เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 319 สังหารสิบสาม

ตอนที่ 319 สังหารสิบสาม

 

 

“ กร๊อบ ——”

 

การโจมตีอันน่ากลัวก็ได้กดทับเข้ามา จนทำให้ร่างกายจิตใจแทบกระดอน ยอดฝีมือทั้งหมดในตอนนี้ก็ได้กรอกตาไปมา คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงจะถึงกับแข็งแกร่งได้ถึงระดับนี้ แม้แต่ในช่วงสุดท้ายก็ยังไม่ให้โอกาสแก่องค์ชายสิบสามแม้แต่น้อย

 

“ ตายซะ ”

 

องค์ชายสิบสามตะโกนออกมา ดุจดั่งกำลังบ้าคลั่งก็มิปาน ทันใดนั้นก็ได้มุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านหน้า ในขณะนั้นเอง ประกายคมกล้าสีทองก็ได้ปะทุขึ้นมา เข้าต่อสู้กับเยี่ยจง เขาคิดไม่ถึงว่าจะต้องมาพ่ายแพ้เช่นนี้ ต้องมากลายเป็นหินที่ให้ผู้อื่นเหยียบขึ้นไป

 

จากนั้น ก็มิได้ช่วยอะไร ในขณะที่เนตรปราณฟ้าของเขาที่ถูกทำลายลงไปในทันทีแล้ว ต่อจากนี้ก็พอที่จะตัดสินได้ ตราผนึกนภาในมือของเยี่ยจงที่สีพลังทำลายไม่ดับสูญ กดทับเรื่อยมา ไม่อาจมีสิ่งใดที่พอจะต้านทานเอาไว้ได้

 

“ ซวบ ——”

 

เพียงแค่การทิ่มแทงเข้าไปเพียงแค่ครั้งเดียว ร่างกายขององค์ชายสิบสามก็ได้ขาดไปครึ่งร่าง โลหิตสายใหญ่พวยพุ่งออกมา พบกับความตายในที่สุด

 

“ เป็นไปไม่ได้ ”

 

รอบนอกหอคอยสงคราม ราชาหุบเขาตระกูลถังก็ได้ลุกกายขึ้นมา ใช้มือขวาชี้ออกไป แสงสีทองบางๆก็ได้พวยพุ่งออกมา มุ่งหน้าทะยานเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

นี้เป็นถึงหนึ่งในทักษะเซียนประจำรัฐเจิ้งกวอ(หุบเขาตระกูลถัง) รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าพลังฝีมือจะถึงจำกัดไว้อยู่ แต่ว่าภายในร่างกายย่อมต้องยังมีจิตปราณ กระบวนท่านี้เมื่อได้ถูกถ่ายทอดออกมา ก็ได้เปี่ยมล้นไปด้วยความทำลายอันน่าหวาดกลัว

 

ในขณะที่เยี่ยจงกำลังจะเผยร่างกายออกมามิได้เคลื่อนไหวไปคราหนึ่ง เขาพลิกมือฟาดกลับไป ตราผนึกนภาก็ได้ผนึกอยู่ทางด้านหลัง แล้วก็ได้ยินเสียง”เคร่ง”ดังออกมาเสียงหนึ่ง เขาฟาดประกายสีทองจนมอดดับลง และเขาก็ได้เคลื่อนไหวไปทางด้านหลัง เผยดวงตาอันเยียบเย็นมองไปยังร่างของราชาแห่งรัฐเจิ้งกว่อ

 

“ ครืนๆ ——”

 

และในเวลาเดียวกันนี้ เยี่ยจงก็ได้ก้าวออกมา กวาดมือขวาออกไป ในครั้งนี้ก็ได้ทำให้แขนขวาขององค์ชายสิบสามขาดลงมา จนทำให้กระอักโลหิตออกมาคำโต

 

เห็นได้ชัด การท้าทายเช่นนี้ คนของหุบเขาตระกูลถังในตอนนี้ที่กล้าจะกระทำการใดๆออกมา ผู้คนแห่งหุบเขาตระกูลถังในตอนนี้ต่างก็มองไปยังพฤติกรรมการลงมืออันเหี้ยมหาญของเยี่ยจงจนนั่งกันไม่อยู่ อีกทั้งยังเป็นการลงมือที่โหดเหี้ยม ทำให้เหล่ายอดฝีมือหุบเขาตระกูลถังต่างก็มีสีหน้าปั้นยากขึ้นมา

 

“ หากว่ามีครั้งต่อไป ก็สับอีกสักที ” จิตแห่งหอคอยสงครามก็ได้เงยหน้าขึ้นมาอย่างช้าๆ กวาดสายตาไปทางด้านของราชาหุบเขาตระกูบถัง เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวลอดออกมา เห็นได้ชัด การคงอยู่ของมันในตอนนี้มีความหมายอีกทางหนึ่งก็คือเพื่อความยุติธรรมในการต่อสู้ มิให้ส่งผลใดๆตามมา

 

“ คนหนึ่งมีโอกาสลงมือเพียงครั้งเดียวอย่างงั้นหรือ ? เยี่ยมมาก ยุติธรรมมาก ” กุ้ยเมียนผอผอส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆอย่างกะทันหัน นางก้าวออกไปหนึ่งก้าว ยื่นมือขวากวาดออกไป จากนั้นก็ใช้ด้วยพลังดัชนีออกไป วินาทีนั้นก็พบเห็นเข็มเงินเข็มหนึ่งทะยานออกไป มุ่งหน้าเข้าไปทางด้านบริเวณหว่างคิ้วของเยี่ยจง

 

“ ซูม ——”

 

เยี่ยจงยื่นมือขวาออกไป แล้วก็คว้าตะปบเข็มเงินสายนั้นท่ามกลางอากาศ นี้คือเข็มเงินเล่มหนึ่ง และก็เป็นสมบัติเซียนอีกด้วย ทั้งยังรวมไว้ด้วยพลังสังหารอันมหาศาล หากไม่ใช่ในตอนนี้เขาได้แผ่กระจายพลังฝ่ามือตราผนึกนภาเอาไว้อยู่ อย่างน้อยก็คงจะไม่อาจที่จะสัมผัสได้ถึงเข็มเล่มนี้

 

“ น่าเสียดาย ” กุ่ยเมียนผอผอส่ายหน้า บนใบหน้าก็ได้ปรากฏสีหน้าเสียดายขึ้นมา นี้สมควรเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายในการสังหารเยี่ยจงแล้ว นางยังคิดที่จะลงมืออีก ทว่าในตอนนี้จิตแห่งหอคอยสงครามก็ได้กวาดสายตาเข้ามา จากนั้นก็ได้ค่อยๆก้าวออกไปอย่างช้าๆ

 

“ แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ ” เยี่ยจงพูดเสียงเบา เขามองไปที่ใบหน้าของกุ่ยเมียนผอผอและตางเซียนชิงหญิงที่อยู่ทางด้านข้างของนางอย่างลึกซึ้งก็มิปาน และจากนั้นก็ได้หันกายไป พลิกสองมือออกไปในเวลาเดียวกัน

 

“ จบกันเถอะ ”

 

“ ไม่ ……” บนใบหน้าขององค์ชายสิบสามในตอนนี้ก็ได้ปรากฏสีหน้าเสียใจขึ้นมา เขาไม่กล้าที่จะแลกชีวิตอีกต่อไป แต่เป็นการใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่คิดจะกาทางถอยไป

 

แต่ว่าในขณะนี้ เยี่ยจงกลับไม่มีความคิดที่จะลงมืออย่างไว้ไมตรีแม้แต่นิดเดียว ระหว่างนั้นก็มีเสียง”ฉับ”ดังขึ้นมา ศีรษะขององค์ชายสิบสามก็ลอยกระเด็นออกไป ในช่วงเวลาที่ กระทบลงสู่พื้น กลิ้งไปมาไม่หยุดนิ่ง

 

“ เผลอะ ——”

 

ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ลุกขึ้นมา ย่างเท้าลงไป วินาทีนั้นทั่วทั้งศีรษะก็ได้แตกกระจายออกในทันที กลายเป็นเพียงก้อนเนื้อแหลกเหลว

 

“ องค์ชายสิบสาม ตายแล้ว ? ”

 

ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็อย่างในอาการนิ่งอึ้ง เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ต่างก็มีสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ไม่เหมือนกันอยู่หลายส่วน ทั้งสองฝ่ายสามารถเรียกได้ว่าต่างก็มีพลังไร้ผู้ต้าน แต่ว่าในเมื่อผลแพ้ชนะออกมาเช่นนี้ ที่เป็นเหมือนดั่งภาพวาดที่ถูกวาดออกมาจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ในรอบนี้

 

ในขณะนี้ที่แท้เป็นอย่างไรกัน นับตั้งแต่ที่เริ่มต้นมา ผู้คนมากมายต่างก็คาดเดากันได้ แต่ว่าแท้จริงแล้วในช่วงเวลาที่ปรากฏบทสรุปออกมาเช่นนี้ ผู้คนทั้งหมดต่างก็ตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง ราวกับไม่มีการตอบสนองกลับมาได้ทัน

 

เนตรปราณฟ้า เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ลิขิตฟ้าแต่กำเนิด บุตรแห่งสวรรค์ ในทุกยุคสมัยต่างก็เป็นดั่งตำนานเล่าขานดั่งเทพ ไร้ซึ่งการดับสูญ แต่ก็คิดไม่ถึงว่า วันนี้ตำนานเล่าขานดั่งเทพและตำนานเหล่านี้กลับต้อง

 

“ เยี่ยจง ชนะแล้ว ”

 

ผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็พึมพำคำพูดนี้ออกมา จ้องมองไปที่เยี่ยจงด้วยดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวั่นไหวและเคร่งเครียด

 

นับตั้งแต่เริ่มต้น ชายหนุ่มผู้นี้ก็แสดงพลังอันแข็งแกร่งออกมาไม่หยุดหย่อน เพียงแค่สี่ราชันแห่งเผ่ามนุษย์ ในวันนี้ก็ได้เริ่มต้นกลายเป็นเพียงคำกล่าวขานอันน่าขบขัน สุดยอดผู้เยาว์ที่กำลังอยู่ในการจดจำก็คงจะมีแต่เพียงเยี่ยจงเท่านั้น

 

ราชาแห่งรัฐกู่กวอและลัทธิแดนลับแลไม่น้อย ในตอนนี้ต่างก็สาดทอแววตาเป็นประกาย ไม่ทราบว่ากำลังคิดอันใดอยู่ และเหล่าขุมกำลังที่เคยมีปัญหากับเยี่ยจงมาก่อนเหล่านั้น แต่ละคนก็ได้มีสีหน้าปั้นยากอยู่ทางด้านข้าง สิ่งที่เยี่ยจงแสดงออกมา เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขากล่าว แน่นอนว่าย่อมไม่มาสิ่งใดที่ส่งผลดีอย่างแน่นอน

 

เพียงแต่ว่า การต่อสู้นี้ถึงแม้จะได้จบลงแล้ว เรื่องราวในวันนี้กลับคงมิได้จบลงแต่เพียงเท่านี้

 

“ การประลองความเป็นความตายได้จบสิ้นลงแล้ว หากนับตามระเบียบแต่โบราณ ผู้ที่พ่ายแพ้จะต้องใช้โลหิตบริสุทธิ์ในการเซ่นสังเวย เพื่อเปิดด่านของหอคอยสงคราม พบกับวาสนาไม่สิ้นสุด เยี่ยจง เจ้าต้องการที่จะเปิดในตอนนี้หรือไม่ ? “ จิตแห่งหอคอยสงครามโบกมือคราหนึ่ง แล้วก็ได้พบว่าซากศพขององค์ชายสิบสามก็ได้กลายเป็นโลหิต ไหลซึมเข้าสู่ภายในหอคอยสงคราม จากนั้นเขาก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจง ดุจดั่งการจ้องมองของจิตเทพก็มิปาน กล่าวออกมาอย่างแผ่วเบา

 

 

“ ยังมีทางเลือกอื่นอีกงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงถามขึ้นมา

 

“ ยังมี เจ้าถือเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ ก่อนที่เจ้าจะออกไปจากหอคอยสงคราม ก็จะสามารถเอ่ยปากขอร้องข้าผู้เปิดทางเข้าสู่หอคอยสงคราม แต่ว่าขอเพียงเจ้าออกไปในตอนนี้นอกจากต้องตายลง เจ้าก็จะถือว่าเป็นผู้ที่หมดสิ้นคุณสมบัติ ” จิตแห่งหอคอยสงครามตอบกลับอย่างเย็นชา พยักหน้าให้แก่เยี่ยจงในตอนนี้

 

เยี่ยจงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เขามิได้เอ่ยปากกล่าวออกมาต่อ เพียงแต่ค่อยๆนั่งสมาธิลงอย่างช้าๆ เมื่อครู่ที่พึ่งสู้กับองค์ชายสิบสามถือได้ว่าสูญเสียพลังไปมากอย่างน่าตกใจ ในเวลาเดียวกันร่างกายก็ได้รับบาดเจ็บ เขาในตอนนี้ไม่ทราบว่าเมื่อเปิดทางเข้าสู้หอคอยแล้วที่แท้จะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกัน แต่ว่าก็จำเป็นที่จะต้องไต่เต้าขึ้นไปยังจุดสูงสุดให้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ไม่แน่ว่าอาจจะต้องถูกบุคคลอื่นดักรออยู่เป็น

 

วิชากระบี่หกสุสานก็ไหลเวียนขึ้นอย่างช้าๆ อาการบาดเจ็บบนร่างของเยี่ยจงก็เริ่มที่จะสมานตัวขึ้น กล้ามเนื้อบนกายของเขาก็ได้รับบาดเจ็บต่างๆนาๆ แต่ว่า เขาในเมื่อมีพลังอยู่ในขอบเขตไม่สูญสลายแล้ว ในตอนนี้ขอเพียงให้เวลาเขาอย่างเพียงพอ ก็จะสามารถทำให้อาการบาดเจ็บถูกฟื้นฟูขึ้นมาได้ทีละนิดทีละน้อย

 

“ นี้มิใช่ขั้นกายเนื้อไม่สูญสลายงั้นหรือ ? ขอเพียงไม่ถูกฆ่าสังหารในทันที เช่นนั้นก็ยังคงถือว่ากายเนื้อมีความเป็นอมตะ ใช้เวลาไม่นานในการฟื้นฟูกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว ” มีคนไม่น้อยที่สังเกตไปที่เยี่ยจงในตอนนี้ ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏการดิ้นรนขึ้น หากคิดที่จะสังหารเยี่ยจง ในตอนนี้ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุด หากว่าปล่อยให้เขาฟื้นฟูกลับมาได้ เช่นนั้นความแข็งแกร่งของเขาก็คงจะพลิกจนเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว มิใช่สิ่งที่บุคคลทั่วไปจะสามารถต่อกรได้

 

“ มิได้หรอก เขาในตอนนี้ยังมิได้เปิดทางเข้าสู่หอคอยสงคราม ผู้ใดที่ต้องการแตะต้องเขา หากว่าเขาตายตกลงแล้วละก็ นับตามกฎเกณฑ์ตามที่จิตแห่งหอคอยสงครามกล่าวออกมา ก็จะไม่มีผู้ใดสามารถเปิดหอคอยสงครามได้ นี้ถือได้ว่าเป็นวาสนาเพียงสายเดียวอย่าแท้จริง มิอาจที่จะผิดพลาดไปได้ “ มีคนส่งเสียงหยุดยั้งขึ้นเบาๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่ออย่างเต็มที ว่ามิอาจที่จะหาโอกาสลงมือต่อเยี่ยจงได้ แต่ว่ากลับไม่มีผู้ใดที่คิดจะลงมือในตอนนี้ นั้นก็เพราะว่า โอกาสในการเปิดหอคอยสงครามเรียกได้ว่าพันปีจะมีเปิดได้สักครั้ง หากว่าพลาดไปแล้วละก็ เช่นนั้นต่อให้เกิดใหม่อีกครั้งก็ใช่ว่าจะมีโอกาสอีก

ในขณะนี้ เมื่อมองไปที่เยี่ยจงที่กำลังนั่งสมาธิฟื้นฟูพลังอยู่ ท่ามกลางสนามก็มีคนเกิดความยินดี ทั้งยังมีคนที่มีใบหน้าเย็นเยียบ ยังมีคนที่กำลังคิดคำนวณอยู่อย่างเงียบงัน หากว่ารอคอยที่จะให้เยี่ยจงฟื้นฟูพลังกลับมาแล้วละก็ พวกเขาก็จะมีโอกาสที่จะสามารถลงมือในการแย่งชิงวาสนาเพียงสายเดียวได้

 

“ เนตรปราณฟ้า หากว่าสามารถหล่อหลอมเป็นวิทยายุทธ์ก่อฟ้าขอบเขตปฎิหาริย์ได้ ไม่แน่ว่าจะสามารถปรากฏพรสวรรค์แห่งปฎิหาริย์ได้ เมื่อถึงยังขอบเขตนั้นจึงจะสามารถใช้ออกมาได้ด้วยพลังของเนตรปราณฟ้าที่แท้จริงได้ ถึงแม้จะตายลงในสถานที่แห่งนี้ เผ่ามนุษย์ที่มีอยู่จำนวนน้อยนักจะเข้าสู่ขอบเขตปฎิหาริย์ในตำนานได้ น่าเสียดาย “ ราชาแห่งกู่กวอที่อยู่ทางด้านหลังก็ได้เอ่ยขึ้นมา ทั้งยังเปี่ยมไปด้วยเมตตาอันเหลือล้นและถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย เพียงแต่เสียดาย ที่ผลลัพธ์ได้ถูกตัดสินออกมาแล้ว ผู้ใดก็มิอาจที่จะเปลี่ยนแปลงไปได้

 

“ ท่านองค์ชายสิบสาม ” ผู้คนมากมายแห่งหุบเขาตระกูลถังในตอนนี้ก็ได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันขึ้นมา ร่างกายไม่อาจที่จะขยับเขยื้อน ในสายตาของพวกเขา องค์ชายสิบสามก็เป็นดั่งฟ้าดิน เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ว่าในวันนี้กลับต้องมามองดูเขาถูกฆ่าตายลง เหมือนดั่งทำให้สูญเสียที่พึ่งทางใจไป

 

“ รอคอยจนหลังจากที่เข้าเปิดหอคอยสงคราม ผู้คนทั้งหมดร่วมทั้งข้าก็จะลงมือพร้อมกัน เพื่อแย่งชิงวาสนาเพียงสายเดียว อีกทั้งยังต้องจัดการฆ่าให้ตาย ” ราชารัฐเจิ้งกว่อก็ได้ครุ่นคิดแล้วเอ่ยขึ้นมา สีหน้าของเขาเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด สีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเครียดแค้นและความไม่ยอมรับชนิดหนึ่ง ฉากเบื้องหน้าเช่นนี้ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือการคาดคิดของเขา ความจริงภายใต้ความคาดคิดของเขา สมควรที่จะเป็นเยี่ยจงที่ตายลง หุบเขาตระกูลถังพวกเขาจะต้องได้ครอบครองวาสนาเพียงสายเดียวอย่างง่ายดายจึงจะถูกต้อง แต่ว่ากลับคิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะออกมาเช่นนี้ ทำให้ยากที่จะยอมรับได้ จนเกือบที่จะกระอักโลหิตออกมา

 

“ สุดยอดรุ่นเยาว์เช่นนี้ กลับไม่มีวาสนาเข้าร่วมกับแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์เรา ช่างน่าเสียดาย ” นางเซียนชิงหญิงถอนหายใจออกมา สีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ นางที่เข้ามายังดินแดนนี้ ก็เพื่อที่จะเสาะหาศิษย์ที่แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง แต่ว่าเยี่ยจงเบื้องหน้าสายตากลับไม่ยินยอมที่จะเข้าร่วม ทำให้นางรู้สึกเสียดายอยู่หลาย

 

“ คุณหนู พวกเรายังสามารถถามเขาอีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย หากว่าเขายินยอมเข้าร่วมลัทธิเรา พวกข้าจะคอยปกป้องคุ้มกันเขาทั้งหมดเอง เพื่อให้เขาสามารถครอบครองวาสนาเพียงสายเดียวได้อยากราบรื่น แต่ว่าถ้าหากเขาปฏิเสธ ก็ไม่อาจที่จะสามารถให้เขาลิงโลดใจได้ สุดยอดรุ่นเยาว์เช่นนี้ หากมีใช่คนของตนเอง วันข้างหน้าคงจะต้องยุ่งยากเป็นแน่ ” กุ่ยเมียนผอผอเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา นางราวกับหลงลืมไปว่าเมื่อครู่ตนเองยังคิดที่จะฆ่าสังหารเยี่ยจงอยู่ก็มิปาน อีกทั้งยังกล่าวออกมาด้วยคำพูดที่ลึกซึ้งอยู่หลายส่วน

 

นางเซียนชิงหญิงมองไปที่นางอย่างลึกซึ้งคราหนึ่ง แต่กลับมิได้กล่าวอันใดออกมามากมาย จ้องมองไปที่เยี่ยจงที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ในตอนนี้

 

“ เอ๊ะ พี่ชิงหญิง แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์พวกท่านก็มีความสนใจ เพียงแค่ข้ารับใช้เพียงแค่คนเดียว แต่ว่ากลับสามารถทำการตัดสินใจแทนท่านได้ ทั้งยังไม่รู้จักประมาณตน เป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่ง “ บริเวณด้านตรงข้าม โหยวเหลียนก็ได้ตรวจสอบพบ สายตาที่กวาดมองเข้ามา บนใบหน้าก็ได้ปรากฏรอยยิ้มระคนสนุกสนานอย่างยิ่ง

 

นางเซียนชิงหญิงจ้องมองไปที่นางในขณะนี้ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบา “ พี่โหยวเหลียน หรือที่แท้ท่านไม่คิดที่จะเชิญชวนเขาเข้าร่วมลัทธิแดนลับแลบ้างงั้นหรือ ? “ ที่แท้ท่านก็ไม่คิดที่จะชักจูงเขาเข้าร่วมกับลัทธิแดนลับแลของท่านอย่างงั้นหรือ ? “

 

“ คิด แน่นอนว่าคิด แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่ได้ใช้วิธีการอันน่าเบื่อหน่ายเฉกเช่นแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์เช่นพวกท่าน เอาแต่ยกคำว่าศักดิ์สิทธิ์ มากระทำทุกวิถีทาง ก็เป็นได้เพียงแค่ผู้ดีจอมปลอมเท่านั้น พวกท่านคิดว่า เยี่ยจงจะเข้ายังลัทธิฝ่ายเจ้าจริงงั้นหรือ ? “ โหยวเหลียนยิ้มขึ้นช้าๆ จากนั้นนางก็ไม่มองไปที่นางเซียนชิงหญิงอีก เพียงแต่ทอดสายตาไปถึงยังท่ามกลางบริเวณสนาม

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด709 Update 10/07/18

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset