เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 359 ศิษย์มากมายแห่งลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว

ตอนที่ 359 ศิษย์มากมายแห่งลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว

 

 

“ เหอเหอเหอ หลายวันมานี้ข้าได้ยินคนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวเอาแต่ลือกันว่า เยี่ยจงแห่งสาขาย่อยโอหังอย่างไร้ที่เปรียบ วันนี้ได้พบพาน ที่แท้ก็เป็นความจริง เจ้ายังคิดจริงหรือว่าตนเองเป็นสุดยอดอันดับหนึ่งแห่งเผ่าพันธุ์จริงอย่างงั้นหรือ ? “ ชายหนุ่มชุดปักลายงูเหลือมนามจ่งหลี่เยียหัวเราะเสียงดังกังวาลออกมาจากที่ห่างไกล ใบหน้าของเขาทอแววดุร้ายเต็มสิบส่วน ทันใดนั้นเองก็ได้กระโดดลอยอยู่ท่ามกลางอากาศขึ้นมา แผ่พุ่งพลังแท้จริงไหลเวียนไปมา ปกคลุมไปด้วยพลังอักขระ กลายเป็นดุจดั่งประกายดาวตกดวงหนึ่งเลยก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปบริเวณทางด้านหน้าออกไป

 

เยี่ยจงจ้องมองไปยังการโจมตีอย่างเรียบเฉย หลังจากนั้นก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังดัชนีเพลิงดารา เขาเพียงหัวเราะขึ้นมาเสียงเบาๆ จากนั้นก็ได้ยื่นมือขวาออกไป ฟาดออกหนึ่งฝ่ามือออกไปบริเวณทางด้านหน้า

 

“ เปรี้ยง —— ”

 

จนก่อเกิดแสงสีแดงเพลิงพวยพุ่งออกมา ช่างน่าเศร้าที่ดาวตกดวงนั้น กลับถูกฝ่ามือเดียวของเยี่ยจงตบจะระเบิดออก กลายเป็นเพียงประกายสายฝนนับไม่ถ้วนสาดเทลงมาจากทั่วทั้งฟากฟ้า

 

“ โครม —— ”

 

จ่งหลี่เยียร่างกายที่ลอยคว้างอยู่ท่ามกลางอากาศที่อยู่ กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง เมื่อครู่ทันใดนั้นเอง ยิ่งไปกว่านั้นเยี่ยจงยังมิได้ใช้ออกด้วยพลังปราณแม้แต่น้อย พึ่งพาแต่เพียงพลังกายภาพอันมหาศาลของตนเองจู่โจมออกไปเท่านั้น นี้สามารถกล่าวได้ว่า เยี่ยจงมีพลังเหนือกว่าพวกเขาไปมาก ในขณะนี้เอง จ่งหลี่เยียจ้องเขม็งมองเข้าไป แม้แต่เขาเองก็ยังคิดไม่ถึง ในช่วงเวลาที่เขาได้รังแกศิษย์คนอื่นๆของลัทธิแห่งดวงดาว โดยส่วนมากแล้วก็เป็นฝ่ายกระทำเพียงฝ่ายเดียว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาเมื่ออยู่เบื้องหน้าเยี่ยจง ตรงพ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้

 

“ เล่าลือกันว่าขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย ที่แท้ก็ไม่ธรรมดา …… ทว่า เจ้าในเมื่อกล้าทำร้ายข้า เจ้าก็เหมือนกับหาที่ตายแล้ว ! ” จ่งหลี่เยียเช็ดโลหิตที่ไหลออกมาจากมุมปาก ทั้งยังเอ่ยขึ้นมาอีกหลายคำด้วยความเจ็บแค้นและตื่นตระหนกอยู่หลายส่วน

 

“ เจ้าไม่ยอมลงมือด้วยตนเองแล้วละก็ งั้นข้าจัดการเอง ” สีหน้าของเยี่ยจงราบเรียบเย็นชา คู่ต่อสู้ที่อยู่สมรภูมิฮวงกู่ ต่างก็ถือเป็นอัจฉริยะแห่งเผ่าพันธุ์ จ่งหลี่เยียเบื้องหน้าสายตาต่อให้มีความสามารถอื่นใด ยังไงเสียก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะต่อกรกับเขาได้

 

หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงก็ได้ก้าวเดินออกมาอย่างสบาย แม้แต่พลังที่แท้จริงก็คร้านที่จะใช้ออก เพียงแต่ค่อยๆก้าวเข้าไปเช่นนี้ เพียงแต่ว่า เขาต่อให้ไม่มีความตั้งใจก็ตาม บนร่างกายในตอนนี้ก็ได้แผ่กระจายพลังทำลายอันแข็งแกร่งชนิดหนึ่งออกมา ทุกๆการย่างก้าว จะทำให้จ่เท้าของงหลี่เยียยิ่งริ่มชาขึ้นทีละน้อย มีเหงื่อไหลออกมาจากศีรษะ

 

 

จ่งหลี่เยียกัดฟันไปมา ต่อให้เขาทราบดีอยู่แล้วว่าระดับระหว่างตนเองและเยี่ยจงนั้นอยู่ห่างจนเกินไป หากว่ากล่าวออกมาจากมุมมองของเขา ถือได้ว่าเป็นการถูกคุกคามครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะว่าความจริงแล้วเขาความภูมิใจในตนเองอย่างถึงที่สุด คิดว่าเยี่ยจงคงจะมีชื่อเสียงอย่างบังเอิญเท่านั้น แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงจะมีความแข็งแกร่งได้จนถึงขั้นนี้ เพียงแค่การเข้าเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ก็ได้ทำให้ศีรษะของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

“ ตูม —— ”

 

พริบตานั้นเอง จ่งหลี่เยียก็ได้ชักสมบัติปราณหลายชิ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อทำการคุ้มครองร่างกาย ในเวลาเดียวกันก็ได้ใช้ออกมาด้วยทักษะยุทธ์ เพื่อที่จะใช้มาเพื่อต่อกรกับพลังอันแข็งแกร่งขนาดนี้ของเยี่ยจง เขาจึงต้องทุ่มเทอย่างสุดกำลังเท่านั้น

 

“ โครม —— ”

 

แต่ทว่า ระดับของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันจนเกินไป เยี่ยจงยื่นมือขว่ออกมา มุ่งหน้าชี้เข้าไปบริเวณทางด้านหน้า

คนผู้นี้ต่อให้เป็นผู้มีพรสวรรค์อันน้อยนิดจากลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว อย่างน้อยเด็กน้อยผู้นี้ก็ถือได้ว่ามีพลังฝึกปรือจนถือพลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณความสำเร็จเล็กแล้ว เขาพรมทักษะยุทธ์ออกไปทางด้านของเยี่ยจงจนแตกระเบิดออกมาเป็นสาย และเหล่าท่ามกลางสมบัติปราณเหล่านั้น ก็ได้แผ่กระจายพลังพุ่งเข้ามาจากอีกทางลอยเข้าเป็นสายอย่างรวดเร็ว

 

“ โผละ —— ”

 

ในที่สุด จ่งหลี่เยียก็ได้กระอักโลหิตถอยออกไป นี้ยังถือว่าเยี่ยจงยังคำนึงถึงหน้าลัทธิแห่งดวงดาว จึงมิได้ลงมือสังหาร ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ จ่งหลี่เยียในตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าได้ตายตกไปมากมายก็ครั้งแล้ว

 

“ ตูม —— ”

 

เยี่ยจงฟาดฝ่ามือลงไปอีกครั้งหนึ่ง จ่งหลี่เยียตัดสินใจที่จะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมา ในครั้งนี้ก็ได้ยินเสียงดังกร๊อบแกร๊บออกมาจากแขนทั้งสองข้าง แล้วก็ดุจดั่งกลายเป็นชาขึ้นมาในทันทีทันใดก็มิปาน แตกหักออกไปทีละส่วน

 

“ เจ้าถึงกับ เจ้าถึงกับกล้าที่จะหักแขนทั้งสองข้างของข้าจนพิการ เจ้าตายแน่แล้ว ! เยี่ยจงเจ้าตายแน่แล้ว ! ” จ่งหลี่เยียกรีดร้องออกมา เขาขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน เอ่ยขึ้นมาด้วยความเครียดแค้น

 

“ เจ้าอยากที่จะให้ข้าสังหารเจ้าขนาดนั้นเชียวหรือ ? ” เยี่ยจงกวาดตามองเข้าไปทางจ่งหลี่เยียคราหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์ สีหน้าเย็นชาเป็นอย่างยิ่ง ควรทราบว่า แม้แต่อัจฉริยะแห่งตระกูลถังอย่างองค์ชายสิบสาม ก็ยังต้องถูกเยี่ยจงสังหารเพียงเพราะบอกว่าจะสังหาร ตอนนี้จ่งหลี่เยียผู้นี้ในสายตาของเยี่ยจง แทบจะไม่มีความแข็งแกร่งแต่อย่างไรแม้แต่น้อย คำพูดนี้ที่เป็นเปรียบเสมือนดั่งเด็กน้อยจะกลับไปฟ้องคนในบ้านก็มิปาน ไม่ได้มีความเข้มแข็งแม้แต่น้อย

 

จ่งหลี่เยียสั่นเทาไปทั่วทั้งร่าง เขาที่ถูกเยี่ยจงมองเข้ามาด้วยสายตาอันเย็นชาชนิดหนึ่งมาโดยตลอด แต่ว่าภายใต้ความเย็นชานี้ก็ทำให้เขาทราบได้อย่างกระจ่างว่า หากว่าเยี่ยจงคิดที่จะสังหารเขาแล้วละก็ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกล่าวคำพูดไร้สาระออกมาแม้เพียงครึ่งคำ ถ้าจะสังหารก็จะลงมือไปในทันที

 

“ เยี่ยจง เขาเป็นคนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาว ในตอนนี้ยังไม่อาจฆ่าได้ เอาจนแก่พิการก็พอแล้ว ” บริเวณทางด้านหลัง หลิงเยว่ก็ได้เอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา เพื่อเตือนสติของเยี่ยจง นางมิได้เป็นห่วงว่าเยี่ยจงจะหาญกล้าลงมือหรือไม่ เพียงแต่กลัวว่าเยี่ยจงเมื่อสังหารจ่งหลี่เยีย จะชักนำความยุ่งยากมาให้

 

จ่งหลี่เยียเงียบงัน ความจริงที่บนใบหน้าปรากฏความลำพองขึ้นมา แต่ว่าทันทีที่ได้มองไปยังผู้คนรอบด้านแล้ว เขาก็แทบจะเป็นลมไปในทันที เพราะว่าแววตาของผู้คนมากมายที่มองมาที่เขาก็เปรียบเสมือนดั่งสุนัขที่ตายไปแล้วก็มิปาน มิได้หลงเหลือความยำเกรงต่อสถานะของเขาแม้แต่น้อย

 

“ ไปเถอะ พวกเรากลับไปกัน ” เยี่ยจงหันกายไป ยิ้มไปให้ทางด้านของเยี่ยถง จากนั้นก็ได้เดินเข้ามาทางด้านข้างกายของหลิงเยว่ ทำท่าผายมือคล้ายเชื้อเชิญ

 

ในขณะที่หลิงเยว่จ้องมองไปที่เยี่ยจง ทันใดนั้นเองนางก็ได้หัวเราขึ้นอย่างมีเสน่ห์ แล้วเยี่ยจงก็ได้หันกายเตรียมพร้อมที่จะจากไป

 

ศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวคนอื่นๆที่ได้เห็นฉากเบื้องหน้า แต่ละคนต่างก็หัวเราะฮิฮะดังขึ้นมา เตรียมพร้อมจากไปเช่นกัน เพราะว่าด้วยพลังอันเข้มแข็งของเยี่ยจงในวันนี้ เพียงพอที่จะช่วยกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้เกือบจะทั้งหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่อีกต่อไป

 

“ พวกเจ้ากำลังทำอะไรกันอยู่ ? ” ทันใดนั้นเอง ก็ได้มีความเคลื่อนไหวจากเสียงสายหนึ่งดังขึ้นกระทบโสต บริเวณทางด้านหลังของหอชมดาราก็ได้มีเงาร่างสายหนึ่งพวยพุ่งออกมา ผู้คนมากมายหันกลับมา แล้วก็ได้พบเจอกับเงาร่างของหญิงสาวชุดคลุมสีขาวนางหนึ่งย่างกรายลงสู่พื้น

 

ชุดคลุมสีขาวของนางราวกับกำลังร่ายระบำ งดงามอย่างไร้ที่ติ ผิวพรรณขาวผ่องอีกทั้งยังเรียบเนียน ขนคิ้วดุจดั่งบุษผา ดวงตาได้รูปอย่างสมบูรณ์ บนใบหน้าของนางในตอนนี้ก็ได้เกิดอาการตื่นตะลึงขึ้นมา จ้องมองไปยังบนร่างกายที่คล้ายดั่งจะสลบลงไปของจ่งหลี่เยีย ทอสีหน้าตื่นตะลึงขึ้นมาอยู่หลายส่วน

 

นางที่มีความงดงามอย่างไร้ที่ติ เมื่อเทียบกับศิษย์หญิงของลัทธิแห่งดวงดาวยังถือได้ว่าเหนือกว่าอยู่หลายส่วน ตอนนี้จะมีก็เพียงแต่หลิงเยว่เท่านั้นที่พอจะสามารถเทียบเคียงกับนางได้ อีกทั้งยังดูเหมือนไม่มีผู้ใดเป็นรองผู้ใด

 

เมื่อพบเห็นเด็กสาวชุดขาวเดินออกมา ศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวไม่น้อยต่างก็ส่งเสียงพึมพำอย่างเย็นชาขึ้นมา ไม่นานนัก ทางด้านหนังของเด็กสาวชุดขาว ก็ได้มีเด็กสาวกลุ่มหนึ่งก้าวเดินออกมา ความเคลื่อนไหวของพวกเขาทำให้เกิดความตื่นเต้นขึ้นมาได้ ตอนนี้พบเห็นจ่งหลี่เยียที่แผ่ร่างลงอยู่บนพื้น ต่างก็เกิดอาการตื่นตระลึงขึ้นมาตามๆกัน

 

“ ศิษย์น้องเล็ก ถึงกับถูกผู้คนหักแขนจนพิการทั้งสองข้างงั้นหรือ ? ”

 

“ ลัทธิแห่งดวงดาวตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่มีบุคคลที่ร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้กัน ? คงจะมิใช่การลงมือของเหล่าผู้อาวุโสหรือว่าจ้าวตำหนักลงมืออย่างไม่เปิดเผยฐานะออกมาหรือนะ ? ”

 

คนกลุ่มนี้ต่างก็มีอยู่หลายส่วนที่ไม่อย่างจะเชื่อสายตา พวกเขานั้นมาจากลิทธิปราชญ์แห่งดวงดาว ที่มีศักดิ์สถานะอันสูงส่ง ลัทธิแห่งดวงดาวก็เป็นได้เพียงแค่สำนักสาขาเท่านั้น จะอย่างไรก็ไม่สมควรที่จะลงมือทำร้ายคนของพวกเขา ? นี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนยากที่จะเชื่อได้ลง

 

“ ศิษย์น้อง เจ้าไม่เป็นไรนะ ? ” ศิษย์หญิงผู้หนึ่งของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวก็ได้เร่งรีบเดินเข้ามา พยุงร่างกายของจ่งหลี่เยียที่ในตอนนี้เต็มไปด้วยโลหิต แล้วก็ได้คว้าโอสถปราณออกมาเพื่อทำการรักษาเขาอย่างรวดเร็ว

 

“ ฝุบ —— ”

 

ในทันทีที่ได้สติขึ้นมา จ่งหลี่เยียก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่งอีกครั้ง เขาสามารถสัมผัสได้ถึงกระดูกมือที่แตกหักไป แต่ว่า บริเวณฝั่งตรงข้าม แววตาอันเย็นชาของเหล่าศิษย์ลัทธิแห่งดวงดาวกลุ่มนั้น ได้ทำให้เขาเกือบที่จะสลบลงไปอีกครั้งก็มิปาน

 

“ ศิษย์พี่หญิง ระวังหน่อย เด็กน้อยเหล่านี้ ไม่ธรรมดา ” จ่งหลี่เยียขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน แต่ว่าก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยถึงสถานะของเยี่ยจงออกมา เกรงว่าศิษย์พี่、ศิษย์พี่หญิงเหล่านี้จะไม่ออกหน้าให้กับตนเอง

 

“ มีสถานะเพียงแค่สำนักสาขา กลับกล้ามาทำร้ายศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวข้า พวกเจ้าลัทธิแห่งดวงดาวคิดที่ใช้มือปิดบังท้องฟ้าอย่างงั้นหรือ ? วันนี้ จำเป็นที่จะต้องให้คำกล่าวมาให้แก่ข้า ” ศิษย์พี่ที่มีนิสัยเลือดร้อยคนหนึ่งของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวก็ได้หัวเราะเสียงเย็นชาขึ้น เขาจ้องมองไปทางด้านเยี่ยจงและพวกอย่างเย็นชา เตรียมพร้อมลงมืออยู่ตลอดเวลา

 

“ ก็แค่การประลองแลกเปลี่ยนเท่านั้น ศิษย์พี่ท่านนี้จำเป็นที่จะต้องโกรธถึงเพียงนี้เชียวหรือ ก็แค่การประลองแลกเปลี่ยนไง มันก็คงยากที่จะเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บได้ หรือจะเอาเช่นนี้ ศิษย์พี่ท่านก็ลองมาประมือสักหน่อยดูไหม ? ” เยี่ยจงเดินหน้าขึ้นมา ร่วมทั้งหลิงเยว่、เยี่ยถงที่ได้ติดตามมาทางด้านหลัง เอ่ยปากขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ หลายวันมานี้ เขาได้จัดการคนของลัทธิแห่งดวงดาวข้าไปก็ไม่น้อย วันนี้ตนเองได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมิได้ตาย มีอันใดให้ต้องบอกกล่าวกัน ? ”

 

“ เจ้า —— ”

 

คนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวแต่ละคนก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย พวกเขาย่อมทราบอยู่แก่ใจ ศิษย์น้องเล็กของตนเองผู้นี้หลายวันมานี้ก็ได้เอาแต่ท้าทายศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวไม่หยุดหย่อน ทั้งยังทำร้ายผู้คนบาดเจ็บไปไม่น้อย แต่ว่า วันนี้ศิษย์น้องเล็กได้ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ พิกลพิการแขนทั้งสองข้าง มีหรือที่พวกเขาจะไม่โกรธขึ้นมาได้ ?

 

“ หรือจะกล่าวว่า ทุกท่านคิดว่า การที่ศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวเราได้รับบาดเจ็บ นั้นสมเหตุสมผลแล้วอย่างงั้นหรือ คนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวพวกเจ้า มีร่างกายมีสูงส่งนักหรือไง ถึงกับไม่อาจได้รับบาดเจ็บได้ ? ” เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาน้อยๆ ทอดตามองเข้าไปยังภายในกลุ่มคน “ ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงแล้วละก็ ทำไมไม่กลับไปให้มารดาโอบอุ้ม ออกมาขายหน้าต่อหน้าคนอื่นทำไมกัน ? ”

 

“ เจ้า …… “ ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวกลุ่มนี้ก็ได้มีโทสะขึ้นมา ถ้าเกิดต้องลงมือ และศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวกลุ่มนี้แต่ละคนก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า ศิษย์พี่เยี่ยจงผู้นี้ที่แท้ก็ถือได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งรุ่นเยาว์อย่างไม่ต้องสงสัย คำพูดที่ได้กล่าวออกมา ได้ทำให้ความโกรธแค้นจากเมื่อหลายวันที่ผ่านมานี้ ถูกคลี่คลายออกไปได้อย่างรวดเร็ว คนของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวเหล่านี้เมื่ออยู่เบื้องหน้าศิษย์พี่เยี่ยจง ถือได้ว่าถึงคราวซวยแล้วละ !

 

“ ถ้าหากยังต้องการคำกล่าวจริงแล้วละก็ ก็เข้ามาพร้อมกันเถอะ ” เยี่ยจงเดินขึ้นมาด้านหน้าอีกครั้ง ทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด อีกทั้งยังเหมือนดั่งไม่เห็นเหล่าอัจฉริยะของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวกลุ่มนี้อยู่ในสายตาเลยโดยทั้งสิ้น

 

อัจฉริยะจำนวนมากมายของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวในตอนนี้ก็ได้ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน สีหน้าทอแววดุร้าย นี้ถือได้ว่าเป็นการดูถูกอย่างถึงที่สุด หรือกล่าวอย่างง่ายดายก็คือการเย้ยหยันดูแคลนอย่างไม่ต้องกล่าวออกมา ก่อนหน้านี้พวกเขาที่มีศักดิ์ฐานะที่สูงส่ง ที่ผ่านมาก็มองไม่เห็นเหล่าศิษย์ของลัทธิแห่งดวงดาวอยู่ในสายตาอยู่แล้ว แต่ว่าในตอนนี้กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้รับการตอบแทนอย่างเลวร้าย เด็กหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าสายตาหลายคนนี้ พวกเขาก็ได้กลับกลายเปลี่ยนเป็นไร้ค่าไปเช่นนี้อย่างงั้นหรือ ?

 

“ เยี่ยจง เจ้าที่มีชื่อเสียงเกรียงไกรทั้งยังถูกขนานนามว่าเป็นสุดยอดแห่งหมู่รุ่นเยาว์ โด่งดังไปทั่วทั้งแดนดินซีฮวงจวบจวนถึงวันนี้ อัจฉริยะของขุมกำลังมากมายที่คิดจะเอาอย่างเจ้าเป็นแบบอย่าง จำเป็นที่จะต้องเอาชื่อเสียงมาเสียเช่นนี้ด้วยหรือ ถึงกับต้องลงมือกับเด็กน้อยเพียงคนเดียวเช่นนี้ ? ” เด็กสาวชุดขาวแห่งลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา นางถือได้ว่าจดจำเยี่ยจงออกมาได้ ภายในดวงตาจึงได้ทอแววความเคร่งเครียดขึ้นมา

 

“ เชอะ —— ”

 

ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวมากมายทันใดนั้นก็รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา แต่ละคนต่างก็มองไปที่เยี่ยจง ด้วยสีหน้าแปรเปลี่ยนไม่หยุดนิ่ง สังหารองค์ชายสิบสามตระกูลถ、ไร้ผู้ต้านในแดนเทพ、ประจันหน้ากับยอดฝีมือระดับราชันของขุมกำลังใหญ่ทั้งสาม

 

วีกรรมเหล่านี้ ได้ถูกแพร่หลายไปทั่วทั้งดินแดนซีฮวงตั้งแต่แรกแล้ว เยี่ยจงในตอนนี้แน่นอนว่าก็คือคนเมื่อวันนั้น แม้แต่ศิษย์ของลัทธิปราชญ์แห่งดวงดาวเหล่านี้ก็ยังคิดไม่ถึงว่า ศิษย์น้องเล็กของตนเองผู้นี้ถึงกลับกล้าไปหาเรื่องกับราชาปีศาจน้อยผู้นี้ได้ เช่นนั้นก็มีแต่กล่าวได้ว่า ถ้าเกิดเขายังไม่ตาย ก็ถือได้ว่าเขามีโชคอยู่บ้างแล้ว

 

ควรทราบว่า ราชันบ้าคลั่งเยี่ยจงมีชื่อเสียงสะเทือนฟ้าสะท้านดินมาตั้งแต่ต้น มีผู้ใดไม่ทราบบ้างว่าเขาลงมือได้อย่างโหดเหี้ยม ควรทราบว่า แม้แต่ยอดฝีมือขั้นราชันก็ได้ถูกเขาสังหารไปแล้วหลายคน ! เด็กน้อยผู้นี้ ถือได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของดินแดนก็ว่าได้ อีกทั้งยังไร้ผู้ต้านในแดนดิน !

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่นพิเศษ เข้ากลุ่ม 4/5/6/7/8/9/10/11 ราคา 500

VIP4 https://goo.gl/ESwaou

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset