เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 389 วิชาสายฟ้าฉางจว่อ

ตอนที่ 389 วิชาสายฟ้าฉางจว่อ

 

หลังจากนั้นการเกิดการต่อรองขึ้นอยู่พักหนึ่ง เยี่ยจงก็ได้เก็บกระดูกชิ้นนั้นเอาไว้ หากเป็นไปตามคำบอกเล่าของเสี่ยวหลุน มันสามารถที่จะเปิดผนึกได้สำเร็จกว่าแปดส่วนโดยที่ไม่จำเป็นต้องทำให้กระดูกชิ้นนี้เกิดรอยสึกหรอ เพียงแต่ว่า เมื่อถึงช่วงเวลาที่ใช้ออกคงจะต้องเกิดความเคลื่อนไหวอันน่าตกใจขึ้นมาอย่างแน่นอน จึงจำเป็นที่จะต้องเสาะหาสถานที่ที่ไร้ผู้คนในการเปิดผนึกวัตถุชิ้นนี้ ตอนนี้ยังถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

 

สายตาของชิงหญิงสามสาวก็ได้มองไปที่เยี่ยจงทั้งยังแฝงไว้ด้วยความประหลาดใจอยู่หลายส่วน เห็นได้ชัด ความเงียบขรึมของเยี่ยจงในตอนนี้ย่อมต้องสะกิดความสงสัยของพวกนางขึ้นมาได้อย่างแน่นอน ราวกับว่าเยี่ยจงมีความสามารถที่จะปลดผนึกมันออกมาได้ก็มิปาน

 

เพียงแต่ว่า เรื่องเช่นนี้ยังไงซะก็เป็นได้เพียงแค่ความลับของเยี่ยจงเพียงผู้เดียวเท่านั้น สามสาวกลับมิได้กล่าวอันใดออกมา

 

การประมูลก็ได้ดำเนินต่อไป ด้านบนแท่น เหยียนหลิงหลงดีใจเป็นอย่างยิ่ง นั้นก็เพราะว่าการประมูลในครั้งนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จได้อย่างถึงที่สุดก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของชิ้นใด นางก็ถือได้ว่าขายออกไปได้ในกำไรที่งามกลับมาอย่างยิ่ง

 

“นี้ก็กระบี่ที่เสียหายชิ้นหนึ่ง แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ก็ยังคงถือได้ว่ายังคงมีความสามารถในระดับของสมบัติเซียนระดับกลาง หากว่าสามารถที่จะเสาะหาผู้หลอมสร้างสมบัติปราณเพื่อซ่อมแซมกลับคืนมาได้แล้วละก็ แน่นอนว่าย่อมต้องมีพลังที่สะเทือนไปได้ทั้งสวรรค์ อีกทั้งยังมีพลังที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาสามัญเป็นอย่างยิ่ง“

 

ไม่นานนัก ก็ได้มีคนส่งมอบกระบี่ที่หักเล่มหนึ่งที่มีลักษณะถูกสร้างมาจากก้อนน้ำแข็งดูโปร่งใสขึ้นมา เหยียนหลิงหลงก็ได้กวาดมือไปทั้งหมดสองครั้งครา ยิ้มออกมาแล้วกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

หลังจากที่เงียบงัน ผู้คนมากมายต่างก็เกิดอาการตื่นตกตะลึงขึ้นมา นั้นก็เพราะว่าซากกระบี่เล่มนี้ถือได้ว่ามีพลังความสามารถอยู่ในขั้นสมบัติเซียนระดับกลางอย่างชัดเจน ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากจะคาดคิดเอาไว้ได้ หากว่าสามารถซ่อมแซมมันกลับมาได้ละก็ เกรงว่ามันคงจะสามารถมีระดับพลังอันน่าหวาดกลัวได้ถึงระดับใดกันแน่

 

“วัตถุชิ้นนี้ข้าต้องการ! “ชายหนุ่มที่ทั่วทั้งศีรษะเปี่ยมไปด้วยสีทองในระหว่างนั้นเองก็ได้เลิกม่านไข่มุกของห้องพิเศษออกมา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขานั้นดูไปแล้วมีอายุประมาณยี่สิบกว่าปีเท่านั้น อีกทั้งบนร่างกายก็เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอันน่าหวาดกลัวอย่างมากมาย เพียงแค่มองเข้าไปก็ทราบได้ว่ามีพลังฝีมืออยู่ในระดับชนชั้นราชันแล้ว

 

ตอนนี้ที่เขาจงใจปรากฏตัวขึ้นมา ก็เพื่อที่จะเป็นการบอกกล่าวต่อผู้อื่น วัตถุชิ้นนี้ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ต้องครอบครองให้จงได้

 

“คนผู้นี้ก็คืออัจฉริยะแห่งเผ่าปีกจินยี่ (ปีกทอง) อายุยังเยาว์วัยก็อยู่ในระดับราชันแล้ว ช่างน่าหวาดกลัวเสียจริง “องค์หญิงจื่อหวินมองเข้าไปที่คนบุคคลนี้คราหนึ่ง ส่งเสียงแนะนำออกมาเบาๆ “ทว่าเขานั้นได้มาจากดินแดนตงฮวง กลับมิใช่คนของเผ่าปีกแห่งดินแดนซีฮวง……คนของเผ่าปีกก็เปรียบเสมือนเผ่ามนุษย์ก็มิปาน มีการแบ่งเชื้อสายกันอยู่อย่างมากมายมหาศาล มีอยู่ทั่วทั้งสี่ดินแดน “

 

“เผ่าปีก จินยี่ “เยี่ยจงหยักหน้า แล้วก็ได้ทอสีหน้าระแวงออกมาเล็กน้อยอยู่หลายส่วน ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเผ่าปีกถือได้ว่าอยู่ในระดับที่เรียกได้ว่าย่ำแย่อย่างถึงที่สุด ทั้งสองฝ่ายต่างก็ถือได้ว่ามีหนี้โลหิตกันอยู่อย่างลึกล้ำ ทว่าคนผู้นี้ยังคงมิใช่คนของเผ่าปีกแห่งดินแดนซีฮวง แน่นอนว่าย่อมไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างความลำบากใจให้แก่เขา

 

และยอดฝีมือคนอื่นๆ เมื่อพบเห็นฉากที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า ต่างก็มิได้เอ่ยปากกล่าวอันใดออกมา เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง ตอนนี้หากผู้ใดเอ่ยปากขึ้นมา ก็เป็นเหมือนดั่งต้องการที่จะเป็นปรปักษ์กับอัจฉริยะเผ่าปีกผู้นี้ เรื่องเฉกเช่นนี้ย่อมไม่มีผู้ใดยินดีที่จะกระทำอย่างแน่นอน

 

ในขณะที่ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้เกิดความเงียบงัน เหยียนหลิงหลงก็อดมิได้ที่จะต้องยิ้มขึ้นมาพร้อมทั้งเหม่อมองไปทางจินยี่ กล่าวตอบออกมาเสียงแผ่วเบา: “สหายผู้มีเกียรติท่านนี้ ท่านในเมื่อต้องการกระบี่หักเล่มนี้แล้วละก็ ท่านก็สมควรที่จะกล่าวออกมา ว่าท่านจะใช้สิ่งใดในการแลกเปลี่ยนกับวัตถุชิ้นนี้กัน? ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงจะไม่เป็นไปตามกฎแล้ว “

 

“สิ่งของเช่นนี้สมควรที่จะเพียงพอแล้วละมั่ง “จินยี่หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นก็ได้โบกมือขึ้นคราหนึ่ง แล้วก็ได้พบกับกลุ่มประกายแสงสีทองพวยพุ่งออกไป ไม่นานนักก็ได้มาอยู่ที่เบื้องหน้าของเหยียนหลิงหลง

 

จากนั้นเหยียนหลิงหลงก็ได้นำเอามันมาไว้อยู่ภายในมือทอดตามองเข่าไป แล้วจึงได้ยิ้มแล้วตอบ: “วัตถุชิ้นนี้ย่อมต้องมีมูลค่าที่สูงล้ำอย่างยิ่ง หากว่าไม่มีผู้ใดเสนอราคาอีก กระบี่หักเล่มนี้ก็จะกลายเป็นของท่านผู้นี้แล้ว “

 

ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็ได้เงียบงันอย่างถึงที่สุด ไม่มีผู้ใดยินยอมที่จะสร้างปัญหากับอัจฉริยะเผ่าปีกผู้นี้ในเวลาเช่นนี้อย่างแน่นอน ดังนั้น จินยี่นั้นก็ได้รับกระบี่หักเล่มนั้นมาไว้ในมืออย่างบรรลุตามประสงค์

 

ต่อจากนี้ ก็ได้ปรากฏคัมภีร์ทักษะเซียนอยู่ม้วนหนึ่ง ต่อมาพริบตาที่คัมภีร์ทักษะเซียนม้วนนี้ก็ได้ปรากฏขึ้นมาอยู่ทางด้านบนของแท่นการประมูล ผู้คนทั้งหมดท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ต่างก็เกิดอาการตื่นตกใจขึ้นมา รู้สึกได้ว่าตนเองแทบจะกลายเป็นบ้าไปได้แล้ว!

 

ทักษะเซียน ไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังที่มาจากแห่งหนใด ต่างก็ถือได้ว่าเป็นไพ่ตายได้อย่างแท้จริง โดยส่วนมากแล้วย่อมไม่ถ่ายทอดให้แก่บุคคลภายนอก และยิ่งเป็นมนต์ตราเทพที่มีระดับที่เหนือกว่าทักษะเซียน ยิ่งเรียกได้ว่าหาได้ยากยิ่งกว่า ขุมกำลังที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็นดินแดนลับแลที่มีอยู่มากมาย ก็ยังมีทักษะเซียนอยู่เพียงแค่ไม่กี่อย่าง หรือไม่ก็มีเพียงมนต์ตราเทพเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น

 

แต่ว่าตอนนี้ นี้ถือได้ว่าเป็นทักษะเซียนได้อย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าจะปรากฏขึ้นมาอยู่บนท่ามกลางการประมูล แต่ก็สามารถทำให้ผู้คนทั้งหมดเข้าใจได้ การประมูลที่แท้จริงในครั้งนี้ได้มาถึงแล้ว

 

“ทักษะเซียนม้วนนี้ เรียกได้ว่ามาจากเผ่าฉางจว่อ (长右) ที่ได้สาบสูญไปแล้ว เผ่าวานรวารีนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล อีกทั้งยังมียิ่งใหญ่ไปทั่วทั้งสี่ดินแดน และเผ่าของพวกมันนั้นถือได้ว่ามีวิชาสายฟ้าที่น่าตื่นตกใจเป็นอย่างมาก มีความน่ากลัวอย่างถึงที่สุด และคัมภีร์ม้วนนี้ ก็คือวิชาสายฟ้าของเผ่าฉางจว่อนั้นเอง เพียงแต่ว่า นั้นก็เพราะว่าวิชานั้นมีส่วนที่มีความเสียหายมากเกินไป ดังนั้น ก็ยังสามารถเรียกได้ว่าเป็นม้วนคัมภีร์ยุทธ์ที่เป็นทักษะเซียนระดับกลางเท่านั้น “

https://goo.gl/R7E51B

 

เหยียนหลิงหลงแนะนำ ถึงมูลค่าของม้วนคัมภีร์ที่อยู่ในมือ

 

เยี่ยจงก็ได้เกิดอาการตกใจขึ้นมา บนใบหน้าก็ได้ปรากฏความสงสัยขึ้น จางจว่อ กล่าวกันว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่จัดอยู่ในเผ่าของวานรที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งสายฟ้า ทั้งน่ากลัวและแข็งแกร่ง เผ่าพันธุ์อันเก่าแก่นี้เรียกได้ว่าเป็นเหมือนมีความสามารถประดุจดั่งเทพสายฟ้าระหว่างฟ้าดินก็มิปาน มีความไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด แต่คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ถึงกับมีทักษะเซียนของเผ่าพันธุ์นี้ปรากฏขึ้นมา

 

ในขณะนี้เอง ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็ได้เคลื่อนความเคลื่อนไหวขึ้น

 

“ข้ายินดีที่จะใช้หนึ่งในทักษะเซียนประจำสำนักมาเพื่อแลกเปลี่ยน! “

 

“ข้ายินดีที่จะนำเอาสมบัติเซียนระดับสูงชิ้นหนึ่งมาแลก! “

 

“ข้ายินดีที่จะใช้โอสถระดับเซียนในตำนานออกมาแลก ผลยาบรรพกาล “

 

“…… “

 

ในทันทีที่เสียงของเหยียนหลิงหลงทอดลงมา ก็ได้เกิดความเคลื่อนขึ้นมาอย่างรุนแรง ยอดฝีมือเหล่านั้นที่มิได้เอ่ยปากขึ้นมาในตั้งแต่ต้นในตอนนี้ก็ได้เริ่มเคลื่อนไหว แม้แต่อัจฉริยะแต่ละฝ่ายที่นั่งอยู่ภายในห้องพิเศษต่างก็นั่งไปติดเก้าอี้จนต้องลุกขึ้นมา ในตอนนี้ก็ได้เอ่ยขึ้นมา เหยียนหลิงหลงที่จะใช้ออกมาด้วยสิ่งของมีค่าต่างๆ นานา ในการแลกเปลี่ยนกับสมบัติชิ้นนี้

 

นั้นก็เพราะว่าวิชาสายฟ้านั้นมีความพิเศษเป็นอย่างยิ่ง เป็นความไม่ธรรมดาระหว่างฟ้าดินจนกลายมาเป็นความสัมผัสที่บรรจบอยู่ในคำว่าสายฟ้าของทักษะเซียน มนต์ตราเทพเป็นต้น ต่างก็ถือได้ว่ามีความพลิกแพลงที่ไม่ธรรมดาสามัญเอาไว้ พลังความสามารถยังเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่เหนือกว่าทักษะเซียนที่ระดับเดียวกัน อีกทั้ง หากกล่าวถึงพลังทักษะยุทธ์ของเผ่าปีศาจแล้ว วิชาสายฟ้าแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นเหมือนดั่งประกายดวงดาว ดังนั้น ผู้คนมากมายในตอนนี้ต่างก็ต้องการที่จะครอบครองให้จงได้

 

สีหน้าของเยี่ยจงก็ได้เริ่มที่จะกลัดกลุ้มขึ้นมาหลายส่วน ถึงแม้ว่าเขาจำเป็นที่จะต้องครอบครองทักษะเซียนเอาไว้ให้ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าท่ามกลางสถานที่แห่งนี้กลับกลายเป็นเร่าร้อนได้ถึงเพียงนี้ พริบตานั้นก็ได้มีคนนำสิ่งของออกมาอย่างมากมาย

 

“ทุกท่าน มูลค่าของทักษะเซียนนี้ถือได้ว่าสูงยิ่ง ทุกท่านสมควรต่างก็เข้าใจกันดีอยู่แล้ว และทักษะเซียนม้วนนี้ กลับมิได้มาจากสหพันธ์การประมูล แล้วก็มิได้มาจากทางราชวงศ์รัฐเหยียนของพวกเรา เพียงแต่มาจากผู้อาวุโสมหาราชันผู้หนึ่ง “ด้านบนแท่น เหยียนหลิงหลงก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ กล่าวออกมาถึงที่มาของทักษะเซียนนี้

 

ทันใดนั้น ท่ามกลางสนามแห่งนี้ก็ได้เงียบสงบลงไปหลายส่วน คนเหล่านี้ความที่กำลังมีความคิดอย่างอื่นอยู่ในตอนนี้ต่างก็ได้หุบปากลงไปในทันที วัตถุนี้ถึงกลับมาจากยอดฝีมือระดับมหาราชัน เช่นนั้นแน่นอนว่าย่อมไม่อาจที่จะกระทำอะไรวุ่นวายได้ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากทำให้ยอดฝีมือระดับมหาราชันมีโทสะขึ้นมา แน่นอนว่าต้องเกิดการนองเลือดขึ้นมานับสิบหมื่นลี้แน่

 

“ทุกท่าน ผู้อาวุโสมหาราชันได้กล่าวเอาไว้ว่า ที่เขาถึงกับนำเอาทักษะเซียนนี้มาการประมูล แต่ว่ากลับไม่ต้องการใช้วัตถุของการประมูลทำการแลกเปลี่ยน เขาเพียงแต่ต้องการแลกเปลี่ยนกับสิ่งของที่มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุชิ้นนี้หรือในแนวทางเดียวกันเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคนผู้ใดมาจากสารทิศใด ขอเพียงทุกท่านมีความสามารถที่จะมีสิ่งของที่มีความเกี่ยวข้องกับของสิ่งนี้ ก็สามารถรับเอาไปได้ พวกเราเพียงแค่ส่งต่อคำกล่าวนี้ให้แก่ท่านผู้อาวุโสมหาราชันผู้นี้เท่านั้น เพื่อที่จะให้เขาได้มีการตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง “เหยียนหลิงหลงกล่าวออกมาติดต่อกัน แต่ว่าคำพูดนี้ก็ได้ทำให้เกิดความตกใจขึ้นมาได้อยู่ไม่น้อย หากนับตามวิธีการพูดที่มาจากเหยียนหลิงหลง ผู้อาวุโสมหาราชันผู้นั้นอย่างน้อยย่อมต้องอยู่ไม่ไกลจากสถานที่แห่งนี้อย่างแน่นอน

 

ในตอนนี้ ยอดฝีมือทั้งหมดต่างก็กำลังตกใจอยู่ภายในห้วงความคิด เริ่มต้นที่จะครุ่นคิดขึ้นมา ว่าตนเองจะสามารถหาวัตถุสิ่งของที่มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุสิ่งนี้ได้หรือไม่ อีกทั้งภายในนั้นมีสิ่งใดกันแน่

 

“ต้องเป็นวัตถุที่มีความเกี่ยวข้อง…… “

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว สีหน้าก็ได้ทอประกายประหลาดขึ้นมาหลายส่วน เมื่อกล่าวออกมาถึงสิ่งของชิ้นนี้ ในมือของเขาแน่นอนว่าย่อมต้องมีอยู่ นั้นก็คือพลังแก่นแท้ที่รวมเอาไว้อยู่ภายในคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ แน่นอนว่าน่าหวาดกลัว เพียงแต่ว่าสิ่งของชิ้นนี้ไม่อาจที่จะเป็นที่เปิดเผยได้ หากว่าปรากฏออกมาสู่สายตาย่อมต้องกลายเป็นที่ดึงดูดการฆ่าฟันอย่างแน่นอน

 

ทันใดนั้น สีหน้าเยี่ยจงก็ได้เคลื่อนไหวเล็กน้อย เขาย่อมไม่สามารถที่จะนำเอาคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ออกมาเพื่อแลกเปลี่ยนกับทักษะเซียนได้ อีกทั้งสิ่งที่อยู่ภายในคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ก็ยังไม่อาจที่จะเปิดเผยได้เช่นกัน แต่ว่าเมื่อมีสิ่งของเช่นนี้ แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถแลกเปลี่ยนได้ นั้นก็คือสิ่งได้มาจากท่ามกลางภายในอารามเทพฮวงกู่เมื่อครั้งก่อน เสียงสวดมนต์ที่ได้ยินอยู่ที่บันไดสัจธรรม

 

ในขณะที่เกิดความลังเล เยี่ยจงก็ได้นำชุดเครื่องเขียนออกมา เขียนออกมาด้วยตัวอักษรที่ลึกซึ้งอยู่หลายคำ แล้วก็ขอให้นำไปส่งมอบให้กับหญิงรับใช้ของการประมูล เพื่อที่จะได้นำมันส่งมอบออกไป ความนัยนั้นได้เขียนเอาไว้อย่างชัดเจน มีเพียงแค่ตัวอักษรอยู่เพียงแค่สิบคำ หากว่ามีความต้องการ เขาย่อมต้องเขียนตัวอักษรที่หลงเหลือออกมาอย่างแน่นอน

 

หลังจากที่ช่วงเวลาที่รอคอยได้ผ่านเลยไปราวครึ่งถ้วยน้ำชาเดือด เหยียนหลิงหลงก็ได้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางห้องพิเศษ นางส่งสายตาจ้องมองไปอย่างประหลาดไปทางด้านของเยี่ยจง ทว่าไม่นานนักก็ได้ส่งมอบทักษะเซียนนี้ไปให้แก่เยี่ยจงอย่างรวดเร็ว เหมือนกับบ่งบอกถึงความหมายที่ไม่ชัดเจนขึ้นมา

 

“ถึงกับสามารถได้ผลจริงงั้นหรือ? “เยี่ยจงไม่รู้จะกล่าวอันใดออกมา คิดไม่ถึงว่าเช่นนี้ก็ได้ด้วย ในเวลาเดียวกันเขาก็ยืนยันได้ว่า สิ่งที่ได้ฟังมาจากบันไดสัจธรรมเมื่อครั้งก่อน แน่นอนว่าไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด

 

จนถึงตอนนี้ หลังจากที่ครุ่นคิดแล้ว เยี่ยจงก็ได้ลงมือเขียนตัวอักษรจำนวนอีกสิบตัวลงไป แน่นอนว่า อักษรเหล่านี้แม้จะไม่เรียบร้อยตามที่ได้ยินมาจากบันไดสัจธรรมเอง อีกทั้งยังไล่เรียงไม่เป็นระเบียบอย่างวุ่นวายไปหมด

 

จากนั้นเหยียนหลิงหลงก็ได้เข้ามาส่งมอบสิ่งของมาให้อย่างระมัดระวัง เยี่ยจงจึงได้ส่งเสียงออกมาด้วยความงสงสัย: “ทุกท่าน ความจริงของสิ่งที่คนตาเฒ่าภายในตระกูลของข้าเอง หวังว่าทุกท่านอย่าได้นำเรื่องที่ข้ามามอบสิ่งของในวันนี้คืออันใดออกไป ไม่เช่นนั้นแล้วละก็คงจะต้องเกิดความยุ่งยากขึ้นมาอย่างแน่นอน “

 

ความระมัดระวังของเยี่ยจง ก็ถือได้ว่ามีความหมายในตัวของมันเอง อีกทั้งยังทำให้ผู้คนเข้าใจผิดได้ คิดว่าเขาจะต้องมาจากแดนลับแลอย่างแน่นอนแล้ว

 

เหยียนหลิงหลงพยักหน้า ไม่นานนักก็ได้ถอยออกไป

 

และเยี่ยจงก็มิได้เกรงใจ ในครั้งนี้ก็ได้นำม้วนคัมภีร์คลี่ออกมาในทันที แล้วก็ได้ค่อยๆ ที่จะทำความเข้าใจขึ้นมา

 

ไม่นานนัก พลังประกายสายฟ้าก็ได้เริ่มที่จะปรากฏขึ้นมาอยู่บริเวณรอบกายของเยี่ยจง วิชาสายฟ้าของเผ่าฉางจว่อนั้นมีความลึกซึ้งอย่างยิ่ง แต่ว่าก็ถือว่ามีแกนแท้ที่ง่ายดาย เมื่อได้ครอบครองก็ไม่ยากที่จะฝึก

 

นั้นก็เพราะว่า ทักษะเซียนนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิชาการใช้ออกมาด้วยสายฟ้า มิอาจที่จะเป็นพลังในขั้นเทวะที่แท้จริงได้

 

แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ถือได้ว่าเพียงพอแล้ว นั้นก็เพราะว่าสิ่งของนี้มีความลึกซึ้งมากมายมหาศาลตอนนี้แม้จะไม่อาจบรรลุได้ เยี่ยจงยังจำเป็นที่จะต้องมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งชนิดหนึ่ง เพื่อที่จะง่ายต่อการรับมือสิ่งต่างๆ

 

นับตั้งแต่ที่ตนเองได้เข้าดูสัมผัสถึงสิ่งที่อยู่ภายในคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ เยี่ยจงก็ได้พบว่าความเข้าใจในแนวทางวิทยายุทธ์ของตนนั้นก็ถือได้ว่าพลิกกลับมาใหม่แทบจะทั้งสิ้น ไม่นานนัก เขาก็ได้มีความเข้าใจในจุดที่สำคัญของวิชาสายฟ้าทักษะเซียนของเผ่าฉางจว่อ จากนั้นเขาก็ได้เก็บม้วนคัมภีร์เอาไว้อย่างระมัดระวัง บนใบหน้าก็ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา

 

“บ้าไปแล้ว—— “

 

ชิงหญิง โหยวเหลียน องค์หญิงจื่อหวินสามสาว ก็ได้เหม่อมองไปทางด้านเยี่ยจงโดยที่ไม่อาจจะกล่าวอะไรได้ พวกนางต่างก็มิใช่บุคคลธรรมดาสามัญ ย่อมต้องมองออก ว่าทันทีที่เยี่ยจงได้รับวิชาสายฟ้าก็ได้เข้าใจในจุดสำคัญของวิชาในทันที ถึงแม้ว่าเรื่องเช่นนี้ ด้วยพรสวรรค์ของพวกนางจะพอที่จะสามารถทำได้ แต่ว่าด้วยระดับความเร็วเยี่ยงเยี่ยจง กลับเรียกได้ว่ารวดเร็วจนน่าตกใจจนเกินไปแล้ว

 

“สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นทักษะเซียนก็ยังสามารถที่จะนำมาครอบครองไว้ได้ ไม่ทราบว่าท้ายที่สุดแล้วสิ่งของทั้งสองชิ้นนี้ จะเป็นอย่างไรบ้าง “เยี่ยจงยิ้มน้อยๆ จ้องมองไปยังบนร่างของเหยียนหลิงหลงที่อยู่ด้านบนแท่น การประมูลในครั้งนี้เขายังได้สิ่งของมาถึงสองชิ้น ถือได้ว่าพอใจเป็นอย่างยิ่งแล้ว เขาในตอนนี้ก็ได้เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ ว่าสิ่งของชิ้นต่อไปจะเป็นสิ่งของอันใดกันแน่

 

ด้านบนแท่นการประมูล เหยียนหลิงหลงก็ได้ยิ้มน้อยๆ ออกมา จากนั้นในครั้งนี้นางก็ได้โบกมือขึ้นมา แล้วก็ได้พบกับประกายแสงอันแรงกล้าสาดส่องออกมาจากบริเวณทางด้านหน้าของนาง จากนั้นไม่นานนัก ก็ได้กลายเป็นเสื้อคลุมที่ทอจากขนนกอย่างสวยสดงดงามชุดหนึ่ง เสื้อคลุมขนนี้ไม่ทราบว่าถูกสร้างออกมาจากวัตถุใดกันแน่ จึงได้มีความงดงามได้ถึงเพียงนี้ แต่ว่าที่สำคัญที่สุดก็คือกลับมีประกายแสงสีทองทอปรากฏขึ้นมา

 

ในขณะนี้เอง ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนต่างก็เกิดความสงสัยขึ้นมา จากนั้น ราวกับว่าผู้คนทั้งหมดต่างก็คิดถึงวัตถุเดียวกันขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-11 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset