เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 327 เพียะเพียะเพียะ

ตอนที่ 327 เพียะเพียะเพียะ

 

 

 

พลังความโกรธแค้นจากกระบี่ดำก็ได้กระจายออกมา ในขณะนี้เอง พลังความแค้นราวกับได้เพิ่มระดับขึ้นก็มิปาน พุ่งกระจายตัวกันขึ้นมา ดุจดั่งเสียงภูตผีกรีดร้องออกมาทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน จนทำให้ผู้คนที่ได้ยินเสียงๆนี้ ต้องรู้สึกขนลุกขนพองขึ้นมา

 

“ อย่าได้ให้เขาเตรียมพร้อมได้อีกครั้ง ฆ่าเขาซะ ” เต๋าหยินเฟิงยวูร่ำร้องขึ้นมา พลิกทั้งสองมือเปลี่ยนรอยตราขึ้นคราหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าปะทะไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

คนอื่นๆราวกับว่าต่างก็ลงมือในเวลาเดียวกัน ตอนนี้พวกเขาต่างก็ไร้หนทางหลบหนี หมายจะสังหารเยี่ยจงลงให้ได้ ไม่เช่นนั้นวันหน้าจะต้องกลายเป็นหอกข้างแคร่ชิ้นใหญ่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะเหล่าสุดยอดฝีมือที่ถูกจื่อจุนเทียนเปิดเผยขุมกำลังออกมา ตอนนี้ยิ่งต้องลงมือออกมาทั้งหมด หมายที่จะฆ่าเยี่ยจงให้ตายคามือ

 

“ โครม —— ” เสียงดังกังวานออกมา ท่ามกลางอากาศในตอนนี้ก็ได้ระเบิดขึ้นมา เงาร่างนับสิบสายของสุดยอดฝีมือก็ได้ปรากฏขึ้นมา ล้อมโจมตีเยี่ยจง

 

“ ตูม —— ”

 

บริเวณทางด้านหลังเยี่ยจงก็ได้ปรากฏมังกรสีรุ้งขึ้นมา ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างบนล่างของเขา มือขวาก็ได้กลายเป็นแขนกิเลนไปในเวลาเดียวกัน บนกระบี่ดำก็ได้ประทับไว้ด้วยพลังกระบี่ตราประทับ และแขนซ้ายเตรียมที่จะใช้ออกด้วยตราผนึกนภา ก่อรวมไว้ด้วยพลังเทพอันน่าหวาดกลัว

 

“ มาเถอะ จะสู้กับพวกเจ้าให้อีกรอบเอง ” เยี่ยจงส่งเสียงกรอดอย่างเย็นเยียบ แล้วก็ได้โบกมือขวาขึ้นคราหนึ่ง แล้วก็ได้ยินเสียงปะทะดังขึ้น การใช้ทั้งแขนกิเลนและพลังกระบี่ตราประทับร่วมกัน พลังความโกรธแค้นบนกระบี่ดำก็ถูกเขารีดเร่งขึ้นมาจนถึงขีดสุด พลังกระบี่พุ่งฆ่าสังหารออกไป คมกระบี่กวาดออกไปทั้งสี่ทิศแปดด้าน น่าหวาดกลัวสุดเปรียบปาน

 

คมกระบี่สายนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นท่าที่เยี่ยจงใช้พลังออกมาทั้งหมด เขาได้รวมพลังของทักษะเทพทั้งหมดเอาไว้อยู่จนทะลวงออกไป ภายใต้กระบี่นี้ ได้ทำให้เขาสูญเสียพลังไปจนเกือบจะทั้งหมด คมกระบี่สายนี้สามารถกล่าวได้ว่าเป็นท่าที่เยี่ยจงสามารถใช้ออกมาทั้งหมดได้ในตอนนี้แล้ว

 

แต่ว่า ภาพที่ปรากฏก็ทำให้ผู้คนเกิดความตกใจขึ้นอย่างมาก คมกระบี่นี้ดุจดั่งเคียวประหารก็มิปาน รวมไว้ด้วยพลังที่ไร้ผู้ต้านทาน น่าหวาดกลัวสุดเปรียบปาน แต่ว่าสภาพการณ์กับดูน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ดุจดั่งคมกระบี่สายหนึ่งที่เป็นดั่งเคียวไว้ประหารก็มิปาน รวมไว้ด้วยพลังที่ไร้ผู้ต้าน น่าหวาดกลัวสุดเปรียบปาน

 

“ ซวบ —— ”

 

สุดยอดฝีมือที่อยู่ใกล้ที่สุดผู้หนึ่งยังไม่ทันที่จะได้ร่ำแม้แต่นะกรีดร้องขึ้นมา ตลอดออกมา ทั่วทั้งสรรพร่างร่างกายก็ได้กายเปล่าก้อนกลายเป็นเพียงโลหิตสายกลุ่มหนึ่ง

 

“ อา —— ”

 

มีคนที่ร้องขึ้นมาออกมา ทั่วทั่งร่างกายทั้งร่างก็ได้ขาดออกเป็นเสี่ยงๆแตกกระจายไปท่ามกลางอากาศ ดุจดั้งร่างกายเขาที่เป็นดุจดั่งหยกศิลาของเขา ในตอนนี้ก็ได้ถูกพลังอันแตกกระจายไปอย่างรุนแรงบางอย่างกระแทกเข้าก็มิปาน

 

“ ครืนครืน —— ”

 

ที่เหลืออีกเกือบสิบคนที่มีพลังฝีมือที่จัดได้ว่าสูงกว่า แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคมกระบี่สายนี้ พวกเขาก็ยังต้องกระอักโลหิตถอยออกไป

 

“ เจ้า…… ” เต๋าหยินเฟิงยวูเนื้อตัวสั่นเทาไปตลอดทั้งทั่วสรรพร่าง ตัดสินใจที่จะใช้ออกด้วยดำดินรุกคืบเพื่อที่จะหนีออกไป เพราะว่าเยี่ยจงนั้นถือได้ว่าแข็งแกร่งจะเกิดจนเกินกว่าจะคาดเดาไว้ได้

 

“ ผนึก ”

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด ในทันใดนั้นเองนี้เอง กระบี่ดำบนภายในมือของเขาก็ได้พุ่งหลุดลอยออกไป พลิกมือขวาเปลี่ยนรอยตราคราขึ้น และสร้างมือซ้ายก็ได้สำเร็จจากการใช้ตราผนึกนภาขึ้นสำเร็จอยู่บนมือซ้าย ในครั้งนี้ มิได้ปรากฏไม่ได้มีฝ่ามือขนาดใหญ่ขึ้นมา แต่ว่าในตอนนี้ ก็ได้มีรังสีปรากฏขึ้น บรรยากาศตราผนึกไร้รูปไร้สภาพของตราผนึกชนิดหนึ่งอยู่ ทั้งยังการสัมผัสได้ กลับปกคลุมปิดบังไปทั่วทั้งอยู่เต็มฟ้าดิน

 

เยี่ยจงขยับร่างกายจนเกิดเสียงดังเปรี้ยงปั่ง ระเบิดแสงสีโลหิตออกมาเป็นสาย มีโลหิตไหลหลั่งออกมาดุจดั่งน้ำพุก็มิปาน เห็นได้ชัด ต่อให้เป็นเขาในตอนนี้ที่มีพลังขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย แต่ว่าระดับชั้นความหยิ่งผยองทักษะเซียน มนต์ตราเทพ ยังคงทำให้ร่างกายของเขาต้องรับภาระมีหนักมาอย่างยิ่ง

 

แต่ว่าสีหน้าบนใบหน้าของเขากลับไม่เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย ทั้งยังเยียบเย็นอย่างที่สุด เขาก็ได้ย่างก้าวขึ้นไปยังชิ้นส่วนมายาที่อยู่ท่ามกลางอากาศเช่นนี้ มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณที่เต๋าหยินเฟิงยวูอยู่ในตอนนี้

 

ในขณะที่พลังแห่งผนึกนภากระจายกันออกไป เขตแดนผืนนี้ ทั้งหมดทั้งมวลก็ได้ถูกผนึกเอาไว้อยู่ มีแต่ถูกคุมขังอยู่ท่ามกลางอากาศ มีแต่เยี่ยจงที่สามารถที่จะก้าวออกไปเช่นนี้ เขาในตอนนี้ ยังคงอยู่ในชุดสีขาวทั่วกาย แต่ว่ากลับมีคราบโลหิตเพิ่มเข้ามา ทำให้เขายังคงรู้สึกถึงคราบสกปรกและไม่ยินดี ทั่วทั้งร่างกายก็ได้เต็มไปด้วยรังสีไร้เทียมทานชนิดหนึ่ง

 

“ โครม —— ”

 

ค่อยๆเดินไปยังทางด้านหน้าของเต๋าหยินเฟิงยวู ภายในดวงตาที่ยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น เยี่ยจงยื่นมือซ้ายออกไป กดเข้าไปยังบนคอหอยของเต๋าหยินเฟิงยวู จากนั้น รังสีตราผนึกนภานั้นก็ได้ค่อยๆที่จะหายไป จนหายสาบสูญไปจนสิ้น

 

“ เจ้าบังอาจ……เจ้า ” เต๋าหยินเฟิงยวูขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน กรอกตาโดดไปมา

 

“ สุดยอดฝีมือทั้งสามท่านได้ถูกสังหารลงในทันที กระอักโลหิตถอยไปนับสิบ เต๋าหยินเฟิงยวูยังคงถูกจับเป็นเอาไว้อยู่ เยี่ยจงผู้นี้ มีฝีมืออย่างแท้จริง ” เหล่าสุดยอดฝีมือที่มิได้ลงมือก็อดที่จะสูดลมหายใจไปมามิได้ ผลลัพธ์การต่อสู้ในครั้งนี้ ต่อให้เป็นพวกเขาลงมือก็ว่าจะสามารถทำออกมาได้ คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงกลับสามารถทำออกมาได้

 

“ เจ้าคิดที่จะทำอะไร เยี่ยจง เจ้าต้องรู้ไว้ว่า แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ข้า…… ”

 

“ เพียะ —— ”

 

เต๋าหยินเฟิงยวูยังไม่ทันจะได้กล่าวจบ เยี่ยจงก็ได้พลิกฝ่ามือตบเข้าไปแล้ว จนทำให้เขาต้องกล้ำกลืนคำพูดกลับไป จากนั้นก็ขมวดคิ้ว เยี่ยจงก็ได้สะบัดฝ่าไปอีกนับสิบครั้งได้ เยี่ยจงก็ได้พลิกมือตบลงไปอีกสิบกว่าที ในขณะที่พลังแห่งผนึกนภากระจายกันเอาไว้อยู่ ตอนนี้เต๋าหยินเฟิงยวูแทบจะไม่อาจที่จะควบคุมพลังคุ้มกันร่างกายตนเองได้แม้แต่น้อย ได้แต่เพียงพึ่งพาพลังกล้ามเนื้อบนร่างเข้าต้านทาน แต่ว่าด้วยสภาพกล้ามเนื้อของเขาเมื่อเทียบกับของเยี่ยจง ถือได้ว่าแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ทว่าในตอนนี้ เขาก็ได้ถูกตบจนฟันสีเหลืองที่อยู่เต็มปาก ลอยกระเด็นออกมาพร้อมคราบโลหิต

 

หลังจากที่สะบัดไปแล้วนับสิบที เยี่ยจงขมวดคิ้วไปมา สะบัดมือขวาไปมาอยู่หลายที กล่าวเสียงอุดอู้ขึ้นมาเบาๆ “ คนของแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์หน้าหนาถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ ? ข้าที่มีพลังอยู่ในขั้นขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายไปแล้ว ยังต้องเจ็บมือขนาดนี้เชียว “

 

หลังจากที่อดที่จะมีผู้คนไม่น้อยที่พ่นลมออกมาคำหนึ่ง จนเกือบที่จะหัวเราะออกมา เยี่ยจงถึงแม้จะถูกเกียจชัง แต่ว่าการดูถูกชนิดนี้ ที่ว่าคนของแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ หนังหน้ายังด้านเสียยิ่งกว่ากายเนื้อที่อยู่ในขั้นขอบเขตไม่สูญสลายได้ คำพูดนี้ถ้าถูกลือออกไป คงจะต้องกลายเป็นที่น่าหัวเราะยิ่ง เกรงว่าคงจะทำให้ช่วงเวลาที่มีอยู่นับสิบปีแห่งแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ต้องขายหน้าเพียงเพราะคำพูดเหล่านี้

 

เต๋าหยินเฟิงยวูถูกเยี่ยจงตบไปสิบกว่าครั้งจนโง่งมขึ้นมา แทบจะไม่มีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน ควรทราบว่า เยี่ยจงสังหารเขาไปเลย เขายังพอที่จะรับได้ แต่ว่ากลับถูกเยี่ยจงดูถูกดูแคลนถึงเพียงนี้ ยังยากที่จะรับมากเสียกว่าถูกสังหาร เพราะว่าเขาในตอนนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เขาเสียหน้าเท่านั้น ยังรวมไปถึงแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย

 

“ เจ้าทรราชน้อย เจ้าถึงกับกล้า …… ” หลังจากนั้น เต๋าหยินเฟิงยวูค่อยมีปฏิกิริยากลับมา อดไม่ได้ที่จะตะโกนด่าทอออกมา

 

“ เพียะเพียะเพียะ —— ”

 

เยี่ยจงคร้านที่จะกล่าววาจามากความ แล้วก็ได้สะบัดมือตบลงไปอีกสิบกว่าครา หลังจากตบไปที่ใบหน้าก็ได้เช็ดคราบไปบนแขนเสื้อของเต๋าหยินเฟิงยวูอย่างรังเกียจ

 

ผู้คนมากมายเมื่อพบเห็นฉากเบื้องหน้า ต่างก็ต้องกรอกตากันคราหนึ่ง เยี่ยจงผู้นี้แท้ที่จริงแล้วไม่เห็นแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสายตาเลย

 

เต๋าหยินเฟิงยวูก็ในตอนนี้ก็ได้ถูกเยี่ยจงทุบตีจนโง่งมขึ้นมา แทบจะไม่มีปฏิกิริยากลับมาได้ ในสมองมีแต่เพียงเสียงที่ดังฉ่าฉ่าขึ้นมา ด้วยสถานะภาพของเขา นับตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ถูกดูถูกได้ถึงเพียงนี้กัน ?

 

เหล่าสุดยอดฝีมือที่ก่อนหน้านี้ถูกเยี่ยจงทุบตีจนกระอักโลหิตถอยออกไป หลังจากนั้นจนถึงตอนนี้ก็ยังอยู่อาการลังเล ต่างก็มิได้ขึ้นมาข้างหน้า ถูกเยี่ยจงสังหารก็ยังแล้วไป แต่ว่าถึงกับถูกเขาตบเข้าไปตั้งหลายสิบฝ่ามือ เรื่องเช่นนี้ก็ช่างหน้าขายหน้าเสียเกินไปแล้ว

 

“ สหายน้อย เจ้าที่เป็นถึงสุดยอดรุ่นเยาว์ วันหน้ายังต้องออกท่องยุทธ์ภพ แต่ว่าภายใต้สถานการณ์ในที่ผ่านมานี้ จำเป็นที่จะต้องมีปัญหากับผู้คนมากมายเช่นนี้งั้นหรือ แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์มีที่มาที่ไปที่ไม่ธรรมดาสามัญ ยังคงอย่าได้เหยียบหยามจนเกินไปจะดีกว่า ” สุดยอดฝีมือผู้หนึ่งหลังจากที่ได้ครุ่นคิดแล้ว ก็ได้เอ่ยขึ้นมาเสียงเบา

 

เยี่ยจงหัวเราะออกมาเสียงเยียบเย็น ตอบกลับอย่างเย็นชา “ กุ่ยเมียนผอผอก็ได้ถูกข้าสังหารไปแล้ว ตอนนี้ต่อให้ข้าปล่อยเขาไป พวกเจ้าคิดหรือว่าแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์จะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ได้งั้นหรือ ? “

 

ยอดฝีมือกลุ่มนั้นก็พูดอะไรไม่ออก เพราะว่าไม่ว่าผู้ใดต่างก็ทราบดี วันนี้ต่อให้เยี่ยจงปล่อยเต๋าหยินเฟิงยวูเอาไว้ เรื่องเช่นนี้ย่อมไม่อาจที่จะปล่อยไปเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน

 

“ เจ้าหนู ปล่อยข้านะ ” ในที่สุดเต๋าหยินเฟิงยวูค่อยได้สติกลับคืนมา เขาจ้องเขม็งไปที่เยี่ยจง เอ่ยออกมาอย่างเจ็บปวด การถูกดูเหยียบหยามเช่นนี้ ทำให้ดวงตาทั้งสองข้างในตอนนี้รุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง

 

“ เอ๊ะ ที่แท้ก็เป็นนายน้อยใหญ่แห่งแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ เจ้าในตอนนี้ยังไม่เข้าใจอีก ว่าตนเองที่แท้อยู่ในขอบเขตไหนกันงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงหัวเราะเย็นเยียบ ยกมือขึ้นมาอีกครั้ง แล้วก็ตบออกไปที่มุมปากฉาดใหญ่ ในครั้งนี้เขาไม่มีแม้แต่การยั้งมือ ตบจนจมูกของเต๋าหยินเฟิงยวูบวมเป่งขึ้นมา

 

“ อุ๊ก —— ” เต๋าหยินเฟิงยวูที่ถูกเยี่ยจงทำสีหน้ารังเกียจออกมา พ่นโลหิตออกมาคำหนึ่ง จนในที่สุดก็เขาก็ยอมรับในขอบเขตของตัวเอง ทั้งยังกล่าวออกมาด้วยไม่อยากจะยอมรับ: “ สหายน้อย เจ้าปล่อยข้าลง ปล่อยข้าลง ในเวลานี้ข้าก็จะทำเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้น “

 

“ คำพูดนี้ของเจ้า เจ้ารู้สึกว่าเจ้าสามารถเชื่อได้หรือไม่ ? จะทำเป็นเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นเยียบ ทั้งยังเป็นการดูสึกชนิดหนึ่ง

 

ภายในดวงตาของเต๋าหยินเฟิงยวูก็ได้ปรากฏประกายความดุร้ายขึ้นมา แต่ว่าเขาก็ยังคงกัดฟันเอาไว้ ลดเสียงลงแล้วกล่าว “ ท่านเยี่ยจง เจ้าเชื่อข้าเถอะ เต๋าหยินเฟิงยวูจะอย่างไรก็ถือว่าเป็นผู้คนที่มีหน้ามีตา ในเมื่อกล่าวออกมาเช่นนี้ เช่นนั้นย่อมต้องแล้วกันไป รวมทั้งเรื่องของกุ่ยเมียนผอผอ ก็ถือว่าแล้วกันไป “

 

“ งั้นหรือ ? งั้นหรือ ? ดูเหมือนกับว่าแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์พวกเจ้าจะใจกว้างไม่น้อยเลยนะ แม้แต่เรื่องเช่นนี้ก็ยังถือได้แล้วกันไปได้ ” เยี่ยจงหัวเราะเสียงเบา “ แต่ว่าเช่นนี้ก็ยังไม่พอนะ ชีวิตเจ้ามีค่าถึงขนาดนั้น จะปล่อยเจ้าไปเช่นนี้ ก็คงจะไม่ดีต่อสถานนะของเจ้าเอาซะเลยนะมิใช่หรือ ? “

 

“ ส่งคัมภีร์ทักษะเซียนดำดินรุกคึกออกมา ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป ” หลังจากที่ครุ่นคิดแล้ว เยี่ยจงก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา

 

หลังจากที่เงียบงัน ก็มีผู้คนรอบด้านไม่น้อยต่างก็กรอกตาไปมาคราหนึ่ง เด็กหนุ่มผู้นี้ก็ร้ายเกินไปแล้ว ทารุนสุดยอดฝีมือแห่งแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ว่าไปแล้ว ยังถึงกับต้องการแย่งชิงทักษะเซียนของแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์อีกงั้นหรือ ? นี้คิดเตรียมที่จะบีบคั้นแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ให้ตายเลยงั้นหรือ

 

“ ฮาฮาฮา ” ด้านบนท้องฟ้า จื่อจุนเทียนก็ได้ยินคำพูดนี้ ก็ได้โบกมือออกมา หัวเราะเสียงดังฮาฮาขึ้นมา “ เยี่ยจง ดูเหมือนว่าเจ้าจะถือได้ว่ามีงานอดิเรกที่เหมือนกับข้าอยู่หลายส่วนเลยนะ ข้าชื่นชอบแย่งชิงทักษะเซียนของผู้อื่น แต่ว่าการกระทำของเจ้าก็ไม่ไหวเลย สังหารเข้าไปซะก็สิ้นเรื่อง หากว่าเจ้าไม่มีมนต์ตราลี้ลับอันใด ขอเพียงแค่เจ้าเข้าร่วมสำนักข้า ข้าก็จะสามารถสอนให้แก่เจ้าเอง ”

 

เยี่ยจงกวาดสายตาอันเย็นเยียบมองไปยังท่ามกลางอากาศที่มีนางเซียนชิงหญิงกำลังสู้กับจื่อจุนเทียนอยู่ ไม่เอ่ยอันใดออกมา

 

กระบี่สั้นในมือของนางเซียนชิงหญิงถูกตั้งไว้ในระดับหน้าอก จ้องมองลงไปทางด้านล่าง ดวงตาทอแววประหลาดอยู่หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นกุ่ยเมียนผอผอหรือจะเป็นเต๋าหยินเฟิงยวู ในสายตาของนางก็เป็นได้แค่บุคคลไร้ประโยชน์ ด้วยสถานะพลังของพวกเขา ยังไม่อาจที่จะทำอย่างไรต่อเยี่ยจงเพียงคนเดียวได้เยี่ยจง อีกทั้งท้ายที่สุดแล้วยังต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยังทำให้แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์เสียหน้าไปไม่น้อย

 

ที่ท่ามกลางอากาศในขณะนี้คล้ายกำลังอยู่ในช่วงความคิด ชิงหญิงกลับมิได้เอ่ยปากขอน้ำใจเพื่อเต๋าหยินเฟิงยวู คล้ายกับมองไม่เห็นก็มิปาน

 

จื่อจุนเทียนถอนหายใจออกมาหนึ่งคำ เขาย่อมต้องมองออกถึงความหมายที่แฝงเอาไว้อยู่ภายในดวงตาของนางเซียนชิงหญิง เพราะว่าทุกคนโดยส่วนมากต่างก็ถือว่าเป็นเผ่ามนุษย์ด้วยกันทั้งสิ้น ทราบว่าสิ่งของใดสมควรที่จะปล่อยวางเมื่อใด

 

“ แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ถึงแม้จะถูกเรียกขานว่าเต๋าหยินอมตะ แต่ว่าความรุ่งโรจน์ก็เป็นเรื่องที่ผ่านพ้นมานานแล้ว แต่ก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว เพียงแค่ดูพวกเจ้าที่ยังไม่อาจที่จะจัดการกับเยี่ยจงเพียงคนเดียวได้ ก็ทราบได้ว่าแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ตกต่ำลงถึงเพียงไหน ชิงหญิง ตอนนี้เจ้าติดตามข้าไป ยังไม่ถือว่าสายไป ไม่เช่นนั้น เจ้าคิดว่ารอคอยจนหลังจากที่เจ้าจัดการกับเต๋าหยินเฟิงยวูแล้ว เด็กหนุ่มผู้นั้นจะปล่อยเจ้างั้นหรือ ? และหากว่าเมื่อถึงเวลานั้นพวกเราสองคนร่วมมือกัน เจ้าก็จะกลายเป็นสมบัติในตำหนักของข้าแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าก็เป็นได้เพียงแค่ของเล่นชิ้นหนึ่งเท่านั้น ดังนั้น อย่าได้ทำผิดต่อตัวเองเลยนะ ” จื่อจุนเทียนหัวเราะอย่างดุร้าย คำที่กล้าวออกมานั้นทำให้ผู้คนมากมายต้องอ้าปากตาค้าง

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด730

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset