่เป็นทักษะธรรมชาติของเย่ว์หยาง ทำให้ไม่เคยมีใครได้รู้

“ถ้าข้าบอกว่าเจ้าฉลาด มันก็จริงที่ว่า เจ้าเป็นคนที่โกหกได้ซับซ้อนจนสามารถปั่นหัวทุกคนได้ในขณะที่เจ้าโกหก ถ้าหากข้าบอกว่าเจ้าช่างโง่บัดซบ เจ้าก็ยังเป็นคนโง่ที่ไม่มีความรู้พื้นฐานอะไรในชีวิตเลย ถ้าเจ้าไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน ทำไมเจ้าถึงไม่ถาม? เจ้าเองก็มีบัตรแก้วผลึก สามารถเข้าไปที่ธนาคารทองของนักรบเพื่อสำรองจ่ายให้เจ้าก่อนก็ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงธนาคารของอาณาจักรต้าเซี่ยก็ได้ แม้แต่ชาวเทียนหลัวและชาวสื่อจินก็ยังไม่กล้าตระหนี่ยินดีจะให้เจ้าหยิบยืมทอง เป็นการถือโอกาสประจบประแจงนักสู้ผู้แข็งแกร่งด้วยซ้ำ เจ้าทำให้ข้าขำแทบตายอยู่แล้ว จะให้ข้าโปรดปรานเจ้ามากขึ้นใช่ไหม?” เจ้าเมืองโล่วฮัวยังคงหัวเราะไม่หยุดต่อไป นางวางมือลงบนไหล่ทั้งสองของเย่ว์หยาง คล้ายจะพูดว่า “ถ้าข้าขำเจ้าจนขาดใจตาย เจ้าต้องรับผิดชอบ”

“ท่านเจ้าเมืองสาวที่นับถือ! ท่านตามหาข้าทำไม?” เย่ว์หยางอดคิดไม่ได้ว่า ต่อให้ไม่ต้องการแลกทองตอนนี้ แต่เขาก็แลกเปลี่ยนไปเรียบร้อยแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะเสียใจถึงการกระทำที่ผ่านไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการแลกเปลี่ยนผลสำเร็จในการสู้กับ 5 ขุนพลปีศาจไม่ใช่หรือ?

เขาก็แค่ฆ่าขุนพลปีศาจอีก 5 ตนในคราวต่อไปก็ได้ พวกขุนพลปีศาจไม่มีคัมภีร์อัญเชิญ ไม่มีโล่ห์แสงคอยคุ้มกันพวกมัน ดังนั้นเย่ว์หยางมั่นใจว่าสามารถโค่นล้มพวกมันได้

สำหรับแม่ทัพปีศาจและเสนาบดีปีศาจที่เหนือชั้นกว่าขุนพลปีศาจ เย่ว์หยางไม่เคยพบพวกมันมาก่อน ดังนั้นเย่ว์หยางไม่รู้จักฝีมือพวกมัน แม้ว่าเย่ว์หยางไม่ใช่คู่ต่อสู้พวกนั้นได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือของเสี่ยวเหวินหลี เขาสามารถจะหนีเอาตัวรอดได้ทั้งหมดแทนที่จะถูกฆ่าตาย

สำหรับจ้าวปีศาจนั้น เย่ว์หยางตัดสินใจไม่คิดเรื่องเป็นนักสู้ที่สามารถต่อกรกับจ้าวปีศาจในตอนนี้่ก่อน

เสนาบดีปีศาจก็ถือว่ามีระดับฝีมือที่สูงส่งพอแล้ว เย่ว์หยางเชื่อถึง 99% ว่าเสนาบดีปีศาจจะต้องมีคัมภีร์อัญเชิญแน่นอน เขาไม่ควรกัดก่อนที่จะชิมลาง ถ้ามีโอกาส เขาอยากจะสู้กับแม่ทัพปีศาจดู นั่นคือความปรารถนาเล็กๆ ของเย่ว์หยาง

เจ้าเมืองโล่วฮัวค่อยๆ ระงับอาการขำไม่หยุดและเสียงหัวเราะที่น่าหลงใหลของนาง แล้วโอบไหล่ของเย่ว์หยางแบบพี่น้องกล่าวว่า “เห็นว่าเจ้าคือหัวหน้าองครักษ์ในอนาคตของข้าหรอกนะ แน่นอนว่าเจ้าจะได้รับประโยชน์ หากว่าข้าได้อะไรดีๆ มา ข้ากำลังเตรียมตัวสู้กับปีศาจที่น่ากลัว และจำเป็นต้องมีผู้ช่วย มาเถอะ มาช่วยกันคิดกลยุทธเอาชนะปีศาจกัน

“ข้าไม่เอาด้วยหรอก” เย่ว์หยางปฏิเสธแทบจะทันที

นั่นคือคำเชิญที่ซ้ำซ้อนกัน ด้วยความแข็งแกร่งดุดันของสตรีนางนี้ นางก็ยังไล่ตามปีศาจนี้ไม่ได้ง่ายๆ สู้กับศัตรูที่แข็งแกร่ง เท่ากับหาที่ตายมิใช่หรือ?

นอกจากนี้ การหารือกลยุทธยังดึงดูดความสนใจของเย่ว์หยางไม่ได้ เว้นเสียแต่เจ้าเมืองโล่วฮัวจะเชิญเขาไปปรึกษากลยุทธบนเตียง

เจ้าเมืองโล่วฮัวดูเหมือนจะคาดการณ์ถึงคำตอบของเย่ว์หยางไว้แล้ว นางไม่สนใจขณะกล่าวว่า “อย่ามาทำตัวเป็นเด็กเจ้าอารมณ์กับข้าเลย ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าหรอก ฟังคำแนะนำของข้า เจ้าจะได้ทำถูก ถ้าเจ้าทำตัวเป็นเด็กดี เดี๋ยวเจ๊จะเลี้ยงขนม…”

เย่ว์หยางทำหน้าย่น “……”

เขาต้องการแยกตัวจากเจ้าเมืองโล่วฮัวที่กำลัวโอบไหล่เขาอยู่แล้วเดินหนีไป แต่สัมผัสที่นุ่มนวลที่นางทำให้เขารู้สึกยอดเยี่ยม ทำให้เขาชักไม่อยากจะแยกจากมา

กลิ่นไอหอมที่ฟุ้งมาจากด้านข้างของนางมันชอนไชเข้าไปในหัวใจของเขา

แม้ว่าเย่ว์หยางจะดูดีในภายนอก แต่ในความเป็นจริง เขาก็ยากลำบากในบางสถานการณ์

เจ้าเมืองโล่วฮัวใช้นิ้วเชยคางของเย่ว์หยางขณะที่กล่าวว่า “โจรน้อย! เจ้าไม่ต้องการคนสวยเหรอ? แข็งแกร่งและสวยมากเชียวนะ?”

“ต้องการสิ” เย่ว์หยางคิดในใจ นั่นชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ? บรรดาผู้ชายทั้งโลก นอกจากพวกพฤติกรรมเบี่ยงเบนเป็นอย่างอื่น ใครไม่ชอบสาวสวยกันเล่า? เป็นไปได้ว่าความสุขของชีวิตเขาคงได้เริ่มต้นเสียทีกระมัง? เจ้าเมืองโล่วฮัวนี้นางคงรู้สึกเปล่าเปลี่ยวและคงต้องการให้เขาปลอบประโลมนางใช่ไหม? แต่ว่าสตรีนางนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่เป็นผู้หญิงแบบนั้น ที่ผู้ชายชอบมีสัมพันธ์ชั่วคืน รูปร่างของนางคล้ายกับอี้หนาน ดูเหมือนว่านางยังคงเป็นหญิงบริสุทธิ์ แล้วนางจะขอให้เขามีสัมพันธ์หลังพบกันเพียง 2-3 ครั้งได้อย่างไร?

“ข้ารู้จักสถานที่มีสาวงามที่แข็งแกร่ง ไปด้วยกัน ไปโค่นนางกันเถอะ” เจ้าเมืองโล่วฮัวกำลังพยายามทำให้เย่ว์หยางว้าวุ่นใจ

“ท่านบอกว่าสองเราเหรอ?” เย่ว์หยางเริ่มเหงื่อตก เป็นไปได้ว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวคงเป็นสาวประเภทหญิงชอบหญิง

“ถ้าข้าไม่ช่วยเจ้า ด้วยฝีมือโจรน้อยอย่างเจ้าจะโค่นนางพญากระหายเลือด อสูรชั้นทองระดับ 5 ได้หรือ?” เมื่อเจ้าเมืองโล่วฮัวพูดอย่างนั้น เย่ว์หยางกลิ้งลงกับพื้นทันที

แน่นอนว่า แม่นางผู้นี้ไม่ได้ตามหาเขาไปขึ้นเตียง ไม่ได้ชวนไปจีบสาว นางตามหาเขาเพื่อไปเป็นลูกหาบ

อสูรทองระดับ 5 หรือ?

ความแข็งแกร่งระดับนั้นแทบจะเทียบเท่ากับไคเมรา 3 หัว และชื่อของอสูรฟังดูแล้วน่ากลัวในตัวเองอีกด้วย นางพญากระหายเลือด.. ดูเหมือนอย่างน้อยมันก็เป็นจ้าวอสูรทอง ถ้าไม่ใช่ มันก็ควรจะพอๆ กับระดับปีศาจจ้าวนรก ถ้าเป็นแค่เขากับเจ้าเมืองโล่วฮัว เขาไม่รู้ว่าเขาจะโดนนางพญากระหายเลือดเล่นงานจนหมอบหรือด้วยวิธีอื่นใดกันแน่

เย่ว์หยางดิ้นออกจากอ้อมแขนเจ้าเมืองโล่วฮัวและเดินจากมา “ไม่เอาด้วยหรอก, ข้าไม่ชอบหาเรื่องเจ็บตัว”

เจ้าเมืองโล่วฮัวไล่ตามมาทันเขาและเริ่มบรรยายแผนการตลาดของนาง “โจรน้อย! ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าทำงานหนักสักหน่อย ข้าจะรับหน้าที่หลักเป็นคนบุกเอง และเจ้าแค่รับผิดชอบคอยไล่แมลงเล็กน้อยที่คอยกวนใจอยู่รอบนอก เมื่อเราชนะ ข้าจะให้นางพญากระหายเลือดกับเจ้า คิดดูสิ ถ้าเจ้าทำสัญญากับนางได้ กับอสูรทองระดับ 5 นางพญากระหายเลือด มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาเมื่อเจ้าเรียกนางออกมา นางจะกวาดล้างทุกอย่างที่นางผ่านไป ข้าเห็นว่าเจ้ายังขาดอสูรอัญเชิญที่แข็งแกร่งอยู่ แม้ว่าหมาป่า 2 หัวจะมีอนาคตที่สดใส แต่มันก็ยังเป็นอสูรร่างสัตว์ป่า มันสู้ได้แค่บนภาคพื้นดิน แล้วเจ้าจะทำอย่างไรเมื่อเจออสูรรูปแบบสัตว์ปีก? อย่าบอกนะว่าเจ้าจะปล่อยให้อสูรนกทะเลเอาชนะเจ้าได้ ถ้าเจ้ามีนางพญากระหายเลือด เพราะร่างที่สองของนางก็คือมังกรยักษ์”

“ถ้าอย่างนั้น ท่านเจ้าเมืองต้องการอะไร เมื่อเราชนะ?” เย่ว์หยางไม่เข้าใจสถานการณ์ อาจเป็นได้ว่ามีผู้เสียสละอย่างเหลยเฟิง (เขาคือยุวคอมมิวนิสต์ตัวอย่างในยุคเหมาเซตุง) อยู่ในทวีปมังกรทะยานนี้

เย่ว์หยางแอบร่ำไห้ในใจ “ข้ารู้แล้ว” อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าเมืองโล่วฮัวพูดต่อ เย่ว์หยางจ้องมองนางด้วยอาการบ้าใบ้อีกครั้ง ทั้งนี้เป็นเพราะเจ้าเมืองโล่วฮัวได้พูดว่า “สิ่งที่ข้าต้องการก็คือจินตนาการของนางพญากระหายเลือด ดอกปีศาจงดงาม เจ้าไม่รู้ แต่ข้ายังขาดดอกปีศาจงดงามมาประดับที่หน้าต่างข้า”

“ตกลง” เมื่อเย่ว์หยางได้ยินเช่นนี้ เขาเกรงว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวจะถอนคำพูดนาง จึงรีบคว้ามือทั้งสองของนางทันทีถือโอกาสเอาเปรียบนาง และยอมรับข้อตกลงราคาถูก

“ข้ารู้ว่าเจ้า โจรน้อยคงไม่สามารถทนต่อสิ่งล่อใจได้แน่” เจ้าเมืองโล่วฮัวดูเหมือนจะรู้ว่าเย่ว์หยางยอมรับข้อตกลงแล้ว จึงได้หัวเราะออกมาดังๆ “เจ้าน่ะ เป็นสหายที่ไม่นึกถึงอนาคตเลยนะ เจ้ายอมเชื่อคนอื่นง่ายๆ ได้อย่างไร? เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าสตรีก็โกหกเป็นเหมือนกัน?”

“…” พอได้รับบทเรียนชีวิต เย่ว์หยางทำอะไรไม่ถูกได้แต่เหงื่อตก นางยังคงเทศนาเรื่องความดีและความชั่วต่อไป

“อย่าห่วงเลย, ข้าไม่หลอกโจรน้อยอย่างเจ้าหรอกน่า เพราะเจ้าคือหัวหน้าองครักษ์ในอนาคตของข้า” เจ้าเมืองโล่วฮัวหัวเราะคิกคักเบาๆ “ข้าแค่อยากเตือนเจ้าว่า อย่าเชื่อคนอื่นง่ายนัก ไม่ว่าจะเป็นบุรุษหรือสตรี ถ้าเจ้ามีเรื่องต้องทำตอนนี้ ข้าจะให้เวลาเจ้าไปทำให้เสร็จภายในครึ่งวัน”

“ไม่จำเป็น” เขาสะดุ้งในใจเล็กน้อย มันคงไม่สายเกินไป หากเขาฆ่านางพญากระหายเลือดก่อนแล้วค่อยไปพบกับเย่ว์ปิงและอี้หนานก็ได้กระมัง?

ยิ่งไปกว่านั้น พวกนางสามารถยกระดับนักรบมนุษย์พฤกษาและเพกาซัสเงินตัวน้อยของพวกนางขณะรอคอยก็ได้

สำหรับตัวเขาเอง เขายังขาดอสูรที่บินได้ ถ้าเขาใช้ให้เงาปีศาจชิงร่างนางพญากระหายเลือดและเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้เหมือนโคเงา กำลังรบของเขาก็จะยกระดับขึ้นได้มากในที่สุด นางพญากระหายเลือด อสูรทองระดับ 5 เขาอาจจะไม่สามารถพูดแทนคนอื่นๆ แต่ความแข็งแกร่งของนางพญากระหายเลือดไม่ใช่เล็กน้อยแน่ ถ้าเขาทำได้สำเร็จจริงๆ อย่างนั้นเมื่อเขากลับไปที่ปราสาทตระกูลเย่ว์ เขาจะสามารถเหยียบย่ำครอบครัวที่หนึ่งและที่สองที่เห็นแก่ตัวนั้นได้ เขาเชื่อว่าเขาอาจไม่จำเป็นต้องใช้กระบี่ไร้ลักษณ์ปราณขั้นก่อกำเนิดหรือเสี่ยวเหวินหลีเพื่อกู้ชื่อคืนมาให้แม่สี่ได้

พอเห็นว่าเย่ว์หยางเริ่มส่ายศีรษะ เจ้าเมืองโล่วฮัวจับมือเขาทันที “อย่าห่วงเลย เราจะกลับมาในไม่ช้า พลังของน้องเจ้า ยังนับว่าไม่เลว จะไม่มีปัญหาหากนางฝึกอยู่ในวงกตศิลาดำ ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าไม่ควรปกป้องนางจนเกินไป บางครั้งเจ้าก็ควรให้อิสระนางบ้าง เราจะไปกันเดี๋ยวนี้เลยไหม? ตอนนี้อย่าปล่อยให้พวกจากแดนปีศาจได้มันไปเลย”

“แดนปีศาจหรือ?” เย่ว์หยางชะงักค้าง นางพญากระหายเลือดไปทำอะไรไว้กับพวกในแดนปีศาจ? เป็นไปได้ว่านางพญากระหายเลือดจะอาศัยอยู่ในแดนปีศาจงั้นหรือ?

“นางพญากระหายเลือดยังเป็นจ้าวอสูรทองใหม่ๆ อยู่ จะเอาชนะนางได้ในตอนนี้ง่ายที่สุด ถ้าเรารอให้ผ่านไป 2-3 เดือนปล่อยให้นางพลังกล้าแข็งขึ้นจนเลื่อนเป็นอสูรทองระดับ 6 มันจะมีปัญหายุ่งยากตามมา สัตว์อสูรทุกตัว ทันทีที่ไปถึงระดับ 6 ความสามารถของพวกมันจะเพิ่มขึ้นจากเดิมนับสิบเท่า อย่างไรก็ตาม ทันทีที่อสูรทองแดง, เงิน, ทองเลื่อนชั้นเป็นระดับ 6 พวกมันจะไม่สามารถวิวัฒนาการแปรเปลี่ยนรูปได้ แม้แต่ระดับทองขาวก็มีเพียงไม่กี่ชนิดที่จะมีโอกาสวิวัฒนาการแปรเปลี่ยนรูปได้ หมาป่าปีศาจ 2 หัวของเจ้าอย่าปล่อยให้มันเลื่อนเป็นเป็นชั้นทองแดงระดับ 6 เจ้าต้องให้มันวิวัฒนาการแปรเปลี่ยนรูปเป็นอสูรเงินก่อน มิฉะนั้นมันจะมีชะตาเป็นลูกหาบรับงานหนักที่ไร้ประโยชน์” เจ้าเมืองโล่วฮัวดึงเย่ว์หยางพาวิ่งไปและอธิบายไป เย่ว์หยางตั้งใจฟังนางอย่างจริงจัง เขาแค่ฟังความลับในการบ่มเพาะอสูรเหล่านี้จากนาง หากไม่ใช่เพราะนางเขาไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีใครอื่นยอมบอกเรื่องเหล่านี้

ถ้ามันขึ้นไปถึงชั้นทองแดงระดับ 6 เขาคาดว่าจะเพิ่มพลังไฟให้ฮุยไท่หลาง

นับว่าโชคดีที่ฮุยไท่หลางตอนนี้ยังเป็นอสูรทองแดงระดับ 5 ยังคงมีโอกาสสำหรับมันที่จะวิวัฒนาการไปเป็นอสูรเงิน

“แล้วอะไรที่จะทำให้หมาป่าปีศาจวิวัฒนาการแปรเปลี่ยนรูปไปเป็นอสูรเงิน?” เย่ว์หยางกระหายใคร่รู้จึงได้ถามขึ้น เขารู้ว่า ความรู้เหล่านี้เป็นความลับสุดยอดที่คนอื่นจะไม่ยอมบอกกับเขาได้โดยง่าย แต่เขาก็ยังตื๊อถามเจ้าเมืองโล่วฮัวอยู่ดี

**********************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset