เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 313 พลังทำลายของเนตรปราณ

ตอนที่ 313 พลังทำลายของเนตรปราณ

 

บริเวณท่ามกลางสนาม ก็ได้เงียบสงบทั้งสาย ผู้คนทั้งหมดต่างก็มีสีหน้าตื่นตะลึงบนใบหน้าอย่างไร้ที่เปรียบจ้องมองไปยังองค์ชายสิบสามในตอนนี้ เขาถึงกับจะฟื้นฟูกลับมาเช่นนี้ได้ด้วยงั้นหรือ ? เขาถึงกับฟื้นฟูกลับคืนมาเช่นนี้ได้ด้วยงั้นหรือ ? ยังเพียงแต่แค่นี้ หลังจากที่เข้าสู่พลังก่อเกิดขั้นที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย เขาถึงกับมีพลังที่ไม่ถูกทำลายไปได้ ไม่เพียงแต่ไม่สูญสลาย ความแข็งแกร่งเช่นนี้ ทำให้รู้สึกเนื้อตัวรู้สึกขนลุก ไร้หนทางที่จะคาดคิดได้ หากว่าคิดอย่างละเอียด ภายใต้พลังในระดับเดียวกัน ผู้ใดที่เป็นศัตรู ? เขาก็ไร้ศัตรูและไม่พ่ายใต้ผืนฟ้านี้แล้ว แข็งแกร่งจนถึงขั้นทำให้รู้สึกถึงขั้นที่ยากจะเชื่อได้ ไม่มีผู้ใดสามารถต้านทานได้ ?

 

ไม่ต้องพูดถึงผู้อื่น แค่พูดถึงสถานะอันลี้ลับของเหล่าผู้นี้มองดูการต่อสู้อย่างราชาแห่งรัฐกู่กวอ ลัทธิจากแดนลับแล เป็นต้น ตอนนี้ต่างก็ขยับสีหน้า เกิดความกลัวขึ้นในจิตใจอย่างไร้ที่เปรียบ สุดยอดรุ่นเยาว์เช่นนี้ หากว่ามิได้เข้ามาอยู่ภายใต้ความดูแลของตนเอง ทางที่ดีคือการหาวิธีกำจัดทิ้งเสีย เพราะว่าอันตรายจนเกินไป หากให้เติบใหญ่ขึ้นมา แม้แต่เหล่ายอดฝีมือที่อยู่ในจุดสูงสุดของดินแดนซีฮวงของพวกเขาต่างก็ได้รับพลังการคุกคามอันมหาศาล

 

“ ฮ่าฮ่าฮ่า องค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถังเราถูกเรียกขานว่าเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์ ก่อฟ้าไร้พ่าย ไร้ผู้ต้านในโลกนี้ เพียงแค่เยี่ยจงเพียงคนเดียวที่ไม่ทราบโผล่มากจาก อย่าว่าแต่เป็นคู่ต่อสู้เลย ” เหล่าเชื้อพระวงรัฐถังจากหุบเขาตระกูลถังต่างก็หัวเราะเสียงดังยาวนาน บนใบหน้ายังมีสีหน้าที่ดูถูก ดูจากก่อนหน้านี้ เยี่ยจงที่ตกเป็นเบี้ยล่างอยู่ องค์รักษ์ตระกูลถังของเขาตอนนี้แต่ละก็ก็ได้สูดลมเข้ายาวๆคำหนึ่ง เพราะว่าเช่นนี้พวกเขาจึงสามารถวางใจได้หลายส่วน

 

บริเวณอีกทางด้านหนึ่ง โหยวเหลียนนั้นตอนนี้ก็ได้สาดประกายดวงตาขึ้น บนใบหน้าน้อยๆอันงดงามก็ปรากฏสีหน้าแปลกใจขึ้นมาเป็นสาย เห็นได้ชัด การลงมือนี้ขององค์ชายสิบสาม แม้แต่นางเองก็ยังคาดคิดเอาไว้ไม่ถึง ว่าเนตรปราณฟ้าถึงกับมีความแข็งแกร่งที่มากมายจนถึงขั้นนี้ได้ ทำให้รู้สึกหนาวสั่น

 

“ คิดไม่ถึงว่าจะย่ำแย่ถึงขั้นนี้ ไม่ว่าเป็นเขาหรือว่าเยี่ยจง ต่างก็มิอาจที่จะให้พวกเขามีชีวิตต่อไปได้ ต่างก็มิอาจสามารถให้พวกเขามีชีวิตต่อไป ” ในครั้งนี้สีหน้าของกุ่ยเมียนผอผอนั้นเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง ความจริงนางยังมิได้มองว่าองค์ชายสิบสามเป็นปรปักษ์ แต่ว่าตอนนี้นางก็ได้เข้าใจ ไม่ว่าเยี่ยจงหรือเป็นองค์ชายสิบสาม ต่างก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาแม้แต่คนเดียว หากว่าเติบโตขึ้นมา จะต้องแข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวเต็มสิบส่วน

 

แล้วยังมีนางเซียนชิงหญิงที่ยังคงสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง นางคล้ายกับทราบได้ตั้งแต่แรกแล้วก็มิปาน ยังคงรอคอยอยู่อย่างสงบเช่นนี้ท่ามกลางอากาศ ดุจดั่งนางเซียนภายใต้แสงจันทราก็มิปาน ทั้งยังอาจจะถูกลมโชยพัดไปได้ตลอด

 

บนหอคอยสงคราม สภาพทั้งหมดก็ได้ค่อยๆหายไป และองค์ชายสิบสามในตอนนี้นอกเสียจากแขนเสื้อบนอาภรฉีกขาดไปหลายส่วนแล้ว ก็ผู้ใดสามารถมองออกว่าเขาได้รับบาดเจ็บหนักมาก่อน ? เขาในตอนนี้ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ถือได้ว่าอยู่ในสถาวะสูงสุด น่าหวาดกลัวและแข็งแกร่งอย่างมาก

 

“ พี่เยี่ยจง ท่านรู้สึกว่าพลังเนตรปรานฟ้าข้าเป็นอย่างไร ? เจ้ายังมีวิธีชิงดวงตาอยู่อีกงั้นหรือ ? ” องค์ชายสิบสามอมยิ้มเอ่ยขึ้น ทั้งยังให้ความรู้สึกชนิดที่อยู่ในจุดที่สูงกว่า เมื่อครู่ที่เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ทั้งยังตกเป็นเบี้ยล่าง เพียงแต่ว่าภายก็ได้มองไปยังสถานการณ์ที่เลวร้ายขึ้น เขายังคงยืนหยันดังเตาที่เผาผลาญพันสรรพสิ่ง แต่ว่าความแข็งแกร่งของเยี่ยจงกลับถูกลดทอนเรื่อยๆ สามารถกล่าวได้ว่าอยู่ในสภาพตกเป็นเบี้ยล่างแล้ว

 

และในขณะที่กล่าว องค์ชายสิบสามก็ได้แสดงท่าทีอันสง่างามอันน่าตกใจ ทั้งไม่สะทกสะท้าน ราวกับว่าในตอนนี้ หมื่นสรรพสิ่งที่อยู่ในดินแดนก็ได้อยู่ในกำมือก็มิปาน เขาในตอนนี้ ดุจดั่งเทพเซียนทอดตามองไปยังสิ่งมีชีวิต ที่เบื้องหน้าของเขา ทุกสิ่งก็ไม่ต่างจากแมลงก็มิปาน。

 

“ เนตรปราณฟ้า ทั้งไม่สูญสลายและไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นสมบัติที่ดี ” เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชากล่าวออกมา จากนั้นบนใบหน้าปรากฏก็ได้มีรอยยิ้มเย็นเยียบขึ้นมาเป็นสาย “ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าต้องการเนตรปราณฟ้าของเจ้ามาหล่อเหลอมเป็นสมบัติเซียน เจ้าสมควรที่จะภูมิใจในตัวเองนะ ”

 

“ ชิ ——”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง วินาทีนี้ทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านก็ได้เกิดเสียงตื่นตกใจขึ้นมาเป็นสาย องค์ชายสิบสามที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่และดูถูกโลกหล้า แต่ว่าเยี่ยจงกลับเยือกเย็นและไร้น้ำใจ เมื่อมองจากสภาวะของเขาในตอนนี้ แทบจะมิอาจที่จะทานรับการโจมตีจากเนตรปราณฟ้าขององค์ชายสิบสามได้ เห็นได้ชัดว่าเขาได้มีการเตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่แรกแล้ว

 

“ เหอเหอเหอ ”องค์ชายสิบสามตะลึงขึ้นช้าๆ จากนั้นก็อดที่จะหัวเราะยาวๆออกมามิได้ “ ท่านเยี่ยจง เจ้าก็ช่างมีความมั่นใจในตนเองเหลือเกินนะ น่าเสียดาย ที่บนตัวเจ้าไม่มีสิ่งใดข้าทำให้ข้าสนใจได้ เช่นนี้ ข้าใช้ศพเจ้าเพื่อที่จะหลอมสร้างชุดเกราะชุดหนึ่ง ความคิดเช่นนี้ ดีหรือไม่ ? ”

 

“ เป็นความคิดที่ไม่เลว ขอเพียงเจ้าสามารถทำได้ แน่นอนว่าต้องดีสิ ” เยี่ยจงหัวเราะช้าๆ ไม่แม้แต่จะถูกกระตุ้นให้โกรธขึ้นมา “ ทว่าจากที่ข้าดูแล้ว เจ้าคงจะไม่มีความสามารถเช่นนั้น ”

 

สีหน้าองค์ชายสิบสามยังคงเยียบเย็น จากนั้นเขากล่าวอย่างเมินเฉย “ เยี่ยจง ดูเหมือนว่าเมื่อครู่ที่เจ้าได้เปรียบเพียงเล็ก เจ้ายังคงคิดว่าตนเองไร้ผู้ต้านในดินแดนจริงแล้วงั้นหรือ ตอนนี้ข้าจะบอกต่อเจ้า เบิกเนตรปราณฟ้าจึงเป็นตัวตนแท้จริงของข้า ปกติข้าใช้ออกมาด้วยพลังยังไม่ถึงเจ็ดส่วน เจ้าเข้าใจหรือไม่ ต่อจากนี้เจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับอะไร ? ”

 

“ ไม่ใช่เป็นแค่เจ้าหนูสามตาเพียงคนเดียวงั้นหรือ ? ยอดเยี่ยมนักหรือไง ? ยอดเยี่ยมยิ่งนักหรือยังไง ? “ เยี่ยจงส่งเสียงดังชิออกมา ไม่หลงแยแสแม้แต่น้อย

 

ทว่าคำพูดแม้จะพูดไปเช่นนั้น ดวงตาเยี่ยจงกลับเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นมาหลายส่วน พลังเนตรปราณฟ้าขององค์ชายสิบสาม ถือได้ว่ามีอยู่หลายส่วนที่เกินความคาดเดาของเยี่ยจง

 

ดวงตาขององค์ชายสิบสาม ในขณะนี้ก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นเย็นชาอย่างไร้ที่เปรียบ คำว่าเจ้าหนูสามตาคำนี้ถือเป็นการดูแคลนเขาอย่างยิ่ง นับตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครกล้าที่จะเรียกเขาต่อหน้าเช่นนี้ จะมีก็แต่เยี่ยจง อีกทั้งยังเอ่ยคำพูดนี้ ทำให้เขาปะทุรังสีฆ่าฟันขึ้นภายในใจ

 

“ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ยังคงให้ศพเจ้าไร้ที่กลบฝังยังจะดีกว่า ” องค์ชายสิบสามก้าวออกมาหนึ่งก้าว ดวงตาที่สามบนหัวของเขาก็ได้สาดเป็นประกายแสงคมกล้าสีทองขึ้นมาเป็นสายอย่าง ในขณะนี้ดวงตาที่สามของเขาก็ได้กลายเป็นดุจดั่งพระอาทิคย์ก็มิปาน เจิดจ้าจนทำให้ขั้นทำให้รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาได้

 

เพียงแต่ว่าประกายคมกล้านี้กลับไม่ได้พุ่งออกมา ทั้งยังมีรูปร่างเป็นลำแสง และก็ได้ปกคลุมอยู่บนร่างขององค์ชายสิบสามอย่างรวดเร็ว ทำให้คล้ายดั่งปกคลุมปกคลุมร่างกายของเขาเอาไว้ด้วยวงแสงสีทองอยู่ชั้นหนึ่งก็มิปาน เห็นได้ชัดว่าทั้งลี้ลับและแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

 

“ ข้ากลับมิได้มีการเปลี่ยนการตัดสินใจแต่อย่างไร ”เยี่ยจงยังคงความเยือกเย็น จากนั้นก็ก้าวเท้าออกไปอีกก้าว วิชากระบี่หกสุสานจากภายในในตอนนี้ถูกเขาควบคุมจนถึงขีดสุดในเวลาเดียวกัน พลังกระบี่ตราประทับซ้อนทับก็ได้ซ้อนทับกันจนถึงชั้นที่ยี่สิบเจ็ดอย่างรวดเร็วบริเวณร่างกายของเยี่ยจง ปกคลุมอยู่บนร่างของเขา ทั้งยังให้ความรู้สึกที่ประหลาดและยากที่จะคาดเดา

 

“ ฟัน ——”

 

องค์ชายสิบสามก็ได้หัวเราะอย่างเย็นชา ร่างกายคล้ายดั่งมังกรเกรี้ยวตนหนึ่งก็มิปาน ในตอนนี้ความโกรธก็ได้พุ่งออกมา

 

“ ฆ่า ——”

 

เยี่ยจงส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา ร่างกายดุจดั่งดีดทะยานออกไปทันทีดุจดั่งสายฟ้าก็มิปาน

 

ในขณะนี้เอง เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศเมื่อครู่ของทั้งสองคนก็ได้มาจนระดับพลังสูงสุดกันแล้ว วินาทีนั้น ดุจดั่งดาวตกขนาดใหญ่สองดวงเข้าปะทะกันท่ามกลางอากาศก็มิปาน。

 

“ ตูม ——”

 

ในครั้งนี้ทั้งสองคนพึ่งจะเข้าปะทะกัน ร่างกายต่างก็ลอยพลิกออกไปทันที ในช่วงที่องค์ชายสิบสามลงสู่พื้น ฝ่าเท้าก็ได้จมลึกถอยไปจนถึงหลังเวทีสิบกว่าก้าว แต่ว่าสีหน้ากลับมิได้มีการเปลี่ยนไปมากนัก

 

และเยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายกระอักโลหิตออกมา เขาก็ได้ปาดเช็ดโลหิตที่มุมปากอย่างช้าๆ เกิดความเคร่งเครียดและหนักแน่นขึ้นมาภายในใจ แต่ว่ากลับไม่มีความกลัว

 

“ เนตรปราณฟ้าที่แท้ก็ไม่ธรรมดา ” เมื่อพบว่าเยี่ยจงได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่ยกแรก จิตใจของผู้คนไม่น้อยต่างข้อกระดอนออกมา ไม่ว่าจะมองอย่างไร หลังจากที่ควบคุมเนตรปราณฟ้าแล้ว ความแข็งแกร่งขององค์ชายสิบสามก็ถือว่าเหนืออยู่ขั้นหนึ่ง เรียกได้ว่ามิใช่สิ่งที่ผู้คนธรรมดาจะสามารถคาดเอาเอาไว้ได้

 

“ ท่านไม่ไหวเลยนะ ” องค์ชายสิบสามยิ้มอย่างเย็นชา เขาเพียงแค่ใช้พลังแห่งการทำลายปกคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างของตนเองเท่านั้น เยี่ยจงก็ได้รับบาดเจ็บในรอบแรก นี้จึงได้ทำให้เขาหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นมา

 

“ งั้นหรือ ? ”

 

สีหน้าของเยี่ยจงเย็นชาอย่างยิ่ง ทันใดนั้นเขาก็ก้าวออกไป เขาก้าวออกไปหนึ่งก้าว รังสีแห่งความตายแต่ละสายก็ได้แผ่กระจายออกมาจากท่ามกลางพลังกระบี่ตราประทับ ปกคลุมอยู่บนร่างของ

 

“ ตายซะ ——”

 

ทันที่ทีหยุดลง ร่างกายของทั้งสองคนก็ได้พุ่งออกไปอีกครั้ง ปะทุการต่อสู้อันน่าตกใจขึ้นมา

 

“ ตุมตุมตูม ——”

 

ในครั้งนี้ที่แผ่กระจายรังสีแห่งความตายออกมา เยี่ยจงกลับสามารถหยุดยั้ง พลังทำลายแผ่กระจายออกมาจากร่างกายขององค์ชายสิบสามที่เอาไว้ได้ วินาทีนั้น ทั้งสองฝ่ายได้ประมือกันนับสิบกระบวนท่า ในทุกครั้งที่เข้าปะทะ ต่างก็ได้ทำลายพลังทำลายอันมหาศาลที่กระจายออกมาจนทำให้เวทีบนยอดหอคอยสงครามเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นสาย

 

จิตแห่งหอคอยสงครามท่ามกลางอากาศยังคงลงมือครั้งแล้วครั้งแล้ว ขมวดคิ้วฟื้นฟูส่วนที่แตกหัก เห็นได้ชัดว่าการลงมือของสุดยอดรุ่นเยาว์ทั้งสองคน ทั้งเปี่ยมไปด้วยพลังมากมาย ทั้งยังอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาไปทั้งหมด

 

“ ตูม ——”

 

ทันใดนั้น เยี่ยจงก็ได้ใช้พลังฝ่ามือสังหารออกไป มังกรอสรพิษเจ็ดสีก็ได้ปรากฏที่บริเวณหลังศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นใช้ออกด้วยความรวดเร็วที่สุดจนก่อเกิดรังสีเทพเจ็ดสีขึ้น ทว่ารังสีเทพนี้กลับมิได้เข้ากดดันออกไป เพียงแต่ก่อตัวรวมกันทีละน้อยอยู่บริเวณใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจง ราวกับว่าเยี่ยจงใช้ออกด้วยฝ่ามือนี้อย่างเรียบง่าย

 

ในขณะนี้ เยี่ยจงได้แสดงฝ่ามือมังกรสีรุ้งที่อยู่ในอีกระดับสูงกว่าทั้งหมด ท่ามกลางฝ่ามืออันง่ายดายนี้ ได้ก่อรวมพลังทำลายและลี้ลี้ลับอยู่ภายใน ในขณะนี้เอง ความเปลี่ยนแปลงนับพันหมื่นก็ได้วาดอยู่บนฝ่ามือ น่าเกรงขามอย่างสุดล้น

 

“ ถี่ ——”

 

ประกายแสงสายหนึ่งก็ได้พุ่งออกมาจากบริเวณกลางคิ้วขององค์ชายสิบสาม ยับยั้งฝ่ามือนี้ของเยี่ยจงเอาไว้ ในเวลาเดียวกันทั้งสองคนก็ได้ขยับขึ้น มุ่งหน้าถอยไปยังบริเวณทางด้าน

 

เยี่ยจงยกฝ่ามือขึ้นมองไปคราหนึ่ง บริเวณฝ่ามือก็ได้มีพลังเซียนของฝ่ามือมังกรสีรุ้งก่อตัวขึ้น ราวกับหายไปในทันที

 

“ ท่านเยี่ยจง ท่านไม่ไหวหรอกเลย ถ้าหากท่านถึงขีดจำกัดจริงแล้วละก็ เช่นนั้นวันนี้ ดูเหมือนท่านจะต้องตายอย่างแน่นอนแล้ว ” องค์ชายสิบสามหัวเราะคิกคักออกมาอย่างเย็นชา สีหน้าเย็นเยียบเต็มสิบส่วน

 

ยอดฝีมือที่มุงดูกันต่างก็งงงัน เยี่ยจงถึงกับแสดงทักษะเซียนเช่นนี้ออกมาได้จนถึงขั้นนี้ ช่างน่าหวาดกลัวอย่างถึง แต่ก็คิดไม่ถึง ทักษะเซียนอันแข็งเช่นนี้ยังถึงกับต้านประกายแสงสายนี้จากเนตรปราณฟ้าขององค์ชายสิบสามเอาไว้ไม่อยู่ ความน่ากลัวขององค์ชายสิบสามนี้ ช่างน่าตื่นตกใจจนเกินไปแล้ว

 

“ มีดวงตาที่สามแล้วยอดเยี่ยมอย่างงั้นหรือ ? พูดประชดประชันให้มันน้อยๆหน่อย รอข้านำเอาควักดวงตาดวงหนึ่งของเจ้าออกมา รักษาอาการเจ็บของดวงตาที่สามของเจ้า ” เยี่ยจงคล้ายดั่งไม่ได้ยินคำพูดขององค์ชายสิบสามที่ดังออกมา เพียงแต่ยังคงเย้ยหยันอย่างเพลิดเพลินต่อไป

 

หลังจากที่เงียบงัน ยอดฝีมือไม่น้อยต่างก็หายใจอย่างกระชั้นชิด แต่ว่ากลับยอมรับเยี่ยจงไม่น้อย ทั้งยังตาต่อตาฟันต่อฟัน หากว่าต้องมาพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้แล้วละก็ สามารถกระทำได้เยี่ยจงก็มิปาน เมื่อตกเป็นเบี้ยล่างยังคงมีสภาพจิตใจเช่นนี้ได้ นามราชันเยี่ยจง คงมิได้เป็นเพียงแค่ข่าวลือแน่นอน

 

สีหน้าองค์ชายสิบสามเย็นเยียบยิ่งกว่าเก่า เขามองไปที่เยี่ยจงอย่างลึกซึ้ง จากนั้น จึงได้ยิ้มขึ้นแล้วกล่าว “ ในเมื่อเป็นบุคคลที่มาจากรัฐเล็กๆ เมื่อตนเองมีความสามารถอันน้อยนิดก็คิดว่าไร้ผู้ต้านแล้ว ช่างโอหังเสียจริง ช่างไม่กลัวกัดลิ้นตัวเองเลย วันนี้เพื่อเส้นโลหิตเพียงหนึ่งเดียวของเผ่ามนุษย์ ข้าจะต้องสั่งสอน เจ้าเยี่ยจง สิ่งใดเรียกว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ”

 

“ อย่าเลย ” เยี่ยจงส่ายหน้าด้วยความดูถูก “ เจ้าเป็นถึงองค์ชายสามตาแท้ๆ ไม่เหมือนกับเผ่ามนุษย์เช่นข้า ที่สามารถมีเส้นลมปราณหนึ่งเดียวได้ ? หรือไม่ก็เจ้าตัวเป็นตัวอย่าง ให้ได้เห็นสีกครั้ง เพียงแต่ว่าต้องเลือกให้ดีละ อย่าได้ทำลายผิดไป ไม่เช่นนั้นแล้วจะวันหน้าจะเสียใจภายหลังนะ ”

 

สีหน้าขององค์ชายสิบสามเปลี่ยนไปในทันที ภายในดวงตาก็ได้ปะทะรังสีฆ่าฟันขึ้นอย่างเดือด

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม8 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด706 Update 07/07/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset