เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 278 จูเยียน

ตอนที่ 278 จูเยียน

 

 

วันเวลาก็ได้ผ่านไปอีกครึ่งวัน ในตอนนี้ เงาร่างสายอื่นโดยส่วนมากต่างก็ได้เข้ามายังบริเวณรอบของแอ่งชำระกระบี่ ระยะห่างจากแอ่งชำระกระบี่เพียงแค่หนึ่งก้าว ก็จะสามารถเข้าไปยังภายในได้ เพียงแต่ว่าในเวลานี้ กลับไม่มีผู้ใดที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างง่ายดาย ทุกผู้คนต่างก็ขมวดคิ้วจ้องมองไปยังทางด้านแอ่งชำระกระบี่ทางด้านหน้า ทอสีหน้าแววประหลาดออกมา

 

เยี่ยจงครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็ยังมิได้ตัดสินใจก้าวออกไปเป็นคนแรก ในที่แห่งนี้อย่างน้อยก็มีศัตรูอยู่ถึงสองคน หากว่าเขาชิงลงมือก่อน แล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วละก็ เยี่ยจงก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เด็กน้อยเหล่านี้จะต้องลงมือสังหารตนเองอย่างแน่นอน

 

ทั้งยังมีเงาร่างอื่นๆที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหว ถึงแม้ทุกคนจะมีความในใจไม่เหมือนกัน แต่ว่าสิ่งที่กำลังคิดกันอยู่ก็ไม่ได้ต่างกันมากมายนัก ต่างก็คอยระแวงคนอื่นๆ ต่างก็ไม่กล้าที่จะลงมือก่อน

 

“ ตูม “

 

ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีคนเคลื่อนไหวแล้ว ทว่าเขากลับมิได่มุ่งหน้าไปทางด้านของแอ่งชำระกระบี่ เพียงแต่ชักกระบี่ยาวฟันออกไป มุ่งหน้ายังเงาร่างที่อยู่ทางด้านข้างออกไป หมายที่จะจัดการศัตรูไปก่อนคนหนึ่ง

 

“ เคร่ง “

 

ยอดฝีมือทางด้านข้างได้ดีดนิ้วออกครั้งหนึ่ง ดีดจนคมกระบี่เบี่ยงออก ทั้งยังเต็มไปด้วยพลังอันน่าหวาดกลัว

 

“ ตูม “

 

และในช่วงเวลาเดียวกัน ก็ได้มีคนมุ่งเป้าไปทางด้านของเยี่ยจง แล้วก็ได้ก่อเกิดเขม่าสีดำหมุนวนเป็นวงออกมา ทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีสังหารอย่างเข้มข้น เพียงแต่ว่าในสถานที่แห่งนี้ กับสมบัติปราณที่ถูกจำกัดพลังราวกับอาวุธปกติธรรมดาก็มิปาน กับการปะทะกันในสถานที่เช่นนี้ ไม่อาจที่จะใช้ออกมาด้วยพลังแท้จริงออกมาได้

 

“ ก็ได้ จัดการคู่ต่อสู้ก่อน แล้วค่อยไปเก็บหัวใจพสุธาอีกที “ เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชา ความวุ่นวายเช่นนี้ถึงแม้ว่าจะเกินความคาดหมายของเขา แต่ก็มิได้หวาดกลัวแต่อย่างไร ทันใดนั้นก็ได้สะบัดฝ่ามือออกไป หยุดหอกดำเล่มนั้น การที่สามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ได้อีกซักหลายคน ก็ถือได้ว่ามีประโยชน์ต่อเขาเช่นกัน

 

“ ตัง “

 

เสียงที่ดังขึ้นมา ราวกับเพลิงไฟซาดกระเซ็น ฝ่ามือของเยี่ยจงก็ได้ตบไปยังทางด้านปลายหอกดำเล่มนั้นพอดี วินาทีนั้นเอง ก็ได้มีเสียงดังขึ้นมา ในเวลาเดียวกันบนพื้นดินที่ทั้งสองคนยืนอยู่ก็ได้แตกร้าวออก ชั้นบรรยากาศสั่นไหว เห็นได้ชัดว่าการลงมือครั้งในสถานที่แห่งนี้ ทั้งสองคนต่างก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมดเช่นเดียวกัน

 

“ ฉี่ “

 

คมหอกอันคมกล้าได้หมุนวนเข้ามาอีกครั้ง ผู้ที่ลงมือไม่แม้แต่จะกล่าวคำพูดไร้สาระออกมาแม้เพียงครึ่งคำ เพียงแต่กระจายเงาหอกสีดำในมือ ระดับความเร็วอยู่ในระดับที่น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด มุ่งหน้าเข้ามาทางศีรษะของเยี่ยจง

 

เสียงที่ดังขึ้นมาในครั้งนี้กลับดังเสียดหูอย่างยิ่ง หากว่าเป็นยอดฝีมือขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตพสุธาแล้วละก็ เกรงว่าคงในขณะที่จะไม่ทันจะรู้สึกตัว ก็ต้องทอดร่างจากหอกเล่มนี้ไปแล้ว

 

ร่างกายของเยี่ยจงถอยออกไปทางด้านหลัง หอกดำราวกับมีจมูกรับรู้ได้ จนทำลายการโจมตีที่เข้ามา กลายเป็นเพียงแค่ปุ๋ยผง

 

“ ตูม “

 

เยี่ยจงสะบัดฝ่ามือลงสู่พื้นคราหนึ่ง ร่างกายราวกับงูพิษก็มิปาน ไหลไปกับพื้นดิน แล้วก็เข้าไปทางด้านหลังของเงาร่างสายนั้น จากนั้นเขาก็ได้ใช้มือขวาดุจกระบี่ กวาดออกไปบริเวณทางด้านหน้าออกไป คล้ายดั่งของมีคมฟาดไปท่ามกลางอากาศ

 

เงาร่างสายนี้นิ่งเฉยอย่างยิ่ง มันทราบว่าถ้าเกิดยังขยับหอกดำในมือต่อไปก็คงจะไม่ทันการณ์แน่ ได้แต่เพียงแต่ฟาดฝ่ามือออกไป ปล่อยหอกดำลง ตบเข้าไปทางด้านบริเวณที่เยี่ยจงเข้ามา แล้วก็เปลี่ยนจากฝ่ามือเป็นดัชนีอีกครา

 

“ ซูม “

 

ต่อให้เยี่ยจงที่มีจิตใจแน่วแน่ ในตอนนี้ก็ยังต้องเปลี่ยนสีหน้า คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายถึงกลับมาความกล้าเช่นนี้ คิดที่จะใช้กระบวนท่าแลกกระบวนท่า ควรทราบว่าสถานที่แห่งนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง ถ้าหากได้รับบาดเจ็บไป มีหรือที่จะได้รับบาดเจ็บที่เบาบาง ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงกลับกลาย กลายเป็นตายลงในที่สุด

 

เยี่ยจงใช้ออกด้วยพลังดัชนีไปในทันที แลกเปลี่ยนฝ่ามือกับเงาร่างสายนั้นไปในทันที วินาทีนั้น เสียงของอาวุธเสียดแทงกันก็ดังขึ้นมา ฝ่ามือดัชนีของทั้งสองคนก็ได้ส่องเป็นประกายขึ้น เป็นประกายสดใสอยู่ยิ่ง

 

ทั้งสองคนต่างก็เป็นยอดฝีมือที่มีพลังอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้า พลังกายถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างมาก ราวกับเป็นดั่งขอบเขตระดับตำนานก็มิปาน เหมือนดั่งดวงดาวขนาดใหญ่สองดวงพุ่งเข้าชนกัน น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

 

“ โครม “

 

เสียงๆหนึ่งดังขึ้น ในระหว่างที่ร่างของทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน ในครั้งนี้ ในที่สุดเยี่ยจงก็พอที่จะมองร่างกายของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน อีกฝ่ายที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายดั่งมนุษย์ ราวกับเหมือนลิงตัวหนึ่ง ทั่วทั้งร่างกายปกคลุมไปด้วยขนสีแดง แต่ว่าบนหัวกลับมีขนเป็นสีขาว สาดส่องเป็นประการอย่างยิ่ง

 

“ จูเยียน “ เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้นช้าๆ สีหน้าประหลาดอย่างถึงที่สุด นี้ถือได้ว่าเป็นเผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพที่แข็งแกร่งอย่างมากชนิดหนึ่ง อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีความแข็งแกร่งมานับตั้งแต่โบราณกาล ในตำนานกล่าวกันว่าเมื่อมีจูเยียนปรากฏตัวขึ้นมาในบริเวณใด ทั่วทั้งฟ้าดินก็จะเกิดความวุ่นวาย ต้องใช้ทหารทั่วสารทิศเพื่อจัดการ เพียงแค่ข้อนี้ ก็พอที่จะทำให้ทราบได้ว่า เผ่าพันธุ์นี้มีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน

 

เลือดเนื้อของเผ่าพันธุ์นี้มีความแข็งแกร่งในอีกด้านหนึ่ง แต่ว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นดั่งเทพก็เรียกได้ว่าย่อมต้องมีทักษะยุทธ์ในระดับสูงที่น่าตกใจ แต่ยังดีที่ในตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะใช้ออกด้วยทักษะยุทธ์ได้ ไม่เช่นนั้นแม้แต่เยี่ยจงเองก็ใช่ว่าจะแน่ใจได้ว่า ตนเองจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้กับอีกฝ่ายได้หรือไม่

 

“ ตูม “

 

จูเยียนพลิกสองมือพลาดไป ในเวลาเดียวกันก็ได้เข้าไปกดทับบริเวณทางด้านข้างของเยี่ยจง คิดที่จะสังหารเยี่ยจงในทันที

 

สีหน้าเยี่ยจงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แล้วก็ใช้ออกด้วยฝ่ามือทั้งสองในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังไม่หลบกระบวนท่านี้ที่โจมตีเข้ามาของจูเยียน

 

“ ซูม “

 

ร่างกายของทั้งสองคนได้สั่นไหวในเวลาเดียวกัน ต่างก็ถอยออกไปทางด้านหลัง เยี่ยจงหรี่ตามองช้าๆ เขาที่ได้ฝึกปรือวิชาลมปราณโบราณหกกระบี่สุสาน อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังได้ฝึกฝนร่างกายโดยใช้สมบัติโลหิตมังกรแท้ พลังร่างกายในตอนนี้เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือจากยอดฝีมือขอบเขตชั้นฟ้าไปอีกขั้นแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะไม่อาจที่จะทำอันใดอีกฝ่ายได้

 

และในเวลาเดียวกันนี้เอง จูเยียนก็ได้พินิจเยี่ยจงโดยรวม สีหน้าทอแววสงสัยเต็มสิบส่วน ร่างกายของมันที่เป็นถึงเผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพ มีเส้นลมปราณที่เก่าแก่ ทั้งยังมีเลือดเนื้ออันแข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบ สิ่งมีชีวิตปกติเรียกได้ว่าไร้หนทางที่จะต่อกรได้ แต่ว่าเยี่ยจงในตอนนี้ยังดี การปะทะในหลายครั้งเรียกได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างจากมันมากนัก

 

“ สี่ราชันแห่งเผ่ามนุษย์เยี่ยจง ข้าจดจำเจ้าได้แล้ว “ จู่เยียนเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา ท่ามกลางภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความดุร้ายขึ้นมา ยอดอัจฉริยะแห่งเผ่ามนุษย์เช่นนี้ยังไงก็ต้องฆ่าให้ได้ ไม่เช่นนั้นถ้าปล่อยให้เติบใหญ่จนถึงวันหน้า แน่นอนว่าจะต้องเป็นศัตรูตัวร้ายของทุกเผ่าพันธุ์อย่างแน่นอน

 

“ สัตว์ประหลาด โลหิตบริสุทธิ์ของเจ้าข้าเองก็ชื่นชอบเหมือนกัน “ เยี่ยจงกล่าวเสียงแผ่วเบา ไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อคำพูดของฝ่ายตรงข้ามแม้แต่น้อย แต่กลับเดินออกมาก้าวหนึ่ง ใช้ฝ่ามือฟาดออกไปทางด้านหน้า

 

“ เคร่ง “

 

จูเยียนสูดลมหายใจเข้า ฟาดฝ่ามือออกไป ทันใดนั้นราวกับเห็นประกายสีเงินทั้งสองชิ้นพุ่งเข้ามาอย่างปะทะกันอย่างรุนแรงก็มิปาน ก่อเกิดเสียงดังสนั่นขึ้นในเวลาเดียวกัน ปะทุจนก่อเกิดประกายไฟขึ้น

 

“ เด็กน้อยผู้นี้ เมื่อเทียบกับตอนที่อยู่ทะเลมายาโลหิตก่อนหน้านี้ ยังถือว่าแข็งแกร่งขึ้นมาหลายส่วน “ บริเวณทางด้านของอีกฝั่งด้านหนึ่ง องค์ชายสิบสามหุบเขาแห่งตระกูลถังก็ได้กวาดง้าวไท่หยางออกมา จนทำให้ยอดฝีมือที่อยู่ทางด้านข้างถอยออกไป จากนั้นเขาก็ได้มองเข้าไปยังทางด้านของเยี่ยจง ทอประกายสีหน้าหวาดกลัวเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของเยี่ยจง ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย

 

“ ดีมาก อย่างนี้เจ้ายิ่งเหมาะสมที่จะเป็นลูกน้องของข้ายิ่งขึ้น เพื่อที่จะได้เชิดชูเผ่าพันธุ์ของข้า “ เงาร่างสีขาวก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจงในเวลาเดียวกัน ทอแววสีหน้าประหลาด มันฟาดฝ่ามือไปหนึ่งออกไป เพื่อที่มันจะได้ถอยร่างกายอันแข็งแกร่งไปได้

 

“ ตูมตูมตูม “

 

ในบริเวณที่เยี่ยจงและจูเยียนอยู่ ทั้งสองฝ่ายราวกับได้แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันไปแล้วนับสิบกระบวนท่าอย่างกะทันหัน ในทุกครั้งที่มีการแลกเปลี่ยนกระบวนท่า ต่างก็เป็นเหมือนดั่งประกายเพลิงที่มาจากฝ่ามือดัชนีของทั้งคนแผ่กระจายออกมา นี้ถือได้ว่าเป็นการเอาจริงของทั้งสองฝ่าย คล้ายดั่งดาวตกที่มีเปลวเพลิงเผ่าไหม้ตกลงมา

 

“ ถี่ “

 

ทันใดนั้นเอง ทั่วทั้งร่างกายของจูเยียนก็ได้สั่นไหวไปมา หัวไหล่ก็ได้ปรากฏรอยแผลขึ้นถึงสองแห่ง กระนั้นทั้งสองแห่งนี้ ก็มิได้ปรากฏขึ้นมาในทันที ร่างกายของมันขยับอยู่คราหนึ่ง บาดแผลก็ได้หายไป ตนเองถอยหลังไปครึ่งก้าว บาดแผลคืนกลับมาสู่สภาพเดิม

 

“ คิดที่จะใช้ทักษะยุทธ์ในสถานที่แห่งนี้งั้นหรือ ? “ เยี่ยจงเกิดอาการสงสัยขึ้น จึงค่อยมีปฏิกิริยากลับมา เมื่อครู่อีกฝ่ายถูกยั่วยุจนโกรธ คิดที่จะใช้ออกด้วยทักษะยุทธ์ แต่ว่ายังไม่ทันจะได้ลงมือก็ถึงพลังของสถานที่แห่งนี้กดทับทันที จนได้รับบาดเจ็บ

 

“ นี้คือเจ้ามาหาที่ตายหรือไง “

 

เยี่ยจงหัวเราะเย็นชา ขยับกายคราหนึ่ง ลอยหายออกไป ฟาดฝ่ามือลงไป ในครั้งนี้จูเยียนกลับไม่สามารถต้านทานได้ทัน ก็ได้ถูกฝ่ามือนี้ของเยี่ยจงกระแทกเข้าไปบริเวณทางหน้าอก จากนั้นก็ได้ถอยกายไปในทันที สีหน้าปั้นยากขึ้นมา

 

เพียงแต่ว่าพลังฝ่ามือนี้ของเยี่ยจงกลับทำให้จูเยียนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั้นก็เพราะว่าร่างกายของมันมีความแข็งแกร่งอยู่มาก แทบจะเรียกได้ว่าบุคคลทั่วไปยากที่จะต่อกรได้ ต่อให้เป็นเหล่าอัจฉริยะที่เยี่ยจงได้สังหารไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ถ้าคิดที่จะต่อกรกับเผ่าพันธุ์ดึกดำบรรพที่มีเส้นลมปราณโบราณชนิดนี้ คงจะต้องจ่ายค่าชดเชยออกไปไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“ ตูม “

 

ทันใดนั้นเอง เงาร่างสีขาวสายหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมา แขนข้างหนึ่งที่เป็นเหมือนดุจดั่งหยาดน้ำสายหนึ่งเข้ามาจากทางด้านหลังของเยี่ยจง ในช่วงเวลาที่สำคัญก็ได้เข้าไปจนถึงทางด้านใจกลางหน้าอกของเยี่ยจงเข้าไป

 

“ ตูม “

 

เยี่ยจงหันการ ฟาดฝ่ามือออกไป วินาทีนั้นก็ได้เกิดรอยแตกขึ้นท่ามกลางอากาศ อยู่ทั่วทั้งสี่ด้าน

 

นับตั้งแต่เริ่มเยี่ยจงก็ได้พุ่งเข้าหาเงาร่างสีขาวนั้นอย่างกะทันหัน มันก็ได้จัดการกับคู่ต่อสู้ของตนเองลง ในตอนนี้ก็ได้ฆ่าจนเสร็จ คิดหมายที่จะไปจัดการกับเยี่ยจงต่อ

 

แต่น่าเสียดายที่เยี่ยจงมีปฏิกิริยากลับมาได้เร็ว ถึงแม้ว่ามันจะฟาดฝ่ามือออกมา แต่ก็ไม่อาจทำอันใดเยี่ยจงได้

 

เยี่ยจงในตอนนี้ จูเยียน เงาร่างสีขาวที่มีสภาพคล้ายกับเตาหลอมสามขาก็มิปาน ยืนอยู่ในบริเวณแห่งนี้ แต่ว่าในตอนนี้ต่างก็ไม่ลงมือออกมา เพียงแค่เตรียมพร้อม นั้นก็เพราะว่าในสถานที่แห่งนี้ ไม่มีผู้ใดที่พอจะสามารถเชื่อใจผู้ใดได้

 

“ พี่จูเยียน เผ่ามนุษย์ผู้นี้ก็ชังน่ารังเกียจเสียจริง ท่านเราร่วมมือกันจัดการเขาก่อน ค่อยมาพูดเรื่องอื่นกันดีหรือไม่ ? “ เงาร่างสีขาวในตอนนี้ก็ได้แผ่กระจายประกายสีขาวออกมาจากร่างอย่างช้าๆ เผยให้เห็นเงาร่างที่บางเบา ที่แท้ก็เป็นสาวน้อยที่ดูงดงามสดใสอย่างถึงที่สุดนางหนึ่ง ใบหน้าของนางได้คลุมไว้ด้วยผ้าคลุมหน้าบางๆชั้นหนึ่ง ปกปิดใบหน้าในตอนนี้เอาไว้ ทว่าสองแขนที่เป็นเหมือนดั่งหยาดน้ำของนาง กลับโปร่งใสจนมองทะลุได้ ความโปร่งใสเหล่านี้เหมือนดั่งความคมอยู่เป็นชั้นๆ เต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีสังหารอันน่าหวาดกลัว

 

“ เผ่าหวินฮู่(พยัคฆ์เมฆา) “ เยี่ยจงจ้องมองไปโดยรอบ จดจำร่างกายของหญิงสาวนางนี้ออก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งถึงเผ่าพันธุ์ราชาในหมู่เผ่าพันธุ์พยัคฆ์ขาว เผ่าพยัคฆ์เมฆา เพียงแต่ว่าในตอนนี้กลับกลายสภาพเป็นเหมือนดั่งมนุษย์ ทั้งยังมีพลังอันแข็งแกร่งขนาดนี้อีก

 

“ ถึงแม้ว่าข้าจะรังเกียจเจ้าอย่างมาก แต่ว่าเผ่ามนุษย์ผู้นี้กลับยุ่งยากมากยิ่งกว่า “ จูเยียนทอประกายตาเย็นชา มันจ้องมองไปทางด้านหลังแล้วก็ตอบรับช้าๆ จากนั้นร่างกายก็ได้ขยับคราหนึ่ง จนกระทั่งขยับมุ่งหน้าเข้าโจมตีสังหารเยี่ยจงอีกครั้งหนึ่งเข้าไป ร่างกายของมันในตอนนี้ก็ได้ปะทุพลังความน่ากลัวออกมา เพื่อที่จะเข้าสังหารทางด้านที่เยี่ยจงอยู่

 

เยี่ยจงผสานมือฟาดออกไปในเวลาเดียวกัน บริเวณใจกล้าฝ่ามือก็ได้ทอประกายแสงสีโลหิตขึ้นมา เข้าชนกับจูเยียน ฝ่ามือดัชนีของทั้งสองก็ได้เข้าปะทะกัน ราวกับหินหยกเข้าปะทะ วินาทีนั้น ก็ได้มีเสียงดังจากการจู่โจมดังขึ้นมา น่าหวาดกลัวสุดเปรียบปาน

 

หวินฮู่หัวเราะอย่างเย็นชา ในตอนนี้ก็ได้พุ่งออกไป หยาดน้ำที่ปกคลุมอยู่เต็มแขนราวกับกระบี่ยาวสองเล่มก็มิปาน เหมือนดั่งใช้กระบี่ออกไปเพื่อคุกคาม มุ่งหน้าเข้าสังหารในบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด624

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset