เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 280 การช่วงชิงหัวใจพสุธา

ตอนที่ 280 การช่วงชิงหัวใจพสุธา

 

 

“ ซวบ “

 

ราวกับว่าเยี่ยจงเป็นคนแรกที่มีปฏิกิริยากลับมา ในทันทีที่ผู้คนทั้งหมดยังไม่ทันมีปฏิกิริยากลับมา เขาก็ได้ฟาดฝ่ามือออกไป ครอบคลุมอยู่บนหัวใจพสุธา

 

“ ตูม “

 

แล้วก็ได้มีเสียงๆหนึ่งที่ดังขึ้น หัวใจพสุธาได้ถูกเยี่ยจงตบออไป แบ่งเป็นกระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน หมายที่จะดำดิ่งเข้าภายในดิน ทว่าเยี่ยจงกลับมีโชคอย่างยิ่ง ในชั่วเวลาอันคับขันกลับฉวยโอกาสนี้ได้ เขาถึงกลับคว้าไปที่หัวใจพสุธาได้เพียงสามตัว เพียงแต่ว่าอสรพิษเล็กที่เป็นหัวใจพสุธาในตอนนี้ เยี่ยจงกลับไม่อาจที่จะคว้าการไหลลื่นของมันเอาไว้ได้ ราวกับคิดหมายที่จะหลบหนีไป

 

“ ตาม “

 

บุคคลอื่นๆกลับไม่ได้กล่าวอันใดออกมา เพียงแค่แต่ละคนต่างก็มาเพื่อที่จะเชยชมหัวใจพสุธานี้ ต่างฝ่ายต่างก็ลงมือ คิดหมายที่จะช่วงชิงหัวใจพสุธา นั้นก็เพราะว่าขอเพียงได้ครอบครองหัวใจพสุธาดวงนี้ ก็เพียงพอที่จะก้าวเข้าสู่พลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ เหล่าอัจฉริยะที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ต่างก็อยู่ในขอบเขตชั้นฟ้าแล้ว ยิ่งไม่อาจที่จะพลาดโอกาสในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน

 

“ เพียงแค่สามตัว พอแล้ว อย่าได้โลภไป ข้าจะช่วยเจ้าหยุดยั้งพวกเขาเอาไว้ “ เสี่ยวหลุนส่งเสียงดังขึ้นมาภายในจิตใจ จากนั้นก็ได้สาดส่องประกายสีขาวออกมาประทับอยู่บนตัวของอสรพิษน้อยทั้งสามตัว แล้วก็ได้ปรากฏประกายสีขาวขยับสั่นไหวไปมาอยู่เล็กน้อยขึ้นมา แล้วก็ได้ถูกเสี่ยวหลุนดูดกลืนเข้าไปภายใน

 

“ สิ่งของก็ครบแล้ว พวกเราก็จากไปกันเถอะ ไปเสาะหาสถานที่เพื่อที่จะหล่อหลอมหยดน้ำเซียนให้เจ้ากัน เพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายกัน “ เสี่ยวหลุนส่งเสียงออกมาอย่างรวดเร็ว

 

“ แล้วแล้วของเหล่านั้นเล่า ? “ เยี่ยจงเกิดความลังเล จ้องมองไปทางด้านหลัง ในตอนนี้องค์ชายสิบสามและคนอื่นๆต่างก็ลงมือไปด้วยกำลังทั้งหมด เพื่อที่จะได้ช่วงชิงหัวใจพสุธา อีกทั้งเขายังไม่คิดที่จะพลาดไปได้

 

“ ไม่ต้องไปแล้ว อย่าได้โกรธความโลภจนเกินไปก็พอ พวกเขาไม่อาจที่จะหยุดยั้งหัวใจพสุธาเอาไว้ได้อยู่หรอก นั้นก็เพราะว่าสิ่งนั้นมีชีวิต เพียงแค่สามตัวก็เพียงพอสำหรับข้าแล้ว รีบออกไปเร็ว “ เสี่ยวหลุนเร่งเร้าขึ้นมา เห็นได้ว่าสิ่งที่มันพูดออกมาถือได้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

 

เยี่ยจงเกิดความสงสัยขึ้นมา กระทั่งไม่เกิดความลังเลอีก เพียงแต่ขยับกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่คนอื่นๆยังแย่งชิงหัวใจพสุธาไม่ได้ แน่นอนว่าคงจะไม่หันกลับมาสนใจตนเองอย่างแน่นอน

 

“ ซวบ “

 

จากนั้นก็ได้ถอยกายออกมาจากแอ่งน้ำพสุธาไปอย่างรวดเร็ว กล่าวไปก็แปลกยิ่ง พลังกดดันของแอ่งชำระกระบี่ในตอนนี้กลับอ่อนโทรมลงไปแล้วหลายส่วน เยี่ยจงก็ได้เร่งความเร็วทะยานออกไปเร็วขึ้น จนออกมาถึงบริเวณรอบนอก

 

ในตอนนี้ พยัคฆ์ขาวที่ถูกเยี่ยจงฟาดไปก่อนหน้าก็ได้ฟื้นคืนพลังขึ้นมาแล้ว มันกำลังชี้นิ้วบ่งการยอดฝีมือเหล่านั้นอยู่ เพื่อที่จะให้เด็ดยาปราณจำนวนมากออกมาท่ามกลางสวนยา ในตอนนี้ก็ได้เด็ดยาไปได้เจ็ดแปดส่วนแล้ว

 

“ พี่พยัคฆ์ขาว ขอบคุณนะ “

 

เยี่ยจงปาดมือเข้าใกล้ปานสายฟ้าฟาด เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็ได้ซัดพยัคฆ์ขาวลอยกระเด็นออกไป จากนั้นไม่พูดอะไรอีก แล้วก็ได้นำยาปราณจำนวนมากเหล่านั้นเก็บเข้าไปภายในห่อผ้าของตนเอง ในขณะที่แบกขึ้นมาที่หลังเตรียมที่จะพุ่งตัวออกไป

 

ยังดีที่เสี่ยวหลุนทนมองต่อไปไม่ได้ มันก็ได้สาดประกายแสงสีขาวออกมา จนเก็บยาปราณจำนวนมากเหล่านั้นเอาไว้ เยี่ยจงก็ไม่กล่าววาจาไร้สาระ เพียงแต่พยักหน้า แล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว

 

เขาไม่เพียงแต่จะได้หัวใจพสุธาถึงสามตัว ทั้งยังนำยาปราณจำนวนมากที่เตรียมไว้ให้หญิงสาวหวินฮู่ที่มีถึงเจ็ดแปดส่วนหายไปใจหมดสิ้น หญิงสาวหวินฮู่หากว่าได้ทราบ แน่นอนว่าต้องกระอักโลหิตออกมาแน่

 

“ ซวบ “

 

เยี่ยจงทะยานร่างกายเข้าไปสู่กลุ่มพงไพร่ จนออกมาถึงทางด้านนอกเขตแดน ในขณะนั้นเอง ลมปราณโลหิตภายในกายของเขาก็ได้เคลื่อนไหวในเวลาเดียวกัน ที่ได้ถูกขอบเขตนี้จำกัดเอาไว้ ก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมาในที่สุด

 

“ เจ้าออกมาแล้วงั้นหรือ ? สำเร็จหรือไม่ ? “ องค์หญิงสี่มองไปที่เยี่ยจงอย่างตกใจ นั้นก็เพราะว่าในตอนนี้นางกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า บรรยากาศรอบกายของเยี่ยจงได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วหลายส่วน มีบางส่วนที่ดูเหมือนไม่คุ้นเคยขึ้นมา

 

“ ถือได้ว่าสำเร็จละกัน “ เยี่ยจงพยักหน้า เขาโยนยาปราณหลายสิบชิ้นไปให้แก่องค์หญิงสี่ แล้วก็กล่าวอย่างเร่งร้อน “ จดจำเอาไว้ นำแต่นี้เป็นต้นไป เราท่านถือว่าไม่รู้จักกัน เด็กน้อยแห่งรัฐต้าโจวเหล่านั้นก็ได้แต่พึ่งพาเจ้าคอยคุ้มครองแล้วนะ “

 

หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงราวกับมีเป้าหมายอยู่แล้วก็ได้พุ่งกายออกไปอีกทางด้านหนึ่งปานสายฟ้าแลบ ในลักษณะนั้นเอง ราวกับทางด้านหลังมียอดฝีมือจำนวนมากไล่ล่าก็มิปาน

 

องค์หญิงสี่เหม่อมองไปทางด้านที่เยี่ยจงจากไปด้วยสีหน้าประหลาด ทั้งยังสงสัย เยี่ยจงผู้นี้หรือว่าอาจจะได้ครอบครองหัวใจพสุธาภายในแอ่งชำระกระบี่แล้วงั้นหรือ ? ถึงกลับได้วิ่งหนีออกไปรวดเร็วถึงเพียงนี้ ?

 

“ โอ๊ว “

 

ภายในชั่วเวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วยาม ท่ามกลางหุบเขาก็ได้เกิดเสียงร้องดังสนั่นขึ้นมา จากนั้นก็ได้พบกับเงาร่างของยอดฝีมืออันแข็งแกร่งทะยานออกมาเป็นสาย ทันทีได้ที่ได้ปรากฏตัวขึ้นมา ร่างของพวกมันก็ได้เต็มไปด้วยรังสีโลหิต แผ่กระจายเป็นบรรยากาศอันน่ากลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“ องค์ชายสิบสามถังกู่ ยอดฝีมือแห่งเผ่าพยัคฆ์เมฆา(หวินฮู่) จูเยียน ฟินิกซ์เก้าเศียร ……… “

 

เมื่อได้เหม่อมองเหล่ายอดฝีมืออันแข็งแกร่งเหล่านี้ แม้แต่องค์หญิงสี่เองก็ยังต้องเกิดความหนาวสั่น หนึ่งในนั้นไม่ว่าจะเป็นผู้ใดต่างก็ถือได้ว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะแห่งยุค ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดต่างก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลในระดับตำนาน ทั้งยังใช่ว่าจะสามารถกดดันการมีอยู่ของพวกเขาเหล่านี้ได้ เมื่อครู่เยี่ยจงคงจะไม่ใช่ได้แย่งชิงกับพวกเขาภายในหรอกนะ ?

 

“ เยี่ยจง มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่ได้รับหัวใจพสุธาไปถึงสามตัว ไม่ว่าเขาจะฝึกปรือได้สำเร็จก่อนแล้วหรือไม่ ก็ต้องเสาะหาออกมาให้จงได้ ไม่เช่นนั้นแล้วทั่วทั้งผืนดินคงจะก่อเกิดความวุ่นวายเพียงเพราะคนเพียงผู้เดียวแน่ “ จูเยียนตะโกนออกมา ด้วยสีหน้าอันดุร้าย ท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้ช่วงชิงหัวใจพสุธาล้มเหลว ไม่มีผู้ใดที่พอจะสามารถขวางรั้งหัวใจพสุธาเอาไว้ได้อยู่ แล้วก็ไม่ทราบว่าเยี่ยจงสามารถกระทำได้เยี่ยงไร

 

“ เขายังช่วงชิงยาปราณที่เผ่าข้าเก็บเกี่ยวมาอย่างยากลำบากไป ให้ตายเถอะ “ หญิงสาวเผ่าหวินฮู่ทอสีหน้าขมขื่น ร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยรังสีสังหาร หากว่าได้พบกับเยี่ยจงอีกครั้ง นางย่อมต้องสับร่างของอีกฝ่ายจนเป็นหมื่นชิ้น

 

“ องค์หญิงสี่ เจ้าอย่างน้อยก็พอที่จะทราบได้ว่าเยี่ยจงนั้นไปทางด้านไหนสินะ ? “ องค์ชายสิบสามที่อยู่ทางด้านหน้าก็ได้หันศีรษะกลับมากะทันหัน กวาดสายตามองไปที่องค์หญิงสี่อย่างดุดัน กล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา

 

องค์หญิงสี่ทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา นางกวาดสายตามองไปยังองค์ชายสิบสามคราหนึ่ง เอ่ยด้วยเสียงที่ดังกังวาน “ ต่อให้ทราบแล้วจะเป็นไร ? “

 

“ ที่แท้ องค์หญิงสี่ท่านกลับไม่มีความสนใจต่อขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายในตำนานอย่างงั้นหรือ ? กายเนื้อกลายเป็นสิ่งศักสิทธิ์ กลับกลายไม่สูญสลาย ตามคำล้ำลือของทั่วทั้งผืนฟ้า พลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย เจ้ากลับไม่มีความสนใจงั้นหรือ ? “ องค์ชายสิบสามจดจ้องมองไปที่องค์หญิงสี่ ด้วยสีหน้าเย็นชา เขาทราบว่าตนเองนั้นมีบุญคุณความแค้นกับเยี่ยจง หากว่าเยี่ยจงฝึกปรือขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายสำเร็จแล้วละก็ เช่นนั้นเกรงว่าเขาคงจะต้องถูกสังหารเป็นคนแรกแล้ว

 

“ หัวใจพสุธา กายเนื้อไม่สูญสลาย เขาได้รับแล้วจริงงั้นหรือ “ ในขณะนี้ สีหน้าขององค์หญิงสี่ก็ได้เปลี่ยนไปเป็นประหลาดใจอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์กันเช่นไร อีกทั้งนางเองก็ยังเดินอยู่ในเส้นทางยุทธ์สายนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นเกี่ยวกับหัวใจพสุธานี้ เกี่ยวกับขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายในตำนาน นางไม่อาจที่จะไม่มีความเสนาะสนใจได้

 

เพียงแต่ว่า หลังจากที่ได้ครุ่นคิดอยู่นาน นางก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วกล่าวออกมา “ ข้าบอกต่อพวกเจ้าได้เพียงว่า เขาจากไปในสถานที่แห่งนี้ไปเพียงครึ่งชั่วยาม อีกทั้งยังสถานที่แห่งใด แม้แต่ข้าก็ไม่แน่ชัดเหมือนกัน “

 

“ เขาคิดที่จะไปซ่อนตัวงั้นหรือ ? “ องค์ชายสิบสามทอสีหน้าสงสัย หลังจากนั้นไม่นาน เจาก็ได้กล่าวออกมาเสียงเย็นเยียบ “ ไม่ว่าเขาจะหลบซ่อนอยู่สถานที่ใด หรือแม้ว่าคิดที่จะออกไปจากสุสานกระบี่แห่งนี้ ทุกท่านหากว่ามีความสนใจแล้วละก็ ก็รีบขี่ม้าไล่ตามไปด้วยกัน รอคอยเขาอยู่ตรงบริเวณทางเข้ากัน ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถหล่อหลอมฝึกปรือหัวใจพสุธาในสถานที่เยี่ยงสุสานกระบี่แห่งนี้ได้หรอก สิ่งนั้นเป็นถึงหัวใจพสุธา ทั้งยังจำเป็นต้องหาสิ่งที่เป็นส่วนผสม จนกลายเป็นหยดน้ำเซียน ไม่เช่นนั้นก็ไม่อาจที่จะใช้ได้

 

“ หากว่าได้รับหัวใจพสุธา รอจนข้าและทุกท่านลงมือร่วมกัน หล่อหลอมหยดน้ำเซียน แบ่งไปคนละส่วน “ ในตอนนี้จูเยียนก็ได้สงบลงมา มันทราบดีว่าหัวใจพสุธายังจำเป็นที่จะต้องใช้ร่วมกับยาปราณโบราณเพื่อที่จะเข้าสู่วัตถุเซียน นั้นก็คือหยดน้ำก่อฟ้า สมบัติโลหิตมังกรแท้เป็นต้น หากว่าไม่มีสิ่งของเหล่านี้แล้วละก็ คิดที่จะใช้หัวใจพสุธาหล่อหลอมขึ้นมาแล้วละก็ เช่นนั้นสถานการณ์ต่อไปคงจะเกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้

 

ดังนั้น ในขณะนี้ยอดฝีมืออย่างพวกเขาต่างก็มีความเชื่อมั่นกลับคืนมา ขอเพียงเยี่ยจงยังมิได้ออกไปจากสุสานกระบี่แห่งนี้ พวกเขาก็ยังถือได้ว่ายังมีโอกาสอยู่

 

“ ถอย “

 

ในช่วงเวลาเดียวกัน เหล่าอัจฉริยะเหล่านี้ก็ได้ถอยไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหนไปทางด้านบริเวณที่เป็นปากทางเข้า พวกเขาได้เตรียมที่จะลงมือทำการแย่งชิง จัดการค่ายกลเอาไว้ ขอเพียงเยี่ยจงตกเข้ามายังตาข่ายวงล้อมนี้ สมบัติเซียนอย่างหัวใจพสุธา มีหรือที่จะตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นได้

 

“ ดูเหมือนว่า หากว่าต้องการที่จะให้เขาเข้าลัทธิของข้า นี้ก็ถือไดว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยเหมือนกัน “ องค์หญิงสี่เหม่อมองไปที่ฉากเบื้องหน้า หลังจากที่ครุ่นคิดขึ้นมา นางก็ได้นำแผ่นหยกออกมาชิ้นหนึ่ง จากนั้นก็ได้บีบลงไปเบาๆ นางกับองค์ชายสิบสามนั้นไม่เหมือนกัน นนางกลับไม่มีความต้องการที่จะช่วงชิงหัวใจพสุธานั้น ในทางกลับกันกลับคิดที่จะเชิญชวนเยี่ยจงเข้าสู่ลัทธิ เพื่อที่จะได้เป็นศิษย์ของลัทธิเหวินเจี่ยเซินเจรียว อย่างเช่นพวกเขาที่มีชื่อเสียงเช่นนี้ กลับสิ่งของเพียงแค่นี้ใช่ว่าจะมีความสำคัญมากมายอันใด นั้นก็เพราะว่าพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนวัตถุเซียนเหล่านี้ แต่ว่ากับพรสวรรค์อย่างเช่นเยี่ยจงนี้ พวกเขากลับขาดแคลนเป็นอย่างยิ่ง หากว่ามีโอกาสแล้วละก็ แน่นอนว่ายังไงก็ต้องเชิญชวนเข้าลัทธิให้จงได้

 

……

 

ท่ามกลางสุสานกระบี่ ก็ได้ก่อเกิดค่ายกลยันต์ขึ้น เยี่ยจงทะยานร่างออกไป ตามการนำทางของเสี่ยวหลุน ในที่สุดก็ได้มาจนถึงท่ามกลางลานพิธีโบราณแห่งหนึ่ง

 

ภายในใต้ดินของลานพิธีแห่งนี้กลับมีพื้นที่อันลึกล้ำยิ่ง ทางด้านบนกลับไม่ทราบว่ามีสิ่งปลูกสร้างมากมายเท่าไรกดทับอยู่ ต่อให้เป็นเยี่ยจงมาจนถึงสถานที่แห่งนี้ ก็คงจะต้องสูญเสียกำลังไปมากมายไม่น้อย

 

เพียงแค่ช่วงหนึ่งลมหายใจก็ได้เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ หลังจากที่เยี่ยจงเสาะหาอย่างระมัดระวัง จึงค่อยได้ทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น หอบหายใจแล้วกล่าว “ ตอนนี้เด็กน้อยเหล่านั้นคงจะไล่ตามกันมาไม่ได้แล้วละ “

 

ตามความเป็นจริงแล้ว อีกฝ่ายที่มีอยู่หลายคน ในตอนนี้เยี่ยจงกลับมีการคาดคะเนเอาไว้ภายในใจอยู่หลายส่วน ทางด้านฝ่ายนั้นต่างก็ถือได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะโดยทั้งสิ้น กำลังพลังเลือดเนื้อก็จัดได้ว่าอยู่ในระดับเดียวกันกับเยี่ยจง หากว่าไม่ออกมาจากผืนป่านั้น สามารถใช้ออกด้วยทักษะยุทธ์และสมบัติปราณแล้วละก็ ความแข็งแกร่งของพวกเขากลับยิ่งทวีความแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้ ดังนั้นที่เยี่ยจงวิ่งหนีมาอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นการต่อสู้เพียงหนึ่งต่อหนึ่ง เขาก็ไม่เกรงกลัวพวกเขาแม้แต่คนเดียว แต่ว่าถ้าหากเด็กน้อยเหล่านั้นล้อมโจมตีเข้ามาแล้วละก็ ต่อให้เป็นเยี่ยจง ก็มีแต่ต้องหนีเท่านั้น นี้ไม่ใช่เป็นเพราะว่าเยี่ยจงมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ แต่กลับเป็นเพราะผู้ที่มีการฝึกฝนมาจนถึงขั้นนี้ได้ ก็ใช่ว่าจะมีผู้ใดพอที่จะสามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดายก็เท่านั้น

 

“ พวกเขาสมควรที่จะไม่ไล่ตามมาแล้ว สถานที่แห่งนี้เป็นข้าก่อนหน้านี้ค้นพบเอง …….. “ เสี่ยวหลุนเอ่ยปากขึ้นมา แต่ว่ามันก็ได้หยุดพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่ได้กล่าวอันใดต่อ

 

เยี่ยจงมองไปทางด้านของเครื่องมือที่ถูกเตรียมเอาไว้ เสี่ยวหลุนก็ได้ปรากฏขึ้นมาทางด้านหน้าของตนเอง เขาไม่ได้ไล่ถามต่อไป เพียงแต่ว่าหลังจากที่ได้ครุ่นคิดแล้ว ก็ได้กล่าวออกมาเสียงเบา “ ต่อจากนี้พวกเราสมควรทำอย่างไร ? เสาะหาสถานที่ฝึกปรืองั้นหรือ ? ”

 

เสี่ยวหลุนส่งเสียงขึ้นมา “ เจ้าคุ้มกันให้กับข้า ข้าในตอนนี้จะหล่อหลอมหยดน้ำเซียนให้เจ้า สิ่งของเหล่านี้ข้าก็ไม่อาจที่จะควบคุมเอาไว้ได้นาน หล่อหลอมจนกลายเป็นหยดน้ำเซียนออกมาก่อน หากว่าเจ้าสามารถทำได้สำเร็จแล้วละก็ ข้าก็ยิ่งจะได้ประโยชน์มากขึ้น “

 

หลังจากที่สิ้นเสียง เสี่ยวหลุนสาดประกายแสงสีขาวออกมา แล้วก็ได้พบกับหัวใจพสุธาทั้งสามตัวปรากฏขึ้นมา จากนั้นก็ได้มีโลหิตมังกรแท้ปรากฏออกมา โลหิตมังกรแท้หยดนี้ดุจดั่งมังกรน้อยตัวเล็กๆก็มิปาน วัตถุนี้ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ จากนั้นก็ได้มียาปราณลอยออกมาอย่างวุ่นวายและโลหิตบริสุทธิ์ที่มันคายออกมา ละลานสายตาจนทำให้เยี่ยจงอึ่งจนอ้าปากตาค้าง เขากลับคิดไม่ถึงว่า เสี่ยวหลุนจะถึงกลับมาพลังความแข็งแกร่งได้จนถึงระดับนี้ได้

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด624

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset