เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 232 วิหารแห่งสวรรค์

ตอนที่ 232วิหารแห่งสวรรค์

 

 

 

“ ซวบซวบซวบ “

 

บริเวณกลางสนาม ยอดฝีมือมากมายต่างก็ตะโกนออกมา เพื่อที่จะแย่งชิงสมบัติเซียนเหล่านี้ ดวงตาของแต่ละคนเริ่มที่จะแดงก่ำ และบริเวณอีกทางด้านหนึ่ง ก็ได้มียอดฝีมือไม่น้อยที่ได้ลงมือสังหารผู้คนที่เข้ามาท่ามกลางอารามสมบัติเซียน วินาทีนั้น อารามใหญ่แห่งนี้ก็ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นมาเป็นสาย

 

เยี่ยจงนั้นกลับมิได้เข้าร่วมการแย่งชิงอีกต่อไป นั่นก็เพราะว่าในช่วงเวลาที่เขากำลังเตรียมที่จะยอมนั้นเอง สมบัติเซียนในมือก็ได้ปรากฏพลังกลุ่มหนึ่งขึ้นมาอย่างวุ่นวาย ถึงแม้จะดูอ่อนไปเล็กน้อย แต่ว่าในครั้งนี้เยี่ยจงก็ยังพอที่จะสามารถสัมผัสได้อ่อนๆ

 

“ นี้ …… ถึงแม้จะมิใช่สมบัติขั้นเซียน และก็มิใช่สมบัติขั้นศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือกว่าสมบัติขั้นเซียน มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสมบัติที่เล่าขานกันว่าเป็นสมบัติแห่งความโกลาหล เพียงแต่ว่าวัตถุชิ้นนี้มีความเสียหายที่มากเกินไป คิดที่จะฟื้นคืนสู่สภาพเดิมนั้นมิใช่วาเป็นไปมิได้ ทว่าต่อให้เป็นเพียงชิ้นส่วนของสมบัติแห่งความโกลาหล หากว่าสามารถฟื้นคืนมาได้ ก็จะสามารถใช้ออกด้วยพลังอันมหาศาลได้ “

 

เยี่ยจงที่มีประสบการณ์ถึงสองชาติภพ สายตาที่มองในโลกนี้นั้นจึงไม่เหมือนคนเหล่าคนทั่วไปจะเอามาเทียบได้ สามารถบอกได้ในทันทีว่า เขานั้นมีการตัดสินใจเป็นของตัวเอง จากนั้นก็ได้พลิกมือ เยี่ยจงก็ได้นับกล่องหยกชิ้นหนึ่งออกมา แล้วก็เก็บวัตถุทึ่มีค่ายิ่งลงไป หากว่าตนเองตัดสินใจผิดพลาดไปแล้วละก็ วัตถุชิ้นนี้ที่เกรงว่าจะมีราคาที่สูงเกินกว่าที่จัคาดคิดเอาไว้ได้ หากว่าสามารถที่จะฟื้นคืนพลังให้คืนสู่ดั่งเมื่อกาลก่อนได้แล้วละก็ อย่างน้อยก็สามารถที่จะเป็นอาวุธที่สามารถคร่าชีวิตได้มากมาย ทั้งยังเป็นไพ่ตายได้อย่างแท้จริง กล่าวได้ว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดภายในภายในอารามสมบัติเซียนนี้ ก็ได้ตกอยู่ในมือของเยี่ยจงแล้ว เมื่อได้ครอบครองวัตถุชิ้นนี้แล้วละก็ จะได้รับสิ่งของอื่นๆหรือไม่นั้น ก็มิใช่เรื่องที่สำคัญอีกต่อไปแล้ว

 

จนเมื่อหลังจากที่เยี่ยจงได้เก็บวัตถุชิ้นนี้ไปแล้ว การแย่งชิงภายในสนามก็ได้แสดงผลแพ้ชนะกันแล้ว มีทั้งองค์ชายสิบสามแห่งหุบเขาตระกูลถัง หมิงหยี่แห่งหุบเขาหยินหยาง แล้วก็ยังมีส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่มาจากรัฐกู่กวอและผู้มีปราณแต่กำเนิดไท่กู่หลิงซาน โดยส่วนมากก็จะเป็นผู้ได้ คนเหล่านี้โดยส่วนมากเมื่อได้สมบัติเซียนในมือต่างก็ได้หล่อหลอมไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่า พวกเขาจึงสามารถที่จะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ช่วงชิงได้

 

ท่ามกลางการปรากฏของสมบัติมีค่าแห่งบ่วงมายาโลหิต แต่ว่าตำนานแห่งบ่วงมายาโลหิตนั้นกลับยังไม่ปรากฏออกม อีกทั้งกล่าวกันว่าวาสนาเพียงสายเดียวนี้ ยิ่งมิอาจที่จะหาได้พบ ทั้งยังไม่มีผู้ใดคิดว่า การแย่งชิงจะถึงจุดสิ้นสุดในตอนนี้

 

“ ตูม “

 

หลังจากที่สมบัติเซียนชิ้นสุดท้ายได้ตกไปอยู่ในมือของยอดฝีมือผู้หนึ่ง ทั่วทั้งอารามสมบัติเซียนทันใดนั้นก็ได้สั่นไหวเหมือนดั่งภูเขาถล่ม เกิดรอยแตกออกอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าการมีอยู่ของมัน ก็เพื่อที่จะทำการปกป้องสมบัติเซียนเหล่านี้ก็มิปาน และในตอนนี้ สมบัติเซียนเหล่านี้ต่างก็มีเจ้าของกันแล้ว อารามสมบัติเซียนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีอยู่อีกต่อไป

 

“ กึง “

 

และในเวลาเดียวกัน ก็ได้มีเสียงสายหนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแปลกประหลาดดังขึ้นมาอย่างกะทันหันไปทั่วทั้งบ่วงมายาโลหิตขึ้นมา จนทำให้ยอดฝีมือพุ่งทะลวงออกไปจากทั่วทั้งสี่ด้าน ในตอนนี้ร่างกายของแต่ละคนต่างก็ได้ขยับออกไป แล้วก็ได้มีเสียงคล้ายกับคำสอนดังขึ้นมาเป็นจังหวะ จากนั้นภายในดวงตาของผู้คนไม่น้อยก็ได้ปรากฏความสงสัยขึ้น

 

“ นี้

 

“ ไม่ นี้ไม่ใช่เสียงที่มาจากการบรรเลงเพียงเท่านั้น “

 

มีคนเริ่มตกใจ เหล่าผู้คนที่มาจากรัฐกู่กวอ ไท่กู่หลิงซาน และเหล่าเด็กน้อยที่มีชื่อเสียงต่างก็ไม่มีผู้ใดที่ธรรมดา ไม่นานนักก็ฟังออกมาว่าเสียงประหลาดนี้คือเสียงใด

 

“ หากว่าเป็นเสียงของคำสอนของสถานที่ในตำนานแห่งนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีประโยชน์ น่าเสียดายที่ได้ถูกห่วงแห่งวันเวลากลืนกินไป หลงเหลือไว้แต่เสียงเท่านั้น ที่ไม่มีประโยชน์อันใดมากนัก “ มีคนถอนหายใจออกมา ด้วยสีหน้าผิดหวัง

 

“ ทว่า นี้ก็เป็นการบ่งบอกได้ว่า ส่วนบริเวณที่มีความสำคัญที่สุด ที่เป็นดั่งตำนานของที่แห่งนี้ สมควรที่จะได้เวลาเปิดขึ้นมาแล้วสินะ ? “ แล้วก็ได้มีคนเอ่ยปากออกมาเสียงเย็นเยียบ

 

บริเวณของเสียงนี้เอง ยอดฝีมือทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้สูดลมหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้ง ราวกับว่าวินาทีนั้น ร่างกายของผู้คนทั้งหมดต่างก็ได้กลายเป็นประกายแสงออกไป ไปยังบริเวณสถานที่ที่มีเสียงออกมาอย่างรวดเร็ว เรื่องราวเช่นนี้ ย่อมต้องมิอาจที่จะมีคนพลาดไปได้

 

เยี่ยจงและพวกที่อยู่ในตอนนี้ต่างก็ได้เหม่อมองไปยังด้านหน้าด้วยสีหน้าประหลาด หลังจากที่อารามสมบัติเซียนถูกทำลาย อารามเก่าแก่หลังหนึ่งบริเวณทางด้านหลังก็ได้ค่อยๆที่จะปรากฏขึ้นมา ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งบริเวณ เป็นเหมือนดั่งการปรากฏของธารแห่งดวงดาวอันสดใส เหมือนดั่งมีเดือนและตะวันในช่วงเวลาเดียวกันก็มิปาน และบริเวณอีกด้านหนึ่ง ที่มิได้มีประกายปราณสาดส่องออกมา ก็ได้ปกคลุมอยู่ทั่วทั้งอารามเก่าแก่นี้

 

หากว่าจากอีกมุมหนึ่งเข้าไป อารามเก่าแก่นี้และสิ่งปลูกสร้างก่อนหน้าทั้งหมดทั้งมวลของสำนักมายาโลหิตนั้นก็ต่างกันโดยสิ้นเชิง มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่สัมผัสได้ที่ยากจะอธิบายชนิดหนึ่ง อีกทั้งยังไม่มีกลิ่นคาวเลือดแม้แต่น้อย ราวกับว่ามันความจริงแล้วมิสมควรที่จะปรากฏอยู่ในที่แห่งนี้ก็มิปาน นั้นก็เพราะว่าไม่ว่าจะมองอย่างไร มันก็เรียกได้ว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับมายาโลหิตสองคำนี้

 

“ น่าจะอยู่ในส่วนบริเวณนั้นมากกว่า ตำนานของบรรพบุรุษแห่งสำนักมายาโลหิตนั้นมีชื่อเรียกว่าจ้าวมายาโลหิต เมื่อครั้งก่อนก็ถือได้ว่ามีพลังยุทธ์ที่จัดได้ว่าอยู่ในระดับสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้นก็ได้นำวิชาลมปราณเซียนโลหิตถ่ายทอดให้แก่ศิษย์แห่งสำนักมายาโลหิตจนฝึกฝนราวกับเป็นเทพมายาก็ว่าได้ ภายในสถานที่เอาไว้ฝึกฝนโดยเฉพาะย่อมต้องมีส่วนที่ไม่เหมือนกับสถานที่อื่นๆ “ ในตอนนี้หมิงหยี่อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วเดินเข้ามาทางด้านข้างของเยี่ยจง กล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา ราวกับว่าเขามิเคยได้ลงมือต่อเยี่ยจงเลยก็มิปาน

 

หลังจากที่เงียบงัน เยี่ยจงก็ได้เกิดความแน่วแน่อยู่ภายในใจ ทอดสายตามองไปยังบริเวณทางด้านหน้าอารามเก่าแก่โบราณหลังนี้ ด้วยสีหน้าสงสัย

 

คัมภีร์เซียนโลหิต เมื่อได้กล่าวคำสามคำนี้ภายในดินแดนซีฮวง แม้จะมิได้บ่งบอกถึงสิ่งใด แต่ว่า คัมภีร์เซียนโลหิตเมื่อตอนที่อยู่ภายในดินแดนซานเชียนเซินเจี่ยนั้นก็อีกชื่อที่เรียกขานกันว่าพลังโลหิตฟ้าได้ หลังจากนั้นก็ได้มีการร่วมมือกันของเหล่าสำนักใหญ่ จึงทำให้หายสาบสูญไปจากดินแดนซานเชียนเซินเจี่ยไปได้

 

แต่ว่า คิดไม่ถึงว่า วิชาเซียนในตำนานของสำนักมายาโลหิต ถึงกับเป็นคัมภีร์เซียนโลหิตได้

 

คัมภีร์เซียนโลหิต กล่าวกันว่าเป็นถึงหนึ่งในสิบวิชามารในตำนาน ทั้งทรงพลัง ทั้งน่าเกรงขาม ไม่ว่าจะมองในด้านใดก็ตาม เยี่ยจงก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งเหล่านี้ได้

 

“ คัมภีร์เซียนโลหิต “

 

มีคนไม่น้อยในตอนนี้ต่างก็ส่งสายตาสงสัยออกมา จ้องมองไปยังอารามเก่าแก่ทางด้านหน้า ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความโลภขึ้นมา

 

ในตอนนี้ผู้คนมากมายจึงค่อยมีปฏิกิริยากลับมา ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ตำนานของสำนักมายาโลหิตก็ได้ปรากฏขึ้นมาในเวลานี้แล้ว หากว่าสามารถครอบครองคัมภีร์เซียนโลหิตแล้วละก็ เช่นนั้นเส้นทางสายยุทธ์นี้ แน่นอนว่าย่อมต้องเหมือนถูกปูด้วยเส้นทางสู่ฟากฟ้าแล้ว นอกเสียหลังจากวันที่ถามไถ่ต่อฟ้า ตลอดเวลาที่อยู่ภายในดินแดนซานเชียนเซินเจี่ย ก็ใช่ว่าจะสามารถกระทำอันใดได้

 

“ ซวบซวบซวบ “

 

ราวกับว่าหลังจากนั้นเอง ท่ามกลางเสียงร้องที่ดังขึ้นมาของยอดฝีมือมากมายนับไม่ถ้วน ต่างก็เก็บอาการความอย่างรู้อย่างเห็นเอาไว้ไม่อยู่ และในบริเวณที่ห่างไกลนั้น อีกทางด้านหนึ่งก็ได้มียอดฝีมือนับไม่ถ้วนส่งเสียงดังออกมา เห็นได้ชัดว่าหมายที่จะต้องการพุ่งเข้าไปยังคัมภีร์เซียนโลหิตนั้น

 

ทว่ายอดฝีมือมากมายคล้ายดั่งกลายเป็นสายธาร เยี่ยจงกลับจ้องเขม็งไปบริเวณทางด้านหน้า ด้วยสีหน้าหงุดหงิด

 

ถึงแม้คัมภีร์เซียนโลหิตจะเป็นถึงหนึ่งในสิบสุดยอดวิชามายาในดินแดนซานเชียนเซินเจีย มีที่มาที่เกินความคาดเดา อีกก็ยังมิอาจเทียบเคียงได้กับวิชาในตำนานของอาจารย์ปู้เหยียนในสมัยก่อนของตนเอง แต่ว่า เยี่ยจงก็เข้าใจดี ผู้ใดที่ได้ฝึกปรือหนึ่งในสิบสุดยอดฝีชามายา ก็เรียกได้ว่าสามารถเป็นยอดฝีมือภายในดินแดนซานเชียนเซินเจี่ยได้ หากว่าดูแคลนวิชามายาสายนี้ เกรงว่าวันหน้าแม้เพียงแค่หันกายไปก็ยังถือว่ายากลำบาก

 

ดังนั้น ในตอนนี้ถึงแม้ว่าคัมภีร์เซียนโลหิตจะมีความเป็นมาใหญ่หลวง แต่ว่าแม้แต่เยี่ยจงเองก็ยังต้องลองชังน้ำหนักดูว่าให้ดี ว่าตนเองสมควรที่จะลงมือหรือไม่

 

ในช่วงเวลาหลังจากนั้น เยี่ยจงก็ได้ค่อยๆถอนลมหายใจออกมาคำหนึ่ง สีหน้าดูซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร ตำนานของสำนักมายาโลหิตก็ถือว่ามีค่าอย่างมาก ต่อให้ตนเองไม่นำไปฝึกฝน หากว่าสามารถที่จะครอบครองได้ ก็ถือได้ว่ามีประโยชน์มากมาย

 

ราวกับว่าทันใดนั้นต่อมา ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้สาดประกายออกไป มุ่งออกไปบริเวณทางด้านหน้าของอารามเก่าแก่หลังนี้เข้าไป

 

เมื่อมองดูอารามแล้วก็ดูเหมือนอยู่ใกล้ไม่น้อย แต่ว่าเยี่ยจงกลับสัมผัสได้ว่าเมื่อเดินเข้าไปนั้น อารามแห่งนี้กลับมีขนาดใหญ่โตและเกรงว่าจะอยู่นอกเหนือจากที่ตนเองคิดเอาไว้ นั้นก็เพราะว่า ตลอดระยะทางการเดินทาง ราวกับมีพลังไร้สภาพอยู่จำนวนมากก็มิปาน

 

หลังจากนั้นไม่นาน ยอดฝีมือมากมายที่มองดูอยู่ก็ค่อยได้เดินเข้าไปยังด้านหน้าของอารามเก่าแก่ จากนั้นแต่ละคนต่างก็ต้องอ้าปากตาค้างขึ้นมา

 

การปลูกสร้างภายในอารามถือได้ว่าซับซ้อนอย่างมาก ทว่าไม่เพียงแต่แค่สิ่งปลูกสร้างเท่านั้นในตอนนี้ยังได้ส่งบรรยากาศอันเก่าแก่ครอบคลุมออกมา ให้รสชาติคล้ายกับสายฝนที่เย็นเยียบเต็มไปด้วยการฆ่าฟันชนิดหนึ่ง เห็นได้ชัดว่า กับผู้คนมากมายในตอนนี้ หากว่าบุกรุกเข้าไปยังที่แห่งนี้ แน่นอนว่าต้องตายในทันทีแน่นอน

 

กลับกันท่ามกลางใจกลางอารามแห่งนี้กลับตั้งไว้ด้วยวิหารแห่งสวรรค์เอาไว้อยู่ ครอบคลุมเอาไว้อยู่บริเวณด้านบนในตอนนี้ ราวกับกำลังเชื้อเชิญผู้คนที่กำลังมาถึงก็มิปาน

 

นอกจากบริเวณที่แห่งนี้แล้ว บริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านของวิหารแห่งสวรรค์ ในตอนนี้ก็ได้มียอดฝีมือมากมายเข้าแถวอยู่นับไม่ถ้วนอย่างวุ่นวาย เพียงแต่ว่ายอดฝีมือเหล่านี้ยังคงนั่งสมาธิอยู่ที่พื้นเหมือนกับกำลังฟื้นฟูพลังอยู่ เห็นได้ชัดว่าเสียงที่มาจากวิหารแห่งนี้มีความลี้ลับถึงเพียงใด

 

และสิ่งที่ดูประหลาดนอกเหลือจากนั้น ก็คือยอดฝีมือเหล่านี้บริเวณใจกลางหน้าอกของแต่ละคน ต่างก็ได้เพิ่มมาไว้ด้วยรูเล็กๆอยู่รูหนึ่ง รูโลหิตนี้ทั้งยังแผ่กระจายแรงกดดันออกมาอย่างรุนแรง จนทำให้ร่างกายของพวกเขามีขุมพลังที่กักเก็บเอาไว้ได้นานนับพันหมื่นปี

 

“ ที่แท้สถานที่แห่งนี้เมื่อก่อนเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ ถึงกับทำให้สำนักมายาโลหิตสูญสิ้นได้ถึงเพียงนี้ “ มีผู้คนไม่น้อยที่มองไปยังฉากเบื้องหน้า ต่างก็ต้องสูดลมหายใจไปมา ขนลุกขนพอง หากว่าสำนักมายาโลหิตแห่งนี้เคยผ่านการต่อสู้อันย่อยยับมาก่อน ลูกศิษย์ของสำนักมายาโลหิตนับไม่ถ้วนต่างก็ตายในการต่อสู้ มันก็คงจะจบแต่เพียงเท่านี้

 

ศิษย์ของสำนักมายาโลหิตเหล่านี้ราวกับได้รับการลอบโจมตีชนิดเดียวกันในเวลาเดียวกัน จนทำให้พวกเขาไม่อาจจะมีแม้แต่โอกาสที่จะแสดงออกมาแต่อย่างไร กลับกลายเป็นศพไปในทันที ฉากเบื้องหน้านี้ ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากจะคาดคิดไว้ได้ นั้นก็เพราะว่า ตลอดมานี้จากทะเลมายาโลหิตจนถึงบ่วงมายาโลหิต จึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ยากจะคาดคิดว่าเหล่ายอดฝีมือแห่งสำนักมายาโลหิตนี้มีความแข็งแกร่งถึงในระดับใดกัน

 

ความงงงันได้ก่อเกิดความเงียบอยู่ได้ไม่นานนัก แต่ก็ไม่มีคนผู้ใดที่หาญกล้าที่จะเข้าไปแตะต้องศพเหล่านี้ ถึงแม้ว่าทุกผู้คนต่างก็ทราบกัน ว่าบนร่างของศพเหล่านี้อย่างน้อยก็ต้องมีสิ่งของดีๆอยู่บ้าง แต่ว่าฉากเบื้องหน้านี้น่าสงสัยจนเกินไป จึงกลับกลายเป็นไม่มีผู้ใดที่หาญกล้าที่จะทดลองลงมือดู

 

ฉากเบื้องหน้าต่อจากนี้ ถึงแม้จะมีอยู่หลายส่วนที่ประหลาด ราวกับว่ายอดฝีมือต่างก็ได้เกิดความระมัดระวังขึ้นเล็กน้อยต่อศพของยอดฝีมือนับหมื่นเหล่านี้ จากนั้นก็ได้ไปยังวิหารแห่งสวรรค์ที่มีที่นั่งเก่าแก่วางไว้อยู่อย่ารวดเร็ว

 

วิหารแห่งสวรรค์ถือได้ว่ามีความใหญ่โตเกินกว่าจะคาดคิด เมื่อได้เข้าใกล้แล้ว ผู้คนมากมายก็พบว่าวิหารแห่งสวรรค์ได้มีรอยแตกร้าวที่ดูลี้ลับอยู่ เห็นได้ชัดว่า เมื่อก่อนหน้านี้ผู้ที่ลงมือคงจะทำลายค่ายกลคุ้มกันของวิหารแห่งสวรรค์แห่งนี้ไปแล้ว จึงได้ทำให้เกิดฉากที่อยู่เบื้องหน้านี้

 

ยอดฝีมือมากมายที่ก็พยายามที่จะเข้าไปยังวิหารแห่งสวรรค์ สีหน้าของแต่ละคนต่างก็แสดงถึงความสงสัย เห็นได้ชัดว่าด้วยสายตาที่มองโลกของพวกเขา ต่างก็มิอาจที่จะคาดคิดได้ ว่าเมื่อครั้งก่อนที่แท้เกิดอันใดขึ้นกันแน่

 

เยี่ยจงก็เป็นถึงในกลุ่มคนเหล่านี้ ทว่าเขากลับมิได้ใช้ออกด้วยความรวดเร็ว เพียงแค่ขมวดคิ้วแล้วจ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้า สถานที่แห่งนี้ เขาจำได้ว่ามิเคยพบเห็นอยู่ในความทรงจำขององค์ชายสิบสามเลย

 

วิหารแห่งสวรรค์ถือว่าอยู่สูงยิ่ง แต่ว่าไม่นานนัก กลุ่มยอดฝีมือที่แข็งแกร่ง ผู้มีพรสวรรค์ของแต่ละขุมกำลังต่างก็ได้เข้าไปยังวิหารแห่งสวรรค์แล้ว และทันทีที่สายตาได้มองไปยังจุดสูงสุดของวิหารแห่งสวรรค์ ทุกผู้คนต่างก็งงงันขึ้นเล็กน้อย ภายในดวงตาก็ได้แสดงออกมาถึงความยากที่จะเชื่อ เห็นได้ชัดว่า ย่อมต้องมิอาจเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็นที่เบื้องหน้าเอาไว้ได้

 

และเยี่ยจงก็ได้เดินออกมาจากภายในกลุ่มคน เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้าที่ปรากฏขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็ได้สูดลมหายใจเข้าออกคำหนึ่ง สีหน้าดูแปลกใจ

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 450
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 550

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset