เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 258 สุดยอดกระบี่

ตอนที่ 258 สุดยอดกระบี่

 

 

“ ตูม “

 

ในตอนนี้ บริวารจำนวนมากต่างก็ลงมือในเวลาเดียวกัน บริเวณใจกลางฝ่ามือของพวกเขาต่างก็เป็นประกายสีทองคำดุจดั่งแสงยามเช้าสาดออกมา จนทำให้ฉากเบื้องหน้าก่อเกิดแสงออกมาผืนหนึ่ง ฉากที่เป็นประกายนั้นได้รวมไว้ด้วยรังสีฆ่าฟันอย่างเข้มข้น มุ่งหน้ากดทับไปทางด้านของเยี่ยจง

 

ในครั้งนี้ เหล่าบริวารเห็นได้ชัดว่าได้ใช้พลังราวกับได้กินดีหมีก็มิปาน สาดประกายกดทับไม่หยุดยั้ง จนพื้นดินเกิดรอยร้าวขึ้น เสียงระเบิดจากการเคลื่อนไหวอันน่ากลัวได้ลอดออกมาไม่ขาดสาย

 

สีหน้าของเยี่ยจงเปลี่ยนไป เมื่อครู่เขาและเข็มเสื่อมโทรมนั้น ได้สูญเสียพลังไปก็ไม่น้อย ในตอนนี้กลับยังต้องถูกกลุ่มบริวารเหล่านี้ล้อมโจมตีอีก เหตุการณ์เช่นนี้ถือได้ว่ายุ่งยากน่ารำคาญอยู่บ้าง

 

ในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด เข็มโบราณนั้นราวกับเริ่มฟื้นคืนพลังขึ้นมาหลายส่วน หากว่าเขาไม่ลงมือในเวลานี้ เข็มโบราณหากว่าหลบหนีจากไป จะถือได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว

 

“ เจ้านกใหญ่ เจ้ากำลังมาหาที่ตายอยู่นะ “

 

มือซ้ายก็ได้โบกขึ้นมา คมหอกสายหนึ่งก็ได้เข้าโจมตีขัดขวางเอาไว้ ในตอนนี้เยี่ยจงก็ได้เงยหน้าขึ้นมองไปที่อินทรีทองสุริยาที่ยังไม่ได้ลงมือ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

อินทรีทองสุริยามองไปที่เยี่ยจง ภายในดวงตาสาดประกายออกมา แล้วกล่าวด้วยเสียงดังกังวาน “ เผ่ามนุษย์ ข้าทราบดีว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก ทั้งยังมีสามารถต่อกรกับองค์ชายสิบสามได้ ทว่า เผ่ามนุษย์ของพวกเจ้าก็มีคำพูดอยู่หนึ่งคำ เรียกว่าสีมือยากที่จะพ่ายให้สองหมัด ในวันนี้เจ้าต้องตายในที่แห่งนี้แล้วละ “

 

หลังจากที่สิ้นเสียง อินทรีทองสุริยาก็ได้สะยายปีกข้างหนึ่งขึ้น วินาทีนั้น ก็ได้พบเห็นขนนกราวกับอาวุธลับก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าโจมตีไปทางด้านอีกฝ่ายอย่างวุ่นวาย

 

แต่เหล่าบริวารที่เห็นว่าเป็นเช่นนั้น ทางด้านหนึ่งก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาปราณหอกยักษ์ด้ามหนึ่งในเวลาเดียวกัน วิชาปราณได้ทอเป็นประกายออกมาเป็นสาย และเข้ารวมกับการโจมตีของอินทรีทองสุริยาเข้าด้วยกัน มุ่งหน้าหมายสังหารไปทางด้านของเยี่ยจง

 

เยี่ยจงยิ้มอย่างเย็นชา ในเวลานี้ไม่จำเป็นที่จะต้องยั้งมือแล้ว นั้นก็เพราะว่าถ้าหากเขาเคลื่อนไหวช้าไปแล้วละก็ คนที่จะตายไม่แน่อาจจะต้องเป็นเขา

 

ทันใดนั้นต่อมา ทั้งสองมือของเยี่ยจงก็ได้เปลี่ยนสัญลักษณ์ไปมา มือหนึ่งชี้ไปที่นภามือหนึ่งชี้ไปที่พสุธาจนก่อเกิดสัญลักษณ์ประหลาดขึ้นอีกครั้ง แล้วก็ได้ค่อยๆมุ่งหน้าออกไปทางด้านหน้า

 

ตราผนึกนภา หนึ่งในสิบวิชามนต์ตราเทพ ในตอนนนี้ด้วยพลังฝีมือของเยี่ยจงยังมิอาจที่จะใช้พลังของมันได้ถึงหนึ่งในร้อยส่วนเลยด้วยซ้ำ แต่ว่าทันทีที่กระบวนท่านี้ได้ถูกใช้ออกมา วินาทีนั้น การปะทะสังหารก็ได้สาดประกายเจิดจ้า ขนนกถูกก็ได้ทำลายลง

 

“ บรึม “

 

ทางด้านบริวารหลายคนก็ได้กระอักโลหิตออกมาในเวลาเดียวกัน ร่างกายต่างก็สั่นเทา สีหน้าปั้นยากอย่างถึงที่สุด

 

ร่างกายของอินทรีทองสุริยาสั่นเทาขึ้น มันถูกการโจมตีเข้าเต็มๆ กระนั้นก็ยังไม่ได้กระอักโลหิต แต่ว่าสีหน้ากลับปั้นยากอย่างถึงที่สุด

 

หากว่าไม่ใช่พวกเขาใช้คนมากลงมือพร้อมกัน ทั้งยังใช้ออกด้วยสมบัติเซียน ไม่แน่ว่าในตอนนี้คงจะต้องพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือเยี่ยจงเพียงกระบวนท่าเดียวก็เป็นไร

 

“ เจ้า ไม่ไหว “

 

เยี่ยจงจ้องมองไปทางด้านของอินทรีทองสุริยา แล้วก็ได้ค่อยๆมุ่งหน้าไปบริเวณทางเข้าของหุบเขา ในเวลาเดียวกันใจกลางฝามือก็ได้ไหลเวียนพลังตราผนึกฟ้าอย่างช้าๆ ให้พลังครอบคลุมฟ้าประทบดิน เผาไหม้มอดวายไปทั้งแปดด้านด้วยพลังอันน่าหวาดกลัว

 

“ ลงมือพร้อมกัน ข้าไม่เชื่อว่าเด็กน้อยผู้นี้จะมีพลังที่เพียงพอ ถึงกับสามารถต่อกรกับพวกเรานักพรตมากมายขนาดนี้ได้ “ อินทรีทองสุริยากรอกนัยน์ตากระโดดไปมาแต่ว่ามันก็ยังไม่สูญเสียความตั้งใจไป วินาทีนั้นต่อมา มันก็ได้ขยับร่างหลบเข้าไปทางด้านหลังของเหล่าบริวาร บนร่างกายก็ได้คว้าโคมไฟสีทองออกมา รวมไปทั้งพลังปราณหอกออกมา

 

บริวารคนอื่นๆแต่ละคนต่างก็ใช้ฝ่ามือตบไปที่บริเวณหน้าอกของตัวเอง โลหิตขนาดใหญ่พุ่งกระฉูดออกมา แล้วก็ได้ใช้เลือดเนื้อเหล่านี้ เพื่อใช้พลังอันแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุดควบคุมหอกปราณด้ามนี้

 

“ ตูม “

 

ดุจดั่งภูเขาไฟปะทุออกมา ทั้งยังเป็นเพลิงปะทุอันน่าหวาดกลัว มุ่งหน้าเข้าปะทะไปทางด้านของเยี่ยจงเข้าไป ให้รังสีฆ่าฟันอันเย็นเยียบ

 

“ ฮูม “

 

ตราผนึกนภาที่อยู่ใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจงถูกใช้ออกอย่างเรียบง่าย แต่ว่าก็ดีดประกายแสงสีเพลิงนี้ไปดุจดั่งดาวตกเพลิงผลาญก็มิปาน จนแตกระเบิดออกไป ในเวลาเดียวกันแรงลมหมุนวนอันน่าหวาดกลัวก็ได้หมุนวนออกไป ไหลเวียนไปตามตราฝ่ามือสายนี้ของเยี่ยจง เข้าสังหารออกไปอย่างช้าๆ

 

“ หนี หนีเร็ว “

 

อินทรีทองสุริยากรอกนัยน์ตาไปมา ความน่ากลัวของเยี่ยจงเป็นไปดั่งที่เล่าขานกัน เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถที่จะปะทะด้วยได้ ในขณะนั้นเอง อินทรีทองสุริยานี้ก็ถือได้ว่าเข้าใจแล้ว เพราะเหตุใดด้วยความสามารถขององค์ชายสิบสาม ถึงถูกเรียกว่ายอดอัจฉริยะแห่งดินแดนซีฮวง ทั้งยังบังเกิดความหวาดกลัวอย่างไร้ที่เปรียบต่อเด็กหนุ่มเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ นั้นก็เพราะว่าเขานั้นมีพลังที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก น่ากลัวอย่างถึงที่สุด

 

“ เปรี้ยง “

 

ในตอนที่พึ่งจะสิ้นเสียง บริวารสองคนที่อยู่ใกล้กับเยี่ยจงมากที่สุดร่างกายก็ได้แตกกระจายออกไปในเวลาเดียวกัน แม้แต่เสียงก็ยังไม่ทันจะได้ร้องออกมา

 

“ อะไรกัน ? “

 

อินทรีทองสุริยาพุ่งขึ้นสู่ฟ้าอย่างโกรธเกรี้ยว เข้าสู่วังวนการต่อสู้ร่วมกับบริวารของตนเอง อีกทั้งยังไปถึงในทันทีด้วยความเร็วสูงสุด

 

“ ตูม “

 

บริเวณทางด้านอีกฝ่าย เยี่ยจงที่ได้ฟาดตราผนึกนภาออก ทันใดนั้นราวกับเป็นเหมือนแหวนจักรวาลได้เกิดแรงดึงดูด ฟ้าดินที่อยู่ในที่แห่งนี้ก็มิปาน

 

อินทรีทองสุริยาถึงดึงเข้าไปใกล้ขึ้นในอีกระยะหนึ่งอย่างช่วยไม่ได้ เป็นครั้งแรกที่ขนบนตัวของบนหลุดลุ่ย แม้แต่บริวารเองก็ยังไม่อาจที่จะช่วยได้ จนทำให้เขาล้มลงกับพื้น

 

“ เพล้งเพล้งเพล้ง

 

เหล่าบริวารที่ล้มลงกับพื้นโดยส่วนมากต่างก็ร่างแตกกระจายขึ้นกลางคัน จนทำให้ทั่วทั้งผืนฟ้าบังเกิดโลหิตอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

 

“ เป็นไปได้อย่างไรกัน ? “อินทรีทองสุริยาร้องออกมา ร่างกายที่เต็มไปด้วยคราบเลือด เห็นได้ชัดว่ามันก็ได้ใช้ออกด้วยทักษะยุทธ์อันลี้ลับนี้เช่นกัน

 

“ อา “

 

เสียงร้องดังออกมาจนไปถึงบริเวณทางห่างไกล ถึงแม้อินทรีทองสุริยาจะทะลวงออกมาได้ทัน แต่ว่ามันก็ยังถือได้ว่าถูกตราผนึกนภาเข้าอยู่ส่วนหนึ่ง จนถึงกับล้มลง จนก่อเกิดโลหิตสีทองไหลออกมา ร่างกายเกือบที่จะไม่อาจขึ้นสู่ท่ามกลางอากาศได้

 

ทว่ามันก็กลับทะยานหนีอย่างไม่คิดชีวิต จนกลายเป็นโลหิตสายหนึ่ง ทันใดนั้นเงาโลหิตนี้ก็ได้หายวาบไปในทันที

 

“ แข็งแกร่งมาก “

 

ท่ามกลางหุบเขา ฝ่ามือตราผนึกของเยี่ยจงก็ได้ค่อยๆจางหายไป พลังทำลายของตราผนึกนภา บวกกับในตอนนี้เยี่ยจงอยู่ในขอบเขตขั้นชั้นฟ้าแล้ว ภายในขั้นก่อเกิด นอกเสียจากยอดฝีมือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้ว ไม่เช่นนั้นก็ไม่อาจที่จะสามารถนับเป็นคู่ต่อสู้ได้ แต่ว่าอินทรีทองสุริยาถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บนักแต่ก็ยังทะลวงหนีออกไปได้ เพียงพอที่จะบอกถึงความแข็งแกร่งของมันแล้ว

 

“ เผ่าพันธุ์ที่มีพลังปราณโลหิตของวิหคทองคำอยู่ ถือได้ว่าร้ายกาจเป็นอย่างมาก อีกทั้งมันสมควรที่ยังมีไพ่ตายอยู่อีก ยังไม่จำเป็นที่จะต้องไล่ล่ามัน ดำเนินเรื่องของเราให้โดยเร็วกันเถอะ “ เสี่ยวหลุนส่งเสียงดังออกมา

 

“ ทราบแล้ว “

 

เยี่ยจงหันกาย ในตอนนี้ได้จ้องเขม็งไปทางส่วนลึกของหุบเขา เข็มโบราณที่พิธีในตอนนี้ก็ไม่มีประกายแสงสาดส่องขึ้นมาอีกแล้ว ราวกับว่าทันทีที่เมื่อสักครู่ ได้ถูกเงาของตราผนึกนภาโจมตีใส่ก็มิปาน

 

เยี่ยจงทอสีหน้าประหลาด ฉากเบื้องหน้านี้น่าแปลกอยู่หลายส่วน ก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเข็มโบราณมีพลังที่เรียกได้ว่าน่าหวาดกลัว แต่ว่าในตอนนี้กลับสูญเสียพลังไปจนหมดสิ้น แม้แต่ประกายชีวิตก็ยังไม่เหลือ

 

“ สิ่งของชิ้นนี้ใช่เสียหายแล้วใช่หรือเปล่านะ ? “ เยี่ยจงครุ่นคิดขึ้นในใจ เข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง จนคว้าจับไปที่เข็มโบราณมาอยู่ในมือ

 

“ จะเสียหายไปได้อย่างไรกัน เพียงแค่มันมีพลังชีวิตอยู่ไม่กี่ส่วน สัมผัสได้ถึงพลังอันกล้าแข็งของตราผนึกนภาของเจ้าก็เท่านั้น พอแล้วไม่พูดมากแล้ว ข้าไม่เกรงใจแล้วนะ “ เสี่ยวหลุนราวกับเอ่ยปากขึ้นมาพร้อมกับน้ำลายไหล จากนั้นเยี่ยจงก็ได้พบกับประกายแสงพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นโพยพุ่งออกมา จนครอบคลุมไปทั่วทั้งเข็มโบราณ เพียงแต่ว่าทันใดนั้น เข็มโบราณนั้นก็ได้หายสาบสูญไปต่อหน้าต่อตาเยี่ยจงอย่างสะอาดหมดจด ดังเช่นไม่เคยมีการปรากฏของมันออกมาก็มิปาน

 

“ หลอมกลืน เป็นของดีจริงๆ เจ้าหนุ่ม ข้าในตอนนี้พร้อมที่จะสร้างโอสถเซียนให้กับเจ้าแล้วละ เจ้าก็ดีข้าก็ดีต่างฝ่ายต่างก็ดี “ เสี่ยวหลุนค่อยๆลอยออกมาเป็นดั่งต่างหูของเยี่ยจง ทว่าเยี่ยจงก็ได้ถอดออกมาดู มองเข้าไปอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ก็ไม่ได้ปรากฏถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย

 

“ เจ้าไม่ต้องดูแล้ว ของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้าหลอมกลืนขึ้นมาชั่วคราวก็เท่านั้น คิดที่จะให้ข้าฟื้นคืนพลัง คงจะต้องกลืนสิ่งที่อยู่ในสุสานกระบี่ทั้งหมด ยังใช่ว่าจะสามารถทำได้เลย “ เสี่ยวหลุนร้องชิออกมาคราหนึ่ง จากนั้นก็ลอยกลับไปที่ติ่งหูของเยี่ยจง เพียงแต่ว่าในตอนนี้มันกลับเปล่งเป็นประกายขึ้น เห็นได้ชัดว่าน่าดูเต็มสิบส่วน

 

เยี่ยจงกรอกตามองไป ตนเองเป็นชายแท้ทั้งแท่งกลับปรากฏต่างหูสว่างสดใสขึ้นมา จะไม่ถูกผู้คนหาว่าเป็นพวกผิดเพศอย่างงั้นหรือ

 

“ เอาละ อย่าได้คิดเรื่องอะไรที่ไม่เป็นเรื่องวุ่นวายจนเกินไปแล้ว เจ้าอยู่ไม่ห่างจากจุดศูนย์กลางของสุสานกระบี่สายนี้แล้ว ข้าเกรงว่าจะไม่สะดวกต่อการปรากฏตัว เจ้าก็ดูแลตัวเองให้ดี ข้าจะเตือนเจ้าเมื่อพบเจอจิตใจพสุธาเอง “ เสี่ยวหลุนกล่าวเตือนสติให้แก่เยี่ยจง เหมือนกับว่าเขาสมควรที่จะจากไปแล้ว

 

เยี่ยจงพยักหน้า สายหน้ามองไปรอบด้านทั่วทั้งสี่ทิศ หลังจากที่จำแนกทิศทางได้แล้ว ก็ได้เดินไปทางด้านหน้าต่อไป

 

ตลอดรายทางมานี้ เยี่ยจงอย่างน้อยก็ได้พบกับสมบัติปราณกระจัดกระจายวุ่นวาย ทว่าสมบัติปราณเหล่ารี้ต่างก็ถือได้ว่ามีความน่ากลัวจนเกินไป อีกทั้งพลังของเยี่ยจงในตอนนี้ยังไม่อาจที่จะต่อกรพวกมันได้ จึงได้แต่ปล่อยเอาไว้ก่อน

 

ไม่นานนัก ก็ได้มีโอ่งดินขนาดใหญ่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าสายตาของเยี่ยจง ท่ามกลางบริเวณใจกลางของโอ่งดิน ทั้งยังตั้งอยู่ริมผาของหุบเขา ทั้งยังดูกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา อีกทั้งหุบเขาลูกนี้ก็ได้มีสิ่งปลูกสร้างอยู่จำนวนไม่น้อย แน่นอนว่า จากที่ผ่านคืนวันของเวลาที่ไหลผ่าน สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ก็ได้ปกคลุมเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตประหลาดหลากหลายชนิด ทว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้กลับสูญเสียพลังของชีวิตไปแล้ว ดูแล้วลี้ลับเต็มสิบส่วน

 

“ สถานที่แห่งนี้สมควรเป็นดั่งคำทิ้งท้ายขององค์หญิงสี่เอาไว้ หลุมฝั่งสุดยอดกระบี่ ทุกผู้คนที่เจ้ามายังสุสานกระบี่ ยังไงเสียก็ต้องมายังสถานที่แห่งนี้ ชิ “

 

เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชาขึ้นมา หากว่าในบริเวณที่แห่งนี้สามารถพบเจอกับศิษย์ของสำนักเสวียนหวิน แน่นอนว่าต้องสังหารไปแล้วนับไม่ถ้วน ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อเรื่องที่สมบัติมังกรโลหิตแพร่ออกไป คงจะต้องกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างแน่นอน

 

เยี่ยจงค่อยๆที่จะเข้าไปใกล้ยังหลุมฝังสุดยอดกระบี่ ไม่นานนัก เขาก็ได้พบว่าบริเวณยอดเขาในตอนนี้ ราวกับมีบางอย่างกำลังเปิดออกก็มิปาน มีการรวมตัวของยอดฝีมือไม่น้อย เพียงแต่ว่าในครั้งนี้กลับเป็นพื้นที่ทะเลทรายผืนใหญ่ ผู้คนที่มายังสถานที่แห่งนี้ ยังมีไม่ถึงหนึ่งในสิบของคนที่ผ่านเข้ามาทางด้านของประตู

 

เพียงแค่มนุษย์ยักษ์สองหัว หมาป่าทมิฬ นกฮวางเชวียน แรดสวรรค์ มนุษย์ไร้ความตาย สัตว์ประหลาดคายหมิงเป็นต้นที่ปรากฏขึ้นมายังสถานที่แห่งนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็ได้มาถึงเมื่อไม่นานนี้เอง

 

และทางด้านบนของหลุมฝังกระบี่ ในตอนนี้ก็ได้มีการปรากฏของเงาผู้คนไม่น้อย เห็นได้ชัดว่า ได้มีคนไปถึงยอดเขาแล้ว

 

“ ข้าทราบว่าบริเวณในสถานที่แห่งนี้ ราวกับว่าเมื่อนานมาก่อน เกิดการล้มตายของยอดฝีมือมากความสามารถ ณ สมรภูมิฮวงกู่ก่อนหน้านี้ จนถึงกับทอดร่างตนเองจนกลายเป็นสมบัติปราณที่มีชีวิตในสถานที่แห่งนี้ ทิ้งไว้เพียงการพบพานกับผู้มีวาสนา สมบัติปราณที่ปรากฏขึ้นมาที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด ต่างก็ไม่เหมือนพวกเราที่พบเจอในตอนแรก อีกทั้งยังไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน หากว่าเจ้ามีวาสนา ก็คงจะสามารถได้รับประโยชน์ในสถานที่แห่งนี้ไม่น้อย “ เสี่ยวหลุนส่งเสียงขึ้นมาเบาๆ

 

“ เป็นไร ? ในที่แห่งนี้ไม่มีสิ่งของที่เจ้าสนใจบ้างเลยหรอ “ เยี่ยจงล้อเล่นด้วย

 

“ ต่างก็น่าสนใจดี ทว่า ชิ —— ” เสี่ยวหลุนร้องชิออกมา เห็นได้ชัดว่ามันเองก็เข้าใจ ตนเองในตอนนี้ไร้หนทางที่จะกลืนสมบัติปราณนี้ไปได้ทั้งหมด ที่ทำได้ก็เพียงแค่คิดเท่านั้นเอง

 

“ สมบัติปราณที่มีความนึกคิดในสมัยโบราณอย่างงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงพยักหน้า กำมือเดินออกไป จ้องมองไปทางด้านเนินเขาสูงชัน เรียกได้ว่าเกินความคาดหมาย ท่ามกลางหุบเขาสูงชันแห่งนี้ ที่แท้มีสมบัติมีค่ามากมายอยู่เพียงใดกัน

 

ในเวลาเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะว่าหลุมฝังสุดยอดกระบี่ได้แพร่ออกไป หลายปีที่ผ่านมานี้ ทุกครั้งที่มีการเปิดสมรภูมิฮวงกู่ ต่างก็ทราบดีว่ามียอดฝีมือทอดกายในสถานที่แห่งนี้อยู่ไม่น้อย ไม่ทราบว่ามีวีรชนมากน้อยเท่าไรที่ย่างกรายเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ แล้วก็ไม่อาจที่จะจากไปได้

 

สามารถกล่าวได้ว่า สมบติในที่แห่งนี้ ต่างก็เหมือนดั่งมายาจำแลง เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งอันลี้ลับ จนทำให้เกิดความลุ่มหลงได้

 

เมื่อเทียบกับบ่วงมายาโลหิตอันลี้ลับเมื่อครั้งก่อนนี้ เรียกได้ว่าไม่อาจที่จะเทียบในหนึ่งในหมื่นด้วยซ้ำไป

.

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 588

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset