เทพปีศาจผงาดฟ้า – ตอนที่ 17

ตอนที่ 17 ฝันไปหรอกหรือ?

ระหว่างที่หลงเฉินกำลังนอนหลับไหลอยู่ข้างทะเลสาบภายใต้ก้นเหวลึกนั้น เหตุการณ์แปลกประหลาดก็ได้ปรากฏขึ้น สร้อยคอแก้วใสงดงามที่ได้มาจากแหวนบรรจุนั้น เวลานี้ได้เปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มไม่ต่างจากสีของอสุนีบาตจากสรวงสวรรค์

สร้อยแก้วใสมิได้เพียงแค่เปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มเท่านั้น แต่เนื้อแก้วใสยังได้เปลี่ยนเป็นของเหลวรูปร่างคล้ายหยดโลหิตอีกด้วย เพียงแต่มิใช่โลหิตสีแดงดังเช่นโลหิตในร่างกายของคนทั่วไป แต่เป็นหยดโลหิตสีม่วงที่แฝงไว้ด้วยพลังพิเศษ

หยดโลหิตสีม่วงนี้เปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล พลังของมันนั้นราวกับจะสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนให้ทั้งสรวงสวรรค์และผืนปฐพีเลยทีเดียว อีกทั้งยังแฝงไว้ด้วยพลังประหลาดล้ำที่คล้ายจะเชื่อมต่อกับแหวนโบราณวงนี้ แต่ช่างน่าเสียดายนักที่มิมีผู้ใดได้พบเห็น เพราะผู้ที่อยู่ใต้ก้นเหวเพียงคนเดียวเวลานี้ ก็เอาแต่นอนหลับไหลมิรู้ตัว แต่แม้ว่าจะมีผู้ใดมาพบเห็นเข้า ก็คงยากที่จะเข้าใจว่ากำลังเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่?

หลังจากสร้อยแก้วใสเปลี่ยนเป็นรูปร่างโดยสมบูรณ์แล้ว หยดโลหิตสีม่วงเหล่านั้นก็เริ่มขยับเขยื้อน และค่อยๆซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของหลงเฉิน ราวกับว่ากำลังจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายของเขา ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเชื่องช้า และกินเวลานานถึงครึ่งชั่วยามเลยทีเดียว

หลังจากที่หยดโลหิตสีม่วงซึมซาบสู่ภายในร่างของหลงเฉินจนหมดแล้ว โลหิตภายในกายของเขาก็ได้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงด้วย ทุกอณูของโลหิตภายในร่างค่อยๆเปลี่ยนสี แม้จะต้องใช้เวลาครู่ใหญ่ แต่ท้ายที่สุดโลหิตภายในร่างของหลงเฉินทั้งหมดก็จะต้องเปลี่ยนเป็นสีม่วง

หากหลงเฉินได้รับรู้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆเกิดขึ้นกับร่างของตนทีละเล็กทีละน้อยนี้แล้วล่ะก็ คงมิอาจรู้ได้ว่าเขาจะตื่นเต้นดีใจ หรือว่าตกใจกลัวกันแน่แต่ในระหว่างที่ทุกอย่างกำลังเกิดขึ้นนั้น หลงเฉินกลับยังคงหลับไหลไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่ดี

ในระหว่างที่หยดโลหิตสีม่วงกำลังซึมซาบ และหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกายของเขานั้น หลงเฉินก็ได้ฝันประหลาด และเป็นความฝันที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

ในความฝันนั้น หลงเฉินพบเห็นชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่ง ผมของเขาเป็นสีแดงเพลิง ดวงเนตรเป็นสีทองสุกปลั่ง ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์ชวนให้พิศมอง ชายผู้นี้อยู่ในชุดเสื้อคลุมยาวสีแดงโลหิตดูช่างสง่างามยิ่งนัก และเวลานี้เขาก็กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง

จากรูปลักษณ์ของชายผู้นี้ หากดูผิวเผินอาจมิได้บ่งบอกว่าเขาคือผู้ฝึกยุทธแต่อย่างใด แต่หลงเฉินก็สัมผัสได้ว่าคนผู้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง แม้แต่ตัวเขาเองยังมิคู่ควรที่จะเข้าใกล้

ระหว่างที่สายตาของหลงเฉินจับจ้องอยู่ที่ร่างสง่างามของชายหนุ่มด้วยความอยากรู้อยากเห็นนั้น ชายชุดแดงผู้นี้ก็กำลังเขียนบางสิ่งบางอย่างลงในสมุดตรงหน้า แต่เขาหาได้เขียนด้วยน้ำหมึกดังเช่นคนทั่วไปไม่

เขากำลังเขียนอักษรด้วยพลังชี่ของตน พลังชี่ของชายผู้นี้เป็นพลังชี่ที่แม้แต่เขาเองก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันเป็นพลังชี่ที่หนาแน่นและทรงพลังยิ่งนัก

หลงเฉินรู้สึกว่าพลังชี่เพียงเล็กน้อยที่ชายผู้นี้ใช้เขียนอักษรนั้น ยังแข็งแกร่งกว่าพลังชี่ทั้งหมดของท่านปู่เขา และจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิซุยเสียอีก และที่เขารู้เพราะหลงเทียนเคยเห็นปู่ของตนกับจักรพรรดิแห่งซุยประมือกันมาก่อนนั่นเอง

แม้จะเป็นเพียงแค่การประลองเพื่อทดสอบฝีมือ แต่ในครั้งนั้นคนทั้งคู่ก็ได้ดึงวรยุทธและพลังทั้งหมดของตนออกมาใช้ ท้ายที่สุดปู่ของเขาก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้แก่จักรพรรดิซุย ในเวลานั้นความแข็งแกร่งของทั้งสองคนได้ทำให้หลงเทียนถึงกับจ้องมองด้วยความอัศจรรย์ใจยิ่ง

แต่เวลานี้.. เขากลับมิได้รู้สึกเช่นนั้น ความรู้สึกของเขาในครานี้แตกต่างจากเดิม

หลงเฉินรู้สึกว่าการเปรียบเทียบชายผู้นี้กับจักรพรรดิซุยนั้น ยังนับเป็นการหยามเกียรติของผู้ที่แข็งแกร่งเช่นเขา หลงเฉินอดคิดไม่ได้ว่า ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดินี้ หรือแม้กระทั่งจักรพรรดิเอง หากอยู่ต่อหน้าชายผู้นี้ ก็ยังเป็นเสมือนแค่มดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น หลงเฉินมิอาจคาดคะเนได้จริงๆว่า คนผู้นี้จักแข็งแกร่งมากปานใด?

ในระหว่างที่หลงเฉินเฝ้าครุ่นคิดคำนึงอยู่นั้น เขากลับรู้ตัวว่าตนเองกำลังอยู่ในความฝัน และยังจดจำได้ว่าตนเองนอนหลับไหลอยู่ข้างทะเลสาบใต้ก้นเหวของผาสวรรค์

หลงเฉินก้าวเดินไปหาชายหนุ่มแสนสง่างามผู้นั้น และเวลานี้เขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าของชายผู้นั้นแล้ว แต่ชายหนุ่มกลับไม่แม้แต่จะปรายตามองเขาด้วยซ้ำ ราวกับว่ามิได้มองเห็นเขาอยู่ตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

หลงเฉินพยายามที่จะสนทนากับคนผู้นี้ เขายกมือสองข้างขึ้นโบกไปมาตรงหน้า แต่ก็มิได้มีท่าทีตอบโต้กลับจากชายหนุ่มผู้สง่างาม และนี่ยิ่งเป็นการยืนวันว่าเขากำลังอยู่ในความฝัน และชายหนุ่มผู้นี้ก็กำลังจดจ่ออยู่กับการเขียนตำรา

ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มชุดแดงจึงหยุดเขียน แล้วปิดตำราเล่มนั้นลง เขานั่งจ้องมองตำราเล่มนั้นอยู่ครู่หนึ่ง และในระหว่างที่เขากำลังจะลุกขึ้นนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

หลงเฉินเห็นชายชุดแดงลุกขึ้นยืน และเดินตรงออกไปที่ประตู แต่สมุดเล่มนั้นยังคงวางอยู่ที่โต๊ะ..

ขณะที่ชายหนุ่มเปิดประตูออกนั้น หลงเฉินได้มองเห็นผู้ที่อยู่ด้านนอกด้วยเช่นกัน เขาเห็นหญิงสาวนางหนึ่งยืนอยู่ แม้หลงเฉินจะสัมผัสได้ว่าหญิงสาวผู้นี้ก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน แต่ก็หาใช่อยู่ในระดับเดียวกับชายผู้นี้ไม่ จากสีหน้า ท่าทาง และสายตาของหญิงสาวที่พิศมองชายหนุ่มนั้น หลงเฉินคาดเดาได้ทันทีว่านางคือสาวใช้ของชายหนุ่ม

หญิงสาวยื่นจดหมายให้กับชายหนุ่มชุดแดง หลังจากรับมาแล้วชายหนุ่มก็ได้กล่าวอะไรบางอย่างกับนางก่อนที่นางจะจากไป ชายหนุ่มยังคงมิได้ปิดประตู แต่ยืนเปิดจดหมายอ่านอยู่ตรงนั้น ริมฝีมากของเขาแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อยหลังจากที่อ่านจดหมายจบ สีหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยความสุขยิ่ง

เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของชายหนุ่ม หลงเฉินก็ถึงกับตกตะลึงในใบหน้าที่งดงามหล่อเหลาของชายผู้นี้ทันที หากชายหนุ่มผู้นี้อยู่ในโลกเดียวกับเขาแล้วล่ะก็ คงมิมีหญิงสาวคนใดที่จะสำรวมกายใจได้อีก เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าชายหนุ่มที่มีรอยยิ้มเยี่ยงนี้ พวกนางคงจะต้องตกหลุมรักเขาในทันทีเป็นแน่

หลังจากที่อ่านจดหมายจบแล้ว ชายหนุ่มก็ได้เรียกจดหมายฉบับนี้ไปเก็บไว้ในแหวนบรรจุของตนก่อนจะก้าวเดินออกจากห้องไป แต่นั่นทำให้หลงเฉินถึงกับตกใจอย่างยิ่งยวด เพราะแหวนบรรจุในมือของชายหนุ่มผู้นี้ ช่างคล้ายคลึงกับแหวนโบราณที่เขาเก็บได้เมื่อตอนเย็นระหว่างเดินสำรวจก้นเหวมาก

หลงเฉินต้องการที่จะตามชายหนุ่มชุดแดงไป แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เพราะรู้ว่าคงไม่มีทางที่เขาจะสามารถติดตามผู้ที่แข็งแกร่งเยี่ยงนี้ไปได้ทันแน่

หลงเฉินนึกแปลกใจที่ชายหนุ่มมิได้เก็บตำราเข้าไปในแหวนบรรจุของตนก่อนจะเดินออกจากห้องไป อาจเป็นไปได้ว่าผู้ที่ส่งจดหมายฉับนี้มาเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อเขายิ่ง มิเช่นนั้นคงจะมิผลุนผันออกไปโดยไม่สนใจใยดีตำราบนโต๊ะเช่นนี้แน่

หรือไม่ก็.. ตำราบนโต๊ะนั้นมิได้มีสิ่งใดสำคัญนัก เขาน่าจะเพียงแค่จดบันทึกเรื่องทั่วๆที่มิได้สลักสำคัญอะไร จึงมิได้สนใจจะเก็บมันเข้าไปในแหวนด้วย

หลงเฉินเดินตรงไปที่โต๊ะและชะโงกหน้าเข้าไปมองตำราเล่นนั้น เขาหยิบมันขึ้นมาพิศดูอย่างละเอียด และพบว่าสมุดเล่มนี้ทำจากวัสดุเนื้อดี แต่ที่หน้าปกกลับมิได้มีอักษรใดเขียนไว้

หลงเฉินเปิดสมุดเล่มนั้นออกมา และเริ่มอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ เขาใช้เวลาในการอ่านไม่นานนัก และหลังจากอ่านจบเขาจึงรีบปิดหนังสือลงและวางไว้บนโต๊ะเช่นเดิม

แต่หลังจากที่หลงเฉินได้อ่านเนื้อหาด้านในจนจบแล้วนั้น เขาก็ถึงกับตกใจอย่างที่สุด!

เทพปีศาจผงาดฟ้า

เทพปีศาจผงาดฟ้า

เทพปีศาจผงาดฟ้า
Score 7.8
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง เทพปีศาจผงาดฟ้าเทพปีศาจผงาดฟ้า เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset