เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 353 กลับสำนัก

ตอนที่ 353 กลับสำนัก

 

“ ราชันบ้าคลั่งเยี่ยจง สุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์ ฆ่าสังหารองค์ชายสิบสามตระกูลถัง ต้านทานสามกระบวนท่าขององค์ชายใหญ่แห่งตระกูลถัง ทำลายการผสานร่วมมือของขุมกำลังใหญ่ทั้งสาม ฆ่าสังหารราชันยอดฝีมือไปนับสิบ ถูกเรียกขานว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งแห่งเผ่ามนุษย์นับตั้งแต่โบราณกาลมาจวบจนวันนี้ ! เป็นดั่งความภาคภูมิของเผ่าพันธุ์มนุษย์ยิ่งนัก ! ”

 

“ บุคคลลี้ลับผู้นั้น มีนามว่าจื่อจุนเทียน อยู่ในชนชั้นที่น่าตกใจเช่นเดียวกัน กล่าวกันว่าภายในท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่ สิ่งของมีค่าโดยส่วนใหญ่แล้วก็ได้ตกไปอยู่ในมือของเขา หอคอยสงครามแห่งสมรภูมิฮวงกู่ก็ได้เป็นเพราะเขาเปิดขึ้นมาในรอบพันปี จนทำให้อารามเทพฮวงกู่ปรากฏขึ้นมาก็เพราะเขา ! ”

 

“ นางเซียนชิงหญิงแห่งแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ สตรีเทพโหยวเหลียนแห่งลัทธิเทพแดนลี้ลับต่างก็มีความงดงามจรดแดนดิน เรียกได้ว่าเป็นถึงไข่มุกคู่แห่งยุค ! ไม่ทราบว่าวันข้างหน้าผู้ใดจะสามารถมีความเหมาะสมเคียงคู่กับเงาเสียงดังสวรรค์เช่นนี้ได้ ! ”

 

“ การเปิดขึ้นของสมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้ มีเด็กหนุ่มยอดฝีมือไม่น้อยได้ตายตกลง อัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์นับไม่ถ้วนสามก็จบสิ้นลง ยังมีเหล่าราชัน มหาราชันยอดฝีมือต้องมาตายตกเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่สมรภูมิฮวงกู่แห่งนี้ ขุมกำลังใหญ่แต่ละแห่งก็ต้องปิดตัวลง เพียงเพราะความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในดินแดนซีฮวงนี้ ! ”

 

“ ความจริงแล้วสถานการณ์ในดินแดนซีฮวงก็ไม่มีความแน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าความวุ่นวายที่จะมาถึงหนังตอนนี้ เกรงว่าคงจะดึงช่วงเวลานานนับหลายเดือนหรือหลายปีก็เป็นได้ ! ”

 

การแย่งชิงภายในสมรภูมิฮวงกู่ หลังจากที่เยี่ยจงได้จากไป ก็ได้สิ้นสุดลง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวอย่างเช่นคลื่นใต้น้ำหรือไม่ก็ตาม แต่ว่าอย่างน้อยจากที่ดูสภาพการณ์แล้ว ยอดฝีมือทั้งหมดของแต่ละฝ่ายต่างก็ได้กลับไปยังสำนักของตน ในเวลาเดียวกันก็ได้บอกกล่าวเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในสมรภูมิฮวงกู่ รวมไปถึงเรื่องราวการต่อสู้ที่สะเทือนฟ้าสะท้านดินในครั้งสุดท้าย นามราชันบ้าคลั่งเยี่ยจง ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่ได้มีเด็กหนุ่มของขุมกำลังใหญ่ได้ยินเรื่องราวของเขา ก็ได้มีเด็กหนุ่มอัจฉริยะไม่น้อยต่างก็เอาเขาเป็นดั่งเป้าหมาย แต่ละคนก็ได้หัวเราะเย็นชาติดต่อกัน

 

ยังคงมีเด็กหนุ่มอัจฉริยะส่วนหนึ่งที่ได้ผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในสมรภูมิฮวงกู่ พวกเขาต่างก็มีความคิดไงแบบอื่นอื่นที่แตกต่าง เพราะว่าคนเรานี้ต่างก็ทราบอย่างทราบอย่างกระจ่างว่า เรื่องที่เกิดขึ้นที่สมรภูมิฮวงกู่ อย่างน้อยไม่ว่าจะอย่างไรก็คงจะไม่จบลงอย่างง่ายดายเช่นนี้แน่

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ยอดยุทธ์ที่ได้เก็บตัวฝึกฝนมาอย่างเนิ่นนานต่างก็ได้คาดคำนวณ เหล่าขุมกำลังใหญ่แต่ละฝ่ายเหล่านี้ก็ได้แต่เพียงแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้า

 

เรื่องที่เกิดขึ้นภายในสมรภูมิฮวงกู่ในครั้งนี้ส่งผลตามมาอยากยิ่งใหญ่ เมื่อมองจากประวัติศาสตร์ครั้งก่อน ในช่วงเวลาเช่นนี้ จะต้องเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน แต่ว่าย่อมต้องมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นภายในความวุ่นวาย แต่อย่างน้อยจะยังมีอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนช่วยแบกรับเอาไว้ จนเกิดความรุ่งโรจน์มาจวบจนถึงปัจจุบัน

 

แม่น้ำภูเขาดั่งภาพวาด ช่วงเวลาหนึ่งผ่านไปก็ได้เกิดวีรชนผู้กล้ามาไม่น้อย ชีวิตคนเราดุจดั่งความฝัน ถามหาผู้ใดจะค้ำจุนทั่วฟ้าดิน !

 

ทั่วทั้งดินแดนฮวงกู่ก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวขึ้น แต่ว่าตลอดมานี้ กลับไม่ได้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเยี่ยจงแม้แต่น้อย

 

รัฐต้าโจว เมืองหมื่นดารา บริเวณหุบเขาที่เป็นประตูของลัทธิแห่งดวงดาว

 

วันเวลาที่ผันผ่านภายในรัฐต้าโจว ความจริงที่มีความเกี่ยวพันธ์ถึงขุมกำลังแห่งหนึ่ง วันเวลาอันใกล้เคียงนี้ต่างก็เริ่มเพิ่มมาตราการการป้องกันมากขึ้น ตามความเป็นจริง ท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่ตอนนี้ได้เกิดเรื่องขึ้น โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสามขุมกำลังใหญ่ได้ถูกฆ่าสังหารในสถานที่เดียวกัน และกระต้านรับสามกระบวนท่าขององค์ชายใหญ่แห่งตระกูลถัง ยิ่งถูกแพร่กระจายกลับไปเร็วเสียยิ่งกว่า จนทำให้ทั่วทั้งรัฐต้าโจวต่างก็ตกอยู่ในความอลหม่าน

 

สามารถกล่าวได้ว่า ยอดฝีมือของทั่วทั้งรัฐต้าโจวในตอนนี้ต่างก็กำลังวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับเรื่องอันวุ่นวายนี้ รวมไปถึงสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์เยี่ยจงผู้นี้ด้วย เป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เกรงว่ามีต่อให้ผ่านไปอีกหลายสิบทศวรรษก็คงไม่อาจที่จะปรากฏขึ้นมาได้อีกแม้แต่คนเดียว แต่ว่าตอนนี้ถึงกับปรากฏขึ้นที่รัฐต้าโจว สามารถกล่าวได้ว่าทำให้ผู้คนกระอักลมจนตายก็ยังได้

 

แต่ว่า ในระดับสูง โดยเฉพาะเป็นลัทธิแห่งดวงดาวที่อยู่ในระดับสูงกลับมิได้คิดเช่นนี้ พวกเขาพบเจอเรื่องราวต่างๆมาก็มาก การคาดคิดก็มากยิ่งกว่า ดังนั้น เมื่อฝ่ายตนหลังจากที่ได้รับข่าวสารที่ได้ส่งกลับมา ทั่วทั้งประตูทางเข้าลัทธิแห่งดวงดาวทั้งหมดก็ได้เปลี่ยนเป็นมาตรการการป้องกันที่สูงล้ำอย่างถึงที่สุด ไม่เพียงแต่บุคคลภายนอกไม่อาจเข้ามายังภายในสำนักแม้เพียงครึ่งก้าว อีกทั้งยังมีลูกศิษย์ของสำนักจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนคอยสอดส่องดูแล แม้แต่ท่ามกลางคืนฟ้า สิ่งที่ผ่านไปมาภายในหลายวันมานี้ก็จะถูกกลับเข้าไปยังตำหนักหลัก เพื่อที่จะให้ผู้อาวุโสออกมาดูแลด้วยตนเอง ขอตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนทั่วทั้งสี่ทิศ

 

รวมถึง แม้แต่ค่ายกลใหญ่ป้องกันสำนักของลัทธิแห่งดวงดาวก็ยังถูกควบคุมเปิดใช้ขึ้นมา ไม่ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะเป็นอย่างไร ต่างก็สามารถควบคุมเอาไว้ได้ทุกเวลา เพื่อเป็นการป้องกันลัทธิแห่งดวงดาวอย่างทั่วถึง

 

ลัทธิแห่งดวงดาว ถือเป็นขุมกำลังอันดับหนึ่งของรัฐต้าโจว ตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่าได้ตกอยู่ในสถานการณ์พร้อมรบเอาไว้แล้ว

 

“ ถี่ ——”

 

เวลาได้ล่วงเลยไหลเวียนผ่านไป หลังจากที่ได้ผ่านเลยไปได้ราวครึ่งเดือน มีอยู่วันหนึ่ง ทั่วทั้งผืนฟ้า ก็ได้เกิดประกายแสงสายหนึ่งพวยพุ่งออกมา ดุจดั่งการดาวตกสายหนึ่งก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณของลัทธิแห่งดวงดาวอย่างรวดเร็ว

 

“ กึง ——”

 

เสียงดังสนั่นหวั่นไหวได้ดังขึ้นออกมาในตอนนี้ จนทำให้ลูกศิษย์ทั่วทั้งลัทธิแห่งดวงดาวเตรียมตัวขึ้นมาในทันที แล้วก็ได้มีเงาร่างสายหนึ่งทะยานออกมาอย่างรวดเร็วท่ามกลางอากาศ ส่วนผู้ที่เป็นผู้นำก็จะมีทั้งเจ้าตำหนัก ผู้อาวุโสออกมา แต่ละคนก็ได้มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างถึงที่สุด

 

“ ซวบ ——”

 

ราวกับว่าได้ผ่านไปเพียงชั่วพริบตา ประกายแสงสายนั้นก็ได้พุ่งออกมายังท่ามกลางอากาศจนมาถึงยังส่วนนอกของลัทธิแห่งดวงดาว และในขณะนั้นเอง ประกายสายตานับไม่ถ้วนก็ได้ทอดลงไปยังบนเงาร่างที่ซูบผอมนี้

 

ผู้มามีใบหน้าขาวซีด ขมวดคิ้วเล็กน้อย บนร่างกายยังได้ปกคลุมไปด้วยไอโลหิตชนิดหนึ่งอย่างเข้มข้น ราวกับว่าได้ผ่านการฆ่าสังหารผู้คนไปมากมายนับไม่ถ้วนก็มิปาน เขาก็ได้มองเข้าไปทางขบวนค่ายกลทางด้านหน้าสายตาของลัทธิแห่งดวงดาวอย่างเยือกเย็น ทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา

 

“ เจ้าคือ …… เยี่ยจง ! ?”

 

เงาร่างของผู้อาวุโสหลิงเว่ยก็ได้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางอากาศ หลังจากนั้นเขาก็ได้มองไปยังผู้มา ทันใดนั้นก็ได้หลุดเสียงกล่าวออกมา

 

เยี่ยจงออกจากลัทธิแห่งดวงดาวเพื่อไปยังงานถวายพระพรเฉลิมฉลองของราชารัฐต้าโจวจนถึงวันนี้ ยังไม่ทันถึงสองปีเท่านั้น แต่ว่าภายในระยะเวลาไม่ถึงสองปีมานี้ เยี่ยจงอย่างน้อยก็สูงขึ้นกว่าเดิมถึงครึ่งศีรษะ ในเวลาเดียวกัน บริเวณหน้าผากของเขาแต่เดิมที่ซ่อนเร้นไว้ด้วยความอ่อนโยนก็ได้เลือนหายไป แต่กลับเพิ่มตามมาด้วยร่องรอยของการผ่านโลก

 

“ อะไรกัน ! ?เป็นศิษย์พี่เยี่ยจงงั้นหรือ ! ?”

 

“ ศิษย์พี่เยี่ยจงกลับมาแล้วงั้นหรือ ! ?”

 

“ อะไรกัน ! เป็นเขา ! ?”

 

เมื่อได้ยินนามนี้ ลูกศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวนับไม่ถ้วนก็ได้ขยับเคลื่อนไหว หลายวันมานี้ พวกเขานั้นได้ยินการกระทำทั้งหมดของเยี่ยจงภายในสมรภูมิฮวงกู่ รวมไปถึงการกระทำของเขาที่พระราชวังรัฐต้าโจว เรื่องราวเหล่านี้ได้ถูกส่งกลับมายังลัทธิแห่งดวงดาวตั้งแต่แรกแล้ว เยี่ยจงในตอนนี้ เหมือนกับเป็นดั่งเรื่องราวตำนานแห่งลัทธิแห่งดวงดาวไปแล้วก็มิปาน

 

และก็มีเหล่าจ้าวตำหนัก ผู้อาวุโสเป็นต้นปรากฏขึ้นอยู่ท่ามกลางอากาศ สีหน้าของแต่ละคนต่างก็ดูผ่อนคลายลงในทันที บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มเล็กน้อย พวกเขาเหล่านี้ก็ได้จัดขบวนใครก่อนรอคอยมาหลายวัน เพื่อที่จะได้รองรับกับสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น แต่ว่ากลับคิดไม่ถึง ว่าเยี่ยจงถึงกับกลับออกมาจากทางด้านนี้

 

เมื่อได้มองไปสีหน้าของผู้คนมากมาย และยังมีอยู่ส่วนหนึ่งที่สายตาเต็มไปด้วยความเลื่อมใส ใจกลางหน้าผากของเยี่ยจงที่ได้เกิดรังสีเย็นเยียบขึ้นมา ในที่สุดก็ได้ค่อยๆเลือนหายไป

 

นับตั้งแต่ที่ได้เดินทางกลับมาจากเมืองฮวงกู่ เขาได้ใช้เวลาไปทั้งหมดถึงครึ่งเดือน มิใช่เป็นเพราะว่าวิชาดำดินรุกคืบของเขาช้าจนเกินไป ความจริงแล้ว เขายังถือว่าเร็วกว่าผู้คนทั้งหมด แต่ว่าตลอดรายทางมานี้ เขากลับได้พบเจอกับการดักสุ่มอยู่นับสิบกว่าครั้ง ถึงแม้จะมีอยู่หลายครั้งที่เขาสังหารคู่ต่อสู้ได้สำเร็จ แต่ว่าก็มีอยู่หลายสิบครั้งที่เขาต้องพึ่งพาความช่วยเหลือของเสี่ยวหลุน ถึงค่อยได้หลุดลอดออกมาจากวงลอบสังหาร

หลังจากวันนั้นร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ ก็มิได้อยู่ห่างจากตัวของเยี่ยจงเลย แม้แต่เยี่ยจงในตอนนี้ ก็ยังไม่ทราบว่าตนเองได้ล้ำกลืนฝืนทนมามากมายถึงเพียงใด หากมิใช่ว่าได้เข้าสู่ขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายมาตั้งแต่แรกเราละก็ ตอนนี้เขาอย่างน้อยก็คงต้องตายจบไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

การกลับมายังลัทธิแห่งดวงดาวในครั้งนี้ เขาถือได้ว่าได้ทำสิ่งที่เป็นการตัดสินใจที่แย่ที่สุดลงไป หากว่าลัทธิแห่งดวงดาวได้เคลื่อนไหวบางอย่างลงไปแล้วละก็ เขาก็จะนำพาปู่เหยียนจากไป หรือก็คือหลิงเยว่ในตอนนี้ แล้วยังมีน้องสาวเยี่ยจงจากไปด้วยกัน

 

แต่ว่า เขาก็คิดไม่ถึงว่าจะได้รับการต้อนรับด้วยสายตาที่เป็นมิตรถึงเพียงนี้

 

“ กึก ——”

 

ท่ามกลางอากาศ พริบตานั้นก็ได้มีร่างสายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาในทันที คู่ที่มามีอายุประมาณห้าสิบปี สวมไว้ด้วยชุดสีเขียว เขามองไปบนร่างกายของเยี่ยจงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ กลับมาแล้วก็ได้ เรื่องราวอื่นหลังจากนี้ค่อยว่ากัน เช่าตามคาดไปรักษาอาการบาดเจ็บก่อนเถอะ “

 

“ นั้นคือ …… ท่านจ้าวลัทธิ ! ?”

 

ศิษย์ลัทธิแห่งดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนทางด้านล่าง ก็ได้เหม่อมองไปยังเงาร่างที่ได้ปรากฏตัวออกมา สีหน้าของแต่ละคนทอแววประหลาดใจขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เพราะว่าพวกเขาจดจำออกว่า คนผู้นี้แท้จริงแล้วก็คือท่านจ้าวลัทธิที่เล่าลือกันผู้นั้น

 

กล่าวกันว่า ท่านจ้าวลัทธิแห่งลัทธิแห่งดวงดาวผู้นี้ ได้เข้าสู่ระดับชนชั้นราชันมานานหลายปีตั้งแต่แรกแล้ว ในด้านของพลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณ ยิ่งเป็นที่เลื่องลือ เขาได้มีการเตรียมพร้อมที่จะทะลวงเพื่อที่จะเข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้า ในระดับคุณสมบัติระดับมหาราชันแล้ว เพียงแต่ว่าเขายังคงมีภาระหน้าที่มาโดยตลอด จึงมิได้เข้าสู่ขอบเขตไป

 

และบุคคลที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ถือกลับปรากฏขึ้นมาด้วยตนเอง เห็นได้ชัดให้ความสำคัญต่อเยี่ยจงอย่างถึงที่สุด

 

เห็นได้ชัด บุคคลเบื้องหน้าสายตานั้นมิใช่ใครอื่น แท้จริงแล้วก็คือท่านจ้าวลัทธิอันหงแห่งลัทธิแห่งดวงดาวเอง

“ น้อมพบท่านจ้าวลัทธิ เพียงแต่ …… ”เยี่ยจงทอสีหน้ากังวลพร้อมกับน้อมกายทำความเคารพกับอันหง เอ่ยปากขึ้นมาเสียงแผ่วเบา

 

“ เอาเถอะ น้องสาวเจ้าไม่เป็นไรหรอก หลังจากเรื่องที่ได้ส่งมาจากราชวังต้าโจว ข้าก็ได้ให้นางอยู่ภายในพักอยู่ในตำหนักทักษะ มีหลิงเยว่คอยชี้แนะสอนให้นาง เจ้าน่าจะวางใจ …… ตอนนี้สภาพของเจ้าแย่ถึงที่สุด ควรจะไปรักษาอาการบาดเจ็บก่อน เรื่องอื่นหลังจากนี้ค่อยว่ากัน “ อันหงมองเข้าไปยังดวงตาของเยี่ยจงอย่างลึกซึ้ง ทอสีหน้าประหลาดขึ้นมา “ เจ้าวางใจเถอะ เรื่องของเจ้า ข้าจะไม่ถามออกไป ข้าขอเพียงบอกต่อเจ้าคำหนึ่ง กับสิ่งที่ข้าเคยบอกไป ขอเพียงเจ้าเป็นศิษย์ลัทธิแห่งดวงดาวของข้า ขอเพียงเจ้าไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดต่อสำนัก เช่นนั้นเจ้าก็ยังคงเป็นศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวเราตลอดไป ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง สายตาของอันหงก็ได้กวาดเข้ามาอย่างหนักแน่นคล้ายกำปั้น จากนั้นก็ได้เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงน้ำเสียงเย็นชา “ นับจากวันนี้เป็นต้นไป หัวเมืองของเมืองหมื่นดารา ทั้งภายในและภายนอก จะเริ่มการเปิดใช้ค่ายกลใหญ่ขึ้น เรื่องที่เยี่ยจงได้กลับมายังลัทธิ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจแพร่งพรายออกสู่ภายนอก ไม่เช่นนั้น ตายสถานเดียว ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง อันหงเจินโบกมือขึ้นคราหนึ่ง แล้วก็ได้นำเยี่ยจงไป มุ่งหน้าไปยังภายในส่วนลึกของลัทธิแห่งดวงดาวอย่างรวดเร็ว

 

บริเวณทางด้านล่าง ศิษย์จำนวนมากก็ได้งงงันขึ้นมาอย่างช้าๆ มีแต่เพียงศิษย์ที่มีความสามารถที่ไม่ธรรมดา จึงจะสัมผัสได้ถึงความคับขันของลัทธิแห่งดวงดาวในครั้งนี้ได่ ราวกับเป็นเพราะว่าเยี่ยจงได้นำพาเรื่องยุ่งยากเข้ามาให้ซะแล้ว

 

และเหล่าผู้อาวุโสและเจ้าตำหนักต่างก็สบตามองกัน ภายในสายตาก็ได้ปรากฏสีหน้าความกังวลขึ้น

 

พรสวรรค์ความสามารถของเยี่ยจง ถือได้ว่าเป็นที่น่าตกใจของแดนดิน การมีศิษย์เช่นนี้ปรากฏขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นสำนักใดก็ตาม แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นเรื่องที่ดีเรื่อง เพราะว่า ขอเพียงเขาเติบโตขึ้นมาได้ ก็จะสามารถปกปักรักษาสำนักได้หลายปี รวมไปถึงสามารถสร้างชื่อเสียงอันเกรียงไกรให้กับสำนักได้นานนับหมื่นนับพันปี กลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งแห่งยุค

 

แต่ว่า เยี่ยจงกลับกลายเป็นที่น่าแตกตื่นมากอยู่หลายส่วน ! เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึงก่อน อย่างเช่นตระกูลถัง ตำหนักอัสนีลี้ลับ สำหนักเสวียนหวิน ขุมกำลังใหญ่อย่างเผ่าปีกเป็นต้น พวกเขาคงจะมิอาจปล่อยไปเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน

 

ควรทราบว่า ไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังใดเหล่านี้ต่างก็ถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่าลัทธิแห่งดวงดาวอยู่มาก กระนั้น เมื่อต้องมาเปรียบเทียบกับสิ่งมีชีวิตใหญ่โตเหล่านี้ ลัทธิแห่งดวงดาว ก็เหมือนดั่งมดแมลงเท่านั้นเอง

 

แต่สำนักปลายแถวเช่นนี้กลับมีสุดยอดรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งอยู่ ความจริงแล้วเรียกได้ว่าไม่สมควรที่จะมาอยู่ท่ามกลางสำนักเช่นนี้จึงจะถูกต้อง เพราะว่า เมื่อเทียบกับแดนลับแลเหล่านั้น ที่มีประวัติอันยาวนาน ลัทธิแห่งดวงดาวก็ถือได้ว่าอ่อนแอ อีกทั้งยังเรียกได้ว่าอ่อนแอจนเกินไป ……

 

ยิ่งไปกว่านั้น จากข่าวลือที่ได้ส่งกลับมา เยี่ยจงถึงกับสามารถใช้ออกด้วยวิชาแขนกิเลน ตราราชาแดนมนุษย์ และเรียนรู้วิชาอย่างดำดินรุกคืบได้ เห็นได้ชัด นี้ต่างก็เป็นสมบัติมีค่าที่เขาได้รับมาจากท่ามกลางสมรภูมิฮวงกู่ หรือก็คือวาสนาของตัวเขาเอง

 

แต่ว่าคำถามก็คือ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ต่างก็เป็นทักษะเซียน ยิ่งเหนือกว่าความคาดหมายนั้นก็คือมนต์ตราเทพ ควรทราบว่า แม้แต่ลัทธิแห่งดวงดาวก็ยังไม่มีมนต์ตราเทพประจำสำนักเลยสักอย่าง สิ่งเหล่านี้กลับปรากฏขึ้นบนตัวของเยี่ยจง ทั้งยังดึงดูดความโลภของบุคคลภายนอกเข้ามา

.

.

.

.

กลุ่มลับ ติดต่อได้หลังไมค์(INBOX FANPAGE) ครับ

80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/9/10 ราคา 600
กลุ่ม4 https://goo.gl/ESwaou ตอนที่ 291-370
กลุ่ม5 https://goo.gl/ekcF7V ตอนที่ 371-450
กลุ่ม6 https://goo.gl/4rqw89 ตอนที่ 451-530
กลุ่ม7 https://goo.gl/qrQ7GA ตอนที่ 531-610

กลุ่ม8 https://goo.gl/Uzqf2x ตอนที่ 611-690

กลุ่ม9 https://goo.gl/1jPZtn ตอนที่ 691-770

กลุ่ม10 https://goo.gl/L8awva ตอนที่ 771-850 ล่าสุด 796 26/80ตอน

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset