เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 282 ความผิดพลาดเพียงชั่วขณะ ถือเป็นความผิดพลาดตลอดไป

ตอนที่ 282 ความผิดพลาดเพียงชั่วขณะ ถือเป็นความผิดพลาดตลอดไป

 

 

 

ท่ามกลางเตาหลอมยา หยดน้ำเซียนก็ได้เริ่มที่จะเปลี่ยนรูปลักษณ์ ตราสัญลักษณ์บนมือของเยี่ยจงเปลี่ยนแปลงไปมา ดุจดั่งกลายเป็นดั่งปราณโอสถขนาดใหญ่ก็มิปาน จนครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจง

 

“ บรึม “

 

ท่ามกลางสภาพที่รุนแรง ท่านใดนั้นก็ได้มีสายฟ้าฟาดลงมา เข้าไปยังเตาหลอมโบราณอย่างรุนแรง จนทำให้เตาหลอมเกิดความสั่นไหวไปมา ในเวลาเดียวกันบริเวณพื้นดิน ก็ได้ก่อเหิดเขม่าไฟสีดำโพยพุ่งขึ้นมา แต่ก็มิได้เข้าไปภายในเตาหลอมโบราณ พายุคบั่งได้เริ่มที่จะกู่ร้องขึ้นมาเสียงดัง ท่ามกลางสายลมก็ได้ก่อเกิดประกายสีทองคมกล้าขึ้นมาเป็นสาย แล้วก็ได้เข้าไปสู่ภายในท่ามกลางเตาหลอมโบราณ ……..

 

ในขณะนั้นเอง ความแปลกประหลาดมากมายนับไม่ถ้วนก็ได้เกิดขึ้น จนทำให้เตาหลอมโบราณราวกับเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมา หากว่าเป็นยอดฝีมือในดินแดนซีฮวง อย่าว่าแต่การเติบโตของเผ่าพันธุ์เพียงเผ่าหนึ่ง ต่อให้เป็นราชาแห่งรัฐกู่กว่อเมื่อพบเห็นฉากที่เกิดขึ้นเบื้องหน้าก็ยังต้องอ้าปากตาค้าง นั้นก็เพราะว่านี้เป็นปรากฏการณ์การก่อเกิดของโอสถเซียน จึงจะมีความสามารถที่พอเพียงทาจะทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้

 

ยังดีที่ในสถานที่แห่งนี้อยู่ภายในส่วนลึกลงไป ยังดีที่สถานที่แห่งนี้อยู่ภายในสุสานกระบี่ ยังดีที่สถานที่อย่างสมรภูมิฮวงกู่นี้มิได้มียอดฝีมือขั้นสูงส่ง มิเช่นนั้นแล้วละก็การเปลี่ยนแปลงเช่นนี้คงเป็นที่ดึงดูดของผู้คนอยู่มากมายนับไม่ถ้วน หากมิใช่ว่ามีที่พึ่งพึงอันแข็งแกร่งที่มีพลังฝีมือแล้วละก็ แทบจะไร้หนทางในการปกปิดการก่อเกิดของหยดน้ำเซียนได้

 

แต่ว่าสถานที่แห่งนี้เป็นถึงส่วนภายในสุสานกระบี่ ทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างระแวกแห่งนี้ที่พอจะรับรู้ได้ เยี่ยจงจึงพอที่จะหล่อหลอมหยดน้ำเซียนในสถานที่แห่งนี้ได้ ขอเพียงตัวเขามาความแข็งแกร่งที่เพียงพอก็พอแล้ว

 

หลังจากนั้นไม่นาน ลักษณะรูปลักษณ์นั้นก็ได้หายไป จนทำให้สีหน้าของเสี่ยวหลุนขยับเคลื่อนไหว

 

“ โครม “

 

ท่ามกลางเตาหลอมโบราณก็ได้เกิดเสียงดังขึ้นมา ดุจดั่งร่างกายเกิดการลอกคราบขึ้น โอสถทองประหลาดนั้นก็ได้เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่าง จนปรากฏรอยแตกร้าวขึ้น จากที่เป็นชิ้นเดียวกัน ก็ได้พบเห็นร่างกายของเยี่ยจง

 

“ มาจนถึงขั้นสุดท้ายแล้วสินะ จะหล่อหลอมหยดน้ำเซียนสำเร็จ หรือว่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของหยดน้ำเซียน จะเป็นมังกรเป็นอสรพิษ ก็ต้องดูที่ตัวเจ้าเองแล้วนะ “ เสี่ยวหลุนถอนหายใจออกมา ต่อให้ด้วยลักษณะนิสัยของมัน ในตอนนี้ก็อดที่จะเคร่งเครียดขึ้นมาส่วนหนึ่งไม่ได้ ตนที่มีความเป็นมาตั้งแต่โบราณกาล มิใช่ว่ามิเคยมีผู้ใดที่เคยเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้มาก่อน เพื่อที่จะได้มีกายเนื้อที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา

 

ตามความเป็นจริง ผู้คนที่หมายจะเดินเข้ามายังเส้นทางสายนี้มีมากมายยิ่ง มีอัจฉริยะนับไม่ถ้วนก่อนหน้าที่หลังจากที่เดินเข้ามายังเส้นทางสายนี้ แต่ว่า จุดสูงสุดนั้นถือได้ว่าอยู่สูงจนเกินไป กลับกลายเป็นว่ายอดฝีมือนั้น ท้ายที่สุดก็ได้ล้มเหลวลงในครั้งสุดท้าย ร่างกายแตกสลายลง จากพันทวีกลับกลายเป็นเพียงความว่างเปล่า

 

“ หยดน้ำเซียนนภาลัย มีไว้เพื่อที่จะทำให้เหล่ารุ่นเยาว์ของเผ่าเทพนภาลัยไว้หล่อหลอม แต่ว่าต่อให้เป็นเผ่าเทพนภาลัยที่มีพลังกายที่แข็งแกร่ง นั้นก็เพราะได้ใช้วิธีนี้ต่อเหล่าอัจฉริยะ แต่ก็มีเพียงหนึ่งในสิบ นั้นก็เพราะว่าวิธีเช่นนี้ถือเรียกได้ว่าเสี่ยงจนเกินไป ……. ไม่เพียงแต่จะต้องมีจิตใจที่ไม่ธรรมดา และวิชาลมปราณที่ไม่ธรรมดา อีกทั้งยังเป็นถึงวิชาในระดับตำนานเกี่ยวกับเส้นลมปราณทั้งหกอีก สมควรที่จะเรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ก็ว่าได้ แต่ว่าก็ยากที่จะกล่าว ……… “ เสี่ยวหลุนถอนหายใจ จากนั้นก็ได้ครุ่นคิด แล้วก็มิได้กล่าวอันใดออกมาอีก นั้นก็เพราะว่าต่อให้เป็นมันก็ใช่ว่าจะช่วยอันใดเยี่ยจงได้แล้ว ในเวลาเดียวกันมันก็ทราบได้ว่า หากว่าเยี่ยจงล้มเหลวแล้วละก็ อย่างน้อยมันก็คงจะต้องกลับไปจำศีลอยู่ภายในลานพิธีอย่างน้อยอีกนับพันปี รอคอยผู้ที่มีวาสนาอีกคนหนึ่งมาพบพาน

 

ท่ามกลางเตาหลอมโบราณ ในตอนนี้เยี่ยจงที่ได้นั่งสมาธิอยู่ ตราสัญลักษณ์บนมือก็ได้ค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปมา ตามความจริงแล้ว ทันทีที่ได้เข้ามายังท่ามกลางเตาหลอมโบราณนี้ เขาก็ทราบดีว่า เสี่ยวไม่เพียงแต่จะกล่าวเหลวไหลต่อตนเอง หยดน้ำเซียนนี้ ถือได้ว่าทำให้ร่างกายของผู้คนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน จนเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่ก้าว สำเร็จขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย

 

ในช่วงที่เขาได้เข้าสู่ขั้นระดับขั้นก่อฟ้าถือได้ว่ายาวนานอย่างยิ่ง ความจริงหากนับตามคุณลักษณะของเยี่ยจงเองแล้ว เขายังจำต้องสูญเสียกำลังและเวลาไปอย่างมาก จึงจะสามารถกระทำออกมาเช่นนี้ได้ เพื่อที่จะให้ตนเองเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าได้

 

แต่ว่าตามความเป็นจริง ในตอนนี้เมื่อได้หล่อหลอมหยาดน้ำเซียนแล้ว กำลังภายในของเยี่ยจงก็ได้เปลี่ยนเป็นใหญ่ขึ้นนับสิบเท่า หยดน้ำเซียนเหล่านี้อย่าว่าแต่เพียงหยดเดียว แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถเช่นนี้ จนเพียงพอที่จะทำให้ร่างกายของเยี่ยจงเกิดการปะทุได้ทุกเมื่อ

 

ยังดีที่ได้ทำตามวิชาเทพอันลี้ลับที่มีพลังอันมหาศาลชนิดหนึ่งของเสี่ยวหลุน จึงได้ทำให้มีการคุ้มครองร่างกายได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้เยี่ยจงสามารถหล่อหลอมหยดน้ำเซียนนั้นเข้าสู่กายได้ด้วยตนเอง

 

ในตอนนี้ กายเนื้อของเขาก็ยังมีความเปลี่ยนแปลงไม่หยุด กำลังภายในก็ได้ขึ้นมาถึงจุดเดือด ราวกับโลหิตมังกรบริสุทธิ์แต่สายได้ไหลเวียนไปมาก็มิปาน และคราบด้านนอกที่อยู่ทางด้านนอกของเขาก็ได้ตกลงสู่พื้นไปเป็นจำนวนมาก ราวกับว่าเขาพร้อมที่จะปะทุขึ้นมาได้ทุกเวลาก็มิปาน ประกายแสงสีทองก็ได้รวมรั้งไว้ด้วยโลหิตหลายสายหลั่งไหลออกมาดั่งโลหิต จากนั้นก็ได้กลับไปรวมตัวกันอีกครั้ง

 

เยี่ยจงถึงแม้ว่าจะมีโลหิตไหลออกมา แต่ว่าร่างกายของเขากลับแผ่ออกมาด้วยบรรยากาศอันประหลาดขึ้นมา ทั้งยังยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง เห็นได้ชัดว่า ได้ทำให้ร่างกายของเขาพร้อมจะระเบิดขึ้นมาได้ในเวลาเดียวกัน จนทำให้ร่างกายของเขาแผ่พุ่งความแข็งแกร่งออกมา

 

ในช่วงเวลาที่ได้หลั่งไหลไปเรื่อยๆ ทั่วทั้งสี่ทิศก็ได้ปกคลุมไปด้วยฤทธิ์ยาอย่างเข้มข้นจากภายในร่างกายของเยี่ยจงไม่หยุด จนทำให้ทั่วทั้งสรรพร่างของเขาเกิดความเจ็บปวดขึ้นมา คล้ายดั่งจะแตกระเบิดขึ้นมา ตามความเป็นจริง ร่างกายของเขาที่เรียกได้ว่าได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตที่ยากจะพบเจอได้ พันหมื่นปีจะมีการปรากฏขึ้นมา น้อยนักที่จะมีคนที่ฝึกฝนมาจนถึงขั้นนี้ได้สำเร็จ ทว่าเรื่องราวเมื่อได้ดำเนินมาจนถึงขั้นนี้แล้ว เยี่ยจงก็ไร้หนทางที่จะถอยได้แล้ว เขาได้แต่เพียงหล่อหลอมหยดน้ำเซียนไม่หยุด เพื่อที่จะทำการชำระร่างกายไม่หยุด ไม่หยุดที่จะทำให้พลังภายในร่างกายเกิดความสามารถที่เพิ่มมากขึ้น

 

แต่ว่า ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เยี่ยจงก็ยังไม่อาจที่จะสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงได้แม้แต่น้อย ควรทราบว่า หลังจากที่หล่อหลอมหยดน้ำเซียนแล้ว เยี่ยจงก็ทราบอย่างชัดเจน พลังภายในกายของตนเองในตอนนี้ได้ก่อรวมไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งมากมายมหาศาล ถ้าหากกล่าวว่า ร่างกายของเยี่ยจงเป็นเหมือนดั่งแม่น้ำสายใหญ่ ที่ด้านในมีเพียงแค่สายน้ำเพียงหนึ่งส่วนแล้วละก็ เช่นนั้นในตอนนี้แม่น้ำสายใหญ่สายนี้ภายในกายของเยี่ยจงก็เรียกได้ว่าเต็มเปี่ยมไปแล้ว อีกทั้งยังเรียกได้ว่ามีอย่างล้นเกิน อาจจะทำให้แม่น้ำสายใหญ่นี้ยากที่จะทานทนไว้ได้

 

แต่น่าเสียดายที่แม่น้ำก็ยังคงเป็นได้แค่แม่น้ำ มีหรือจะกลายเป็นผืนทะเลได้

 

ทว่าเยี่ยจงในตอนนี้ก็ยังไม่ได้ยอมแพ้ ถึงกับหล่อหลอมหยดน้ำเซียนเหล่านี้ไม่หยุดหย่อน ในเวลาเดียวกันก็ได้ควบคุมร่างกายของตนเองเอาไว้ เพื่อที่จะมิให้โลหิตไหลรินออกมาแม้แต่น้อย อีกทั้งยังทำให้ร่างกายของเขาเองมีพลังไหล่เวียนไปมาไม่หยุด

 

มาจนถึงขั้นนี้แล้ว พลังกระบี่หกสุสานภายในร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ไหลเวียนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นี้เป็นสิ่งที่ไหลเวียนขึ้นมาด้วยตัวของมันเอง ถึงแม้จะมิใช่เยี่ยจงคอยควบคุมเอาไว้ แต่ร่างกายก็ได้เริ่มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา การเปลี่ยนแปลงชนิดนี้ลี้ลับเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจที่จะกล่าวว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ เยี่ยจงจะคงสามารถฝึกฝนไปจนถึงขอบเขตของกายเนื้อไม่สูญสลายได้ แต่ว่าเมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ จึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาเลยก็ว่าได้

 

หลังจากนั้นสักพัก บาดแผลรอยแตกร้าวภายในร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ค่อยๆสลายหายไป กายเนื้อของเขาก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นดุจดั่งหยกบริสุทธิ์ก็มิปาน อีกทั้งเขายังได้เริ่มที่จะสูดหายใจออกมาได้ หยดน้ำเซียนที่หลงเหลืออยู่นั้นก็ได้เข้าไปตามรูขุมขนภายในร่างกายมากมายนับไม่ถ้วน ภายในร่างของเยี่ยจงในตอนนี้มีโลหิตมังกรไหลเวียนอยู่ บนร่างก็ได้ก่อเกิดประกายสายฟ้าสาดไปมา นี้คือการเริ่มเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ดั่งการเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย

 

“ บรึม “

 

ในขณะนี้เอง เตาหลอมโบราณก็ได้แตกออก ราวกับการระเบิดขึ้นก็ปาน ร่างกายของเยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้ปรากฏให้เห็นขึ้นอย่างโดดเดียว เพียงแต่ว่าในตอนนี้เขากลับมีความรู้สึกประหลาดชนิดหนึ่งอยู่บนฝ่ามือของตนเอง แล้วก็มองไปด้วยสีหน้าประหลาด

 

ภายในจิตใจของเยี่ยจงในตอนนี้ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความประหลาดเต็มสิบส่วน ร่างกายเลือดเนื้อของเขาที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ผิวหนังที่ดูกระจ่างขึ้น เมื่อเทียบกับในตอนก่อนที่จะเข้าไปยังภายในเตาหลอมโบราณ ความแข็งแกร่งก็เรียกได้ว่าทวีมากขึ้นมานับหลายเท่า ดุจดั่งกำลังยืนอยู่ในจุดสูงสุดของช่วงชีวิตก็มิปาน

 

แต่ว่า เขาในตอนนี้กลับยังคงอยู่ในขอบเขตชั้นฟ้าอยู่ มิได้มีความก้าวหน้าใดๆ ราวกับได้ปีนป่ายหุบเขาไปนับไม่ถ้วน แต่เมื่อทันทีที่ได้มายังจุดสูงสุด เขาก็ได้ค้นพบว่าจุดที่ตนเองเหยียบอยู่นั้นกลับเป็นเหมือนดั่งเช่นเดิมที่เคยมีมา

 

ความรู้สึกอันประหลาดเช่นนี้เรียกได้ว่าลี้ลับอย่างยิ่ง จนทำให้กล่าวอันใดออกมาไม่ออกอยู่หลายส่วน

 

“ นี้ …….. “

 

เสี่ยวหลุนจ้องมองไปที่เยี่ยจง อ้าปากตาค้าง มันก็คิดไม่ถึงว่า เยี่ยจงถึงกลับมีผลลัพธ์เช่นนี้ได้ อีกทั้งหยดน้ำเซียนนั้นก็ได้ถูกหล่อหลอมไปจนสะอาดหมดจด อีกทั้ง สภาพการหล่อหลอมของเยี่ยจงก็ไม่ได้มีสิ่งใดที่ผิดพลาด ถูกต้องสมบูรณ์เต็มสิบ แต่ว่าในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ภายในร่างกายของเขากลับมีความเปลี่ยนแปลงอย่างประหลาดชนิดหนึ่ง อีกทั้งเขายังขาดไปอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้น แต่ก็กลับยังมิได้เข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้สำเร็จ

 

“ เสี่ยวหลุน เจ้าเป็นอะไรไปแล้ว “

 

หลังจากที่ผ่านไปได้ไม่นาน ที่แน่ใจแล้วว่าในที่สุดตนเองก็ได้แข็งแกร่งขึ้นมามากหลายส่วน แต่ว่าในขณะที่ยังมิได้เข้าสู่ขั้นก่อเกิดขั้นที่เก้าอย่างแท้จริง เยี่ยจงจึงได้หันกายจ้องมองไปยังเสี่ยวหลุนที่อยู่ท่ามกลางอากาศ เอ่ยปากถามขึ้นมา

 

เสี่ยวหลุนเกิดความสงสัยขึ้นมา หลังจากนั้นไม่นาน มันก็ได้เผยความคิดอันลี้ลับออกมา ทั้งยังถามออกไปด้วยความสงสัยหลายส่วน “ น่าแปลกอย่างยิ่ง กับความแข็งแกร่งของกายเนื้อของเจ้าในตอนนี้ เมื่อได้ซึมซับหยดน้ำเซียนไปแล้วละก็ เช่นนั้นก็สมควรที่จะเรียกได้ว่าสำเร็จแล้วจึงจะถูกต้องสิ ควรทราบว่า ต่อให้เป็นเผ่าพันธุ์เทพนภาลัยเมื่อสำเร็จเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ฝึกฝนจะสำเร็จขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ก็ใช่ว่าจะสามารถดูดซับหยดน้ำเซียนจำนวนมากมายเพื่อหล่อหลอมได้ ……. แต่ว่าเจ้าไม่เพียงแต่หล่อหลอมไปเป็นจำนวนมาก ทั้งยังไม่สำเร็จจนเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า เช่นนั้นมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว “

 

“ มีความเป็นไปได้อันใด ? “ เยี่ยจงขมวดคิ้ว จ้องมองไปยังเสี่ยวหลุน

 

“ นั้นก็คือเจ้ามีพรสวรรค์ที่สวรรค์สั่งมา กายเนื้อแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบปาน อีกทั้งยังแข็งแกร่งกว่าเผ่าพันธุ์เทพนภาลัยอีกด้วย แต่ว่านี้เป็นไปไม่ได้ พลังกายของเจ้านั้นถือได้ว่าธรรมดาอย่างยิ่ง ถึงแม้จะเป็นเส้นลมปราณทั้งหก แต่ว่าว่ากล่าวกันตามเหตุผล เส้นลมปราณทั้งหกภายในกายนั้นถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ไม่ใช่จะอยู่เพียงแค่บนร่าง แต่กลับเป็นดั่งเส้นทางแห่งเทพ นี้เป็นไปได้อย่างไรกัน ……… “ เสี่ยวหลุนเกิดความสงสัย หยุดคิดไม่ได้ แต่ว่าจากที่มันเคยพบเจอ ในตอนนี้ยังถึงกับมองไม่ออก ที่แท้สิ่งที่เกิดขึ้นแท้จริงแล้วเป็นปรากฏการณ์อะไรกันแน่

 

“ ถ้างั้นต่อจากนี้จะทำอย่างไรดี ? นี้มันก็ถือได้ว่าสูญเสียสิ่งของไปไม่น้อยเหมือนกันนะ ทั้งหยาดน้ำก่อฟ้า หัวใจพสุธา โลหิตมังกรบริสุทธิ์ “

 

เยี่ยจงยังคงจ้องมองเสี่ยวหลุน ทราบดีว่ามันอย่างน้อยต้องทราบถึงบางอย่างที่เกิดขึ้นมาท่ามกลางฉากเบื้องนี้

 

“ ช่วยไม่ได้ สถานการณ์เช่นนี้สมควรเป็นที่หยดน้ำเซียนไปเพียงพอ แต่ว่าก็ช่วยไม่ได้ พวกเราก็ทำได้เพียงแค่หล่อหลอมหยดน้ำเซียนขึ้นมาอีกครั้ง จึงจะถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ต่อให้ต้องดูดซับยาปราณเข้าไปเป็นจำนวนมาก ในสภาพเช่นนี้ของเจ้า มีเพียงยาปราณไข่มุกนับพัน ก็สมควรที่จะเพียงพอแล้ว “ เสี่ยวหลุนอธิบายออกมาเพียงแค่นี้

 

“ ไข่มุกนับพัน “ เยี่ยจงกรอกตาไปมา “ ถ้าอย่างนั้นข้าแค่หล่อหลอมเจ้า จะสามารถเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าได้สินะ “

 

“ นี้ ก็ใช่ว่าจะไม่มีหนทางอื่นใด “ เสี่ยวหลุนฟังออกถึงเพลิงไฟที่ถูกก่อขึ้นภายในใจของเยี่ยจงในตอนนี้ มันก็ได้รีบถอยออกไปหลายก้าว หลังจากที่ครุ่นคิด ก็ค่อยกล่าวขึ้นมา “ ยังมีอยู่อีกวิธีหนึ่ง ความจริงแล้วในตอนนี้กายเนื้อของเจ้าเรียกได้ว่ามีความแข็งแกร่งอย่างเพียงพอแล้ว รวมไปทั้งยังมีพลังความน่ากลัวอย่างมากมายมหาศาล อีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ก็จะสามารถที่จะเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายไปได้ หรือจะให้กล่าวอีกอย่างก็คือ ขอเพียงมีโอกาสที่เหมาะสม เมื่อได้รับวาสนาเพียงสายเดียวมาอยู่ในกำมือ ความศักดิ์สิทธิ์เพียงหนึ่งเดียว ก็เพียงพอที่จะทำให้เจ้าทะลวงไปได้ ดังนั้น ในตอนนี้สิ่งที่พวกเราพอจะทำได้ นอกเสียจากการตามหาวาสนาเพียงสายเดียว ที่เป็นความศักดิ์สิทธิ์เพียงหนึ่งเดียว ……. ทั้งยังเป็นวิธีที่ดีที่สุด สมควรที่จะเป็นการต่อสู้ช่วงชิง ต่อสู้ช่วงชิงกับยอดฝีมือคนอื่นๆ จึงจะสามารถทำให้ลมปราณภายในร่างกายไม่เพียงพอได้ แล้วจึงจะหล่อหลอมความศักดิ์สิทธิ์นี้ จึงเรียกได้ว่าวาสนาเพียงสายเดียวนั้นเป็นเพียงก้าวสุดท้ายก็ว่าได้นั้นเอง “

 

“ จนถึงขั้นสุดท้าย การเสาะหายอดฝีมือเพื่อทดสอบงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงพยักหน้า เขาทราบว่าที่กล่าวออกมาเช่นนี้ ที่ตนเองมาจากโบราณกาลก็เรียกได้ว่าพบเจอการต่อสู้มาก็ไม่น้อย อีกทั้งจากลักษณะของเขาในตอนนี้ แน่นอนว่าไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ยาปราณอีกต่อไปแล้ว มีแต่ทำให้สูญเปล่าเท่านั้น และการชิงชัยนี้ จึงถือได้ว่าเป็นด่านที่สำคัญอย่างยิ่ง

 

“ เพียงแต่ว่า อีกฝ่ายนั้นไม่ง่ายที่จะค้นหาสิ “ เยี่ยจงถอนหายใจ ในตอนนี้เขามีความแข็งแกร่งเกินความคาดหมาย กับยอดฝีมือที่มีพลังขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้าในระดับเดียวกัน ก็ยังไม่อาจที่จะต่อกรได้ นึกไม่ออกวิธีใดที่พอจะใช้ได้

 

“ กลัวอะไรกัน ดินแดนซีฮวงนี้ใหญ่ยิ่งนัก เจ้ายังเกรงกลัวค้นหาภายใต้กองทราบนี้งั้นหรือ ? “ เสี่ยวหลุนข้าคงคุยโอ้ “ ยิ่งไปกว่านั้น มิใช่ว่ามีบุคคลอันลี้ลับอยู่คนหนึ่งอยู่แล้วอย่างงั้นหรือ ? ตำนานที่ได้เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายของท่านผู้นั้น สมควรพอที่จะสอนสั่งได้อยู่บ้างนะ “

 

เยี่ยจงเงียบงัน หลังจากนั้นก็ได้ครุ่นคิดต่อ แล้วก็ได้พยักหน้าขึ้นมาช้าๆ นี้ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7 ราคา 400
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด632

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset