เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 022 แผ่นศิลาประหลาด

แผ่นศิลาแปลกประหลาด

 

จากที่ทราบว่าผู้คนในสถานที่แห่งนี้ต่างก็มองไปยังบนแท่นลานประมูล ชายชราผอมสูงก็ไม่กล่าวมากความ เพียงยิ้มออกมาเล็กน้อย หันกายไป ค่อยๆปลดผ้าคลุมออกมา

 

อีกทั้งในระหว่างที่ผ้าคลุมได้ค่อยๆปลดออกมา เผยให้ผู้คนในที่แห่งนี้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ด้านใน เยี่ยจงรู้สึกได้ว่า การประมูลแห่งนี้สามารถสร้างแรงดึงดูดความสนใจได้ไม่เลว อีกทั้งทางที่นั่งด้านหน้าที่นั่งด้วยซ่งเซ้าเฉิง หรงเทียน นัยตาต่างก็สาดประกายคมกล้าออกมา ราวกับสะกิดความสนใจ

เยี่ยจงมองกวาดไปอย่างรวดเร็ว ก็พบว่าทางด้านหน้าของชายชรา ปรากฏแผ่นศิลาสูงประมาณครึ่งช่วงตัวคน บนแผ่นศิลานั้นมีตัวอักขระโบราณชนิดหนึ่งปรากฏอยู่ แต่ไม่ทราบว่าผ่านช่วงเวลามาแล้วกี่คืนเดือน ทำให้มีรอยผุพังอยู่หลายส่วน แต่ทว่าถึงอย่างนั้น แผ่นศิลาก้อนนี้ก็ยังให้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเก่าแก่โบราณและลี้ลับ
“ก๊อง——”
หลังจากชายชราก็มองไปรอบด้าน เขาก็ยื่นมือไปกดบริเวณด้านบนของแผ่นศิลาเบาๆ การกระทำของเขาเป็นไปอย่างธรรมชาติ ในช่วงเวลานั้นเอง ก็มีเสียงอึงอึงดังออกมา ในช่วงเวลา ณ ขณะนั้น เพียงเสียววินาที อักษระโบราณก็ได้ส่องประกายแสงนูนออกมาปรากฏต่อสายตาทุกผู้คน
ตัวอักขระที่ส่องสว่างปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ก็ทำให้ผู้คนนั้นชัดขึ้นมาเล็กน้อย ในสมัยก่อนนั้น ตัวอักขระเหล่านี้คงเป็นความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่

 

“ ที่แห่งนั้นเป็นสถานที่อันใด “

“ สิ่งนั้นเป็นของสิ่งใดกัน “

ทันใดนั้น ด้านในห้องโถงต่างก็ส่งเสียงร้องด้วยความทึ่งออกมาไม่น้อย ถึงแม้จะมิใช่ทุกคนที่สามารถจุดมุ่งหมายของการจัดงานชุมนุมการประมูลในครั้งนี้คืออะไร แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเหมือนเรื่องที่ปกติ
“ ของสิ่งนี้ มีบางอย่างที่ดูเหมือนไม่ถูกต้อง…..” ซูหยู่กวาดตามองดู ถ้าหากนับจากลักษณะนิสัยของนางเอง การที่ทำให้รู้สึกตกใจได้ในหลายส่วน นั้นก็เพราะว่าในช่วงเวลาที่มองไปไม่ว่าดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าคือสิ่งใด

 

“ถ้าหากข้าทายไม่ผิดแล้วละก็ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับอารามก่อฟ้าอยู่หลายส่วน” จากนั้นเยี่ยจงก็ถอนหายใจคำหนึ่ง กล่าวต่อออกมาเบาๆ “อีกทั้ง ของชิ้นนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนที่ในมือของพวกเราซักแปดส่วนได้”
“ อารามก่อฟ้า “
นิ่งเงียบสักพัก ซูหยี่ก็ขมวดคิ้วไปมา สิ่งนี้และอารามก่อฟ้าหากมีส่วนเกี่ยวข้องกัน สมควรที่จะเปิดเผยอย่างง่ายดายได้ในสถานนี้เช่นชุมนุมการประมูลในเขตชิงซานเช่นนี้หรือ ? อีกทั้งจากที่ดูจากลักษณะการประมูล คงเป็นเพิ่งสิ่งเดียวที่ชุมนุมการประมูลคาดหวังไว้หรือเปล่า ?
“เหอะๆ ทุกท่าน ถ้าหากข้าคาดเดามิผิดแล้วละก็ ทุกท่านที่มายังเขตชิงซานของพวกเราในเวลากระชั่นชิดเช่นนี้ ส่วนมากในมือก็คงต่างมีแผนที่อยู่แผ่นหนึ่งใช่หรือไม่ “ ชายชรายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่บนเวที จากนั้นเขาก็โบกมือคราหนึ่ง ก็พบแผนที่ค่อยๆคลายออกมาจากมือ ตัวแผนที่นั้นราวปกคลุมไปด้วยพลังวิญญาณอยู่ชั้นหนึ่ง และดูเหมือนกับแผ่นที่อยู่ในมือของซูหยี่
หลังจากที่เห็นเขานำแผนที่ออกมา มีเหล่ายอดฝีมือไม่น้อยที่นั่งอยู่แถวหน้าต่างนัยตาสาดประกายแรงกล้า นั้นก็เพราะในมือของพวกเขาต่างก็ถือแผนที่ชิ้นนี้ในมือเช่นเดียวกัน
“ ท่านทุกเดาได้มิผิด แผนที่ชิ้นนี้ มีเกี่ยวข้องกับอารามก่อฟ้าอย่างมาก อีกทั้งแผนที่บนมือของทุกท่านต่างก็เป็นของจริงโดยทั้งสิ้น นั้นก็เพราะว่าเป็นพวกเราตระกูลม่อปล่อยข่าวออกมาเอง อีกทั้งยังเป็นแผนที่ดั่งเดิมของอารามก่อฟ้าที่ใช้สำหรับวัดความสามารถในรับเข้าเป็นศิษย์อีกด้วย น่าจะมีประมาณเกือบร้อยชิ้น ถ้าหากสามารถไปยังจุดหมายตามที่แผนที่ปรากฏออกมาก็จะสามารถเข้าสู่อารามก่อฟ้าได้เอง อีกทั้งยังนับได้ว่าเป็นศิษย์ของอารามก่อฟ้าได้เช่นเดียวกัน “ ใบหน้าของชายชราอธิบายออกมาด้วยสงบนิ่ง ทว่าคำพูดของเขาก็ดูมีน้ำหนัก จึงทำให้ทั่วทั้งชุมนุมงานประมูลอบอวนไปด้วยบรรยากาศที่ดูรุนแรง มีคนไม่น้อยสูดลมหายใจเข้าคำโต เพราะว่าตอนมาที่เขตชิงซาน มีคนไม่น้อยที่ยังไม่ทราบว่าแผนที่นี้เป็นของจริงหรือว่าของปลอม แต่จากที่ดูในตอนแรกแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าแผนที่นี้เหมือนจะไม่ใช่ของจริง
“ เกี่ยวกับข่าวลือช่วงนี้เหล่าคนได้เข้าไปยังอารามได้หายสาบสูญไป พวกเราตระกูลม่อก็มิอาจทราบได้เช่นกัน แต่ทว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีกลุ่มท่านนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งเข้าป่าที่อยู่บริเวณใกล้กับเขตชิงซาน ค้นพบแผ่นศิลาชิ้นนี้ จากที่พวกเราตระกูลม่อสืบมา แผ่นศิลาชิ้นนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่เคยอยู่ในอารามก่อฟ้ามานานแล้ว มีความเกี่ยวข้องกับแผ่นที่นี้อย่างไร ความจริงไว้ทำสิ่งใด พวกเราก็มิอาจทราบได้ ทว่านับตั้งแต่แผ่นศิลาชิ้นนี้ปรากฏออกมาก็ชั่งบังเอิญเสียจริง หากบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับอารามก่อฟ้าแล้วละก็ ทุกท่านก็คงจะไม่เชื่อเช่นเดียวกัน “ ชายชรายิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยต่อ ถึงแม้คำพูดเหล่านี้จะมีส่วนที่คาดเดาเอาเอง แต่ก็สามารถทำให้หลายคนนัยตาลุกโชนได้

 

ดังนั้น ในตอนนี้ทุกคนก็สามารถคาดเดาได้แล้ว ในตอนที่แผ่นศิลาส่องสว่างออกมา น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับอารามก่อฟ้าอยู่หลายส่วน

หลังจากมองไปที่ผู้คนรอบบริเวณที่แสดงสายตาอิจฉา เยี่ยจงก็อดมิได้ที่จะส่ายหัว ความจริงมีคนไม่น้อยที่มีเป้าหมายอยู่ที่อารามก่อฟ้า ได้แสดงท่าทีระมัดระวังมากขึ้น ในตอนที่ของชิ้นนี้ปรากฏ ก็จะสามารถคาดเดาได้ว่ามีคนทิ้งลดการระวังป้องกันลง อีกทั้งในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าต้องการที่จะทำภารกิจสำนักของเยี่ยจงและซูหยี่แล้วละก็ ยิ่งมิใช่เรื่องที่ดีเลย

“ ดูเหมือนว่า ต่อจากนี้ต่อให้ใช้กลยุทธ์จับปลาในน้ำวนแล้วละก็คงมิใช่เรื่องง่ายดายแล้วละ “ เยี่ยจงมองไปยังรอบด้าน จนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวไปมา
ซูหยี่ก็ขมวดคิ้วเช่นกัน จากนั้นไม่นาน ก็ได้ถอนหายใจแล้วตอบ “ ภารกิจระดับสูงนี้ คงมิใช่จะสำเร็จได้อย่างง่ายดายแล้ว หากต้องให้เหล่าคนรุ่นหลังอย่างเราสู้แล้วละก็สู้หยุดยังจะดีกว่า ข้าเดาว่า อาจเป็นเพราะการปรากฏของแผ่นศิลาชิ้นนี้ด้วย ความจริงแล้วมีผู้กล้าและตระกูลมากมายต่างก็ให้ความสนใจ ต่างก็เตรียมตัวเข้าสู่อารามก่อฟ้ากันแล้ว พอถึงเวลา การต่อสู้คงยากที่จะหลีกเลี่ยง คงจะไม่ง่ายที่จะให้พวกเราคอยตักตวงผลประโยชน์
แม้จะพูดไปอย่างนั้น ความสามารถของเยี่ยจงและซูหยี่ที่แม้จะยังเยาว์วัยอยู่แต่ก็ถือว่าไม่เลว ทว่าด้วยกำลังของทั้งสอง ไม่ต้องพูดถึงบุคคลเยี่ยงซ่งเซ้าเฉิงที่อยู่ในวัยเดียวกันก็ถือว่ายากที่จะต่อกรแล้ว หรือแม้แต่ลำพังเหล่ายอดฝีมือและตระกูลต่างๆก็เพียงพอที่จะทำให้ปวดเศียรเวียนเกล้า

 

“ งั้นตอนนี้พวกเราทำยังไงดี ประมูลของชิ้นนั้นมาศึกษาหรือ “ เยี่ยจงก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ความเชื่อมโยงระหว่างแผ่นศิลาและอารามก่อฟ้าคงมิใช่น้อยนิดอย่างแน่นอน หลังจากนั้นก็ขมวดคิ้ว
ซูหยี่ก็ส่ายหัวตอบ “ จะไม่เอ่ยถึงว่าพวกเราสามารถสู้กับคนอื่นได้หรือไม่ ถ้าให้เปรียบแล้วละก็แผ่นศิลานี้ก็คงเป็นเหมือนก้อนมันฝรั่งที่กำลังร้อนอยู่ ใครได้รับไป ก็ใช่ว่าจะดี พวกเรายังคงเปลี่ยนใจกันดีกว่า “
เยี่ยจงพยักหน้า ความจริงเขาถึงแม้ว่าจะสนใจต่อของสิ่งนี้อยู่หลายส่วน แต่ในเมื่อซูหยี่พูดเช่นนี้แล้ว พวกเขาทั้งสองหากได้แผ่นศิลามาไว้ในมือแล้วละก็ เกรงว่าได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนแน่นอน ในสถานการณ์เช่นนี้ ต่อให้ทั้งสองเปิดเผยสถานะว่าเป็นศิษย์ของสำนักแห่งดวงดาว ก็คงมีส่วนช่วยไม่มาก นั้นก็เพราะ สิ่งที่อยู่ภายในอารามก่อฟ้า เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนไม่น้อยกดดันลัทธิแห่งดวงดาวได้
ตอนนี้ กลางห้องโถงต่างเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เร้าร้อน มีคนไม่น้อยต่างกำลังส่งเสียงซุบซิบกัน พิจารณาความน่าจะเป็นของการเกี่ยวพันกันระหว่างแผ่นศิลาและอารามก่อฟ้า แต่ว่าผู้คนไม่น้อยหลังจากได้พิจารณาเสร็จ ต่างก็คิดว่าแผ่นศิลาชิ้นนี้น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่มีความเกี่ยวพันกันกับการเข้าสู่ด่านของก่อรามก่อฟ้า
ไม่แน่ว่า มีเพียงผู้ที่ครอบครองเจ้าแผ่นศิลาชิ้นนี้ ถึงจะสามารถเข้าอารามก่อฟ้าที่ล้ำลือกันได้
ต้องทราบว่า ภายในรัฐโจวนั้น นอกจากส่วนนอกของลัทธิแห่งดวงดาวแล้ว ยังมีนักสู้และตระกูลต่างๆที่มีวิชากำลังภายในที่ยังไม่ถึงขั้นอยู่ ต่างก็ออกมาตามหายอดวิชาของอารามก่อฟ้าด้วยทั้งสิ้น อีกทั้งชื่อเสียงที่ล้ำลือของอารามก่อฟ้าก็ยังถือว่ามีชื่อเสียงมากมาย หากจะกล่าวกันตามตรงไม่ว่านักสู้ตระกูลผู้กล้าและเหล่ายอดฝีมือ ต่างก็เป็นแรงดึงดูดที่ไม่ธรรมดาอยู่ไม่น้อย

หากได้รับการส่งเสริมจากอารามก่อฟ้า ก็ถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือหนึ่งในรัฐโจวได้ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใดก็ตาม ต่างก็เป็นสิ่งที่แต่ละคนใฝ่หา
ดังนั้น ในตอนนี้ ภายในดวงตาของเหล่าผู้คนต่างก็แปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่ร้อนระอุ หากว่าสามารถได้รับยอดวิชาจากอารามก่อฟ้าที่ล้ำลือกัน ก็ถือได้ว่าได้ก้าวเข้าสู่ขั้นแรกของยอดฝีมือของรัฐโจวแล้ว
“ เหอะ เหอะ แผ่นป้ายชิ้นนี้และอารามก่อฟ้าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกันอยู่หลายส่วน แต่ทว่าก็มิอาจทราบได้ว่าเกี่ยวพันกันอย่างไร ร่วมถึงวิธีใช้ ก็คงต้องให้ท่านที่ได้รับต่อจากนี้ไปค่อยๆศึกษาแล้วละ “ ในการประมูล ชายชรายิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยกล่าวออกมา หรือว่าเขาก็รู้สึกได้ ว่าหากในระดับของบรรยากาศในห้องเพียงพอแล้ว “ เช่นนั้น ตอนนี้ก็เริ่มการประมูลของชิ้นนี้กันเถอะ ราคาเริ่มต้นที่ ห้าพันหินวิญญาณระดับกลาง “
ห้าพันหินวิญญาณระดับกลาง ราคานี้ถือได้ว่าเป็นราคาที่สามารถทำให้ผู้คนตกใจได้อย่างมาก ต่อให้ซูหยี่ได้ยินราคานี้ก็ยังต้องกรอกตาไปมารอบหนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจคำโต กล่าว “ ราคาเช่นนี้ แม้แต่โอกาสในการเสนอราคาก็ยังไม่มีเลย “
เยี่ยจงเงียบงันชั่วขณะ จากนั้นก็พยักหน้าหลายครา ในวันที่เขาขายแผ่นยันธ์อย่างยากลำบาก ก็ได้มาเพียงแค่หินวิญญาณระดับกลางเพียงสิบชิ้นเท่านั้น ตระกูลม่อนี้ช่างโลภมากเสียนี้กระไร เพียงเอ่ยปาก็เรียกถึงห้าพัน ราคานี้หากมิใช้บุคคลที่เตรียมความพร้อมมาไว้แล้ว คงมิมีทางสู้ราคานี้ได้เลย

 

อีกทั้งเยี่ยจงพวกพวก พริบตาที่มีการเรียกราคา สายตาไม่น้อยของผู้คนในห้องโถงที่ตอนแรกเร้าร้อนกันอยู่ต่างก็มอดดับไปในพริบตา ต่างก็มีอาการผิดหวังบนใบหน้า เป็นที่ชัดเจน หินวิญญาณที่มีอยู่ของคนเหล่านี้ เป็นไปได้ยากที่พวกเขาจะสามารถเทียบราคาได้
“ หกพันหินวิญญาณระดับกลาง “
ไม่เพียงแค่ ในช่วงเวลาสั้นๆนั้น บุคคลที่นั่งอยู่แถวหน้าซ่งเซ้าเฉิงก็ได้กล่าวออกมาดังก้อง ที่แท้เขามีการเตรียมการมาแต่แรกแล้ว

 

“ เหอะ เหอะ ศิษย์น้องซ่งช่างไม่ธรรามดาจริงๆ แต่ต่อให้เป็นศิษย์ร่วมสำนักก็คงยากที่ยอมแพ้สินะ “ หรงเทียนที่นั่งอยู่ด้านข้างยิ้มพร้อมกล่าวออกมา จากนั้นก็กล่าวดังก้องว่า “ เจ็ดพันหินวิญญาณระดับกลาง “
“ เหอะ เหอะ เห็นแก่ท่านทั้งสองมีความสนใจเช่นนี้ ข้าน้อยหากยังไม่เข้าร่วมด้วย เกรงว่าก็คงจะดูไม่ดีแล้ว “ โอวหยางจ้าวยิ้มและกล่าวออกมา “ งั้นข้าก็ขอเสนอเพิ่มเป็นหนึ่งหมื่นหินวิญญาณระดับกลางแล้วละกัน “

 

“ ถ้างั้นข้าก็ขอลงมือเพิ่มเป็นหนึ่งหมื่นสองพันหินวิญญาณระดับกลางละกัน “ นายน้อยแห่งโรงฝึกยุทย์ชิหวินหนิงหยูที่อยู่อีกฟากก็เอ่ยปากกล่าวดังๆ
ผ่านไปเพียงพริบตา การประมูลราคาของทุกคน ก็ได้ทำให้ราคาได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ทำให้ผู้คนไม่น้อยยากที่จะกระพริบตาลงได้

“ หนึ่งหมื่นห้าพัน “ ซ่งเซ้าเฉินไม่แม้แต่กระพริบตา ในการทำให้ราคากระโดดสูงขึ้นไม่รู้กี่เท่า

 

“ ศิษย์พี่ของพวกเรา ต่างก็เตรียมการมาพร้อมเรียบร้อย ศิษย์พี่หญิงซูหยี่ จากที่ดูๆแล้ว การเตรียมการในครั้งนี้คงเทียบกับพวกเขาไม่ได้แล้ว” เยี่ยจงหัวเราะแล้วหันทางซูหยี่
ซูหยี่ร้อง เฮอะ ออกมาคำหนึ่ง “ คนเยี่ยงซ่งเซ้าเฉิงหลังจากที่สอบเข้าลัทธิในครึ่งปี ดูเหมือนจะต้องการที่จะพัฒนาตนเอง เพื่อเข้าสู่อารามก่อฟ้าในครั้งนี้ ดูเหมือนจะพายอดฝีมือระดับกลางมาด้วย ดูเหมือน ภายนอกพวกเขาจะไม่แสดงอะไรออกมาก็เถอะ แต่เหล่าคนที่อยู่ด้านหลังพวกเขานั้นที่มิได้แสดงตนออกมา น่าจะสามารถตัวสร้างความน่ารำคาญได้อย่างมากอยู่

 

“ แต่ทว่าก็มิต้องกังวลไป “ เยี่ยจงกล่าวเสียงดัง “ ไม่ว่าผู้ใดได้รับแผ่นศิลาไป ต่อจากนี้คงได้เห็นเรื่องน่าสนุกแล้ว พวกเราก็คอยดูต่อไปละกัน…… “

 

 

1st Edit แก้ไขคำผิด จาก ซ้งเทียน เป็น หรงเทียน

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset