ตอนที่ 145 การครอบครอง
“ เชอะ …….. “
เสียงร้องเชอะอย่างเย็นชาได้ดังออกมาจากห้องชุดห้องหนึ่ง และจากนั้นก็ได้เห็นผู้ที่อยู่ด้านในได้เลิกลูกประคำออกมา เด็กสาวที่มีอายุประมาณสิบกว่าขวบ สวมชุดฝึกยุทธ์สีม่วง ตาเป็นประกายเย็นเยียบจดจ้องไปยังห้องชุดที่เยี่ยจงอยู่
ในตอนนี้เด็กสาวได้แสดงตัวตนออกมาให้เห็น ท่ามกลางสถานที่นี้ก็ได้ส่งเสียงตกใจวุ่นวายออกมา เด็กสาวมีใบหน้าเย็นชาผิวเนียนดั่งหยก ทรวงทรงงดงาม ถึงกับเรียกได้ว่าหาชมบุคคลเช่นนี้ได้ยาก
และยอดฝีมือที่วัยเยาว์ไม่น้อยของเมืองเยียจิง ก็จดจำสถานะของนางได้ในทันที
“ คนผู้นี้สมควรเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเหร่ยแล้ว กล่าวกันว่ามีนามแฝงที่ไม่แน่ชัดอยู่อีก แต่ว่าในด้านความงามนั้นถือได้ว่าไม่แพ้ซูเหวินชิงแห่งตระกูลซูเลย “
“ ได้ยินมาว่าคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลเหร่ย(เหร่ยทิงเหอ)ตลอดมานี้ได้ออกไปฝึกปรือยังสถานที่อื่น คิดไม่ถึงว่าในครั้งนี้จะมายังงานอวยพรวันครบรอบวันสถาปนาอีกด้วย แม้แต่นางเองก็ยังกลับมาแล้ว “
ดวงตาของผู้คนมากมายปรากฏความอัศจรรย์ออกมาให้เห็น ถึงแม้ว่าซูเหวินชิงจะเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองเยียชิง แต่เมื่อเทียบกับเหร่ยทิงเหอก็ถือได้ว่าไม่แตกต่างกันมากนัก สามารถกล่าวได้ว่าเป็นบุพผางามแห่งอีกฤดูหนึ่งเลย ต่างก็มีจุดเด่นเป็นของตนเอง
เหร่ยทิงเหอก็ได้จ้องมองอย่างเย็นชาไปทางด้านห้องชุดของเยี่ยจงเช่นนี้ หลังจากนั้น นางก็ค่อยได้กล่าวเสียงทุ่มต่ำออกมา “ ข้าให้สามแสนหินวิญญาณขั้นสูง “
เห็นได้ชัดว่า ต่อให้เมื่อถึงเวลาเช่นนี้ หญิงสาวนางนี้ก็มิได้มีความต้องการที่จะยอมแพ้แต่อย่างไร
เยี่ยจงขมวดคิ้วไปมา หญิงสาวนางนี้ได้จงใจเปิดเผยสถานะในชุมนุมการค้าในเวลานี้ ก็คือต้องการที่จะให้ตนเองมความเกรงกลัว ไม่กล้าที่จะเสนอราคาต่อ ในข้อนี้เกรงว่าทุกผู้คนที่อยู่ภายในที่แห่งนี้ต่างก็ทราบได้
แต่หลังจากที่ได้ยิ้มอย่างเย็นชาไปแล้ว เยี่ยจงก็ได้ปรบมือไปมา เสียงดังกังวานได้ดังขึ้นมาจากภายในห้องอีกครั้ง “ ข้าให้เพิ่มอีกหนึ่งพันหินวิญญาณขั้นสูง “
“ เจ้า “
เหร่ยทิงเหอจ้องมองไปที่ห้องของเยี่ยจงอย่างโกรธเคือง จากนั้นนางก็ได้ถอยกายไป ลูกประคำเหล่านั้นได้บดบังใบหน้าของนางอีกครั้ง
“ เจ้าเยี่ยมมาก ยอดเยี่ยมมาก “
หลังจากที่ได้ยินเสียงทุ่มต่ำดังลอดออกมา ทว่ายอดฝีมือภายในสถานที่นี้ต่างก็มองไปสายตาเดียวกัน เหม่อมองเข้าไปยังห้องของเยี่ยจงด้วยสายตาที่ ต่างก็ได้เปลี่ยนแปลงเป็นประหลาดขึ้นมา เด็กน้อยผู้นี้ไม่ทราบว่ามีความเป็นมาเช่นไร ถึงกับกล้าที่จะแตกหักกับคุณหนูใหญ่เหร่ยทิงเหออีกด้วย ต่อให้หลังจบเรื่องนี้ไปแล้วคุณหนูใหญ่ตระกูลเหร่อยไม่ไปสร้างความรำคาญให้เขา เกรงว่าเหล่าผู้ที่คอยไล่ตามนางเองก็คงไม่ปล่อยเยี่ยจงอย่างแน่นอน
“ เหอะเหอะเหอะ ในเมื่อถึงกล่าวออกมาเช่นนี้ เช่นนั้นม้วนคัมภีร์ยุทธ์เสมือนเซียนนี้ ก็ตกเป็นของท่านผู้มีเกียรติผู้นี้แล้ว เช่นนั้นต่อจากนี้พวกเราจะเริ่มการประมูลกับสิ่งของชิ้นที่สองแล้ว “ หญิงสาวที่อยู่บนแท่นชุมนุมเมื่อพบเห็นบรรยากาศอันกระอักกระอ่วนอยู่หลายส่วน ต่อมาก็ได้ปรบมือหลายครา จนทำให้ทุกผู้คนหันกลับไปมองที่นาง จากนั้นก็ได้โบกมือออกมาคราหนึ่ง สิ่งของชิ้นที่สองก็ได้ถูกส่งออกมาแล้ว
และสินค้าชิ้นที่สองนี้เอง ก็เป็นประติมากรรมขนาดกลาง ทันใดนั้นก็ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากได้เข้าไป
มิอาจไม่ยอมรับได้ว่า สิ่งของที่ปรากฏมาทั้งหมดของชุมนุมการค้าหวูจี้นี้ ต่างก็เป็นวัตถุที่มีราคาสูงอย่างที่สุด มีสิ่งของไม่น้อยที่เยี่ยจงให้ความสนใจอยู่ แต่ว่าตัวเขาเองก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ ดังนั้นของที่ไม่จำเป็นส่วนหนึ่ง เขาก็ยังคงไม่ลงมือจะดีกว่า
“ ตี้เลื่อเลิ้น (ปฐพีร้าว) ตามตำนานกล่าวกันว่าเป็นศาตสตราวุธเซียนที่มีความเฉพาะ เพียงแต่ว่าวัตถุนี้กลับเสียหายอย่างหนัก เพียงแต่ต่อให้เป็นตอนนี้ เมื่อเทียบกับศาสตราวุธขั้นวิญญาณระดับสูงยังถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่า มีความใกล้เคียงกับขั้นเสมือนเซียน อีกทั้ง วัตถุชิ้นนี้ยังสามารถฟื้นสภาพได้ หากสามารถฟื้นสภาพ สมควรที่จะเป็นขั้นเซียนได้อย่างแม้จริง ควรทราบว่า กล่าวขานกันภายในรัฐต้าโจวหวังเฉา ว่ายังมิเคยมีการปรากฏศาสตราวุธขั้นเซียนอย่างแท้จริงในทั้งสามรัฐใหญ่มาก่อน แค่ความสามารถฟื้นสภาพ วัตถุชิ้นนี้ก็แทบจะเป็นของคู่ดินแดนได้แล้ว
หญิงสาวบนแท่นได้โบกมือคราหนึ่ง ในครั้งนี้ได้มีบริกรสองคนเหงื่อท่วมตัวยกดาบด้ามหนึ่งที่มีความยาวห้าจังขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น ดาบยาวมีสภาพที่คล้ายกับการใช้กระดูกชนิดหนึ่งในการสร้างขึ้นมา ด้านบนสามารถมองเห็นตัวอักขระโบราณแถวหนึ่ง แต่ว่าในเวลาเดียวกัน บนตัวดาบยาวก็ได้มีรอยร้าวแผ่กระจายออกมาอย่างน่าหวาดกลัว ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ บนตัวของชิ้นนี้วัตถุก็ได้แผ่กระจายพลังออกมาอย่างน่าหวาดกลัว
ควรทราบว่า โดยส่วนมากแล้ว ศาสตราวุธนั้นนับได้ว่าหาได้ยากอยู่แล้ว อีกทั้งศาสตราวุธระดับเซียนนั้น ยิ่งเสาะหาได้ยากยิ่งขึ้น เพียงแค่มองว่าภายในทั้งสามรัฐใหญ่ก็ยังไม่มีศาสตราวุธระดับเซียนแม้แต่ชิ้นเดียว ก็น่าจะทราบได้แล้วว่าศาสตราวุธระดับนี้ยากที่จะพบเจอถึงเพียงใด ต่อให้เป็นเยี่ยจงเมื่อครั้งก่อนที่นำจารึกเสวี่ยหยวนกลับมาอย่างลำบากยากเย็น ก็เป็นได้เพียงแค่ศาสตราวุธระดับเสมือนเซียนเท่านั้น
ดังนั้น วัตถุชิ้นนี้มีความน่าหวาดกลัวในด้านของพลังอย่างแน่นอน ขณะนั้นเอง ต่อให้เป็นเยี่ยจงก็เกิดใจเต้นเช่นเดียวกัน หากว่าสามารถได้ครอบครองดาบร้าวเล่มนี้ เกรงว่าพลังการต่อสู้ของเยี่ยจงคงต้องเพิ่มพูนขึ้นเป็นมหาศาลแน่นอน
“ หนึ่งล้านหินวิญญาณขั้นสูง ข้าต้องการ “ เสียงเย็นชาของชายหนุ่มได้ดังออกมาในตอนนี้ เพียงแต่ว่าทันทีที่ทุกผู้คนต่างก็ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นนี้ ที่แท้ก็เป็นจ้านหวังน้อยโจวฉีซือผู้นั้นเอง อีกทั้งเขายังเสนอราคาที่เรียกได้ว่าสูงยิ่ง นับได้ว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มประมาณของหลายชิ้นเป็นต้นมา
ท่ามกลางชุมนุมการค้าเกิดความเงียบขึ้นสายหนึ่ง แต่กลับไม่มีผู้ใดที่คิดจะเสนอราคาต่อ
เยี่ยจงกำลังนั่งอย่างเบื่อหน่ายอยู่ภายในห้องพัก ถึงแม้เขาจะให้ความสนใจกับวัตถุชิ้นนี้ก็ตาม แต่ว่าวัตถุชิ้นนี้ในเมื่อจ้านหวังน้อยโจวฉีซือเอ่ยปากกล่าวในลักษณะนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนเข้าใจ หากใครต้องการที่จะแย่งชิงกับเขา ก็ต้องใช้ชีวิตเข้าแลกกับเขา
หลังจากที่เยี่ยจงครุ่นคิดใคร่ครวญแล้ว อีกทั้งตนเองและคนของโรงฝึกจ้านหวังยังนับว่ามีความสัมพันธ์ที่ถือได้ว่าไม่เลวเลย จากนั้นก็บ่นพึมพำอยู่หลายครา ก็ได้แต่ยินยอมเท่านั้น วัตถุชิ้นนี้ถึงแม้จะดี ทำให้ผู้คนเกิดความสนใจ แต่ว่าก็ยังไม่อาจที่จะทำให้เขาก้าวพ้นข้ามขอบเขตได้
หลังจากที่จ้านหวังน้อยโจวฉีซือได้รับตี้เลื่อเลิ้นไปแล้ว ชุมนุมการค้าก็ได้เริ่มการประมูลต่อไป ไม่เพียงแต่จะมีการปรากฏของเด็กน้อยผู้หนึ่ง จนทำให้บรรยากาศภายในการประมูลความย่ำแย่ลงถึงเพียงนี้
“ ชิ้นต่อไปที่จะออกสู่สายตา เป็นสิ่งของที่มีความแปลกประหลาดอีกชิ้นหนึ่ง กล่าวได้ว่า วัตุชิ้นนี้น่าจะมีราคาค่างวดที่สูง เพียงแต่ว่าเพียงเพราะยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นจึงได้มีคนที่ต้องการจะขายมันออกไป “
“ นี้มันถึงจะเป็นเพียงม้วนคัมภีร์ แต่วิธีการใช้นั้นไม่เหมือนกัน เพราะว่ามีส่วนที่เสียหายอย่างหนัก พวกเราเพียงทราบว่า เรียกขานกันว่ากุ้ยชาง “
หญิงสาวโบกมือคราหนึ่ง ก็มีคนส่งถาดเงินขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ด้านบนถาดเงินได้มีคัมภีร์ยุทธ์โบราณม้วนหนึ่ง เพียงแต่ว่ามีความเสียหายอย่างถึงที่สุด
มีผู้คนไม่น้อยที่สายตาทอเป็นประกายจ้องมองไปยังม้วนคัมภีร์เล่มนั้น ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนไม่น้อยที่ทราบว่าเป็นวัตถุที่ไม่ธรรมดา แต่ว่ากลับมองไม่ออกว่าที่แท้เป็นสิ่งใดกันแน่
“ อะไรนะ ? กุ่ยชาง ? “
ร่างกายของเยี่ยจงสั่นเทาขึ้นมา หลังจากนั้นเขาก็รีบเอ่ยปากอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะขอตรวจสอบวัตถุชิ้นนี้ให้แน่ใจ
ชุมนุมการค้าแม้จะมิได้กล่าวปฏิเสธคำร้องเช่นนี้ ไม่นานนัก ม้วนคัมภีร์เล่มนี้ก็ได้ถูกส่งไปยังห้องพักที่เยี่ยจงอยู่
“ ที่แท้ก็เป็นมัน คัมภีร์กุ่ยชางจิง “
หลังจากที่ได้ใช้มือพลิกดูไปมา เยี่ยจงก็ได้ตกลงแน่ใจในความเป็นมาของวัตถุชิ้นนี้ เพียงแต่ว่าแม้แต่เขาเองก็คิดไม่ถึงว่า วัตถุชิ้นนี้ถึงกับปรากฏอยู่ในดินแดนซีฮ่วงแห่งนี้
กุ่ยชางจี้ ถือเป็นสิ่งของที่ผู้คนแห่งดินแดนซีฮ่วงต่างก็ไม่ทราบ เมื่อชาติก่อนที่อยู่ดินแดนซานเซียนเซินเจี่ยถือเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงมากมาย ดังนั้นกุ่ยชางนี้จึงถูกเรียกขานว่าเป็นขั้นเริ่มต้นจิตใจในการฝึกปรือสายยันต์มนตรา ในตอนนั้นที่วัตถุชิ้นนี้ออกสู่สายตา ก็ได้ทำให้เกิดการแย่งชิงจนฝนฟ้าหลั่งไหลจนเป็นสายเลือดภายในดินแดนซานเชียนเซินเจี่ย มียอดฝีมือขั้นเคียงฟ้านับไม่ถ้วนที่เข้าแย่งชิงในครั้งนั้น สามารถกล่าวได้ว่าโลหิตหลั่งไหลดั่งสายธารเลย
แต่ก็คิดไม่ถึงว่า สิ่งของที่สำคัญเช่นนี้ ถึงกับมาปรากฏยังชุมนุมการประมูลขนาดเล็กนี้ได้
ในขณะเดียวกัน ตามลักษณะนิสัยของเยี่ยจง ฝ่ามือก็ได้ค่อยๆที่จะสั่นเทาขึ้นมา ราวกับสูญเสียสภาพจิตใจไป แต่ถ้าหากว่าสามารถที่จะศึกษาความลี้ลับของสิ่งนี้ การฝึกปรือเข้าสู่เส้นทางยันต์มนตราก็นับได้ว่ามีความเป็นไปได้แล้ว
เยี่ยจงเมื่อชาติก่อนนั้นได้ฝึกฝนวิชายันต์มนตราที่มีความลี้ลับชนิดหนึ่งจนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าร้ายกาจ แต่ก็ยังเป็นวิธีการที่ไม่แน่นอน สาเหตุที่ตลอดมานี้เยี่ยจงมิได้ฝึกปรือวิชายันต์มนตราก็เพราะสาเหตุนี้ และในตอนนี้ หากว่าสามารถครอบครองสิ่งเหล่านี้ แน่นอนว่าเยี่ยจงก็จะสามารถที่จะเดินทางสายผู้ฝึกยันต์ที่เหนือกว่าเมื่อชาติที่แล้วได้
“ ของชิ้นนี้ข้าต้องการ ข้าให้ราคาสองแสนหินวิญญาณขั้นสูง “
เยี่ยจงไม่ได้มีความหมายที่จะส่งกุ้ยชางกลับไปแต่อย่างไร และเพียงแต่กล่าวออกมาภายในห้องพัก
เมื่อได้ยินเยี่ยจงเอ่ยปาก ก็มีผู้คนไม่น้อยต่างก็ตื่นตกใจ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะทราบว่าเยี่ยจงสนใจวัตถุสิ่งนี้ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะให้ความสนใจมากถึงขนาดนี้
“ ข้าให้เพิ่มอีกหนึ่งพันหินวิญญาณขั้นสูง “ เหร่ยทิงเหอได้ส่งเสียงออกไป เห็นได้ชัดว่าได้จงใจที่จะมีข้อบาดหมางกับเยี่ยจง
“ เหอะเหอะ น่าจะเป็นการทำร้ายกันระหว่างแขกผู้มีเกียรติแล้ว คัมภีร์โบราณประหลาดกุ้ยชางนี้ กล่าวกันว่ามาจากสถานที่อันห่างไกล ท่านเจ้าของการค้าไม่ต้องการหินวิญญาณ เขาเพียงแต่ต้องการนำมาแลกเปลี่ยนกับโอสถล้างไขกระดูกหรือยาล้างไขกระดูก เพื่อที่จะนำไปรักษาหลาน “ บนแท่นการค้า หญิงสาวยิ้มแล้วกล่าวออกมา
หลังจากที่เงียบงัน ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็เงียบลง ไม่ว่ากุ้ยชางนี้จะเป็นของดีอันใด แต่ว่าในตอนนี้ แต่ว่าตอนนี้มันก็เป็นได้เพียงแค่ม้วนคัมภีร์ที่ดูเสียหายก็เท่านั้น นำมาใช้แลกเปลี่ยนกับโอสถหรือยาล้างไขกระดูด ไม่ยาจะมองอย่างไรก็ขาดทุนอย่างมาก
เหร่ยทิงเหอยิ้มเบาๆเสียงหนึ่ง สายจ้องมองผ่านกลุ่มลูกประคำไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่ ต้องการที่จะดูว่าเขาเตรียมตัวที่จะทำเช่นไรต่อไป
หลังจากที่เยี่ยจงลังเลชั่วครู่ จากนั้นก็ได้พลิกมือคราหนึ่งแล้วดีดสิ่งของนั้นออกไป ของชิ้นนี้ได้ส่งกลิ่นโอสถวิเศษพุ่งตรงออกไปในทันที
“ นี้คือโอสถล้างไขกระดูก สมควรที่จะเพียงพอต่อความต้องการแล้วกระมั่ง ? “
เยี่ยจงส่งเสียงดังกังวานไปทั่วทั้งท่ามกลางภายในสถานที่แห่งนี้
เมื่อได้ยินคำว่าโอสถล้างไขกระดูกนี้ จากนั้นผู้คนไม่น้อยก็ได้ตกตะลึงขึ้นมา สายตาทอประกายเหม่อมองออกไปยังแท่นชุมนุมได้เปลี่ยนเป็นประหลาดใจขึ้นมา วัตถุเช่นนี้เป็นดั่งโอสถเซียนที่ใช้ในยามที่พลังถึงขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าแล้ว หากว่าสามารถมีโอสถล้างไขกระดูกชิ้นหนึ่ง ก็จะสามารถเพิ่มพูนพลังได้เกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้ ต่อให้เป็นบุคคลธรรมดาเหล่านี้ การที่จะพบเจอกับวัตถุเช่นนี้ได้ก็ถือได้ว่าสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นบุคคลที่มากพรสวรรค์ได้แล้ว เพียงแต่ว่าวัตถุเช่นนี้เป็นสิ่งที่ปรากฏออกมาน้อย ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าเยี่ยจงถึงกับไม่เสียดายที่จะนำวัตถุเช่นนี้ออกมาเพื่อแลกเปลี่ยนกับสิ่งของที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามเช่นนี้
หญิงสาวบนแท่นชุมนุมการค้าก็เกิดวอกแวกขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่นางไปยังหลังเวทีเพื่อตรวจสอบแล้ว ก็ได้ตะลึงขึ้นอีกครั้ง ยกมือคารวะไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่อย่างมีมารยาทแล้วกล่าว “ แขกผู้มีเกียรติท่านนี้ หลังจากที่ได้ผ่านการตรวจสอบว่าไม่ผิดพลาดแล้ว อีกทั้ง ท่านเจ้าของการค้าก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขายังขอส่งมอบของอีกชิ้นหนึ่งให้แก่แขกผู้มีเกียรติท่าน กล่าวกันว่าได้ถูกค้นพบพร้อมกับกุ่ยชาง เพียงแต่ว่าเขาเองก็ไม่ทราบว่าของสิ่งนี้มีประโยชน์อันใด “
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีบริกรยกกล่องหยกกล่องหนึ่งนำเข้ามาให้แก่บริเวณที่เยี่ยจงอยู่ หลังจากที่ส่งมอบให้แก่เยี่ยจงแล้ว ก็ได้ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
เยี่ยจงเปิดกล่องหยกอออกมาดูด้วยความสงสัยคราหนึ่ง จากนั้นเขาก็ถึงกับชาด้านไปทั้งตัวคราหนึ่ง ราวกับถูกทำให้ตกใจไปในทีเดียว
สิ่งนี้เป็นเหมือนดั่งที่รองนั่งที่แตกหักชิ้นหนึ่ง เป็นการใช้ต้นหลิวในการสานมันขึ้นมา แต่ว่าเยี่ยจงก็จดจำออกมาได้ในทันที วัตถุชิ้นนี้ภายในดินแดนซานเชียนเซียนเจี่ย ก็นับได้ว่ายากที่จะพบเจอได้ มีค่ามากสำหรับผู้ฝึกยันต์ขั้นเซียนไม้ ถึงแม้ว่าจะมีเพียงผู้ฝึกยันต์ขั้นเซียนไม้เท่านั้นที่จะสามารถนำมาฝึกฝนและใช้ที่รองนั่งนี้ได้ สิ่งของเช่นนี้เยี่ยจงกลับได้รับมาอย่างง่ายดายจนถึงกับต้องตกใจขึ้นมา
ทันใดนั้นเขาก็ได้เก็บสิ่งของทั้งสองชิ้นนี้เข้าไปอย่างระมัดระวัง ในเมื่อสามารถได้รับของทั้งสองชิ้นเช่นนี้ เพียงแต่แค่ใช้โอสถล้างไขกระดูกเพียงชิ้นเดียวแลกมาเท่านั้น การแลกเปลี่ยนเช่นนี้ ถือได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน
เมื่อมีของทั้งสองสิ่งนี้ เยี่ยจงก็มีความเชื่อมั่นว่า ช่วงเวลาภายในครึ่งเดือนเป็นอย่างน้อยก็จะสามารถ ทำให้ตนเองสามารถไปถึงขอบเขตของผู้ฝึกยันต์ระดับที่หนึ่งได้
“ ของดีเลยนิ “
.
.
.
.
