เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 293 ทางตัน

ตอนที่ 293 ทางตัน

 

 

“ ฆ่า ฆ่า ฆ่า “

 

“ หยุดเขาไว้ อย่าได้ให้เขาเข้าสู่ขอบเขตกลายเนื้อไม่สูญสลายได้ เข้าสู่ระดับขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าได้“

 

“ จะต้องฆ่าเขาให้ได้ ถ้าหากเขาทำสำเร็จ พวกเขาคงจะยุ่งยากแล้ว เขามีแต่ต้องตายเท่านั้น “

 

วินาทีนั้นยอดฝีมือจำนวนมากก็ได้พุ่งทะยานหมายสังหารออกมา ร่ำร้องดังสนั่นไปทั้งผืนฟ้า แต่ละคนก็ได้พลิกมือเปลี่ยนไปมา เตรียมพร้อมที่จะใช้ออกมาด้วยพลังทักษะยุทธ์โจมตีเข้าไป

 

แต่ว่ายอดฝีมือเหล่านี้ยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้ ทันใดนั้นแต่ละคนก็ได้เกิดการสั่นเทาขึ้นไปทั่วทั้งร่างกาย ถูกพลังอันน่าหวาดกลัวยับยั้งเอาไว้ เห็นได้ชัดว่า ยอดฝีมือธรรมดาเหล่านี้แทบจะไม่มีความสามารถที่จะเข้าใกล้ได้เลย

 

อัจฉริยะเฉกเช่นจิ่วฟ่ง ในตอนนี้ต่างก็ได้ทอสีหน้าประหลาดขึ้น พวกเขาต่างก็จ้องมองไปที่เยี่ยจงอย่างเงียบงัน มิได้ลงมือ นั้นก็เพราะว่าถ้าเกิดเยี่ยจงข้ามพ้นขอบเขตเส้นทางสายนี้ เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายได้ ในมุมมองของพวกเขา ต่างก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ยากจะพบเจอแม้เพียงสักครั้ง หากว่ายึ่ยจงข้ามผ่านพ้นขอบเขตของขั้นกายเนื้อไม่สูญสลายได้จริงแล้วละก็ ไม่แน่ว่าเหล่ายอดอัจฉริยะที่รายล้อมอยู่โดยรอบต่างก็จะได้รับประโยชน์มากมายเช่นเดียวกัน

 

บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้

 

ในตอนนี้ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้เกิดรอบแตกร้าวขึ้นไม่ขาดสาย ทะลวงขึ้นไปอย่างไม่หยุด จนทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่แทบจะสิ้นสติลงได้ แต่ว่าเขาก็ยังคงกัดฟันฝืนทนต่อไป นั้นก็เพราะว่า การสัมผัสเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการบ่งบอกของการยังมีชีวิตอยู่ เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ราวกับว่าเส้นทางของขอบเขต กำลังเปิดออกมาให้แก่เขา หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปแล้วละก็ อย่างน้อยก็ต้องสำเร็จแน่นอน

 

ช่วงเวลาได้ไหลเวียนผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงก็ได้เป็นประกายสีทอง ทุกๆคึบของกล้ามเนื้อผิวหนัง การก่อรวมของสีทองในตอนนี้เป็นเหมือนดั่งแสงจากพระอาทิตย์ก็มิปาน

 

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไม่หยุดดังออกมาจากทางด้านร่างกายของเยี่ยจง ประกายคมกล้าสีทองสาดออกมาเป็นสาย ผลัดเปลี่ยนกล้ามเนื้อบนร่างกายของเขา

 

“ ตูม “

 

ทันใดนั้น เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างทั้วทั้งกาย ประกายสีทองบนร่างก็ได้ทอแสงขึ้นมาในทันที และร่างกายของเขาก็ได้ลอยเข้ากระแทกเข้ากับพื้นดิน กระอักโลหิตออกมาคำโต บนร่างเกิดบาดแผลออกมาไม่หยุด ทั้งยังมีโลหิตไหลออกมา

 

ประกายแสงสีทองที่ไหลออกมาในตอนนี้ก็ได้ค่อยๆเลือนหายไป กลับเข้าสู่ภายในร่างกายของเยี่ยจง

 

“ ล้มเหลวแล้วงั้นหรือ ? “

 

เยี่ยจงลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก สีหน้าปั้นยาก แต่ว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรมากมาย แต่พลิกมือทั้งสองขึ้น ควบคุมพลังกระบี่หกสุสานคุ้มครองร่างกาย ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บส่วนหนึ่ง หากว่ายังเป็นเช่นนี้ต่อไปแล้วละก็ อย่าว่าแต่เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายเลย ไม่แน่ว่าอาจจะต้องทอดกายอยู่ในสถานที่แห่งนี้ก็เป็นได้

 

บริเวณทางด้านฝั่งตรงข้าม จูเยียนและนกฮวางเชวียนที่ต่างก็ได้รับแรงจากสภาวะ ในตอนนี้พวกเขาก็ได้ลอยกระเด็นออกไป ตกลงไปสู่พื้นกระอักโลหิตออกมาคำโต พวกเขาหมายต้องการที่จะลุกขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าในตอนนี้พวกเขาก็ได้สูญเสียพลังไปไม่น้อยไปกว่าเยี่ยจงเลยแม้แต่น้อย ได้แต่เพียงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงในการลุกขึ้นมา

 

บริเวณทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน สีหน้าของผู้คนทั้งหมดในตอนนี้ต่างก็สั่นไหวไปมา ไม่ว่าจะเป็นยินดีหรือหวาดกลัว แต่ว่าในตอนนี้ต่างก็สั่นเทาไปมา ไม่มีการตอบสนองกลับคืนมาได้ นั้นก็เพราะว่าเห็นๆกันอยู่ว่าเยี่ยจงจะทำสำเร็จอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมถึงได้กลับกลายเป็นล้มเหลวไปได้กัน ?

 

“ ข้าเข้าใจแล้ว ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย มีแต่พึ่งพาพลังจากภายนอก ? เยี่ยจงกระทำผิดผิดมาตั้งแต่แรกเริ่มในข้อนี้ จึงได้กลับกลายเป็นสำเร็จอย่างงั้นหรือ ? “

 

“ แต่ว่า ลำพังพึ่งพาเพียงพลังจากร่างกาย จะมีสักกี่คนกันที่สามารถไปถึงระดับสูงสุดนั้นได้ ? ควรทราบว่า เยี่ยจงหยิบยืมพลังอันมหาศาลของนกฮวางเชวียนและจูเยียนจึงได้ฝืนทะลวงจนสำเร็จลงได้ หากว่าไร้พลังจากภายนอกแล้วละก็ เขาก็คงยากที่จะก้าวผ่านพ้นด่านนี้ไปได้ “

 

“ จะกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ได้ กระนั้นเขาก็ได้ก้าวเข้าไปครึ่งก้าวแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่สำเร็จก็เท่านั้น เมื่อเทียบกับความแข็งแกร่งของข้าเรียกได้ว่าแข็งแกร่งอยู่มากมายแล้ว “

 

“ ไม่แปลกใจเลยที่ยอดฝีมือขั้นก่อเกิดในดินแดนยังไม่มีผู้ใดสำเร็จขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า เข้าสู่ขอบเขตกลายเนื้อไม่สูญสลายในตำนานนั้นสำเร็จแม้แต่คนเดียว ที่แท้ความยากเย็นของขอบเขตนี้ก็เรียกได้ว่ามีอยู่ไม่น้อย ……… ไม่ว่าจะเป็นผู้มีพรสวรรค์ ยอดอัจฉริยะแห่งยุค ภายใต้ประการด้านสุดท้ายเบื้องหน้านี้ถือได้ว่าไม่ง่ายที่จะสำเร็จได้เลย ทั้งยังทำให้ชีวิตตกอยู่ในอันตราย

 

มียอดฝีมือไม่น้อยที่ตกใจขึ้นมา เยี่ยจงที่อยู่เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ถึงกลับทะลวงเข้าสู่ขอบเขตขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าล้มเหลว ในมุมมองของพวกเขา ถือได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ยากจะพบเห็นได้ มีผู้คนไม่น้อยที่ต่างก็ตัดสินใจเอาไว้ว่า ถ้าหากฝึกปรือไปจนถึงขั้นก่อเกิดระดับที่แปดขอบเขตชั้นฟ้าได้แล้ว จะทะลวงข้ามไปอีกขอบเขต เข้าสู่ขั้นก่อฟ้าของวิทยายุทธ์ ไม่แม้แต่จะคิดที่จะเข้าสู่ขอบเขตขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าต่อไป

 

“ โอกาสที่ยากจะคว้าได้เลยนะ “

 

ยอดฝีมือที่เป็นลูกน้องของจูเยียนและนกฮวางเชวียนต่างก็ก้าวยาวๆออกมา ส่วนหนึ่งได้เข้าคุ้มกันเจ้านายของตนเอง อีกทางด้านหนึ่งนั้นก็ได้ไล่ตามเยี่ยจงไปอย่างรวดเร็ว เยี่ยจงผู้นี้ก็ชั่วช้าเกินไปแล้ว ในตอนนี้ถือได้ว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะจัดการกับเขาแล้ว ไม่เช่นนั้นวันข้างหน้าจะกลายเป็นหอกข้างแคร่ชิ้นใหญ่ของพวกเขาได้

 

ยอดฝีมืออื่นๆที่มองอยู่รอบๆหลังจากที่เกิดความลังเล ก็ได้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วทีละคน นั้นก็เพราะว่าบนตัวของเยี่ยจงได้ครอบครองไว้ด้วยหัวใจพสุธาในตำนานเอาไว้อยู่ แล้วยังมีข่าวลือว่าเขายังมีสมบัติโลหิตมังกรแท้อีก สิ่งของเหล่านี้ต่างก็ถือได้ว่าสิ่งที่ใช้ไว้ฝึกปรือ ผู้ใดต่างก็อยากจะครอบครอง

 

เยี่ยจงกระอักโลหิตคำโต จ้องมองไปทางด้านเหล่ายอดฝีมือที่เสริมกำลังเข้ามา สีหน้าปั้นยากเต็มสิบส่วน ในตอนนี้เขารู้ว่าสภาพตนเองเป็นเช่นไรเต็มสิบส่วน ถ้าหากยังจะลงมือต่อ วันนี้คงจะต้องตายในสถานที่แห่งนี้แน่

 

“ เสี่ยวหลุน พาฉันออกไป “ หลังจากนั้น เยี่ยจงก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

 

“ ตูม “

 

บริเวณติ่งหู เสี่ยวหลุนก็ได้สาดประกายแสงสีขาวสายหนึ่งออกมา แล้วก็ยอดฝีมือทางด้านหน้าก็ได้กรีดร้องกันยกใหญ่ มันช่วยเปิดเยี่ยจงมีเส้นทางในการหนีรอดอยู่สายหนึ่ง

 

เยี่ยจงขยับร่างกายคราหนึ่ง พุ่งตัวลอยออกไป มุ่งหน้าไปทางด้านที่เสี่ยวหลุนเลือกให้เขา นั้นก็เพราะว่าบริเวณจุดอื่นทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านต่างก็มียอดฝีมือกำลังกรุกันเข้ามา เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นอีก

 

“ บนตัวเขายังถึงกับว่าสมบัติเซียนเช่นนี้อยู่อีก ตาม “

 

ทางด้านหลัง ยอดฝีมือมากมายที่งงงัน ทันใดนั้นก็ได้ตะโกนขึ้นมา นั้นก็เพราะว่า บนตัวของเยี่ยจงไม่เพียงแต่จะมีหัวใจพสุธา สมบัติโลหิตมังกรแท้ อีกทั้งนอกจากกระบี่ดำแล้ว ยังมีสมบัติเซียนอันแข็งกล้าและลี้ลับเช่นนี้อยู่อีก ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดหนึ่งในนั้นก็ถือได้ว่าคุ้มค่าที่จะให้เหล่ายอดฝีมือลงมือ ยิ่งไปกว่านั้น เยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าล้มเหลวแล้ว อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บหนัก ช่วงเวลานี้จึงจำเป็นที่จะต้องลงมือ ฆ่าคนชิงสมบัติ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็วันหน้าคงจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีกแล้ว

 

“ ตามไป “

 

“ ฆ่า “

 

จิ่วฟ่งที่ยังคงอาการสงบอยู่ทางด้านหน้า ในตอนนี้ก็ได้พุ่งตัวออกไป คิดหามยที่จะจัดการกับเยี่ยจง ช่วงชิงโอกาสและวาสนาที่สวรรค์ประทานมาให้

 

สามารถกล่าวได้ว่าในตอนนี้ เกือบครึ่งสมรภูมิฮวงกู่นี้ต่างก็เคลื่อนไหวเพราะเยี่ยจง อีกทั้งยังมีคนกลุ้มหนึ่งที่เมื่อได้ยินข่าวลือนี้ก็ได้เร่งรุดมา นั้นก็เพราะว่า สภาพการณ์เช่นนี้เรียกได้ว่าหาได้ยากมากแล้ว ถึงแม้จะเป็นยอดฝีมือมากมายคอยไล่ล่าคนเพียงคนเดียวเช่นนี้ อีกทั้งบนตัวของเขาก็ยังมีสิ่งของมีค่ามากมายขนาดนี้อีก ทั้งยังอยู่นอกเหนือความคาดคิดอีกด้วย

 

“ ซวบ “

 

บริเวณส่วนลึกของผืนป่า ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้กลายเป็นเพียงประกายแสงที่ไหลผ่าน ในตอนนี้ไม่ใช้เป็นเขาที่กำลังทะยานหลบหนี แต่เป็นเสี่ยวหลุนที่ทอดประกายแสงสีขาวอกอมา คอยนำทางเส้นทางหลบหนีให้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งในช่วงเวลาระดับนี้ เยี่ยจงยังคงเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์บนมือไม่หยุด ยับยั้งสภาพทางร่างกาย เพื่อที่จะไม่ให้ร่างของตนเองเกิดการดับสูญ

 

กล่าวได้ว่า ถ้าหากมิใช่เสี่ยวหลุนลงมือ ในตอนนี้เยี่ยจงไม่แน่ว่าอาจจะต้องตายไปแล้ว นั้นก็เพราะว่าทางด้านหลังยังคงมียอดฝีมือคอยไล่ล่าอยู่ มีอยู่หลายครั้งที่เยี่ยจงถูกขวางเอาไว้ แต่ว่าในช่วงเวลาที่คับขันเสี่ยวหลุนก็ได้ระเบิดพลังออกมา จนส่งเขาจากไปได้

 

“ เจ้าหนู ข้าเริ่มจะไม่ไหวแล้วนะ เจ้ายังมีสิ่งของอะไรอีกไหม ถ้าเกิดไม่ไหวจริงแล้วละก็ กระบี่ดำเล่มนั้นก็ได้ “ เสียงของเสี่ยวหลุนดังขึ้นมาอย่างอ่อนแอหลายส่วน ตลอดทางมานี้ เขาได้กลืนกินสิ่งของของเยี่ยจงไปไม่น้อย รวมไปทั้งสมบัติเซียนที่ได้มาจากบ่วงมายาโลหิต ทั้งของดีที่มาจากสุสานกระบี่ ต่างก็ได้นำออกมาจนหมดแล้ว

 

“ กระบี่ดำไม่ไหวหรอก นั้นมันเครื่องมือสังหารเลยนะ ของสิ่งนี้ข้าให้เจ้าก็เอาไปแทนแล้วกัน “ เยี่ยจงกัดฟัน หลังจากนั้นก็ได้นำธนูเงาเมฆาเพลิงออกมา

 

เสี่ยวหลุนส่งเสียงตกใจขึ้นมา จากนั้นมันก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป แล้วก็ได้กลืนกินธนูเงาเมฆาเพลิงลงไป จากนั้นไปตัวของมันก็ทอแสงขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุด นำพาเยี่ยจงหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

 

“ ของดีพวกนี้ก็ได้ให้เจ้าจนหมดแล้ว เจ้าน่าจะพอช่วยได้แล้วละนะ “ เยี่ยจงเจ็บปวดร่างกายไร้ที่เปรียบ ควรทราบว่า ธนูเงาเมฆาเพลิงถือเป็นสมบัติประจำเผ่าพันธุ์ปีก แข็งแกร่งจนน่าหวาดกลัว มีที่มายาวนาน ถือเป็นของที่ดีเยี่ยมยิ่ง แต่ว่าในตอนนี้เพื่อการหลบหนี กลับให้เสี่ยวหลุนกลืนกินลงไปแล้ว นี้จะไม่ทำให้เยี่ยจงรู้สึกเจ็บปวดใจได้อย่างไรกัน

 

“ เด็กน้อยอย่างพวกเจ้าเนี่ย รอจนข้าฟื้นคืนกลับมาแล้ว ข้าจะกลับไปคิดบัญชีทีละคนเลย “ เยี่ยจงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน เขาสูญเสียมากจนเกิดไป เจ็บใจจนแทบจะสลบในทันที

 

“ อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระมากไป เจ้ามีความสามารถเช่นนี้ สู้ครุ่นคิดว่าเส้นทางต่อไปสมควรที่จะไปอย่างไรจะดีกว่า เส้นทางสู่การไม่สูญสลาย เจ้าอย่าได้เดินผิดไปละ …….. ดังนั้น เจ้านอกจากจะยังมีโอกาส สงบสติลง อย่าได้ว้าวุ่นแล้ว “ เสี่ยวหลุนส่งเสียงเตือนสติขึ้นมา จากนั้นก็ได้ทำเครื่องหมายคล้ายกำลังกลืนกินธนูเงาเมฆาเพลิงลงไป มันยังฝืนทนต่อไปได้อีกซักระยะ เยี่ยจงได้แต่หยิบยืมความเปลี่ยนแปลงในโอกาสที่เกิดขึ้นก่อนหน้า เพื่อที่จะได้สร้างโอกาสที่จะเข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย

 

“ ขอบคุณมาก “ เยี่ยจงพยักหน้า เริ่มที่จะสำรวจความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเองอย่างละเอียดก่อนเป็นอันดับแรก เข้าสู่ห้วงแห่งขอบเขตภายในจิตใจ

 

ช่วงเวลาเช่นนี้ ยังคงมียอดฝีมือไล่ตามมาอย่างไม่ขาดสาย แต่ว่าต่างก็ถูกเสี่ยวหลุนสลัดหลุด แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ในช่วงเวลาเช่นนี้เยี่ยจงก็คล้ายดั่งยิ่งถูกเร่ง อาการบาดเจ็บบนร่างกายเปลี่ยนไปมาก ยังดีที่เขาในตอนนี้ยังสงบลงได้อยู่ ไหลเวียนพลังกระบี่หกสุสานภายในกาย ยับยั้งร่างกายเอาไว้ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ไม่แน่ว่าเขาคงต้องตายไปตั้งแต่แรกแล้ว

 

“ ฉึก “

 

แล้วก็ได้สลัดหลุดจากการไล่ล่าได้อีกครั้ง ในครั้งนี้ เสี่ยวหลุนก็ได้นำพาเยี่ยจงมายังเศษซากของถ้ำที่ใช้การไม่ได้ภายในหุบเขา แล้วก็ได้ปล่อยเยี่ยจงลง

 

“ ข้าไม่ไหวแล้ว นอกเสียจากเจ้าจะนำกระบี่ดำมาให้ข้ากลืนกินไป มิเช่นนั้นคงจะไม่มีเรี่ยวแรงไปต่อได้แล้ว “ เสี่ยวหลุนเริ่มทวีความอ่อนโทรม ประกายแสงสาดส่องอ่อนลง ดุจดั่งหิ่งห้อยก็มิปาน คล้ายดั่งมอดไหม้ได้ทุกเวลา

 

“ ข้าต้องทะลวงเข้าสู่ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าอีกครั้ง เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย “ เยี่ยจงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่กลับนั่งสมาธิลงไป เอ่ยปากขึ้นมาเสียงเบา

 

เสี่ยวหลุนคล้ายกับงงงันขึ้นมา ทว่ามันอย่างน้อยก็ไม่พูดอะไรออกมามากมาย อีกทั้งถอยไปอยู่ทางด้านข้าง เพื่อที่จะทำให้คุ้มกันเยี่ยจงอย่างเงียบๆ นั้นก็เพราะว่าเยี่ยจงได้เลือกเส้นทางของตนเองแล้ว จึงเป็นดั่งการยอมรับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นของตนเอง

 

เยี่ยจงนั่งสมาธิลง ค่อยๆที่จะเปลี่ยนแปลงสัญลักษณ์บนมือ ในตอนนี้ ภายในร่างกายของเขาก็ได้สาดส่องเป็นประกายไหลเวียนไปมา แต่ว่าโลหิตทั่วทั้งกายของเขาราวกับเหือดแห้ง คล้ายดั่งเปลวไฟที่ไร้เชื้อเพลิง ดังนั้น การควบคุมในขณะนี้จึงถือได้ว่ากินแรงเป็นอย่างมาก แต่ว่าเมื่อได้รับการหนุนเสริมจากเส้นโลหิต ประกายแสงสีทองเหล่านั้นก็ได้สาดเป็นประกายปะทุพลังเซียนออกไป คาดดั่งครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจง

 

สีหน้าของเยี่ยจงยังคงไม่เปลี่ยน ค่อยๆไหลเวียนพลังอย่างข้าๆ ดึงรั้งฝึกปรือประกายแสงสีทองเหล่านี้

 

น่าเสียดายที่เขาในตอนนี้อ่อนแอจนเกินไป ก่อนหน้านี้ก็ได้ต่อสู้จนสูญเสียพลังไปอย่างมหาศาล ร่างกายก็เต็มไปด้วยบาดแผล คล้ายดั่งการพบวาสนาท่ามกลางการสูญเสียก็มิปาน

 

“ โครม “

 

หลังจากนั้น พลังอันมหาศาลภายในร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ก็ได้ถูกสูบไปจนไม่เหลือแม้แต่น้อย ร่างกายบนตัวของเขาดุจดั่งพื้นดินที่แห้งแล้งก็มิปาน ปรากฏรอยแตกออกมาเป็นสาย

 

ด้านบนสีหน้าของเขาก็ได้เกิดรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุดแล้วยังคงไม่ได้ตายลงภายในน้ำมือของยอดฝีมือคนอื่น ในช่วงเวลาของความตายที่กำลังเข้ามา เยี่ยจงยิ้มอย่างขมขื่น ปรากฏภาพมายาสายหนึ่งอยู่เบื้องหน้า

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8 ราคา 450
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690 ล่าสุด647 Update 09/06/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset