เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 291 การต่อสู้อันภาพภูมิ

ตอนที่ 291 การต่อสู้อันภาพภูมิ

 

 

“ ฮูม “

 

เมื่อเทียบกับผู้คนอื่นๆที่อยู่ในอาการตกใจ ยอดอัจฉริยะทั้งสองคนที่อยู่ท่ามกลางสนามก็มิได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก นกฮวางเชวียนยังคงใช้ออกมาด้วยทักษะยุทธ์ไม่หยุด จนกลายเป็นเงาวิหคเย้ยขึ้นสู่ท้องสภา มุ่งหน้าเข้าโจมตีเยี่ยจงอย่างไม่หยุดยั้ง

 

“ การต่อสู้ขั้นแตกหัก กล่าวไปก็เหมือนความฝันของผู้คน “ สีหน้าจูเยียนทอประกายเย็นเยียบ แต่ว่าพลองโลหิตในมือของมันก็ได้เริ่มที่จะทอประกายแสงสีโลหิตขึ้นมาอีกครั้ง ทุกครั้งที่โจมตีเข้ามาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังจนทำให้เกิดรอยแตกร้าวอันน่าหวาดกลัวทั่วทั้งผืนดิน

 

สีหน้าของเยี่ยจงยังคงอยู่ในสภาพดุดันดั่งเดิม เขาไม่ได้เอ่ยปากกล่าวอันใด กระบี่ดำในมือยังคงฟาดฟันออกไปไม่ขาดสาย จนทำให้ก่อเกิดคมกระบี่โพยพุ่งออกมา และโจมตีไปทางด้านหน้า

 

“ ซูมซูมซูม “

 

ทุกๆครั้งที่เข้าปะทะ ก็ได้มีประกายแสงสีทองพุ่งขึ้นฟ้า ก่อเกิดสายลมหมุนวน บนพื้นดินก็ได้ปรากฏรอยแตกขนาดใหญ่ขึ้นมาเป็นสาย เห็นได้ว่าเป็นการปะทะที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

 

“ โครม “

 

ท่ามกลางอากาศ เงาวิหคก็ได้แตกสลายลง นกฮวางเชวียนสีหน้าเปลี่ยนไปช้าๆ ถอยกายไปทางด้านหลังเกือบร้อยเมตร หาที่หลบซ่อนเอาไว้

 

แต่ในช่วงเวลาเดียวกัน จูเยียนก็ไม่ได้ถอยกลับไป พลองโลหิตในมือยังคงฟาดแทงออกไปจนเป็นประกายไม่หยุด กวาดวาดออกไป ความแข็งแกร่งของสายลมก็ได้ทำให้ก่อเกิดรอยแยกขนาดใหญ่อยู่บนพื้นดิน

 

จูเยียนและนกฮวางเชวียนนั้นไม่แตกต่างกัน เป็นเผ่าพันธุ์ที่มีกล้ามเนื้อแข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ บนกล้ามเนื้อนี้ เรียกได้ว่าเป็นความแข็งแกร่งที่ยากจะพบเจอเทียบเท่ากับจุดสูงสุดของแต่ละเผ่าพันธุ์ และในตอนนี้มันก็ได้ควบคุมพลังกระแสโลหิตจนกลายเป็นพลองโลหิตนี้ จึงได้ทวีพลังทำลายเป็นทวีคูณ

 

“ เปรี้ยง “

 

พลองโลหิตกระบี่ดำได้เข้าปะทะกัน วินาทีนั้นราวกับศิลาขนาดใหญ่ได้เข้ากระทบกันก็มิปาน แตกกระจายลอยออกไปในเวลาเดียวกัน

 

“ โครม “

 

บนฝ่ามือของจูเยียนก็ได้ปรากฏรังสีสังหารดังขั้นราวกับเสียงกระทบของเหล็ก มุ่งหน้ากวาดเข้าไปทางด้านบริเวณศีรษะของเยี่ยจง เยี่ยจงใช้ออกด้วยพลังหมัดเข้าปะทะ หมัดปะทะฝ่ามือ ทั่วทั้งร่างกายก็ได้ลอยคว้างอยู่ท่ามกลางอากาศอยู่รอบหนึ่ง ฝ่าเท้าย่างกลายลงปานมังกรสะบัดหาง วาดกวาดออกไป

 

สีหน้าของจูเยียนขยับเล็กน้อย ร่างกายได้ตอบสนองถอยหลังไปครึ่งก้าว แต่ว่าเมื่อได้ยินเสียงดัง”ตูม”ขึ้นมา จุดที่เขายืนอยู่เมื่อครู่ก็ได้ถูกเยี่ยจงฟาดฝ่าเท้าลงมาจนจมลึกลงไป

 

ฉากเบื้องหน้านี้ได้ทำให้ยอดฝีมือรอบด้านมองจนตาค้าง เยี่ยจงในตอนนี้ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่คับขันที่สุด แต่ว่าด้วยพลังการต่อสู้ที่ใช้ออกมานั้นเมื่อเทียบกับเมื่อช่วงแรกยังถือได้ว่าไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

 

สีหน้าของจูเยียนไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนัก มันเริ่มที่จะขยับร่างกายและไหลเวียนจนโลหิตทอเป็นประกาย ไม่นานนัก ทั่วทั้งร่างกายก็ราวกับถูกครอบคลุมไปอีกชั้นหนึ่งก็มิปาน ในเวลาเดียวกันกับที่คลุมการป้องกันอีกชั้น จูเยียนก็ได้ผสานมือฟาดออกไปทางด้านหน้าเบาๆ วินาทีนั้น ก็ราวกับได้พบว่าในตอนนี้มีสัตว์ประหลาดดึกดำบรรพพุ่งออกมาจากทรวงอกก็มิปาน ทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่แน่นอน พุ่งเข้าไปทางด้านของเยี่ยจง

 

ทักษะยุทธ์อันน่าหวาดกลัวชนิดนี้ ดุจดั่งคนผู้หนึ่งปะทะทหารม้านับหมื่นพัน อย่างน้อยก็น่าจะมีความเกี่ยวพันธุ์กับสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์เทพ สัตว์ประหลาดเหล่านี้ดุจดั่งสิ่งที่มีอยู่จริงก็มิปาน แต่ละตัวอยู่ในอาการบ้าคลั่ง หากว่าตกอยู่ภายใต้วงล้อม ไม่ว่ายอดฝีมือใดอย่างน้อยก็คงจะมีแต่พ่ายมากกว่าชัยชนะ

 

สีหน้าของเยี่ยจงเคร่งเครียดมากขึ้น บริเวณทางด้านหลังของร่างกายก็ได้มีเงามังกรปรากฏขึ้นมา ไม่นานนักเงามังกรก็ได้กลับเข้าที่เดิม กลับกลายรูปลักษณ์ดั่งเทพ พุ่งเข้าปะทะหมายสังหารออกไป กับกระบวนท่าที่จูเยียนใช้ออกมาด้วยสัตว์ประหลาดนับหมื่นพัน

 

เสียง”โครม”ดังขึ้นมา ทักษะยุทธ์ทั้งสองสายก็ได้สลายลงในเวลาเดียวกัน จนกลายเป็นเพียงประกายแสงที่กระจายออกมา แต่ว่าบนพื้นดินกลับมีเสียง”กึงกึง”ดังขึ้นไม่หยุด เกิดรอยแตกแยกขึ้นมาเป็นสายดุจดั่งใยแมงมุมก็มิปานกระจายออกมาไม่หยุด กระบวนท่าของทั้งสองคนถึงแม้ว่าจะดูแล้วธรรมดาไร้ที่เปรียบ แต่ว่าก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล เกินกว่าผู้คนจะคาดคิดเอาไว้ได้

 

กลุ่มผู้คนต่างก็สูดหายใจ การปะทะกันในระดับนี้ ความแข็งแกร่งนี้ได้ทำให้ไม่อาจละสายตา ระยะห่างของทั้งสองคนราวกับอยู่ในขอบเขตอีกขอบเขตหนึ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนอื่นๆต่อให้เป็นยอดฝีมือในขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้า แต่กลับไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสองคนนี้ได้ ถ้าเกดการปะทะขึ้นคงจะมีแต่ตายกับตาย

 

“ กึงกึงกึง “

 

บริเวณท่ามกลางสนาม เยี่ยจงและจูเยียนที่ใช้ทักษะยุทธ์เข้าปะทะกัน กลับกลายเป็นการปะทะที่เรียกได้ว่ายากเย็นที่สุด ทุกการปะทะของทั้งสองฝ่าย ต่างก็ทำให้ก่อเกิดเสียงที่ดังขึ้นมา วินาทีที่ประมือกันไปกว่าสิบกระบวนท่า จนกระบวนท่าสุดท้าย ทั้งสองคนก็ได้ฟาดฝ่ามือไปยังหน้าอกของฝ่ายตรงข้าม ร่างกายกระเด็นอกอไปในเวลาเดียวกัน

 

“ บรึม “

 

ร่างกายเยี่ยจงตกลงสู่พื้น กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง แต่ว่าโลหิตนี้กลับเป็นสีทอง แลดูเหมือนอยู่ในอีกขอบเขตหนึ่ง ทันทีที่กระอักออกมา ชั่วชณะนั้นเขาก็ได้ดีดกายกลับไป มิได้ทิ้งตัวกลับลงไป

 

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ตาม สีหน้าของเยี่ยจงก็ได้เปลี่ยนเป็นขาวซีดอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาได้ต่อกรกับสำนักเสวียนหวิน ฆ่าสังหารหญิงสาวเผ่าหวินฮู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกการระเบิดตัวเองของสมุดฟ้าไร้อักษรจนได้รับบาดเจ็บ บาดแผลบนร่างกายที่เดิมทีได้รับบาดเจ็บหนัก ถ้าร่างกายไม่ได้รับการฟื้นคืนแล้วละก็ ในตอนนี้ไม่แน่ว่าคงจะแตกสลายไปแล้วก็ได้

 

และในตอนนี้ ถึงแม้เขาจะฟื้นคืนพลังกลับมา แต่ว่าในชั่วขณะที่จำเป็นที่จะต้องคงสภาพของร่างกายเอาไว้ พลังลมปราณกระบี่หกสุสานก็ได้หล่อหลอมกายเนื้อ ในเวลาเดียวกัน เขากลับยังต้องคงระวังยอดฝีมือทั้งสองคนที่เป็นคู่ต่อสู้อยู่ เข้ารับการปะทะไม่หยุด สูญเสียพลังไปอย่างมากที่สุด ถ้าหากว่าเปลี่ยนเป็นผู้อื่นแล้วละก็ อย่างน้อยในตอนนี้ก็คงจะต้านเอาไว้ไม่อยู่แล้ว ไม่ก็คงร่างกายแตกระเบิดออก ถูกผู้คนสังหาร แต่ว่าเยี่ยจงยังคงยืนหยัดเอาไว้ได้

 

สีหน้าของเขายังคงความเย็นเยียบเอาไว้ จ้องมองไปบริเวณทางด้านหน้าอย่างดุดัน

 

“ เยี่ยจง ตอนนี้มอบหัวใจพสุธาออกมาก็ยังไม่ถือว่าสายไป “ นกฮวางเชวียนที่มีรูปลักษณ์เป็นทารกน้อยก็ได้พุ่งออกมาอีกครั้ง มันหัวเราะเสียงเย็นชา อ้าปากขึ้น วินาทีนั้นก็ได้พบว่าเห็นหินศิลาโบราณชิ้นหนึ่งลอยอยู่บนท้องฟ้า ศิลานี้แม้จะเป็นเพียงแค่เงามายา แต่กลับมีพลังอันน่ากลัวอย่างถึงที่สุด ดุจดั่งภูเขาหินผาก็มิปาน มุ่งหน้าเข้ากดทับเข้าไปหาอีกฝ่าย

 

ตามคำเล่าลือ จิ่วโช่งฮวางเชวียน(เก้าโหดร้ายฮวางเชวียน)นั้นถือว่ามีความประหลาดยิ่ง ไม่เพียงแต่ชอบแปลงกายเป็นมนุษย์ ทั้งยังมีความรอบรู้ดั่งเทพเซียน น่ากลัวไร้ที่เปรียบ และตอนนี้ ทักษะยุทธ์ที่นกฮวางเชวียนใช้ออกมา ก็เหมือนดั่งมีพลังเทพเซียนรวมอยู่ด้วยหลายส่วน เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังความน่าหวาดกลัว

 

เยี่ยจงทอสีหน้าหนักแน่น จากนั้นดวงตาก็ได้ประทุขึ้นมาอย่างประหลาด ตราสัญลักษณ์บนมือทั้งสองข้างก็ได้เปลี่ยนไปในทันที มือหนึ่งชี้ขึ้นนภามือหนึ่งชี้ไปที่พสุธา ความเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างธรรมชาติ วินาทีนั้นก็ได้ก่อเกิดฝ่ามือขนาดใหญ่ขึ้นมาสองข้าง พุ่งผ่านไปทางด้านของนกฮวางเชวียนออกไป จนเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงขึ้นมา

 

วินาทีนั้นเอง ก็ราวกับมีพลังเพลิงผลาญภูผาชนิดหนึ่ง จนแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ รอยแตกร้าวแผ่กระจายไปทั่วทั้งบรรยากาศฟ้าดินออกไป การปะทะกันเช่นนี้เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือจากกฎเกณฑ์ที่มีอยู่บนโลกนี้

 

กลุ่มผู้คนต่างก็ตื่นตกใจอย่างไร้ที่เปรียบ ทักษะยุทธ์เช่นนี้เรียกได้ว่าจัดอยู่ในขั้นพลังของเทพได้แล้ว ความแข็งแกร่งได้ทำให้ผู้คนตื่นตะลึงขึ้น ในเวลาเดียวกัน ทักษะยุทธ์ทั้งสองสายก็ได้เข้าปะทะเข้าด้วยกัน ในตอนนี้กลับมีบางสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม กลับกลายเป็นใช้พลังในจุดสูงสุดเข้าชนกันเพียงถ่ายเดียว

 

“ โครม “

 

บริเวณทางด้านของอีกฝ่าย นกฮวางเชรียวไม่แม้แต่จะมองไปที่ทักษะยุทธ์ที่เข้าปะทะกัน มันพุ่งร่างออกไป จนแปรร่างเป็นสภาพเดิม สองปีกที่มีความคมกล้าดั่งอาวุธมีคมก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป เยี่ยจงพลิกทั้งสองมือออกไป ฟาดออกไปอย่างรวดเร็ว ดุจดั่งพระจันทร์ครึ่งเสี่ยวลอยออกไป การโจมตีได้เข้าปะทะกันเป็นสาย จนกลายเป็นการปะทะที่ไม่ขาดสาย

 

“ เยี่ยจง เจ้ารักษาหัวใจพสุธาเอาไว้ไม่อยู่หรอก มอบออกมาในตอนนี้ ยังพอที่จะรักษาชีวิตเอาไว้ “ นกฮวางเชวียนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ความเคลื่อนไหวถือได้ว่ารวดเร็วยิ่ง

 

เยี่ยจงมิได้ตอบอันใด เพียงแต่เปลี่ยนสัญลักษณ์บนมือขึ้นเร็วขึ้นหลายส่วน เขาทั้งไม่หลบและไม่หนี ปะทะเข้ากับกระบวนท่านั้นของนกฮวางเชวียนโดยตรง จนทำให้ทั่วทั้งสนามก่อเกิดพลังอันน่าหวาดกลัวแผ่กระจายออกมาไม่ขาดสาย

 

วินาทีนั้นเอง หลังจากที่ได้ผ่านไปแล้วสิบกว่ากระบวนท่า ร่างกายของทั้งสองคนที่ปรากฏขึ้นมาต่างก็ได้รับบาดเจ็บ โลหิตไหลรินออกมาดั่งสายธาร ดูไปแล้วรุนแรงอย่างยิ่ง

 

“ ตายซะ “

 

นกฮวางเชวียนร้องออกมาอย่างเย็นชา ในสถานการณ์เฉกเช่นตอนนี้เป็นไปตามความคาดเดาของเยี่ยจงอยู่เจ็ดแปดส่วน แต่ว่าอีกฝ่ายก็ยังคงสามารถใช้พลังกดดันเข้ามาได้ในเวลาเดียวกัน ถึงแม้ว่าการปะทะกันกับตนเองจะไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกว่า นี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่นกฮวางเชวียนยากที่จะเชื่อได้ลง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มิได้มีความแข็งแกร่งที่มากนัก แต่ก็ย่อมไม่อ่อนแอแต่อย่างไร

 

“ ตูม “

 

นกฮวางเชวียนกวาดกรงเล็บอันแหลมคมออกไป ดุจดั่งพลังเทพที่ตัดผ่าอากาศได้ จนทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมาท่ามกลางอากาศ กระบวนท่านี้ได้ก่อรวมไปด้วยพลังทำลายของฟ้าดินอยู่ด้วยชนิดหนึ่ง แข็งแกร่งเกินกว่าระดับธรรมดาอยู่หลายส่วน

 

เยี่ยจงถอยกายออกไป หลบหลีกจากกระบวนท่านี้ ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ก้าวเท้าออกไปเล็กน้อย ทันใดนั้นร่างกายก็ได้ลอยคว้างอยู่ท่ามกลางอากาศ แล้วก็ได้ใช้เท้าขวาเตะออกไป จากจุดสูงลงทอดลงมายังบริเวณที่นกฮวางเชวียนอยู่ลงไป

 

“ เปรี้ยง “

 

นกฮวางเชวียนยื่นจงอยปากออกมา จงอยปากที่มีความแหลมคมเข้าขวางรั้งเท้าของเยี่ยจงเอาไว้ ในเวลาเดียวกันมันก็ได้สบัดปีกทั้งคู่ออกไป จนกลายเป็นดุจดั่งอาวุธคมกล้า หมายฆ่าสังหารเยี่ยจงลง

 

“ ชิร์ “

 

เยี่ยจงร้องชิร์ออกมาอย่างเย็นชา พลิกทั้งสองมือออกในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าเข้าปะทะออกไปทางด้านหน้า ต้านทานปีกนกและกวาดเท้าซ้ายออกไปในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าเข้าไปยังทางด้านทรวงอกของนกฮวางเชวียนออกไป

 

“ ไสหัวไป “

 

นกฮวางเชวียนขยับร่างกายคราหนึ่ง ร่างกายก็ได้แผ่บรรยากาศอันน่าหวาดกลัวออกมา มันอ้าปากขึ้นมา ประกายแสงเทียนขาวดำสายหนึ่งก็ได้พุ่งออกมา หมายหลอมเยี่ยจงละลายลงไปในทันที

 

“ แฮะแฮะแฮะ “

 

บริเวณใจกลางเท้าขวาของเยี่ยจง ก็ได้ทับซ้อนไปด้วยพลังกระบี่ตราประทับอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็ได้กลายเป็นประกายสีดำสายหนึ่ง เข้าปะทะกับพลังเปลวเทียนขาวดำที่พุ่งออกมาจากนกฮวางเชวียน

 

เสียง“กร๊อบ”ดังขึ้นสนั่น วินาทีนั้นก็ได้มีพลังสายลมกวาดออกมา บริเวณพื้นดินดุจดั่งมังกรทะยาน เหมือนกับถูกฝังเอาไว้อยู่

 

กลุ่มผู้คนต่างก็มองตาค้างกลืนน้ำลายลง เด็กน้อยทั้งสองคนนี้ก็น่ากลัวเกินไปแล้ว ต่อให้เป็นการต่อสู้ระยะประชิดที่เรียกได้ว่าน่ากลัวแล้ว เพียงแค่ชั่วเวลาเพียงพริบตาเดียว ต่างก็ถูกอีกฝ่ายใช้ออกมาด้วยท่าสังหาร การปะทะกันเช่นนี้ก็เรียกได้ว่าโหดเหี้ยมอันตรายจนเกินไปแล้ว

 

“ เปรี้ยง “

 

หลังจากนั้นเอง เงาร่างทั้งสองสายก็ได้พุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน ตกลงสู่บนพื้นดิน ขนนกบนตัวของนกฮวางเชวียนก็ได้เกิดรุงรังขึ้นมา คล้ายดั่งมีโลหิตไหลออกมา และบนร่างของเยี่ยจงก็ได้มีบาดแผลปรากฏขึ้นมาอยู่หลายส่วน ร่างกายของเขาโอนเอนไปมา มีโลหิตไหลออกมาจากมุมปาก

 

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนจะมีพลังที่ต้านทานศัตรูได้ แต่ว่าเยี่ยจงก็ยังตกเป็นรองในเรื่องที่ต้องคอยระวังสภาพภายในร่างกาย อีกทั้งยังต้องต่อสู้ติดต่อกัน จึงได้สูญเสียพลังไปมาก

 

ในเวลาเดียวกัน ท่ามกลางอากาศก็ได้มีเสียง”ซ่าซ่า”ดังขึ้นมา สายตาของนกฮวางเชวียนสาดเป็นประกายยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็น จนกลายเป็นประกายแสงหายไป แต่ว่าตราผนึกฟ้ากลับได้ค่อยๆหายไป ทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีความสูงต่ำกันมากมายนัก

 

นกฮวางเชวียนแสดงสีหน้าที่ยากจะเชื่อได้ลงออกมา แล้วก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่งอย่างรุนแรง การปะทะกันผ่านทางร่างกายมันถือได้ว่าได้เปรียบอยู่เล็กน้อย แต่ว่าในด้านการใช้ปะทะกันด้วยทักษะยุทธ์ มันกลับตกเป็นรองให้แก่เยี่ยจง ถึงแม้จะกล่าวเช่นนั้น ทั้งสองฝ่ายถือได้ว่ามีความสามารถในจัดการกับศัตรู ต่างก็ไม่เป็นรองกัน แต่ว่าจากสภาพเช่นนี้ ก็ได้ทำให้สีหน้าของนกฮวางเชวียนเย็นชาขึ้นมามากขึ้น ตามการคาดการแต่แรกของมัน ทักษะยุทธ์ของเยี่ยจงสมควรที่จะต้องถูกกดดันเอาไว้ ต่อมาก็จะต้องถูกเขาจัดการสังหารจึงจะถูก ฉากที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายทั้งสิ้น

 

“ เจ้าแข็งแกร่งอย่างมาก เกินกว่าที่ข้าคาดคิดเอาไว้ ทว่าไม่ใช่เพียงแค่นี้ ในวันนี้ข้าก็อย่างจะดูเหมือนกัน ว่าเจ้าจะยืนหยัดไม่ตายได้อีกนานเท่าไร “ นกฮวางเชวียนปรากฏแววตาอันโหดร้ายขึ้นมา ร่างกายของมันก็ได้กลับกลายเป็นทารกน้อยอีกครั้ง จ้องมองไปที่เยี่ยจงอย่างเย็นชา ร่างกายที่แผ่รังสีขาวดำกระจายออกมา พร้อมที่จะลงมือได้ทุกเมื่อ

 

เสียงดัง “ ตูม “ ขึ้นมา ทันใดนั้น ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ทอประกายแสงสีทองดั่งเปลวเทียน เห็นได้ชัดว่า ภายในร่างกายของเขาในตอนนี้ ได้เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดแล้ว

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม3 https://goo.gl/dV1p9e ตอนที่ 210-290
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด641

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset