เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 404 สามต่อหนึ่ง

ตอนที่ 404 สามต่อหนึ่ง

 

เยี่ยจงจ้องมองไปยังร่างกายของบุคคลทั้งสองคนทที่พึ่งปรากฏขึ้นมาใหม่ สีหน้าก็ได้เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาในตอนนี้จะยังมิได้ตรวจสอบพลังฝีมือของทั้งสองคนนี้ แต่เห็นได้ชัดอย่างยิ่งว่า ทั้งสองคนนี้ถือได้ว่าไม่ปกติธรรมดาอย่างแน่นอน เรียกได้ว่ามีพลังที่พิเศษเฉพาะอยู่ชนิดหนึ่ง ที่สามารถดึงดูดผู้คนเอาไว้ได้

 

ซูม่อหยงส่ายเอวอันเล็กบาง เชยคางขึ้น ยกไหล่ที่ขาวประดุจหยกขึ้นสูง ตลอดความเคลื่อนไหวอันอ่อนช้อยราวกับความเคลื่อนไหวออกมาของสายน้ำ หางทั้งเก้าทางด้านหลังของนางก็ได้ขยับไขว้กันไปมาอย่างเบา มิได้ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดเลยแม้แต่น้อย กลับยิ่งเพิ่มความรู้สึกสวยงามชนิดหนึ่งขึ้นมาได้

 

เยี่ยจงจ้องมองไปยังบนร่างกายของนาง ภายในดวงตาก็ได้ทอแววเคร่งเครียดขึ้นมา ซูม่อหยงผู้นี้ถึงแม้ว่าจะทรงเสน่ห์นับพัน หมื่นความเย้ายวน แต่ว่านางก็ยังทำให้เยี่ยจงเกิดความรู้สึกอันตรายขึ้นมาได้ ห่างไกลจากชายหนุ่มทั้งสองคนอยู่มาก

 

ซูม่อหยงตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เยี่ยจงแล้วหัวเราะออกมา จึงได้ตอบกลับออกมาเบาๆ : “ที่แท้ก็คือท่านซิงนั้นเอง นามกระเดื่องของท่าน ผู้น้อยย่อมได้เคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง วันนี้เมื่อได้มาพบเจอ ถึงกับไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน “

 

“งั้นหรือ ? “เยี่ยจงอมยิ้มขึ้นมา “ข้าคงจะต้องยอมรับว่า วีรบุรุษเยาว์เยี่ยงข้า กลับเป็นที่ถูกจับตามอง แต่ว่าเจ้ากลับเอาแต่จ้องมองข้าเช่นนี้ ข้าย่อมรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง “

 

ซูม่อหยงหัวเราะคิดคักอย่างมีเสน่ห์ สั่นไหวอย่างน่าดึงดูด หลังจากนั้น นางจึงค่อยได้หันสายตากลับมามอง ขยับริมฝีปากอมแดงแล้วกล่าว : “ท่านซิงก็ชมชอบกล่าวล้อเล่นไปแล้ว น่าเสียดายที่เล่นได้ไม่ถูกโอกาส หากว่าใช่แล้วละก็ พวกเราสมควรที่จะนั่งสนทนาร่ำสุราภายใต้แสงจันทร์กันจึงจะถูกต้อง “

 

“หากว่าแม่นางซูต้องการแล้วละก็ ตอนนี้ก็ไปเสาะหาสถานที่เปรียบเสมือนเก้งแห่งเซียน เช่นนี้จะดีหรือไม่ ? “เยี่ยจงหัวเราะน้อยๆ ออกมา ไม่แม้แต่จะเหลือบสายตามองเข้าไปยังจิ้งจอกฟ้าเก้าหางที่กำลังเดินเข้ามาเลยแม้แต่น้อย

 

เขายังคงมีสีหน้าปกติธรรมดา มิได้สนใจแม้แต่เงาของซูม่อหยงแม้แต่น้อย ให้บรรยากาศที่เหมือนกับกดดันออกมาอยู่ชนิดหนึ่ง

 

ซูม่อหยงตื่นตะลึงขึ้นมาเล็กน้อย ภายในดวงตาก็ได้ทอแววสาดประกายความตกใจขึ้นมาเป็นสาย นั้นก็เพราะว่านางย่อมทราบได้อย่างกระจ่าง โดยส่วนมากแล้ว อัจฉริยะมากมายที่มาจากทั่วทั้งสี่ดินแดน ต่างก็คิดที่จะแสดงบทบาทต่อหน้านาง แต่ละคนต่างก็กระพือความสูงส่งของตนเอง แต่ว่าคนผู้นี้กลับไม่เหมือนกัน ราวกับมิได้เห็นตนเองอยู่ในสายตาโดยทั้งสิ้น อีกทั้งยังกล่าวหยอกล้อกับตนเอง ท่าทีประดุจดั่งผู้ที่มีท่าทีเสเพล อีกทั้งยังไม่เห็นตนเองอยู่ภายในสายตาโดยทั้งสิ้น ?

 

“น่าเสียดายเหลือเกิน หากว่าสามารถเป็นเช่นนั้นได้แล้วละก็ ข้าก็ต้องการ เพียงแต่ว่า ตอนนี้กลับมีเรื่องอยู่เรื่องหนึ่งที่คิดจะรบกวนท่านซิง “หลังจากที่ซูม่อหยงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ได้หัวเราะออกมาอย่างมีเสน่ห์ “ท่าน ราชาแมลงนี้มีประโยชน์ต่อข้าอยู่หลายส่วน หากสามารถที่จะมอบให้ ผู้น้อยย่อมต้องมีสิ่งของอื่นตอบแทนอย่างแน่นอน “

 

“นี้เกรงว่าคงจะไม่ดีหรอกมั่ง ? “เยี่ยจงหยักไหล่ไปมาอย่างสบายๆ “ข้าพึ่งจะพบว่า ภายในร่างกายของมันนั้นมีพลังมรรคแห่งไฟที่ข้าสามารถใช้ได้อย่างมากมาย คงไม่อาจที่จะเปลี่ยนใจเป็นอื่นได้ “

 

“เจ้าบังอาจ นางเซียนเอ่ยปาก ยังมีที่จะเจ้าปฏิเสธได้อีกงั้นหรือ ยังไม่รีบถอยไปอีก ! “ชายหนุ่มที่กุมกระบี่ไม้ที่ปรากฏตัวขึ้นมานับตั้งแต่แรกในคราแรกก็ได้เดินขึ้นมาทางด้านหน้า เขาจ้องมองไปที่เยี่ยจง เอ่ยปากขึ้นมาเสียงเย็นเยียบ ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏรังสีฆ่าฟันขึ้น

 

“สุนัขที่เจ้าเลี้ยงเอาไว้ ก็ช่างไม่รู้จักสั่งสอนให้ดีอีก ? “เยี่ยจงประดุจเหมือนดั่งไม่ได้ยิน เพียงแต่แสดงออกมาด้วยใบหน้าที่หวังดีมองไปที่ซูม่อหยง “ไม่ว่ายังไงข้าก็จะต้องควบคุมเอาไว้ให้ได้ หรือไม่ก็แม่นางซูก็ถอยออกไปก่อน ข้าก็จะมีของสมนาคุณออกมาให้ เพื่อเป็นการชดเชยให้กับเจ้า ช่วยปกป้องคุ้มครองสุนัขที่เจ้าเลี้ยงเอาไว้ในวันข้างหน้า ไม่แว้งกัดไปทั่ว ดีหรือไม่ ? “

 

“เจ้า…… “

 

ชายหนุ่มกระบี่ไม้ในตอนนี้ก็ได้สั่นเทาไปทั่วทั้งร่างกาย ภายในดวงตาก็ได้ปะทุรังสีฆ่าฟันออกมาอย่างเย็นเยียบ เขาที่มีรังสีที่ถาโถมเข้ามา ท่าทางประดุจเทพเซียน มีบรรยากาศที่ไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด อีกทั้งยังมาจากแดนลับแลชั้นแนวหน้า ไม่ว่าจะไปถึงยังที่ใด ผู้คนทั้งหมดต่างก็มีการไปมาหาสู่กัน เพียงแต่ว่าเขาในเวลาเดียวกันซูม่อหยงก็เป็นผู้ที่เข้ามาทำความใกล้ชิดเอง ตอนนี้จึงได้ค่อยปรากฏตัวขึ้นในบริเวณนี้ แต่ว่ากลับถูกเยี่ยจงชี้หน้ากล่าวหาว่าเป็นสุนัข จึงทำให้ภายในดวงตาของเขาเกิดรังสีสังหารขึ้นมา

 

“สุดยอดอันดับหนึ่ง ซิง เจ้ายอดมาก ! “ชายหนุ่มกระบี่ไม้กัดฟัน เผยออกมาให้เห็นถึงฟันที่ขาวผ่องออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้มีความเชื่อ “วันนี้ข้าจะให้เจ้าจ่ายค่าตอบแทนออกมาอย่างสาสม “

 

แล้วก็ได้ก้าวออกไปอีกก้าวหนึ่ง ในมือเขาถือเอาไว้ด้วยกระบี่ไม้ก็ได้เริ่มที่จะระเบิดพลังออกมา ปลดปล่อยพลังอักขระทอเป็นประกายแวววับขึ้นมาเป็นสาย พร้อมที่จะลงมือออกมาได้ทุกเมื่อ

 

“มู่ซู ช้าก่อน “ซูม่อหยงกล่าวออกมาเสียงเบา นางก็ได้มองออกไปด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจอยู่หลายส่วนไปที่ “ซิง “ที่อยู่ทางด้านหน้า อีกทั้งยังเกิดความลังเลขึ้นมาหลายส่วน ชายหนุ่มเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ถึงแม้ว่าจะมิได้มีชื่อเสียงมากนัก แต่ว่าแม้แต่เจดีย์เฮ่าเทียนของหุบเขาเมฆาม่วงเองก็ยังเอาเขาไม่อยู่ เพียงแค่มองไปที่พลังความแข็งแกร่งของเขา หากว่ามิใช่สถานการณ์ที่ไม่สำคัญมากนักแล้วละก็ ต่อให้ซูม่อหยงเองก็ไม่คิดที่จะต้องการที่จะลงมือ

 

มู่ซูขมวดคิ้ว ทว่าเขาในที่สุดก็ยังคงถอยลงไป เพียงแต่ว่าเยี่ยจงเหม่อมองไปด้วยดวงตาที่เป็นประกาย อดไม่ได้ที่จะทอรังสีเย็นชาขึ้นมา

 

“เหอะ พวกเจ้าราวกับลืมเลือนไปอยู่เรื่องหนึ่ง “เด็กหนุ่มที่ศีรษะเต็มไปด้วยเส้นผมสีทองก็ได้เอ่ยปากขึ้นมาอย่างกะทันหัน ยกมือขึ้นอยู่เหนือขึ้นไปด้วยท่วงท่าที่สง่างาม “ข้าอยู่ที่นี่ ราชาแมลง เป็นข้าเอง “

 

“เจ้าเป็นใครกันอีก ? “มู่ซูขมวดคิ้ว มองเข้าไปพร้อมทั้งกล่าวออกไปทางด้านของเด็กหนุ่มผมทองคราหนึ่งอย่างกะทันหัน คิดไม่ถึงว่าเขาถึงกลับสอดมือเข้ามาในช่วงที่คับขันเช่นนี้

 

“ผู้น้อยมิได้มีชื่อเสียงมากนัก จินเฉิง “เด็กหนุ่มผมทองมีความเชื่อมั่นในตนเองเต็มสิบส่วน แต่ว่าภายในคำพูดกลับถ่อมตัวอยู่หลายส่วน ราวกับสามารถแจ้งนามของตนเองขึ้นมาได้อย่างสบาย

 

“ตำหนักดวงตะวันแห่งตงฮวง (ดินแดนตะวันออก) จินเฉิง “มู่ซูมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา ภายในดวงตาก็ได้มีความแปลกใจอยู่หลายส่วน “ยอดมาก ที่แท้ก็เป็นเจ้า “

 

แม้แต่เยี่ยจงตอนนี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะมองไปที่จินเฉิงคราหนึ่ง มีคนส่งเสียงตื่นตระหนกขึ้นมา ตำหนักดวงตะวัน ถือได้ว่าเป็นแดนลับแลที่ไม่สูญสลายแห่งดินแดนตงฮวง จินเฉิงนี้ถือได้ว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งชั้นแนวหน้า กล่าวกันว่าได้เข้าสู่ระดับราชันเพียงแค่อายุสิบหกปี แข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด วันข้างหน้าคงจะต้องสามารถไปถึงระดับมหาราชันแน่นอน

 

“เมื่อเป็นเช่นนี้ อัจฉริยะแห่งตระกูลมู่มู่ซู คิดไม่ถึงว่าบุคคลเฉกเช่นพวกเจ้า ยังถึงกับเป็นเพียงขี้ข้าของผู้คน ถึงกลับกลายเป็นผู้ที่ไล่ตามจิ้งจอกตนหนึ่ง ดูเหมือนจะพึ่งพาไม่ค่อยได้เลยนะ “จินเฉิงหัวเราะขึ้นมาเบาๆ ภายในรอยยิ้มก็ได้ปรากฏความประหลาดขึ้นมาชนิดหนึ่ง

 

มู่ซูทอสีหน้างงงันขึ้นมาวูบหนึ่ง จ้องมองไปที่จินเฉิง กระบี่ไม้ใจกลางฝ่ามือก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นมาในระหว่างนั้นเอง

 

“หุบเขาจิ้งจอกซูม่อหยง ตระกูลมู่มู่ซู ตำหนักดวงตะวันจินเฉิง “เยี่ยจงมีสีหน้าเรียบเฉย มองเข้าไปยังคนทั้งหลาย ทั้งสามคนในนี้ไม่ว่าจะเป็นคนใด ต่างก็ถือได้ว่าเป็นผู้กล้า ชนชั้นแนวหน้าสำนักเผ่าพันธุ์ อัจฉริยะแห่งรุ่น ต่างก็แข็งแกร่งและไม่ธรรมดาอย่างถึงที่สุด เพียงแต่ว่า ตอนนี้เขากลับไม่มีความคิดที่มากมายนัก เพียงแต่หัวเราะออกมาเสียงเย็นชาแล้วกล่าว : “ทั้งสามท่านในเมื่อต่างก็มีความต้องการต่อราชาแมลงของข้า เช่นนั้นก็คงต้องดูความสามารถของแต่ละท่านเองแล้วละ “

 

อัจฉริยะชั้นแนวหน้าทั้งสามคนนี้ก็ได้หันกายมาในเวลาเดียวกัน สายตาทอดมองเข้าไปยังบนร่างกายของ “ซิง “ผู้นี้ สีหน้าของพวกเขาถึงแม้ว่าจะสงบนิ่ง แต่ว่าภายในดวงตาก็ได้ทอเป็นประกายอาการตื่นตกใจขึ้นมาเป็นสายขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

 

ทุกคนต่างก็ไม่ธรรมดา ไม่มีผู้ใดที่พอจะสามารถยินยอมอ่อนข้อให้อย่างง่ายดาย แต่ว่าบุคคลเบื้องหน้าสายตาผู้นี้กลับยังคงสงบนิ่ง ทำให้ภายในจิตใจของเขาไม่อาจที่จะไม่เกิดความคิดเหล่านี้ขึ้นมาได้

 

“ตูม—— “

 

บริเวณทางด้านหลัง พริบตานั้นก็ได้เกิดเสียงดังระเบิดขึ้นมาได้ เมื่อมองสภาพความเคลื่อนไหวของฟ้าดินในสถานที่ห่างไกล ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการประมือระหว่างอัจฉริยะ

 

เยี่ยจงมันเข้าไปด้วยครุ่นคิดขึ้นมา ทันใดนั้นก็ได้เข้าใจขึ้นมาได้ ภายในสถานที่แห่งนั้นอย่างน้อยคงจะต้องมีสมบัติมีค่าปรากฏขึ้นมาแล้วอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นคงจะไม่สามารถที่จะเกิดการรวมตัวของอัจฉริยะมากมายเช่นนี้ในพริบตาเดียวขึ้นมาได้

 

“ข้าไม่มีเวลาพอที่จะกล่าววาจาไร้สาระกับพวกเจ้าต่อไปแล้ว จะให้โอกาสครั้งสุดท้ายแก่เจ้า เอามา “มู่ซูมีสีหน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา เขาก็ได้ค่อยๆ โบกมือ กระบี่ภายในมือก็ได้ยกขึ้นสูง ชี้ไปทางเยี่ยจง เอ่ยปากขึ้นมาอย่างเย็นชา เห็นได้ชัดว่าเขาก็มีความเข้าใจ หากมัวแต่ชักช้าคงจะต้องมีความเปลียนแปลงเป็นแน่

 

“กับสุนัขเยี่ยงเจ้าอย่างงั้นหรือ ? “เยี่ยจงทอดสายตามองไปที่เขา ไม่สบอารมณ์อย่างถึงที่สุด อัจฉริยะแห่งตระกูลมู่แล้วจะเป็นอย่างไร ? จนถึงที่สุดก็ยังเป็นเพียงแค่สวะที่เป็นได้เพียงแค่บันไดให้ผู้อื่นก้าวขึ้นไปเท่านั้น

 

ในครั้งนี้ซูม่อหยงก็ได้ทอดวงตาเป็นประกายขึ้นมา ทอแววตาสว่างไสว แต่ว่านางกลับมิได้กล่าวอันใดมากมาย เพียงแต่รอคอยอย่างเงียบงัน

 

“ถี่—— “

 

พริบตานั้น มู่ซูก็ได้ลงมือ กระบี่ไม้ในมือก็ได้พุ่งขึ้นไปยังฟากฟ้า มุ่งหน้ากวาดเข้าสังหารเข้าไปยังบริเวณทางด้านหน้า ตระกูลมู่ถือได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่แห่งดินแดนเป่ยฮวง (ดินแดนทางตอนเหนือ) เขาที่ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งตระกูล แน่นอนว่าย่อมต้องมีความเชื่อมั่นและหยิ่งในตนเอง ในสายตาของเขา บุคคลเบื้องหน้าสายตาที่เพียงปรากฏตัวขึ้นมาเพียงแค่ไม่กี่วันอย่าง “ซิง “ผู้นี้ ตนเองย่อมสามารถที่จะฆ่าสังหารลงไปได้ทุกช่วงเวลา หลังจากที่สังหารเสร็จสิ้นแล้ว ค่อยเข้าแย่งชิงราชาแมลงอีกครั้งก็ยังไม่สาย

 

เยี่ยจงไม่แม้แต่จะหลบเลี่ยง เขาก็ได้พลิกรอยตราขึ้นทั้งสองมือ แล้วก็ได้ฟาดฝ่ามือเข้าไปบริเวณทางด้านหน้า แล้วก็ได้ยินเสียงดัง “โครม “ขึ้นมา บริเวณใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้ปรากฏประกายสายฟ้าพวยพุ่งออกมา แล้วก็ได้เข้าปะทะกับคมกระบี่ที่กำลังเข้ามา ทันใดนั้นก็ได้เกิดรังสีความน่าหวาดกลัวแผ่กระจายออกมา

 

“ถี่ถี่ถี่—— “

 

ร่างกายมู่ซูก็ได้สั่นไหวไปมา พุ่งเข้าสังหารออกไปอย่างรวดเร็ว เงาของกระบี่ไม้ใจกลางฝ่ามือก็ได้ปรากฏขึ้นมาเป็นสาย เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็ได้ใช้ออกมาด้วยทักษะยุทธ์ระดับเซียน ต้องการที่จะฆ่าสังหาร “ซิง “เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ไปในทันที

 

ราวกับว่าในเวลาเดียวกันนั้นเอง ซูม่อหยงส่ายหางจิ้งจอกทางด้านหลังไปมา นางทำเหมือนมองไม่เห็นประมือของทั้งสองคน มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณกลุ่มแมลง พลิกทั้งสองมือเรียดพื้นเข้าไป จนเกิดรอยตราขึ้นบนฝ่ามือเป็นสาย คิดที่จะเก็บราชาแมลงนั้นเอาไว้

 

จินเฉิงในเวลาเดียวกันก็ได้หัวเราะเสียงเย็นชาขึ้นมา เขาก้าวเดินออกไปก้าวหนึ่ง แล้วก็ได้มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณทางด้านกลุ่มของแมลงเข้าไป ในเวลาเดียวกันเขาลงมือทีหลังแต่กลับถึงก่อน ระดับความเร็วอยู่ในระดับที่สูงทที่สุด

 

“ไสหัวไปซะ ! “

 

เยี่ยจงตรวจพบได้ว่า ทันใดนั้นสีหน้าก็ได้เย็นชาขึ้นมาในทันที ราชาแมลงนี้มีความสำคัญมาก ที่ในวันข้างหน้ามีประโยชน์ต่อวิชาเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนของตนเองอย่างมาก เขาแน่นอนว่าย่อมไม่วางมืออย่างแน่นอน

 

พริบตานี้เอง ใจกลางฝ่ามือของเยี่ยจงก็ได้ไหลเวียนเอาไว้ด้วยพลังจูเชวียนขึ้นมา ประกายเพลิงไฟแผ่กระจายออกมาเป็นสาย พร้อมทั้งเขาก็ได้มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารไปทางด้านของมู่ซูเข้าไป

 

ในเวลาเดียวกันเขาก็หันกายอ้าปากออกมา ภายในปากก็ได้พวยพุ่งพลังสายฟ้าออกมาเป็นสาย ประดุจลูกศรหลุดออกมาจากแหล่งก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าไปบริเวณทางด้านหลังของซูม่อหยง

 

ซูม่อหยงราวกับสัมผัสขึ้นมาได้ในทันที นางหมุนกายอยู่คราหนึ่ง หางทางด้านหลังก็ได้ส่ายไปมา มืออันขาวผ่องส่องสว่างก็ได้ยื่นออกมา เข้าปะทะกับพลังการโจมตีของเยี่ยจงเข้าด้วยกัน

 

จินเฉิงตอนนี้ก็ได้ตกอยู่ภายใต้วงล้อมของการต่อสู้อันวุ่นวายขึ้นมา เขาส่งเสียงดังขึ้นมา พลิกมือออกมาทั้งสองข้าง ทางด้านหลังก็ได้ปรากฏดวงตะวันดวงหนึ่งขึ้นมา พร้อมรับการโจมตีของเขา สาดประกายแสงคมกล้าออกมาไปทั้งสี่ด้าน มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็มีวิธีของตนเอง คิดที่จะหยิบยืมพลังสภาวะการฆ่าสังหารเพื่อสังหาร “ซิง “ที่อยู่เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ จากนั้นค่อยว่ากล่าวกันถึงเรื่องอื่น

 

เยี่ยจงยังคงมีสีหน้าที่เย็นชาอย่างถึงที่สุด พลิกรอยตราทั้งสองมือขึ้นไปมา ตราอักขระจูเชวียนก็ได้ไหลเวียนไปมา ในขณะนั้นเอง ไท่กู่จูเชวียนขั้นแรกก็ได้ถูกใช้ออกมา แขนทั้งสองข้างก็ได้ยื่นออกมา ประดุจดั่งนกจูเชวียนกำลังสยายปีกขึ้นมาก็มิปาน แฝงเอาไว้ด้วยพลังอำนาจชนิดหนึ่งพุ่งขึ้นสู่ฟากฟ้าชั้นที่เก้า มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน

 

“โครม—— “

 

พลังการโจมตีของทั้งสี่คนก็ได้เข้าปะทะกันขึ้นมาในทันที จากบริเวณใจกลางที่เยี่ยจงอยู่นั้นเอง ก็ได้กลายเป็นความเคลื่อนไหวของสายลมไหวพวยพุ่งออกไป สั่นไหวเปรียบเสมือนดั่งแอ่งมังกรสะบัดตัวไปมา ต้นไม้โบราณนับไม่ถ้วนในตอนนี้ก็ได้แตกกระจายขึ้นมา แตกสะบัดกลายเป็นเพียงปุ่ยผง ทำให้ทั่วทั้งสถานที่แห่งนี้เกิดรอยคมดาบจมลึกอย่างถึงที่สุด

 

“ฮูม—— “

 

ราชาแมลงนั้นก็ได้โกรธขึ้นมาเช่นกัน มันมีความฉลาดอยู่หลายส่วน ทราบว่าคนกลุ่มนี้คิดที่จะลงมือต่อมัน ในช่วงที่มันขยับเคลื่อนไหว แมลงเพลิงนับไม่ถ้วนก็ได้พวยพุ่งประกายไฟออกมา มุ่งหน้าหมุนวนออกไปท่ามกลางบริเวณท่ามกลางสนาม จนทำให้การปะทะกันในครั้งนี้ยิ่งทวีความน่าหวาดกลัวและวุ่นวายขึ้นมา

 

กระบวนท่านี้ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ร่างกายของทั้งสามก็ได้ถอยออกไปในช่วงเวลาเดียวกัน แต่ว่าเยี่ยจงกับยังคงสีหน้าปกติราบเรียบ ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว มนต์ตราเทพจูเชวียน ในตอนนี้ก็ได้เปล่งแสงปลดปล่อยออกมาจนเป็นประกายมากมายนับไม่ถ้วน

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#######Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset