เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 332 บันไดสัจธรรม

ตอนที่ 332 บันไดสัจธรรม

 

 

อารามหลักสูงใหญ่เป็นตระหง่านโดดเด่น เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศความโบราณและความเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางอากาศ ก็ได้มีเสียงบทสวดกระจายออกมา ท่ามกลางประกายแสงสีทอง ก็ได้มีตัวอักขระอยู่นับไม่ถ้วน อักขระเหล่านี้ทุกๆตัวก็จะมีเสน่ห์อันน่าหลงใหลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยลี้ลับมหัศจรรย์ชนิดหนึ่ง ทำให้ผู้คนไม่อาจที่จะละสายตาได้ เหมือนดั่งหลุดเข้าไปภายใน ไม่อาจเป็นตัวของตัวเอง

 

“ อย่าได้ ! “

 

โหยวเหลียนร้องเสียงหลงขึ้นมาอย่างกะทันหัน จนเยี่ยจงได้สติด้วยความตกใจและเข้าใจในสิ่งที่ดูอยู่ ในเวลาเดียวกันก็ได้ตอบกลับไปเสียงแผ่วเบา: “ สถานการณ์ในตอนนี้เป็นกรณีพิเศษ หากว่าเข้าใจทั้งหมดของสิ่งเหล่านี้ ทะลวงพ้นผ่านขอบเขตขั้นก่อเกิด เข้าสู่วิทยายุทธ์พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตจิตแล้วละก็ ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดีนัก “

 

หลังจากที่เงียบงัน เยี่ยจงหวาดหวั่นขึ้นมา จากนั้นก็ได้พยักหน้าเห็นด้วยอย่างช้าๆ สิ่งที่สำคัญที่ต้องทำที่สุดในเวลานี้ หากว่าทะลวงไปเช่นนี้จริงแล้วละก็ ตนเองที่ไม่อาจจะควบคุมพลังเอาไว้ได้ มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะทำให้ตนเองตกอยู่ในสภาพที่ลำบาก ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วละก็ก็คงจะเคลื่อนไหวได้ยาก หรือไม่แน่ก็อาจจะตายลงได้

 

ดังนั้นในตอนนี้ เยี่ยจงจึงได้ค่อยๆสูดลมหายใจเข้าคำหนึ่ง ได้แต่ฝืนมองไปยังท่ามกลางอากาศคราหนึ่ง จนจดจำอักขระเหล่านี้เอาไว้ในห้วงสมองของตนเอง แต่ย่อมแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่ก็คิดหาความลับแต่อย่างไร。

 

นี้คือหนึ่งในสิ่งที่ยากจะพบพานในที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ ยังดีที่เยี่ยจงมีจิตใจที่มั่นคง จึงมิได้ดำดิ่งลงไปสู่ภายใน ส่วนโหยวเหลียนยิ่งแล้วใหญ่ นางไม่แม้แต่จะมองดูซักตัวอักษรเหล่านี้เลย เพียงแต่จ้องมองไปยังแท่นบันไดสีทอง ขมวดคิ้วช้าๆ

 

ด้านหน้าอารามหลักที่มีความใหญ่โตเช่นนี้ ดุจดั่งมีเหล็กเหลืองทองคำสร้างเป็นแท่นบันไดก็มิปาน ด้านบนแท่นบันได ปกคลุมไปด้วยภาพวาดมังกรหงสา และยังมีภาพวาดสัตว์โบราณอยู่ส่วนหนึ่งที่เยี่ยจงไม่รู้จักหรือพบเห็นมาก่อน เห็นได้ชัดถึงความแปลกอย่างถึงที่สุด。

 

และแท่นบันไดเหล่านี้ทั้งสูงทั้งใหญ่เป็นอย่างยิ่ง หากมองดูอย่างละเอียดแล้วละก็ จะมีพอดีทั้งหมดเก้าพันเก้าร้อยแปดสิบเอ็ดขั้น บรรจบเข้ากับอารามหลักก่อนหน้า

 

“ ทำยังไงดี ? “ หลังจากนั้นเองก็ได้จ้องเขม็งไปที่แท่นบันได โหยวเหลียนขมวดคิ้ว。

 

“ ยังจะทำยังไงได้อีก คงได้แต่ไปต่อแล้ว หากว่าเห็นว่าไม่ถูกต้อง อย่างแรกที่ต้องทำก็คือถอยออกไป “ เยี่ยจงครุ่นคิดไคร่ครวญในทันที ตอนนี้ทำได้เพียงแค่เดินไปพลางดูไปพลาง กล่าวกันตามเหตุผลแล้ว อารามหลักนี้สมควรที่จะเป็นอารามเทพฮวงกู่ รวมทั้งยังถือได้ว่าเป็นส่วนที่มีความสำคัญมากที่สุดภายในสมรภูมิฮวงกู่นี้ทั้งหมดทั้งมวลอีกด้วย นอกจากการเดินไปพลางดูไปพลางแล้ว คงจะไม่มีวิธีอื่นใดที่ดีไปกว่านี้แล้ว。

 

“ ข้าลองก่อนก็แล้วกัน。 “ หลังจากที่โหยวเหลียนครุ่นคิดแล้ว นางก็ได้โบกมือขึ้น แล้วก็ได้พบเห็นดอกบัวสีดำกำลังครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของนางจากนั้นนางก็ได้ยกเท้าขึ้นมาอย่างระมัดระวังอย่างยิ่ง ก้าวออกไปหนึ่งก้าว。

 

“ ตูม —— “

 

ในตอนที่โหยวเหลียนเหยียบลงไปที่ด้านบนขั้นแรกของแท่นบันไดอย่างกะทันหัน พริบตานั้น อักขระสีทองก็ได้พุ่งขึ้นไปยังบนฟ้า ราวกับปกคลุมไปทั่วด้วยแสงสีทองก็มิปาน ผ่านพ้นทั่วทั้งร่างกายบนล่างของนาง。

 

“ นี้คือ…… “ เยี่ยจงกำลังเตรียมลงมือ แต่ว่าโหยวเหลียนกลับส่ายหัวขึ้นมาอย่างช้าๆ เพื่อเป็นการเตือนเยี่ยจงว่าอย่าได้ทำ

 

บนใบหน้าของเยี่ยจงได้เผยให้เห็นถึงความสงสัย แต่ว่าเขาในเมื่อไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วไป ในขณะที่กำลังลังเลก็ได้ก้าวออกไปหนึ่งก้าว จากนั้นก็ได้ขึ้นไปยังแท่นบันไดขั้นที่หนึ่ง。

 

อักขระสีทองก็ได้ปะทุรูปร่างปกคลุมไปทั่ว แล้วก็ได้เกิดเสียงที่ยากจะจับใจความได้ดังสะท้อนเข้ามาในหูเยี่ยจง นี้ราวกับมิใช่เป็นทั้งทักษะเซียนหรือมนต์ตราเทพแต่อย่างไร เพียงแต่เป็นเสียงที่ดูแล้วมีความเก่าแก่ กำลังอธิบายพื้นฐานระหว่างฟ้าดินอยู่

 

ในกำลังจะกล่าวถึงกฎแห่งมวลมนุษย์ กฎแห่งพิภพ กฎแห่งฟ้า กฎแห่งกรรมในตัวของมันเอง ที่ทอดมองไปยังผืนฟ้า และการดำเนินของวัฐจักร ที่เป็นดั่งมูลฐานธรรมะ

 

ในระหว่างนั้นเยี่ยจงก็ได้เข้าใจได้ในทันที ทว่าเขาก็ไม่ทราบว่าเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องหรือไม่ ช่วงขณะนั้นก็ได้ตัดสินใจออกไป ทันใดนั้นเอง เขาก็ได้ก้าวเดินเข้าไปบนแท่นบันได ยิ่งเพิ่มพูนความชัดเจนของเสียงเก่าแก่นี้ยิ่งขึ้น เหมือนดั่งกำลังเทศนากฏแห่งกรรมให้เขาต่อก็มิปาน

 

บริเวณทางด้านหลัง ไม่นานนักโหยวเหลียนก็ติดตามมาได้ทัน ทั้งสองคนในตอนนี้ก็ได้ส่งสัญญาณให้แก่กัน จากนั้นก็ได้หยุดลงอยู่ด้านบนหนึ่งในขั้นแท่นบันได ในช่วงที่ได้เหยียบลงบนแท่นบันได อักขระสีทองทั้งมวลก็ได้พุ่งขึ้นมารอบกาย และตนเองก็ได้ยินเสียงคำสวดขึ้นมา

 

“ นี้คือ บันไดสัจธรรมในตำนาน ! ? “

 

ทางด้านหลัง ยอดฝีมืออย่างจื่อเทียนจุนกลับมาถึงช้ากว่า ในเวลาที่พบเห็นเงาร่างเยี่ยจงและโหยวเหลียนทั้งสอง ผู้คนทั้งหมดต่างก็เกิดความสงสัยขึ้น 。

 

บันไดสัจธรรมในตำนาน เพื่อที่จะสามารถเข้ารับฟังการเทศนาจากบันได มีผู้คนมากมายต่างก็ตามหาตำนานนี้ แต่ว่าก็คิดไม่ถึง ตอนนี้ถึงกับสามารถพบเห็นได้จริง。

 

แน่นอนว่า บันไดสัจธรรมสายนี้สมควรที่จะเป็นตำนานสายทางนั้นแล้ว เพราะว่าทางสายนั้น กล่าวกันว่ามียอดฝีมือสูงสุดยังไม่อาจที่จะขึ้นไปได้ แต่ว่าในตอนนี้เยี่ยจงและโหยวเหลียนกลับสามารถขึ้นไปด้านบนได้ เห็นได้ชัดว่า บันไดสัจธรรมสายนี้คงจะต้องเป็นยอดฝีมือสูงสุดแห่งสมรภูมิฮวงกู่สร้างขึ้นมา แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็ยังถือได้ว่าได้รับประโยชน์ครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้

 

อีกทั้งยอดฝีมือสูงสุดก่อนหน้านี้ อย่าร้อยก็คงจะตั้งตารอคอยบันไดสัจธรรมสามารถเกิดผลอันใดได้ อีกทั้งยังสมควรที่จะเป็นการหลงเหลือให้แก่ชนชั้นรุ่นหลังของพวกเขา ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ทำการปลูกสร้างบันไดสัจธรรมนี้อย่างแน่นอน

 

“ วาสนาที่ไม่อาจผิดพลาดไปได้ นี้นอกจากจะเป็นมูลฐานธรรมะแล้ว เมื่อได้เข้ามายังหอคอยสงคราม ก็สามารถที่จะได้ยินความสวดนี้มาจากที่ห่างไกลได้แล้ว “ จื่อเทียนจุนเอ่ยปากขึ้นมา ถึงแม้จะเป็นเพียงการคาดเดา แต่ว่าจากเท่าที่เขาทราบ ความคาดเดาเช่นนี้ก็มีส่วนที่เป็นจริงอยู่ไม่น้อย。

 

“ ตูม —— “

 

ทันใดนั้นเอง จื่อเทียนจุนก้าวออกไปหนึ่งก้าว ร่างกายก็ได้มาจนถึงด้านบนบันไดขั้นที่หนึ่งแท่นบันได ต่อให้มีความบ้าบิ่นเยี่ยงเขา ตอนนี้ก็ได้เริ่มจดจ่อกับการฟังเสียง สัมผัสรับรู้อย่างตั้งใจ。

 

“ ตูมตูมตูม—— “

 

ไม่นานนัก นางเซียนชิงหญิง、เสวียนเฮ่า、ยังมีผู้มีพรสวรรค์ของแต่ละฝ่าย、สุดยอดฝีมือต่างก็ได้มาถึงยังแท่นบันไดขนาดใหญ่นี้ในเวลาเดียวกัน เริ่มต้นที่จะสนทนากัน 。

 

นับตั้งแต่เริ่มต้นปีนขึ้นสู่แท่นบันได สีหน้าของทุกๆคนก็ได้เผยออกมาให้เห็นถึงสีหน้าที่ประหลาดออกมา นั้นก็เพราะว่าหากพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องการฝึกปรือ ต่างก็มีความเข้าใจได้ชนิดหนึ่ง ยอดฝีมือที่ยังมิได้เข้าถึงพลังในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายอยู่ไม่น้อย ทั่วทั้งร่างกายก็เริ่มที่จะปรากฏแสงสีทองขึ้นมา

 

“ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ๆจะเข้าก็เข้ามาได้ง่ายๆอย่างงั้นหรือ ? ไสหัวไป ! “ พริบตานั้นจื่อเทียนจุนก็ลืมตาขึ้น โบกมือขวาออกไปคราหนึ่ง ประกายแสงอากาศธาตุสายหนึ่งก็ได้กวาดออกไป จนทำให้ยอดฝีมือสองคนกระเด็นลอยออกไป。

 

ตามการลงมือของเขา ยอดฝีมือคนอื่นๆก็ได้มีปฏิกิริยากลับมา ในช่วงเวลาเช่นนี้ย่อมไม่อาจที่จะให้ศัตรูคนใดของตนเองผ่านไปได้ เพราะว่าถ้าหากพวกเขากลายเป็นแข็งแกร่งขึ้น เช่นนั้นในช่วงเวลาที่เกิดการแย่งชิงในครั้งสุดท้ายภายในอารามหลัก เกรงว่าคงจะต้องยุ่งยากขึ้นมาแล้ว

 

“ จื่อเทียนจุน สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ที่ที่สำหรับเจ้าแต่เพียงผู้เดียว อย่าได้จองหองเกินไปนัก! “ ก็ได้มีชายหนุ่มผมทองร้องชิออกมาอย่างเยียบเย็น ฟาดมือขวาออก ต้านทานการโจมตีของจื่อเทียนจุน บริเวณทางด้านหลังของเขาก็ได้ปรากฏหอกนับสิบเล่มขึ้นมา เสือกแทงออกไปในเวลาเดียวกัน หมายจะทำให้จื่อเทียนจุนกลายเป็นก้อนเนื้อแหลกเหลว。

 

“ สำนักร้อยยุทธ์ ซื่อคงเกาก้านเสียน คิดว่าเจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้อย่างงั้นหรือ ! “ จื่อเทียนจุนหัวเราะเสียงดัง พลิกทั้งสองมือฟาดออกไป บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้จัดวางด้วยพลังไม่สูญสลายเอาไว้ ทันใดนั้นก็ได้เข้าปะทะกับซื่อคงเกาก้านเสียนในทันทีทันใด

 

เพียงแค่ว่าในช่วงพริบตานั้น ซื่อคงเกาก้านเสียนก็ได้กระอักโลหิตถอยหลังออกไป แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ถอนรนลงไป แล้วก็ได้กลับขึ้นไปยังแท่นบันไดแห่งหนึ่ง

 

“ เจ้าหาที่ตาย ! “ จื่อเทียนจุนหัวเราะเย็นเยียบ พลิกมือทั้งสองข้างพุ่งออกติดต่อกัน พริบตานั้นทั้งสองคนก็ได้เข้าปะทะเข้าด้วยกัน。

 

อีกทางด้านหนึ่ง นางเซียนชิงหญิงก็ได้ขยับกายคราหนึ่ง ใช้ออกด้วยกระบี่สั่นเข้าต่อสู้กับจื่อเทียนจุนพร้อมกับสี่ขุนพลใหญ่ในเวลาเดียวกัน จนก่อเกิดประกายแสงโลหิตออกมาอย่างหนักหน่วง

 

“ ตูมตูม—— “

 

สุดยอดฝีมือส่วนหนึ่งที่สวมไว้ด้วยชุดสีดำในตอนนี้ก็ได้เกิดความยินดีพร้อมทั้งเข้าปะทะสังหารเข้าไป พวกเขาในตอนนี้คิดที่จะใช้ออกด้วยพลังทั้งหมดในการสังหารเหล่ารุ่นเยาว์ เพียงแต่ว่าด้วยเพียงพลังของตนเอง ก็คิดที่จะสังหารพวกเขา เพราะว่าเหล่ารุ่นเยาว์ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ต่างก็เป็นบุคคลที่อันดับหนึ่งในรุ่นของแต่ละขุมกำลังใหญ่โดนทั้งสิ้น ถ้าหากฆ่าสังหารลงในสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าขุมกำลังใดต่างก็คงต้องเจ็บปวดอย่างไร้ที่เปรียบ คงมิอาจที่จะใช้เวลาในช่วงสั่นๆในการสร้างบุคคลเช่นนี้ออกมาได้อีก

 

“ ซวบ —— “

 

บริเวณทางด้านหลังของเยี่ยจง หอกแหลมคมก็ได้พวยพุ่งออกมา เสวียนเฮ่าสวมไว้ด้วยชุดสีเงินสาดประกายสว่างไสวตลอดทั้งร่าง หอกยาวสีฟ้าในมือก็ได้เสือกแทงเข้ามาท่ามกลางอากาศ พวยพุ่งออกมาไม่หยุด

 

เยี่ยจงแปรเปลี่ยนรอยตราของทั้งสองมือ แขนทั้งสองก็ได้กลายเป็นแขนกิเลนในเวลาเดียวกัน แล้วก็ได้ใช้ออกด้วยแขนทั้งสองข้างเข้าโจมตีในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้เหยียบขึ้นไปแท่นบันไดอยู่เหนือกว่าเสวียนเฮ่าอยู่หลายขั้น ยิ่งเข้าใจลึกซึ้งกว่าเดิม เพราะในตอนนี้ในช่วงเวลาที่แขนกิเลนคู่นี้เข้าปะทะสังหารออกไป ก็ได้มีพลังแห่งกิเลยสวรรค์ที่แท้จริงรวมอยู่ด้วยหลายส่วน ทำให้เกิดความน่าหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด จนทำให้ผู้คนรู้สึกตื่นตกใจ。

 

“ ฮูม —— “

 

การโจมตีของทั้งสองฝ่ายได้เข้าปะทะกัน วินาทีนั้นเอง ก็ได้ก่อเกิดสายลมพายุอันบ้าคลั่งเสียงดังพวยพุ่งดังลอดออกมา ราชันอัสนีหนึ่งในสี่ราชันเผ่ามนุษย์ผู้นี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีการลดลาวาศอกมาโดยตลอด เขาถึงแม้ว่าตลอดมานี้จะไม่ค่อยพูดจาอะไร แต่ว่าเขาถึงกับสามารถจัดการกับแขนกิเลนของเยี่ยจงได้ จึงเป็นที่ชัดเจนว่าเขาก็ต้องอยู่ในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้ว。

 

“ เคร้งเคร้งเคร้ง—— “

 

ทั้งสองคนก็ได้เข้าปะทะกันในทันทีนับสิบครั้ง แต่ว่าเสวียนเฮ่าในตอนนี้กลับมิได้มีความรู้ความเข้าใจได้ลึกซึ้งเท่าเยี่ยจงไม่ และเยี่ยจงอย่างน้อยก็ยังคงกำลังฟังเสียงที่มาจากบทสวดแห่งมูลฐานอยู่ ดังนั้นสมาธิกว่าครึ่งจึงยังคงฟังเสียงที่มาจากบทสวดมูลฐาน ดังนั้นหลังจากการปะทะผ่านไปได้สิบกว่ากระบวนท่า ทั้งสองฝ่ายก็ยังคงมิได้ปรากฏผลแพ้ชนะออกมา

 

“ โครม —— “ เสียงดังขึ้นมา ท้ายที่สุด เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายขยับร่างกายคราหนึ่ง ตัดสินใจที่จะทะยานขึ้นแท่นบันไดก่อน และพุ่งผ่านร่างของเสวียนเฮ่าไป ในครั้งนี้ ไหล่ขวาของเสวียนเฮ่าก็ได้มีโลหิตไหลออกมาจากบาดแผล สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป พริบตานั้นก็ได้ถอยไปอย่างรวดเร็ว การปีนป่ายก็ได้เกิดขึ้นที่อีกทางด้านหนึ่งของบันไดสัจธรรม。

 

เยี่ยจงทอปนะกายตาเย็นเยียบ ไม่ได้ติดตามไล่ฆ่าสังหาร เพียงแต่หันกายกลับไปยังแท่นศิลาที่เมื่อครู่ตนเองอยู่ ในตอนนี้การประมือกับคนอื่นๆนั้นมิได้ก่อให้เกิดความหมายอันใดขึ้นมา จะมีก็แต่เข้าไปยังอารามหลักให้เร็วเท่านั้น จึงจะสามารถพบกับคำตอบที่ชัดเจนได้。แต่ว่ากลับไม่ง่ายดาย เพราะว่า ทุกๆชั้นของขั้นแท่นบันไดก็ย่อมมีแรงกดดันมากขึ้น ทั้งยังมากขึ้นกว่าขั้นก่อนเป็นเท่าทวี ทั้งยังยิ่งเพิ่มความชัดเจนของเสียงสวดมูลฐานธรรมะ หลังจากนั้นก็ได้เข้าใจได้หลายส่วน จึงได้สามารถปีนขึ้นไปต่อ ดังนั้นด้วยสภาพการณ์เช่นนี้จึงต้องระวังให้มากเป็นพิเศษ

 

“ ตูม —— “

 

บริเวณทางด้านล่าง หญิงสาวใบหน้าเย็นชาผู้หนึ่งที่สวมไว้ด้วยชุดคลุมสีดำพริบตานั้นก็ได้ยกมือขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็ได้พบคมกระบี่สีมุ่งหน้ามาทางด้านของเยี่ยจงเข้าไปเป็นสาย。

 

“ โครม —— “

 

เยี่ยจงฟาดออกทั้งสองมือ ต้านทานคมกระบี่ ดวงตาก็ได้ค่อยๆหรี่ลง: “ เผ่าซื่อ! “

 

จนถึงตอนนี้เขาก็พึ่งจะสามารถเข้าใจได้ หลังจากที่มาถึงยังสถานที่แห่งนี้แล้ว เหล่าขุมกำลังที่ได้ถูกจื่อเทียนจุนกดขี่ไว้ก่อนหน้า ก็ได้เริ่มที่จะเข้าขัดขวางตนเองมิให้ขึ้นไปสู่บันไดสัจธรรม เพราะว่าคนเหล่านี้คงไม่อาจที่จะให้ตนเองได้ประโยชน์ไปอย่างหน้าตาเฉยแน่นอน。

 

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ ภายในดวงตาของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าฟัน ความจริงแล้วเขาเตรียมที่จะไปจัดการขุมกำลังเหล่านี้ในภายหลัง แต่ว่าคนเหล่านี้ถึงกับหาญกล้าที่จะมาหาเรื่องกับตนเองก่อนเช่นนี้ ก็เหมือนกับมาหาที่ตายเองแล้ว

 

“ โครม —— “

 

เยี่ยจงขยับร่างกายคราหนึ่ง ในครั้งนี้ก็ได้ใช้ออกด้วยตราผนึกนภา พริบตาที่เด็กสาวชุดดำมีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน ก็ได้ตกอยู่ภายใต้วงล้อมผนึกท่ามกลางอากาศ จากนั้นก็ได้ยื่นมือขวาออกเยี่ยจง แล้วก็ได้มีบาดแผลปรากฏขึ้นมาที่หว่างคิ้วของนาง เด็กสาวแสดงสีหน้าที่ยากจะเชื่อได้ลง เดินเซล้มลงไปบนพื้น เห็นได้ชัดว่านางเองก็คิดไม่ถึง ว่าเยี่ยจงถึงกับดุร้ายถึงเพียงนี้ ไม่มีความคิดที่รักถนอมบุษผาเลยแม้แต่น้อย。

 

“ โครม —— โครม —— “

 

ลงมือติดต่อกัน ไม่นานนัก เยี่ยจงก็ได้สังหารอัจฉริยะรุ่นเยาว์ที่พุ่งเข้ามาหาตนเองทั้งสามสี่คนนี้ ในที่สุดรอบด้านก็ได้ตกอยู่ในความเงียบลงหลายส่วน เขาขยับถอยกายไปคราหนึ่ง มุ่งหน้าขึ้นไปยังบันไดสัจธรรมอย่างรวดเร็ว

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด745

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset