เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 329 เป้าหมาย

ตอนที่ 329 เป้าหมาย

คำพูดนี้เมื่อได้ลอดออกไป ทั่วทั้งสี่ทิศก็ได้เกิดความเคลื่อนไหว ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนทางด้านล่างต่างก็เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้าท่ามกลางอากาศที่สูงล้ำ มีคนไม่น้อยที่ขมวดคิ้วขึ้นช้าๆ

“ ไร้ยางอาย เป็นถึงชายทั้งแท่ง ถึงกับกุมรุมหญิงสาวที่อ่อนแอเพียงคนหนึ่ง ”

มีเด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ในตอนนี้ต่างก็เอ่ยปากร่ำร้องขึ้นมาในตอนนี้ นางเซียนชิงหญิงถือได้ว่าเป็นนางในดวงใจของผู้คนไม่น้อย ไม่อาจที่จะทนต่อไปได้ จื่อจุนเทียนมีที่มาที่ไปที่ยิ่งใหญ่ เขาลงมือต่อชิงหญิงก็แล้วไป แต่ว่าในตอนนี้เยี่ยจงถึงกับร่วมมือกับเขา หมายจะกดดันชิงหญิง นี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ดีอย่างยิ่ง

“ หากว่าพวกเจ้าคนใดมีความเห็นเป็นอื่น ก็รีบลงมือเถอะ เพียงแต่ว่าหากว่าถูกข้าฆ่าสังหารไป ก็อย่าได้มาโทษข้าละ ” จื่อจุนเทียนหัวเราะเสียงเย็นเยียบ กวาดตามองไปทางด้านล่าง สีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด

เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชาคราหนึ่ง เหยียบลงบนชิ้นส่วนมายาอย่างช้าๆ ก็ได้แผ่กระจายรังสีออกมาจากร่างกาย ดูไปแล้วร่ายกาจเป็นอย่างยิ่ง

ในตอนนี้ ผู้คนทั้งหมดต่างก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารอันเย็นเยียบแผ่ออกมาจากเด็กน้อยทั้งสองคนนี้ มีเด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ไม่น้อยที่เตรียมจะเอ่ยปากขึ้นมา ในตอนนี้ต่างก็ได้แต่หุบปากลงในเวลาเดียวกัน เพราะว่าพวกเขาต่างก็กระจ่างแจ้ง หากว่าในเวลาไปรบกวนเด็กน้อยทั้งสองคนนี้แล้วละก็ คงจะเป็นเรื่องที่ไม่อยากจะคาดเดาแล้ว

“ ทั้งสองท่าน จำเป็นต้องทำเช่นนี้จริงงั้นหรือ? “ ชิงหญิงเย็นชาอย่างถึงที่สุด ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าไปมากมายเพียงเพราะว่าทั้งสองคนจะร่วมมือกัน

“ ในเวลานี้ยังจะมากล่าวเรื่องเช่นอีกแล้วละก็ นางเซียนชิงหญิงเจ้าไม่คิดว่าน่าขบขันจนเกินไปหรอกงั้นหรือ ? “ เยี่ยจงหัวเราะขึ้นช้าๆ กระบี่ดำใจกลางฝ่ามือก็ได้ขยับขึ้นช้าๆ แผ่พุ่งพลังความโกรธแค้นออกมา

“ เยี่ยจงเจ้าได้รับบาดเจ็บมาก็ไม่น้อย ยังคงฉวยโอกาสเข้าไปยังหอคอยสงครามเสียเถอะ นี้ถือเป็นโอกาสที่ยากจะพบพานในรอบพันปี หากว่าเจ้าถูกสังหารก่อนที่จะเข้าไปแล้วละก็ คงจะเป็นเรื่องน่าเสียดายอยู่ไม่น้อย “ ชิงหญิงจ้องมองเยี่ยจงไปอย่างเย็นชา จากนั้นก็อดที่อมยิ้มขึ้นมาในขณะที่เอ่ยขึ้นมิได้ รอยยิ้มของนางดุจประหนึ่งหุบเขาเขียวขจีที่ลึกยิ่ง จนทำให้ผู้คนเชื่อได้อย่างง่ายดาย

“ เอ๊ะ นางศักดิ์สิทธิ์ของแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์เริ่มที่จะเป็นห่วงข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หากว่าข้าได้รับวาสนาเพียงสายเดียวแล้ว ก็จะถือว่าไร้ผู้ต้านในทั่วสามพันลี้แล้ว เมื่อถึงเวลานั้น แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าจะยิ่งตายอย่างไม่น่าดูหรอกนะ ? “ เยี่ยจงเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งหัวเราะขึ้นช้าๆ ให้ความรู้สึกมีความมั่นใจอยู่ชนิดหนึ่ง

หลังจากที่เงียบงัน ไม่เพียงแต่แค่เหล่าสุดยอดฝีมือทางด้านที่ต่างก็เกิดความตกใจ แม้แต่จื่อจุนเทียนและนางเซียนชิงหญิง、โหยวเหลียนต่างก็มองไปทางด้าน เยี่ยจงเป็นสายตาเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าเขาย่อมคิดไม่ถึงว่า เยี่ยจงจะยังถึงกับทราบถึงที่มาของนี้ ที่แท้วาสนาเพียงสายเดียวนั้นคือสิ่งใดกัน

เพียงแต่ว่าเด็กน้อยผู้นี้น่าหวาดกลัวจนเกินไป ถ้าเป็นผู้คนทั่วไปแล้วละก็ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือการเข้าไปยังหอคอยสงครามแล้ว เพื่อที่จะแย่งชิงวาสนาค่อยว่ากันอีกครั้ง แต่ว่าเขากลับมิได้เป็นเช่นนี้ ในทางกลับกันกลับคิดที่จะต่อกรกับนางเซียนชิงหญิงต่อ ความอาจหาญชนิดนี้ ทำให้ผู้คนต่างก็รู้สึกตื่นตกใจขึ้นมา

ชิงหญิงอดที่จะหัวเราะไม่ได้ กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ เมื่อมาถึงช่วงเวลานั้น เจ้าจึงได้ทราบว่า มีแต่เพียงเข้าร่วมแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ข้า ถึงจะสามารถเปิดโลกทัศน์แห่งวิทยายุทธ์ได้ แน่นอนว่า ต่อให้เป็นช่วงเวลาในตอนนี้ แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ข้าก็ยินดีที่จะต้อนรับเจ้า “

“ งั้นหรือ ? ถ้างั้นข้าก็คงจะต้องรู้สึกขอบคุณเจ้าสักรอบแล้วละ “ เยี่ยจงหัวเราะขึ้นช้าๆ “ ทว่า ก่อนหน้านั้น ข้าจะต้องร่วมมือกับพี่จื่อจุนเพื่อเอาเจ้าลงก่อน เช่นนั้นแล้วละก็ ค่อยเข้าสู่หอคอยสงคราม ข้าถึงจะเบาใจลงได้ “

ชิงหญิงขมวดคิ้ว เมื่อคำพูดของทั้งสองฝ่ายพูดมาจนถึงตอนนี้ แต่ว่าเยี่ยจงยังคงที่จะหาเรื่องไม่หยุดไม่หย่อน เห็นได้ชัดว่าไม่มีเวลาที่จะให้ถอยไปได้แล้ว

“ น้องชิงหญิง ไม่มีประโยชน์หรอก ในครั้งนี้แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ได้หาเรื่องพี่เยี่ยจงเกินไปแล้ว วันนี้เจ้าคิดที่จะจากไป คงจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ยังคงวางมือแต่เนิ่นๆเถอะ เพื่อที่จะได้เก็บเรี่ยวแรงเอาไว้ ในเวลาเดียวกันยังสามารถมีชีวิตได้นานอีกถึงนับพันปีเชียวนะ เป็นอย่างไร ? “ จื่อจุนเทียนหัวเราะขึ้นช้าๆ ขยับร่างกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้มาจนถึงอีกทางด้านหนึ่ง ประกบพร้อมกับเยี่ยจงหนึ่งหน้าหนึ่งหลังเพื่อไม่ให้ชิงหญิงมีทางถอยไปได้

“ ดูเหมือนว่า ทั้งสองท่านในวันนี้คงจะให้ตายก็คงจะไม่ปล่อยผู้น้องไปแล้วกระมั่ง “ นางเซียนชิงหญิงถอนหายใจ “ ทว่า ทั้งสองท่านเมื่อลงมือพร้อมกัน จะสามารถเอาผู้น้องลงได้จริงงั้นหรือ ? “

“ แต่ว่า ถ้าหากเพิ่มข้ามาด้วยละ ? “ โหยวเหลียนที่ตลอดมามิได้ลงมือก็ได้เหยียบขึ้นบัวทมิฬออกมาในทันที ร่างกายก็ได้มาจนถึงอีกด้านหนึ่ง ขวางรั้งทางถอยหนีของชิงหญิง อีกทั้งใบหน้าน้อยๆของนางยังคงมีรอยยิ้มอันสดใสอยู่สายหนึ่ง แล้วก็ได้จ้องมองไปที่ชิงหญิงด้วยความสนุกสนานอยู่หลายส่วน

ยอดฝีมือมากมายต่างก็อ้าปากตาค้าง การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ก็ช่างเปลี่ยนจนรวดเร็วจนเกินไป เมื่อครู่ผู้คนทั้งหมดยังเอ่ยถึงเรื่องที่เยี่ยจงกุมรุมอยู่ เหตุใดถึงได้กลายเป็นทั้งสามคนกุมรุมนางเซียนชิงหญิงได้อย่างกะทันหันเช่นนี้ได้กัน

อีกทั้ง รวมทั้งนางเซียนชิงหญิงด้วย ท่ามกลางสนามในตอนนี้ที่ทั้งสี่คนต่างก็อยู่ในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย มีพรสวรรค์เทียบฟ้า แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบ ในตอนนี้กลับลงมือในที่แห่งนี้ การต่อสู้กันในครั้งนี้ เกรงว่าเมื่อเทียบกับการต่อสู้ของเยี่ยจงและองค์ชายสิบสาม ยังยิ่งน่าลุ้นระทึกเสียยิ่งกว่า

“ ในเมื่อนางเซียนโหยวเหลียนมีความเสนาะสนใจถึงเพียงนี้แล้วละก็ พวกเราก็อย่าได้มัวแต่เสียเวลาอยู่อีกเลย ลงมือพร้อมกันเป็นอย่างไร ? “ จื่อจุนเทียนอดที่จะหัวเราะมองไปทางด้านโหยวเหลียนมิได้ โบกมือขวาออกคราหนึ่ง ควบคุมวิชาธาตุอากาศยักษ์ขึ้นมาอีกครั้ง เป็นคนแรกที่ลงมือ

ในเวลาเดียวกัน เยี่ยจงก็ได้ร้องเชอะออกมา คมกระบี่ดำในมือก็ได้หมุนควงออกไป ปะทะเข้าสังหารออกไปอย่างรวดเร็ว

โหยวเหลียนหัวเราะออกมาดังฮิฮะ ใช้ออกด้วยพลังดัชนี ดอกบัวเดาก็ได้เปลี่ยนรูปร่างออกไป มุ่งฆ่าสังหารออกไป

ราวกับเพียงแต่ว่าผ่านไปเพียงชั่วพริบตา สุดยอดรุ่นเยาว์ทั้งสามคนก็ได้ก่อรวมพลังการโจมตีอันแข็งแกร่งออกมา ทุกๆกระบวนท่าได้รวมไว้ด้วยพลังทำลายอันมหาศาลชนิดหนึ่ง

สีหน้าของชิงหญิงเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ร่างกายที่อยู่ท่ามกลางอากาศก็ได้เหยียบย่างด้วยท่าร่างอันประหลาดออกมา กวาดกระบี่สั่นในมือพุ่งออกไป คมกระบี่พวยพุ่งออกไปเป็นสาย หยุดยั้งการโจมตีผสานของทั้งสามคนเอาไว้

“ ทุกท่าน กุ่ยเมียนผอผอและเต๋าหยินเฟิงยวูก็ได้ตายตกเบื้องหน้าข้าไปแล้ว แต่ว่านางเซียนชิงหญิงก็ยังต้องถูกข้าจับเป็นไปต่อหน้าอีก เช่นนั้นในครั้งนี้พวกเราคงจะต้องเสียหน้าไปไม่น้อยแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากว่าถูกชนชั้นรุ่นหลังทั้งสามคนกระทำสำเร็จแล้วละก็ ……” บริเวณทางด้านล่าง ก็ได้มีสุดยอดฝีมือเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา พวกเขาต่างก็หวาดเกรงเยี่ยจงและจื่อจุนเทียนอย่างไร้ที่เปรียบ คิดหมายที่จะถอยจากไป แต่ว่าถ้าหากถอยไปในตอนนี้ ก็เหมือนดั่งยอมแพ้ต่อนางเซียนชิงหญิงแล้ว ควรทราบว่า แดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์มีจุดยืนที่สูงส่งในดินแดนซีฮวงนี้ มีขุมกำลังไม่น้อยต่างก็เคยมีการไปมาหาสู่กันกับพวกเขา แน่นอนว่าย่อมไม่อาจที่จะปล่อยวาง นางเซียนชิงหญิงที่มีสถานะพิเศษเช่นนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากปล่อยให้เยี่ยจงและทั้งสามคนทำสำเร็จจริงแล้วละก็ และฝ่ายที่จะเกิดหายนะขึ้นนั้นเอง ก็คงจะต้องเป็นสุดยอดฝีมืออย่างพวกเขาเหล่านี้ไปแล้ว

“ ลงมือพร้อมกัน ”

สุดยอดฝีมือที่มาจากขุมกำลังอย่างตำหนักอัสนีลี้ลับ หมู่ตึกไร้คำนึง สำนักร้อยยุทธ์ เผ่าปีก เผ่าซือ หุบเขาจิตจันทร์ครึ่งเสี้ยว หุบเขาเทพชิงหวินเป็นต้นต่างก็หน้าเปลี่ยนสีไปอย่างช้าๆ แล้วก็ได้ก้าวออกไปในเวลาเดียวกัน ทันใดนั้นก็ได้ก่อรวมพลังการโจมตีอันน่าหวาดกลัวขึ้นมาในทันทีอยู่รอบหนึ่ง

“ พวกเฒ่าชราเหล่านี้ เมื่อครู่ไม่ได้ฆ่าสังหารพวกเขา ในตอนนี้กลับขึ้นมาหาที่ตายเอง คิดหรือว่าข้าจะไม่อาจที่จะสังหารพวกเจ้าลงได้ ? “ ท่ามกลางอากาศ เยี่ยจงก็ได้หัวเราะเย็นเยียบขึ้นมา ร่างกายของเขาก็ได้หมุนคว้างขึ้นในทันที พลิกมือซ้ายออกคราหนึ่ง ทันใดนั้นก็ได้ควบคุมไว้ด้วยฝ่ามือมังกรสีรุ้งขึ้น ก่อเกิดประกายแสงสีรุ่งขึ้นมาสายหนึ่งกดทับเข้าไปยังบริเวณทางด้านล่าง เพื่อต้านทานการโจมตีที่ปะทะเข้ามาของชายแก่ผู้หนึ่งอย่างรวดเร็ว จนทำให้เขากระอักโลหิตออกมาคำโต ทั้งยังราวกับตายลงไปในทันที

“ เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ในตอนนี้มิใช่หมดเรี่ยวแรงไปแล้วงั้นหรือ ? “

สุดยอดฝีมือมากมายต่างก็เกิดความตื่นตกใจขึ้นมา เยี่ยจงผู้นี้ก็น่าหวาดกลัวจนเกินไปแล้ว ลงมือมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ ยังถึงกับสามารถใช้ออกมาด้วยพลังทำลายที่มากมายถึงเพียงนี้ เกินกว่าที่ผู้คนทั้งหมดจะคาดคิดเอาไว้ได้

“ เจ้าเด็กน้อย ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะฝืนได้อีกนานได้ถึงไหนกัน ตะเกียงย่อมมีวันที่ดับมอด “ มีชายชราเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา ราวกับกำลังปลอบใจตัวเอง ทั้งยังเป็นการข่มขู่เยี่ยจง

“ น่าเสียดาย พวกเจ้าคงรอไม่ถึงชั่วเวลานั้นหรอก ” เยี่ยจงหัวเราะพร้อมทั้งเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา มือซ้ายเปลี่ยนแปลงรอยตราคราหนึ่ง ในครั้งนี้ก็ได้ปรากฏแขนกิเลนขึ้นมา มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารไปยังบริเวณของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“ อา——”

ชายชราที่เอ่ยเย้ยหยันขึ้นมาในครั้งนี้ก็ได้ตกกลายมาเป็นเป้าหมายการโจมตีของเยี่ยจง เขาก็ได้กระอักโลหิตออกมาพร้อมทั้งถอยกายออกไป ถึงแม้ว่าจะอยู่ในระดับพลังของขั้นก่อเกิดก็ตาม ความแข็งแกร่งของเยี่ยจงย่อมถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายอย่างแน่นอน พวกเขาเหล่านี้ตามปกติต่างก็ถือได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมืออันสูงส่งของแต่ละขุมกำลัง ยังไม่อาจที่จะเป็นคู่ต่อสู้ให้ได้

“ ซวบ——”

หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บกันสองคนติดต่อกัน เยี่ยจงก็ได้สะบัดกระบี่ดำในมือคราหนึ่ง ก่อเกิดคมกระบี่ขนาดใหญ่กวาดออกมาสายหนึ่ง แล้วก็ได้ยินเสียง” ตูม” ดังขึ้นมา ชายชราทั้งสองยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน ก็ได้ถูกเยี่ยจงสับฆ่าสังหารลง เนื้อบนร่างกายก็ได้แตกกระจายอยู่ท่ามกลางอากาศ

หลังจากที่ได้ใช้กระบี่สังหารสุดยอดฝีมือทั้งสองไปแล้ว เยี่ยจงพลิกกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้เสือกแทงกระบี่ออกไป ประจวบกับที่การโจมตีของจื่อจุนเทียน โหยวเหลียนทั้งสองคนเพื่อก่อรวมการโจมตีผสานเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะกดดันชิงหญิงที่อยู่ท่ามกลางอากาศต้องถอยรนไปทีละก้าว

“ อะไรกัน เป็นไปได้อย่างไรกัน ? “

มีสุดยอดฝีมือไม่น้อยที่ต่างก็หลุดปากกล่าวออกมา เด็กน้อยผู้นี้มีความน่าหวาดกลัวจนเกินไป ในขณะที่ได้ลงมือฆ่าสังหารสุดยอดฝีมือเหล่านี้ ในเวลาเดียวกันนั้น ยังถึงกับสามารถที่จะออกกระบวนท่าลงมือต่อชิงหญิงได้อีก เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดเดาของผู้คนจนเกินไปแล้ว เขาสามารถที่จะแบ่งสมาธิเฉกเช่นนี้ได้อย่างชัดเจนได้อย่างไรกัน

นับตั้งแต่ครั้งที่เริ่มลงมือ สุดยอดฝีมือก็ได้ตายตกภายใต้น้ำมือของเยี่ยจงไปแล้วทั้งหมดถึงหกคน ถ้าเกิดเรื่องนี้ได้ถูกแผ่กระจายออกไปแล้วละก็ แน่นอนว่าจะสามารถสั่นสะเทือนดินแดนซีฮวงแห่งนี้ได้ ควรทราบว่า สุดยอดฝีมือเหล่านี้ถือได้ว่ายืนอยู่ในจุดสูงสุดของแต่ละขุมกำลัง สามารถจัดการได้คนหนึ่ง ตามปกติก็ยากที่จะพบได้แล้ว แต่ว่าในวันนี้กลับสามารถฆ่าสังหารไปได้ถึงทั้งหมดหกคน เรียกได้ว่ายากที่จะคาดเดาผลลัพธ์ไปได้แล้ว

และในขณะนี้เอง สุดยอดฝีมือเหล่านั้นที่ต่างก็ร้องว่าจะสังหารเยี่ยจงลงเมื่อครู่นี้ ในตอนนี้แต่ละคนต่างก็รู้สึกได้ว่าเท้าของตนเองถูกตัดลง เยี่ยจงผู้นี้ถือได้ว่าน่ากลัวจนเกินไปแล้ว เกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้

“ ยังไม่พอเลยนะ หากว่าฆ่าสังหารผู้คนไปอีกสักสองคน สมควรที่จะเกือบจะได้แล้วละ “ จื่อจุนเทียนที่คอยลงมือต่อนางเซียนชิงหญิงมาโดยตลอดก็ได้หันกายไปอย่างกะทันหัน ในขณะที่ผู้คนทั้งหมดยังไม่ทันจะทราบได้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เกิดอะไรกันขึ้น เขาก็ได้โบกมือขึ้นคราหนึ่ง แล้วก็ได้พบเห็นว่าภายในแขนเสื้อของเขา ทันใดนั้นก็ได้มีคมแสงสีขาวพวยพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน

“ ซวบซวบ——”

เสียงขนาดใหญ่ดังขึ้นมา สุดยอดฝีมือทั้งสองที่มีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน ก็ได้ถูกสังหารลงไปในทันที โลหิตโชมกายไปทั่วร่าง

“ แค่นี้ น่าจะพอแล้วละ “ จื่อจุนเทียนเหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า เผยให้เห็นหัวเราะขึ้นช้าๆ

“ เด็กน้อยผู้นี้……”

ทันใดนั้นสีหน้าของเยี่ยจงก็ได้เปลี่ยนไป ร่างกายก็ได้ตัดสินใจที่จะถอยไปบริเวณทางด้านหลังไปอย่าง การกระทำของจื่อจุนเทียนผู้นี้ก็ช่างน่าแปลกจนเกินไปแล้ว ทำให้เขาคาดเดาไม่ออกเลยแม้แต่น้อย

และในเวลาเดียวกัน โหยวเหลียนและนางเซียนชิงหญิงทั้งสองคนต่างก็ได้ขมวดคิ้ว ถอยไปอย่างรวดเร็ว เพราะว่าฉากเบื้องหน้าเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน พวกเขาต่างก็ไม่อาจที่จะเตรียมตัวได้ทัน

และในเวลาเดียวกันนี้ จิตแห่งหอคอยสงครามที่ความจริงสีหน้าไม่เปลี่ยน ทันใดนั้นก็ได้เงยหน้าขึ้นมา เอ่ยเสียงเย็นชาขึ้นมา “ จำนวนถือว่าครบแล้ว เจ้ายินยันที่จะปฏิบัติการนัดพบหรือไม่ ? “

“ ไม่เลว นี้ถือได้ว่าเป็นเป้าหมายในครั้งนี้ของข้าที่เข้ามายังสมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เชิญจิตแห่งหอคอยสงคราม ปฏิบัติการนัดพบเถอะ “ จื่อจุนเทียนหัวเราะเสียงเบา เหม่อมองไปยังบริเวณที่สูง สีหน้าประหลาดยากคาดเดา

“ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เงื่อนไขถือได้ว่าสมบูรณ์แล้ว ทางด้านหอคอยสงคราม สลายได้ ——”

ในชั่วขณะที่เอ่ยขึ้นมาจนถึงคำสุดท้าย ก็ได้พบว่าร่างกายของจิตแห่งหอคอยสงครามก็ได้แตกสลายลงไปในขณะนี้ จากนั้นทางด้านหอคอยสงคราม ในตอนนี้ก็ได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นสาย จนผู้คนนับไม่ถ้วนต่างก็มองเข้าไป ก็เริ่มต้นของการแตกสลาย

ในขณะนี้เอง ผู้คนทั้งหมดต่างก็เปลี่ยนเป็นโง่งมไปตามๆกัน

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด730

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/