เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 403 ฝ่าด่าน

ตอนที่ 403 ฝ่าด่าน

 

ขณะนี้แผ่นอักขระชิ้นที่หนึ่งปรากฏขึ้นมาภายใต้ห้วงความคิดของเยี่ยจง นี้คือท่ามกลางแผ่นอักขระทั้งเก้าชิ้นที่มีความง่ายเป็นอันดับแรก แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ มันยังคงแผ่ก่อตัวรวมกันจากชิ้นเล็กๆ นับไม่ถ้วนเข้าด้วยกันจะเป็นประกายฉากสายหนึ่ง หากว่ามองดูอย่างละเอียดแล้วละก็ นี้ราวกับเป็นเหมือนดั่งหิ่งห้อยที่มีขนาดเท่าหัวแม่มือขยับไปมา จนปรากฏพลังความแข็งแกร่งชนิดหนึ่งลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า

 

แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงแรกของเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนนี้ แต่ว่าก็เรียกได้ว่าได้ปรากฏหนึ่งในสี่ของปราณแห่งฟ้าขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นมา จากนั้นก็ได้ลอยทะลวงจนกลายเป็นพลังทั้งเก้าชั้นอย่างเรียบง่าย ภายในนั้นก็ได้รวมเอาไว้ด้วยพลังสิ่งของมากมายเอาไว้ จำเป็นที่จะต้องสงบใจเอาไว้เพื่อฝึกปรือ

 

ระดับการฝึกยุทธ์เดิมของเยี่ยจงถือได้ว่าสูงล้ำเป็นอย่างยิ่ง บวกกับที่เขาได้บรรลุเข้าสู่พลังแห่งฟ้า จึงเรียกได้ว่ามีพลังสายตาที่กว้างไกลกว่าของผู้อื่น ไม่ว่าจะเรียกรู้สิ่งใดก็เรียนรู้เพียงแค่ชั่วเวลาไม่นาน ดังนั้น ไม่นานนักเขาก็สามารถที่จะทราบและเข้าใจถึงบทพื้นฐานของวิชาของแผ่นอักขระแผ่นนี้ แต่ว่าเขากลับมิได้แสดงอันใดออกมา เพียงแต่คาดคำนวณอย่างระมัดระวัง เพื่อที่จะได้จดจำลักษณ์การเปลี่ยนแปลงจำนวนมากเอาไว้จนขึ้นใจ นั้นก็เพราะว่าเกรงว่าตนเองจะพลาดสิ่งใดไป

 

หลังจากผ่านไปได้ไม่นาน เยี่ยจงก็ได้ลืมตาขึ้นมา หัวไหล่ทั้งสองข้างขยับผ่อนปลายเคลื่อนไหวไปมาคล้ายกับมีปีกงอกขึ้นมาอย่างช้าๆ ในเวลาเดียวกัน ประกายแสงแห่งความร้อนเสมือนดั่งดวงอาทิตย์ก็ได้ปรากฏขึ้นท่ามกลางบริเวณทางด้านหลังของเขา จนกลายเป็นเสมือนดั่งปีกคู่หนึ่ง พร้อมที่จะสามารถฟาดฟันออกไปในทันที นี้ก็คือการเปลี่ยนแปลงในลักษณ์แรกที่ปรากฏขึ้นของไท่กู่จูเชวียน มีความแข็งแกร่งเกินกว่าที่จะคาดเดาเอาไว้ได้

 

“ถือได้ว่าสำเร็จแล้วสินะ ! “

 

เยี่ยจงพยักหน้าเห็นด้วยอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็ได้หลับตาลงอีกครา จากนั้นก็ได้ครุ่นคิดถึงแผ่นอักขระชิ้นที่สองภายในสำนึกจิตใจ จากนั้นก็แผ่นที่สาม

 

ทว่า ในช่วงเวลาที่เขามองไปที่แผ่นอักขระชิ้นที่สี่ พริบตานั้นก็ได้เขาสู่ห้วงแห่งความคิด จนทำให้เขาไม่อาจที่จะไม่ถอยออกมาจากการฝึกเพื่อบรรลุได้

 

ขณะนี้ เยี่ยจงก็ได้ขมวดคิ้วมองเข้าไปยังทั่วทั้งสี่ด้านภายในถ้ำ จึงได้พบว่า พลังประกายแสงแห่งจากพลังเทพของมรรคแห่งไฟก็ได้สูญสลายหายไปจนหมดสิ้น และมีเพียงเขาที่นั่งสมาธิอยู่บนพื้นเท่านั้น

 

“เป็นไปได้อย่างไรกัน ? “เขาขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นมา

 

“ในช่วงเวลาที่เจ้ากำลังเข้าสู่การบรรลุมรรคแห่งเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียน ก็ถือได้ว่าเป็นเหมือนกับการแปรเปลี่ยนของมรรคความสามารถแห่งไฟได้พร้อมทุกช่วงเวลา ข้าถึงแม้ว่าจะไม่ทราบว่าเจ้าขณะนี้บรรลุไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงที่เท่าไหร่แล้ว แต่ว่าก็เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง หากว่าไม่มีมรรคแห่งไฟอันมากมายและเข้มข้นในการชักนำแล้วละก็ เจ้าก็คงจะไม่อาจที่จะดำเนินการฝึกปรือเพื่อบรรลุต่อไปได้ นั้นก็เพราะว่าภายในตำนานนั้น บริเวณที่นกจูเชวียนอยู่นั้น ถือได้ว่าปกคลุมแผ่กระจายไปด้วยเพลิงไฟ นี้คือก็คือการใช้ออกมาด้วยร่างของมรรคสูงสุดแห่งไฟ ร่างกายดั่งหมื่นเพลิงกาฬ “เสี่ยวหลุนส่งเสียงดังออกมาติดต่อกัน เห็นได้ชัดว่าเกิดความไม่พอใจอยู่หลายส่วน เห็นได้ชัดอย่างยิ่ง ในครั้งนี้เยี่ยจงได้รับประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่ แต่ว่ามันกลับสูญเสียอย่างยิ่งใหญ่

 

“น่าเสียดาย เพียงแต่แค่บรรลุเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนไปเพียงสามเปลี่ยนแปลงเท่านั้นเอง “เยี่ยจงถอนหายใจ ภายในน้ำเสียงแฝงเอาไว้ด้วยความหดหู่อยู่สายหนึ่ง หากว่าสามารถบรรลุเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนทั้งหมด เช่นนั้นพลังฝีมือของตนเองจนปะทุไปจนถึงขั้นใดกันแน่

 

“สามเปลี่ยนแปลง “เสี่ยวหลุนไร้คำจะกล่าว หลังจากนั้นก็ได้เอ่ยเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา “แต่เดิมหากเป็นไปตามการคำนวณของข้า มรรคแห่งไฟเหล่านี้อย่างมากก็สามารถทำให้เจ้าบรรลุได้แค่สองการเปลี่ยนแปลง คิดไม่ถึงเจ้ากลับสามารถบรรลุได้ถึงสามเปลี่ยนแปลงได้ ถือได้ว่าอยู่เหนือความคาดหมายของข้าไปแล้ว ……ทว่าเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากจนเกินไป พลังฝีมือของเจ้าในขณะนี้ ที่สามารถบรรลุได้ถึงสามในการเปลี่ยนแปลงแรกได้ ก็ถือได้ว่าเป็นถึงที่สุดแล้ว การเปลี่ยนแปลงส่วนหลัง รอคอยจนหลังจากที่เจ้าได้เข้าสู่ระดับมหาราชันแล้วคอยวิเคราะห์กันอีกครั้งก็ได้ “

 

เยี่ยจงครุ่นคิด หลังจากนั้นก็ได้พยักหน้าไปมาน้อยๆ ในช่วงเวลาที่กำลังจะทดสอบดู เขาก็สัมผัสได้ถึงบางอย่าง ด้วยพลังฝีมือของตนเองในขณะนี้ หากว่าสามารถบรรลุได้ถึงการเปลี่ยนแปลงขั้นที่สี่ของไท่กู่จูเชวียน เช่นนั้นเกรงว่าสถานการณ์ต่อไปก็ใช่ว่าจะดีไปกว่ากันมากนัก

 

ในขณะที่กำลังครุ่นคิด เยี่ยจงก็ได้หัวเราะขึ้นมา ในครั้งนี้เขาถือได้ว่าได้รับโอกาสวาสนามาอย่างมากมายแล้วก็ว่าได้ อย่างน้อย ก็เขาพอที่จะทำให้เขาสามารถรับมือออกท่องกับในช่วงเวลาที่อยู่ภายในป่ามรกตได้ สามารถมีวิชาฝีมือที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งได้แล้ว

 

“เอ๊ะ พลังฝีมือของข้า…… “

 

พริบตานั้น เยี่ยจงขมวดคิ้ว จากนั้นสีหน้าก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดขึ้นมา นั้นก็เพราะว่า ขอบเขตในขณะนี้ของเขาก็ได้บรรลุจนมาถึงขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณหมุนครบรอบ ระยะห่างจากขั้นมหาราชัน ก็มีเพียงแค่ระดับพลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณเทวราช เหลืออีกเพียงครึ่งก้าวก็เข้าถึงประตูด่านถัดไป

 

ความสำเร็จเช่นนี้เรียกได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเยี่ยจงไปมากแล้ว เป็นที่ชัดเจนว่า หลังจากที่หล่อหลอมพลังความสามารถมรรคแห่งไฟเหล่านี้ไปแล้ว ยังสามารถได้รับผลพวงได้มาอีกอยู่ไม่น้อย

 

กล่าวได้ว่า การเก็บตัวในครั้งนี้ ได้สร้างประโยชน์แก่เยี่ยจงอย่างมากมาย ทำให้พลังฝีมือที่เป็นเหมือนช่องว่างของเขากำจัดข้อจำกัดส่วนที่ว่างไปได้ ยิ่งเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการแย่งชิงภายในดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ได้

 

“ต่อจากนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บตัวอีกแล้ว ขอเพียงคงสภาวะร่างกายเช่นนี้ภายใต้การต่อสู้ได้ เสาะหาโอกาสวาสนา ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตพลังปราณเทวราชของขั้นก่อฟ้า สำเร็จสู่ระดับมหาราชัน ! “เยี่ยจงบ่นกับตนเอง จากนั้นก็ได้เผยรอยยิ้มขึ้นมาสายหนึ่ง

 

“ข้าได้เก็บตัวอยู่นานแค่ไหนกัน “เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมา

 

“น่าจะประมาณครึ่งเดือนได้ ทว่าบริเวณโดยรอบสมควรที่จะไม่มีผู้ใดแล้ว ยอดฝีมือมากมายต่างก็ได้มุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนลึกแล้ว “เสี่ยวหลุนเอ่ยขึ้นมา ยังคงน้ำเสียงอ่อนโทรมอย่างไร้ทาเปรียบ

 

“ในครั้งนี้รบกวนเจ้าแล้ว เจ้าวางใจได้เลย หากแย่งชิงสิ่งของได้มาได้แล้วละก็ แน่นอนว่าย่อมไม่ลืมส่วนของเจ้าอย่างแน่นอน “เยี่ยจงอมยิ้มขึ้น จากนั้นก็ครุ่นคิดขึ้นชั่วครู่ จากนั้นเสี่ยวหลุนก็ได้หลบเข้าไปภายในใจกลางอกของตนเอง จากนั้นเขาก็ได้ขยับร่างกายคราหนึ่ง แล้วก็ได้ทลายปากทางเข้าถ้ำออกไป ใช้ออกด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ออกจากสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว

 

ระยะที่ผ่านพ้นมานับหมื่นลี้ เพียงแค่ผ่านไปเพียงพริบตาเดียว ภายในระยะทางนับหมื่นลี้ ทิวทัศน์สิ่งที่เยี่ยจงได้พบเห็นทั้งหมดก็ได้ทำให้เขาเกิดอาการตกใจขึ้นมา นั้นก็เพราะว่า ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ระยะทางในหมื่นลี้ แต่ว่าเขาก็ยังสามารถที่จะพบเห็นร่องรอยของการต่อสู้ได้ไม่น้อย อีกทั้งยังมีซากศพ คราบโลหิตสีแดงฉานกองอยู่เต็มพื้นดิน

 

เป็นที่ชัดเจนว่า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตใดภายในดินแดนขนาดเล็ก ก็ยังสามารถที่จะเข้าถึงยังยอดฝีมือเหล่านี้ได้ เกรงว่าคงต้องทำให้เกิดความสูญเสียอย่างหนัก ปะทุจนก่อเกิดเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่นับหลายต่อหลายครั้ง ท่ามกลางนั้นเองยังพอที่จะสามารถพบเห็นเศษซากของยาโอสถกระจัดกระจายอยู่ไม่น้อย เป็นที่ชัดเจนว่า เพื่อที่จะแย่งชิงสิ่งของเหล่านี้ ผู้คนไม่น้อยย่อมต้องจ่ายค่าชดเชยออกไปไม่น้อยเช่นเดียวกัน

 

“ดูเหมือนว่าจะพลาดเรื่องราวไปไม่น้อยเลยทีเดียว ทว่าก็ช่างมันเถอะ “

 

เยี่ยจงบ่นกับตนเอง แล้วก็ขยับพุ่งออกไปอีกครั้ง ในครั้งนี้หลังจากที่เขาขยับผ่านไปอีกเพียงแค่สามพันลี้เท่านั้น แล้วก็ได้หยุดลงไปในทันทีอีกครา จ้องมองเข้าไปยังบริเวณทางด้านหน้า นั้นก็เพราะว่า ภายในพื้นที่แห่งนี้นับตั้งแต่แรกเริ่ม ก็มิได้มีร่องรอยของการต่อสู้ครั้งใหญ่อีก เป็นที่ชัดเจนว่า ผู้คนมากมายราวกับเพียงแค่เดินผ่านไปจากสถานที่แห่งนี้เท่านั้น เมื่อในระยะทางบริเวณห่างจากท่ามกลางป่ามรกตในตำนานแล้ว ก็ยังถือได้ว่าอยู่ในระยะที่ห่างไกลพอสมควร

 

“โครม—— “

 

พริบตานั้น ท่ามกลางของต้นไม้โบราณขนาดใหญ่ทางด้านหน้า ก็ได้มีแมลงที่มีร่างกายเสมือนดั่งเพลิงไฟกำลังปีนป่ายอยู่ตนหนึ่ง มันมีขนาดใหญ่เพียงแค่หนึ่งฝ่ามือของมนุษย์ แต่ว่ากลับสามารถจุดประกายลำแสงแห่งไฟได้ พวยพุ่งเผาผลาญออกไปทั่วทั้งสี่ทิศ

 

“นี้คือ แมลงเพลิง ? “

 

เยี่ยจงตกใจขึ้นมา สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่มีเฉพาะของดินแดนขนาดเล็กแห่งนี้ กล่าวกันว่าภายในร่างกายนั้นได้รวมเอาไว้ด้วยพลังแห่งมรรคไฟอยู่ แต่ว่าเดิมทีแล้วก็โหดร้ายสุดเปรียบปาน อีกทั้งยังมักจะรวมกันเป็นกลุ่ม

 

เยี่ยจงจดจำออกได้ก็เพราะบันทึกที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยังมีความคิดอีกแบบหนึ่ง หากว่าสิ่งที่บันทึกเอาไว้นั้นมิได้ผิดเพี้ยนไปแล้วละก็ ภายในร่างกายของแมลงเพลิงชนิดนี้ได้รวมเอาไว้ด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างมากมาย หากเก็บเกี่ยวได้มากสักหน่อยแล้วละก็ ย่อมส่งผลต่อการบรรลุของเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนในวันข้างหน้าได้ เรียกได้ว่ามีประโยชน์อยู่อย่างมากมาย

 

“ตูม—— “

 

ในช่วงเวลาที่เยี่ยจงกำลังครุ่นคิด พริบตานั้น ท่ามกลางป่าโบราณแห่งนี้ ก็ได้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นมา จากนั้นก็ได้พบเห็นแมลงเพลิงอย่างน้อยนับแสนตัวหล่นออกมาจากพื้นดิน ต่างก็กำลังปะทุประกายไฟขึ้นมาอยู่ พร้อมจะมอดไหม้หมื่นสรรพสิ่ง

 

ต่อให้เยี่ยจง ขณะนี้ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วถอยออกไป เขาคิดไม่ถึงภายในท่ามกลางดินแดนขนาดเล็กจะมีกลุ่มสิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้อยู่ อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่เฉกเช่นนี้แล้วละก็ ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะผู้ใดก็คงต้องหลบเลี่ยง นั้นก็เพราะว่า นี้มิใช่พลังที่มนุษย์จะสามารถต้านทานเอาไว้ได้

 

“โครม—— “

 

บริเวณด้านบนพื้นดิน พริบตานั้นประกายไฟก็ได้หายวับไป จนปรากฏกลายเป็นเงาร่างของแมลงขนาดใหญ่ปรากฏตัวขึ้นมา นี้สมควรที่จะเป็นราชาแมลงแล้ว ทั้งยังมีร่างกายขนาดใหญ่ไร้ที่เปรียบ ร่างกายก็ได้ปรากฏประกายไฟสีม่วงขึ้นมา ในเวลาเดียวกันก็ได้หายวับไป จนสามารถที่จะพบเห็นร่างกายที่ประดุจดั่งเส้นทางที่ก้าวเข้าสู่มรรคแห่งไฟของมันได้

 

“ของดีเลยละ ภายในร่างกายของราชาแมลงได้รวมเอาไว้ด้วยพลังแห่งมรรคแห่งไฟ เกรงว่าได้อยู่นอกเหนือกว่าแมลงเพลิงทั่วมวลในสถานที่แห่งนี้ทั้งหมด “ในขณะที่เยี่ยจงกำลังตกใจอยู่นั้น ก็ได้ถอนลมหายใจออกมาเบาๆ ถึงกับมีการปรากฏของราชาแมลงเช่นนี้ ถือได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมายไปมากแล้ว หากว่าสามารถนำพลังแห่งมรรคไฟภายในร่างกายของมันมาฝึกปรือได้แล้วละก็ ไม่แน่ว่าอาจจะทำให้ตนเองในขณะนี้สามารถบรรลุการเปลี่ยนแปลงขั้นที่สี่ของไท่กู่จูเชวียนได้ ในเวลาเดียวกันก็อาจจะสามารถเข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณเทวราชได้ สำเร็จสู่ขั้นมหาราชัน

 

หนึ่งมนุษย์และหนึ่งกลุ่มแมลงก็ได้สบตามองกันอยู่เช่นนี้ หลังจากนั้น เยี่ยจงก็ได้หัวเราะขึ้นที่มุมปาก พลิกมือทั้งสองข้างเปลี่ยนแปลงรอยตราบนมือขึ้น ใจกลางฝ่ามือก็ได้ปรากฏพลังปราณขึ้นมา เตรียมพร้อมที่จะลงมือ

 

“ฮูม—— “

 

ราชาแมลงก็ได้แสดงความโกรธเกรี้ยวขึ้นมา เป็นที่ชัดเจนว่ามันสามารถตรวจพบความต้องการของเยี่ยจงเอาไว้ได้ วินาทีนั้น ในขณะที่มันแสดงความโกรธเกรี้ยวขึ้นมา แมลงเพลิงทั้งหมดก็ได้พุ่งเข้าสังหารพร้อมกัน ประกายไฟก็ได้มุ่งหน้าหมุนวนเข้าไปยังบริเวณทั้งหมดเอาไว้

 

เยี่ยจงถอยกายออกไปทางด้านหลัง ไม่เข้าเผชิญหน้ากับเหล่าแมลงเพลิงโดยตรง จากนั้นก็ได้ถอยหลังไปทีละก้าว จ้องมองไปราชาแมลงนั้น คิดที่จะคอยหาจังหวะในการเข้าไปฆ่าสังหารในคราเดียว

 

“บรึม—— “

 

หลังจากนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้อ้าปากขึ้นมาอย่างกะทันหัน แล้วก็ได้ทีสายฟ้าสายหนึ่งพวยพุ่งออกมา แตกกระจายไปทั้งสี่ด้าน ในเวลาเดียวกันบริเวณทางด้านหลังของเขาก็ได้ปรากฏเงาร่างสูงใหญ่ของลิงยักษ์ จากนั้นก็ได้ยื่นมือขนาดใหญ่ผ่านเข้าไปพร้อมพลังสายฟ้าออกมา มุ่งหน้าเพื่อที่จะเข้าจับไปยังบริเวณที่ราชาแมลงนั้นอยู่

 

“ถี่—— “

 

พริบตานั้น คมกระบี่สายหนึ่งก็ได้พวยพุ่งมาจากทางด้านบนท้องฟ้า คมกระบี่แผ่ประกายความคมกล้าอย่างไร้ที่เปรียบ แฝงเอาไว้ด้วยพลังอักขระอันน่าหวาดกลัวเอาไว้ชนิดหนึ่ง ประดุจดั่งทลายอากาศเข้ามาก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าฟาดฟันในบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

เยี่ยจงเงยหน้าขึ้นมา ครุ่นคิดขึ้นทันควัน ความจริงที่พลังสังหารนั้นได้พวยพุ่งเข้าหาลิงยักษ์ในบริเวณท่ามกลางท้องนภาออกไปอย่างกะทันหัน

 

แล้งก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาเป็นสาย พลังประกายสายฟ้าของลิงยักษ์ก็ได้เข้าปะทะกับพลังคมกระบี่สายนั้นขึ้นไปในทันที วินาทีนั้น ก็ได้เกิดพลังความน่าหวาดกลัวเคลื่อนไหวปกคลุมแผ่กระจายไปทั่ว จนทำให้แมลงเพลิงไม่น้อยลอยละลิ่วกระจัดกระจาย

 

ในขณะนี้ ภายในดวงตาของเยี่ยจงก็ได้เย็นเยียบลง เขาจ้องมองไปยังท่ามกลางอากาศ เหม่อมองไปยังเงาร่างสายนั้น ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าขึ้นมาเป็นสาย

 

“เหอะ ฝีมือที่ไม่เลว แต่ว่าเจ้าก็สามารถไปได้แล้ว นั้นก็เพราะว่าราชาแมลงตัวนี้ข้าได้รอคอยมาอย่างเนิ่นนานแล้ว “นี้คือชายผู้หนึ่ง ในมือถือเอาไว้ด้วยกระบี่ไม้ด้ามหนึ่ง ร่างกายสูงโปร่ง แววตาทอเป็นประกาย

 

เขามีความมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง จากนั้นก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจงเช่นนี้ เป็นที่ชัดเจนว่า เขาคิดว่า บุคคลเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ จะต้องถอยออกไปอย่างแน่นอน

 

เยี่ยจงมองไปที่เขา หลังจากนั้นก็จดจำได้ขึ้นมา คนผู้นี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอัจฉริยะชั้นแนวหน้าก็ว่าได้ เพียงแต่ไม่ว่าเขาจะมีชื่อเรียกว่าอะไรก็ไม่ส่งผลต่อเยี่ยจงมากนัก เพียงแต่มองออกว่า คนผู้นี้สมควรที่จะร้ายกาจอย่างถึงที่สุด เกรงว่าพลังฝีมือถือได้ว่าอยู่ในระดับราชันไปแล้ว ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ เขาก็คงจะไม่หาญกล้าที่จะทำเช่นนี้เป็นแน่

 

“กับเจ้างั้นหรือ ? “แต่ว่า เยี่ยจงหัวเราะออกมา หัวเราะออกมาได้อย่างเย็นชาอย่างยิ่ง คนผู้นี้ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ว่ากลับมิได้อยู่ในสายตาของเขาเลย นี้ก็คือความมั่นใจของเยี่ยจง

 

“ซูม—— “

 

ท่ามกลางอากาศ แสงศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ค่อยๆ ทอเป็นประกายขึ้นมา หญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้นนางหนึ่งก็ได้ลอยลงมาจากบนฟากฟ้า บนร่างกายของนางถือได้ว่ามีความงามในระดับที่ล้มเมืองล้มรัฐได้เลยทีเดียว เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนมีจิตใจหวั่นไหวได้ แท้ที่จริงแล้วก็คือหุบเขาจิ้งจอกแห่งดินแดนเป่ยฮวงจิ้งจอกฟ้าเก้าหางซูม่อหยงนั้นเอง

 

“ตูม—— “

 

เด็กหนุ่มผมทองผู้หนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา เขามีรูปร่างที่ไม่สูงใหญ่มากนัก แต่ว่าก้าวออกไปดุจพยัคฆ์มังกรคำรน เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น เป็นที่ชัดเจนว่า เขาก็คือหนึ่งในบุคคลผู้โดดเด่นผู้หนึ่ง ขณะนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ไม่มีความหวาดเกรงต่อผู้ใดในสถานที่แห่งนี้

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 650

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ INBOX ในเพจเลยครับ

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset