เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 272 สังหาร

ตอนที่ 272 สังหาร

 

 

ทั่วทั้งสนามเต็มไปด้วยความเงียบ ไม่นานนัก ผู้คนทั้งหมดต่างก็จ้องมองไปออกไปด้วยความตกตะลึง ท้องฟ้าพื้นดินฟื้นคืนกลับสู่ความเงียบงัน มนต์ตราเทพทั้งหมดกลับกลายเป็นหายไปอย่างช้าๆ ฟื้นคืนสู่ความปกติ

 

ในตอนนี้ สถานที่แห่งนี้กลับเงียบงันอย่างถึงที่สุด ราวกับว่าแม้แต่เข็มเล่มเดียวตกลงมาก็สามารถทำให้ผู้คนทั้งหมดได้ยินอย่างชัดเจน

 

จากนั้น ก็ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาเบาๆ”ติกติก” ดังขึ้นมาช้าๆอย่างกะทันหัน

 

ยอดฝีมือมากมายต่างก็ล้อมกันดูอยู่ทางด้านข้าง ในตอนนี้ทั้งสองมือของเยี่ยจงและดวงตาของหวินจงเทียนต่างก็มีโลหิตไหลออกมาไม่หยุด เสียงที่ดังออกมา ได้ทำให้สายตาของผู้คนแตกตื่นขึ้นมา

 

ในขณะนั้นเอง ยอดอัจฉริยะทั้งสองคนต่างก็ไม่มีอะไรจะกล่าวออกมา เพียงแต่เงียบงันในเวลาเดียวกัน

 

หลังจากนั้นไม่นาน เสียงของโลหิตที่ไหลออกมาก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นมาอีก หวินจงเทียนค่อยๆเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาทอดลงไปยังร่างของเยี่ยจง ร่างกายก็ได้ปรากฏประกายแสงสีม่วงขึ้นมาอีกครั้ง

 

และเยี่ยจงก็ได้ค่อยๆเงยหน้าขึ้น ทอสีหน้าประหลาด หวินจงเทียนผู้นี้ถือได้ว่าเป็นศัตรูคู่อาฆาตผู้หนึ่งได้อย่างแท้จริง ทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้ก้าวออกมาคนละก้าว แต่ว่าแม้แต่มนต์ตราเทพก็ยังไม่อาจที่จะสังหารเขา เห็นได้ชัดว่า การต่อสู้ในครั้งนี้ คงไม่อาจที่จะจบลงอย่างง่ายดาย

 

“ ฆ่า “

 

“ ตายซะ “

 

ราวกับว่าทั้งสองคนได้ตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน ในครั้งนี้ก็ได้พุ่งเข้าสังหารออกไปทางด้านหน้า ฝ่ามือของหวินจงเทียนก็ได้ปรากฏเปลวเพลิงสีม่วงพุ่งออกมา จนกลายเป็นเปลวเพลิงอันร้อนแรงขึ้นมาแต่ละสาย คิดที่จะทำให้เยี่ยจงตกอยู่ภายในวงล้อมจนแตกกระจายกลายเป็นผง กระบวนท่านี้ถึงแม้จะไม่ใช่มนต์ตราเทพ แต่ว่าในด้านของพลังทำลายก็ยังถือได้ว่าน่าหวาดกลัว

 

ฝ่ามือของเยี่ยจงก็ได้ซ้อนทับไปด้วยพลังกระบี่ตราประทับขึ้น ทั้งสองมือถูกใช้ปะทะออกไปไม่หยุด ทุกครั้งที่ได้ประทับลงไป ก็จะปรากฏประกายกระบี่สาดออกมาไม่หยุด พลังทำลายน่ากลัวอย่างถึงที่สุด

 

การปะทะของทั้งสองฝ่าย ในทุกครั้งที่ได้เข้าปะทะกัน ต่างก็ได้ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของพื้นดิน และทุกครั้งที่ได้ออกกระบวนท่า ก็จะมีโลหิตไหลรินลงมา ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บในเวลาเดียวกัน ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ การต่อสู้ก็ได้ก่อเกิดขึ้นมา ทั้งสองคนราวกับลืมเลือนความเป็นตาย ลงมือไม่มีแม้แต่การยั้งไมตรี ราวกับทุกกระบวนท่าสามารถปรากฏผลแพ้ชนะได้

 

“ ชิ “

 

เยี่ยจงฟาดฝ่ามือออกไป ฝ่ามือก็ได้ทอดเข้าไปทางบริเวณหน้าอกของหวินจงเทียน จนทำให้โลหิตสาดลอยกระจายเป็นสาย

 

“ ตูม “

 

คมหมัดของหวินจงเทียนก็ได้ทอดลงสู่หัวไหล่ของเยี่ยจงในเวลาเดียวกัน วินาทีนั้นก็ได้หัวไหล่ของเยี่ยจงก็ได้มีเลือดเนื้อกระเด็นลอยออกมา จากนั้นทั้งสองคนต่างก็ได้เคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน ในเวลาเดียวกันก็ได้มุ่งหน้าไปทางด้านหลังคนละครึ่งก้าว กระอักโลหิตคำโตออกมา

 

การต่อสู้นี้เต็มไปด้วยความอันตรายและยากจะคาดเดา ไม่ว่าคนใดคนหนึ่งหากลงมือช้าแม้เพียงนิดเดียวแล้วละก็ สถานการณ์ต่อไปก็คงจะไม่พ้นจากทอดร่างลงไปในทันที อีกทั้งเมื่อการต่อสู้มาจนถึงขั้นนี้ เรียกได้ว่าคงไม่ง่ายที่จะถอยกลับไป ในตอนนี้ยังไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ มีแต่เพียงความเป็นความตายเท่านั้น

 

ร่างกายของทั้งสองคนในตอนนี้ต่างก็เข้าปะทะบนพื้นดินกันไม่หยุด ทุกกระบวนท่าที่ทอดลงมา ต่างก็กลายเป็นเลือดเนื้อกระจายลอยออกไป ช่วงเวลาสั่นๆเพียงหนึ่งถ้วยน้ำชา ทั้งสองฝ่ายอย่างน้อยก็ได้ปะทะกันร้อยกว่ากระบวนท่า อีกทั้งทั้งสองฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บหนัก กระอักโลหิตออกมาไม่หยุด ใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ แต่ว่าในช่วงเวลาเช่นนี้ หากกล่าวถึงจิตใจของทั้งสองคน เรียกได้ว่าต่างก็ไม่อาจที่จะถอยกลับไปได้ จำเป็นที่จะต้องปรากฏผลเป็นตายออกมา

 

ในช่วงเวลากะทันหัน ร่างกายของหวินจงเทียนก็ได้พุ่งขึ้นสู่ฟ้า ทันใดนั้นเองก็ได้มีนกยักษ์ตัวหนึ่งร่อนตัวลงมา พลิกมือทั้งสองคล้ายดั่งกงเล็บก็มิปาน ตั้งใจหมายที่จะเอาชีวิตของเยี่ยจงในการลงมือครั้งนี้

 

“ ซูม “

 

เมื่อได้รับแรงดึงดูดของพลังอันแข็งแกร่ง เยี่ยจงก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง เพียงแต่ว่าในเวลานี้กลับไม่มีคนที่คิดจะถอยออกไปแม้เพียงครึ่งก้าว และบริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้ถูกก่อรวมไว้ด้วยพลังกระบี่ตราประทับอีกครั้ง จนก่อตัวจนกลายเป็นประกายแสงสีดำสายหนึ่ง มุ่งหน้าพุ่งออกไปท่ามกลางอากาศ

 

“ แหลกไปซะ “

 

“ ตายไปซะ “

 

“ เพล้งเพล้งเพล้ง “

 

การโจมตีของทั้งสองคนได้ทอดลงไปยังร่างของฝ่ายตรงข้ามในเวลาเดียวกัน มีทั้งโลหิตและเลือดเนื้อลอยออกไปอีกครั้ง หวินจงเทียนก็ได้เริ่มที่จะบ้าคลั่งในทันที เขาไม่สนถึงอาการบาดเจ็บของดวงตาทั้งสอง ภายในดวงตาก็ได้มีประกายสีทองของดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง คิดที่จะเผาผลาญเยี่ยจงให้มอดไหม้

 

เยี่ยจงเริ่มที่จะพลิกทั้งสองมือขึ้นมาเปลี่ยนไปอีกครั้ง แต่ว่าในตอนนี้เขากลับไม่อาจที่จะสามารถใช้ออกมาด้วยตราผนึกนภา ได้แต่เพียงใช้ออกมาด้วยฝ่ามือมังกรสีรุ้งเท่านั้น เพื่อต่อกรกับการโจมตีของหวินจงเทียน

 

“ ตูม “

 

ทั้งสองฝ่ายถอยกลับไปอีกครั้ง ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ถอยกระเด็นออกไปบริเวณทางด้านหลังออกไป กระอักโลหิตออกมาคำโต ฝ่ามือมังกรสีรุ้งที่มีเป็นเพียงแค่ทักษะระดับเซียน มีหรือที่จะต่อกรกับมนต์ตราเทพได้

 

“ เจ้าจบสิ้นแล้ว “ หวินจงเทียนร้องเชอะออกมาอย่างเย็นชา ภายในดวงตาที่ทอเป็นประกายสีทองยังคงมีโลหิตไหลรินออกมา แต่ว่าเขาก็ไม่อาจที่จะชักช้าอีกต่อไป เพียงแต่ก้าวออกไปทางด้านหน้า ประทับอยู่บนร่างของเยี่ยจง คิดที่จะเผาให้ตายทั้งเป็น

 

“ ชิ “

 

ราวกับว่าในเวลาเดียวกันนี้ บริเวณติงหูของเยี่ยจงก็ได้มีปรากฏประกายแสงหมุนวนขึ้นมา พุ่งเข้าไปต้านการโจมตีทั้งสองสายนี้เอาไว้ จนทำให้หวินจงเทียนงงงันขึ้นมา ในเวลานี้ก็แทบจะไม่มีปฏิกิริยากลับมา

 

“ เปรี้ยง “

 

เยี่ยจงขยับร่างกายคราหนึ่ง ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาก็ได้เพิ่มขึ้นมาเร็วขึ้นกว่าหวินจงเทียน ในขณะนี้ พลังกระบี่หกสุสานภายในร่างของเขาก็ได้ถูกควบคุมจนถึงขีดสุด ร่างกายของเขาราวกับเป็นเหมือนดั่งประกายแสงที่หายวับเข้าไปทางด้านหน้าของหวินจงเทียนก็มิปาน ฝ่ามือก็ได้ประทับเข้าไปยังบริเวณหน้าอกของหวินจงเทียน หวินจงเทียนก็ได้สั่นเทาจนกระอักโลหิตออกมา ร่างกายก็ได้โอนเอนไปมา

 

ผู้คนทั้งหมดต่างก็คิดไม่ถึง เยี่ยจงที่ความจริงตกเป็นรองอยู่นั้นก็ได้พลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างกะทันหัน แต่ว่าหวินจงเทียนกลับต้องพ่ายไปครึ่งกระบวนท่า เรียกได้ว่าพ่ายแพ้ไปก็ว่าได้

 

“ กร๊อบ “

 

แล้วก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไปอีกหนึ่งครั้ง ฝ่ามือของเยี่ยจงก็ได้พุ่งออกเข้าไปยังบริเวณทรวงอกของหวินจงเทียน แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ ร่างกายของหวินจงต้องกระเด็นลอยออกไป กระอักโลหิตออกมาคำโต ร่างกายที่ความจริงมีพลังอยู่ในตอนนี้ก็ได้หายไป การต่อสู้นี้ เขาก็ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว

 

ณ กลางอากาศ กระบี่ดำ เตาเผาไหม้เฟินหวิน พัดจื่อหวินในตอนนี้ก็ได้ต่อสู้มีจนถึงขีดสุด ความเคลื่อนไหวก็ได้แผ่กระจายออกมา แต่ว่าหวินจงเทียนในตอนนี้เมื่อได้พ่ายไปแล้วครึ่งกระบวนท่า จิตใจที่ไร้การผสาน เตาเผาไหม้เฟินหวินและพัดจื่อหวินต่างก็ได้สั่นไหวเล็กน้อย จนในที่สุดก็ได้ถอยออกไปในเวลาเดียวกัน

 

“ ของข้า ของข้า เป็นของข้าทั้งหมด “

 

ในห้วงสมองของเยี่ยจงก็ได้มีเสียงของความยินดีสั่นไหวขึ้นมา จากนั้นในบริเวณต่างหูของเขาก็ได้มีประกายแสงปรากฏขึ้นมาในทันที มุ่งหน้าออกไปท่ามกลางอากาศ

 

“ ซวบ “

 

ประกายสีขาวได้กวาดออกไป การปะทะกันท่ามกลางอากาศก็ได้สิ้นสุดลง เตาเผาไหม้เฟินหวินและพัดจื่อหวินนั้นก็ได้หายไปอย่างหมดจดในเวลาเดียวกัน ราวกับไม่เคยมีอยู่เลยก็มิปาน

 

“ กร๊อบ “

 

การผสานจิตใจ หวินจงเทียนกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่งอย่างรุนแรง เขาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ฟ้า ยากที่จะเชื่อได้ ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ? สมบัติเซียนของตนเองก็ได้ถูกผู้คนช่วงชิงไปเช่นนี้ หายวาบไปไม่เหลือแม้แต่เงา ราวกับว่าถูกบางสิ่งกลืนกินเข้าไปก็มิปาน ?

 

และในตอนนี้ เมื่อสมบัติเซียนทั้งได้หายไป เขาก็พ่ายอย่างแน่นอน

 

“ ถอย “

 

ราวกับว่าทันใดนั้นเอง ก็ได้มีความคิดบางอย่างเกิดขึ้นในหัวของหวินจงเทียน ร่างกายของเขาก็ได้ถอยออกไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว ไม่มีแม้แต่ความลังเลแม้แต่น้อย นั้นก็เพราะว่าเขาเข้าใจเป็นอย่างดี หากว่ามัวแต่ชักช้าแล้วละก็ เขาในวันนี้ก็คงจะต้องตายในสถานที่แห่งนี้แน่นอน

 

“ ตอนนี้ต้องไปแล้ว ช้าไปหน่อยสินะ ? “ เยี่ยจงร้องเชอะอย่างเย็นชา เขาทราบได้อย่างดีว่าเสี่ยวหลุนได้กลืนกินสมบัติเซียนทั้งสองชิ้นลงไปแล้ว เขายื่นมือขวาออกไป กระบี่ดำท่ามกลางอากาศก็ได้กลับเข้ามาสู่มือของเยี่ยจง จากนั้นเยี่ยจงก็ได้สะบัดมือออกไป วินาทีนั้น คมกระบี่สีดำสายหนึ่งก็ได้แหวกอากาศออก มุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านของหวินจงเทียน

 

“ ซวบ “

 

ในขณะที่หวินจงเทียนกำลังถอยก็ได้ส่งเสียงร้องดังขึ้นมา ร่างกายของเขาก็ได้ถูกกระบี่ตัดผ่าออกมาครึ่งหนึ่ง ครึ่งท่อนบนก็ได้ลอยออกไป และอีกครึ่งร่างยังคง และอีกครึ่งร่างล่างก็ยังคงวิ่งถอยจากไปอีกหลายก่าว แล้วจึงค่อยแตกกระจายออก

 

“ เปรี้ยง “

 

ร่างท่อนบนของหวินจงเทียนที่ร่วงลงสู่พื้น โลหิตสดๆสีแดงซ่านไหลรินลงพื้น สีหน้าของเขาเหมือนกับถูกหลอกลวง ถูกเยี่ยจงตัดออกไปครึ่งร่าง เขาในตอนนี้ไม่เหลือแม้แต่หนทางรอดแล้ว

 

“ เยี่ยจง เจ้า “

 

“ ซวบ “

 

หวินจงเทียนกล่าวยังไม่ทันจะจบ เยี่ยจงก็ได้ทอแววตาเย็นเยียบขึ้นมา กระบี่ดำใจกลางฝ่ามือก็ได้กวาดออกไปอีกครั้ง พลังความเกียจชังก็ได้พุ่งหมุนวนไปบนฟ้า แล้วก็ได้ยินเสียงซวบขึ้นมา สีหน้าของหวินจงเทียนที่ยังคงอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ แต่ร่างกายของเขาก็ได้กลายเป็นเพียงศพ ทอดร่างตายลง

 

ยอดฝีมือมากมายที่ดูอยู่ต่างก็อ้าปากตาค้าง การต่อสู้เมื่อครู่ของทั้งสองคนยังยากที่ตัดสินผลแพ้ชนะ ถึงกระนั้นในตอนนี้ก็ได้ปรากฏผลแพ้ชนะแล้ว ทั้งยังอีกเหนือความคาดหมายของทุกผู้คน เยี่ยจงผู้นี้ ถึงกลับมีความแข็งแกร่งได้ถึงระดับนี้เชียวงั้นหรือ ? เพียงแค่การพึ่งพาวิชาฝีมือ

 

“ ตูม “

 

กระบี่ดำในมือของเยี่ยจงหมุนวนคราหนึ่ง ก็ได้กวาดออกไปคราหนึ่งกระบี่ วินาทีนั้น คมกระบี่ก็ได้มุ่งหน้าไปยังเหล่าอัจฉริยะของอีกฝ่ายที่เมื่อครู่กำลังจะลงมือ จากนั้นก็ได้เกิดเสียงร้องไห้โหยหวนออกมา ดังตลบไปทั่วทั้งฟ้าดิน

 

“ หนีเร็ว “

 

ไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดที่ร้องออกมา ยอดฝีมือที่อยู่ใกล้นับสิบคนในตอนนี้ก็สูญเสียความกล้าไป พวกเขาความจริงไม่มีความกล้าแม้แต่จะเผชิญหน้า เพียงแต่หมุนกายหนีไป ความแข็งแกร่งของเยี่ยจงได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขา เรียกได้ว่าไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะเผชิญหน้าได้

 

“ ซวบ “

 

ราวกับว่าทันใดนั้นเอง ศีรษะก็ได้ลอยขึ้นมาหลายหัว ยอดฝีมือเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใดก็ตาม เพียงแค่หลบหนีไปได้เกือบร้อยลี้เท่านั้น ก็ได้ถูกเยี่ยจงฆ่าสังหารไป ไม่หลงเหลือแม้แต่คนเดียว

 

“ กร๊อบ “

 

หลังจากที่ได้ตะหวัดกระบี่นี้ออกไป เยี่ยจงก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง กระบี่ดำในมือก็ได้เสียบลงบนพื้นดิน หลังจากนั้นเขาก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้นั่งลงอยู่บนพื้น หอบหายใจอย่างรุนแรง และร่างกายก็ได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้น ปรากฏโลหิตไหลรินออกมา

 

เพื่อที่จะฆ่าสังหารหวินจงเทียน เยี่ยจงก็ได้ใช้ออกไปด้วยความสามารถสูงสุด เขาในตอนนี้ถึงแม้จะสังหารหวินจงเทียนไปแล้ว แต่ว่าตนเองก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าหากไม่ใช่เพราะพึ่งพาความมุ่งมั่นในจิตใจของตนเอง ในตอนนี้เยี่ยจงก็คงจะล้มลงไปตั้งแต่แรกแล้ว

 

ยอดฝีมือรอบด้านต่างก็เหม่อมองเยี่ยจงราวกับพบเห็นสัตว์ประหลาด สีหน้ามนหมอง มีสีหน้าของผู้คนไม่น้อยต่างก็เกิดความหวาดกลัวอย่างไร้ที่เปรียบ พวกเขาทราบดีว่าเยี่ยจงในตอนนี้ไม่หลงเหลือพลังแล้ว หากว่าพวกเขาลงมือ ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสครั้งใหญ่ในการสังหารเยี่ยจง อีกทั้งยังสามารถที่จะแย่งชิงกระบี่ดำในมือของเขาได้

 

แต่ว่าเพียงแค่นี้ ยอดฝีมือในตอนนี้ก็ไม่มีผู้ใดที่กล้าที่ลงมือแม้แต่คนเดียว อีกทั้งสีหน้ายังเปลี่ยนแปลงไม่หยุด

 

“ เยี่ยจง เจ้าไม่เป็นอะไรนะ “

 

องค์หญิงหกและพวกในที่สุดก็ได้มีปฏิกิริยากลับมา เหล่าผู้มีพรสวรรค์ของรัฐต้าโจวในตอนนี้ก็ได้รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว จนล้อมเยี่ยจงไว้อยู่ตรงใจกลาง พวกเขาเหม่อมองเยี่ยจงด้วยสีหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความนับถือ ทั้งยังมีความเกรงใจอยู่หลายส่วน การที่รัฐต้าโจวปรากฎบุคคลเช่นนี้ออกมาได้ถือได้ว่าเกินความคาดเดาของพวกเขาแล้ว แต่เมื่อปรากฏบุคคลเช่นนี้มาแล้ว พวกเขาที่เป็นผู้มีพรสวรรค์อันธรรมดาของรัฐต้าโจว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจที่จะไม่ใช้คมกระบี่เข้าคุ้มครองได้

 

นับจากนี้ไป ชื่อเสียงของเยี่ยจงก็เหมือนดั่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า ไร้ผู้ใดต้านทานได้

 

“ ตอนนี้พวกเราจะทำยังไงต่อดี ? “ จ้านหวังน้อยกุมหน้าอกจ้องมองไปที่เยี่ยจง ภายในดวงตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความนับถือ

 

“ ช่วยป้องกันข้าหน่อย “ เยี่ยจงไม่พูดอะไรมาก เพียงแต่นำยาปราณออกมาทำการรักษา แล้วก็เริ่มไหลเวียนกระบี่หกสุสานขึ้นเพื่อฟื้นฟูพลังบนร่างกาย สมรภูมิฮวงกู่ก็ช่างอันตรายจนเกินไป เขาไม่อาจที่จะเสียเวลาไปได้

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7/8 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด613

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset