เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 352 ยังคงความแข็งแกร่ง

ตอนที่ 352 ยังคงความแข็งแกร่ง

 

 

เยี่ยจงหันศีรษะกลับมาอย่างแรง ภายในดวงตาของเขาก็ได้สาดเป็นประกายแสงสีม่วงอันคมกล้าขึ้นมาอย่างแรงกล้า ในขณะนี้เอง เกล็ดสีม่วงก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว เขาก็ได้ขยับเคลื่อนไหวแขนกิเลนทั้งสองข้างออกไปในตอนนี้ แต่ว่ากลับมิได้ส่งผลลัพธ์แต่อย่างไร พลังปราณอันงดงามเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นเกล็ดสีม่วงปกคลุมอยู่ทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงอย่างรวดเร็ว จนท้ายที่สุด จนกระทั่งคล้ายดั่งปกคลุมได้ด้วยชุดเกราะสีม่วงชุดหนึ่งก็มิปาน

 

ลักษณะของหมวกเกราะถูกสร้างขึ้นมาอย่างโบราณ มีประกายแสงปกคลุมไว้หลั่งไหลอยู่ทั่วทั้งร่าง บริเวณในส่วนของแขนทั้งสองข้าง ก็ได้มีเขากิเลนออกมาข้างละส่วน และบริเวณใจกลางหน้าอก ก็ได้มีตัวอักขระคำว่ากิเลนปรากฏขึ้นมา เต็มเปี่ยมไปด้วยความเฉิดฉายอย่างลี้ลับ

 

กิเลนสีม่วงขนาดเล็กนับไม่ถ้วน ดุจดั่งหลุดออกมาเพื่อที่จะไหลเวียนอยู่ทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงก็มิปาน วิชากิเลนชนิดนี้ถือได้ว่าเห็นชัดว่าต้องมีความสามารถในด้านยันต์สร้างขึ้นมา มีความลึกลับอย่างเต็มเปี่ยม อีกทั้งเขาในตอนนี้ก็เป็นเหมือนเทพสงครามจุติลงมาก็มิปาน

 

“ เกราะกิเลน ! ”

 

มียอดฝีมือที่ได้เกิดอาการแตกตื่นขึ้นมา ส่งเสียงขาดๆหายๆออกมา เยี่ยจงผู้นี้มีพลังฝีมืออันน่าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ มีผู้คนไม่น้อยที่ใช้ได้แต่เพียงพลังฝ่ามือที่เป็นทักษะเซียนของเผ่ากิเลนเท่านั้น แต่ว่าในตอนนี้ดูเหมือนว่า เขาจะกระจ่างชัดในวิชาฝีมือของเผ่ากิเลนอย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาก็คงจะไม่อาจที่จะสามารถแสดงความสามารถต่างๆนาๆภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ได้แล้วยังสามารถหล่อหลอมเกราะกิเลนขึ้นมาได้อีก。

 

“ ตูม —— ”

 

เกราะกิเลนบนร่าง บนใบหน้าของเยี่ยจงก็ได้ปรากฏแววตาชั่วร้ายขึ้นมา วิชาของเผ่ากิเลน ถือได้ว่าเป็นสำนักอาจารย์ที่เข้าฝึกฝนเมื่อชาติก่อนเยี่ยจง แน่นอนว่าย่อมมิได้มีเพียงแขนกิเลนเท่านั้น เพียงแต่ว่าเป็นเพียงแค่วิชาส่วนหนึ่งเท่านั้น ด้วยพลังฝีมือของเยี่ยจงในตอนนี้ย่อมมิอาจที่จะแสดงออกมาได้ทั้งหมด ทว่าเมื่อได้หยิบยืมพลังมาจากร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณแล้วก็ได้ทำให้พลังฝีมือของเขาปะทุขึ้นมาได้ เยี่ยจงจึงมีคุณบัติเพียงพอที่จะใช้ออกด้วยเกราะกิเลนออกมาได้

 

ไม่แต่เพียงเท่านี้เท่านั้น ทันใดนั้น เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายเคลื่อนไหว กระบี่ดำในมือก็ได้กวาดสังหารออกไป มุ่งหน้าเข้าไปยังทางด้านยอดฝีมือราชันทั้งสามเข้าไป。

 

“ ตูม —— ”

 

ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการปะทะครั้งใหญ่ หลังจากที่ได้ใช้ออกมาด้วยเกราะกิเลน กระบี่นี้ของเยี่ยจงก็ได้ก่อเกิดพลังอันน่าหวาดกลัวขึ้นมาจนยากที่จะคาดคิดเอาไว้ได้ ในขณะนี้เอง ขอเพียงสัมผัสได้ถึงพลังที่สาดส่องเข้ามาแห่งฟ้าดิน อักขระของยันต์แต่ละชนิดก็ได้สาดประกายขึ้นมาท่ามกลางอากาศ จนก่อเกิดพลังสีม่วงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งผืนดิน ราวกับว่ามีดาวตกลงมาในตอนนี้จะก่อเกิดการตายขึ้นในตอนนี้ก็มิปาน ทำให้ผู้คนราวกับไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเป็นวัตถุใด

 

“ บรึม —— ”

 

“ บรึม —— ”

 

“ บรึม —— ”

 

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวก็ได้ดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงของการกระอักโลหิตออกมาทั้งสามเสียง ร่างกายของยอดฝีมือราชันทั้งสามก็ได้สั่นเทาขึ้นมาในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ได้ลอยกระเด็นไปในทัที ใบหน้าขาวซีดอย่างถึงที่สุด ในขณะนี้เอง พลังความแข็งแกร่งของเยี่ยจงที่ยิ่งมาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น ราวกับว่าเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่อาจที่จะคาดคิดเอาไว้ได้ ยากที่จะเชื่อได้ลง

 

เยี่ยจงรั้งกระบี่กลับมาที่มือ แต่ว่าเขาก็ยังคงไม่ได้ไล่ตามฆ่าสังหารยอดฝีมือราชันทั้งสาม จากนั้นก็ได้หัวเราะเสียงเย็นเยียบขึ้นมา ขยับร่างกายคราหนึ่ง ยกกระบี่ขึ้นมุ่งหน้าเข้าสังหารไปทางด้านของยอดยุทธ์ของเห็นได้ชัด

 

ยอดฝีมือเหล่านี้ของขุมกำลังทั้งสามต่างก็หวาดผวามาตั้งแต่แรก ราวกับคิดหมายที่จะหลบหนีออกไป เพียงแต่น่าเสียดายที่ความเร็วของพวกเขายังไม่เร็วพอ และแน่นอนว่าคงไม่อาจไล่ตามผู้ที่มีวิชาอย่างดำดินรุกคืบได้

 

เยี่ยจงร่างกายหายวับไป แล้วก็ได้มาจนถึงบริเวณเบื้องหน้าของพวกเขา จากนั้นก็ได้กวาดกระบี่ดำในมือออกไป ฆ่าสังหารอย่างไร้ความปราณีออกไป

 

“ ไม่ —— ”

 

ต่อมาก็ได้มีเสียงโหยหวนของยอดฝีมือราชันดังขึ้นมา เยี่ยจงเร่งระดับความเร็วจนถึงขีดสุด เขาเทียบจะไม่มีเวลาพอที่จะลงมือเข้าต้านทานช่วยเหลือได้ทัน

 

“ โครม —— ”

 

สมบัติปราณที่เป็นดั่งสิ่งคุ้มกายของเขาก็ได้แตกกระจายออกไปในทันที จากนั้นเขาก็ได้ขยับร่างกายขึ้น อารมณ์บนใบหน้าเคร่งเครียดขึ้น จากนั้นร่างกายท่อนบนได้ตกลงบนพื้นดิน ราวกับว่าเขาไม่อาจที่จะเชื่อได้ลงว่า ตนเองจะต้องมาตายอย่างไม่ทราบที่มาที่ไปได้

 

“ ซวบ —— ”

 

เมื่อกระบวนท่านี้ได้ใช้ออก การลงมือของเยี่ยจงไม่มีแม้แต่การยั้งมือไว้ไมตรี กระบี่ดำในมือยังคงกวาดออกไปไม่หยุด เขาทั้งยังมุ่งเป้ามายังขุมกำลังทั้งสามของยอดฝีมือราชันทั้งสาม เพราะว่าพลังฝีมือของคนเหล่านี้ถึงแม้จะเทียบกับยอดฝีมือราชันทั้งสามไม่ได้ แต่ว่าก็ยังถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างมาก หากว่าปล่อยให้พวกเขามีเวลาพอที่จะตั้งค่ายกลต่อไปได้แล้วละก็ แน่นอนว่าย่อมต้องเกิดความยุ่งยากขึ้นอย่างมหาศาล ดังนั้น ในตอนนี้พวกเขาจึงจำเป็นที่จะต้องสังหารเหล่าคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน แล้วค่อยว่ากล่าวกันทีหลัง

 

เพียงแค่พริบตาเดียว ที่ใต้เท้าของเยี่ยจงก็ได้มีศพเกิดขึ้นมาเป็นสาย ยอดฝีมือราชันเหล่านี้ ด้วยส่วนมากต่างก็พึ่งจะเข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณเท่านั้น การฝึกปรือยังมีอยู่น้อย การใช้ด้วยพลังปราณจึงมีอยู่อย่างจำกัด บนร่างกายยิ่งมิได้มีสมบัติเซียนคอยปกกันเอาไว้ หรืออย่างมากก็เป็นแค่เพียงสมบัติปราณเท่านั้น ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การที่พวกเขาได้พบกับเยี่ยจง แน่นอนว่าย่อมต้องเหมือยดั่งไก่ดินถูกสุนัขไล่กัดก็มิปาน ถูกฆ่าสังหารไปมากมายนับไม่ถ้วน

 

ขุมกำลังทั้งสามของยอดฝีมือราชัน ในช่วงเวลาเพียงหนึ่งถ้วยน้ำชาก็ได้ตายตกไปนับไม่ถ้วน ที่หลงเหลือเอไว้อยู่เหล่านั้นต่างก็เป็นยอดฝีมือพลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าขอบเขตปราณจิตเท่านั้น ยิ่งต้องตายตกไปอย่างวุ่นวา เพียงแต่ว่ายังมีอยู่หลายคนที่ยังถือได้ว่าโชคดี กลับมิได้ถูกเยี่ยจงสังหารจนตายตกลงไปภายในกระบี่เดียว แต่ว่าเยี่ยจงกลับมิได้ลงกระบี่ลงไปอีกครั้ง เพียงแต่ปล่อยให้คนเหล่านี้ร่ำร้องอวดครวญออกมาดังไปทั่วทั้งสนาม

 

ในขณะนี้เอง ตำหนักอัสนีลี้ลับ สำนักเสวียนหวิน เผ่าปีก ขุมกำลังทั้งสามนี้ ต่างก็ไม่มีหน้าให้ไปซุกที่ไหนอีกแล้ว

 

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมาเหล่านี้ ได้ทำให้ผู้คนเกิดความแตกตื่นขึ้นมา ต่อให้เป็นเหล่ามหาราชันและราชันคนอื่นๆที่ไม่ขยับเคลื่อนไหวอยู่ยังคงสภาวะสงบนิ่งได้อยู่นั้น ในตอนนี้ต่างก็ได้เกิดความหวาดกลัวขึ้นมาภายในจิตใจ ไม่กล้าที่จะยุ่งเกี่ยวกับเยี่ยจงแม้แต่น้อย

 

เด็กหนุ่มผู้นี้ถึงแม้จะมีชาติกำเนิดที่ตื้นเขิน แต่ว่าตัวเขาเองนั้นกลับมีความน่าหวาดกลัวไม่ปกติธรรมดา ดุจดั่งคนที่มีสภาวะดั่งมังกร ราชามหามารราชเด็กก็มิปาน ทั้งการลงมือยังถือได้ว่าโหดเหี้ยม ฆ่าสังหารไม่หยุดยั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่บุคคลโดยทั่วไปถ้าไม่จำเป็นที่จะต้องรังควานเขาแล้วละก็ ยังคงอย่าได้รังควานเขาเป็นดีที่สุด

 

“ เจ้า …… เจ้าบังอาจ ! ”

 

ยอดฝีมือราชันของเผ่าปีกในตอนนี้ก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างรุนแรง กองทัพอันเข้มแข็งของเผ่าปีกพวกเขา กลับไม่สามารถที่จะทำอันใดกับยอดฝีมือรุ่นเยาว์เพียงคนได้ ในครั้งนี้ยังเรียกได้ว่าเกิดการสูญเสียขึ้นอย่างมากมายมหาศาล ยากที่จะฟื้นคืนกลับคืนนานนับหลายสิบปีก็เป็นได้

 

“ ตูม —— ”

 

ประกายแสงอันเฉิดฉายของเผ่าปีกก็ได้แผ่กระจายออกมาจากร่างกายของยอดฝีมือราชัน พลังฝีมือของเขาในตอนนี้ก็ได้ปะทุขึ้นมาอย่างถึงที่สุด ทั้งยังเป็นประกายแสงคมกล้าที่ยากจะมองเข้าไปได้ แล้วก็ได้มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไป

 

ตำหนักอัสนีลี้ลับ ยอดฝีมือราชันของสำนักเสวียนหวินในตอนนี้ก็ได้ตะโกนออกมาเสียงดัง พวกเขาลงมือในเวลาเดียวกัน ร่างกายก็ได้พุ่งตัวออกไปดุจดั่งประกายแสงทั้งสี่ เห็นได้ชัดว่า ในตอนนี้ถือได้ว่าได้ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมืออันแข็งแกร่งที่สุดออกมาแล้ว

 

ภายใต้การร่วมมือของพวกเขา ต่างก็ถือได้ว่ามีความเห็นแก่ตัวอยู่เล็กน้อย ทั้งยังไม่ยอมลงมือด้วยพลังทั้งหมด เก็บงำพลังฝีมือของพวกเขาเอาไว้ ผลลัพธ์ในตอนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งตอบแทนแล้ว ทว่าผลลัพธ์เช่นนี้ กลับทำให้พวกเขาต้องชดใช้ออกมาอยู่เป็นจำนวนมากมายมหาศาล

 

“ ตูม —— ”

 

เผ่าปีกยอดฝีมือราชันก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังดัชนี ปีกทั้งสองข้างบริเวณทางด้านหลังก็ได้กลายเป็นดุจดั่งปีกหงส์ ก่อรวมพลังขึ้นมาในทันที จนกลายเป็นขนที่มีความคมกล้าดุจดั่งปลายหอก มุ่งปะทะสังหารออกไปทางด้านหน้า

 

“ บรึม—— ”

 

มังกรอัสนีสายหนึ่งก็ได้ลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ ราวกับปรากฏขึ้นมายังท่ามกลางพื้นที่ว่างเปล่าก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าสังหารไปยังบริเวณที่เยี่ยจงเข้าไป นี้ก็คือวิชามนต์ตราเทพเพียงหนึ่งเดียวแห่งตำหนักอัสนีลี้ลับ ทั้งยังต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างมหาศาล ไม่ง่ายที่จะใช้ออกมาได้เลย

 

“ ถี่ —— ”

 

บนร่างกายของยอดฝีมือราชันแห่งสำนักเสวียนหวินก็ได้สวมไว้ด้วยหมวกเกราะสีขาวสายหนึ่งแผ่กระจายรังสีออกมาทั่วทั้งบริเวณ นี้คือสมบัติเซียนที่เขานำพามาด้วย ถือได้ว่าเป็นดั่งไพ่ตายเลยก็ว่าได้ แต่ว่าในตอนนี้ก็ถือได้ว่าอยู่ในสถานะการณ์ที่ถ้าไม่ใช้พลังออกมาทั้งหมดก็ไม่ได้

 

ในตอนนี้ยอดฝีมือราชันก็ได้ใช้ออกมาด้วยไพ่ตายทั้งสามสาย ก่อเกิดรังสีสังหารขึ้นอย่างมหาศาล หมายจะสังหารเยี่ยจงลงไปในทันที

 

เพียงแต่ว่าพวกเขายังถือได้ว่าช้าจนเกินไป เยี่ยจงในตอนนี้ก็ได้ปกคลุมไปด้วยพลังสังหารจนถึงขีดสุดแล้ว บริเวณทางด้านหลังของเขา ราวกับว่าได้แผ่ปกคลุมไว้ด้วยเงาร่างของกิเลนสีม่วงขึ้นมา ราวกับสามารถเย้ยฟ้าได้ก็มิปาน

 

แล้วเขาก็ได้กวาดกระบี่ออกไปเช่นนี้ กิเลนเย้ยฟ้าสีม่วงนับสิบตนก็ได้คำรามก้องขึ้นมา พุ่งเข้าสังหารออกไปในเวลาเดียวกัน

 

“ บรึม—— ”

 

ทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าปะทะกันครั้งใหญ่อีกครั้ง ในครั้งนี้ ยอดฝีมือราชันทั้งสามก็ได้กระอักโลหิตคำโตออกมาอีกครั้ง สมบัติเซียนในมือของยอดฝีมือราชันแห่งสำนักเสวียนหวินก็ได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมาเป็นสาย เขาในตอนนี้ก็ได้เกิดอาการตื่นตกใจขึ้นมา แล้วแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ

 

สีหน้าเยี่ยจงยังคงเยือกเย็นอย่างถึงที่สุด กระบี่ดำใจกลางฝ่ามือก็ได้กวาดออกไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนจัดการยอดฝีมือราชันทั้งสามลงไปได้

 

ยอดฝีมือราชันทั้งสามก็ได้กระหักโลหิตถอยออกไปอีกครั้ง เยี่ยจงแข็งแกร่งจนเกินไป ทั้งยังเป็นสิ่งที่ยากจะคาดคิดไว้ได้ พวกเขาในขณะนี้ในที่สุดก็ได้เข้าใจได้ในทันที นอกเสียจากว่าเยี่ยจงจะสลายพลังของร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณไป ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ หากว่าพวกเขายังไม่ถอยไปอีก แน่นอนว่าจะต้องถูกสังหรลงไปในทันที

 

ยอดฝีมือราชันทั้งสามนี้ถึงแม้จะอยู่ในชนชั้นที่เด็ดขาด ในขณะที่ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้กระจายตัวกลับไปท่ามกลางหมู่เหล่าอัจฉริยะของสำนักเผ่าตน แล้วก็ได้หลบหนีออกไปจากนี้ทั้งสามทาง

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว ทว่าท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ติดตามไล่ฆ่าสังหารไป เพียงแต่กุมกระบี่ดำเอาไว้แน่น กวาดสายตาไปยังทั่วทั้งบริเวณแห่งนี้

 

การต่อสู้นี้ทำให้ผู้คนแตกตื่นขึ้นมา ความจริงแล้วยังมีเหล่ายอดฝีมือจากขุมกำลังต่างๆเตรียมพร้อมที่จะลงมือ ตอนนี้ต่างก็ได้แต่กล้ำกลืนเอาไว้ เดิมที่พวกเขาคิดไว้ว่า เยี่ยจงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าจะอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้

 

ขุมกำลังทั้งสามร่วมมือกัน ยังต้องพ่ายแพ้ครั้งแล้ว เหลือไว้แต่ซากศพอยู่เต็มพื้นดิน กล่าวอย่างง่ายดาย …… ก็คือยากที่จะคาดคิดเอาไว้ได้ !

 

เยี่ยจงเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ว่าถึงกับเป็นผู้ที่ไร้ผู้ต้านในแดนเทพแห่งสมรภูมิฮวงกู่ได้ ฆ่าสังหารยอดฝีมือผู้มีพลังไม่สูญสลายได้ ต่อให้เมื่อมาถึงยังดินแดนซีฮวง พลังความแข็งแกร่งของเขายังคงอยู่ ทั้งยังน่าหวาดกลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

 

“ ตอนนี้ ข้าคิดที่จะจากไป ยังเตรียมที่จะขัดขวางข้าอยู่หรือไม่ ? “

 

เยี่ยจงเอ่ยถามขึ้นมา กวาดสายตาอันเย็นเยียบเข้าไปยังภายในท่ามกลางสนามรอบหนึ่ง ภายในดวงตาของเขาเป็นเหมือนดุจดั่งดวงดาราที่สาดส่องระยิบระยับไม่มีความแน่นอน ดุจดั่งต้องการจะเบิกผืนฟ้าก็มิปาน

 

รังสีกลุ่มก้อนหนึ่งที่เปี่ยมไปด้วยพลังสังหารก็ได้แผ่กระจายออกไปจากทั่วทั้งร่างกาย สาดกระจายไปยังร่างของทุกผู้คน นอกเสียจากเหล่ามหาราชันเหล่านั้นที่ไม่ได้มีผลกระทบอันใดแล้ว ต่อให้เป็นเหล่ายอดฝีมือราชันในตอนนี้ก็ยังรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย เด็กหนุ่มยอดฝีมือที่ยังไม่ได้เข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าเลยผู้นี้ ถึงกลับสามารถแผ่พุ่งพลังรังสีอันหนาวเย็นเช่นนี้ออกไปได้ แม้แต่ความกล้าที่จะสบตากับเยี่ยจง ก็ถือได้ว่ามีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย

 

“ หากว่าไม่มีผู้ใดเอ่ยออกมา เช่นนั้นข้าก็จะไปแล้ว ทว่า หากมีคนที่คิดจะหยิบยืมเรื่องราวในวันนี้ไปก่อเรื่องกับรัฐต้าโจวข้า ก็ขอให้เจ้ารีบไป เจ้าสังหารคนของรัฐต้าโจวข้าหนึ่งคน ข้าก็จะสังหารเจ้าร้อยคน เจ้าฆ่าล้างเมืองในรัฐต้าโจว ข้าก็จะจัดการกับเจ้าเก้าชั่วโครต …… ต่อให้ในชั่วเวลาหนึ่งข้ายังทำมิได้ ขอเพียงข้าเยี่ยจงไม่ตาย จะสิบปี ร้อยปีจากนี้ จะต้องกลับมาทวงคำพูดในวันนี้อย่างแน่นอน ! ”

 

กล่าวจบ เยี่ยจงก็ได้ขยับสายตาสั่นไหวอย่างเย็นเยียบ จนกระทบไปยังจื่อจุนเทียนด้วยนัยน์ตาที่เป็นประกาย ในขณะที่ครุ่นคิดอยู่นาน เขาจึงได้กล่าวออกไปอย่างเย็นชา “ ตอนนี้ยังมิใช่เวลา วันหน้าข้าจะไปเจ้าเพื่อท้าสู้ด้วยตนเอง ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงก็ได้หันกายไป ก้าวยาวๆจากไป เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น ร่างกายของเขาก็ได้หายลับออกไปจากทั่วใต้ผืนฟ้าแห่งนี้แล้ว ยอดฝีมือมากมายต่างก็ยากที่จะเชื่อได้ลง ว่าคนผู้นี้จะสามารถใช้วิชาดำดินรุกคืบได้ถึงเพียงนี้ เยี่ยจงในตอนนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นมา ก็คงจจากไปในที่ห่างไกลแล้ว แล้วจึงได้กลับมายังสถานที่แห่งนี้ภายในพริบตา ดุจดั่งการหมุนเวียนของหมู่ดาว ยากที่คนโดยทั่วไปจะสามารถเข้าใจได้

 

ยอดฝีมือมหาราชัน ยอดฝีมือราชันจำนวนมากต่างก็เหม่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า ต่างก็ละสายตาไปกล้ามองต่อไป พวกเขาที่มีอยู่มากมายท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ ถึงกับถูกผู้เยาว์ที่มีพลังอยู่ในขั้นก่อเกิดข่มขู่ได้ เรื่องราวเช่นนี้ถ้าหากถูกแพร่สะพัดออกไป ชั่วชีวิตนี้ คงจะไม่มีหน้าที่จะยืนอยู่ในยุทธภพอีกแล้ว ?

 

แล้วก็ยังมีเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์เหล่านี้ ต่างก็ทอนัยน์ตาเป็นประกายสาดส่องออกไป เยี่ยจงแข็งแกร่งได้จนถึงระดับนี้ ที่แท้ยังมิได้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์เลยอย่างงั้นหรือ ?

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์(INBOX FANPAGE) ครับ

80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9/10 ราคา 600
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770

กลุ่ม10 https://goo.gl/L8awva ตอนที่ 771-850 ล่าสุด 796 26/80ตอน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset