เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 350 ต่อสู้กับราชัน

ตอนที่ 350 ต่อสู้กับราชัน

 

 

“สหายทั้งสองท่าน ในเวลานี้ก็อย่าได้เก็บงำอีกแล้วอีกต่อไปเลย ? ”

 

ยอดฝีมือราชันเผ่าปีก็ได้ส่งเสียงเย็นเยียบดังชิออกมา เขาพลิกมือขวากดลง คิดหมายที่จะมุ่งหน้าเข้าสังหารไปยังบริเวณทางด้านหน้า และในครั้งนี้ ถือได้ว่าใช้ออกมาด้วยทักษะเซียนอย่างแท้จริงสายหนึ่ง จากนั้นก็ได้เกิดประกายแสงสีแดงคมกล้าพวยพุ่งออกไป ปีกขนาดใหญ่สีแดงก็ได้กดดันเข้ามา มุ่งหน้าหมายสังหารไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

นี้ก็คือทักษะเซียนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างหนึ่งของเผ่าปีก ที่สร้างชื่อจนกว้างไกล ทั้งยังแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด ทั้งยังสามารถกวาดไปทั่วทั้งฟ้าดิน ตอนนี้ถึงแม้จะมีอยู่ส่วนหนึ่งที่ได้หายสาบสูญไป แต่ว่าในด้านพลังยังถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบ

 

นัยน์ตาของเยี่ยจงก็ได้เคร่งเครียดขึ้น เมื่อครู่ยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามคนก็ลำพองจนเกินไป จึงได้พลาดท่าครั้งใหญ่ถึงขนาดนั้น ในตอนนี้พวกเขาก็ได้ลงมืออย่างจริงจัง ต่อให้เป็นเยี่ยจงก็ไม่อาจที่จะไม่ระมัดระวังขึ้นมาได้

 

ในขณะนี้เอง เยี่ยจงก็ได้ก้าวออกไปหนึ่งก้าวไปบริเวณทางด้านหลัง รอยตราของทั้งสองมือก็ได้เปลี่ยนแปลงไปมา ตราราชาแห่งแดนมนุษย์ก็ได้ปรากฏปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้า มังกรทองเก้าเท้าห้ากรงเล็บในตอนนี้ก็ได้พวยพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน ราวกับเคลื่อนไหวไปตามนิ้วมือของเยี่ยจง วินาทีนั้น ตราราชาแดนมนุษย์ที่มีสีทองก็ได้พุ่งเข้าลงมาทางด้านล่าง เข้ารับการโจมตีทักษะเซียนของเผ่าปีก

 

“อือ ! ? ”

 

ยอดฝีมือราชันเผ่าปีกก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไป ความแข็งแกร่งของเยี่ยจงนั้นอยู่เกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้ เรียกได้ว่าอยู่ในขั้นของสุดยอดรุ่นเยาว์ได้อย่างแน่นอน กระบวนท่านี้เมื่อเทียบกับกระบวนท่าแขนกิเลนยังถือได้ว่าไม่แตกต่างกันมากนัก เรียกได้ว่ามีความน่าหวาดกลัวอย่างเต็มเปี่ยม

 

“ตูม—— ”

 

ปีกสีแดงก็ได้กวาดออกมา และก็ได้กดดันพลังตราราชาแดนมนุษย์เอาไว้ พลังทั้งสองสิ่งเข้าปะทะกันไม่ขาดสาย วินาทีนั้น ก็ได้เกิดแรงระเบิดขึ้นท่ามกลางอากาศ เกิดเสียงดังขึ้นเข้ามาในหูไม่หายสาย

 

ยอดฝีมือราชันของเผ่าปีกก็ได้เกิดอาการแตกตื่นขึ้นมา เขามีความเชื่ออย่างลึกซึ้ง ว่าแค่พึ่งพาเพียงแค่พลังฝีมือของตนเองที่อยู่ในชนชั้นราชัน การที่จะจัดการกับเด็กรุ่นเยาว์เพียงคนเดียว ขอเพียงลงมือไปอย่างสุดดำลังแล้วละก็ สมควรที่จะมิใช่ปัญหาใหญ่อันใด

 

แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงจะไม่ธรรมดาได้ถึงเพียงนี้ พึ่งพาพลังจากภายนอกเพื่อเพิ่มพลังฝีมือให้สูงขึ้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังถึงกับสามารถลบล้างการต้านทานการโจมตีของตนเองทั้งหมดได้อย่างง่ายดายอีก นี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดเลยก็ว่าได้

 

และในเวลาเดียวกันนี้ ยอดฝีมือราชันแห่งสำนักเสวียนหวินก็ได้มาถึง เขาพลิกมือทั้งสองข้างติดต่อกัน คมกระบี่สายหนึ่งก็ได้พวยพุ่งเข้ามาจากบริเวณทางด้านหน้า จนทำให้เกิดการสั่นไหวของสภาวะอากาศ และคมกระบี่มากมายเหล่านี้ก็ได้มุ่งหน้าเข้าสังหารกันเข้าไป หากว่าโดนสักกระบวนท่าแล้วละก็ คงจะได้รับบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว มือขวาก็ได้พลิกฟาดออกไปทางด้านหน้าเบาๆ พลังสภาวะฝ่ามือประหลาดก็ได้พุ่งเข้าปะทะออกไป ตามความเคลื่อนไหวของเขา ก็พบเห็นประกายเซียนเจ็ดสีกระจายออกมาจากทางด้านใจกลางฝ่ามือ มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารยังคมกระบี่ทั้งหมดนี้เอาไว้

 

“ตูมตูมตูม—— ”

 

จนก่อเกิดเสียงระเบิดดังสะหนั่นดังติดต่อกันออกมา คมกระบี่เหล่านี้ต่างก็ได้ถูกพลังฝ่ามือสีรุ้งของเยี่ยจงปะทะสังหารออกไปกักเก็บเอาไว้อยู่ภายในท่ามกลางพลังเซียนเจ็ดสี วินาทีที่ได้เกิดการระเบิดขึ้น ก็มิอาจที่จะทำอันตรายอันใดต่อเยี่ยจงได้แม้แต่น้อย

 

วิธีการลงมือของเยี่ยจงเช่นนี้ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวไปทั่วทั้งแดนดิน กระนั้นเขาถึงแม้จะถูกคมกระบี่นับไม่ถ้วนกดดันเข้ามาจนถึงท่ามกลางทักษะเซียนของเขาเอง แต่ก็ยังสามารถต้านทานเอาไว้ได้จนน่าตื่นตกใจ

 

“ถ้าเกิดหลังจากนี้สักวัน เขาแน่นอนว่าต้องเป็นผู้ที่กระจ่างวิทยายุทธ์ในระดับตำนานที่ภายในดินแดนนี้ยากจะเทียบเคียงเอาไว้ได้ ถ้าหากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ ความสำเร็จเช่นนี้ย่อมไม่เป็นสิ่งที่ปกติธรรมดาอย่างแน่นอน ” มียอดฝีมือที่ล้อมดูกันอยู่ต่างก็วิพากษ์วิจารย์กันออกมา ภายในน้ำเสียงยังแฝงไว้ด้วยความรู้สึกเสียดาย เพราะว่าพลังฝีมือของเยี่ยจงนี้ เรียกได้ว่าเกินกว่าคำว่ามหัศจรรย์ไปแล้ว จนทำให้ผู้คนต่างก็รู้สึกตื่นตระลึง

 

และในเวลาเดียวกันนี้เอง บนใบหน้าของยอดฝีมือระดับราชันแห่งสำนักเสวียนหวินก็ได้ปรากฏความขมขื่นขึ้นมา เขาถึงแม้จะไม่เชื่อว่าเขาจะไม่สามารถสังหารเยี่ยจงลงในที่แห่งนี้ได้ แต่ว่าเขาก็ยังคงรู้สึกเสียหน้าอย่างถึงที่สุด นั้นก็เพราะว่ากระบวนท่าสังหารสุดยอดของคนเองยังมิอาจที่จะทำอันตรายต่อเยี่ยจงได้แม้แต่น้อย

 

พริบตานั้นเอง เขาก็ได้พลิกรอยตราทั้งสองมือเปลี่ยนแปลงไปมาคราหนึ่ง แล้วก็ได้พบเห็นคมกระบี่หลายสายผนึกรวมกันลอยเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นดั่งกระบี่ขนาดใหญ่อันรุนแรง ขยับเคลื่อนไหวไปตามนิ้วมือของเขา มุ่งหน้าเข้ากดดันพวยพุ่งออกไปทางด้านหน้า

 

“ตูม —— ”

 

วินาทีนั้น เสียงจากการปะทะก็ได้ดังออดมา พลังความน่าหวาเกลัวก็ได้แผ่กระจายหมุนวนออกมา ก่อเกิดสายลมกรรโชกอยู่ภายใน แล้วยังมีเศษเสี้ยวของคมกระบี่สายหนึ่งหลุดออกมา วินาทีนั้นบนพื้นก็ได้เกิดร่องรอยของการแตกร้าวออกมาเป็นสาย

 

“เด็กน้อยผู้นี้ …… ”ยอดฝีมือระดับราชันแห่งสำนักเสวียนหวินก็ได้เกิดอาการสั่นเทาขึ้นมาอย่างช้าๆ สีหน้าก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นเคร่งเครียดขึ้นมา เขาพลิกมือทั้งสองข้างฟาดออกไปในเวลาเดียวกัน จนก่อเกิดหมอกควันคลุ้งลอยออกมาอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือหมอกควันสายนี้ก็ได้ออกมายังท่ามกลางอากาศ มุ่งหน้าฟาดออกมาทางด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ต้านทานพลังเซียนสีรุ้งเอาไว้

 

พลังฝีมือของเยี่ยจงเรียกได้ว่าเกินกว่าที่จะคาดเดาได้ ยากที่จะทำให้ผู้คนเชื่อได้ลง ว่าเด็กน้อยที่มีพลังอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าเช่นนี้ แต่ว่าถึงแม้จะพลังเพียงแค่นี้ พลังฝีมือของเขากลับมีความแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ จนทำให้ยอดฝีมือระดับราชันแห่งสำนักเสวียนหวินไม่อาจที่จะไม่ทุ่มเทพลังทั้งหมดเข้าต่อกรได้

 

“บรึม —— ”

 

บริเวณอีกทางด้านหนึ่ง สายอัสนีบาตรก็ได้เกิดการรวมตัวปะทุขึ้นอย่างท่ามกลางอากาศ ดุจดั่งประกายสายฟ้าที่มืดครึ้มอยู่ท่ามกลางอากาศก็มิปาน สร้างความวุ่นวายเป็นพัลวันมุ่งหน้าเข้าสังหารในบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป นี้ก็คือการลงมือของยอดฝีมือระดับราชันแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับเอง

 

วิชาอัสนีนี้ ถือได้ว่ามีพลังอยู่ในระดับชั้นทักษะเซียนแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับก็ว่าได้ ทั้งน่าหวาดกลัวและแข็งแกร่ง เรียกได้ว่ามีควมแข็งแกร่งอย่างมาก ทำลายล้างได้หมื่นสรรพสิ่ง ยอดฝีมือระดับราชันแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับในตอนนี้ก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด ยิ่งทำให้ผู้คนเกิดความหวาดผวาขึ้นมาภายในจิตใจ

 

ตอนนี้ วิชาอัสนีนี้และการโจมตีของยอดฝีมือระดับราชันทั้งสองคนก็ได้ผสานรวมเข้าด้วยกัน มุ่งหน้าเข้ากดดันเข้าไปทางด้านของเยี่ยจงเข้าไป ไม่ว่าจากมองจากมุมมองใด เยี่ยจงในครั้งนี้ก็คงจะต้องตายอย่างไร้ที่กลบฝังอย่างแน่นอน

 

กระนั้น เรื่องราวกลับมิได้เป็นอย่างที่คาดคิดง่ายดายเช่นนั้น พริบตาที่สายอัสนบาตรเหล่านี้ได้เข้ามาปะทะสังหารมาจนถึงเหนือศีรษะของเยี่ยจง พริบตานั้นเขาก็ได้พลิกรอยตราทั้งสองมือเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน มือหนึ่งชี้ขึ้นไปยังท้องนภา มือหนึ่งชี้ลงไปยังผืนพสุธา ตอนนี้ตราประทับนภาก็ได้ถูกเขาใช้ออกมา ก่อเกิดอักขระยันต์ผนึกนภาออกมาอย่างเปี่ยมล้น ในตอนนี้ก็ได้หลั่งไหล่ออกมายังท่ามกลางสนาม

 

“โครม—— ”

 

การโจมตีขนาดใหญ่ทั้งสองสายก็ได้ถูกใช้ออกมาในเวลาเดียวกัน มุ่งหน้าเข้าไปกดดันเข้าไปบริเวณทางด้านของสายอัสนีบาตทั้งหมด จนทำให้ประกายอัสนีบาตรแต่ละสายท่ามกลางอากาศเลือนหายไป กลายเป็นเพียงแค่หมอกควัน

 

“กระบวนท่านี้ของเขาถือด่าเป็นมนต์เทพอย่างแท้จริง เกรงว่านอกเสียจากองค์ชายใหญ่แห่งตระกูลถังที่มีวิชามนต์ตราเทพในระดับเดียวกันแล้ว คนอื่นๆที่มีเพียงแค่ทักษะเซียนเท่านั้น ใช่ว่าจะสามารถต้านทานเขาในตอนนี้ได้ ! ” มีคนที่ร้องเสียงออกมา ฉากนี้ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวมากจนเกินไป เกินกว่าที่จะคาดคิดได้ เยี่ยจงเพียงตัวคนเดียว ทำไมถึงได้มีความแข็งแกร่งได้ถึงในระดับนี้ได้กัน ?

 

“ข้ามองยังคงมิใช่แค่นั้น ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ในตอนนี้ผู้ที่ลงมือก็ยังเป็นถึงยอดฝีมือระดับราชันถึงสามคน,อีกทั้งทั้งสามคคนก็อยู่ในระดับราชันมานานแล้วหลายปี พลังที่แท้จริงอย่างน้อยก็คงจะไม่อ่อนโทรมไปกว่าพลังขั้นก่อฟ้าพลังปราณขอบเขตความสำเร็จใหญ่ ด้วยพลังฝีมือเช่นนี้ ต่อให้สังหารเยี่ยจงเพียงแค่คนเดียว ก็เหมือนหยิบยืมดาบมาเชือดวัวเชือดไก่ ยิ่งไปกว่านั้นยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามคนยังลงมือพร้อมกัน เยี่ยจงผู้นี้ต่อให้สะท้านฟ้าได้อีก อยางมากก็ยังขาดคุณสมบัติอยู่ดี ! ” มีคนกล่าวด้วยความลำพอง ไม่ว่าจะกล่าวเช่นไร ยอดฝีมือระดับราชันนี้ทั้งสามคนต่างก็ถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบ ไม่ว่าจะเป็นคนใดคนหนึ่งก็พอที่จะสังหารเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ทั้งสามคนยังลงมือพร้อมกัน เยี่ยจงผู้นี้ยังไงก็ต้องพ่ายแพ้ตายลงอย่างแน่นอน

 

“โครม —— ”

 

ในขณะที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ สีหน้าของยอดฝีมือระดับราชันแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับก็ได้ปั้นยากขึ้นมา กระบวนท่าสังหารของตนเองนั้นที่ได้ถูกทำลายลงอย่างไร้วี่แวว จนทำให้ภายในดวงตาของเขาเกิดความเคลื่อนไหวอย่างประหลาดขึ้นมา ในขณะนี้ พลังอัสนีบาตรสายหนึ่งก็ได้ถูกก่อขึ้นมาอยู่บริเวณใจกลางฝ่ามือ แล้วก็ได้มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปอีกทางด้านหนึ่งของเยี่ยจง

 

ยอดฝีมือระดับราชันตำหนักอัสนีลี้ลับผู้นี้ที่ยืนอยู่ในจุดนี้มานานนับสิบปี ที่น่าเกรงขามอย่างถึงที่สุด ภายใต้การปะทะของกระบวนท่าในตอนนี้ ร่างกายของเขาก็ได้กลายเป็นดุจดั่งสายอัสนีก็มิปาน ทั้งยังมีความเร็วในระดับที่สูงอย่างยิ่ง

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว ตอนนี้เขาแทบจะมิอาจลงมือเข้าต้านทานกระบวนท่านี้ได้ เพียงแต่ขยับเคลื่อนไหวร่างกายออกไป มุ่งหน้าถอยออกไปบริเวณทางด้านหลัง ผนึกพลังตราผนึกนภาขึ้นบริเวณใจกลางสนาม จากนั้นก็ได้ฟาดมือซ้ายออกไป แล้วก็ได้ใช้ออกมาด้วยแขนกิเลนอีกครั้ง เข้าปะทะต้านกระบวนท่าของยอดฝีมือระดับราชันตำหนักอัสนีลี้ลับผู้นี้

 

“ซูม —— ”

 

การปะทะของทั้งสองฝ่ายดุจดั่งสายดาวตกพุ่งเข้าชนกันก็มิปาน จนก่อเกิดสายลมกรรโชกขึ้น ประกายแสงคมกล้าสาดส่องเข้าไปยังดวงตา ทำให้ผู้คนยากที่จะเชื่อได้ลง

 

เพียงแต่ว่า ผลลัพธ์ของกระบวนท่านี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของผู้คนทั้งหมด ยอดฝีมือระดับราชันแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับนั้น ถึงกระนั้นร่างกายก็ยังเกิดโอนเอนไปมา มุมปากก็ได้มีโลหิตไหลออกมาเล็กน้อย

 

“นี้คือเขาใช้เพียงพลังของร่างกายเข้าต้านพลังอัสนีอย่างงั้นหรือ อีกทั้งกระบวนท่านี้ยังเป็นกระบวนท่าอันร้ายกาจของตำหนักอัสนีลี้ลับยอดฝีมือระดับราชันอีกด้วย ” มีคนที่ทักในสิ่งนี้ขึ้นมา น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นตกใจขึ้นมา เยี่ยจงผู้นี้ช่างอยู่นอกเหนือความคาดหมายได้อย่างแท้จริงแล้ว การต่อสู้เช่นนี้เอง หากว่าถ้าไม่เห็นด้วยตาตนเอง ก็คงจะไม่มีผู้ใดที่จะเชื่อได้ลง ?

 

หลังจากผ่านไปหนึ่งกระบวนท่า ร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ขยับคราหนึ่ง ถอยออกไปติดต่อกันเตรียมพร้อมลงมือสังหารอีกครั้งเพื่อที่จะทำการฆ่าสังหารยอดฝีมือระดับราชันแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับลง แต่ว่าในขณะนี้เอง ยอดฝีมือระดับราชันแห่งสำนักเสวียนหวินก็ได้พุ่งเข้าสังหารเข้ามาในเวลาเดียวกัน ยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามคนก็ได้ลงมือพร้อมกันอีกครั้ง เข้าต่อสู้กับเยี่ยจง

 

“เพล้งเพล้งเพล้ง—— ”

 

เมื่อต่อสู้กันมาจนถึงขั้นนี้ ทั้งสองฝ่ายก็ได้มาจนถึงขั้นการปะทะท่ามกลางการแตกหักแล้ว แต่ว่า ด้วยการเข้าปะทะกันเช่นนี้ กลับทำให้เยี่ยจงได้เปรียบอย่างมหาศาล เพราะว่าความจริงที่เขาอยู่ในขั้นก่อเกิดระดับที่เก้า ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย พลังของร่างกายถือได้ว่าจัดอยู่ในระดับที่น่าหวาดกลัวอย่างมหาศาล หากเทียบด้วยพลังกายเพียงถ่ายเดียวแล้ว ยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามต่างก็มิใช่คู่ต่อสู้ของเขาได้เลย

 

ดังนั้น ในขณะนี้เอง การปะทะของสองฝ่ายก็ได้แผ่กระจายไปทั่วรอบด้าน จนเกิดการสะเทือนไปทั่ว ทำให้ผู้คนทั้งหมดต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมา ทั้งหมดต่างก็คิดไม่ถึงว่า เยี่ยจงเพียงคนเดียวจะสามารถปะทุพลังออกมาได้ถึงขนาดนี้ ถึงกับสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับราชันได้ถึงในระดับนี้

 

“ทว่า ต่อให้ต่อสู้มาจนถึงขั้นนี้ได้แล้วจะเป็นเช่นไร ? กระนั้นก็ยังต้องตายอยู่ดี ! ” มีสุดยอดฝีมือผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยเสียงทุ่มต่ำ ท่ามกลางพวกเขานั้นมียอดฝีมือระดับราชัน อีกทั้งยังมีอยู่อีกหลายคนที่เป็นถึงยอดฝีมือระดับราชัน ที่ย่อมต้องมองออกว่า เยี่ยจงในตอนนี้ถึงแม้จะได้เปรียบอยู่ แต่ว่ากระนั้นเขาก็ยังคงพึ่งพาพลังจากภายนอกเข้ามาใช้ได้ถึงเพียงนี้ ต่อสู้ติดต่อกันต่อไป แน่นอนว่าจะต้องตายด้วยพลังมายาที่ใช้ออกมาอย่างแน่นอน

 

“คนที่ตายเป็นผู้ใด อีกไม่นานพวกเจ้าก็จะเข้าใจได้เอง ! ”พลังหมัดก็ได้พุ่งปะทะออกไป จนปะทะเข้ากับยอดฝีมือระดับราชันแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับจนถอยออกไปทางด้านหลัง เยี่ยจงกวาดสายตามองไปรอบด้าน ทอสีหน้าเย็นเยียบแล้วกล่าวออกมา ใบหน้าที่สงบดุจดั่งสายน้ำของเขาในตอนนี้ ก็ได้แฝงไว้ด้วยพลังความหน้าหวาดกลัวชนิดหนึ่งแผ่กระจายออกมา นี้ก็คือระดับชั้นความสามารถของรังสีสังหารในระดับสูง จนก่อเกิดความตกใจขึ้นมายังภายในจิตใจของผู้คน

 

“ตูม —— ”

 

แล้วก็ได้ใช้ออกไปอีกหนึ่งกระบวนท่า เยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้ปะทุพลังแขนกิเลนขึ้นมา ซัดจนยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามคนถอยกระเด็นไปหลายก้าว ยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามคนก็ได้กระอักโลหิตออกมาในเวลาเดียวกัน บนใบหน้าก็ได้ปรากฏความยากที่จะเชื่อได้ออกมา

 

พวกเขาเรื่องได้ว่าไม่อาจที่จะยอมเชื่อได้ลง ว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตนเองยังมิอาจที่จะเป็นคู่ต่อสู้กับเยี่ยจงได้ พวกเขาที่เป็นถึงยอดฝีมือระดับราชันทั้งสามคนรวมมือกันต่อกรกับผู้เยาว์เพียงคนเดียว ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าพอแล้ว แต่ว่า ทั้งสามคนเมื่อร่วมมือกันแล้ว ยังมิอาจทำอันตรายต่อเยี่ยจงได้แม้แต่ปลายเส้นขน นี้จึงทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัวที่ไม่เคยจะสัมผัสได้ชนิดหนึ่งปกคลุมเข้ามาอยู่ภายในจิตใจจนยากที่จะต้านทานได้

 

ควรทราบว่า เขาที่ยังมิได้เข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณ แต่ก็ยังไม่ตกเป็นรองจากระดับราชันเลยแม้แต่น้อย !

 

ที่แท้ เพราะว่าการจัดการล้อมเข้าสังหารกับผู้เยาว์ที่มีพลังในระดับขั้นก่อเกิดระดับที่เก้าเพียงคนเดียว ยังถึงกับต้องใช้ยอดฝีมือระดับชนชั้นราชันหลายสิบคนในการผสานรวมมือกันอีกอย่างงั้นหรือ ?

 

หากว่าสังหารเยี่ยจงลงได้ในที่แห่งนี้ได้จริงแล้วละก็ เช่นนั้นเรื่องราวในวันนี้ ก็จะกลายเป็นเรื่องที่น่าขบขันครั้งใหญ่เลยก็เป็นได้

 

แต่ว่า ถ้าหากเป็นเช่นนี้แล้วละก็ แล้วจะทำอย่างไรจึงจะสามารถจัดการกับผู้นี้ได้ ?

 

ในขณะนี้เอง ยอดฝีมือราชันทั้งสามคนก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แล้วก็ได้เกิดความวุ่นวายพัลวันอยู่ภายในจิตใจอย่างถึงที่สุด.

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์(INBOX FANPAGE) ครับ

80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9/10 ราคา 600
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770

กลุ่ม10 https://goo.gl/L8awva ตอนที่ 771-850 ล่าสุด 788 18/80ตอน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset