เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 314 การปรากฏของตราผนึกนภาอีกครั้ง

ตอนที่ 314 การปรากฏของตราผนึกนภาอีกครั้ง

 

“ กร๊อบ ——”

 

ราวกับผ่านไปเพียงแค่ลมหายใจเดียวในทันที ขณะนั้นเอง องค์ชายสิบสามอีกลายเป็นตนหนึ่งวิหคทองอีกครั้ง ปะทุความบ้าคลั่งอย่างไร้ที่เปรียบ เด่นเป็นสง่าอยู่เหนือเมฆา ทั้งยังทำให้รู้สึกได้ถึงพลังอันน่ากลัวไร้ที่เปรียบปะทะสังหารออกมา หมายจะฆ่าเยี่ยจงให้ตายคามือ

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชา สีหน้าเย็นเยียบเต็มสิบส่วน ดวงตาสาดเป็นประกายไม่หยุดยั้ง ฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือ รับการโจมตีหมายสังหารขององค์ชายสิบสามตอนนี้

 

“ ตูมตูมตูม ——”

 

ในครั้งนี้ ทั้งสองคนประชันกันด้วยความเร็ว ทุกๆครั้งที่ปะทะกัน ต่างก็มีระดับความรุนแรงที่ยากจะคาดเดาของ ทำให้ทั่วทั้งยอดหอคอยสงครามต่างก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง คล้ายดั่งลมคลั่งฝนคะนองพุ่งออกมาก็มิปาน ราวกับว่าไร้วิธีที่จะลบล้างสายอัสนีที่สาดออกมา ทั้งน่ากลัวและน่าเกรงขาม

 

เพียงแต่ว่า ท่ามกลางการประชันในครั้งนี้ของ เยี่ยจงกลับเป็นฝ่ายที่พลาดท่าเสียทีอย่างมาก ทุกๆกระบวนท่าทุกๆยุทธวิธีของเขาก็ได้ถูกองค์ชายสิบสามแก้ได้ ในเวลาเดียวกันบนร่างองค์ชายสิบสามก็ปกคลุมไปด้วยพลังทำลายอย่างไม่ขาดสาย มิใช่สิ่งที่พลังแห่งความตายบนร่างของเยี่ยจงจะต้านทานไว้ได้

 

“ กร๊อบ ——”

 

หลังจากที่ประมือไปแล้วสิบกว่ากระบวนท่าดุจดั่งสายฟ้าฟาดก็มิปานของแล้ว ฝ่ามือข้างหนึ่งขององค์ชายสิบสามก็ได้มาถึง ยังบริเวณหน้าอกของเยี่ยจง ทำให้ร่างกายเขากระเด็นลอยออกไปในทันที กระแทกเข้ากับบนกรงเป็นตายแห่งหอคอยสงคราม แล้วก็ได้กระอักโลหิตออกมาอีกครั้ง สีหน้าขาวซีดเต็มสิบส่วน

 

“ นี้ก็คือขีดจำกัดของเจ้างั้นหรือ ? งั้นข้ายังคงประเมินเจ้าสูงเกินไปแล้วสินะ ”

 

บนใบหน้าขององค์ชายสิบสามเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย็นชาไร้ที่เปรียบ เขาก้าวเดินออกไปทีละก้าว ทุกๆเก้าที่ทอดลง จะมีดอกบัวสีทองเกิดขึ้นมา ท่าเท้าท่องบัว ในตอนนี้ก็ถูกองค์ชายสิบสามใช้ออกมาอีกครั้งในเวลานี้อีก ราวกับบอกถึงความน่ากลัวและไร้ขีดจำกัด เพียงแต่ว่าทันทีที่ผ่านไปหลายลมหายใจของ ทำให้พลังฝีมือของเขาในตอนนี้ก็ได้เพิ่มขึ้นสูงจนถึงระดับที่ยากที่จะคาดเดา

 

“ ชิ ——”

 

เมื่อก้าวมาถึงก้าวที่เก้า บนร่างองค์ชายสิบสามก็ได้เปร่งรังสีโลหิตอย่าง ดุจดั่งขึ้นสู่ท้องนภาก็มิปาน ทั่งทั้งตัวของเขาเต็มไปด้วยเพลิงทอง

ด้านหลังกายก็ได้มีปีกคู่ที่เกิดจากเปลวไฟสีทองเป็นกลุ่มขบวนเกิดขึ้นเป็นชั้น จากนั้นเขาก็ได้ใช้ออกหนึ่งดัชนี ทันใดนั้นปีกทั้งคู่ก็ได้รวมตัวกันขึ้นมา ระดับความเร็วในตอนนี้ก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับสูงสุด มุ่งหน้าเข้าไปบริเวณที่เยี่ยจงอยู่อย่างฉับพลัน

 

กระบวนท่านี้ มีลักษณะท่าทีหมายที่จะทำการฆ่าสังหารเยี่ยจงให้สิ้น ไม่มีแม้แต่ความลังเล

 

เยี่ยจงสายตาสาดเป็นประกาย ขณะนั้นเอง ก็ไม่มีวิธีการใดๆอีกแล้ว เขาพลิกสองมือผนึกรอยประทับอย่ารวดเร็ว มือหนึ่งชี้ขึ้นนภา มือหนึ่งชี้ลงพสุธา มุ่งหน้าทางด้านหน้าสังหารออกมา。

 

“ ตูม ——”

 

รอยประทับสีทองขนาดใหญ่ก็ได้ปรากฏท่ามกลางอากาศ มุ่งหน้าลงไปสังหารบริเวณทางด้านล่าง ทั้งยังมีพลังของตราผนึกฟ้าดิน

 

ตราผนึกนภา ในตอนนี้พลานุภาพอันน่าเกรงขามไม่สูญสลายชนิดหนึ่งอย่างชัดเจน ราวกับสามารถผนึกไปทั้งฟ้าดินได้ก็มิปาน。

 

ปีกคู่ทางด้านหลังขององค์ชายสิบสาม ในตอนนี้ก็ได้ขยับช้าๆ ตามผนึกเงาที่เกิดขึ้นมาเช่นนี้ ราวกับทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ก็ยังต้องสูญเสียพลังไปจากทั่วทั้งร่างเขาก็มิปาน

 

องค์ชายสิบสามสีหน้าเปลี่ยนไปช้าๆ คิดไม่ถึงว่าในช่วงสถานการณ์ที่คับขันเช่นนี้ เยี่ยจงยังถึงกับมีท่าหลังอันน่ากลัวเช่นนี้ ทำให้เขาไม่อาจมีวิธีที่จะฆ่าสังหารได้ในเวลาเช่นนี้

 

“ กร๊อบ ——”

 

หลังจากตอนนี้ ปีกคู่สีทองเพลิงทางด้านหลังขององค์ชายสิบสามก็ได้หายไปอย่างช้าๆ และเยี่ยจงก็ได้เปลี่ยนกลายรอยประทับ เขาเคลื่อนไหวของอย่างเรียบง่าย จนก่อรวมตราของผนึกนภานั้นออกมาจนกลายรอยประทับอันไม่สิ้นสุด ปกคลุมอยู่บนร่างของเขา

 

เห็นได้ชัด ทั้งสองคนในตอนนี้ต่างก็เข้าใจเต็มสิบส่วน คิดที่จะตัดสินแพ้ชนะ คงไม่ง่ายดายเช่นนั้น

 

“ มาอีก ”

 

องค์ชายสิบสามกัดฟัน ความรู้สึกเช่นนี้ที่ถูกเยี่ยจงพลิกสถานการณ์ได้ถือได้ว่าไม่ดีอย่างยิ่ง เยี่ยจงเพียงแค่คนเดียวกลับสลายรังสีของเขาออกมาได้ เขาถือว่าความหวาดกลัวอยู่หลายส่วน ไม่อาจที่จะไม่มองดูได้

 

“ ตูม ——”

 

องค์ชายสิบสามอีกก้าวขึ้นไปอีกครั้ง คิดที่จะเพิ่มพูนพลังฝีมือ。

 

“ ตูม ——”

 

และในเวลาเดียวกัน เยี่ยจงก็ได้ก้าวออกมา ตราผนึกนภาบนร่างของเขาสาดรังสีหมุนวนออกมาก็มิปาน ทำไมผู้คนตกใจขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล ถึงกับทำให้พลังขององค์ชายสิบสามที่เพิ่มระดับมาจนถึงขั้นนี้ถูกกดดันกลับไป

 

สีหน้าองค์ชายสิบสามเปลี่ยนไปอย่างมาก เป็นครั้งแรกที่ตรวจสอบได้ว่าไม่ถูกต้อง ตอนนี้เนตรปราณฟ้าของเขาจ้องเขม็งไปที่เยี่ยจง เพราะว่าเยี่ยจงในตอนนี้ได้ให้ความรู้สึกที่อันตรายอย่างยิ่งจนเกินไป

 

“ ฮูม ——”

 

ในทันทีที่องค์ชายสิบสามลืมตาของเนตรปราณฟ้า เยี่ยจงอีกก้าวออกมาหนึ่ง ถึงกับมาจนถึงบริเวณข้างกายของเขา และก็ได้กวาดแขนขวาไปทางด้านหลัง ผนึกบนมือก็ได้มุ่งหน้าผนึกเขาบริเวณหน้าอกขององค์ชายสิบสาม

 

ทางด้านข้างร่างขององค์ชายสิบสามร่างกาย สาดโจมตีออกไป ฝ่ามือเขาก็ได้กลายเป็นกรงเล็บวิหคทองในทันทีกลาย แล้วก็ได้ก่อรวมพลังดวงตะวันอยู่ที่ใจกลางฝ่ามือ หมายจะปะทะฆ่าสังหารเยี่ยจง

 

“ กร๊อบ ——”

 

เยี่ยจงกวาดมือซ้ายออกไป เข้าปะทะกับฝ่ามือนี้ขององค์ชายสิบสาม วินาทีนั้น จากนั้นก็ได้มีเสียงดั่งหินหยกแตกร้าวดังลอดออกมา ร่างกายขององค์ชายสิบสามขยับคราหนึ่ง ทันใดนั้นก็ได้มุ่งหน้าพุ่งออกไปยังบริเวณทางด้านหลังออกไป ฝ่าเท้าก็ได้ย่างกรายถอยออกไปในระยะทางหนึ่ง ถึงได้หยุดร่างลง

 

องค์ชายสิบสามขมวดคิ้วขึ้นช้าๆ บนใบหน้าก็ได้ปรากฏสีหน้ายากที่จะเชื่อ เพราะว่าในทันทีที่เมื่อครู่ได้ปะทะกัน แขนของเขาถึงกับปรากฏร่องรอยของความเสียหายเป็นสายๆ ตอนนี้ก็ได้มีโลหิตไหลซึมออกมา เห็นได้ชัดว่าเป็นอาการบาดเจ็บที่อยู่บนร่างกาย อีกทั้ง ตอนนี้เขายังควบคุมพลังของเนตรปราณฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่ในครั้งนี้ของกลับปรากฏว่าไม่อาจที่จะฟื้นฟูกลับมาได้ แท้จริงแล้วก็มีพลังประหลาดชนิดหนึ่งคอยขวางรั้งตนเองเอาไว้

 

ยอดฝีมือรอบข้างที่มองดูอยู่ในตอนนี้ต่างก็เกิดอาการตื่น เยี่ยจงผู้นี้ถึงกับมีพลังฝีมือของตนเองเช่นนี้ เมื่อครู่ที่เขาไม่เพียงแต่ใช้พลังฝีมือในการยับยั้งเนตรปราณฟ้าขององค์ชายสิบสาม ถึงกับสามารถทำให้เขาไม่อาจที่จะใช้พลังในการฟื้นฟูได้ด้วยงั้นหรือ ?

 

ขณะนั้นเอง ยอดฝีมือไม่น้อยต่างก็ถอนใจอย่างเงียบๆ สองคนนี้ไม่ว่าจะเป็นคนใดต่างถือได้ว่าเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์ พลังฝีมือใช้ออกมาได้ในระดับที่แตกต่างกัน ทำให้ผู้คนยากที่จะคาดเดา

 

เยี่ยจงสีหน้าไม่มีเปลี่ยนแปลง หลังจากที่ตนเองได้เข้าสู่พลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย เขา对ตราผนึกนภาของ การควบคุมพลังก็จัดได้อยู่ในระดับที่สูงยิ่งขึ้น มิใช่เส้นโลหิตที่มีการเปลี่ยนไป แต่เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากมาย และตอนนี้ก็เป็นไปตามความคาดเดาของเขาก็มิปาน ตราผนึกนภาถูกเรียกขานว่าเป็นหนึ่งในสิบของวิชามนตราโบราณ แน่นอนว่าย่อมต้องมีส่วนที่พิเศษเป็นของตัวมันเอง เปรียบได้ดั่งเนตรปราณฟ้าขององค์ชายสิบสามก็ยังวิธีหนทางที่จะยับยั้งขุมพลังเช่นนี้ได้

 

ทันใดนั้นเอง เยี่ยจงก้าวเดินดั่งพยัคฆ์มังกร เดินไปทีละก้าว ร่างกายก็ได้ปรากฏขึ้นมาที่บริเวณด้านหน้าขององค์ชายสิบสามของ บริเวณใจกลางก็ได้ก่อรวมอักขระผนึกฟ้าขึ้น สาดทอแสงทองไม่หยุดยั้ง

 

“ ตูม ——”

 

องค์ชายสิบสามสีหน้าเปลี่ยนไปช้าๆ ทันทีใดนั้นก็ได้ฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือ ·และเข้าปะทะกับเยี่ยจงครั้งหนึ่ง วินาทีนั้น ร่างกายทั้งสองคนต่างก็ขยับออกไปอย่างช้าๆ ในเวลาเดียวกันพลิกลอยออกไป มุ่งหน้าถอยไปทางด้านหลัง

 

ในครั้งนี้องค์ชายสิบสามไม่พูดจาอยู่นาน จ้องไปที่เยี่ยจง ของกระบวนท่านี้ของเยี่ยจงได้อยู่เกินความเข้าใจตามปกติไปมากแล้ว ให้เขาเกิดความเคร่งเครียดภายในใจ ตอนนี้ไม่อาจที่จะมองไปอย่างตั้งใจได้ ในเวลาเดียวกันก็มีความเชื่อมั่นว่า กระบวนท่าก่อนหน้าของเยี่ยจงถึงกับสามารถทำร้ายตนเองได้ย่อมมิใช่ความบังเอิญ แต่เป็นความสามารถที่แท้จริงของเขาอย่างหนึ่ง

 

“นี้คือพลังของตราผนึก ข้าเดาได้ว่า ตราผนึกที่พอจะสามารถข้าของเนตรปราณฟ้าข้าได้ นี้มิใช่สิ่งที่ทักษะเซียนจะสามารถทำกระทำได้ สมควรที่จะเป็นมนต์ตราเทพสินะ ? และท่ามกลางมนต์ตราเทพ อย่างน้อยของระดับของพลังที่เท่าที่ข้าทราบ ในตอนนี้อย่างมากที่เจ้าสามารถควบคุมได้ สมควรที่จะต้องหนึ่งในสิบมนต์ตราเทพโบราณในตำนาน เป็นตราผนึกนภาสินะ ” องค์ชายสิบสามเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา มิมีบุคคลภายนอกได้ยิน

ในเวลาเดียวกันเขาภายในดวงตาของเขาก็ได้ปรากฏความร้อนแรงทอประกายคมกล้า สิบมนต์ตราเทพโบราณขั้นสูง มีชื่อเสียงอย่างยิ่ง ไม่ว่าเป็นขุมกำลังใดต่างก็คิดที่จะครอบครอง เขาสามารถวิเคราะห์ระดับชั้นทั้งหมดของมนต์ตราเทพของเยี่ยจงได้ ต่อมาสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นลึกซึ้งเต็มสิบส่วน

 

ตอนนี้ เขายังไม่คิดที่จะให้ผู้ใดทราบข้อนี้ เพียงแต่คิดจะฆ่าสังหารเยี่ยจง แย่งชิงวิชามนต์ตราเทพนี้ของเยี่ยจง

 

หลังจากที่จ้องมองไปที่เยี่ยจงอย่างเร้าร้อนอยู่นาน องค์ชายสิบสามก็ได้ถอนหายใจออกมาคำหนึ่ง เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา “ เจ้ามีโชคที่ไม่น้อยเลย ถึงกับสามารถได้ครอบครองมนต์ตราเซียนเช่นนี้ แม้แต่ข้าก็ยังอิจฉา ไม่แปลกใจเลยที่จะสามารถก้าวหน้าได้เร็วถึงเพียงนี้ คิดที่จะครอบครองตราผนึกฟ้าเช่นนี้ เจ้าคงจะได้รับประโยชน์อย่างมากเลยสินะ ? ทว่า น่าเสียดาย โชคเจ้ายังไม่ถือว่าดี กลับคิดที่จะออกมาต่อกรกับข้า ในครั้งนี้ ต่อให้เจ้าต้องการจะตาย ก็คงไม่ง่ายดายเช่นนั้น “

 

เยี่ยจงสีหน้าเย็นชา คิดไม่ถึงว่าองค์ชายสิบสามถึงกลับสามารถมองออกถึงที่มาของกระบวนท่านี้ ทว่าไม่นานนักเยี่ยจงก็โล่งใจ ตระกูลถังกล่าวได้ว่าเป็นถึงรัฐที่มีความเก่าแก่ยาวนาน ถึงกับทราบที่มาที่ไปของพลังที่แท้จริงมากมายเช่นนี้ได้ ในเวลาเดียวกัน องค์ชายสิบสามผู้นี้ในตอนนี้ยังคงเบิกเนตรปราณฟ้าอยู่ ย่อมต้องสามารถมีความรู้ความสามารถเกินความเข้าใจจากผู้คนธรรมดาในเวลาเดียวกัน ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่อาจมองออกได้ถึงการใช้ตราผนึกฟ้าเช่นนี้ได้

 

“ เอาเช่นนี้ดีไหม …… ตอนนี้เจ้าทำลายวิทยายุทธ์ของตัวเอง ข้าก็จะไม่สังหารเจ้า อีกทั้งยังจะเชิญเจ้ากลับไปยังหุบเขาตระกูลถังข้า ข้าว่า …… ผนึกเจ้าแลกกับตำแหน่งขุนนางละกัน นับจากนี้เป็นต้นไปก็จะได้ทั้งชื่อเสียงและลาภยศเป็นการแลกเปลี่ยน ดีหรือไม่ ? ”องค์ชายสิบสามหัวเราะช้าๆ ภายใต้รอยยิ้มกลับให้บรรยากาศอันประหลาดชนิดหนึ่ง

 

“ เป็นไร เจ้ามีความสนใจต่อตราผนึกนภาของข้าเช่นนั้นหรือ ? เจ้าต้องการจริงแล้วละก็ ข้าให้แก่เจ้าได้ ขอเพียงเจ้าควักดวงตาที่สามของเจ้ามาให้ข้าวิเคราะห์สามวัน พวกเราสองก็ถือว่าหายกัน ”เยี่ยจงยิ้มขึ้นช้าๆ มิได้ปฏิเสธองค์ชายสิบสาม

 

“ เหอะเหอะ ดูเหมือนเจ้าจะรับไม่ได้กับวิธีการของข้า ความจริงถ้ายังคิดที่จะไว้ชีวิตเจ้า ตอนนี้ดูเหมือนว่า จะเป็นคำขอที่มากเกินไป ” องค์ชายสิบสามยิ้มขึ้นเบาเบาๆ “ ทว่าก็ไม่เป็นไร ต่อให้ฆ่าสังหารเจ้า ก็คงจะมีวิธีการนับไม่ถ้วนที่ฆ่าสามารถคิดที่จะใช้ได้ ”

 

“ จะกลัวก็แต่เจ้าจะไม่มีความสามารถนี้ ” เยี่ยจงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา ไม่ได้เกิดความรู้สึกใดๆต่อคำพูดขององค์ชายสิบสามแม้แต่น้อยแต่อย่างไร

 

“ งั้นหรือ ? ถ้างั้นก็ต้องลองดูกันหน่อยแล้ว ในเมื่อทราบที่เจ้าใช้คือตราผนึกนภา เช่นนั้นข้ายังมิอาจที่จะต่อกรเจ้าได้งั้นหรือ ? ” องค์ชายสิบสามฮิฮิออกมา จากนั้นเขาก็ก้าวเท้าออกไป ทันใดนั้นร่างกายออกไปดุจประกายไฟก็มิปาน

 

ราวกับในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ขยับออกไปอย่ารวดเร็ว ทันใดนั้น เขากับองค์ชายสิบสามก็ได้ปะทะกันนับร้อยพันครั้ง และความเคลื่อนไหวของพวกเขาถือได้ว่ารวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เร็วจนถึงขีดสุด

 

ทุกๆครั้งที่ทั้งสองคนของเข้าปะทะ ต่างก็เข้าปะทะอย่างมิได้จริงจังนัก ทั้งสองฝ่ายต่างก็ใช้ออกด้วยคมหมัดฝ่ามือของตนเอง เข้าปะทะในทันที พลังโจมตีขององค์ชายสิบสามก็ได้ลอยถอยออกไป มุ่งหน้าออกไปทางด้านอีกทางหนึ่ง ดังนั้นหลังจากที่ได้ผ่านพ้นไปแล้วนับร้อยกระบวนท่า หมัดฝ่ามือของทั้งสองฝ่ายถึงแม้จะมิได้เข้าปะทะกันอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่า องค์ชายสิบสามก็เข้าใจถึงความแข็งแกร่งของตราผนึกนภาเต็มสิบส่วน เขาไม่คิดที่จะเข้าปะทะกับเยี่ยจง แต่เป็นการคิดที่จะฆ่าสังหารเยี่ยจง

 

ระหว่างที่ได้ลงมือ ระหว่างนั้นก็สามารถพบได้ว่า ประกายสีทองของดวงอาทิตย์ก็ได้ปรากฏขึ้นด้านหลังศีรษะองค์ชายสิบสาม วิหคทองตนหนึ่งก็ได้บินออกมา กลายเป็นอักขระติดเข้าไปยังร่างกายขององค์ชายสิบสาม จนทำให้ทุกกระบวนท่าที่เขาใช้ออก จนสามารถเผาผลาญพื้นที่ว่างเปล่า จนกลายเป็นรูกลวงได้

 

นี้เป็นวิธีของเขาใช้ไว้เพื่อต่อกรตราผนึกนภาเยี่ยจง

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม8 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด706 Update 07/07/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset