เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 193 ร่วมมือเพื่อศักดิ์ศรี

ตอนที่ 193 ร่วมมือเพื่อศักดิ์ศรี
“ เจ้าก็คือเยี่ยจงคนนั้นหรอกงั้นหรือ ? “ ซูโม่ย่างกรายอยู่ท่ามกลางอากาศ จ้องมองไปยังเยี่ยจงอย่างดุดัน แต่สีหน้ากลับมิได้เกิดความเคลื่อนไหวใดๆ ในตอนนี้ซูโม่เหมือนจะมีอายุที่ยังน้อยอยู่ คล้ายกับเด็กหนุ่มที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี แต่ว่าความจริงแล้วยอดฝีมือในเมืองเยียจิงต่างก็ทราบกันดี ว่าบุคคลผู้นี้มีอายุอย่างน้อยๆก็เกินกว่าห้าสิบปีไปแล้ว แต่เก็บตัวฝึกฝนอยู่ภายนอก พลังฝีมือไม่ธรรมดา อีกทั้งยังแข็งแกร่งอย่างมาก
ร่างกายของเขาก็สูงยาวโดดเด่น ใบหน้าขาวผ่อง บนศีรษะปกคลุมไปด้วยผมยาวไปจนถึงบริเวณหลัง ให้ความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาในอีกแบบหนึ่ง
เป็นที่ชัดเจนว่า บุคคลเช่นนี้เป็นเหมือนดั่งที่ล่ำลือกันก็มิปาน วันคืนโดยส่วนมากจะกักเก็บตัวฝึกฝนอย่างยากลำบาก มีแต่เพียงผู้ที่ชื่นชอบการฝึกฝนเท่านั้น จึงจะสามารถที่จะแผ่ไอพลังเช่นนี้ออกมาได้ หากว่ามิใช่ว่าเยี่ยจงฆ่าล้างตระกูลซูแล้วละก็ คาดว่าในตอนนี้บุคคลเช่นนี้ก็ยังคงไม่ออกมาปรากฏตัวเช่นนี้อย่างง่ายดายแน่นอน
“ ข้าก็คือเยี่ยจง “ เยี่ยจงจ้องเขม็งไปยังบุคคลผู้นี้ เอ่ยปากอย่างดุดัน
“ เยี่ยจงงั้นหรือ ? ก่อนหน้านี้มีผู้คนมากมายกล่าวกันว่าตระกูลเยี่ยได้เกิดเจ้าขยะที่พันปีจะมีครั้งจนคล้ายกับเรื่องตลกขบขัน อีกทั้งยังลือว่าขยะของตระกูลเยี่ยนี้ ในตอนนี้เกรงว่าผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนคงมิอาจที่จะกล่าวคำพูดนั้นออกมาได้อีกแล้วกระมั่ง ? “ ซูโม่กล่าวตอบ
“ ข้าเมื่อปีก่อนแน่นอนว่าย่อมเป็นเพียงแค่ขยะชิ้นหนึ่ง “ เยี่ยจงพูดความในใจออกมา บอกกล่าวออกมาอย่างซื่อสัตย์
“ งั้นหรือ ? แต่ว่าเจ้าที่ในตอนนี้สามารถก้าวมายังจุดๆนี้ได้ ก็ถือได้ว่าน่าตื่นตกใจมากแล้ว แต่ว่า เจ้ากลับทำเรื่องที่เกินเลยไปอยู่หลายส่วน “ ซูโม่กล่าวตอบอย่างดุดัน
“ ข้าไม่เห็นรู้สึกว่าตนเองได้กระทำอันใดเกินเลยจนเกินไป “ เยี่ยจงกล่าวตอบ
“ เรื่องราวของเจ้าก่อนหน้านี้ ข้าก็มีความเข้าใจอยู่หลายส่วนเช่นกัน ตระกูลซูคอยหาเรื่องเจ้า แน่นอนว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่รู้จักที่ตาย แต่ว่าเจ้ากลับจัดการกับตระกูลซูข้า จนไม่หลงเหลือสิ่งใด ย่อมต้องเรียกว่าเกินเลยไป ต่อให้ข้าไม่ยอมรับ แต่ก็ยังเป็นผู้นำตระกูล เรื่องเช่นนี้ ย่อมต้องสะสางกับเจ้าให้กระจ่าง “ น้ำเสียงที่กล่าวออกมาจากซูโม่มิได้เปลี่ยนแปลงมากมายนัก ราวกับว่าการที่ฆ่าล้างตระกูลซูนั้นแทบจะไม่มีอันใดเกี่ยวกับเขาก็มิปาน แต่ว่าถึงแม้เขาจะเป็นเช่นนี้ ก็ยิ่งทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่าไม่ธรรมดา
“ คิดจะลงมือก็ลงมือเถอะ จำเป็นที่จะต้องกล่าววาจาไร้สาระมากมายขนาดนี้เลยหรือ “ เยี่ยจงยิ้มอย่างเย็นชา
“ แน่นอนว่าเจ้าเป็นเด็กหนุ่มที่มีความสามารถ มากมายผู้ใดในระดับเดียวกัน หากอยู่ในขอบเขตระดับเดียวกัน ข้าย่อมมิใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าอยู่แล้ว ต่อให้ในตอนนี้ปะทะกับเจ้า ก็ใช่ว่าข้าจะมีความสำเร็จมากมายนัก ดังนั้น จึงมิอาจหลีกเลี่ยง ในครั้งนี้จำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันกับเจ้าสำนักเสวียนหวินแล้ว เยี่ยจง หลังจากที่เจ้าตายไปแล้ว ก็อย่าได้โทษข้าก็แล้วกัน “ ซูโม่กล่าวอธิบายเพิ่มเติม ราวกับว่าถ้าไม่กล่าวออกไปอย่างชัดเจนแล้วละก็ เขาก็มิอาจที่จะลงมือได้ก็มิปาน
“ เหอะ ผู้นำตระกูลซู ไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าววาจาไร้สาระกับเขาอีกต่อไปแล้วมั่ง ? หลังจากที่ข้าท่านร่วมมือกันแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการฆ่ามากขึ้นแล้ว “ สีหน้าของจีเจ้าปรากฏความเย็นชาขึ้น และจากนั้นก็ได้เอ่ยปากเสียงเบา เห็นได้ชัด การที่จะสามารถต่อกรกับเยี่ยจงในตอนนี้ เขาเองก็ยังไม่ค่อยมีความมั่นใจมากนัก ไม่ว่าจีเจ้าจะยอมรับหรือไม่ ก่อนหน้านี้เขาก็ถือได้ว่าได้พลาดพลั้งภายใต้น้ำมือของเยี่ยจงไปแล้ว
“ เอาละ ลงมือพร้อมกันเถอะ “ ซูโม่ผ่อนลมหายใจ หลังจากทันใดนั้นเอง เขาก็ก้าวฝ่าเท้าออกไป ร่างกายก็ได้พุ่งออกไปยังบริเวณทางด้านหน้าออกไปในทันที
“ ครืนโครม “
ประกายแสงอัสนีได้แตกกระจายออกมาเป็นชั้นๆ มุ่งหน้าไปยังจุดศูนย์กลางของพลังที่เยี่ยจงใช้ออกมาอยู่ วิชาทักษะยุทธ์อัสนีบาตผสานพลัง เมื่อได้ถูกซูโม่ใช้ออกมา ถูกใช้ออกมาในลักษณะเดียวกัน แต่กลับมีความแข็งแกร่งที่ซูจื่อหวินเทียบไม่ได้แม้แต่น้อย น่ากลัวสุดเปรียบปาน
“ ซวบ “
ในเวลาเดียวกัน จีเจ้าก็ได้ตบฝ่ามือขวาออกไปคราหนึ่ง แล้วก็ได้มีมังกรเพลิงออกมาจากแก้วเพลิงผลาญจี้ปิง มุ่งหน้าออกไปบริเวณทางด้านหน้า
วินาทีที่การโจมตีทั้งสองสายได้เข้าปะทะกัน ก็ได้ก่อเกิดเป็นพลังอันไรที่เปรียบขึ้นมา ต่อให้เป็นการโจมตีที่แท้จริงของยอดฝีมือในขั้นพลังยุทธ์ในขั้นก่อฟ้าก็ใช่ว่าจะสามารถต้านรับได้ ไม่แน่ว่าเพียงแค่สามกระบวนท่าก็คงจะต้องถอยออกไปอย่างช่วยไม่ได้
“ ชิร์ “
เยี่ยจงไม่ได้ถอยแต่อย่างไร เขาร้องชิร์ขึ้นมาอย่างเย็นชา จากนั้นก็ได้ใช้พลังดัชนีออกไปบริเวณทางด้านหน้า
“ ฮูมฮูมฮูม “
เงาร่างมังกรโบราณทั้งเก้าตัวก็ได้ทะยานแหวกท้องฟ้าออกมาในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าออกไปบริเวณด้านหน้าอย่างบ้าคลั่ง
“ โครม “
พลังอัสนีบาตรของซูโม่ได้ถูกเงาร่างมังกรโบราณทั้งสามตัวต้านทานเอาไว้ได้ และทางด้านมังกรโบราณอีกสามตัวก็ได้มุ่งหน้าหันไปมุ่งฆ่าสังหารบริเวณที่จีเจ้าอยู่เข้าไป
“ เปรี้ยง “
จีเจ้ามีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็ได้เก็บรั้งแก้วเพลิงผลาญจี้ปิงกลับไป ปลดปล่อยพลังแสงป้องกันเอาไว้ทางด้านหน้า แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ภายใต้พลังดัชนีเพลิงดาราคล้อยของเยี่ยจง จีเจ้าก็จำเป็นที่จะต้องถอยกายออกไป
“ พวกเจ้าสำนักเสวียนหวิน ไม่ไหวเอาซะเลย “ สีหน้าของเยี่ยจงยังคงความเยือกเย็น หลังจากที่ใช้พลังดัชนีจนจีเจ้าถอยร่นออกไป กระบี่คงหมิงในมือ และหอกอัสนีก็ได้ฟาดฟันออกไปในเวลาเดียวกัน จนกลายเป็นพายุโจมตีอันน่าหวาดกลัว
“ เจ้าหนู “ จีเจ้าตะโกนออกมา แก้วเพลิงผลาญจี้ปิงก็ได้ทอแสงออกมาอย่าไม่ลดละ พุ่งออกไปทั้งสี่ทิศ มุ่งหน้าหมายสังหารไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่ นี้ถือได้ว่าเป็นสมบัติขั้นเซียนอย่างแท้จริง มีพลังที่เรียกได้ว่าไร้ขอบเขตก็ว่าได้
“ ชิ้นส่วนกักขัง “
“镇压!”
เยี่ยจงรีบตัดสินใจในทันที ชิ้นส่วนมายาก็ได้ปรากฏออกมาอยู่บริเวณเหนือศีรษะของเขา ทันใดนั้นก็ได้ก่อเกิดสายลมกระจาย ก่อเกิดแรงดึงดูดอันน่าหวาดกลัวออกมา จนกระทั่งดูซับพลังเพลิงเหล่านั้นเก็บเอาไว้ภายในทั้งหมด
หลังจากที่ได้ใช้ชิ้นส่วนมายาเข้าต้านทานแก้วเพลิงผลาญจี้ปิงแล้ว เยี่ยจงก็ได้ขยับกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้ไปปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าจีเจ้า กระบี่คงหมิงหอกอัสนีก็ได้เสือกแทงเข้าไปในเวลาเดียวกัน
“ ฮูม “
จีเจ้าในเรื่องตอนนี้ไร้หนทางถอยหนี ได้แต่เพียงขยับมือเป็นสัญลักษณ์ ใช้ทักษะยุทธ์เข้าปะทะ เพียงแต่ว่าทันทีที่ทั้งสองฝ่ายได้ปะทะเข้าหากัน ร่างกายก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาดก็มิปาน จนทำให้เขากระอักโลหิตออกมาคำโต อีกทั้งยังลอยกระเด็นออกไป
ตามคงามเป็นจริง ในตอนนี้เยี่ยจงมีร่างกายที่เรียกได้ว่าอันแน่นรวมพลังเอาไว้ได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังอยู่นอกเหนือความคาดหมายของผู้คนตามปกติแล้ว ถึงแม้จะออกกระบวนท่าเช่นนี้ ต่อให้มิได้ใช้ออกด้วยทักษะยุทธ์ แต่ก็สามารถสร้างความน่ากลัวจนทำให้ผู้คนตื่นตกใจได้
“ ซวบ “
เยี่ยจงขยับกายออกไปอีกครั้งหนึ่ง ในครั้งนี้ ใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้รวบรวมพลังกระบี่ตราประทับเอาไว้ จนกลายเป็นก่อเกิดพลังโจมตีอันแข็งแกร่งสายหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าประทับบริเวณหน้าอก
สีหน้าของจีเจ้าเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง แขนทั้งสองข้างได้เคลื่อนไปทางด้านหน้า แล้วก็ได้เคลื่อนไหวพลังปราณเพื่อรับการโจมตีของเยี่ยจง
“ ฮูม “
วินาทีที่ทั้งสองฝ่ายได้กระทบถูกกัน ก็ได้มีเสียงดังลอดออกมา ในครั้งนี้ ร่างกายของจีเจ้าก็ได้กระเด็นออกไป แขนทั้งสองข้างของเขาก็ได้ซาดกระเซ็นโลหิตออกมา ในเวลาเดียวกันก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง จนทำให้ร่างกายของเขาลอยออกไป
“ หากว่าเป็นถึงระดับเจ้าสำนักแล้ว เพียงแต่มีความสามารถเพียงน้อยนิดเพียงแค่นี้แล้วละก็ เช่นนั้นก็อย่าได้กระทำเรื่องน่าขายหน้าต่อหน้าผู้คนเช่นนี้เลย “
เยี่ยจงเหล่ตามองดูจีเจ้า เอ่ยปากอย่างเย็นชา เขาที่เป็นถึงเจ้าสำนักเสวียนหวินในตอนนี้กลับไม่อาจที่จะต้านรับแม้กระบวนท่าด้านหน้าแม้แต่กระบวนท่าเดียว
ความแข็งแกร่งเช่นนี้ การเย้ยหยันเช่นนี้ ก็ได้ทำให้สีหน้าของจีเจ้าเปลี่ยนเป็นขาวซีดในทันที เขากัดฟันไปมา แล้วก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง เอ่ยปากตะโกนออกไป “ เจ้าเด็กน้อย เจ้าหาที่ตายซะแล้ว “
“ ที่หาที่ตายนั้นมันเจ้า “
เยี่ยจงขยับกายขึ้นมาอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันก็ได้ใช้ฝ่ามือเข้าปะทะออกไปในทันที มุ่งหน้าเข้าปะทะกับกระบวนท่าสังหารของจีเจ้า
“ โครม “
บริเวณทางด้านหลัง จนกระทั่งซูโม่ก็ได้สังหารเข้าอีกครั้ง ความเร็วของเยี่ยจงได้เพิ่มมากขึ้น เร็วจนถึงขั้นที่ในช่วงเวลาที่เขาใช้พลังออกมาก็ยังมิทันมีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน เมื่อรอจนถึงช่วงเวลาที่เขาตอบสนองกลับมา จีเจ้านั้นก็ได้กระอักโลหิตคำโตถอยออกไปแล้ว
“ กงเล็บไอหมอกอัสนี “
เสียงตะโกนดังขึ้นมา วินาทีนั้น ก็พบว่าทั่วทั้งฟ้าดินได้มีหมอกหนาทึบออกมา แล้วก็มีอัสนีบาตรจำนวนมากรวมตัวกันอยู่ท่ามกลางอากาศ จนกลายเป็นกงเล็บขนาดใหญ่สายหนึ่ง จนกระทั่งความเคลื่อนไหวของซูโม่ได้พุ่งเข้าไปทางด้านหน้าหมายฆ่าสังหาร
เยี่ยจงได้ขยับกายคราหนึ่ง ทันทีที่ได้ต้านรับกระบวนท่าสังหารของจีเจ้า เขาก็มิได้อาจไม่หันกายกลับไปได้ แล้วก็ได้ใช้ฝ่ามืออีกข้างตบไปยังกงเล็บอัสนีที่มุ่งหน้ามาจากทางด้านบน
“ โครม “
พลังกระบี่ตราประทับและกงเล็บไอหมอกอัสนีก็ได้เข้าปะทะกัน จนเกิดการปะทุจนเกิดแสงสว่างขึ้นมานับไม่ถ้วน
“ เปรี้ยง “
ในครั้งนี้ ร่างกายก็ได้กระเด็นลอยไปทางด้านหลังออกไป จากนั้นก็ได้ล้มลงไปอยู่บนพื้นอย่างรุนแรง หลังจากนั้นก็ได้ขยับกายลุกขึ้นยืนมาอีกครั้ง
“ เยี่ยจง ถึงแม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ พลังยุทธ์ถึงแม้จะไม่เกี่ยวกับวัยมากนัก แต่ว่าก็ยังมีอยู่หลายส่วนที่เกี่ยวข้อง หากว่าให้เวลาเจ้าอีกสิบปี เช่นนั้นต่อให้พวกเราทั้งสองร่วมมือกันก็ใช่ว่าจะต่อกรกับเจ้าได้ ดังนั้น อย่าได้โทษกันเลย “ ซูโม่เอ่ยออกมา หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนสัญลักษณ์บนมืออีกครั้ง บนท้องฟ้าก็ได้ก่อตัวจนเกิดกงเล็บอัสนีขึ้นอีกครั้ง มุ่งหน้าไปทางด้านบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป
“ งั้นหรือ ? “ เยี่ยจงยิ้มอย่างเย็นชา เขาพลิกทั้งสองมือครั้งหนึ่ง วินาทีนั้นก็ได้พบเห็นกับพลังปราณฟ้าดินลอยรวมตัวกันอยู่เหนือศีรษะของเขาจนกลายเป็นเตาทองคำขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่ง จากนั้นก็ได้ใช้มือกุมไปที่ขาเตา จากนั้นเยี่จงก็ใช้โยนมันออกไป
“ พลังหมัดมายาเตาทองคำ “
“ ซวบ “
เกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเยี่ยจง เตาทองคำขนาดใหญ่ก็ได้กระแทกเข้ากับกงเล็บอัสนีเข้าไป ในครั้งนี้ กลับมิได้มีเสียงดังขึ้นมากมายนัก แต่ว่าก็ได้เกิดความไหลเวียนของพลังอันรุนแรงที่น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดก็มิปาน กระจายตัวออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง น่าเกรงกลัวอย่างถึงที่สุด
“ เจ้าเด็กน้อย ตายไปซะ “
และในเวลาเดียวกัน จีเจ้าก็ได้มุ่งหน้าเข้าสังหารไปยังบริเวณด้านหลัง ร่างกายของเขาในตอนนี้ก็ได้ปลดปล่อยพลังไอปราณออกมา จนก่อเกิดพลังสายลมอันบ้าคลั่งรวมตัวกันอยู่บนใจกล้าฝ่ามือของเขา จนทำให้เขาราวกับสามารถใช้ออกด้วยพลังอัสนีบาตด้วยมือเปล่าก็มิปาน จากนั้นก็ได้ใช้ฝ่ามือพุ่งเข้าหาบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป
จนกระทั่งเยี่ยจงสีหน้าเปลี่ยนไป การรวมมือกันของทั้งสองนับตั้งแต่เริ่มก็ยังถือได้ว่ามีช่องว่างอยู่หลายส่วน แต่ก็ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ได้เปลี่ยนเป็นคุ้นเคยอย่างไร้ที่เปรียบ เห็นได้ชัดว่า บุคคลทั้งสองคนนี้ต้องมิใช่บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน ประสบการณ์การต่อสู้ถือได้ว่าโชกโชนเป็นอย่างยิ่ง หากว่าไม่ทันระวังแล้วละก็ วันนี้ต่อให้เป็นเขาเองก็คงต้องทอดร่างอยู่ในที่แห่งนี้แน่
“ ซวบซวบซวบ “
ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งนั้น บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้ซ้อนทับไปด้วยพลังกระบี่ตราประทับอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวก็ได้ขึ้นไปจนถึงชั้นที่สิบสองอย่างรวดเร็ว จากนั้นเยี่ยจงก็ได้ตบฝ่ามือออกไป ป้องกันพลังโจมตีอันน่ากลัวของจีเจ้า
“ ฮูม “
พลังการโจมตีของทั้งสองสายนี้ ต่อให้เยี่ยจงแข็งแกร่งขึ้นอีก ในตอนนี้เขาก็มิอาจที่จะไม่เห็นหัวมิได้ ทันใดนั้นต่อมา เขาก็ได้ตบออกไปโดยใช้ออกมาด้วยพลังกระบี่ตราประทับซ้อนทับ เตาทองคำ อีกทั้งยังต้องกระเด็นลอยออกไปทางด้านหลังอย่างรุนแรง หลังจากที่ได้ตกลงไปยังพื้นดินอีกครั้ง ก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต
“ เจ้า ไม่ไหวเลยนะ “
พลังฝีมือของจีเจ้านั้นอยู่ถึงพลังยุทธ์ปราณก่อฟ้าขอบเขตความสำเร็จสูง และทางด้านพลังฝีมือของซูโม่ก็ยังอยู่ในระดับพลังยุทธ์ปราณก่อฟ้าขอบเขตความสำเร็จน้อย ยอดฝีมือทั้งสองขอบเขตได้ร่วมมือกัน จึงจะสามารถที่จะต่อกรกับเด็กหนุ่มรุ่นเยาว์ผู้หนึ่งถอยรนออกไป ฉากเบื้องหน้านี้ทำให้ผู้คนรู้สึกเหลือเชื่อ กล่าวกันโดยส่วนมาก กับพลังฝีมือและความสามารถของเยี่ยจง เกรงว่าภายใต้การร่วมมือกันของพวกเขาแม้แต่รับกระบวนท่าเพียงหนึ่งกระบวนท่าก็ยังทำไม่ได้จึงจะถูกต้อง แต่ว่าในตอนนี้ถึงกับต้องลงมือพร้อมกันทั้งสองคนเชียวหรือ
เยี่ยจงขยับร่างกายล้มลุกคลุกคลานขึ้นมา ในตอนที่กระอักโลหิตออกมา ถึงแม้ว่าร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณก็สามารถทำได้เพราะแค่เสริมพลังการต่อสู้ของเยี่ยจงก็มากกว่าขอบเขตเดิม แต่ว่าพลังการต่อสู้เช่นนี้ก็ใช่ว่าจะสามารถเกินเลยออกไปได้ ยังไงก็ย่อมต้องมีข้อจำกัด อย่างน้อย ในตอนนี้เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการผสานมืออันน่าหวาดกลัวจากทั้งสองคน ก็ให้ใช้ร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณแล้ว ผลลัพธ์ก็ใช่ว่าจะดีมากนัก
ท่ามกลางตึกจักรพรรดิทองคำ ก็ได้มีสายตานับไม่ถ้วนจดจ้องมองไปทางด้านของเยี่ยจง มีผู้คนไม่น้อยต่างก็มองไปด้วยสีหน้าประหลาดใจ เยี่ยจงตั้งแต่มายังเมืองเยียจิงก็ได้กระทำเรื่องน่าเหลือเชื่อไปไม่น้อย ก้าวข้ามทุกเส้นทาง นอกเสียจากว่ายอดอัจฉริยะผู้นี้ หรือจะต้องมาทิ้งร่างอยู่ในที่แห่งนี้กัน ?
.
.
.
.

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset