ตอนที่ 358 ท้าทาย
สีหน้าของเยี่ยจงได้ทอแววประหลาดใจขึ้นมา มีคนของขุมกำลังที่มีนามจากลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวมา เพื่อที่ขอลงมือทำการประลองแลกเปลี่ยนกัน แต่กลับทำให้คนของลัทธิแห่งดวงดาวบาดเจ็บไปมากมาย ? นี้ใช่เรื่องที่ทางสาขาหลักต้องทำต่อสำนักสาขาอย่างงั้นหรือ?
เพียงแต่ว่า ในตอนนี้ซูหนี่ก็มิได้กล่าวถึงเรื่องอื่น เห็นได้ชัดว่าคนที่มาจากลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวเหล่านี้ มีที่มาที่ไปที่ไม่ต่ำทรามเลย อย่างน้อยก็จัดอยู่ในระดับชั้นที่ลัทธิแห่งดวงดาวไม่กล้าที่จะลวงเกินพวกเขาได้ ดังนั้นเรื่องราวถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ได้
“ใช่แล้ว หลิงเยว่และน้องสาวข้าเล่า ? “ทันใดนั้นเองเหมือนกับพึ่งนึกอันใดขึ้นมาได้ เยี่ยจงก็ได้ขมวดคิ้วแล้วถามออกมา
“ศิษย์พี่น้องสาขาในของพวกเราห้าอันดับแรกต่างก็ยังเก็บตัวฝึกปรือกันอยู่ ยังไงเสียก็ยังคงไม่ปรากฏตัวขึ้นมาแน่ คนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวอะไรนั้นไม่ทราบว่าได้ยินมาจากที่ได้ ได้บอกว่าศิษย์พี่หลิงเยว่ของลัทธิแห่งดวงดาวเรานั้นถือได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งแห่งผู้ใช้ยันต์ปราณ พวกเขาคิดที่จะกระชับไมตรีกับศิษย์พี่ ความจริงศิษย์พี่หญิงเตรียมที่จะไม่ตอบรับพวกเขาอยู่แล้ว แต่ว่าพวกเขากลับกล่าวหาว่า ลัทธิแห่งดวงดาวไร้ผู้คน คำเล่าขานก็มีแต่เกินเลยเท่านั้น อีกทั้งยังดูถูกและเหยียดหยามอีก น้องสาวเยี่ยถงทนไม่ได้กับการท้าทาย อดที่จะต้องลงมือมิได้ ศิษย์พี่หลิงเยว่เป็นห่วงขึ้นมา ดังนั้นจึงได้ติดตามไป พวกเขาตอนนี้ยังไปได้ไม่นานนัก “ซูหยี่บอกกล่าวออกมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน อีกทั้งยังแอบเหลียบตามองไปทางด้านเยี่ยจงอยู่หลายครา ตอนนี้เยี่ยจงมีชื่อเสียงเรียงนามที่เกรียงไกรเป็นอย่างมาก ต่อให้ซูหยี่เป็นศิษย์พี่ของเขา แต่ว่าในขณะที่พูดจาอยู่ก็ยังเกิดความประหม่าอยู่หลายส่วน
“กล่าวอย่างง่ายๆก็คือ เจ้าเด็กน้อยเหล่านั้นที่มาจากลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว ต้องการที่จะลงมือกับน้องสาวข้าและศิษย์พี่หลิงเยว่อยู่แล้วงั้นหรือ ? “เยี่ยจงหัวเราอออกมาอย่างเย็นเยียบ บนใบหน้าก็ได้เผยความเยือกเย็นขึ้นมา เขาพอที่จะคาดเดาออกมาได้ ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวนี้อย่างน้อยคงต้องได้รับข่าวสารอันใดมา จึงได้มุ่งเป้ามาที่ตนเอง แต่ว่าพวกเขากลับลงมือเช่นนี้ออกมา อีกทั้งยังดูแคลนเยี่ยจง ตอนนี้ภายในดวงตาของเขาก็ได้มีแต่เพียงความเย็นเยียบขึ้นมา ก่อเกิดรังสีสังหารแผ่ออกมา
“ถ้างั้นยังจะรออันใด ศิษย์พี่ซูหยี่ท่านนำทาง ข้าก็อยากจะเห็นเหมือนกัน มีเป็นผู้ใดกันที่หาญกล้าแตะต้องน้องสาวข้ากับศิษย์พี่หลิงเยว่กัน ! “เยี่ยจงยิ้มออกมาอย่างเย็นเยียบ เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ซูหยี่ลังเลวูบ ท้ายที่สุดก็ได้พยักหน้า นางเคยเห็นเยี่ยจงผ่านเส้นทางกายเนื้อไม่สูญสลายมาก่อน ย่อมเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าศิษย์น้องผู้นี้ของตนเองในตอนนี้มีความน่าหวาดกลัวอยู่ในระดับใด ถ้าหากเป็นเขาลงมือแล้วละก็ คาดว่าจะต้องจัดการกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน
ในขณะที่ซูหยี่กำลังนำทางไปอยู่ ทั้งสองคนก็ได้ออกไปจากเขตภายในอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าออกไปทางด้านที่ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวอยู่ในตอนนี้
ตลอดรายทางมานี้ มีคนไม่น้อยที่พบเห็นการปรากฏตัวของเยี่ยจง ต่างก็เกิดอาการยินดีขึ้นมา กับเรื่องก่อนหน้านี้ ที่เยี่ยจงได้เก็บตัวไปหลายชั่วคืนวัน แล้วก็ได้มีการข้องแวะมาของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว ในระหว่างนั้นที่ได้ทำการแลกเปลี่ยนวิชากันในช่วงนั้นก็ได้ถูกทำให้เสียหน้าไปทีละคน จนเรียกได้ว่าขายหน้าอย่างถึงที่สุด โดยเฉพาะเหล่าศิษย์พี่ทั้งหลายที่มีความแข็งแกร่งของลัทธิแห่งดวงดาวต่างก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาในการเก็บตัวฝึกฝนอยู่ ต่างก็ไม่มีผู้ใดสามารถออกมาล้างอายให้แก่พวกเขาได้ คนเหล่านี้จึงได้เกิดความคับแค้นใจอยู่ไม่น้อย ในตอนนี้เมื่อพบเห็นว่าเยี่ยจงได้เกิดความเคลื่อนไหวออกมา มีคนไม่น้อยที่พอจะคาดเดาได้ว่าเป็นเรื่องอันใด จึงได้ติดตามไปด้วยความยินดี
ในสองปีมานี้ เยี่ยถงน้องสาวของเยี่ยจงถือได้ว่ามีชื่อเสียงภายในลัทธิแห่งดวงดาวอยู่ไม่น้อย อีกทั้งยังมีเหล่าศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวอยู่ส่วนหนึ่ง ในตอนนี้ได้กระตุ้นโทสะของเยี่ยถง จนเข้าไปท้าทายกับลูกศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว อีกทั้งในตอนนี้ยังพบเห็นสีหน้าของเยี่ยจงว่าปั้นยากถึงเพียงใด พวกเขาก็พอที่จะคาดเดาได้ว่า กว่าแปดส่วนว่าเยี่ยจงจะต้องลงมืออย่างแน่นอน
“ศิษย์พี่เยี่ยจง ต้องดูท่านแล้วละ ข้าอยากเห็นเหมือนกันว่าเจ้าเด็กน้อยของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวกลุ่มนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าศิษย์พี่ทานแล้วจะกล้าสามหาวอีกหรือไม่กัน “
“ศิษย์พี่ท่านถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่สุดของสำนักเรา เรื่องที่ถูกพวกเขากดขี่มา ศิษย์พี่ ต้องดูท่านจัดการยังไงแล้ว “
มีคนกลุ่มหนึ่งร้องเรียกขึ้นมา เพิ่มเป็นการกระตุ้น เห็นได้ชัดว่า จุดยืนชื่อเสียงของเยี่ยจงในลัทธิแห่งดวงดาวในตอนนี้ถือได้ว่ายิ่งใหญ่อยู่ไม่น้อย เหล่าศิษย์สาขาในกลุ่มใหญ่ต่างก็ติดตามมาตามด้านหลังของเขา มุ่งหน้าหมายฆ่าสังหารออกไปทางด้านที่ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวกลุ่มนี้อยู่
เยี่ยจงพยักหน้าตอบรับ แต่ก็มิได้กล่าวอันใดออกมา เพียงแต่มุ่งหน้าเดินทางต่อไป คนกลุ่มนี้แทบจะเป็นศิษย์สาขาในของลัทธิแห่งดวงดาวโดยทั้งสิ้นต่างก็ติดตามไปด้วยความปลื้มปริม
“นั้นก็คือหอคอยชมดาว ตามปกติมีเพียงเหล่าผู้อาวุโสส่วนหนึ่งของสาขาในจึงจะสามารถพักอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้ได้ แต่ว่าในครั้งนี้กลับให้เหล่ากลุ่มคนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวพักอาศัย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพวกเขาถึงกลับไม่เห็นแก่หน้าถึงเพียงนี้ “มีคนร้องออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา ภายในน้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่เต็มใจ
เยี่ยจงก็ได้พยักหน้าอีกหลายครา แต่ก็ยังคงมิได้กล่าวอันใด
…………
ณ หอคอยชมดาว สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในสถานที่พิเศษเฉพาะของลัทธิแห่งดวงดาว กล่าวกันว่าได้ถูกปลูกสร้างมาจากครั้งสมัยโบราณกาล เป็นเหมือนดั่งการคงอยู่ของลัทธิแห่งดวงดาว ในตอนนี้ ทางด้านหน้าของหอคอยชมดาวและทะเลสาบ ก็ได้มีการประจันหน้ากันของทั้งสองฝ่าย
อยู่ทางด้านหนึ่งของหอคอยชมดาว ในตอนนี้ก็ได้มีชายหนุ่มอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปี เขาสวมไว้ด้วยชุดปักลายงูเหลือม ใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความโอหัง เขาจ้องมองไปยังสายน้อยสองนางที่อยู่ฝั่งตรงข้าม สาดประกายแววตาคมกล้าไม่แยแสออกมาแม้แต่น้อย
“เหอะเหอะเหอะ เยี่ยมมาก ได้ยินได้ฟังว่าหลิงเยว่แห่งลัทธิแห่งดวงดาวมีความงดงามดุจดั่งนางฟ้า ถูกขนาดนามว่าเป็นหนึ่งในสิบความงดงามแห่งดินแดนซีฮวง วันนี้เมื่อได้พบพาน ถึงกับไม่ธรรมดาอย่างแท้จริง เมื่อเทียบกับนางชิงหญิงแห่งแดนปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ เทพหญิงแห่งลัทธิเทพแดนลี้ลับก็ถือได้ว่ามิได้ด้อยแม้เพียงสักนิด น่าเสียดาย น่าเสียดายอย่างมาก …… ” ชายหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมยิ้มออกมาเล็กน้อย เผยให้เห็นถึงฟันสีขาวโพลน “นางเซียนหลิงเยว่ เจ้าในเมื่อความงดงามเช่นนี้ มาอยู่ในสถานที่ลัทธิแห่งดวงดาวแห่งนี้ก็ช่างน่าเสียดายจนเกินไปแล้ว เอาเช่นนี้ท่านติดตามข้ากลับไป กรายเข้าสู่ลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวข้า ไม่แน่ว่าวันข้างหน้าเจ้าอาจจะได้กลายเป็นปราชญ์หญิงแห่งลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวเรา มีศักดิ์ฐานะจวบสุดขอบแดน วันข้างหน้า เจ้าข้าก็จะกลายเป็นคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด มีชีวิตที่เปี่ยมด้วยความสุข …… ”
หลิงเยว่ยืนอยู่บริเวณใจกลางพื้นที่ ขมวดคิ้วอันดกดำช้าๆจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมที่อยู่เบื้องหน้าสายตา ในตอนนี้นางถึงแม้จะกำลังขมวดคิ้วอยู่ แต่สีหน้ากลับทอแววเย็นชาออกมาอยู่หลายส่วน แต่ว่าก็ยังมีทรงเสน่ห์จนละลานตาดุจดั่งแสงที่ทอมาจากจันทรา ดุจดั่งต้นไม้ท่ามกลางหิมะที่สงบเงียบ งดงามจนสามารถล้มเมืองได้ มีความงดงามยากที่จะเทียบได้
นางจ้องมองออกไปอย่างเย็นชา หลังจากที่ได้กวาดสายตามองไปยังบนร่างของเด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือม แล้วก็ได้ทิ้งตัวลงอยู่ทางด้านข้างของเยี่ยถง
ในช่วงเวลานี้เยี่ยถงนับได้ว่ามีอายุที่เพิ่มมากขึ้นอย่างน้อยก็สองปีแล้ว เปรียบดั่งบุษผาที่เบิ่งบาน ทอความงดงามออกมาไม่ขาด เพียงแต่ว่า นางและหลิงเยว่กลับมีท่าทางที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง หากกล่าวว่าหลิงเยว่เป็นดั่งความงดงามของขุนเขาในฤดูเหมันต์แล้วละก็ เช่นนั้นนางก็เหมือนดั่งดอกทานตะวันที่เบิ่งบานรับแสงตะวัน
ในตอนนี้นางก็ได้จ้องมองไปทางด้านเด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมด้วยแววตาเกลียดชัง บนใบหน้าอันเล็กเรียวก็ได้อยู่ในอาการขบเคี้ยวเขี้ยวฟันเอาไว้อยู่ กล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา “ศิษย์พี่หลิงเยว่ เจ้าลูกเดรัจฉานผู้นี้กล่าวอันใดข้าก็ไม่สนใจ แต่ว่าในเมื่อถึงกับกล้าใส่ร้ายพี่ชายเยี่ยจงข้า ข้าย่อมไม่อาจที่จะปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน
“แต่ว่าก็เป็นเพียงแต่คนนอกเพียงคนเดียวเท่านั้น “หลิงเยว่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ น้ำเสียงของนางมิได้มีแม้แต่ความเย้ยหยัน ไม่มีแม้แต่ความโกรธเกลี้ยว ภายในสายตาของนาง เด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมผู้นี้ก็เป็นเพียงแค่คนนอกผู้หนึ่งเท่านั้น มิได้มีความสัมพันธ์หรือไปมาหาสู่อันใดกันมาก่อน
แต่ว่า คำพูดนี้ของหลิงเยว่ กลับทำให้ร่างกายของเด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมผู้นีสั่นเทาขึ้นมาน้อยๆ ภายในดวงตาก็ได้สาดประกายความอาฆาตขึ้นมา นั้นก็เพราะว่า เรื่องเช่นนี้เมื่อถูกกล่าวออกมาจากเขา เมื่อเทียบกับการถูกหลิงเยว่เย้ยหยันเสียอีก จึงได้ทำให้เขาเกิดความไม่ยินดีขึ้นอย่างถึงที่สุด แต่ว่าภายใต้ความเย็นเยียบเช่นนี้ ภายใต้ความไม่เหลียวแล จึงได้ทำให้เขาเกิดความเพลิงแค้นขึ้นมาภายในจิตใจ
“เหอะเหอะเหอะ นางเซียนหลิงเยว่ เจ้ายังคงติดตามน้องสาวผู้นี้กลับไปกับข้าอย่างว่าง่ายเถอะ ขอเพียงพวกเจ้าติดตามข้ากลับไป ข้าขอรับรองว่า จากนี้ไปจะไม่มีผู้ใดมาตอแยกับลัทธิแห่งดวงดาวของพวกเจ้าอีก ไม่เช่นนั้นถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ข้าเกรงว่าสาขาในของพวกเจ้านี้ คงจะต้องพิการเพราะข้าไปจนหมดสิ้นแล้ว “ทันใดนั้นเด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมก็ได้หัวเราะออกมาอย่างดุร้ายขึ้นมา เอ่ยขึ้นมาจากมุมปาก
“เจ้า —— ” เยี่ยจงโกรธขึ้นมาอย่างรุนแรงกว่าเดิม ย่างกรายออกทีละก้าว ร่างกายดุจดั่งสัตว์ตัวน้อยๆกำลังโกรธเคืองขึ้นมาก็มิปาน มุ่งหน้าหมายปะทะเข้าไปทางด้านหน้า ในตอนนี้ร่างกายของนางก็ได้ก่อรวมไว้ด้วยพลังกลุ่มก้อนหนึ่ง แท้จริงแล้วนี้ก็คือพลังในขั้นก่อฟ้าขอบเขตความสำเร็จขนาดเล็กนั้นเอง
“ตูม —— ”
ดาวตกสีแดงฉานลูกหนึ่งก็ได้พุ่งเข้าปะทะออกมา จนเกิดการสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้าดิน พรสวรรค์ของเยี่ยถงเรียกได้ว่าไม่ด้อยเลยแม้แต่น้อย ในสองปีที่อยู่ภายในลัทธิแห่งดวงดาวนี้ นางมิได้เอาแต่จับเจ่าอยู่เฉยๆ เพียงแค่ลงมือออกไปเพียงครั้งเดียว ก็ได้ก่อเกิดพลังทำลายอันน่าหวาดกลัวขึ้นมาชนิดหนึ่ง
“ไอ๊หยาหยา ช่างร้ายกาจเสียจริงเชียว น่าเสียดายที่ข้าผู้นี้ยังคงถือว่าสงสัยบุษผาหยกงามอยู่เล็กน้อย ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ เหอะ —— ”
แล้วก็ได้มีเสียงหัวเราะขึ้นมาเบาๆ แล้วก็ได้พบว่าเด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมได้ใช้ออกมาด้วยพลังดัชนี จนก่อเกิดเสียงตัดสายลมพวยพุ่งออกมา แล้วก็ได้ยินเสียงโครมดังติดต่อกันออกมา เข้าปะทะกับทักษะยุทธ์ที่เยี่ยจงใช้ออกมาจนแตกกระจายลง จนทำให้ร่างกายของนางยิ่งทวีการสั่นไหวขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิมในขณะนี้ กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง
“ที่แท้ก็เป็นได้แค่สวะเท่านั้นเอง ต่อให้มีความงดงามอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเป็นได้แค่สวะเท่านั้น “เด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมก็ได้ส่งเสียงเย็นชาออกมา ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย จนทำให้ใบหน้าน้อยๆของเยี่ยถงขาดซีดขึ้นมาในทันที นางกัดฟันไปมา เตรียมตัวที่จะลงมือต่อ
“เจ้ามิใช่คู่ต่อสู้ของเขา เขาถึงแม้จะเป็นคนที่โอหัส แต่ว่าก็ถือได้ว่ามีความสามารถอยู่หลายส่วน “หลิงเยว่ขยับมาจนถึงข้างกายของเยี่ยถงอย่างรวดเร็ว พยุงนางลุกขึ้นมา เอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา “ยังคงมอบให้แก่ข้าเถอะ “
หลังจากที่สิ้นเสียง ภายในสายตาของนางก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นเย็นเยี่ยมอย่างไร้ที่เปรียบ วินาทีนั้น ท่ามกลางอากาศรอบด้านในตอนนี้ราวกับอุณหภูมิต่ำลงเรื่อยๆ ระหว่างฟ้าดิน ราวกับก่อเกิดหิมะร่วงหล่นลงมา
“ศิษย์พี่ เรื่องนี้มอบให้ข้าจัดการเองเถอะ “
ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีเสียงอันเย็นเยียบดังออกมาจากทางบริเวณทางด้านหลัง จนทำให้หลิงเยว่และเยี่ยถงที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ต่างก็หันกายกลับไปมอง
“เยี่ยจง เจ้าหายดีแล้ว ? “หลิงเยว่หันกายมา ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มอันแผ่วเบา วินาทีนั้นหิมะน้ำแข็งก็ได้ค่อยๆเลือนหายไป กลับคืนดั่งภาพอันงดงามดั่งเดิม
“พี่ พี่ไม่เป็นแล้วหรือ ? “เยี่ยถงหันหน้ากลับมา จากนั้นก็ได้พุ่งตัวออกไปดุจสัตว์ตัวน้อยๆก็มิปาน เพียงชั่วครู่เดียวก็ได้เข้าไปอยู่ทางด้านข้างของเยี่ยจง
“เป็นสาวเป็นนางอยู่ในเรือน ทำไมถึงได้เปลี่ยนจนกลายเป็นดุจดั่งพายุโหมไฟได้ขนาดนี้กัน เจ้าติดตามศิษย์พี่หลิงเยว่มาตั้งสองปี ทำไมไม่รู้จักเรียนรู้ให้มันดีๆหน่อย “เยี่ยจงยื่นมือเข้าไปลูบที่ศีรษะเยี่ยจงเบาๆ ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความเอ็นดูขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้ตรวจสอบเส้นลมปราณของเยี่ยจถง แล้วจึงได้หยิบโอสถปราณออกมาเพื่อทำการรักษานาง จากนั้นเขาก็ได้หันไปพยักหน้าให้กับหลิงเยว่ แล้วก็ได้ยิ้มขึ้นมา จ้องมองไปยังบริเวณท่ามกลางสนาม และในขณะนั้นเอง สายตาของเขาก็ได้เปลี่ยนจนกลายเป็นเย็นเยียบขึ้นมา
บริเวณท่ามกลางสนาม เด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมก็ได้ขมวดคิ้วเข้าชนกัน เขาจ้องมองไปยังเยี่ยจงที่ได้ปรากฏกายขึ้นมา เป็นเพราะว่าการปรากฏตัวของเขา พริบตานั้นก็ได้เห็นรอยยิ้มออกมาจากใบหน้าของหลิงเยว่ สีหน้าของเขา ในตอนนี้ก็ได้กลายเป็นเย็นเยียบขึ้นมาอย่างถึงที่สุด
ทว่าในพริบตานั้นเอง เด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมก็ได้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าฟันขึ้นมา “เจ้าก็ได้เยี่ยจงที่ถูกเล่าขานกันผู้นั้นอย่างงั้นหรือ ? “
“ก็คือก็เยี่ยจง แต่ว่าจะใช่อย่างที่เล่าขานกันนั้นหรือไม่ ข้าก็ไม่แน่ใจเช่นเดียวกัน “เยี่ยจงเย็นชาขึ้นมา คำพูดยิ่งเย็นชายิ่งกว่า
“เยี่ยมมาก “เด็กหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมพยักหน้าตอบรับ ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความตั้งใจที่จะต่อสู้ขึ้น “ต่างก็กล่าวกันว่าเจ้าเป็นถึงสุดยอดฝีมือแห่งรุ่นของเผ่าพันธุ์ เข่นฆ่ากลุ่มอัจฉริยะไปนับไม่ถ้วน ข้าในวันนี้จะขอลองทดสอบดูว่า เจ้าที่แท้มีคุณสมบัติพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือหรือไม่ หรือว่าจะเป็นได้เป็นแค่เพียงศิษย์สำนักสาขาผู้หนึ่งเท่านั้นเอง “
“ข้าไม่มีกระจิตกระใจที่จะกล่าววาจาไร้สาระกับเจ้า “เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชา ทั้งยังเย็นเยียบยิ่งกว่าเดิม “ข้าให้เวลาเจ้าเพียงหนึ่งชั่วน้ำเดือด เจ้าเมื่อครู่ใช้มือข้างไหนทำร้ายน้องสาวข้า ก็จัดการสำเร็จโทษตัวเองซะ รอคอยจนข้าต้องลงมือเอง จะมิใช่การเรื่องแค่การหักแขนข้างเดียวของเจ้าแล้วจะผ่านเลยไปได้หรอกนะ “
.
.
.
.
กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่นพิเศษ เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8/9/10/11 ราคา 500
VIP4 https://goo.gl/ESwaou
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/
