เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 325 เต๋าหยินเฟิงยวู

ตอนที่ 325 เต๋าหยินเฟิงยวู

 

 

 

“ ตูม ——”

 

ร่างกายของเยี่ยจงที่หล่นลงมาก็ได้หันกายกลับไปในทันที ฟาดมือขาวออกไปคราหนึ่ง วินาทีนั้นวงล้อมเจ็ดสีก็ได้ที่เหมือนดั่งเขายืนอยู่บนจุดศูนย์กลาง มุ่งหน้าออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน เพียงแค่หนึ่งลมหายใจ การโจมตีทั้งหมดที่เข้ามาก็ได้ถูกการโจมตีสลายหายไป

 

เยี่ยจงขยับทั่วทั้งร่างกายอย่างช้าๆ ปาดเช็ดโลหิตที่มุมปาก ถึงแม้ว่าการโจมตีเหล่านี้จะมาจากคนละกระบวนท่าเขาก็ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แต่ว่าเหล่าผู้คนที่ลงมือเหล่านี้ ต่างก็ถือได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือแห่งดินแดนซีฮวงได้ ถึงกระนั้น ในตอนนี้พลังที่แท้จริงของพวกเขาจะถูกจำกัดอยู่ภายในขั้นก่อเกิดทั้งเก้า แต่ว่าการลงมือของพวกเขายังถือได้ว่าเหนือกว่าเหล่าอัจฉริยะแห่งตระกูลอยู่หลายระดับ

 

เขาเงยหน้าขึ้นมาอย่างเย็นชา จ้องมองไปยังบนร่างของยอดฝีมือที่อยู่ภายในท่ามกลางอากาศ จากนั้นไม่นานนัก เขาก็จ้องมองหาเป้าหมาย ขยับร่างกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้ควบคุมชิ้นส่วนมายาพุ่งออกไป

 

ในขณะนี้เอง ยอดฝีมือไม่น้อยต่างสีหน้าที่เปลี่ยนไป ถอยไปอย่างรวดเร็ว เพราะว่าพวกเขาต่างก็เข้าใจอย่างกระจ่างเป็นอย่างดี ในสถานที่แห่งนี้หากว่าลงมืออย่างโดดเดี่ยวแล้วละก็ พวกเขาย่อมต้องมิใช่คู่ต่อสู้ของสุดยอดรุ่นเยาว์ผู้นี้อย่างแน่นอน

 

ทว่าเป้าหมายของเยี่ยจงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาพุ่งเข้าไปยังด้านหน้าของชายชราสวมชุดสีเทาผู้หนึ่ง ยกมือขวาขึ้น แขนกิเลนก็ได้ปรากฏขึ้นมาทันที มุ่งหน้าเข้าโจมตีไปยังทางด้านหน้

 

“ เจ้าต้องการจะทำอะไร ? ”สีหน้าชายชราเปลี่ยนไปในทันที ไม่อาจที่จะเข้าใจได้ทั้งหมดว่าเพราะอะไรเยี่ยจงถึงได้มุ่งหน้ามาหาตนเอง อีกทั้งยังไม่สนใจคนอื่นๆอีก

 

เพียงแต่ว่าเยี่ยจงกลับไม่ได้อธิบายอะไร แขนกิเลนยังคงโจมตีเข้ามา ชายชราได้แต่เพียงตัดสินใจที่จะยกมือขวาขึ้นมา คิดที่จะต้านทานกระบวนท่านี้ แต่ว่าก็ไม่มีประโยชน์ ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียง”โครม”ดังขึ้นมา แขนของเขาแตกกระจาย ร่างกายกระเด็นออกไป กระอักโลหิตออกมาคำโต

 

“ เจ้าบังอาจ ” ชายชรากระอักโลหิตออกมาคำโต ส่งเสียงออกมาอย่างเจ็บปวดต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ กลับถูกชนชั้นรุ่นหลังผู้หนึ่งซัดจนกระอักโลหิต ต่อให้อีกฝ่ายเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ขายหน้าเป็นอย่างยิ่ง

 

“ บังอาจ ? พวกเจ้ากลุ่มเฒ่าบัดซบล้อมโจมตีข้าตั้งหลายครั้ง เจ้ามีสิทธิ์พูดว่าบังอาจด้วยงั้นหรอ ? “ เยี่ยจงเย็นเยียบเผชิญหน้า หลังจากที่มองเข้าไปอย่างละเอียดแล้ว เขาจึงค่อยจำได้ว่าผู้คนในตอนนี้ต้องเป็นหนึ่งในคนที่เคลื่อนไหวฉากเบื้องหน้านี้ อย่างน้อยเขาก็ได้ทำให้เฒ่าชราบัดซบเหล่านี้ลงมือต่อตนเอง นี้ทำให้เยี่ยจงปรากฏรังสีฆ่าฟันขึ้นมาภายในใจ

 

ชายชราชุดดำหน้าเปลี่ยนสี เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงจะถึงกับทราบได้ว่าก่อนหน้านี้หลายครั้งก็เป็นเขาที่กล่าวออกมา เพียงแต่ว่าเขาก็ได้แต่กัดฟัน ส่งเสียงเย็นชาออกมา “ เจ้าหนู เจ้าอย่าคิดว่าจะเอาชนะองค์ชายสิบสามแห่งหุบเขาตระกูลถังได้แล้วจะสามารถเหิมเกริมได้หรอกนะ “

 

เยี่ยจงเงียบงัน เพียงแต่หัวเราะฮิฮะอย่างเย็นเยียบ กล่าวขึ้นอย่างช้าๆ “ พวกเจ้ามีคนตั้งมากมายลงมือต่อข้าคนเดียว ยังไม่ให้ข้าลงมืออีกงั้นหรือ ? เจ้าที่แท้เหมือนจะมีเหตุผล แท้จริงแล้วเจ้าก็มิได้ทำตามอำเภอใจ ……. ข้าตัดสินใจแล้ว วันข้างหน้าข้าจะต้องไปหาเจ้าถึงที่เองอย่างแน่นอน ทำให้ขุมกำลังนั้นไม่หลงเหลือแม้แต่ปลายเส้นขน …….. กลับไม่อาจทราบได้ ว่าขยะไร้ประโยชน์อย่างเจ้านั้นมาจากที่ใดสำนักใด “

 

“ เจ้า ——”

 

ชายชราชุดดำตกใจขึ้นมา สีหน้าเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง เกือบที่จะพูดอะไรไม่ออก

 

ยอดฝีมือมากมายทุกคนแต่ละคนก็ไร้คำที่จะพูด ถึงแม้ว่าเยี่ยจงในตอนนี้จะอยู่ในท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่ซึ่งไร้ผู้ต้านทานได้ แต่ว่าก็ยังคงอยู่ในพลังขั้นก่อเกิดเท่านั้นเอง ต่อให้อยู่ในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้วจะเป็นอย่างไร ? หากว่าออกไปสู่ดินแดนภายนอก พวกเขาเหล่านี้ก็ยังมีการลงมือนับหมื่นชนิดที่จะสามารถสังหารได้ แต่ว่า เขาในตอนนี้ที่เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่อยู่ในพลังขั้นก่อเกิด ถึงกลับหาญกล้าที่จะข่มขู่ขุมกำลังเบื้องสู้ได้ด้วยงั้นหรือ ?

 

“ เยี่ยม เด็กหนุ่มที่หลงระเริงมากผู้หนึ่ง ข้าผู้ชรามาจากแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์เต๋าหยินเฟิงยวู(ผู้บำเพ็ญเพียร) ข้าก็อยากจะดูหน่อยว่า เจ้าเตรียมที่จะลบล้างแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ข้าอย่างไร ” ชายชราชุดดำหัวเราะแล้วกล่าวออกมาอย่างชั่วร้าย ใบหน้าเย็นชา ด้วยตำแน่งฐานะของเขา เป็นครั้งแรกที่ถูกดูแคลนเช่นนี้ ควรทราบว่า ฐานะที่เขาอยู่ภายในแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์นั้นถือได้ว่าสูงล้ำเอาอย่างมาก ห่างไกลจากกุ่ยเมียนผอผออยู่หลายขั่ว

 

“ เป็นแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์อีกแล้วงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงหัวเราะเย็นเยียบ ” ก่อนหน้าข้าก็พึ่งจะสังหารเฒ่าชราตายยากไปคนหนึ่ง เฒ่าชราอย่างเจ้ากลับไม่กล้าที่จะออกหน้ามาช่วยเหลือนางก็ไม่กล่าวแล้ว ตอนนี้ยังถึงกับเอาแต่หลบซ่อนอยู่ด้านหลังของผู้คนให้คนอื่นลงมือ……พวกเจ้าแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ต่างก็ไร้ความสามารถงั้นหรือไร ? ”

 

เต๋าหยินเฟิงยวูเงียบงัน บนใบหน้าปรากฏความชาด้านขึ้นมาชั้นหนึ่ง เขาแน่นอนว่าย่อมมีความหวาดกลัวต่อเยี่ยจงอยู่หลายส่วน ทราบดูแก่ใจว่าในตอนนี้คิดที่จะกำจัดเยี่ยจงย่อมไม่ง่าย ดังนั้นจึงได้ยุยงยอดฝีมือคนอื่นๆให้ลงมือแต่ว่าในตอนนี้กลับถูกเปิดเผยความคิดนี้ จนทำให้เขารู้สึกได้ถึงความอับอายหลายส่วนจนก่อจนกลายเป็นความรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาในทันที ไม่ว่าจะกล่าวอย่างไรก็ตาม เขาก็มีจากแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ ฐานะยอดเยี่ยมสูงล้ำเลิศ จะยอมรับความอับอายเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ?

 

“ ดูถูกแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ข้า เจ้าหนู เจ้าหาที่ตายเองนะ ” เต๋าหยินเฟิงยวูร้องออกมาอย่างเย็นชา สีหน้าเย็นชาอย่างถึงที่สุด

 

“ งั้นหรือ ในเมื่อได้มาหาที่ตายแล้ว งั้นเจ้าก็ช่วยสงเคราะห์ให้หน่อย ให้ข้าได้รับรู้ถึงความตายที่ยิ่งกว่าความตายหน่อยสิ ดีไหม ? “ เยี่ยจงหัวเราะเย็นเยียบติดต่อกัน จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหว พริบตาเดียวร่างกายก็ได้กลายเป็นประกายแสงสาดออกไป มุ่งหน้าเข้าสังหารไปยังบริเวณทางด้านหน้า หมายที่จะสังหารเต๋าหยินเฟิงยวูในทันทีที่เข้าปะทะ

 

“ ซวบ —— ”

 

เต๋าหยินเฟิงยวูหัวเราะเย็นก้าวเดินออกมาก้าวหนึ่ง ทันใดนั้นร่างกายก็ได้หายไปท่ามกลางอากาศ จนทำให้เยี่ยจงโจมตีเข้าใส่อากาศธาตุ

 

“ หรือว่า …… ดำดินรุกคืบ ? “

*缩地成寸

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว ในระหว่างนั้นเองก็จดจำวิชามนต์ตราเทพอันน่ากลัวแขนงหนึ่งได้ เพราะว่ากระบวนท่านี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกระบวนท่าขึ้นชื่อของแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ ถือได้ว่ามีชื่อเสียงอย่างมากก่อนหน้านี้ที่อยู่ในดินแดนซานเชียนเซินเจี่ย เยี่ยจงก็เคยพบเจอมาหลายรั้ง จึงได้มีความคลับคล้ายคลับคลาอยู่หลายส่วน

 

แต่คิดไม่ถึงว่า เต๋าหยินเฟิงยวูผู้นี้กลับใช้ออกด้วยดำดินรุกคืบ ไม่แปลใจเลยที่อยู่ภายในสมรภูมิฮวงกู่นี้ เขาถึงหาญกล้าท้าทายต่อตนเอง ที่แท้ก็มีไพ่ตายเช่นนี้คลุมกะลาหัวอยู่นี้เอง

 

“ ทว่าก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้เป็นดำดินรุกคืบก็เท่านั้น ข้าต้องการที่จะดูว่าเจ้าจะสามารถหลบรอดไปได้สักกี่ครั้งกัน “ สายตาค่อยๆเคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นเยียบ เขาต้องการเสาะหาเต๋าหยินเฟิงยวู จากนั้นก็ฆ่าทิ้งเสีย

 

“ โครม ——”

 

ประกายแสงสีม่วงสายหนึ่งก็ได้ก่อตัวรวมกันแตกกระจายอยู่ท่ามกลางอากาศ ดุจดั่งคมกระบี่สายหนึ่ง มุ่งหน้าสาดเข้าไปเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงเข้ามา ทั้งยังมีพลังอำนาจอันน่าหวาดกลัวอยู่ชนิดหนึ่ง

 

เห็นได้ชัด ตอนนี้ แต่ว่าพวกเขาต่างก็มีความสัมพันธุ์กับแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่หลายส่วน คงมิอาจที่จะเอาแต่ยืนมองดูเต๋าหยินเฟิงยวูถูกสังหารอย่างแน่นอน

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เมื่อเยี่ยจงมุ่งเป้าไปทางด้านแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นอย่างมากบัญชีนี้เขาก็คงจะเอาไปคิดกับแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ คนผู้อื่นจึงมิได้เกิดความหวาดกลัวมากมาย

 

“ โครม ——”

 

คมสายฟ้าได้กวาดเข้ามา ห้อมล้อมอยู่ที่ร่างกายของเยี่ยจง ประจวบกับหลบรอดกระบวนท่าสังหารที่เข้ามาใกล้นี้ได้ แล้วก็ได้ยินเสียงบางอย่างพุ่งเข้ามา คมสายฟ้าก็ได้ทอดลงมายังพื้นที่แห่งนี้ เหล่าอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ที่มีปฏิกิริยาถอยออกไปไม่ทันก็ได้ถูกแทงจนทะลุร่างกาย กลายเป็นมอดไหม้ลงไปในทันที

 

“ ฝีมือที่ไม่เลว เป็นฝีมือที่ไม่เลวเลยจริงๆ ” เยี่ยจงฟาดฝ่ามือออกไป กวาดสายไปยังอีกฝ่ายหนึ่ง จนพุ่งเข้าไปยังส่วนหัวของสุดยอดฝีมือคนหนึ่ง ราวกับต่างก็มีที่มาที่ไปอยู่ เมื่อคิดได้เช่นนี้ เยี่ยจงก็ได้มีการตัดสินใจขึ้นมามากมายหลายส่วน เขาคิดที่จะดูว่า หากว่ายอดฝีมือเหล่านี้สังหารอัจฉริยะเหล่านี้ไปประมาณครึ่งหนึ่ง จะอยู่ในสถานการณ์เช่นไร คงจะน่าสนใจขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว

 

“ ตูมตูมตูม——”

 

สุดยอดฝีมือที่ลงมือไม่แม้แต่จะเอ่ยปาก เพียงแต่กวาดคมสายฟ้าออกไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันสุดยอดฝีมือคนอื่นๆต่างก็ลงมืออย่างรวดเร็ว วินาทีนั้น พลังการโจมตีอันน่าหวาดกลัวแต่ละสายก็ได้สาดเข้ามา แต่ว่าเยี่ยจงในครั้งนี้ยังสามารถถอยหลบไปได้ทัน เขาไม่ได้เข้าต้านทาน แต่กลับดึงดูดเข้ามาเรื่อยๆ จนการโจมตีเหล่านี้กระทบลงไปยังบนร่างกายของอัจฉริยะเหล่านี้ทางด้านล่าง

 

ในช่วงวินาทีนั้นเอง ก็ได้มีเสียงโหยหวนออกมาจากทั้งสี่ด้าน ถึงแม้มีคนไม่น้อยได้ตัดสินใจถอยหลังไป แต่ว่ายังคงไม่ทันการณ์อยู่ดี อัจฉริยะแต่ละฝ่าย พวกที่มีพรสวรรค์ต่างก็ล้มลง

 

เยี่ยจงหัวเราะฮิฮะอย่างเย็นเยียบ เพียงแต่ยังคงถอยหลังไปไม่หยุด ทั้งยังไม่ลงมือ จนการโจมตีเหล่านั้นต่างก็ลงไปยังพื้นดิน ฆ่าสังหารยอดฝีมือไปมากมายนับไม่ถ้วน

 

“ พอแล้ว ”

 

มีคนที่ร่ำร้องขึ้นมาในทันที นั้นก็คือบุคคลผู้เป็นราชาแห่งรัฐกู่กวอที่มิได้ลงมือ เขามองไปยังสุดยอดฝีมือเหล่านี้ที่ได้ลงมือ กล่าวออกมาเสียงเย็นเยียบ “ พวกเจ้าได้เตรียมที่จะฆ่าสังหารเจ้าตุ๊กตาน้อยๆเหล่านี้ไปให้หมดเลยงั้นหรือ ท้ายที่สุดคิดที่จะดึงดูดให้เกิดสงครามครั้งยิ่งใหญ่ขึ้นหรืออย่างไรกัน ? “

 

หลังจากที่เงียบงัน เหล่าสุดยอดฝีมือเหล่านั้นก็มีสีหน้าปั้นยากขึ้นมา ผู้ใดจะคาดคิดได้ว่า จุดที่เยี่ยจงได้ไปถึงเหล่านั้น เป็นจุดที่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสภาพเช่นนี้ได้ สุดที่จะคาดคิดหยั่งถึง

 

แต่ว่า ด้วยลักษณะเฉพาะของสมรภูมิฮวงกู่ หากว่าเยี่ยจงจงใจที่จะหลบอย่างมีจุดมุ่งหมาย เพื่อดึงดูดพวกเขาสุดยอดฝีมือกลุ่มนี้ลงมือแล้วละก็ พวกเขาก็ยังไม่อาจที่จะทำอันใดต่อเขาได้จริงๆ เมื่อเข้าใจได้เช่นนี้ ก็ได้ทำให้คนกลุ่มนี้ที่สามารถเรียกฟ้าเรียกฝนได้ ที่เป็นถึงสุดยอดฝีมือที่อยู่ในจุดสูงสุดแต่ละคนต้องขบฟันไปมา แต่ว่ายังคงไม่อาจที่จะทำอันใดต่อเยี่ยจงได้

 

“ ทุกท่านผู้ร่วมอุดมการณ์อย่าได้ถูกปิดบังความจริง เข้าไปเกลือกโกรกกับเจ้าหนูนี้ ที่คิดจะอาศัยพลังฝีมือของทุกท่านในการสังหารรุ่นเดียวกัน เจ้าหนูนี้มีจิตใจคาดคำนวณที่ลึกซึ้งนัก ทุกท่านอย่าได้เล่นไปตามแผนของเขา ” ทางบริเวณอีกด้านหนึ่งเต๋าหยินเฟิงยวูก็ได้ปรากฏร่างขึ้นมา เขาจ้องมองไปที่เยี่ยจง ดวงตาเคร่งเครียดเต็มสิบส่วน แต่ว่ากลับแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มเย็นเยียบชนิดหนึ่ง

 

“ เป็นไรไป เจ้ามิใช่หนีไปแล้วหรอกงั้นหรือ ? กลับมาหาที่ตายหรือยังไง ? ”เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นเยียบ ไม่เห็นแก่หน้ากับผู้ที่มาจากแดนปราชญ์ศักสิทธิ์อย่างเต๋าหยินเฟิงยวูแม้แต่น้อย

 

เต๋าหยินเฟิงยวูหัวเราะอย่างเย็นเยียบ เขายกมือขวาขึ้นมา แล้วก็ได้ยินเสียง”ซวบ”ดังขึ้นมา คมกระบี่สายหนึ่งก็ได้สวนออกมาจากท้องฟ้า มุ่งหน้าฆ่าสังหารไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป คมกระบี่สายนี้คล้ายดั่งความจริงเป็นอย่างมาก เป็นสิ่งที่เต๋าหยินเฟิงยวูเตรียมตัวไว้อยู่นาน ทั้งยังมีพลังทำลายอย่างมหาศาล

 

ตอนนี้ เต๋าหยินเฟิงยวูคาดคำนวณที่จะลงมืออยู่นาน ถึงได้ตัดสินใจที่จะลงมือตามเส้นทางหลบหนีของเยี่ยจง ดังนั้นทั้งหมดของกระบี่นี้ ในตอนนี้เยี่ยจงยังคงไร้หนทางหลบหนี จำเป็นที่จะต้องเข้ารับเพียงทางเดียว

 

“ เชอะ ——”

 

เยี่ยจงส่งเสียงดังชิออกมา ยื่นทั้งสองมือใช้ออกด้วยพลังดัชนีติดต่อกัน เมื่อพบเห็นประกายแสงหลายสายพุ่งเข้ามา จนกลายเป็นคมกระบี่แต่สายเข้ามายังการโจมตีของเต๋าหยินเฟิงยวู วินาทีนั้น ก็ได้ยินเสียงดัง”เคร้งเคร้งเคร้งเคร้ง”ดังติดต่อกันออกมาติดต่อกัน เห็นได้ชัด ตอนนี้เยี่ยจงได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อต้านรับกระบวนท่านี้

 

“ ทุกท่าน เวลานี้ถ้ายังไม่ลงมืออีก แล้วจะลงมือเวลาใดกัน ? “ เต๋าหยินเฟิงยวูร่ำร้องออกมา เตือนสติผู้คนทั้งหมด

 

“ ฆ่า ”

 

ในเวลานี้ คนอื่นๆก็ได้แบ่งกันลงมือ ทว่าพวกเขาก็ยังรอบคอบอยู่หลายส่วน เลือกจุดบอดโดยละเอียด หมายมั่นจะสังหารเยี่ยจงลงในสถานที่แห่งนี้ ไม่ให้เหลือหายนะเอาไว้

 

วินาทีนั้น ท่ามกลางอากาศก็ได้มีทักษะเซียน คมกระบี่ ธนูฝน สายฟ้าฟาดเป็นต้นเข้ามาอย่างวุ่นวาย ต่างก็มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป ภายในสนามอยู่ในขั้นที่น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

 

เยี่ยจงใช้ออกด้วยนิ้วทั้งสิบออกไป คมกระบี่แต่ละสายก็ได้พุ่งออกไปจากแต่ละนิ้ว ในช่วงเวลาที่สำคัญในตอนท้ายก็ได้มุ่งเป้าคมกระบี่ขนาดใหญ่ของตนเองทำลายออกไป ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ฟาดออกไปทั้งสองมือ พลังกระบี่ตราประทับแต่ละสายก็ได้ลอยออกมาจากทั่วทั้งร่างกายในตอนนี้ กลายเป็นวงล้อมทั่วร่าง ปกป้องคุ้มครองร่างกายเอาไว้

 

แต่ว่า ผู้ที่ลงมือเหล่านี้ต่างก็แข็งแกร่งจนเกินไป ทุกกระบวนท่าต่างก็ได้ผสานการโจมตีเอาไว้นับไม่ถ้วน จนทำให้เยี่ยจงไม่อาจที่จะไม่ถอยหลังไปหลายก้าวได้ จนถึงตอนท้าย ยังดีที่เขามีความเร็วที่สูงล้ำ สามารถหลบรอดได้ความรวดเร็ว หลบหลีกการโจมตีไปได้อย่างน้อยก็เก้าส่วน มิเช่นนั้นคงฉากที่คาดเดาได้ยากแล้ว

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด726

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset