เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 387 การประมูล

ตอนที่ 387 การประมูล

 

///////////ขอแก้ไขจาก รัฐไฟ เป็นรัฐเหยียนแทนนะครับ//////////////

 

ท่ามกลางห้องโถงใหญ่ ก็ได้ชุมนุมเอาไว้ด้วยยอดฝีมือจากทั่วทั้งสี่ดินแดน แต่ว่าก็มิได้เกิดการเบียดเสียดกัน เห็นได้ชัด งานเลี้ยงภายในพระราชวังวังหลังของรัฐเหยียนในครั้งนี้ ผู้นคนมากมายต่างก็มีเป้าหมายมาที่การประมูลที่ถูกตระเตรียมเอาไว้จากรัฐเหยียน ดังนั้น ท่ามกลางห้องโถงใหญ่ในตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่ามีขนาดใหญ่อย่างเพียงพอที่จะสามารถรองรับผู้คนเอาไว้ได้

 

และทางด้านเยี่ยจงก็ไม่เกรงใจแม้แต่น้อย ทั้งชิงหญิง โหยวเหลียน องค์หญิงจื่อหวินทั้งสามคนก็ได้นั่งอยู่ด้วยกันในบริเวณทางด้านหลังสุดที่เป็นจุดรับรองของแขกผู้มีเกียรติในเปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางเลยก็ว่าได้ นี้คือสถานที่เฉพาะที่ทางรัฐเหยียนได้ตระเตรียมเอาไว้ ภายในท่ามกลางห้องโถงใหญ่นี้ ห้องพิเศษเหล่านี้กลับมีอยู่ไม่มากนัก มีเพียงแค่สิบกว่าห้องเท่านั้น การที่จะเข้าไปยังห้องพิเศษเหล่านี้ สมควรที่จะมิใช่บุคคลธรรมดาสามัญอย่างแน่นอน

 

“การเตรียมการประมูลของรัฐเหยียนในครั้งนี้ กล่าวกันว่าในด้านมาตรฐานของรัฐเหยียนที่มีมาอย่างยาวนานนับหลายร้อยปี ท่ามกลางความร่วมมือจากสมาคมการประมูลใหญ่หลายแห่งภายในรัฐเหยียน รวมไปจนถึงสิ่งของอีกหลายชิ้นที่ทางองค์ราชาแห่งรัฐเหยียนเป็นคนมอบออกมา สหายร่วมแนวทางหากว่าต้องการที่จะครอบครองสิ่งของใด ก็ขอให้อย่าได้พลาดไป “องค์หญิงจื่อหวินจ้องมองไปที่เยี่ยจงแล้วหัวเราะออกมา พร้อมทั้งเอ่ยปากกล่าวออกมา

 

“ดูเหมือนว่าการมาในครั้งนี้จะมาได้ไม่ผิดเลย “เยี่ยจงพยักหน้า แล้วก็ได้เกิดความสนใจทอดสายตามองเข้าไปยังสร้อยไข่มุกชุดหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ด้านบนของแท่นการประมูล

 

“การประมูลในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นน้องเหยียนหลงหลิงเป็นผู้ลงมือทำด้วยตนเอง เป็นครั้งแรกที่น้องสาวอย่างนางทำหน้าที่เป็นผู้จัดงานประมูล แต่ว่าเจ้าก็ต้องระวังเอาไว้หน่อยละกัน อย่าได้ถูกนางหลอกได้เชียวนะ “โหยวเหลียนหรอกดวงตาอันสุกใสไปมารอบหนึ่ง ราวกับหยดน้ำที่กระจ่างสดใสงดงาม และจากนั้นนางก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ แล้วกล่าว

 

เยี่ยจงพยักหน้าตอบคำ มิได้กล่าวอันใดมากมาย

 

เมื่อพบเห็นเยี่ยจงราวกับไม่คิดที่จะต้องการพูดคุยมากนัก หญิงสาวที่เหลือทั้งสาวก็มิได้สนใจเขาอีกต่อไป และเพียงพูดคุยกันขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

ท่ามกลางห้องพิเศษที่ที่อยู่ห่างออกไปจากห้องพิเศษที่เยี่ยจงและพวกราวอยู่ร้อยกว่าเมตรได้ ก็ได้มีเงาร่างที่ดูเป็นสง่านั่งอยู่ภายในท่ามกลางห้องพิเศษ เขาจ้องมองเข้าไปทางด้านเยี่ยจงและพวก หลังจากนั้น บนใบหน้าก็ได้ปรากฏความเย็นชาขึ้นมา

 

“ศิษย์พี่ใหญ่ ซิงผู้นี้ก็กระทำเกินเลยเกินไปแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นเด็กน้อยที่ผุดออกมาจากสถานที่ใด ยังถึงกับบังอาจที่จะเข้าไปนั่งร่วมกันกับองค์หญิงอีก แล้วยังนั่งอยู่ในห้องเดียวกันหญิงศักดิ์สิทธิ์ชิงหญิง หญิงเทพโหยวเหลียน เขาสมควรตายนัก! “ทางด้านหนึ่ง ก็คือจื่อเฮ่าที่ก่อนหน้านี้ได้ถูกเยี่ยจงตบไปฉาดหนึ่งจนลอยกระเด็นไปในตอนนี้ก็ได้จ้องเขม็งมาจากอีกทางด้านหนึ่ง อีกทั้งใบหน้ายังเต็มไปด้วยความอาฆาตพร้อมทั้งกล่าวออกมา

 

“ไม่ต้องรีบ รอจนจบสิ้นการประมูล ย่อมต้องมีคนที่คิดจะหาเรื่องเขาแน่นอน พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อน “ชายหนุ่มที่มีบุคลิกเป็นสง่าก็ได้ครุ่นคิดขึ้นมา ทันใดนั้นก็อมยิ้มแล้วกล่าวขึ้น แต่ว่าบนใบหน้ายังแฝงเอาไว้ด้วยความสนุกสนานอยู่ชนิดหนึ่ง

 

“ศิษย์พี่ใหญ่ ที่ท่านจะบอก เด็กน้อยที่เหลือจากอีกทางด้านหนึ่งอย่างงั้นหรือ? “บนสีหน้าจื่อเฮ่าก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยความประหลาดใจ

 

“ข้ายังไม่ได้บอกอะไรเลยนะ เพียงแต่ว่านางเซียนทั้งสองอย่างชิงหญิงและโหยวเหลียนที่ต่างก็มีผู้คนมากมายคอยไล่ตาม รวมไปจนถึงผู้พิทักษ์บุษผามากมายนับไม่ถ้วน หากว่าให้พวกเขาได้ทราบ ว่านางในดวงใจของพวกเขาในตอนนี้กำลังนั่งอยู่กับเจ้าเด็กน้อยที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าภายในห้องเดียวกัน เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่งเลยใช่หรือไม่……เพียงแต่น่าเสียดายที่เจ้าเด็กน้อยจื่อจุนเทียนผู้นั้นไม่อยู่ด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นที่น่าสนใจอย่างแน่นอน “ชายหนุ่มที่มีบุคลิกเป็นสง่าที่ถูกเรียกว่าศิษย์พี่ใหญ่ บนใบหน้าก็ได้เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มประหลาดออกมาอย่างเต็มเปี่ยม

 

“ศิษย์พี่ใหญ่ ข้าทราบแล้วว่าสมควรที่จะทำอย่างไร “บนใบหน้าของจื่อเฮ่าก็ได้ปรากฏความอำมหิตขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้ค่อยๆ ถอยออกไป หลบออกมาจากภายในห้องพิเศษ

 

และในเวลาเดียวกันในตอนนี้ ท่ามกลางบริเวณห้องพิเศษที่อยู๋ห่างไกลที่สุด ก็ได้มีสายตาคู่หนึ่งจ้องมองเข้าไปทางด้านที่เยี่ยจงอยู่ในตอนนี้ คนที่นั่งอยู่ผู้นั้นแท้จริงแล้วก็คืออัจฉริยะอันดับสองแห่งสำนักหวูหว่าง หยินจื่อนั้นเอง

 

เขาส่งสายตาจ้องเขม็งอย่างเย็นเยียบมองเข้าไปยังทางด้านที่เยี่ยจงอยู่ หลังจากนั้นสักพักเขาก็ค่อยได้ส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา มิได้กล่าวอันใด

 

ราวกับผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ครู่หนึ่ง พริบตาเดียวก็ได้ผ่านพ้นไปเกือบครึ่งชั่วยามแล้ว บริเวณทางด้านล่างท่ามกลางห้องโถงใหญ่ก็ได้ชุมนุมเอาไว้ด้วยยอดฝีมือจากแต่ละฝ่าย สายตาของผู้คนทั้งหมดก็ได้ทอดมองเข้าไปยังบริเวณทางด้านที่เป็นแท่นการประมูลในเวลาเดียวกัน ภายในดวงตาต่างก็ทอประกายเร่าร้อนรอคอยเอาไว้อยู่

 

“เคร้ง—— “

 

เสียงอันสดใสก็ได้ดังขึ้นมา จากนั้น ในระหว่างนั้นเองก็ได้พบเห็นเงาร่างสีแดงสายหนึ่งปรากฏขึ้นมาที่แท่นการประมูล นางนั้นมีร่างกายที่ทรงเสน่ห์ ดวงตาขนคิ้วประดุจภาพวาด บนใบหน้าในตอนนี้ก็ได้แฝงเอาไว้ด้วยรอยยิ้มขึ้นมา เป็นที่สนใจของผู้คนได้อย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าแท้จริงแล้วก็คือท่านองค์หญิงเหยียนหลงหลิงรัฐเหยียนนั้นเอง

 

เมื่อพบว่านางได้เข้ามายังงาน ผู้คนมากมายต่างก็หันกลับไปมองด้วยอาการที่ตื่นเต้น ควรทราบว่า เหยียนหลงหลิงถึงแม้จะเทียบไม่ได้กับชิงหญิง โหยวเหลียนที่เปรียบเสมือนความงดงามที่อยู่ภายในดินแดนซีฮวง แต่ก็ยังคงถือได้ว่าเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งรัฐ ในเวลาเดียวกันนางก็ยังมีบรรดาศักดิ์ที่พิเศษ นั้นก็คือเป็นองค์หญิงเล็กที่องค์ราชารัฐเหยียนรักทะนุถนอมที่สุด จึงยิ่งเป็นที่น่าจำตามองมากกว่าเดิม

 

“องค์หญิงเหยียนหลงหลิงเป็นดั่งเช่นคำเล่าลือก็มิปาน มีความงดงามอย่างน่าตกใจ เพียงรอยยิ้มเดียวก็ล้มเมืองได้ทั้งเมือง หากว่ายังยิ้มอีกก็คงจะล้มรัฐรัฐหนึ่งได้เลย! “

 

“คิดไม่ถึงว่าการประมูลในครั้งนี้ ยังถึงกับให้ท่านเหยียนหลงหลิงเป็นผู้ลงมือเปิดงานด้วยตนเอง เพียงแค่ดูในข้อนี้ ไม่ทราบว่ามาตรฐานของการประมูลในครั้งนี้อยู่ในระดับที่สูงถึงเพียงใดกัน! “

 

“ไม่สูงส่งได้ยังไงกัน? การชุมนุมของเหล่าวีรบุรุษจากสี่ดินแดนในครั้งนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงเหล่าบุคคลที่ปรากฏตัวขึ้นมาจากอีกทั้งสามดินแดน กล่าวเพียงแค่ดินแดนซีฮวงของดินแดนเรา นางเซียนชิงหญิง หญิงศักดิ์สิทธิ์โหยวเหลียนต่างก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้การประมูลในครั้งนี้เป็นที่จับตามองได้มากแล้ว! “

 

“ดูเหมือนว่าการมาในครั้งนี้จะไม่ผิดพลาดแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถึงการเข้าร่วมการประมูลนี้ เพียงแค่สามารถมองไปยังบุคคลที่มีความงดงามเหล่านี้เพียงคราเดียว ก็เรียกได้ว่าเพียงพออย่างถึงที่สุด! “

 

ท่ามกลางประกายสายตาที่ทอเป็นประกายอย่างตื่นตกใจก็ได้กำลังกระซิบพูดคุยกัน เหยียนหลงหลิงมองออกไปโดยรอบ หลังจากนั้นเองก็ได้หยุดสายตามองเข้าไปยังท่ามกลางห้องพิเศษ แล้วจากนั้นจึงได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา โค้งคำนับอย่างมีมารยาทไปทั่วทั้งสี่ด้าน “ผู้น้อยยินดีที่ได้พบกับทุกท่าน การประมูลในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งที่น่าสนใจของงานเลี้ยงของพวกเราเท่านั้น เช่นนั้นพวกเราก็อย่าได้เสียเวลาอีกต่อไปเลย มาเริ่มกันก่อนเถอะ? “

 

“เนื่องจากมีช่วงเวลาของงานเลี้ยงในครั้งนี้มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้น การประมูลของพวกเราในครั้งนี้ สิ่งของที่นำมาประมูลต่างก็ได้สิ่งของที่มีคุณค่าในระดับที่สูงล้ำและเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงนานาชนิดภายในรัฐเหยียนของพวกเรา ในเวลาเดียวกันพระราชบิดาข้าก็ได้นำเอาสิ่งของออกมาอีกหลายชิ้น เพื่อที่จะทำให้สิ่งของที่นำมาประมูลที่จัดได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงล้ำมีถึงสิบชิ้นในการประมูลครั้งนี้ ข้าคิดว่า สิ่งของเหล่านี้ทุกท่านคงจะต้องพอใจอย่างถึงที่สุดอย่างแน่นอน “

 

เมื่อได้ฟังคำพูดของเหยียนหลงหลิง ก็ได้มีผู้คนไม่น้อยที่สาดทอดวงตาเป็นประกาย บนใบหน้าราวกับมีสีหน้าที่พิเศษเฉพาะ นั้นก็เพราะว่า เมื่อได้ฟังความหมายของเหยียนหลงหลิง ราวกับว่าสิ่งของที่อยู่ในระดับสูงนับสิบชิ้นจะมีการปรากฏขึ้นมาในครั้งนี้ทั้งหมด ต่างก็เรียกได้ว่าถูกเลือกเฟ้นมาเป็นอย่างดี เห็นได้ชัดสิ่งของที่อยู่ในระดับคุณภาพที่สูงล้ำเหล่านี้ จะต้องอยู่เหนือความคาดหมายแล้วกระมั่ง?

 

“น่าสนใจไม่น้อย “

 

ท่ามกลางห้องพิเศษ เยี่ยจงก็ได้สูดลมหายใจเข้าเบาๆ สีหน้ามีความประหลาดใจอยู่หลายส่วน ส่วนสิ่งของอื่นๆ นั้นก็ช่างมันเถอะ เมื่อได้ฟังความหมายในคำพูดของเหยียนหลงหลิง ในครั้งนี้อย่างน้อยก็คงจะต้องมีทักษะเซียนหรือไม่ก็มนต์ตราเซียนปรากฏขึ้นมาอย่างแน่นอน หากว่าเป็นเช่นนี้แล้วละก็ ตนเองไม่ว่าจะอย่างไรก็คงจะต้องใช้ทุกวิถีทางในการครอบครองมันมาให้ได้ แน่นอนว่าย่อมไม่เกรงใจอย่างแน่นอน

 

ในเวลาเดียวกัน เยี่ยจงก็ต้องดูว่า สิ่งของทั้งสิบชิ้นที่นำออกมาประมูลนั้น จะสามารถเรียกได้ว่ามีความหายากได้ถึงในระดับใด

 

และในเวลาเดียวกันนี้ ชิงหญิง โหยวเหลียน องค์หญิงจื่อหวินทั้งสามคนต่างก็ทอดสายตามองเข้าไปยังด้านบนของแท่นการประมูลในเวลาเดียวกัน เห็นได้ชัดว่า จะต้องมีสิ่งของที่หมายปองอยู่ ได้ทำให้สามงามทั้งสามท่านนี้ ต่างก็มีความสนใจมากมายกว่าผู้ใด

 

เหยียนหลงหลิงหัวเราะออกมา ท่ามกลางสายตาที่กำลังรอคอยอยู่มากมายนับไม่ถ้วน นางก็ได้พลิกมือคราหนึ่ง ไม่นานนัก ก็ได้พบเห็นแสงสว่างวาบขึ้นของเวทีประมูลปรากฏขึ้นมา ท่ามกลางกลุ่มประกายแสง ในระหว่างนั้นเองก็สามารถที่จะพบเจอกับแผ่นป้ายไม้ขนาดใหญ่เท่าฝ่ามืออยู่ชิ้นหนึ่ง ท่ามกลางของแผ่นไม้ ก็ได้มีความเคลื่อนไหวอันเย็นเยียบไหลเวียนอยู่ท่ามกลางอากาศ ในระหว่างนั้นเองก็ได้พบกับตัวอักขระขนาดเล็กมากมายมหาศาลลอยวนเวียนออกมา

 

“นี้คงจะเป็นยันต์ปราณทลายแดนในตำนานแล้ว กล่าวกันว่าในช่วงเวลาหนึ่งของพวกเราที่ได้สูญเสียไป ต่อให้เป็นผู้สร้างยันต์ปราณในระดับชนชั้นตำนาน ก็ใช่ว่าจะสามารถวาดออกมาเฉกเช่นนี้ได้……และผลลัพธ์ของวัตถุชิ้นนี้ก็เป็นดั่งนามของมันก็มิปาน มีไว้เพื่อใช้ทลายดอน——ทลายค่ายกลต่างๆ นานา ยับยั้งดินแดน ควบคุม ก็คือความสามารถที่ใช้ออกมาได้ ใช้ออกได้ยาวไกลนับพันลี้ เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ต่อให้เป็นชนชั้นระดับราชัน มหาราชันอย่างน้อยก็ยากที่จะไล่ตามไปได้ “เหยียนหลงหลิงเอ่ยปากขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “วัตถุชิ้นนี้มาจากผู้ประมูลไม่ประสงค์จะเอ่ยนาม แต่ว่าหากนับตามความต้องการของพวกเขา ราคาของวัตถุชิ้นนี้ไม่อาจที่จะใช้เพียงหินปราณในการตีราคาออกมาได้ คงจะมิใช่วัตถุที่ง่ายต่อการแลกเปลี่ยนมากนัก “

 

“ชิร์—— “

 

ในระหว่างที่สิ้นเสียงของเหยียนหลงหลิง วินาทีนั้นท่ามกลางสนามก็ได้เกิดเสียงจากอาการตกใจดังขึ้นมาเป็นสาย ยันต์ปราณทลายแดน ของสิ่งนี้โดยส่วนมากแล้วถือได้ว่าได้หายสาบสูญไปจากดินแดนมาอย่างช้านานแล้ว คิดไม่ถึงว่ากลับสามารถที่จะปรากฏขึ้นมาได้

 

วัตถุชิ้นนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ส่งผลการโจมตี หรือพลังความสามารถในการป้องกัน แต่ว่าเพียงใช้ออก ก็จะสามารถไปยังสถานที่อันยาวไกลนับพันลี้ได้ เรื่องได้ว่ามีความน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด อีกทั้ง เมื่อมีวัตถุชิ้นนี้แล้วละก็ ต่อให้เป็นพื้นที่ในดินแดนโบราณ ดินแดนขนาดเล็ก ในช่วงเวลาที่พบพานกับอันตรายก็ยังสามารถที่จะหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับเครื่องช่วยชีวิตก็มิปาน

 

ดังนั้น วัตถุชิ้นนี้ถึงแม้จะมีเพียงชิ้นเดียว แต่ทว่าก็ยากที่จะตีราคาออกมาได้

 

ในครั้งนี้ ต่อให้เป็นเยี่ยจงก็ยังต้องจ้องมองไปด้วยดวงตาที่ร้อนผ่าวอย่างถึงที่สุด ถ้าหากว่าตนเองสามารถครอบครองสิ่งของชิ้นนี้แล้วละก็ วันข้างหน้าในช่วงเวลาที่คิดจะหลบหนี หากใช้ร่วมกันกับวิชาดำดินรุกคืบแล้วละก็ อย่างน้อยก็ไม่มีผู้ใดพอที่จะสามารถหยุดตนเองเอาไว้ได้แล้ว

 

เพียงแต่น่าเสียดาย ในตอนนี้สิ่งที่เยี่ยจงต้องการมากที่สุดกลับเป็นของจำพวกทักษะเซียนหรือมนต์ตราเทพ และวัตถุชิ้นนี้มีราคาที่สูงล้ำเป็นอย่างมาก เขาได้แต่เพียงมองได้ด้วยดวงตาที่ร้อนผ่าวเพียงครู่เดียวเท่านั้น

 

“ข้าของแลกเปลี่ยนด้วยโอสถเจ็ดลมปราณชิ้นหนึ่ง หวังว่าองค์หญิงน่าจะเคยได้ยินได้ฟังชื่อเสียงเรียงนามของโอสถเจ็ดลมปราณมาก่อนแล้วกระมั่ง? “ท่ามกลางห้องพิเศษแห่งหนึ่ง ก็ได้มีเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเย้ายวนดังลอดออกมาเป็นสาย เห็นได้ชัดเป็นหญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยปากขึ้นมา

 

“โอสถเจ็ดลมปราณ? “เหยียนหลงหลิงเกิดความงงงันขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ได้หัวเราะขึ้นมาเบาๆ แล้วกล่าว “น้องสาวท่านนี้เสนอราคาออกมาได้ไม่เลวนัก โอสถเจ็ดลมปราณมีผลต่อการฝึกปรือทักษะยุทธ์จำพวกทักษะเซียนและมนต์ตราเทพ ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังส่งผลช่วยให้เข้าสู่พลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังเทวะได้ เรียกได้ว่ามีประโยชน์หนุนเสริมที่มากมายเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าย่อมคุ้มค่า ไม่ทราบว่ายังมีผู้ใดที่คิดจะเสนอราคาที่มากกว่าสิ่งของชิ้นนี้อีกหรือไม่? หากว่าไม่มีแล้วละก็ วัตถุชิ้นนี้ก็จะเป็นของน้องสาวท่านนี้ทั้งหมดแล้ว “

 

ทั่วทั้งใจกลางห้องโถงก็ได้เงียบสงัดออกมา โดยเฉพาะพวกที่อยู่บริเวณทางด้านล่างเหล่านั้น ก็ได้มีสายตามากมายนับไม่ถ้วนทอดมองเข้าไปท่ามกลางห้องพิเศษนั้นในเวลาเดียวกัน เพียงแต่ว่าพวกเขากลับไม่อาจที่จะมองดูได้อย่างชัดเจน ว่าที่แท้เป็นผู้ใดกันที่เสนอราคาออกมาได้ถึงเพียงนี้

 

“โอสถเจ็ดลมปราณ เป็นการลงทุนที่เยอะมากนัก อย่างน้อยก็คงจะเป็นนางแล้ว “องค์หญิงจื่อหวินหัวเราะขึ้นมาเบาๆ เผยสีหน้าราวกับทราบว่าเป็นผู้ใดออกมา

 

“ผู้ใด? “เยี่ยจงแปลกใจอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่าต้องเป็นบุคคลเช่นไรกันจึงจะสามารถที่จะจ่ายออกมาด้วยสิ่งของที่มีมูลค่ามากมายถึงเพียงนี้ โอสถเจ็ดลมปราณคือสิ่งใดกันตัวเขาเองนั้นย่อมทราบเป็นอย่างดี นั้นก็เพราะว่าภายในนั้นได้รวมเอาไว้ด้วยพลังปราณฟ้าดินแท้จริงเอาไว้ถึงเจ็ดชนิด มีผลหนุนเสริมต่อการเข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังเทวะอย่างมากมาย อีกทั้งยังกล่าวกันว่า โอสถเจ็ดลมปราณเพียงชิ้นเดียว ก็สามารถที่จะทำให้ยอดฝีมือเข้าสู่ระดับชนชั้นราชันได้แล้ว เพียงพอที่จะบ่งบอกได้ว่าวัตถุชิ้นนี้มีความแข็งแกร่งถึงระดับใด แม้แต่เยี่ยจงก็ยังต้องแปลกใจ ว่าต้องเป็นบุคคลเช่นไรกันจึงพอที่จะสามารถนำเอาสิ่งของเช่นนี้ออกมาแลกเปลี่ยนได้อย่างไม่เสียดาย

 

“แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นองค์หญิงเล็กแห่งรัฐเย่าผู้นั้นแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ บุคคลภายนอกจะสามารถมีกำลังทรัพย์ได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ? “องค์หญิงจื่อหวินหัวเราะขึ้นมาเบาๆ นางราวกับทราบว่าเยี่ยจงไม่ค่อยจะมีความเข้าใจสิ่งที่อยู่ในดินแดนซีฮวงมากมายนัก ต่อมาจึงได้กล่าวอธิบายออกมาอย่างละเอียด “รัฐเย่านั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเก้ารัฐใหญ่ของเผ่ามนุษย์ เพียงแต่ว่ามักจะให้ความสำคัญต่อสายโลหิตเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นรัฐที่มีการหลอมยาเป็นชีวิตจิตใจ มักจะไม่เข้าร่วมการแก่งแย่งชิงดีมากมายนัก บวกกับมีสุดยอดฝีมือปรากฏขึ้นมาอยู่เรื่อย อีกทั้งยังมีพรสวรรค์อย่างไรขีดจำกัด ดังนั้น ท่ามกลางดินแดนซีฮวง สถานะของพวกเขาย่อมต้องเกินกว่าธรรมดาอย่างถึงที่สุด ผู้คนโดยส่วนมากแล้วมักจะไปต้องการที่จะมีเรื่องกับคนของรัฐเย่า……แน่นอนว่าย่อมต้องมีผู้อื่นคิดที่จะต้องการยันต์ปราณทลายแดนนี้ ทว่าในเมื่อองค์หญิงเล็กรัฐเย่าก็ได้กล่าวขึ้นมาเช่นนี้แล้ว ยังมีผู้ใดไม่เห็นอยู่ในสายตาได้อีกกัน? คิดที่จะแย่งชิงกับนางอีกอย่างงั้นหรือ? “

 

“องค์หญิงเล็กรัฐเย่า” เยี่ยจงพยักหน้าตอบคำ เขาเคยได้ยินรัฐเย่ามาก่อน เพียงแต่ว่า ดินแดนก่อนหน้าที่เขาเคยอยู่นั้นเรียกได้ว่าคับแคบอย่างยิ่ง แม้จะทราบเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้ แต่ก็ย่อมไม่อาจที่จะเทียบได้กับผู้ที่มาจากแดนลับแลอยู่แล้ว

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-11 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset