เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 262 สมบัติที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้

ตอนที่ 262    สมบัติที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้

“ บรึม “

อัสนีพอกสุดท้ายถูกพลังดัชนีของเยี่ยจงซัดจนระเบิด ทันใดนั้นเอง ร่างกายก็ได้หายวับไป ควบคุมด้วยพลังสายฟ้า ทันใดนั้นก็ได้มายังด้านหลังของชายหนุ่มเผ่าปีก

จากนั้น เขาก็ได้ใช้มือขวาชี้ออกไป มุ่งหน้าไปทางใจกลางหน้าอกของอีกฝ่ายโจมตีเข้าไป

“ ติ้ง “

ชายหนุ่มเผ่าปีกกันกายกลับมาอย่างกะทันหัน ปีกทางด้านหลังราวกับมีคมมีดเฉือนออกก็มิปาน ปัดป้องพลังดัชนีนี้ของเยี่ยจง จากนั้นก็ได้ค่อยๆหันกายพ้นไป สีหน้านิ่งสงบเจดั่งน้ำ กล่าวออกมาอย่างเย็นชา “ ลืมบอกต่อเจ้าไปว่า เผ่าพันธุ์ปีกของข้ามีพลังลมปราณชั้นโบราณอยู่ น่ากลัวสุดเปรียบปาน ข้าสามารถรอเจ้าใช้ดัชนีอยู่ตลอดเลยละ “

หลังจากที่สิ้นเสียง ชายหนุ่มเผ่าปีกก็ได้มุ่งฆ่าสังหารออกไป ในเวลาเดียวกันปีกทั้งสองข้างของเขาก็ราวกับมีดาบที่แหลมคมเปิดออก ผสานลงมือพร้อมกับมือทั้งสองข้าง จนกลายเป็นพลังการโจมตีอันน่ากลัวออกมา

“ เปรี้ยง “

เยี่ยจงหัวเราะเย็นชา ใช้พลังหมัดปะทะเข้าสังหารออกไป ต้านรับการโจมตีผสานของชายหนุ่มเผ่าปีกเข้าไปเต็มๆ

“ อะไรกัน ? “

ชายหนุ่มเผ่าปีกนิ่งเงียบลง ราวกับสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง พลังลมปราณประจำเผ่าปีกที่เขาได้ฝึกปรือถือได้ว่าอยู่ในระดับขั้นโบราณเลย ทั้งแข็งแกร่งและน่ากลัวอย่างที่สุด ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไม่อาจที่จะมีอายุเพียงแค่นี้ เพื่อที่ก้าวเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่แปดเช่นนี้ได้ แต่ว่าเพราะอะไรกันเยี่ยจงถึงกับสามารถใช้เพียงหมัดเดียวในการต้านรับการโจมตีนี้เอาไว้ได้

“ ตายซะ “

เยี่ยจงกลับไม่ให้เวลาในการมีโอกาสผู้อื่นในการตอบสนองกลับมาได้ และได้ออกหมัดโจมตีเข้าไปอีกครั้ง ให้ความรู้สึกที่สัมผัสได้ว่าเมื่อปล่อยออกไปแล้วมิอาจที่จะรั้งคืน

ชายหนุ่มเผ่าปีกในตอนนี้แทบจะไม่อาจที่จะหลบไปได้ เขาได้แต่เพียงตัดสินใจที่จะใช้มือขวาเข้ารับ ใช้ออกด้วยหมัดสังหารเข้าปะทะออกไป

“ เปรี้ยง “

คมหมัดได้ปะทะกัน วินาที แรงลมอันน่ากลัวสายหนึ่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังก็ได้หมุนวนออกมา แต่ว่าในเวลาเดียวกันนี้ กลับมีเสียงกระดูกแตกหักดังออกมา ชายหนุ่มเผ่าปีกสีหน้าเปลี่ยนไป เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า มือของแขนข้างนี้ได้ถูกทำลายลงไปแล้ว

ความแข็งแกร่งของกายเนื้อในระดับนี้ ชายหนุ่มเผ่ามนุษย์เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ฝึกปรือออกมาได้อย่างไรกัน ? ถึงกับมีความแข็งแกร่งกว่าเขาอยู่หลายส่วน

ชายหนุ่มเผ่าปีกสีหน้าปั้นยากขึ้นมา ในขณะที่ได้ตัดสินใจที่จะถอยกายออกไป ทว่าจากความเคลื่อนไหวของเยี่ยจงเช่นนี้ ยังคงโจมตีหมายสังหารปะทะเข้ามา หมายที่จะสังหารให้ตายในสถานที่แห่งนี้ในทันที

ทันใดนั้นเอง ทั้งสองฝ่ายไม่ทราบว่าได้เข้าปะทะกันมามากน้อยกี่ครั้งแล้ว ในช่วงเวลาที่ได้เข้าปะทะกัน ทักษะยุทธ์นับไม่ถ้วนก็ได้ถูกใช้ออกก่อรวมออกมาจากทั้งสองฝ่าย เกิดแรงระเบิดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

“ ซวบ “

หลังจากที่ผ่านการปะมือเข้าไปแล้วนับสิบกระบวนท่า เยี่ยจงก็ได้กวาดมือขวาออกไป จนทำให้แขนขวาขวาชายหนุ่มเผ่าปีกร่วงลงสู่พื้น วินานั้น เรื่องร้องของเขาเจ็บปวดก็ได้ลั่นฟ้าสะเทือนดินขึ้นมา

ชายหนุ่มเผ่าปีกใบหน้าขาวซีด หันกายไปคิดหมายที่จะทะยานหลบหนี เมื่อต่อสู้กันมาจนถึงขั้นนี้ สามารถบ่งบอกได้แล้วถึงผลแพ้ชนะ ไม่จะเป็นที่จะต้องต้อสู้กันต่อไปอีกแล้ว

เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา พลิกทั้งสองมือเป็นสัญลักษณ์ ตราผนึกนภาได้ถูกใช้ออกมาอีกครั้ง ทันทีที่ชายหนุ่มเผ่าปีกลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ หลังจากนั้นเยี่ยจงก็ได้ทะยานร่างออกไป ในทันทีที่ยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน มือขวาของเขาก็ได้คว้าจับไปที่ศีรษะของเขาช้าๆ แล้วก็บิดหัวไปในทันที

“ เปรี้ยง “

เมื่อได้มองดูร่างไร้วิญญาณของชายหนุ่มเผ่าปีกล้มลงสู่พื้น เยี่ยจงก็ได้ยื่นมืออกไป คว้าไปที่ธนูยาวด้ามนั้น ใช้มือลูบคลำอย่างระมัดระวัง

“ นี้สมควรที่จะเป็นสมบัติขั้นเซียนระดับกลางชิ้นหนึ่ง ทั้งยังมิใช่สิ่งที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ อย่างน้อยต้องมาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ปีก อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นหนึ่งสมบัติประจำเผ่าพันธุ์ หากนำวัตถุชิ้นนี้อยู่กับตัวของเจ้า คงจะต้องพบกับเรื่องวุ่นวายไม่น้อย หรือจะเอามาให้ข้าเถอะ “ เสี่ยวหลุนสงสัยออกมาได้จังหวะพอดี เพื่อจูงใจเยี่ยจง

เยี่ยจงส่ายหน้าไปมา กล่าวเสียงดังออกมา “ สมบัติปราณในมือของข้านั้นอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไป ไม่อาจที่จะใช้ออกด้วยกำลังรบที่แท้จริงของข้าได้ วัตถุชิ้นนี้ข้าจะใช้ก่อน หากว่าสามารถที่จะเสาะหาสมบัติเซียนที่เหมาะสม ข้าค่อยให้เจ้าก็แล้วกัน “

“ ก็ได้ “ เสี่ยวหลุนลังเลอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดก็ตอบรับ เห็นได้ชัดว่ามันก็เข้าใจ กระบี่คงหมิงและหอกอัสนีก่อนหน้านี้ของเยี่ยจง ในบางสถานการณ์ก็ช่างดูไม่ได้อยู่หลายส่วน

บริเวณตีนเขาหลุมฝังสุดยอดกระบี่ มนุษย์ยักษ์สองหัว หมาป่าทมิฬ นกฮวางเชวียน แรดสวรรค์ มนุษย์ไร้ความตาย สัตว์ประหลาดคายหมิงเป็นต้นต่างก็อ้าปากตาค้างเหม่อมองไปทางด้านบริเวณของไหล่เขา ฉากเบื้องหน้าเมื่อครู่นี้พวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจน ยอดอัจฉริยะเผ่าปีกผู้นั้น ถึงกับต้องทอดร่างภายใต้น้ำมือของเยี่ยจงเช่นนี้ ทั้งตายจนไม่อาจที่จะตายได้อีก สีหน้าของพวกมันบ่งบอกถึงความยากที่จะเชื่อ พลังสู้รบของเยี่ยจงถือได้ว่ามีความน่ากลัวในระดับขั้นที่ยากจะคาดเดาเอาไว้ได้แล้ว

“ เยี่ยจงผู้นี้ แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ข้ามิอาจที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ “ มนุษย์ยักษ์สองหัวก็ได้ถอนหายใจออกมา บ่นออกมากับตัวเอง

“ แข็งแกร่งแล้วจะเป็นอย่างไร ถึงแม้จะผ่านไปได้แค่ด่านเดียว ยังคงถือได้ว่ามีอยู่อีกสองด่านถึงจะขึ้นไปสูงปลายยอด หากว่ามีเพียงแค่อัจฉริยะเผ่าปีกผู้นั้นขวางทางเพียงคนเดียว ยังจะสามารถที่จะต้านทานพวกเราที่มีคนมากมายได้อย่างงั้นหรือ ? “ มนุษย์ไร้ความตายเอ่ยขึ้นมาทางด้านข้าง “ ทว่าก็ดี หากว่าเขาตายแล้ว ข้าจะได้นำร่างกายของมันกลับไป วันหน้าเผ่าพันธุ์ไร้ความตายของข้า คงจะต้องก่อเกิดอัจฉริยะขึ้นอีกหนึ่งคนอย่างแน่นอน “

สิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งอื่นๆต่างก็จ้องมองมนุษย์ไร้ความตาย กลุ่มที่มีความลี้ลับและแข็งแกร่งนี้ เป็นความประหลาดที่ยากที่จะเชื่อได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นนิสัยการกระทำที่ยากจะรับได้ แต่ว่าในตอนนี้กลับไม่มีผู้ใดกล้าพูดอันใด

บริเวณทางด้านไหล่เขา เยี่ยจงก็ได้คล้องธนูยาวเอาไว้ หันกายเตรียมที่จะขึ้นไปยังยอดเขา

“ นี้ ? เจ้าเด็กน้อยเทียนจุ่ยนั้นได้ถูกเจ้าฆ่าตายไปแล้วอย่างงั้นหรือ ? เผ่ามนุษย์ยังถึงกับมีบุคคลเช่นนี้อยู่อีกอย่างงั้นหรือ ? เจ้าเป็นองค์ชายสิบสาม ? หมิงหยี่ ? หรือว่าเยี่ยจง ? “ บริเวณไหล่เขา ทันใดนั้นก็ได้มีเงาร่างอีกสองคนปรากฏขึ้นมา พวกเขาปรากฏตัวออกมาทางด้านหน้า อย่างน้อยก็สัมผัสได้ว่าชายหนุ่มเผ่าปีกเทียนจุ่ยได้ตายลงแล้ว ดังนั้นจึงค่อยปรากฏตัวออกมา

เพียงแต่ว่า ชายหนุ่มทั้งสองคนนี้ถึงแม้จะเหมือนกับมนุษย์ แต่ว่าต่างก็มิใช่เผ่ามนุษย์ หนึ่งในนั้นที่ศีรษะมีเขางอกออกมา น่าประหลาดใจอย่างไร้ที่เปรียบ อีกทางด้านหนึ่งกลับป็นสิ่งมีชีวิตสี่แขน แข็งแกร่งดุจดั่งสัตว์ประหลาด

“ มอบธนูเงาเมฆาเพลิงออกมา พวกเราสองคนจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยเจ้าถอยจากไป “ ชายหนุ่มมีเขาทันใดนั้นก็ได้จ้องเขม็งไปทางด้านสมบัติเซียนที่อยู่ในมือของเยี่ยจง ภายในดวงตาปรากฏความร้อนลุ่มขึ้นมา

“ ยังไม่ตื่นจากฝันอีกงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงเงยหน้าขึ้น “ ไสหัวไปตอนนี้ หากว่ายังขวางทางอยู่ จะสังหารพวกเจ้าโดยไม่เว้น “

“ บังอาจมาก หาที่ตายเองนะ “ สิ่งมีชีวิตทั้งสองปะทุความโกรธขึ้นมา พวกเขาต่างก็ถือเป็นยอดอัจฉริยะประจำเผ่าพันธุ์ มีสถานะเดียวกับชายหนุ่มเผ่าปีกนามเทียนจุ่ย ทั้งยังเป็นบุคคลที่มีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกัน แต่ว่าในตอนนี้มนุษย์เผ่าปีกถึงกับถูกเย้ยหยัน มันก็ไม่ต่างจากทำให้พวกเขาเกิดความอัปยศเลย

“ ตูม “

การโจมตีอันน่ากลัวทั้งสองสายได้เข้าปะทุออกมา หมายที่จะทำให้เยี่ยจงกลายเป็นฝุ่นผง

เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา ในตอนนี้เขากลับไม่มีความเกรงใจอีกต่อไป มือข้างหนึ่งชี้ไปที่นภามือข้างหนึ่งชี้ไปที่พสุธาของผนึกนภาก็ได้ถูกใช้ขึ้นมาอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาไม่แม้แต่จะออมมือ ทั้งยังใช้ออกด้วยท่าที่แข็งแกร่งที่สุด จนทำให้ชายหนุ่มมีเขาร่างแตกกระจายท่ามกลางอากาศกลายเป็นสายฝนออกมา

และทางด้านอีกคนหนึ่งร่างกายก็ได้แตกระเบิดครึ่งร่าง เขาเกิดสีหน้าหวาดกลัวหมายจะหนีจากไป ทว่าทันใดนั้นต่อมา เยี่ยจงก็ได้ขยับใช้ออกด้วยธนูเงาเมฆาเพลิง ใช้ออกมาด้วยท่าสังหารที่มีฮุเจรียวออกมา จนกลายเป็นร่างเนื้อแหลกเหลว

“ อะ ……… อะไรกัน ? “

ทางด้านใต้หุบเขาสุดยอดกระบี่ สิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งมากมายต่างก็อ้าปากตาค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ แทบจะไม่มีปฏิกิริยากลับมา พวกเขาถึงกลับปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกันถึงสองคน ทั้งยังสามารถสังหารเยี่ยจงได้ในพริบตา แต่ก็คิดไม่ถึงว่า พวกเขาถึงกับพ่ายแพ้ได้อย่างสะอาดหมดจดเช่นนี้ กลายเป็นเพียงฝนโลหิตทางด้านหน้าของเยี่ยจงในทันที

ควรทราบว่า เด็กหนุ่มทั้งสามคนต่างก็ถือเป็นยอดอัจฉริยะประจำเผ่าพันธุ์ มีพลังฝีมือในขั้นก่อเกิดระดับที่แปด อีกทั้งอย่างน้อยก็มีพลังอยู่ในขอบเขตวิญญาณ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าความแข็งแกร่งเช่นนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเยี่ยจงก็ไม่ต่างอันใดจากไก่ดินก็มิปาน

สิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งเหล่านี้ที่ใต้หุบเขาก็ต้องกรอกตาไปมา หากว่าไม่ใช่พบเห็นด้วยตาของตัวเอง ทั้งยังยากที่จะเชื่อลงได้ นั้นก็เพราะว่าได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายไปแล้ว

“ สามยอดยุทธ์ที่เรียกว่าเป็นดั่งบรรชาสวรรค์ของท่านผู้นั้น ในเมื่อต่างก็ถูกเด็กน้อยเยี่ยจงนั้นฆ่าสังหารไปแล้ว เรื่องนี้ คงต้องกลายเป็นใหญ่โตแล้ว ………. “ นกฮวางเชวียนพูดออกมาอย่างแปลกประหลาด แต่ว่าสีหน้ายังคงทอแววขาวซีดอยู่หลายส่วน

“ ทว่าเช่นนี้ก็ดี เยี่ยจงได้ช่วยเหลือพวกเราจัดการกับความยุ่งยากไปแล้ว รอจนข้ามีโอกาสที่จะขึ้นไปยังยอดเขาแล้ว ยังไม่ทราบว่าท่านผู้นั้น ในตอนนี้ยังอยู่บริเวณยอดเขาหรือไม่ “

“ แต่เขาได้ของที่เขาต้องการแล้วก็คงจะจากไปเอง ไม่เช่นนั้น ข้าว่าไม่แน่อาจจะทำให้เขาโกรธขึ้นมาก็ได้ …… ทว่าเช่นนี้ก็ยังดี เยี่ยจงผู้นี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก คงจะต้องมีการแสดงให้ดูบ้างแล้วละ “

สิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งมากมายต่างก็ตบตามองกัน จากนั้นไม่นานพอ พวกเขาต่างก็ได้ก้าวออกไปอีกหนึ่งก้าว ค่อยๆที่จะขึ้นไปสู่ยอดเขาหลุมฝั่งสุดยอดกระบี่

บริเวณครึ่งทางของไหล่เขา เยี่ยจงยังคงเดินไปอย่างช้าๆ สีหน้าทอแววเย็นชาขึ้นมา ธนูเงาเมฆาเพลิงได้ถูกเขาเก็บเอาไว้ เดินตาอไปอย่างเชื่อมั่น ราวกับกำลังเดินอยู่ในสวนดอกไม้

ตลอดการเดินขึ้นเขามา เยี่ยจงก็พบเห็นซากศพที่ยังพึ่งตายอยู่ไม่น้อย โลหิตที่ไหลริน มีทั้งแบบยังดูได้และที่ดูไม่ได้ อีกทั้งศพของพวกเขายังตายไม่พ้นหนึ่งวันด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัด อย่างน้อยควเป็นตอนที่พวกเขาได้ขึ้นมาบนยอดเขา คงจะเป็นฝีมือของสามอัจฉริยะที่ถูกจัดการภายใต้ฝีมือของเยี่ยจง ที่เข่นฆ่าสังหารผู้คนมากมายเหล่านี้ดั่งภาพที่เห็นอยู่

“ นายน้อยของสามอัจฉริยะอย่างงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงเงยหน้าขึ้นจ้องเขม็งไปที่ทางเข้าที่ไปยังสุดปลายบนเขา อยู่ที่ไหน นายน้อยของสามอัจฉริยะนั้น ทำให้สิ่งมีชีวิตมากมายบนเขาลูกนี้ต้องเกิดความหวาดกลัว น่าจะที่จะอยู่ทางด้านบนนี้

ในตอนนี้ เยี่ยจงไม่ได้มีความกลัวแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดความรู้สึกที่อยากจะเปิดศึกอยู่แบบหนึ่ง เขาก็เยากที่จะดูว่า การคงอยู่อันลี่ลับและน่าหวาดกลัวที่ได้ทำให้ผู้คนมากมายต้องคอยจับตามองนี้ ที่แท้มีพลังฝีมือในระดับใดกันแน่ เขาได้ใกปรือจนถึงขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายไปจริงหรือไม่

ทว่า จะดูน่าแปลกอยู่หลายส่วน ทว่าระดับความเร็วของเยี่ยจงกลับมิได้มีความเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ก้าวขึ้นไปสู่ยอดเขาทีละก้าวทีละขั้น เขาสัมผัสได้ถึงสิ่งที่อยู่ด้านบนยอดเขาทั้งหมด อีกทั้งก็เหมือนเป็นการตรวจสอบความสมบูรณ์ของร่างกาย เพื่อที่จะให้ตนเองเมื่อขึ้นมาถึงยังยอดเขา จะสามารถฟื้นคืนเมื่อถึงยังยอดเขาแล้ว นั้นก็เพราะว่า หากว่าเมื่อขึ้นไปทางด้านบนแล้วเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่ขึ้น ย่อมต้องเป็นการต่อสู้ที่ไม่รอดก็ตาย หากว่าผิดพลาดไปแล้ว ก็คงจะไม่ต่างอันใดจากซากศพที่อยู่สองข้างทาง

แล้วก็ได้ใช้เวลาผ่านไปอีกครึ่งวัน จนในที่สุดเยี่ยจงก็ได้เดินมาจนถึงสุดปลายของถนนที่ปูด้วยหินอ่อน ในเวลาเดียวกันก็ได้ถอนหายใจยาวๆออกมาคำหนึ่ง ในตอนนี้ก็ถือได้ว่าเกือบจะฟื้นคืนสู่จุดสูงสุดแล้ว จากนั้นเขาก็ได้ก้าวออกไป เพื่อขึ้นไปสู่ยอดเขาหลุมฝังสุดยอดกระบี่ เมื่อได้ถึงยังบริเวณยอดเขาแล้ว

ยอดเขาหลุมฝังสุดยอดกระบี่ราวกับถูกผู้คนใช้กระบี่ยาวกวาดจนกลายเป็นที่ราบก็มิปาน ราบเรียบไร้ที่เปรียบ กลายเป็นดั่งเนินหน้าผา อีกทั้งทางด้านหลังของเนินหน้าผานี้ยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ทั้งยังจัดวางไว้ด้วยก้อนหินระเกะระกะ ก้อนหินเหล่านี้ไม่ได้การแกะสลักชื่อใดๆเอาไว้ เห็นได้ชัดว่า นี้ไม่ใช่เป็นสุสานของยอดฝีมือแต่อย่างไร แต่เป็นสุสานของกระบี่

สมบัติปราณเหล่านี้คงจะมีที่มาตั้งแต่โบราณกาล จึงทำให้เจ้านายของพวกมันนำมาฝังเอาไว้ในสุสานกระบี่แห่งนี้ เงียบสงบปลอดผู้คน

ในตอนนี้ ทางด้านเนินหน้าผานี้ ก็ได้มีผู้คนนับเกือบร้อยคนยืนเรียงรายกันอยู่ ยอดฝีมือเหล่านี้ถึงแบ่งเป็นส่วนๆ ตามคุณสมบัติอาวุธที่ใช้ แต่ว่ากลับไม่มีคนกระกำอันใดออกมามากมาย เพียงแต่จ้องมองไปบริเวณทางด้านหน้าอย่างเงียบสงบ

“ เป็นผู้ใด ? “ สายตาของเยี่ยจงได้ทอดมองไปยังร่างกายของคนเหล่านี้ ผู้ใดกันที่เป็นนายน้อยของสามยอดยุทธ์เหล่านั้นกัน ?
.
.
.
.
กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610 ล่าสุดตอนที่ 595
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset