เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 312 เนตรปราณฟ้า

ตอนที่ 312 เนตรปราณฟ้า

 

 

 

“ ดูเหมือน เจ้าจะยังไม่คิดที่จะยอมตายอยู่นะ ” องค์ชายสิบสามส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเย้ยหยันออกมาอย่างชัดเจน ดูถูกอย่างเต็มที่ แต่ว่า ในตอนที่ผู้คนทั้งหมดต่างก็คิดว่าเข้าจะรุกเข้าจู่โจมเยี่ยจงต่อในทันที ร่างกายของเขาก็ได้กายเป็นประกายแสงคมกล้าสีทองเพลิงสายหนึ่งพุ่งออกไป มุ่งหน้าเข้าสังหารไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

“ โครม ——”

 

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมา สาดประกายคมกล้าละลานสายตา องค์ชายสิบสาม บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้ปรากฏดวงตะวันทองหมุนวนขึ้นมา ท่ามกลางดวงตะวันทองก็ได้มีวิหคทองลอยล่องออกมา จนก่อเกิดพลังทำลายดุจดั่งพระอาทิตย์ก็มิปาน

 

ท่ามกลางดวงตาของเยี่ยจงก็ปรากฏบ่งบอกถึงความเย็นชา เขาในตอนนี้มิได้ถอยออกไป เพียงแต่สาดประกายดวงตาคมกล้าสีม่วงออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ก้าวเดินออกไป ในตอนนี้ก็ได้สาดประกายแสงสีม่วงคมกล้าทั่วทั้งร่างกาย ก่อเกิดเงากิเลนสีม่วงตนหนึ่งปกคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างของเขา ดุจดั่งของเยี่ยจงตอนนี้ได้กลายเป็นกิเลนก็มิปาน

 

“ เยี่ยจงผู้นี้คิดจะหาที่ตายหรือยังไงกัน ในช่วงเวลาเช่นนี้ ถึงกับไม่เลือกที่จะหลบหนี อีกทั้งยังคิดที่จะเผชิญหน้าตรงๆกับองค์ชายสิบสามอีก เขาคิดที่จะแตกหักกับองค์ชายสิบสามงั้นหรือ ? ” ผู้คนไม่น้อยต่างก็ขมวดคิ้ว ความเคลื่อนไหวของเยี่ยจงถือได้ว่าอยู่เหนือที่จะคาดเดาได้ มิใช่สิ่งที่พวกเขาจะคาดคิดเอาไว้ได้

 

“ ตูม ——”

 

ในตอนที่ทุกผู้คนมองเข้าไป แขนซ้ายของเยี่ยจงก็ได้ยกขึ้น นิ้วบนมือก็ได้มีกิเลนก้าวเดินออกมา มุ่งหน้าฟาดเข้าไปยังศีรษะขององค์ชายสิบสาม ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนเป็นการโจมตีเพื่อให้บาดเจ็บกันทั้งสองฝ่าย

 

“ ชิ ” องค์ชายสิบสามยิ้มอย่างเย็นชา ฟาดออกไปทั้งสองมือในเวลาเดียวกันตะวันทองเพลิงสองลูกก็ได้ปรากฏขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาคิดที่ใช้พลังจากทั้งสองแขน เพื่อจัดการสังหารเยี่ยจงในตอนนี้

 

ร่างของทั้งสองคนราวกับได้เคลื่อนไหวเข้าหากันในทันที แต่ว่าเมื่ออยู่ในช่วงเวลาคับขันเช่นนี้ เยี่ยจงที่ความจริงดูเหมือนแขนข้างขวาจะแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆก็ได้ขยับขึ้นมา ทันใดนั้นก็ได้กลายแขนกิเลนที่มีประกายสีม่วงขึ้นมาในทันที มุ่งหน้าเขาปะทะกับองค์ชายสิบสามเพื่อตัดสินเข้า

 

“ กร๊อบ ——”

 

หนึ่งหมัดได้พุ่งเข้าชน องค์ชายสิบสามขยับร่างคราหนึ่ง ลอยกระเด็นออกไป หมัดนี้ได้กระแทกเข้ากลางท้องน้อย จนทำให้เขากระอักโลหิตออกมาคำโต ในช่วงเวลาที่ร่างกายได้กระทบลงกับพื้น จนเกือบที่จะลุกขึ้นมาไม่ไหว

 

“ นี้เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ”

 

“ แขนขวาของเยี่ยจงถูกทำลายแล้วมิใช่หรือ ? ”

 

ผู้คนไม่น้อยก็ประหลาดใจ แทบจะมองไม่รู้เรื่องว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นมาในเวลานี้

 

“ ความจริงแขนขวาของเยี่ยจงมิได้ถูกทำลาย เพียงแต่ว่าตัวเขาเองน่าจะจงใจให้เกิดเรื่องหลอกลวงเช่นนี้ขึ้นมาก็เท่านั้น เพียงแต่ว่าองค์ชายสิบสามผู้นั้นก็มั่นใจในตัวเองจนเกินไป ถึงกับมองไม่เห็นข้อนี้ ” ราชาแห่งรัฐกู่กวอที่อยู่ทางด้านหลังของผู้คนก็ได้เอ่ยปากกล่าวขึ้นมา ภายในน้ำเสียงได้เต็มเปี่ยมไปด้วยความนับถือ เห็นได้ชัด การลงมือของเยี่ยจงถือได้ว่าน่าชื่นชมอย่างยิ่ง

 

“ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ”

 

ผู้คนมากมายต่างก็สูดลมหายใจเข้า คิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะปรากฏออกมาเช่นนี้

 

“ เยี่ยจงผู้นี้ร้ายกาจจริง ไม่เพียงแต่ถูกเรียกขานว่าเป็นสุดยอดผู้เยาว์ อีกทั้งเขายังถูกผู้คนเรียกขานว่าราชันบ้าคลั่ง แต่ว่ากลับมีความคิดที่ลึกล้ำเหลือคณา หาได้ยากนัก ”

 

“ การต่อสู้จัดได้ว่าอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย องค์ชายสิบสามในตอนนี้ยิ่งได้รับบาดเจ็บหนักกว่าเดิม คิดที่จะพลิกสถานการณ์คงจะมิใช่เรื่องง่ายนักแล้วละ ? ”

 

“ ความสามารถที่ยอดเยี่ยม ”

 

ในที่สุด องค์ชายสิบสามก็ลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง เขาเช็ดไปที่ปากที่มีโลหิตไหลออกมา สีหน้าที่จากดุร้ายก็ได้กลายเป็นนิ่งเฉยขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อที่จะให้ตนเองรักษาความเยือกเย็นและสงบที่แน่นอนไว้ได้

 

“ ก็เหมือนกันแหลาะ ยังไม่ลองเข้ามาอีก ”

 

เยี่ยจงส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา แล้วก็ได้พวยพุ่งประกายม่วงบนร่างบน กลายเป็นเงาร่างกิเลนขนาดใหญ่พุ่งออกมา

 

ในขณะนี้เอง เมื่อต้องเผชิญกับแขนกิเลนก็ได้ถูกใช้ออก กระบวนท่านี้เป็นเยี่ยจงร่ำเรียนมาเมื่อชาติก่อน จึงจะสามารถไหลเวียนพลังเทพออกมาจนกลายเป็นถึงขั้นนี้ได้อีกครั้ง ทุกวินาที ต่างก็คล้ายดั่งปรากฏกิเลนที่แท้จริงขึ้นมาตนหนึ่งก็มิปาน

 

เขาฟาดฝ่ามือดัชนีติดต่อกัน ดุจดั่งเมฆาสีม่วง มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปยังบริเวณที่องค์ชายสิบสามอยู่ ใจกลางฝ่ามือขององค์ชายสิบสามก็ได้ขับเคลื่อนดวงตะวันทอง เข้าปะทะกับเยี่ยจงไม่หยุด

 

“ กร๊อบ ——”

 

แล้วก็ได้มีเสียงดังสนั่นขึ้นมา ฝ่ามือขงเยี่ยจงก็ได้ฟาดลงไป จนถึงบริเวณหน้าอกขององค์ชายสิบสาม แล้วก็พบว่าร่างขององค์ชายสิบสามคล้ายดั่งถูกจู่โจมด้วยสายฟ้าก็มิปาน ลอยกระเด็นออกไปอย่างรุนแรง ครั้งนี้เขาก็ได้พุ่งชนเข้ากับกรงเป็นตายของหอคอยสงคราม กระอักโลหิตคำโต

 

เส้นโลหิตของยอดฝีมือตระกูลถังในตอนนี้ก็ได้มีลักษณะเป็นสีดำ เมื่อครู่พวกเขายังรู้สึกได้ ว่าองค์ชายสิบสามจะสามารถสังหาร เยี่ยจงได้อย่างง่ายดาย แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว สถานการณ์จะกลายเป็นเลวร้ายขึ้น จนทำให้ไม่คิดที่จะมองดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้

 

“ เยี่ยจงผู้นี้แข็งแกร่งไปแล้ว สุดท้ายช้าเร็วคงจะต้องมาทำร้ายแดนปราณศักดิ์สิทธิ์เรา ” กุ่ยเมียนผอผอสีหน้าปั้นยากขึ้นมา พึมพำออกมาไม่ขาดสาย

 

บนยอดหอคอยสงคราม หินศิลาที่ความจริงแตกหักจาการโจมตีของทั้งสองคน ภายใต้การควบคุมของจิตแห่งหอคอยสงคราม ก็ได้ถูกฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ไม่หลงเหลือแม้แต่ริ้วรอย อีกทั้งตอนนี้ ร่างของเยี่ยจงกลับลอยออกไปยังท่ามกลางอากาศ เขาก้าวเดินออกไปทีละก้าว ดุจดั่งกิเลนโบราณกาลสอดส่องหมื่นแดนก็มิปาน ทุกๆการย่างก้าวออกไป ท่ามกลางอากาศก็ได้มีแขนกิเลนเหยียบออกจนเป็นร่องรอยเป็นทาง มุ่งหน้าเข้าปะทะยังบริเวณที่องค์ชายสิบสามอยู่ ขณะนั้นเอง คล้ายร่างเกิดเงาร่างกิเลนขึ้นท่ามกลางอากาศนับไม่ถ้วน เวลาเดียวกันก็ได้เข้าปะทะสังหารยังบริเวณที่องค์ชายสิบสามก็มิปาน

 

“ เป็นเจ้าบังคับข้าเองนะ เยี่ยจง ”

 

สีหน้าองค์ชายสิบสามปั้นยากขึ้นมา ทันใดนั้นเอง เนตรดวงที่สามบนหัวของเขาก็ได้ลืมตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน ลำแสงสีทองสายหนึ่งก็ได้พุ่งออกมาอย่างก็ทันหัน ก็ได้ยินเสียง “กร๊อบ” ดังขึ้นมา ภาพที่อยู่ท่ามกลางท้องนภาทั้งหมดก็ได้หายไปจนหมดสิ้น ด้านหน้าลำแสงสายนี้ คล้ายกันฟ้าดินต่างก็ได้สั่นไหวขึ้นก็มิปาน

 

“ เปรี้ยง ——”

 

ร่างของเยี่ยจงก็ได้ลอยขึ้นไปอยู่ท่ามกลางอากาศ เข้าชนกับกรงเป็นตายแห่งหอคอยสงครามอย่างรุนแรง กระอักโลหิตออกมาอย่างหนัก สีหน้าปั้นเปลี่ยนเป็นปั้นยากขึ้นมาหลายส่วนเช่นเดียวกัน ความแข็งแกร่งขององค์ชายสิบสามผู้นี้ ถึงกับอยู่นอกเหนือความคาดหมายไปแล้ว

 

“ กล่าวกันว่าองค์ชายสิบสามผู้นี้มีพลังอันมหาศาลของดวงเนตรปราณฟ้า ? ” ผู้คนทั้งหมดต่างก็ตื่นตระหนก ภายในดวงตาก็ได้เต็มเปี่ยมไปความหมายที่ไม่เหมือนกัน องค์ชายสิบสามนี้ถึงกับใช้ออกมาด้วยพลังอันมหาศาลเช่นนี้ได้

 

เนตรปราณฟ้า เล่าขานกันว่าเป็นสิ่งที่มีมาตั้งแต่เกิด รวมไปทั้งยังมีความสามารถอยู่นับไม่ถ้วน ทั้งยังลี้ลับอยู่ไม่น้อย ต่อให้เป็นผู้ที่มีการเตรียมการสำหรับสิ่งนี้มาตั้งแต่เกิด ก็ใช่ว่าจะสามารถล้วงรู้ความลับนับไม่ถ้วนนี้ได้ แต่ว่าในข้อนี้ผู้คนมากมายต่างทราบกัน ว่าถ้าเป็นสิ่งที่มีมาแต่กำเนิดย่อมมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งและไม่ดับสูญ มีอยู่หลายครั้งที่ต่างก็ถูกขนาดนามว่าไร้ผู้ต้านทาน

 

เยี่ยจงนี้ ถึงกับสามารถต้านทานเนตรปราณฟ้าได้งั้นหรือ ? หรือจะกล่าวว่า สถานการณ์การต่อสู้ยังคงทวีระดับความเลวร้ายยิ่งขึ้นอีกงั้นหรือ

 

ลำแสงสีทองก็ได้สลายหายไปอย่างช้าๆ แต่ว่านั้นกลับให้รังสีที่เผาผลาญหมื่นสรรพสิ่งได้ก็มิปาน ในตอนนี้ยังคงการคงอยู่ท่ามกลางอากาศ ทำให้กรงเป็นตายแห่งหอคอยสงครามตอนนี้เริ่มที่ละลายลงไป พร้อมที่จะแตกออกได้ทุกเมื่อ

 

เนตรปราณฟ้านี้มีความแข็งแกร่งเช่นไร เพียงแต่ว่าสภาพในตอนนี้เพียงปรากฏขึ้นมาเพียงส่วนเดียวเท่านั้น ก็มีระดับความน่ากลัวจนถึงขั้นนี้เชียวงั้นหรือ ?

 

เยี่ยจงค่อยๆปาดเช็ดโลหิตที่มุมปาก ขยับร่างกายคราหนึ่ง ขึ้นไปยังด้านบนเวทีอีกครั้ง สีหน้าเย็นชายิ่ง ถึงแม้นับตั้งแต่เริ่มต้น เขาจะรอคอยให้องค์ชายสิบสามใช่ออกมาด้วยพลังของเนตรปราณฟ้า แต่ก็คิดไม่ถึงว่าพลังของเนตรปราณฟ้าจะมีถึงขั้นนี้ได้ เมื่อครู่หากมิใช่ว่าเขาตัดสินใจเคลื่อนไหวถอยหลบหนีไปแต่แรกแล้วละก็ เกรงว่าผลลัพธ์คงจะไม่ปรากฏออกมาเพียงแค่นี้แน่

 

เยี่ยจงทราบดีแก่ใจ ต่อให้เขาตอนนี้อยู่พลังยุทธ์ขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย แต่ว่าถ้าหากถูกลำแสงนั้นเข้าไปตรงๆแล้วละก็ สภาพการณ์ต่อไปคงเลวร้ายอย่างถึงที่สุด

 

“ ในเมื่อต่างก็เป็นสุดยอดรุ่นเยาว์ ”

 

เมื่อพบเห็นฉากเบื้องหน้า ผู้คนไม่น้อยต่างก็เกิดอาการตกใจอยู่ภายในใจ ความแข็งแกร่งของเนตรปราณฟ้าขององค์ชายสิบสามเป็นสิ่งที่อยู่ในระดับที่ไม่สามารถวิจารณ์ได้ สุดยอดรุ่นเยาว์ต่างก็มีความภาคภูมิเป็นของตนเองอยู่แล้ว แต่ว่าเยี่ยจงในระหว่างนี่เอง ทว่าก็ยังได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แน่นอนว่าย่อมต้องไม่ง่ายดาย

 

ตลอดท่ามกลางสนาม ความเงียบสงบก็ได้กลับคืนมาอย่างช้าๆ องค์ชายสิบสามลุกขึ้นยืนอยู่กับที่เช็ดโลหิตที่มุมปาก จ้องมองไปที่เยี่ยจงอย่างเย็นชา

 

ในขณะนี้ ร่างกายของทั้งสองคนก็ได้ออกมาสู่สายตา

在这一刻,这两人的身形都是出尘而绝世,有着一种绝世的风姿和气度,一般人根本无法比拟。他们两个此刻就这样对视,神色淡漠,但是杀机隐藏。

เด็กหนุ่มที่งสองคนนี้จะต้องเป็นสุดยอดผู้เยาว์อย่างแน่นอน ที่พบได้น้อยนับจากโบราณจนถึงวันนี้ ในดินแดนซีฮวงนี้ สามารถเรียกได้ว่าไม่มีผู้ใดสามารถมาก่อกวนได้

 

 

而此刻他们就这般对视,彼此无言,在此刻,再也没有人胆敢轻易的开口评断什么了,因为每个人都看得出,此刻场中有风暴在汇聚在酝酿,双方下一次不出手则以,若是出手的话,只会更加激烈。

 

“ พี่เยี่ยจง ท่านทราบถึงแต่กำเนิดสองคำนี้ ที่แท้มีความหมายอะไร ? ” ท่ามกลางความตึงเครียดในสนามที่มีอยู่นาน องค์ชายสิบสามก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน ด้วยเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำดังออกมา จนทำให้ผู่คนต่างก็หยุดหายใจไปในทันที ต้องการที่จะทราบว่าพวกเขาทั้งสองกำลังพูดอะไรกันอยู่

 

“ บนร่างข้าไม่ได้มีสิ่งมีติดมาแต่กำเนิด จะทราบได้อย่างไร ” เยี่ยจงหยักไหล่ ทั้งยังมีเบื่อหน่าย

 

“ หากว่าพี่เยี่ยจงยังไม่ทราบแล้วละก็ เช่นนั้นนอกเสียจากข้าจะบอกกล่าวต่อท่าน ก็ถือว่าเป็นการทดแทนต่อท่านก็แล้วกัน ”องค์ชายสิบสามยิ้มขึ้นเบาๆ “ สิ่งที่มีมาแต่กำเนิดทั้งมวล ส่วนมากจะเป็นทำได้สองสิ่ง นั้นก็คือการกลับคืนและการทำลายเมื่อครู่ท่านก็ได้รับทราบไปแล้ว ตอนนี้จะให้ท่านได้รับทราบถึงพลังแห่งการกลับคืน ดีหรือไม่ ? ”

 

ทันทีที่สิ้นเสียง เนตรดวงที่สามบนหัวขององค์ชายสิบสามก็ได้เปิดขึ้นอีกครั้ง ในครั้งนี้กลับเป็นลำแสงทองอันอ่อนนุ่มทอออกมา ประทับอยู่บนร่างองค์ชายสิบสาม ทั่วทั้งร่างเขาก็ได้มีเสียงดังเพียะเพียะขึ้นมา อาการบาดเจ็บที่เมื่อครู่ได้ถูกเยี่ยจงทำลายจนแตกหักก็ได้ฟื้นคืนกลับมา กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ เกิดกล้ามเนื้อขึ้นใหม่ เพียงแค่ชั่วเวลาเพียงพริบตาเดียว เขาก็ได้กลับคืนสู่สภาวะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังสูงสุด

 

“ อะไรกัน ? เพียงแค่หนึ่งลมหายใจ อาการบาดเจ็บนับไม่ถ้วนของเขาก็ฟื้นคืนกลับมางั้นหรือ ? “ มีคนเอ่ยขึ้นมาถึงปาฎิหาริย์ที่คาดคิดไม่ถึงนี้ ภายในดวงตาที่ทั้งตื่นตระหนกและยากที่จะเชื่อได้ลง องค์ชายสิบสามผู้นี้ช่างทั้งแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวจนเกินไป เนตราปราณฟ้าของเขามีความน่ากลัวถึงเพียงนี้งั้นหรือ ? หากรวมกับขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้ว กล่าวอย่างง่ายดายก็คือไร้พ่ายนั้นเอง

 

เยี่ยจงก็ได้กรอกนัยน์ตาไปมาอย่างช้าๆ ต่อให้เป็นนิสัยอย่างเขา ในตอนนี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องสูดลมหายใจด้วยอาการตกใจ เนตรปราณฟ้าถึงกับมีความน่ากลัวถึงขั้นนี้ ควรทราบว่า ทำลายนั้นง่ายได้ กลับคืนนั้นถือว่ายาก องค์ชายสิบสามนี้ถึงกับสามารถควบคุมพลังกลับคืนได้ถึงระดับนี้เชียว ทำให้เขาฟื้นคืนมาสู่สภาวะระดับสูงสุดได้ในทันที ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายอยู่หลายส่วนเลยทีเดียว

 

ทว่า ทันใดนั้น เยี่ยจงก็ได้ฟื้นกลับคืนกลับเป็นปกติแล้ว ตอนนี้เขาจ้องมองไปยัง องค์ชายสิบสามอย่างเย็นชา สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของเนตรปราณฟ้าของเขา สัมผัสพลังมหาศาลที่ลี้ลับอันแปลกประหลาดชนิดนี้ นี้คือความยากที่จะถ่องแท้ของร่างกายชนิดนี้ เมื่อกล่าวโดยเยี่ยจง ถือได้ว่าได้รับประโยชน์อยู่ไม่น้อย

 

“ พลังเนตรปราณฟ้าถือได้ว่าน่าเกรงขามยิ่ง หากว่าสามารถสังหารเขาได้แล้วละก็ จำไว้ว่าต้องควักเนตรปราณฟ้าของเขาออกมา น่าจะสามารถนำไปหล่อหลอมเป็นสมบัติเซียนที่ไม่เลวได้ ” เสียงของเสี่ยวหลุนดังขึ้นภายในห้วงสมองของเยี่ยจง ทั้งยังให้กลิ่นอายอันเยียบเย็นชนิดหนึ่งอีกด้วย

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม8 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด706 Update 07/07/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset