เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 318 บทสรุป

ตอนที่ 318 บทสรุป

 

 

ท่ามกลางอากาศ ยันต์ปราณไหลเวียนออกมาไม่หยุด จนท้ายที่สุด ความเปลวเพลิงมืดมนที่ทั้งมืดและสลัวชนิดหนึ่งก็ได้ลุกไหม้ขึ้นมาอย่างช้าๆท่ามกลางระหว่างฟ้าดิน จากนั้นภายใต้การรวมตัวของยันต์ปราณนับไม่ถ้วน ก็ได้มีพลังอันมหาศาลประหลาดชนิดหนึ่งแผ่ขยายออกมาอย่างช้าๆ

 

จากนั้นก็ได้พบว่าเปลวเพลิงมืดมนเหล่านี้ก็ได้รวมตัวกัน จนกระทั่งกลายเป็นเงามายาอยู่ท่ามกลางอากาศ ท่ามกลางเงามายา ก็สามารถพบเห็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ตนหนึ่งที่ครอบคลุมไปทั่วทั้งฟ้า สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่มีปีกด้วยกันสองข้าง เพียงแค่กระพือเพียงเบาๆ ก็พัดพาสิ่งที่อยู่บนภูเขาทั้งลูกออกไปได้ทั้งหมด

 

นี่เป็นครั้งที่สองที่เยี่ยจงควบคุมค่ายกลยันต์ปราณไร้นาม ค่ายกลยันต์ปราณในตอนนี้ยังไม่ได้ถูกจัดตั้งไม่แล้วเสร็จ แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ สีหน้ายอดฝีมือนับไม่ถ้วน ทันใดนั้นก็ได้เปลี่ยนเป็นสดใสอย่างไรที่เปรียบ

 

“ นี่คือค่ายกลยันต์ปราณ ? ถ้างั้นจะบอกว่า ในตอนนี้เยี่ยจงสามารถควบคุมค่ายกลยันต์ ปราณขั้นสามได้ ? หรือจะเป็นระดับสูงกว่า ? “

 

ยอดฝีมือมากมายต่างก็ทราบ ค่ายกลยันต์ปราณที่สูงกว่าระดับสามขึ้นไป ก็จะสามารถทำให้ค่ายกลยันต์นี้มีพลังในการทำลายเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และท่ามกลางค่ายกลยันต์นี้ในตอนนี้ก็ได้มีเงาร่างขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาอย่างเลือนราง แต่ว่าด้วยสายตาที่มองดูของยอดฝีมือจากรอบข้าง ก็ได้จดจำออกมาได้ว่า เงาร่างขนาดใหญ่นั้น แท้จริงแล้วก็คือค่ายกลปราณของค่ายกลยันต์ปราณในระดับตำนาน

 

หรือจะพูดได้ว่า ตอนนี้ที่เยี่ยจงควบคุมอยู่ อย่างน้อยก็ต้องเป็นค่ายกลยันต์ปราณระดับสาม

 

ค่ายกลยันต์ระดับสาม โดยเฉพาะในด้านของพลังอย่างน้อยๆก็ถือได้ว่าเป็นเหมือนดั่งของยอดฝีมือระดับขั้นก่อฟ้าขอบเขตครบรอบแล้ว ต่อให้ค่ายกลยันต์ปราณในตอนนี้ยังมิได้ถูกสร้างได้อย่างสมบูรณ์มากนัก แต่ว่าก็ถือได้ว่าให้พลังในการกดดันชนิดหนึ่งแผ่กระจายออกมาได้อย่างน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะค่ายกลปราณที่มีลักษณะเฉพาะอย่างปีกคู่ไร้พรมแดน ยิ่งทวีก่อรวมไปด้วยลักษณะไร้ผู้ต้านชนิดหนึ่ง

 

“ (ชุนหวูซวางซิว)ยันต์ยุทธ์ก่อคู่ เยี่ยจงผู้นี้ถึงกับใช้ออกมาด้วยยันต์ยุทธ์ก่อคู่ได้ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่สำเร็จทั้งสายยุทธ์และสายันต์ในคนเดียวอีกด้วย ถือได้เป็นผู้ที่สั่นสะเทือนไปได้ทั้งแดนดิน ” มีผู้คนไม่น้อยเลยที่หายใจออกมาด้วยความตกใจ ภายในจิตใจก็ได้มีการวิเคราะห์ขึ้นมา เยี่ยจงน่ากลัวจนเกินไป ผู้คนโดยทั่วไปคงมิอาจที่จะทำเช่นนี้ได้

 

“ ซวบ ——”

 

ทันใดนั้นเอง สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ปีกคู่ตามความเคลื่อนไหวของนิ้วมือเยี่ยจง ที่เป็นเหมือนดั่งเมฆาประกายเพลิงมืดมิดที่เป็นประกายไหลเวียนตามท้องนภาก็มิปาน มุ่งหน้าไปทางด้านวิหคทองที่ก่อตัวรวมกันจนกลายเป็นขุมพลังของเนตรปราณฟ้าขององค์ชายสิบสามในตอนนี้

 

กระบวนท่านี้ ไม่แต่เป็นเพียงแค่กระบวนท่าหนึ่ง แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงชนิดหนึ่งของค่ายกลยันต์ปราณ ในขณะนี่ ทั่วทั้งสายลมเมฆาแห่งหอคอยสงครามก็ได้เปลี่ยนไป ดูแล้งน่ากลัวสุดเปรียบปาน

 

กระบวนท่าเช่นนี้ ดุจดั่งปกคลุมอยู่ทั้วทั้งผืนฟ้า เป็นประกายไร้ที่เปรียบ แทบจะไร้หนทางในการหลบเลี่ยง

 

เสียงดัง“ตูม”ดังขึ้นมา ทั้งผืนฟ้าผืนดินก็ได้เริ่มแตกระเบิดขึ้นมา สาดเป็นประกายเจิดจ้าออกมานับไม่ถ้วน จนทำให้ต่างก็มองไม่เห็น ได้แต่เพียงสัมผัสได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่แผ่กระจายอย่างแข็งแกร่งท่ามกลางอากาศ

 

“ นี่มัน …… “

 

มีผู้คนไม่น้อยต่างก็เกิดความหวั่นไหวจนไร้คำพูด แทบจะไม่ทราบว่าจะอธิบายกับฉากเบื้องหน้าสายตาได้

 

แล้วก็ยังมีผู้ที่มีพลังฝีมืออย่างยอดเยี่ยมส่วนหนึ่ง บุคคลที่อยู่ในจุดสูงสุดของดินแดนซีฮวงต่างก็สามารถที่จะเห็นได้อย่างชัดเจน ค่ายกลยันต์ปราณที่เยี่ยจงใช้ออกมาในตอนนี้เป็นค่ายกลยันต์ปีกคู่ไร้พรมแดน ทั้งยังสามารถที่จะทำลายวิหคทองขององค์ชายสิบสามได้เป็นชิ้นภายในครั้งเดียว

 

“ อา “

 

ท่ามกลางสนาม ก็ได้มีเสียงกีดร้องดังออกมาด้วยความเจ็บปวด ทำให้ผู้คนขนหัวลุก แต่ว่ากลับไม่มีคนที่จะสามารถทำความเข้าใจได้ว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่

 

นี้มันเรื่องอะไรกัน ? ทักษะปฎิหาริย์ต้องห้ามปะทะค่ายกลปราณระดับสาม ฉากเบื้องหน้าที่ยากจะพบเห็นเช่นนี้ มองไม่ออกว่าที่แท้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

 

ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็มีสีหน้าแปลกประหลาด จ้องเขม็งอย่างเอาเป็นเอาตายไปยังท่ามกลางสนาม คิดที่จะดูผลตัดสินว่าที่แท้เกิดอะไรขึ้น

 

“ นายท่านสิบสามน่าจะพ่ายแล้ว นายท่านสิบสามที่ภาคภูมิไปทั่วทั้งดินแดนซีฮวง ควบคุมพันหมื่นเผ่าพันธุ์ จะสามารถมาพ่ายแพ้ภายใต้น้ำมือเยี่ยจงเพียงแค่คนเดียวได้อย่างไรกัน ” ราชาแห่งหุบเขาตระกูลถังเจิ้งกว่อก็ได้กัดฟันไปมา สีหน้าของเขาปั้นยากขึ้นมาอย่างถึงที่สุด ในช่วงเวลาที่กล่าวคำพูดเหล่านี้ออกมา เขาก็เริ่มที่จะไม่มีความมั่นใจในตนเอง นั้นก็เพราะว่า ถึงแม้จะมองไม่เห็นที่สนามได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรกันขึ้น แต่ว่าน้ำเสียงเมื่อครู่ที่ได้ดังขึ้นมา มีความรู้สึกคุ้นหูอยู่หลายส่วน เห็นได้ชัดว่าจะต้องเป็นองค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถังอย่างแน่นอน

 

“ เนตรปราณฟ้ายังสามารถพ่ายแพ้ได้ ที่เป็นถึงชะตาฟ้าลิขิตมา เป็นบุตรแห่งสวรรค์จึงจะสามารถมีความสามารถและลิขิตชีวิต ต้องไม่แพ้แน่นอน ต้องไม่ดับสูญ ” ขุนพลแห่งตระกูลถังก็ได้ตะโกนขึ้นมา พวกเขาไม่อาจที่จะเชื่อเรื่องนี้ได้ลง แน่นอนว่าย่อมไม่อาจเชื่อได้ว่าองค์ชายสิบสามจะต้องมาตายเช่นนี้ได้

 

เหล่าบุคคลลึกลับที่มีฐานะอย่างราชาแห่งรัฐกู่กวอ ลัทธิแดนลับแลเป็นต้น ในตอนนี้แต่ละคนต่างก็ตาทอเป็นประกาย ถึงกับแสดงวิชาลี้ลับเช่นนี้ออกมาได้ มองไปยังพื้นที่ว่างเปล่า มองเข้าไปด้านในให้เห็นถึงสิ่งที่อยู่ภายใน หลังจากนั้นเอง เหล่ายอดฝีมือเหล่านี้ต่างก็ต้องแตกตื่นกันขึ้นมา

 

ช่วงเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป ไม่นานนัก ท่ามกลางสนามก็ได้กลับมาเงียบสงบ ในครั้งนี้ยอดฝีมือทั้งสี่ทิศต่างก็สามารถเข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว

 

“ ถึงกับเป็นเช่นนี้ได้ ? “

 

มีคนตื่นตระหนกขึ้นมา บนใบหน้าปรากฏความความยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็นได้

 

เยี่ยจงในตอนนี้ได้ยืนกอดอกเอาไว้อยู่ สวมชุดสีขาวพลิ้วไหว เส้นผมลอยออกไปท่ามกลางสนาม ถึงแม้ว่าบนร่างกายจะได้รับบาดเจ็บอยู่ แต่ว่ามีความรู้สึกของผู้ที่อยู่เหนือดินแดนทั้งแปดชนิดหนึ่ง

 

และเนตรปราณฟ้าบริเวณส่วนหัวในตอนนี้ขององค์ชายสิบสามในตอนนี้ก็ได้มีโลหิตสีดำมืดไหลออกมา เนตรปราณฟ้าในตอนนี้ก็ได้ลุกไหม้ส่องเป็นประกายไม่หยุด ในเวลาเดียวกันบริเวณส่วนหัวของเขาก็ได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นเป็นสายๆ เห็นได้ชัดจนเห็นถึงกระดูกภายใน

 

กระบวนท่าเมื่อครู่นี้ ที่เป็นถึงทักษะปฎิหาริย์ต้องห้ามที่ถูกใช้ออกมา ทั้งไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ กลับได้รับบาดเจ็บก่อน ในตอนนี้ก็เป็นเหมือนว่าเนตรปราณฟ้าได้ไหลย้อนกลับเข้าหาตนเอง เห็นได้ชัดว่าเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด

 

ความจริงที่เป็นดุจดั่งเทพราชันในหมู่ผู้คนรุ่นเยาว์ก็มิปานนี้ ถึงกับถูกต้อนจนจนมุมจนถึงขั้นนี้ นี้เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดจะคาดคิดได้นับตั้งแต่เริ่มต้นการต่อสู้

 

“ เจ้าภาคภูมิในดวงตาที่สามของเจ้ามากเกินไปแล้ว เจ้าคิดจริงหรือว่าเมื่อมีดวงตาที่สามนี้ จะสามารถไร้ผู้ต้านทานได้ในแดนดิน ? ไร้เดียงสา ” เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา มีน้ำเสียงของคำเย้ยหยันภายในคำพูด

 

ร่างกายขององค์ชายสิบสามก็ได้ขยับ ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ เขาคิดที่จะต้องการเบิกเนตรปราณฟ้าขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าก็มีแต่เพียงโลหิตลุกไหม้ที่ไหลออกมาดั่งสายธาร ไม่ได้มีผลลัพธ์อื่น

 

“ ในมันตอนนี้มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ก็ควักมันออกมามอบให้แก่ข้า เป็นอย่างไร ? ” เยี่ยจงเอ่ยปากพร้อมกับยิ้มขึ้นมาอย่างช้าๆ ราวกับกำลังบอกถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้นอยู่

 

องค์ชายสิบสามร่างสั่นเทาขึ้นช้าๆ สีหน้าปั้นยากอย่างถึงที่สุด จากนั้นก็พ่นโลหิตออกมาคำหนึ่ง

 

เขาพ่ายแล้ว ต่อให้เขาไม่ยอมรับ สถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว

 

ผลลัพธ์เช่นนี้ผู้ใดจะสามารถคาดคิดเอาไว้ได้กัน ? องค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถังที่เป็นราชันไร้ที่เปรียบ นัดพบเยี่ยจงเมื่อคืนที่พระจันทร์เต็มดวง นัดประลองบนยอดหอคอยสงคราม ท้ายที่สุดตัวเขาเองกลับต้องมาพ่ายแพ้ตายลง ? นี้มิใช่กลายเป็นเรื่องเล่าที่น่าขบขันใต้ผืนฟ้านี้หรอกงั้นหรือ

 

“ องค์ชายสิบสามได้พ่ายไปแล้ว หากว่าเยี่ยจงสังหารเขาลงไปในตอนนี้ ใช้โลหิตเซ่นสังเวย เปิดหอคอยสงครามแล้วละก็ เช่นนั้นไม่แน่ว่าวาสนาเพียงสายเดียวอาจจะต้องตกอยู่ภายใต้น้ำมือของเขา เรื่องราวเช่นนี้ ยิ่งมิอาจให้เกิดขึ้นได้ “ กุ่ยเมียนผอผอเอ่ยด้วยน้ำแสงแหบพร่า ภายในน้ำเสียงก็ได้มีรังสีสังหารอยู่ชนิดหนึ่ง ตอนนี้นางมีความหวาดกลัวต่อเยี่ยจงอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“ เหอะ กุ่ยเมียนผอผอ เจ้าก็ยังคงดื้อรั้นอยู่เช่นนี้อยู่ได้ คิดที่จะลงมือด้วยตนเองอย่างงั้นหรือ ? คิดที่จะลงมือด้วยตนเองอย่างงั้นหรือ ? ข้าว่าเจ้ายังคงอย่าจะดีกว่า ข้าขอเตือนเจ้ายังคงอย่าได้ทำจะดีกว่า ต่อให้เด็กน้อยผู้นี้จะสามารถครอบครองวาสนาเพียงสายเดียวได้ ในเมื่อเด็กน้อยผู้นี้สามารถครอบครองวาสนาเพียงสายเดียวได้ นี้ก็ถือว่าเป็นลิขิตฟ้าของเขา “ อีกบริเวณทางด้านหนึ่ง ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีเงาร่างที่ปกคลุมไปด้วยขนสีทองอยู่ทั่วทั้งร่างเดินมาจนถึงข้างกายของกุ่ยเมียนผอผอ อมยิ้มแล้วกล่าวออกมา

 

“ ผู้อาวุโสวานร เจ้าเพื่อวาสนาเพียงสายเดียวนั้น ถึงกลับยินยอมแบ่งร่างเงาเข้ามายังดินแดนสมรภูมิซีฮวง ในตอนนี้กลับมาแสดงท่าทีเสแสร้งอันใดกัน ? ” กุ่ยเมียนผอผอเหม่อมองไปยังเงาร่างที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน ภายในดวงตาของนางก็ได้ปรากฏสีหน้าประหลาดขึ้นมาสายหนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะอย่างเยียบเย็นแล้วกล่าวออกมา

 

“ ไม่ว่าจะเป็นเช่นไร พวกข้าก็ทำได้เพียงแค่เฝ้าดูเท่านั้น พวกข้ายังไงเสียก็มิอาจที่จะนำวาสนาเพียงสายเดียวจากไปได้ แน่นอนว่า เมื่อทราบว่ามันตกอยู่กับผู้ใด ก็ง่ายที่จะนำมาได้ ” เงาร่างสีทองสายนี้ที่ถูกเรียกขานว่าผู้อาวุโสวานรก็ได้ยิ้มขึ้นมาเบาๆ เขาจ้องมองไปที่เยี่ยจง ประกายสายตาเหมือนดั่งพบเห็นวัตถุล้ำค่าก็มิปาน

 

“ วาสนาเพียงสายเดียว เป็นทั้งหมดของแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ข้า ” กุ่ยเมียนผอผอมีสีหน้าที่ไม่สั่นไหว เพียงแค่เอ่ยขึ้นมาเบาๆ

 

เงาร่างสีทองก็ได้หัวเราะขึ้นมา เพียงแค่มองไปทางด้านกุ่ยเมียนผอผออย่างลึกซึ้งคราหนึ่ง จากนั้นก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง หายสาบสูญไปจากท่ามกลางสนาม

 

บริเวณทั่วทั้งผืนฟ้า ก็ได้มีเงาร่างสายหนึ่งยืนเกาะอกอยู่อย่างสงบ แต่ว่าภายในสายตาของเขากลับปรากฏราวกับอยู่ในมีแสงจากดวงตะวันจันทรา แต่ว่าภายในสายตาของเขากลับเป็นเหมือนดั่งดวงดาวที่อยู่ท่ามกลางแสงจันทราก็มิ ทั้งยังดูมีอำนาจไม่ธรรมดา

 

“ ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยจง หรือจะเป็นองค์ชายสิบสาม ต่างก็ถือได้ว่าเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์ น่าสนใจอย่างยิ่ง ” เข้ากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับกำลังพูดอยู่กับตนเอง

 

“ นายเหนือ พวกข้าควรจะลงมือในตอนนี้งั้นหรือ ? ” สี่ขุนพลทางด้านหลังของเขาต่างก็คึบคลานขึ้นมาด้านหน้า ภายในดวงตาปรากฏความประหลาดขึ้น

 

“ ไม่ต้องรีบร้อน หอคอยสงครามในตอนนี้ยังไม่ได้ถูกเปิด พวกเราไม่จำเป็นที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายมิใช่หรือ ? “ เขาหัวเราะออกมา ทั้งยังเป็นความมั่นใจชนิดหนึ่ง จ้องมองไปยังจุดสูงสุดของหอคอยสงคราม ด้วยท่าทีที่เหนือธรรมดา

 

ยอดหอคอยสงคราม เงาร่างทั้งสองสายก็ได้ปรากฏขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าทางด้านบนในตอนนี้กลับมิได้มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย องค์ชายสิบสามที่ได้สูญเสียพลังของเนตรปราณฟ้า คิดที่จะต่อกรกับเยี่ยจง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลย

 

“ สำเร็จตัวเองเถอะ ยังสามารถหลงเหลือซากศพเจ้าให้ครบได้ ” เยี่ยจงจ้องมองไปยังองค์ชายสิบสาม เอ่ยขึ้นมาอย่างเยียบเย็น เขามิได้มีการตัดสินใจที่จะยั้งไมตรีไว้ นั้นก็เพราะว่าเขาเข้าใจได้เป็นอย่างดี ถ้าหากเป็นเขาพ่ายแพ้แล้วละก็ อีกฝ่ายย่อมต้องสังหารตนเองนับตั้งแต่แรกแล้ว เขาถึงกับยังให้โอกาสในการสำเร็จตัวเอง ก็ถือได้ว่าเมตตาแล้ว

 

“ สำเร็จตัวเอง ” องค์ชายสิบสามเผยสีหน้ารอยยิ้มเย้ยหยันออกมา “ ข้าองค์ชายสิบสามหลั่งโลหิตลงสู่สนามรบ รบร้อยครั้งชนะร้อยครา จะมาสำเร็จโทษตัวเองได้อย่างไรกัน ? เจ้าเพียงแค่ชนะข้าเพียงแค่ครึ่งกระบวนท่า ก็คิดว่าตนเองชนะจริงแล้วอย่างงั้นหรือ ? “

 

หลังจากที่สิ้นเสียง องค์ชายสิบสามก็ได้ก้าวออกไปอีกก้าวหนึ่ง เนตรปราณฟ้าก็ได้ทอประกายแสงอันน่าหวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ ซวบ ——”

 

แต่ว่าท่ามกลางประกายคมกล้าที่เกิดขึ้นมาท่ามกลางอากาศ เนตรปราณฟ้าที่มีโลหิตสายหนึ่งทะยานออกมาราวกับลูกศร องค์ชายสิบสามกระอักโลหิตออกมาคำโต บนหัวก็ได้ปรากฏรอยแยกออกมาเป็นสาย

 

“ เป็นไปได้อย่างไรกัน ? ” องค์ชายสิบสามร้องตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด “ ข้าที่เป็นถึงบุตรแห่งสวรรค์ จะมาพ่ายแพ้ได้อย่างไรกัน ”

 

“ แค่ว่าเป็นเจ้าหนูสามตา เจ้าก็คิดจริงหรือว่าต้องเป็นถึงบุตรแห่งสวรรค์ทั้งหมด ? สถานการณ์ในวันนี้ คงได้แต่โทษว่าตนเองแล้ว ” เยี่ยจงส่งเสียงออกมาอย่างเย็นชา ไม่คิดที่จะลงมืออย่างไร้น้ำใจ ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ก้าวออกไปอีกหนึ่งก้าว ก่อรวมตราผนึกนภาขึ้นมาอีกครั้ง ฆ่าสังหารออกไป

 

สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก ต่อให้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด ในท้ายที่สุดแล้ว เยี่ยจงก็ไม่คิดที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆขึ้นอีก

 

“ กร๊อบ ——”

 

บนพื้นดินตอนนี้ก็ได้เกิดรอยแตกแยกขึ้นมา ในตอนนี้ก็ได้พวยพุ่งไปด้วยสายลมแห่งความบ้าคลั่ง ตราผนึกนภาก็ได้สังหารออกไปเช่นนี้ กลายเป็นแรงกดดันอันแข็งแกร่งมหาศาล มุ่งหน้ากดทับไปทางด้านหน้า หมายที่จะสังหารองค์ชายสิบสามไปในทันที

 

“ จบสิ้นแล้ว ”

 

ผู้คนทั้งหมดต่างก็ร่ำร้องอยู่ภายในใจ เรื่องราวมาจนถึงขั้นนี้ คงจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว องค์ชายสิบสามคงต้องทอดร่างตายลงอย่างแน่นอนแล้ว

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด709 Update 10/07/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset