เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 285 การสูญสลายของสำนักเสวียนหวิน

ตอนที่ 285 การสูญสลายของสำนักเสวียนหวิน

 

 

 

บริเวณทางเข้าสุสานกระบี่ ในตอนนี้ก็ได้มีบรรยากาศประหลาดปกคลุมไปทั่ว ยอดฝีมือมากมายต่างก็อ้าปากตาค้าง ถึงแม้จะเพียงต้องการที่จะทราบว่าหนึ่งในสี่ราชันเผ่ามนุษย์ที่แท้นั้นมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับใด ราชันเยี่ยจง ชื่อเสียงนี้คงมิใช่เป็นเพียงแค่คำเล่าลือแน่นอน

 

แน่นอนว่า ในตอนนี้ก็ได้มีผู้คนไม่น้อยต่างก็ทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด มีผู้คนไม่น้อยที่ถือได้ว่าอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้าแล้ว ที่ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ อีกทั้งยังมีความสนใจต่อหัวใจพสุธาที่ตกอยู่ในมือของเยี่ยจงเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่าเยี่ยจงในตอนนี้กลับแสดงฝีมือออกมาจนทำให้พวกเขาตื่นตกใจขึ้นมาได้ นั้นก็เพราะว่าสิ่งนี้เป็นเหมือนดั่งตัวบ่งบอก เยี่ยจงผู้นี้เป็นความยุ่งยากที่ใหญ่ยิ่ง คิดที่จะช่วงชิงสิ่งที่อยู่ในมือของเยี่ยจง เรียกได้ว่ายากเย็นไร้ที่เปรียบ

 

ดุจดั่งจูเยียน หวินฮู่ จิ่วฟ่งเป็นต้นที่ต่างก็เป็นอัจฉริยะที่เคยปะมือกับเยี่ยจงมาก่อน ที่ตอนนี้ได้ยิ้มอย่างเย็นชาอยู่ทางด้านข้าง พวกเขานั้นย่อมทราบดีแก่ใจ ธนูเงาเมฆาเพลิงในมือของเยี่ยจงนั้นได้มาจากเทียนจุ่ยแห่งเผ่าปีกนั้นเอง และภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ยังถึงกลับกล้าที่จะใช้ออกมาด้วยสมบัติเซียนชนิดนี้ออกมาอย่างไม่เกรงกลัว บ่งบอกได้ว่าเยี่ยจงนั้นมีความบ้าบิ่นมากถึงเพียงไร

 

“ บรึม “

 

บริเวณท่ามกลางสนาม ผู้อาวุโสราชันแห่งสำนักเสวียนหวินก็ได้ไขว่มือทั้งสองในทันที แล้วก็ได้พบกับคมเขี้ยวขนาดใหญ่ถูกเขาใช้ออกมา ด้านบนคมเขี้ยวนี้ได้มีตัวอักขระสาดส่องอยู่ ทั้งยังเต็มไปด้วยรังสีฆ่าฟัน

 

คมเขี้ยวนี้อย่างน้อยก็คงจะต้องมาจากปีศาจโบราณที่มีความแกร่งกล้าตนหนึ่ง ในตอนนี้ก็ได้มุ่งเป้าหมายสังหารไปทางด้านของเยี่ยจง เห็นได้ชัดว่า วัตถุชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้ถูกใช้ออกได้เหมือนดั่งสมบัติปราณ

 

“ ลงมือพร้อมกัน “ ผู้อาวุโสแห่งสำนักเสวียนหวินร้องขึ้นมา พลิกทั้งสองมือตบเข้าไปที่หน้าอกของตนเอง โลหิตก็ได้พุ่งขึ้นสู่ฟ้า เข้าไปยังภายในของคมเขี้ยว แล้วก็พบว่าที่ฉากเบื้องหน้า ยอดฝีมือมากมายของสำนักเสวียนหวินแต่ละคนต่างก็ได้ฟาดฝ่ามือเข้าที่บริเวณหน้าอกของตนเอง วินาทีนั้นเอง ก็ได้มีโลหิตพุ่งขึ้นสู่ฟ้า จนโลหิตเหล่านั้นไหลเข้าไปยังคมเขี้ยวนั้นเป็นสาย

 

การรวมตัวกันเข้าไปของโลหิต คมเขี้ยวนี้ก็ได้เริ่มที่จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา บริเวณทางด้านนอก ก็ได้มีพยัคฆ์ขนาดใหญ่ขึ้นตนหนึ่ง พยัคฆ์นั้นมีปีกอยู่คู่หนึ่ง อีกทั้งส่วนหางยังคล้ายดั่งอสรพิษ เป็นที่ชัดเจนว่าคือสัตว์ประหลาดในตำนานเก่าแก่ แข็งแกร่งสุดเปรียบปาน

 

“ อะไรกัน ? นี้ถึงกลับเป็นชิ้นส่วนของหนึ่งในเผ่าพันธุ์คมเขี้ยวงั้นหรือ อีกทั้งยังถูกใช้จนกลายเป็นสมบัติเซียนด้วย ? “ มีคนที่ตื่นตะลึงขึ้นมา ทอแววสีหน้าหวาดกลัวไม่หยุดนิ่ง

 

“ ความกล้าของสำนักเสวียนหวินนี้ก็มีมากเกินไปแล้ว ถึงกับแม้แต่คมเขี้ยวของสัตว์โบราณลู่หวูยังกล้าหล่อหลอม ไม่เกรงว่าจะถูกทั้งเผ่าพันธุ์นั้นไล่ล่าฆ่าสังหารถึงที่อย่างงั้นหรือ ? “

 

“ ทว่าก็เป็นเพียงแค่เขี้ยวเท่านั้น สมควรที่จะมิใช่ปัญหาใหญ่โตอันใด เพียงแต่ว่า สำนักเสวียนหวินถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ถึงกลับแม้แต่สมบัติเซียนเช่นนี้ยังสามารถใช้ออกมาได้ “

 

“ โฮก “

 

ภาพมายาที่เผยให้เห็นออกมาเป็นลู่หวูที่ดุร้ายตนหนึ่ง บริเวณร่างกายที่เต็มเปี่ยมไปด้วยไอโลหิต ดุร้ายคล้ายดั่งความบ้าคลั่ง มีพลังความแข็งแกร่งที่คล้ายดั่งความน่ากลัวชนิดหนึ่ง ภายใต้ผู้คนของสำนักเสวียนหวินที่ได้ควบคุมหมายใช้สังหาร

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว จ้องไปที่ภาพมายาที่มีลักษณะเป็นลู่หวู จากนั้นเขาก็ได้ค่อยๆเคลื่อนไหวธนูเงามายาเพลิงที่อยู่ในมือ วินาทีนั้น ก็ได้มีเสียงของประกายสายฟ้าดังออกมา เงาฮูเจรียวตนหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณทางด้านหลังของเขา

 

“ ตูม “

 

ตามความเคลื่อนไหวของธนูที่เยี่ยจงใช้ วินาทีนั้น คมศรก็ได้กลายเป็นเงาร่างของฮู่เจรียวเป็นดั่งประกายสายฟ้าพุ่งเข้าสังหารไปบริเวณทางด้านหน้า จนทำให้ลู่หวูที่อยู่ทางด้านหน้ากระเด็นออกไป

 

“ โอว “

 

ลู่หวูคำรามก้อง จนก่อเกิดเสียงอันน่ากลัวขึ้น แต่ว่าทันใดนั้นต่อมา คมศรก็ได้แตกสลายหายไป กลายเป็นเพียงประกายแสงที่อยู่ท่ามกลางอากาศไปในทันที

 

“ ที่แท้ก็คือธนูเงาเมฆาเพลิง สมบัติเซียนประจำเผ่าปีกนั้นเอง “ ราชันผู้อาวุโสแห่งสำนักเสวียนหวินทอสีหน้าเย็นชา ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ยขึ้นมา เยี่ยจงผู้นี้เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือการคาดเดาของพวกเขาไปมากแล้ว ถึงกับสามารถมีสิ่งของชนิดนี้อยู่ในการครอบครองได้ ทำให้ผู้คนยากที่จะเชื่อได้ลง

 

“โฮก “

 

ผู้อาวุโสสำนักเสวียนหวินก็ได้พลิกมือเป็นสัญลักษณ์ขึ้นจนกลายเป็นประกายแสงเข้าไปรวมกับลู่หวูอย่างรวดเร็ว แล้วเงามายาก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง เกิดกรงเล็บกวาดออกไป มุ่งหน้าเข้าจู่โจมบริเวณทรงด้านที่เยี่ยจงอยู่

 

ในระยะห่างที่ใกล้กันถึงเพียงนี้ เยี่ยจงจึงไม่มีแม้แต่เวลาในการรั้งสายธนูได้อีก ทวาในขณะนี้เขาเองก็ยังไม่ได้ใช้ออกมาด้วยกระบี่ดำ นั้นก็เพราะว่าต้องมช้ออกด้วยพลังมหาศาล เขาเพียงขยับกายเพียงเล็กน้อย มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปทางด้านหน้า จากนั้นก็ได้ใช้ออกด้วยพลังหมัด

 

“ โครม “

“咔嚓——”

เมื่อเทียบกับกรงเล็บของลู่หวู คมหมัดของเยี่ยจงยังถือได้ว่าอ่อนกว่า ความรู้สึกเหมือนดั่งแมลงเม่าชนิดหนึ่ง แต่ว่าเมื่อทันทีที่พลังหมัดของเยี่ยจงพุ่งเข้าปะทะกับกรงเล็บของลู่หวู วินาทีนั้น ก็ได้มีเสียงดังขึ้นสนั่นดังออกมา ดุจดั่งประกายสายฟ้าผ่าลงมา จนทำให้ผู้คนแสบแก้วหูอยู่ไม่น้อย

 

แล้วร่างร่างกายของลู่หวูที่อยู่ท่ามกลางอากาศก็ได้ขยับคราหนึ่ง จากนั้นก็ได้ถูกซัดจนกระเด็นออกไป กระแทกเข้ากับพื้น ในครั้งนี้กรงเล็บของมันก็ได้ถผุกทำลายลง ไม่อาจที่จะฟื้นคืนขึ้นมาได้อีก

 

“ เก็บ “

 

ผู้อาวุโสสำนักเสวียนหวินตกใจขึ้นมา เขาไม่กล้าที่จะใช้ออกมาด้วยสมบัติเซียนนี้อีก ได้แต่เก็บรั้งมันเอาไว้ แต่ว่าในช่วงเวลาที่เขากำลังเก็บสมบัติเซียนอยู่นั้น เขาก็ได้กัดฟันของตนเองจนเกือบแตก นั้นก็เพราะว่าด้านบนของคมเขี้ยวได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นสาย เห็นได้ชัดว่า ได้ถูกพลังหมัดของเยี่ยจงทำลายลง

 

ยอดฝีมือสำนักเสวียนหวินที่ล้อมรอบต่างก็ตะลึง เหม่อมองไปที่สมบัติปราณนี้ไม่กล่าววาจา ถึงแม้ว่าสมบัติเซียนที่อยู่ภายในเขตแดนสมรภูมิฮวงกู่จะถึงจำกัดพลังเอาไว้ แต่ว่าเยี่ยจงที่พึ่งพาแต่กำลังของร่างกาย ถึงกับสามารถทำให้สมบัติเซียนแตกหักได้ ความในข้อนี้ไม่ว่าจะมองเช่นไร ก็ถือได้ว่าทำให้ผู้คนยากที่จะเชื่อได้ลงได้

 

ยอดฝีมือคนอื่นๆยิ่งทอสีหน้าประหลาดมากขึ้นกว่าเดิม หากว่าไม่ได้เห็นกับตา คงยากที่จะเชื่อได้ลง

 

“ สำนักเสวียนหวินของพวกเจ้านี้ไม่ไหวกันเลยนะ ใช้คนมากมาสู้กับข้าเพียงคนเดียว แล้วผลลัพธ์ยังเป็นเช่นนี้อีก เจ้าพวกขยะ “ เยี่ยจงยืนอยู่บนรูปปั้น สะบัดมือขวาไปมา แล้วก็เอ่ยขึ้นมา

 

หลังจากที่เงียบงัน ยอดฝีมือของสำนักเสวียนหวินทั้งหมดต่างก็ได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน สีหน้าไปยากขึ้นกว่าเดิม ทั้งยังไม่น่าดู

 

วันที่ที่มียอดฝีมือแห่งสำนักเสวียนหวินรวมตัวกันอยู่มากมายเพื่อที่จะล้อมสังหารเยี่ยจง ความจริงแล้วด้วยพลังความแข็งแกร่งของพวกเขา ถ้าหากเรื่องเช่นนี้ได้แพร่ออกไปก็ถือได้ว่าขายหน้าเป็นอย่างยิ่งแล้ว แต่ว่า การล้อมสังหารเช่นนี้ไม่เพียงแต่ยังไม่เกิดผลลัพธ์ขึ้นมา อีกทั้งยังถูกเยี่ยจงเยาะเย้ยอีก จนทำให้พวกเขารู้สึกลำบากใจอย่างถึงที่สุด

 

“ ค่ายกลเมฆาสังหารลี้ลับ ในวันนี้ถ้าไม่ใช่เจ้าทรราชน้อยบัดซบผู้นี้ตาย ก็ต้องเป็นพวกเราวาย ต้องทำให้เขาตายให้ได้ “ ผู้อาวุโสสำนักเสวียนหวินดวงตาดำมืด แต่ก็ยังคงกัดฟันเอ่ยขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้ฟาดเข้าไปที่บริเวณหน้าอกของตนเอง จนกระทั่งกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง

 

ตามความเคลื่อนไหวของเขา สำนักเสวียนหวินเหล่านี้และเหล่ายอดฝีมือที่พวกเขาเชื้อเชิญมาหลังจากที่ได้สบตากัน แต่ละคนต่างก็ได้ฟาดฝ่ามือเข้าไปยังบริเวณหน้าอกของตนเอง

 

“ ฉึกฉึก”เสียงนั้นดังขึ้นไม่ขาดสาย กระอักโลหิตออกมาทีละคน การก่อรวมของโลหิตบริสุทธิ์เหล่านี้ ในที่สุดก็ได้ก่อค่ายกลล่าสังหารขึ้นมาท่ามกลางอากาศได้จนสำเร็จ มุ่งหน้าเข้าสังหารภายในบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

เห็นได้ชัดว่า นี้สมควรที่จะต้องเป็นวิชาฝีมือที่สำนักเสวียนหวินจัดเตรียมมาในครั้งนี้ ถ้าหากมิใช่อยู่ในชั่วเวลาคับขันแล้วละก็ พวกเขาย่อมไม่ใช่ออกมาด้วยกระบวนท่านี้แน่นอน แต่ว่าในตอนนี้สีหน้าของพวกเขาแต่ละคนต่างก็ได้เปลี่ยนเป็นสีดำ ไม่อาจที่จะไม่ลงมือ นั้นก็เพราะว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาไม่อาจที่จะพ่ายแพ้ได้ หากว่าพ่ายแพ้แล้วละก็ ชื่อเสียงของสำนักเสวียนหวินคงต้องป่นปี้แน่ คงจะต้องเป็นที่หัวเราะเยาะของคนในดินแดนซีฮวงแห่งนี้

 

ค่ายกลประจำสำนักเสวียนหวินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นค่ายกลล่าสังหาร ในตอนนี้ก็ได้เพิ่มเติมด้วยโลหิตบริสุทธิ์ของผู้คนในสำนักไปมากมาย จนปรากฏรังสีฆ่าฟันออกมานับไม่ถ้วน ราวกับสายลมอันบ้าคลั่งก็มิปาน จนกักขังเยี่ยจงเอาไว้ภายใน

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา ในครั้งนี้เขาก็ได้พลิกมือคราหนึ่ง เก็บธนูเงาเมฆาเพลิงเอาไว้ จากนั้นก็ได้กระโดดลอยขึ้นอยู่ท่ามกลางอากาศ กระบี่ดำในมือก็ได้ปะทุประกายคมกล้าสีดำออกมาเป็นสาย พลังความแค้นก็ได้รวมตัวกันจนกลายเป็นไอกระบี่ กระบี่นี้ของเยี่ยจง ก็ได้มุ่งหน้าเข้าสังหารฝ่ายตรงข้ามเข้าไป

 

“ ตูม “

 

วินาทีนั้น ค่ายกลสังหารก็ได้สั่นไหวขึ้น ยอดฝีมือสำนักเสวียนหวินต่างก็ร่างกายสั่นเทา ทั่วทั้งร่างกายบนล่างก็ได้มีโลหิตไหลออกมา แล้วก็ได้มีคนที่ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างไร้วี่แวว ตายจนไม่รู้จะตายยังไงได้อีก

 

“ อะไรกัน ? ค่ายกลผสานเมฆาลี้ลับก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้งั้นหรือ ? “

 

“ กระบี่ดำเล่มนั้นที่แท้ก็กระบี่เล่มที่เอาไว้ใช้ฆ่าสังหารศิษย์พี่ใหญ่งั้นสินะ “

 

ยอดฝีมือมากมายของสำนักเสวียนหวินก็ได้ทอสีหน้าดุร้าย ความแข็งแกร่งของเยี่ยจง เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปแล้ว ช่วงเวลาเพียงแค่หนึ่งเดือน ถึงกลับสามารถเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้ ความน่ากลัวเช่นนี้ เพียงแค่ช่วงเวลาเพียงหนึ่งเดือน เขาถึงกับสามารถพัฒนาขึ้นไปได้ถึงในระดับใดกัน ?

 

“ ขยะ “

 

เยี่ยจงส่งเสียงเย็นชา กวาดกระบี่ดำที่อยู่ในมือออก ไอกระบี่ก็ได้พุ่งออกมาอีกครั้ง

 

“ กร๊อบ “

 

เพียงพริบตา เสียงของการแตกหักก็ได้ดังออกมา ค่ายกลสังหารขนาดใหญ่ของสำนักเสวียนหวินก็ได้ถูกคมกระบี่ของเยี่ยจงกวาดออกไป ระเบิดออกไปจะไม่เหลือแม้แต่ประกายแสง

 

“ ฉึกฉึกฉึก “

 

บริเวณทางด้านหลัง ยอดฝีมือสำนักเสวียนหวินแต่ละคนก็ได้มีคนกระอักโลหิตสีดำออกมาคำโต ร่างกายโอนเอนไปมา ที่แท้ค่ายกลของสำนักเสวียนหวินนี้ก็ได้ใช้เคล็ดประสานใจเอาไว้ ในเมื่อในตอนนี้ถูกเยี่ยจงทลายลง ก็ได้ทำให้พวกเขาไม่น้อยต้องตายหรือไม่ก็สูญเสียพลังการต่อสู้ไป

 

“ ซวบ “

 

แล้วก็ได้ใช้ออกมาด้วยอีกหนึ่งกระบี่ คมกระบี่ในครั้งนี้คล้ายดั่งดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยว กวาดวาดออกไป ยอดฝีมือสำนักเสวียนหวินในตอนนี้ต่างก็มิอาจที่จะถอยได้อีกแล้ว ร่างกายของแต่ละคนสั่นเทาไปมา ต่างก็ได้ถูกสับจนร่างขาดเป็นท่อนๆ อีกทั้งศพยังกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นดิน

 

“ เป็นไปได้ …… ยังไงกัน …… “

 

ผู้อาวุโสสำนักเสวียนหวินปรากฎแววตายากที่จะเชื่อ เขาขยับร่างกายถอยไปทางด้านหลังอย่างช้าๆ ยื่นแขนขวาชี้ไปทางด้านผืนฟ้า สีหน้าของความอาฆาตและความยากจะเชื่อก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าในเวลาเดียวกัน ทั้งยังไม่ทันจะได้เลือนหายไป ภายในดวงตา ก็ได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวขึ้นมา

 

ยอดฝีมือของสำนักเสวียนหวิน ต่างก็หมดสิ้นด้วยสภาพเช่นนี้ไปทั้งหมด ในตอนแรกพวกเขาคิดที่จะดักฆ่าสังหารเยี่ยจง แต่ก็คิดไม่ถึงว่ากลับถูกเยี่ยจงสังหารกลับ สูญเสียไปอย่างหนัก ในตอนนี้แม้แต่ผู้มีชีวิตรอดแม้แต่คนเดียวก็ยังไม่หลงเหลือ

 

และยอดฝีมืออื่นๆที่เหม่อมองไปยังโลหิตที่ไหลรินอยู่ที่ฉากเบื้องหน้า อีกทั้งยังไม่เห็นคนที่มีชีวิตอยู่แม้แต่คนเดียว ต่างก็ต้องกรอกนัยน์ตาไปมา เยี่ยจงผู้นี้ พึ่งพากำลังของตนเองเพียงคนเดียว ฆ่าสังหารเหล่ายอดฝีมือสำนักเสวียนหวินลงได้ เรื่องเช่นนี้ถ้าเกิดลือออกไป แน่นอนว่าคงจะทำให้คนของสำนักเสวียนหวินไม่อาจที่จะเงยหน้ามองดูผู้คนได้อีกแล้ว

 

“ ยังมีผู้ใดคิดที่ขวางข้าอีกไหม ? “

 

ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนโลหิตในที่แห่งนี้ เยี่ยจงที่ถือไว้ด้วยกระบี่ดำ ก็ได้กวาดสายตามองไปทั่วทั้งสี่ทิศอย่างดุดัน เขาในตอนนี้ก็ได้จ้องมองไปด้วยสายตาที่สงบและเงียบงัน มียอดฝีมือไม่น้อยที่ราวกับได้ถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างไม่ตั้งใจ ไม่กล้าที่จะสบตามองกับเขา

 

แต่ว่าก็ยังคงมีอยู่อีกส่วนหนึ่งที่ไม่ได้ถอยหลังไป พวกเขาจ้องมองไปที่เยี่ยจง ด้วยสีหน้าประหลาด

 

“ เยี่ยจง เจ้าบังอาจเกินไปแล้ว ในตอนนี้หากว่าเจ้าส่งมอบหัวใจพสุธาออกมา เช่นนั้นก็จะคุยกันได้ง่ายขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ วันนี้ถ้าเจ้าคิดจะจากไปจากสถานที่แห่งนี้ เกรงว่าคงจะยากขึ้นหลายส่วน “ หญิงสาวเผ่าหวินฮู่ทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมา นางก้าวออกมาช้าๆ ตามการเคลื่อนไหวของเขา กลุ่มคนที่อยู่ทางด้านหน้าแต่ละคนก็ได้เดินออกมา พวกเขาต่างก็จ้องมองไปที่เยี่ยจง สีหน้าเคร่งเครียดประหลาด

 

“ ตูม “

 

บรรยากาศอันน่าหวาดกลัวสายหนึ่งก็ได้ออกมาจากร่างของหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ กายเนื้อที่เข้าปะทะด้วยก่อนหน้านี้ นางถือได้ว่ามีพลังไม่แพ้เยี่ยจง และในตอนนี้นางกลับใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด ยิ่งทวีความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีก

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 3/4/5/6/7/8 ราคา 500
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด640

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset