เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 339 ฉากที่สิ้นสุด

ตอนที่ 339 ฉากที่สิ้นสุด

 

 

“ตุบ——”

 

ฝ่าเท้าได้เหยียบลงบนก้อนศิลาขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง เด็กหนุ่มที่สวมไว้ด้วยชุดสีขาว ท่าทางเป็นสง่าอย่างถึงที่สุด เขาหันหน้ากลับไปมองทางด้านหลังคราหนึ่ง ในตอนนี้ก็ได้อยู่ในตำแหน่งที่เป็นเหมือนดั่งส่วนลึกของป่าเขาสายหนึ่ง ระยะทางห่างจากอารามเทพสูงสุดนั้น ถือได้ว่าไกลจนสุดลูกหูลูกตา เห็นได้ชัดว่า แท้จริงแล้วคนผู้นี้ก็คือเยี่ยจงนั้นเอง

 

วิชาดำดินรุกคืบนี้ถือได้ว่าเป็นวิชามนต์ตราเทพที่มีความเร็วในระดับที่สูงที่สุด อีกทั้งยังยากที่จะใช้วิชาอื่นมาเทียบเคียงระดับความเร็วเอาไว้ได้ ในขณะที่ได้หยุดลง เยี่ยจงก็เชื่อมั่นว่าไม่มีใครสามารถไล่ตามมาได้อีกแล้ว

 

“เสี่ยวหลุน,เอาของมาให้ข้า。”หลังจากที่ได้ค่อยๆนั่งลงไปยังด้านบนของก้อนศิลาขนาดใหญ่นี้ เยี่ยจงก็ได้เอ่ยขึ้นมาเสียงเบาๆ

 

“เจ้าถึงกับหลบหนีมา ในครั้งนี้ถือว่าข้าขาดทุนยับแล้ว ! ”เสี่ยวหลุนอวดครวญ,แต่ว่าก็ยังคงคาย คัมภีร์กฎแห่งสวรรค์นั้นออกมา。

 

เยี่ยจงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา:“เจ้าวางไว้เถอะ ในเมื่อข้าสัญญาแล้วว่าจะแย่งชิงสมุดเงินอ่อนมาให้เจ้า เช่นนั้นไม่ว่าสิ่งของนั้นจะตกไปอยู่ในมือของผู้ใด ข้าก็จะไปทวงคืนกลับมาให้อย่างแน่นอน ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง,เยี่ยจงก็ถือคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์เอาไว้ มองดูเข้าไปอย่างระมัดระวัง

 

“ บรึม——”

 

เพียงแค่มองเข้าไปในขณะนี้ ทันใดนั้นเยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง

 

เมื่อครู่ในตอนที่อยู่ภายในอารามเทพยังไม่ได้ตรวจสอบพบ แต่ว่าในตอนนี้เมื่อทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ก็ได้พบกับรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ชัดเจนแทบจะลึกเข้าไปภายในของกระดูกส่องสว่างเป็นประกายขึ้นมา ถึงแม้จะไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่ว่าก็ถือว่าลี้ลับอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่ามีอักขระมากน้อยเท่าไรไหลเวียนเอาไว้อยู่ ในช่วงคับขัน กลับสามารถได้ยินเสียงที่คล้ายดั่งเสียงเพลงดังลอดขึ้นมา จนแทบจะทำให้จิตใจของผู้คนกระเด็นกระดอนออกมา

 

ต่อให้เป็นพลังฝีมือของเยี่ยจงในตอนนี้ ที่มีพลังขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ก็ยังคงต้องกระอักโลหิตออกมาในทันที นั้นก็เพราะว่าภายในสิ่งของนี้มีความลึกซึ้งมากจนเกินไป ด้วยสภาพการณ์ของเขาในตอนนี้ คงได้แต่ฝืนใจดูมันต่อไปก่อน

 

“สหายน้อย,เดี๋ยวก่อน ถึงแม้ว่าเจ้าจะอยู่ในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ที่เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานมาให้ แต่ว่ายังไม่ได้เข้าสู่ขั้นก่อฟ้า เจ้าก็ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะจับต้องคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์นี้ได้ ” ในช่วงเวลานี้เอง ก็ได้มีน้ำเสียงทุ่มต่ำดังขึ้นมาที่ข้างหูของเยี่ยจง ดุจดั่งสายฟ้าฟาดฟันลงมาก็มิปาน

 

ต่อให้เป็นเยี่ยจงที่มีพลังใจในตอนนี้ ก็ยังต้องกระโดดลุกขึ้นมาอย่างตกใจ เขาพลิกคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ในมือเก็บกลับไป หันกายไปอย่างรวดเร็ว จ้องมองไปยังบริเวณทางด้านหลังในตอนนี้ สีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นปั้นยากเต็มสิบ

 

ตอนนี้ ก็ได้มีเงาร่างที่ทั่วทั้งร่างกายปกคลุมไว้ด้วยเส้นขนสีทองอร่ามไพล่มืออยู่ที่ด้านหลังลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ ที่แท้นี้ก็คือร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลนั้นเอง มันที่เดินอยู่ท่ามกลางอากาศอย่างช้าๆ ถึงแม้จะไม่ได้มีพลังที่เทียบเท่าเหมือนกับวิชาดำดินรุกคืบของเยี่ยจง แต่ว่าด้วยระดับความเร็วที่สูงล้ำเช่นนี้ ไม่นานก็ได้มาจนถึงบริเวณทางด้านหน้าของเยี่ยจง

 

เยี่ยจงกรอกนัยน์ตาไปมา กล่าวตามตรง เมื่อครู่ในท่ามกลางผู้คนมากมายในอารามฮวงกู่นั้น สุดยอดฝีมือที่เขาเกรงกลัวที่สุดก็คงจะเป็นคนผู้นี้เอง ไม่ต้องเอ่ยถึงสุดยอดฝีมือ เพราะว่าเขานั้นมีที่มาที่ไปที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก ในเวลาเดียวกันก็ถือได้ว่ามีคุณสมบัติพอ เยี่ยจงใช่ว่าจะสามารถล้มเขาได้ในระดับขอบเขตเดียวกันนี้ได้

 

และคนผู้นี้ ทั้งยังใช้เพียงแค่ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลเมื่อคราวก่อนหน้านี้ยังถือได้ว่ามีพลังที่มากมายมหาศาลอย่างยิ่ง ยิ่งทวีความน่าหวาดกลัวมากขึ้น แทบจะมิใช่บุคคลโดยทั่วไปจะสามารถเผชิญหน้าได้ ดังนั้น เยี่ยจงจึงเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม

 

“ท่านทราบถึงคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์งั้นหรือ ? ”เยี่ยจงเคร่งเครียดขึ้น จากนั้นก็ถามออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา เขาในตอนนี้ทราบดีอยู่กับใจอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งยังเตรียมพร้อมที่จะหลบหนีจากไปด้วยความรวดเร็ว

 

“ในครั้งนี้ข้ามาเพื่อคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ก็จริง,ถึงกับต้องจ่ายค่าตอบแทนออกไปมากมายไม่น้อย เพื่อที่จะให้ร่างแบ่งของตนเองได้เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ เจ้าไม่ทราบจริงงั้นหรือว่าข้าทราบถึงคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ได้อย่างไร ? ”ร่างแบ่งชองปีศาจยักษ์บรรพกาลเอ่ยปากขึ้นมา ทว่าน้ำเสียงของเขายังคงสงบอย่างยิ่ง ไม่ได้มีรังสีฆ่าฟันหรือความคิดฆ่าฟันออกมาแม้แต่น้อย

 

“ท่านไล่ตามข้ามาได้อย่างไรกัน ”เยี่ยจงขมวดคิ้ว,เอ่ยขึ้นมาด้วยคำถามที่ต้องการทราบมากที่สุด

 

“เหอะเหอะ วิชาดำดินรุกคืบของสหายน้อยถือได้ว่าไร้ที่เปรียบในแดนดิน เมื่อกล่าวถึงในระดับขอบเขตเดียวกัน หรือต่อให้เป็นผู้ที่อยู่ในขอบเขตที่สูงส่งกว่าเจ้าอยู่หลายขั้น แต่เมื่อตอนที่เจ้าได้ใช้ออกมาด้วยดำดินรุกคืบด้วยพลังทั้งหมด ก็ยังคงไม่มีผู้ใดไล่ตามเจ้าไปได้ แต่ว่าสหายน้อยอย่าได้ลืมไปว่า ข้าได้ครอบครองยันต์ทลายอากาศอยู่ในมือ ? “ ร่างแบ่งปีศาจยักษ์บรรพกาลกล่าวอธิบาย เห็นได้ชัดว่า เขาไม่ได้คิดที่จะไล่กดดันเยี่ยจง และในทางกลับกันนั้นเอง ยังได้พลิกมือเผยให้เห็นถึงยันต์ทลายอากาศที่อยู่ในมือออกมา

 

“ขอสอบถามท่านผู้อาวุโสมาจากสถานที่ใด ? ”เยี่ยจงขมวดคิ้ว จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมา ถามออกไปถึงคำถามที่ถือว่ามีความสำคัญทีสุด

 

“สหายน้อยอย่าได้กลัวไป,เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงไป, ในครั้งนี้ข้ามิได้มาเพื่อที่จะแย่งชิงคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ของเจ้า ,หวังว่าเจ้าคงจะเข้าใจ,ในสถานที่แห่งนี้,ในเมื่อสิ่งของนี้ได้ตกมาอยู่ในมือของเจ้าแล้วละก็,ย่อมไม่มีผู้ใดสามารถที่จะช่วงชิงไปได้ …… ต่อให้เป็นข้าเองก็ไม่คิดที่จะเปลื้องเรี่ยวแรงอย่างเปล่าประโยชน์เพื่อทำเรื่องเช่นนี้หรอก ” ร่างแบ่งปีศาจยักษ์บรรพกาลก็ได้หัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย “ แต่ว่า ในสถานที่แห่งนี้ก็ยังคงเป็นเพียงแค่สมรภูมิฮวงกู่เท่านั้น หากว่าออกไปจากสมรภูมิฮวงกู่นี้ ที่ไม่มีเขตแดนในการขวางกั้นขอพลัง เจ้าในเมื่อได้ลวงเกินขุมกำลังไปมากมาย อีกทั้งยังมีคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์อยู่กับตัว สหายน้อย เจ้าเคยคาดคิดมาก่อนหรือไม่ เส้นทางในวันข้างหน้าของเจ้าจะยากลำบากถึงเพียงใด ? นอกจากนั้น เจ้าอาจจะมีชื่อเสียงเกรียงไกรอย่างไม่รู้ตัว ในเวลาเดียวกันที่จะเข้ามานี้ แต่ว่าถ้าหากไม่อาจมีผู้ใดสามารถเสาะหาเจ้าได้แล้วละก็ เจ้าเคยคาดเดามาก่อนหรือไม่ ว่าสถานที่เจ้าจากมา สำนักเจ้า รัฐของเจ้าจะมีสภาพเช่นไร ? “

 

“ท่านกำลังข่มขู่ข้างั้นหรือ ? ”เยี่ยจงขมวดคิ้ว ทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมา

 

“เหอะเหอะ,สหายน้อยเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้ามิได้ข่มขู่เจ้า เพียงแต่พูดถึงขอบเขตของเจ้าก็เท่านั้น ด้วยความฉลาดเฉลียวของเจ้า สมควรที่จะคาดเดาขึ้นมาได้เล็กน้อยบ้าง “ ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลก็ได้เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา

 

“งั้นท่านหมายความว่าอย่างไร ? ”เยี่ยจงขมวดคิ้ว,เรื่องที่ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลกล่าวออกมาทั้งหมด เขาย่อมทราบดีแก่ใจตั้งแต่ต้นแล้ ตนเองที่มายังสมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้ถือได้ว่าได้สร้างความเดือดร้อนเอาไว้มาก หากว่าเมื่อออกไปจากสมรภูมิฮวงกู่แล้ว เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกแพร่งพรายออกไปแล้วละก็ แน่นอนว่าจะต้องสร้างแรงดึงดูดของทุกสิ่งทุกอย่างออกมาอย่างแน่นอน

 

“ทว่าที่ข้ามาก็เพื่อจะชี้แนะแนะนำเส้นทางอีกทางเลือกเพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์ในตอนนี้ก็เท่านั้นเอง ”ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลยิ้มขึ้นช้าๆ “หุบเขาหมื่นปีศาจข้าถึงแม้ถึงแม้ว่าจะมิใช่แดนพรตที่มีความเก่าแก่ที่สุดภายในดินแดนซีฮวง แต่เมื่อเทียบกับแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ ลัทธิเทพแดนลี้ลับก็ใช่ว่าจะกล้าก่อสงครามกับหุบเขาหมื่นปีศาจเราได้ ในเวลาเดียวกัน หมื่นปีศาจเราภายใต้หุบเขาท้องทะเลเผ่าพันธุ์นับร้อยชนิด ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใดก็ถือได้ว่าเป็นที่ยอมรับกันโดยทั้งสิ้น ท่ามกลางหุบเขาเราในตอนนี้ก็ได้มีคนที่ฝึกตนอยู่นับไม่ถ้วน สหายน้อยเจ้าถ้าหากมาเข้าร่วมกับหุบเขาหมื่นปีศาจ กราบข้าเป็นอาจารย์ เช่นนั้นข้าจะขอสัญญาว่า นับจากวันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจที่จะมาหาเรื่องกับเจ้าได้ ในเวลาเดียวกัน ทักษะมนต์ตราทั้งมวลของหุบเขาหมื่นปีศาจเรา รวมไปทั้งขั้นเทวะ เจ้าก็สามารถที่เรียนรู้ได้ จนเจ้าสามารถที่จะขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในผู้ถูกเลือกอันดับหนึ่งหรือก็คือผู้นำหุบเขาเรา ดีหรือไม่ ? ”

 

“และข้ายังต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากแค่ไหนกัน ต้องจ่ายออกไปด้วยคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์อย่างงั้นหรือ ? ”เยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา

 

“ไม่ แน่นอนว่าไม่จำเป็น หากว่าเจ้ายินยอมแล้วละก็ ต่อให้นำคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ออกมา วางไว้อยู่ในสถานที่อันลึกลับ เจ้าก็สามารถนำออกมาได้ตลอดเวลา หากว่ามีตรงไหนที่ไม่เข้าใจ ก็ให้ข้าผู้เป็นอาจารย์ชี้แนะเจ้าได้ วันข้างหน้าเจ้าย่อมมีความสามารถที่กว้างไกล ช้าเร็วก็ไม่จำเป็นต้องติดอยู่ในดินแดนซีฮวงนี้ ก้าวเข้าสู่เผ่าพันธุ์สูงส่งนับหมื่นล้าน ! ”ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลกอดเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งกล่าวออกมา บนร่างกายก็ได้ปกคลุมไว้ด้วยพลังอันมหาศาลออกมาสายหนึ่ง

 

เยี่ยจงมองไปที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ ทันใดนั้นสายตาก็ได้เย็นเยียบอย่างถึงที่สุด ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลนี้ถึงกับมองเห็นคุณค่าของตนเช่นนี้ เขาคิดที่จะเอาคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์นี้ไปก็แล้วไป ยังคิดที่จะให้ตนเองกราบเข้าสู่หุบเขาหมื่นปีศาจอีก ทั้งยังให้เป็นศิษย์ในหุบเขาหมื่นปีศาจ เพื่อที่จะเก็บรวบรวมผู้ที่มีพรสวรรค์เอาไว้ อีกทั้งยังมีเป้าหมายที่แน่ชัดถึงตำแหน่งจนถึงวันข้างหาก อีกทั้งหากว่าคาดเดาไม่ผิดแล้วละก็ หากว่าตนเองเข้าร่วมหุบเขาหมื่นปีศาจ ยังมิเพียงต้องส่งมอบ คัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ออกไปเท่านั้น อย่างน้อยก็ยังต้องส่งมอบทั้งวิชาดำดินรุกคืบ ตราผนึกนภาที่เป็นถึงมนต์ตราเทพออกไป เพราะว่าสิ่งของเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นวิชาใดก็ถือได้ว่าเป็นถึงยอดวิชาอันดับหนึ่ง มีความสำคัญอย่างยิ่ง

 

กล่าวอย่างง่ายดายก็คือ หากว่าตนเองตอบรับข้อเสนอไปแล้วละก็ ช่วงชีวิตนี้คงจะต้องมีพลังอย่างไร้ที่เปรียบแน่นอน แต่ว่าก็ยังต้องอยู่ภายใต้การควบคุม ถึงแม้หากนับตามคำกล่าวของมัน เยี่ยจงถือได้ว่ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นผู้นับของหุบเขาหมื่นปีศาจในวันข้างหน้าได้ แต่ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วจะอย่างไร ? นั้นก็เพราะว่า นี้ยังมิใช่เส้นทางที่เยี่ยจงนั้นเอง

 

ในขณะที่ครุ่นคิด,เยี่ยจงก็ได้ค่อยๆเงยหน้าขึ้น จ้องมองไปยังร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาล ดวงตาที่กระจ่างสุกใสของเขา ทันใดนั้นก็ได้ตัดสินใจได้ในเส้นทางของตนเองอย่างแน่วแน่

 

“เป็นอย่างไร สหายน้อยยอมรับข้อเสนอของข้าหรือไม่ ? ”ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย นี้ถือได้ว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธไปได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นหุบเขาหมื่นปีศาจยังถูกเรียกขานว่าหนึ่งในแดนแห่งความอมตะ มีผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนคิดที่จะกราบเข้าไปยังลัทธินี้ ในตอนนี้มันยังถึงกับยื่นข้อเสนอเช่นนี้ออกมา ไม่เกรงกลัวที่จะถูกเยี่ยจงปฏิเสธด้วยทั้งสิ้น

 

“ความหวังดีของผู้อาวุโส ผู้น้อยขอรับไว้ด้วยใจ ”เยี่ยจงครุ่นคิดขึ้นมา จากนั้นก็เอ่ยขึ้น “ แต่ว่า เส้นทางเป็นตนเองเลือกมา ดังนั้น ข้าย่อมมิอาจที่จะปฏิเสธไปได้ ! ”

 

“ปฏิเสธงั้นหรือ ? ”ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย เหม่อมองไปยังดวงตาที่สาดเป็นประกายขึ้นมาอย่างลึกล้ำทั้งคู่ของเยี่ยจง แต่ว่าเขาก็ยังไม่ได้คิดอันใดมากนัก เพียงแต่หันกายจากไป ค่อยๆเดินจากออกไป

 

“หลังจากที่ออกไปจากสมรภูมิฮวงกู่แล้ว เจ้ายังถือว่ายังมีโอกาสอีกครั้งหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นครั้งสุดท้าย ครั้งหน้าเมื่อได้พบกันอีกครั้ง หากว่าเจ้าคิดได้แล้ว เช่นนั้นก็ถือได้ว่าเป็นอันตกลงกันได้ แต่ว่าหากว่าเจ้ายังคงปฏิเสธอยู่อีกแล้วละก็ เช่นนั้นเจ้าก็คงจะต้องอ้อนวอนพึ่งพาวิชาดำดินรุกคืบของเจ้าแล้ว ที่เป็นวิชาหลบหนีอันดับหนึ่งแห่งดินแดนนี้ ! ”

 

ร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลก็ได้เกิดเสียงดังตูมๆตามๆดังติดต่อกันขึ้นมา จนทำให้สีหน้าของเยี่ยจงเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเข้าใจถึงความหมายของร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาลเป็นอย่างดี เกรงว่าการพบเจอกันในครั้งหน้า เมื่อตนเองพบนั้นมิใช่เป็นเพียงแค่ร่างแบ่งเท่านั้นแล้ว อีกทั้งในตอนนี้ยังเป็นเพียงแค่ร่างแบ่งที่มิใช่ร่างที่แท้จริงของร่างแบ่งของปีศาจยักษ์บรรพกาล。

 

คิดๆไปเมื่อต้องพบเจอกับปีศาจยักษ์บรรพกาลในครั้งหน้าแล้วละก็ คงจะเป็นเหมือนกับการหลบหนีออกมาจากฝ่ามือของปีศาจร้าย เยี่ยจงก็เริ่มที่จะรู้สึกขนลุกขึ้นมาเล็กน้อย บุคคลเฉกเช่นนี้ อย่างน้อยก็ถือได้ว่ายืนอยู่ในระดับสูงสุดของดินแดนซีฮวงได้แล้ว อย่างน้อยกว่าเก้าส่วนยังต้องเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในพลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตชั้นฟ้าแล้ว อีกทั้งเมื่อเวลานั้นมาถึง หากเป็นพลังฝีมือเมื่อกาลก่อนของเยี่ยจงแล้วละก็ ย่อมไม่เกรงกลัวบุคคลเช่นนี้อย่างแน่นอน แต่ว่าในตอนนี้เขามิใช่เขาเมื่อกาลก่อน ต่อให้เยี่ยจงอยู่ในขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายแล้วก็ตาม แต่ว่าเขาก็ยังเป็นได้เพียงแค่ผู้ที่ไร้ผู้ต้านในขอบเขตเช่นเดียวกับตนเอง หากว่าต้องปะทะกับพลังขั้นอื่นแล้วละก็ คงยากจะคาดเดาถึงสถานการณ์ต่อไปได้

 

หลังจากนั้นก็ได้หัวเราะขึ้นมาอย่างขมขื่น เยี่ยจงก็ได้หันกายออกไป ค่อยๆเดินมุ่งหน้าไปยังทางเข้าออกของสมรภูมิฮวงกู่นี้ เส้นทางที่ตนเองได้เลือกเดินนั้น เช่นนั้นก็มีแต่ต้องก้าวเดินต่อไปเท่านั้น หากว่าสามารถออกไปได้อย่างปลอดภัยแล้วละก็ สิ่งแรกที่เยี่ยจงต้องทำก็คือ การเข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณฟ้า จากนั้นก็อ่านคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ เพื่อที่จะให้ตนเองเข้าสู่ขอบเขตใหม่โดยที่มีพลังที่ไม่ธรรมดาโดยทั้งหมดได้

 

“น่าเสียดาย,ต่อจากนี้เป็นต้นไปคงจะเป็นเส้นทางที่ลำบากแล้ว ”เยี่ยจงยิ้มอย่างขมขื่น,เข้าจำเป็นที่จะต้องรีบเกาะกุมโอกาสเอาไว้ ใช้ออกด้วยความเร็วสูงสุด เพื่อที่หลังจากข่าวลือที่ตนเองได้ครอบครองคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ถูกแพร่กระจายออกไป ก็จะออกไปจากสมรภูมิฮวงกู่ไป

 

ทว่าเมื่อมองไปยังโอกาสที่ได้รับ เพราะว่าการเปิดเส้นทางออกไปจากสมรภูมิฮวงกู่นั้นมีอยู่อย่างจำกัด ระยะทางในตอนนี้ต่อไปแม้จะหลบหนีไปจากสมรภูมิฮวงกู่จะไม่ไกลมากนัก แต่ว่าเยี่ยจงก็ไม่อาจที่จะยืนยันได้ว่า เหล่าขุมกำลังแห่งแดนลี้ลับเหล่านั้นจะเปิดเผยออกไปมากมายแค่ไหนกัน

 

เมื่อดูจากก่อนหน้านี้,เยี่ยจงถึงกับเดินมาจนถึงขั้นนี้ได้ แต่ว่าไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังจำเป็นที่จะต้องจากออกไป เพราะว่า สิ่งของที่มีความสำคัญที่สุดของท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่นี้ได้ตกอยู่ในมือของเขา ในตอนนี้ สมรภูมิฮวงกู่แห่งนี้ เมื่อกล่าวโดยเยี่ยจงแล้ว ก็ถือได้ว่าสิ้นสุดลงแล้ว

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด756

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset