เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 340 เวทีฮวงกู่

ตอนที่ 340 เวทีฮวงกู่

 

 

ที่เวทีฮวงกู่ ตำแหน่งที่มีอยู่ในอาณาเขตเฉพาะอย่างยิ่งของสมรภูมิฮวงกู่แห่งนี้ อีกทั้งทั่วทั้งภายใต้อาณาเขตยังเป็นพื้นที่รกร้างผืนหนึ่ง ไม่อาจที่จะพบเห็นสิ่งมีชีวิตใดๆ ทั้งพื้นที่ยังมีแต่เพียงทะเลทรายสีเหลืองทั้งสิ้น

 

และเวทีฮวงกู่อันเก่าแก่แห่งนี้ในบริเวณสุดใจกลางของสถานที่แห่งนี้ ราวกับกำลังมีการเริ่มต้นของสิ่งใดอยู่ก็มิปาน

 

บริเวณรอบด้านของเวทีฮวงกู่ ถึงแม้ว่าจะไม่มีสมบัติมีค่าอันใด แต่ว่าในสถานที่แห่งนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอาณาที่ขึ้นชื่อแห่งสมรภูมิฮวงกู่นี้ อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ปลอดภัยมากที่สุดแห่งหนึ่ง

 

หากนับตามการนัดหมายครั้งใหญ่ภายในดินแดนซีฮวงเหล่านี้ ขอเพียงมาถึงยังบริเวณโดยรอบของเวทีฮวงกู่ภายในอาณาเขตร้อยลี้ การเป็นเหมือนเป็นการตัดขาดจากโอกาสในการแย่งชิงเพื่อที่และรอคอยจนถึงช่วงเวลาที่จะได้ออกไปจากสมรภูมิฮวงกู่นี้อย่างสงบ

 

ตามความเป็นจริง ระยะเวลาของการเปิดขึ้นมาของสมรภูมิฮวงกู่นั้นยังถือได้ว่ามีอยู่อย่างจำกัด ระยะที่ยาวนานที่สุดก็ไม่เกินกว่าสองปี ระยะเวลาที่สั่นที่สุดก็อาจจะเพียงแค่สามถึงห้าเดือน และการเปิดของสมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้ก็ถือได้ว่าอยู่ในระยะเวลาที่ยาวนานพอสมควร ดังนั้นไม่ว่าจะมากจะน้อยก็ถือได้ว่ามีอัจฉริยะที่ได้รับประโยชน์ไปเช่นเดียวกัน ตอนนี้ต่างก็รวมตัวกันอยู่ในรอบบริเวณของเวทีฮวงกู่ พวกเขาต่างก็ยอมแพ้ที่จะช่วงชิงวาสนาอีกต่อไป เพียงแต่รอคอยอย่างสงบเสงื่อม

 

กล่าวกันว่า ในช่วงที่สมรภูมิฮวงกู่กำลังจะปิดตัวลง เช่นนั้นกฎเกณฑ์ทั่วทั้งสมรภูมิฮวงกู่ก็จะเปลี่ยนไปอย่างประหลาด ผู้คนทั้งหมดจำเป็นที่จะต้องจากไปจากบริเวณนี้ภายในช่วงเวลาหนึ่งเดือน ไม่อาจที่จะอยู่ต่อไปได้ กล่าวกันว่าใครครั้งโบราณได้มีคนที่ไม่คิดจากออกไปจากสมรภูมิฮวงกู่ แต่ว่าเมื่อรอจนถึงช่วงการเปิดครั้งต่อไป กลับไม่พบเห็นเขาปรากฏตัวขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าคงจะต้องตายลงจากวันเวลาที่ไหลผ่านพ้นไปอย่างแน่นอนแล้ว

 

ดังนั้น กล่าวกันโดยทั่วไปแล้ว ก็ไม่มีคนที่ยินยอมที่จะรอคอยจนถึงช่วงระยะเวลาสุดท้ายของสมรภูมิฮวงกู่นี้ ทุกผู้ต่างก็ถือได้ว่าได้รับประโยชน์ที่เรียกได้ว่าพอเพียงแล้ว หลังจากที่ทราบว่าตนเองได้รับประโยชน์อย่างเพียงพอแล้ว ก็จะเลือกมายังสถานที่แห่งนี้ รอคอยอยู่ในสถานที่แห่งนี้อย่างสงบ

 

ตอนนี้ บริเวณรอบข้างของเวทีฮวงกู่นี้ถึงแม้ว่าจะมีจำนวนผู้คนอยู่ไม่น้อย แต่ว่าถ้าหากนับตามปริมาณแล้ว คนที่มารวมตัวกันยังสถานที่แห่งนี้ ยังถือว่ามีอยู่ไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วนในขณะที่เข้ามายังสมรภูมิฮวงกู่แห่งนี้ สมรภูมิฮวงกู่ถึงแม้จะกล่าวกันว่าเป็นดั่งดินแดนแห่งความตาย พื้นที่แห่งโลหิต ไม่ทราบว่ามีผู้มีพรสวรรค์ อัจฉริยะมากน้อยเพียงใดที่ได้ตายตกลงในสถานที่แห่งนี้ ทั่วทั้งผืนดินมีแต่เพียงความว่างเปล่า

 

“ หากนับตามข่าวลือที่ได้มาในช่วงเวลานี้ การแย่งชิงแห่งสมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้ ได้ก่อเกิดสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์ขึ้นมาไม่น้อยเลย ”

 

มีคนเริ่มที่จะส่งเสียงขึ้นมาเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ พวกเขาถึงแม้ว่าจะมาถึงสถานที่แห่งนี้ ที่เป็นผู้ที่ยอมแพ้การแย่งชิงวาสนา แต่ก็มิได้หมายถึงว่าพวกเขาจะอ่อนแอ ในทางกลับกันก็เป็นตัวบ่งบอกว่าพวกเขากระจ่างในพลังฝีมือของตัวเองมากถึงเพียงใด ดังนั้น หลังจากที่ได้มาถึงยังสถานที่แห่งนี้ คนเหล่านี้ก็มิได้อยู่อย่างเงียบเหงา เพียงแต่จับกลุ่มกันกลุ่มละสามสี่คนเพื่อวิจารณ์ในเรื่องต่างๆขึ้นมา

 

“ นางเซียนชิงหญิงแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ นางเซียนโหยวเหลียนแห่งลัทธิเทพแดนลี้ลับ คาดว่าก็คงจะปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่แล้ว กล่าวกันว่าพวกเขาไปยังบริเวณหอคอยสงคราม เพราะว่าบุคคลผู้นั้นได้ปรากฏตัวขึ้น ทำลายหอคอยสงครามลง ลือกันว่าได้มีอารามเทพสูงสุดปรากฏขึ้นมาด้วย คิดว่าพวกเขากลุ่มนี้คงต่างก็ได้รับประโยชน์อย่างมากแล้วกระมั่ง ? “ มีคนที่ถอนหายใจออกมา ทั้งยังกล่าวออกมาด้วยความอิจฉา

 

“ มีอะไรให้น่าอิจฉากัน ท่ามกลางอารามเทพสูงสุดมีสมบัติอยู่นับไม่ถ้วน นับย่อมเป็นที่แน่นอน แต่ว่าด้วยพลังฝีมือของพวกเรา มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปงั้นหรือ ? “ มีคนที่ได้กล่าวเตือนสติเอ่ยขึ้นมา ในเวลาเดียวก็ได้ถอนหายใจออกมาเบาๆ

 

พวกเขาเหล่านี้โดยส่วนมากแล้วต่างก็ถือได้ว่าอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ดแล้ว การเข้ามายังสมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้ก็ถือได้ว่าได้รับประโยชน์ไปก็ไม่น้อย หลังที่จะออกไปแล้ว ก็ได้เริ่มเตรียมทะลวงพลัง เพื่อเข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตปราณจิต เมื่อกล่าวถึงผู้คนโดยส่วนมากเหล่านี้แล้ว ต่างก็เลือกแนวทางสายนี้กันโดยทั้งสิ้น

 

แต่ว่า เมื่อพวกเขาเอาตัวเองไปเปรียบเทียบเหล่าสุดยอดอัจฉริยะเหล่านั้น ต่างก็ยังเรียกได้ว่ายังมีแรงกดดันชนิดหนึ่งที่ปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่งเพิ่มขึ้นมา

 

เหล่าสุดยอดอัจฉริยะรุ่นเยาว์นั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดหากว่าเติบใหญ่ขึ้นมา ต่างก็ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่น่าตกใจของดินแดน เพียงแต่น่าเสียดาย ระหว่างเหล่าสุดยอดอัจฉริยะเหล่านี้ก็ยังมีการปะทะกันที่ทั้งน่าตื่นตาและน่าตกใจ ในทุกๆการเข้าปะทะกัน ต่างก็ต้องมียอดฝีมือได้ตายลงอย่างคาดไม่ถึง เป็นที่น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง

 

“ พวกเจ้าทราบกันไหม ? การต่อสู้แห่งหอคอยสงคราม องค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถังได้ตายตกลงไป ที่เป็นถึงสุดยอดฝีมือในรอบร้อยปี นับแต่นี้เป็นต้นไปคงจะต้องถูกหุบเขาหยินหยางเข้ากดดันแล้วอย่างแน่นอน ! ” มีคนที่เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าซับซ้อน เมื่อวันก่อนเขาก็ได้ไปดูการต่อสู้มา หลังจากที่เหล่าสุดยอดฝีมือต่างก็ลงมือ ก็ได้หลบเลี่ยงจากออกมา แต่ว่าเมื่อกล่าวมาถึงตอนนี้ สีหน้าเขาก็ยังคอทอแววลี้ลับชนิดหนึ่งอยู่

 

“ คิดไม่ถึงเลย ราชันบ้าคลั่งเยี่ยจงผู้นั้นจะมีความแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ กล่าวกันว่าถือได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งรุ่นเยาว์แห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์ ก็คงจะไม่มีอะไรที่เกินเลยไป ! ? ” มีคนได้ถอนหายใจออกมา การต่อสู้เมื่อวันก่อนถือได้ว่าเป็นที่น่าตื่นตาอย่างมากมาย เกินกว่าที่ผู้คนทั้งหมดจะคาดเดาเอาไว้ได้เช่นเดียวกัน

 

“ กลับไม่เป็นเช่นนั้นหรอก ? อย่าว่าแต่เรื่องอื่นๆ พูดถึงก่อนหน้านี้ก่อน เยี่ยจงคนเดียวที่ผลักดันไปทั่วแดนดิน ฆ่าสังหารยอดฝีมือไปเป็นจำนวนมาก ก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากว่าเป็นเรื่องจริงแล้วละก็ เช่นนั้นเยี่ยจงผู้นี้ก็น่าหวาดกลัวจนเกินไป “ มีคนที่เอ่ยปากขึ้นมาด้วยความหวาดกลัวเต็มใบหน้า แล้วก็ได้กล่าวขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง ก็ได้ทำให้คนเหล่านี้ตื่นตกใจขึ้นมา

 

“ ข้าเคยได้ยินเรื่องที่คุยกันอยู่อีกเรื่องหนึ่ง เมื่อวันก่อนราวกับมีคนกลุ่มหนึ่งได้ร่วมมือกับเยี่ยจง จัดการศัตรูของพวกเขา จากนั้นก็จัดการโยนความผิดเหล่านี้ไว้ที่ตัวของเยี่ยจง ช่างอำมหิตยิ่งนัก ” มีเด็กหนุ่มชุดขาวเดินออกมาจากอีกทางด้านหนึ่ง เขาได้เลียนแบบคนอื่นที่นั่งจับเข่าคุยกัน เอ่ยปากกล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

 

“ อะไรนะ ? ยังถึงกับมีเรื่องเช่นนี้อีกงั้นหรือ ? ทว่าเมื่อพูดขึ้นมาแล้ว ข้าก็คล้ายกับเคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาเหมือนกัน เช่นนั้นก็ถือได้ว่ายุ่งยากขึ้นมาแล้วสิ ต่อให้เยี่ยจงนั้นแข็งแกร่งกว่านี้อีก ก็ยังมีที่สุดอยู่แค่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายเท่านั้น ไม่ว่ายังไง ? หมัดทั้งคู่ต้านศัตรูสี่แขน ก็ยังยากที่จะต่อสู้กับผู้คนมากมาย ข้าว่านะ อย่างน้อยก็ต้องเป็นคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นคนลงมือ จนท้ายที่สุดแล้วก็โยนเรื่องราวไว้ให้แก่เยี่ยจงรับผิดชอบเพียงคนเดียว “ คนที่เอ่ยปากขึ้นมาก่อนหน้าก็ได้พยักหน้าตาม แน่ชัดถึงเรื่องที่กล่าวมาเช่นนี้ ผู้คนบริเวณรอบข้างหลังจากที่ครุ่นคิดกันแล้ว ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วยตามๆกัน คงจะเป็นดั่งที่พวกเขากล่าวออกมาทั้งหมดก็มิปาน เยี่ยจงเพียงคนเดียวจะต้านทานไปทั่วแดนดิน กระทำเรื่องราวที่น่าตกใจสังหารผู้คนไปนับพันหมื่นชีวิต แน่นอนว่าไม่ว่าจะกล่าวเช่นไรก็เป็นไปไม่ได้

 

“ ทว่า ต่อให้เรื่องในครั้งนี้มิใช่เรื่องจริง เรื่องที่เยี่ยจงได้ฆ่าสังหารองค์ชายสิบสามแห่งตระกูลถังไปนั้น จะเป็นความจริงอย่างด้วยงั้นหรือ ! ? ” แล้วก็ได้มีคนที่เริ่มเอ่ยปากขึ้นมา ทั้งยังกล่าวออกไปด้วยความลังเลอยู่หลายส่วน

 

“ แน่นอนว่าต้องเป็นจริง เรื่องราวเช่นนี้พวกเราต่างก็เห็นกับตาของตัวเองอยู่แล้ว การต่อสู้นั้นถือได้ว่าน่าตกใจอย่างยิ่ง ผู้ใดจะสามารถคาดคิดได้ว่า องค์ชายสิบสามที่มีเนตรปราณฟ้ายังถึงกับถูกสังหารได้ ! ดูเหมือนว่า เยี่ยจงผู้นั้นจึงถือได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์อย่างแท้จริงแล้ว ! ” มีคนได้ถอนหายใจออกมา ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความริษยา

 

เด็กสาวบริเวณรอบข้างหลายตาก็ได้ทอประกายสายตาขึ้นมา กำลังคิดถึงท่าทางของชายหนุ่มอันดับหนึ่งแห่งดินแดน ภายในดวงตาของพวกนางต่างก็เริ่มที่จะทอเป็นประกายระยิบระยับดุจดั่งดวงดาวดวงน้อยๆ

 

“ แท้จริงแล้ว ข้าว่าที่พวกเจ้ากล่าวมาก็เรียกได้ว่าเกินเลยจนเกินไป เมื่อวันก่อนข้าเองก็ได้อยู่ในเหตุการณ์ “ เด็กหนุ่มชุดขาวที่มีสีหน้าลี้ลับซับซ้อน “ แต่ว่าข้าเองหลังจากที่ได้ดูเหตุการณ์อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว กลับมิใช่เป็นเพราะว่าเยี่ยจงนั้นแข็งแกร่งกว่าหลายส่วน แต่กลับเป็นองค์ชายสิบสามผู้นั้น ความจริงแล้วน่าจะได้รับบาดเจ็บมาจากสถานที่ใดมาก่อน เจ้าลองคิดดูจากสุดยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งตระกูลถัง จากที่ข้าดู เพียงแต่ว่าต้องมีอะไรลับลมคมในแฝงเอาไว้แน่ ไม่เช่นนั้นคงจะไม่ถูกเยี่ยจงฆ่าสังหารไปเช่นนั้นหรอกมิใช่หรือ ? และต้นกำเนิดของเยี่ยจงก็มาจากรัฐหวังเฉาอะไรนั้นเองมิใช่หรือ สามารถร้ายกาจได้ทั้งระดับใดกัน ? พวกเจ้าก็มองเขาได้สูงส่งเกินไปแล้ว ! ถ้าเป็นในความคิดของข้า ในช่วงเหตุการณ์ในตอนท้าย คนผู้นั้นที่กล่าวออกมาว่าจะรับนางเซียนชิงหญิงและนางเซียนโหยวเหลียนกลับไปเป็นนางบำเรอผู้นั้น จึงจะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งยุคอย่างแท้จริงสิ ! ”

 

“ คนอย่างเจ้าทำไมเป็นเช่นนี้กัน ? ดูจากลักษณะของเจ้าแล้วก็คงจะเป็นคนของเผ่ามนุษย์แล้วกระมั่ง อย่างน้อยเยี่ยจงผู้นั้นก็ยังเป็นถึงสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของเผ่ามนุษย์เจ้า ทำไมเจ้าเอาแต่ตัดรอนเขาเช่นนั้นกันนะ ? ” มีคนไม่น้อยต่างก็มองไปทางด้านของเด็กหนุ่มชุดขาว พร้อมทั้งทอสีหน้าสงสัยขึ้นมา

 

“ หรือว่าจะไม่ใช่อย่างงั้นหรือ ? แท้จริงแล้วพวกเจ้าคงจะไม่คิดว่า การแย่งชิงภายในสมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้ ผู้ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุด น่าจะเป็นบุคคลผู้นั้นมิใช่หรือ ? “ เด็กหนุ่มชุดขาวก็ได้ลุกขึ้นยืน เพื่อยืนยันในเหตุผลของตน

 

ช่วงเวลานี้ ก็ได้มีผู้คนไม่น้อยพยักหน้าเห็นด้วยอย่างช้าๆ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นมา ทว่านามของนางเซียนชิงหญิง นางเซียนโหยวเหลียนมีที่มาชื่อเสียงอันเลี่ยงลือ อัจฉริยะจากแต่ละฝ่ายต่างก็ไล่ตามพวกนาง ในตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของจื่อจุนเทียนจากเมื่อวันก่อน ต่างก็เริ่มนำเรื่องของจื่อจุนเทียนมาวิจารณ์กันเสียงดัง รวมไปทั้งเรื่องราวที่เกี่ยวกับเยี่ยจงเอง ก็เหมือนกับถูกลืมเลือนไปจากผู้คนแล้วในช่วงเวลานี้

 

หัวข้อสนทนาท่ามกลางสนามก็ได้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เด็กหนุ่มชุดขาวก็ได้พกพารอยยิ้มของความสำเร็จเดินจากมา มุ่งหน้าไปยังกลุ่มผู้คนที่อยู่อีกทางด้านหนึ่ง

 

เด็กหนุ่มชุดขาวนั้นแท้จริงแล้วมิใช่ใครอื่น ที่แท้ก็คือเยี่ยจงนั้นเอง ในตอนนี้ สีหน้าของเขากลับมิได้มีการเปลี่ยนแปลงมากมายนัก เพียงแต่ว่าเขากลับเก็บรังสีบนร่างกายเอาไว้อย่างมิดชิด เป็นดั่งเช่นเดียวกันกับเหล่ายอดฝีมือที่มีพลังในขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ดก็มิปาน คนเช่นนี้ในสถานที่แห่งนี้ในตอนนี้ก็ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงไม่มีใครที่ได้ให้ความสนใจต่อเขามากมาย ในช่วงระยะเวลาหลายวันที่ได้สืบข้อมูลอยู่ในละแวกเวทีฮวงกู่ เยี่ยจงก็มั่นใจในข้อนี้ได้ นั้นแท้จริงแล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่อารามเทพฮวงกู่นั้น อย่างน้อยก็คงจะไม่ถูกแพร่งพรายออกไป เหล่าคนที่ได้เข้าไปยังอารามเทพฮวงกู่ สมควรต่างก็ย่อมเก็บเรื่องราวเหล่านี้เอาไว้เป็นความลับ ทั้งยังไม่กล่าวเรื่องราวเหล่านี้ออกมาอย่างแน่นอน

 

เพราะว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เยี่ยจงได้ครอบครองคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ หรือจะเป็นผู้ใดได้ครอบครองสมุดเงินอ่อนไป เรื่องที่ใครได้ครอบครองมนต์ตราเทพไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดสักเรื่องถูกแพรงพรายออกไป เกรงว่านับจากนี้เป็นต้นไปคงจะอยู่ภายในดินแดนซีฮวงอย่างไม่เป็นสุขแล้ว

 

เรื่องเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ย่อมถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อเยี่ยจง เพราะว่าภายใต้สถานในตอนนี้การณ์นี้ เขาก็เหมือนออกสู่ดินแดนภายนอกอย่างไร้ศัตรูเช่นเดียวกัน

 

แน่นอนว่า หากกล่าวออกมาจากมุมมองอีกด้านหนึ่ง เขาก็คงจะต้องปวดหัวอย่างถึงที่สุด ถึงแม้เป็นเหมือนเรื่องไม่ถูกแพร่งพรายออกไป แต่เขาเองก็ไม่เชื่อว่า เด็กน้อยเหล่านั้นจะสามารถปล่อยวางเรื่องของคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ไปได้อย่างง่ายดายแน่นอน

 

ตอนนี้ ทว่าก็เห็นได้ชัดถึงความเงียบสงบ นอกเสียจากว่าตนเองจะสามารถหายไปภายในกลีบเมฆได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อที่จะทำให้ผู้คนทั้งหมดลืมเลือนเรื่องราวเหล่านี้ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ตนเองในตอนนี้ต่อให้ออกไป อย่างน้อยก็คงจะต้องพบเจอกับความยุ่งยากอย่างแน่นอน

 

เมื่อได้ซ่อนเร้นท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ ก็ได้คิดถึงวิธีที่จะทำให้ไม่เป็นเรื่องที่ถูกถกมาพูดขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ได้ เพียงแต่ว่า เยี่ยจงกลับรู้สึกได้ว่าเรื่องราวคงจะไม่อาจที่จะราบรื่นอย่างที่ตนเองคาดคิดเอาไว้อย่างแน่นอน

 

“ หวังว่าสมุดเงินอ่อนเล่มนั้นท้ายที่สุดจะตกไปอยู่ในมือของจื่อจุนเทียนนะ เจ้าหนูนั้นยังถือได้ว่าต่อกรด้วยได้ยากกว่าข้านัก อย่างน้อยก็พอที่จะช่วยดึงดูดความแค้นไปได้บ้าง ” เยี่ยจงครุ่นคิดรำพึงอยู่ภายในใจ ทันใดนั้นสายตาก็ได้มองไปทางด้านบนของเวทีฮวงกู่

 

เวทีฮวงกู่ ขึ้นชื่อว่าเวที แต่ว่าตามความเป็นจริง มันก็เป็นเพียงขึ้นชื่อได้แค่ว่าเป็นประตูขนาดใหญ่อย่างไร้ที่เปรียบแห่งหนึ่ง ทั้งยังมีประกายลำแสงขนาดใหญ่สองดวงพุ่งขึ้นสู่ฟ้า ผสานพุ่งเข้าไปยังก้อนศิลาชิ้นหนึ่ง

 

แต่ว่าก็ยังมีสำนักโบราณกลุ่มหนึ่งเช่นนี้ กำลังรอคอยการเปิดขึ้นมาของประตู ที่ยังคงอยู่ในลักษณะที่ว่างเปล่า มุ่งหน้าเข้าไปยังเมืองโบราณของดินแดนซีฮวง

 

“ ช่วงเวลานี้ สมควรใกล้มาถึงแล้วกระมั่ง ? ” เยี่ยจงกอดอก จ้องมองไปที่บริเวณใจกลางของเวทีฮวงกู่ เขาถึงแม้จะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ก็เพียงแค่ต้องการที่จะออกไปจากสมรภูมิฮวงกู่ ทั้งยังจำเป็นที่จะต้องเดินไปยังเส้นทางสายนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ต่อให้เป็นเขาก็ไม่อาจที่จะทราบได้ว่า เมื่อเดินเข้าไปยังเส้นทางสายนี้แล้วละก็ ท้ายที่สุดตนเองจะตกอยู่ภายในสถานการณ์เช่นไร

 

ยังดีที่ในเวลานี้เยี่ยจงได้ครอบครองวิชาดำดินรุกคืบอยู่ ย่อมต้องมีความมั่นใจในการหลบหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้อยู่หลายส่วน ในเวลาเดียวกัน กฎเกณฑ์ท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่นั้นยังทวีความแข็งแกร่งขึ้น ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ เขาก็คงไม่คิดที่จะทะลวงพลัง แล้วค่อยหลบหนีออกไปจากสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์ครับ กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9 ราคา 550
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770 ล่าสุด756

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset