เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 405 รับมือ

ตอนที่ 405 รับมือ

 

ประกายไฟอันน่าหวาดกลัว ก็ได้พวยพุ่งขึ้นมาจากโทสะของแมลงนับหมื่น ฉากเบื้องหน้านี้เป็นที่น่าตกใจอย่างถึงที่สุด ราวกับว่าหากพลั้งเผลอเข้าไปยังท่ามกลางภายใน จะสามารถถูกฆ่าสังหารทันทีก็มิปาน

 

แต่ว่าในช่วงเวลานี้ตอนนี้ บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ เงาร่างทั้งสี่ก็ได้ปรากฏขึ้นบริเวณท่ามกลางอากาศ สีหน้าของแต่ละคนต่างก็แสดงออกมาไม่เหมือนกัน

 

ถึงแม้จะกล่าวได้ว่า ยอดฝีมือที่มีพลังการฝึกปรือขั้นก่อฟ้า จะสามารถหยุดอยู่ท่ามกลางอากาศได้ แต่ว่าก็ต้องสูญเสียพลังไปเป็นจำนวนมาก ด้วยส่วนมากแล้วน้อยนักที่จะสามารถต่อกรกันเช่นนี้ได้ แต่ว่าในตอนนี้ กลับไม่มีผู้ใดคิดที่จะลงมือก่อน

 

มู่ซูทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงที่สุด ภายในสายตาก็ได้ทอแววซับซ้อนขึ้นมา พลังฝีมือของอีกฝ่ายเพราะเหตุใดถึงได้มีความน่าหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้ ไม่เพียงมีกายเนื้อที่ไม่สูญสลาย อีกทั้งการลงมือยังร้ายกาจ ทำให้เขารู้สึกเหนือความคาดหมายเป็นอย่างยิ่ง

 

เพียงแต่ว่าทันใดนั้นเอง ถึงกับสามารถที่จะต้านทานการปะทะจากยอดฝีมือได้ถึงสามคน อีกทั้งยังคงใบหน้าที่เยือกเย็นเอาไว้ เป็นที่แน่ชัดว่ายังมิได้ใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือที่แท้จริง ไม่เปิดเผยออกมาให้อีกฝ่ายทราบเลยแม้แต่น้อย

 

ขนคิ้วดกดำของซูม่อหยงก็ได้สั่นไหวไปมา ทอสีหน้าประหลาดขึ้นมาอยู่หลายส่วน บุคคลเบื้องหน้านี้ ที่แท้มาจากแดนลับแลใดกันแน่กัน? เพียงแต่ว่าทันใดนั้นเอง ถึงกับสามารถต้านทานการลงมือของยอดฝีมือพร้อมกันถึงสามคน อีกทั้งยังคงสีหน้าที่เยือกเย็น เป็นที่ชัดเจนยังคงเก็บงำพลังฝีมือเอาไว้ ไม่เปิดเผยออกมาให้อีกฝ่ายทราบแม้แต่น้อย

 

จินเฉิงมีความสนใจที่จะทดสอบความสามารถของเยี่ยจงเพิ่มขึ้น ภายในสายตาก็ได้บังเกิดความต้องการที่จะต่อสู้ขึ้นมาเป็นสาย เป็นที่ชัดเจน ต้องการที่จะประชันศึกครั้งใหญ่กับเยี่ยจง

 

หลังจากที่เกิดความลังเลขึ้นเช่นนี้ ทันใดนั้นมู่ซูก็ได้ขยับร่างกายขึ้นอย่างกะทันหัน วางมือจากเยี่ยจงลงไปในทันที มุ่งหน้าทะยานออกไปทางด้านหลังของราชาแมลง คิดที่จะลงมือต่อราชาแมลงก่อนแล้วค่อยว่ากัน

 

จินเฉิงหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง ดวงตะวันทางด้านเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นลุกโชนขึ้นมามากขี้นกว่าเดิม จากนั้นร่างกายของเขาก็ได้สาดเป็นประกายแวววับขึ้น นิ้วบนมือก็ได้เป็นทอประกายแสงสีทองขึ้นมาในพริบตา ลุกโชนไปทั่วทั้งสี่ทิศ

 

“ทักษะเซียนดวงตะวัน!? “มู่ซูตรวจสอบพบ ก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไป ธาตุของเขาเดิมทีก็คือ (木มู่ = ไม้) ซึ่งแพ้ทางของไฟ、ทักษะเซียนที่มีความเกี่ยวข้องกับดวงตะวัน、อีกทั้งยิ่งถ้าเป็นมนต์ตราเทพก็ยิ่งทวีความน่าหวาดกลัวมากขึ้น ตอนนี้เขาไม่อาจที่จะไม่ขมวดคิ้วขึ้นมาได้ พริบตานั้นเองก็ได้เคลื่อนไหวกระบี่ไม้ภายในมือ กระบี่ไม้นั้นสาดพุ่งประกายคมกล้าออกมา

 

“ตูม—— “

 

พลังการโจมตีอันน่าหวาดกลัวทั้งสองสายได้ปะทะเข้าหากัน ปะทุความเคลื่อนไหวออกมามากมายนับไม่ถ้วนอีกครั้ง

 

บริเวณทางด้านล่าง ราชาแมลงปะทุความโกรธขึ้น คนเหล่านี้ก็ช่างไม่เห็นราชาแมลงอย่างมันอยู่ในสายตาเลย เรียกได้ว่าทำกับเหมือนมันเป็นผักปลา พร้อมที่จะจัดการเมื่อไหร่ก็ได้ ในขณะนี้เอง มันก็ได้ส่งเสียงออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว ภายในร่างกายก็ได้ปลดปล่อยพลังอักขระอันน่าหวาดกลัวออกมา จนกลายเป็นเหมือนดั่งกระบวนท่าสังหาร มุ่งหน้าหมุนวนเข้าไปท่ามกลางอากาศ

 

ในขณะนี้เอง มู่ซูและจินเฉิงทั้งสองก็ได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป ในเวลาเดียวกันก็ได้มุ่งหน้าถอยไปบริเวณทางด้านหลัง โดยเฉพาะการโจมตีที่เปี่ยมเสมือนมรรคแห่งไฟ เรียกได้ว่าทำให้มู่ซูเกิดความหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย ไม่อาจที่จะไม่ถอยไปอย่างรวดเร็วได้

 

ตอนนี้ สีหน้าของมู่ซูก็ได้ปั้นยากขึ้นมาเต็มสิบส่วน เขาพึ่งจะรับกระบวนท่าการโจมตีจากจินเฉิงไป เลือดลมภายในร่างกายก็ได้ผ่อนคลายลงมา แล้วก็มีการโจมตีเข้ามาจากทางด้านของราชาแมลง จนทำให้สีหน้าของเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย เลือดลมเดือดพล่านขึ้นมา

 

“โครม—— “

 

จากนั้น ในช่วงเวลาที่ถือได้ว่าคับขันเช่นนี้ เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายเล็กน้อย ประดุจดั่งจูเชวียนที่ลอยขึ้นท่ามกลางอากาศ ทันทีที่ได้ปรากฏตัวขึ้นมาบริเวณเหนือศีรษะของมู่ซู ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้หยุดยั้งเท้าลง มุ่งหน้าเข้าประทับบริเวณที่มีพลังปราณฟ้าของมู่ซู

 

“เจ้า! “

 

มู่ซูตรวจสอบได้ในทันที สีหน้าปะทุความโกรธขึ้นมา อีกฝ่ายนั้นก็คือกระบวนท่าสังหารของราชาแมลง และก็มาจาก “ซิง “ผู้นี้ที่ปล่อยท่าสังหารออกมาจากท่ามกลางอากาศ เห็นได้ชัดว่าคิดที่จะผสานกระบวนท่าสังหารเข้ากับราชาแมลง จนทำให้เขารู้สึกโกรธเคืองขึ้นมา

 

ในขณะนี้เอง ต่อให้มีความแข็งแกร่งอย่างมู่ซูก็ยังต้องถอยร่นหลบเลี่ยง กระบี่ไม้ในมือของเขาก็ได้ฟันลงไปบริเวณทางด้านล่าง ในเวลาเดียวกันมือซ้ายก็ได้ใช้ออกมาด้วยเคล็ดกระบี่ มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณเหนือศีรษะ

 

“ตูม—— “

 

เสียงอันน่าหวาดกลัวก็ได้ดังขึ้นมา มือซ้ายของมู่ซูก็ได้เกิดเสียงดังขึ้นมา รอยอักขระใจกลางฝ่ามือก็ได้หายวับไป พลังปราณแตกซ่าน กระบวนท่านี้ของเยี่ยจงถือได้ว่ามีความน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด นั้นก็คือกระบวนท่าการเปลี่ยนแปลงระดับที่สองของไท่กู่จูเชวียน ประดุจจูเชวียนทะยานลงมาจากผืนฟ้า กางกรงเล็บของวิหคออก รวมไปจนถึงพลังอำนาจอันน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่งออกมา

 

ภายใต้กระบวนท่านี้เอง พลังของมู่ซูก็ได้ถูกขัดขวางไปจนถึงพื้นฐานของพลัง ทันใดนั้นบริเวณมือซ้ายก็ได้ปรากฏบาดแผลขึ้นมา จนทำให้ร่างกายของเขาสั่นไหวไปมา ภายใต้การโจมตีที่ทับซ้อนกันจากทั้งสองสาย ก็ได้ทำให้เกิดการสั่นไหวไปตลอดทั่วทั้งร่างกาย

 

“อ๊ากกกก—— “

 

โลหิตก็ได้ถูกกระอักออกมาจากภายในปากคำหนึ่ง ร่างกายมู่ซูก็ได้โซซัดโซเซ บนใบหน้าก็ได้ทอแววตาที่ยากจะเชื่อขึ้นมาได้ ในเวลาเช่นนี้เขายังถึงกับได้รับบาดเจ็บงั้นหรือ? อีกทั้งยังมิใช่การบาดเจ็บที่เบาบาง

 

แต่ว่าตลอดมานี้ยังมิได้มาจนถึงจุดสิ้นสุด เยี่ยจงก็ได้ก้าวเท้าออกติดต่อกัน ประดุจดั่งจูเชวียนขนาดใหญ่ย่างกรายก็มิปาน ทำให้มู่ซูจนมุมอย่างไร้ที่เปรียบ เพียงแต่สามารถถอยร่นออกไปเท่านั้น

 

“ฮูม—— “

 

ในตอนนี้ เขาก็ไม่อาจที่จะขัดขวางกระบวนท่าสังหารของราชาแมลงเอาไว้ได้ ได้แต่เพียงแค่ใช้กระบี่ไม้ฟาดฟันออกไปบริเวณท่ามกลางอากาศ พวยพุ่งพลังความน่ากลัวซึ่งมาจากคมกระบี่ แต่ว่าก็ใช่ว่าจะได้ผลเสมอไป ในกระบวนท่าการโจมตีอันน่าหวาดกลัวของเยี่ยจงนี้ ก็ได้ทำลายคมกระบี่ของเขาลง มือขวาก็ได้ปรากฏรอยโลหิตไหลรินออกมาเป็นสาย ฉากเบื้องหน้านี้ก็ได้ทำให้สีหน้าของมู่ซูเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง จิตวิญญาณสั่นไหวไปมา

 

“ซูม—— “

 

บริเวณทางด้านล่าง กระบวนท่าสังหารของราชาแมลงในที่สุดก็ได้มาจนถึงเป้าหมาย ในชั่วขณะที่มู่ซูนั้นยังมีปฏิกิริยากลับมาไม่ทัน ร่างกายเขาก็ได้ถูกพลังอัสนีผ่าลงมา พริบตานั้นก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นมา ตลอดทั่วทั้งร่างกายก็ได้ปรากฏรอยบาดแผลขึ้นมา โลหิตบริสุทธิ์ก็ได้ไหลรินสาดออกไปประดุจดั่งสายฝนก็มิปาน

 

“ตูม—— “

 

ท่ามกลางอากาศ กระบวนท่าของเยี่ยจงในที่สุดก็ได้ถูกใช้ออกมาจนถึงระดับสูงสุด ทลายการโจมตีจากทั้งสองมือของเขา กระทบเข้าปกคลุมไปยังพลังปราณฟ้าของเขา

 

“โครม—— “

 

เสียงกระดูกแตกร้าวก็ได้ดังลั่นออกมา กระดูกส่วนกะโหลกของมู่ซูแตกร้าวขึ้นมา มีโลหิตไหลรินออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้กระอักโลหิตออกมาคำโต ร่างกายถอยออกไปบริเวณทางด้านล่าง

 

“ปุปุปุ—— “

 

ราชาแมลงเกิดยินดียกใหญ่ เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดก็ได้ดังออกมา วินาทีนั้น ประกายไฟนับไม่ถ้วนก็ได้พวยพุ่งออกมา เกิดบาดแผลขึ้นนับไม่ถ้วนบนร่างกายของมู่ซู ด้วยสภาพของเขาตอนนี้ เรียกได้ว่าไม่อาจที่จะต้านทานเอาไว้ได้

 

ตลอดมานี้ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา ต่อให้เป็นซูม่อหยงและจินเฉิงทั้งสองคนต่างก็ยังไม่อาจที่จะมีปฏิกิริยากลับมาได้ทัน คิดไม่ถึงว่าเพียงแต่ว่าการเผยร่องรอยออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น มู่ซูก็ได้ถูกบุคคลเบื้องหน้าสายตา “ซิง “ผู้นี้กดดันมาจนถึงขั้นนี้ได้

 

“ตูม—— “

 

ซูม่อหยงฆ่าสังหารออกไปอย่างรวดเร็ว พลิกข้อมืออันขาวเนียนพลิกลอยออกไป กลายเป็นพลังการโจมตีของพุ่งเข้าปะทะสังหารออกไปทั้งสิ้น ตอนนี้นางไม่จะเป็นแม้แต่ต้องคาดคิด มู่ซูต่อให้เป็นผู้ที่อยู่ฝ่ายเดียวกันนาง นางมีหรือที่จะเพียงลืมตามองดูเขาตายตกลงไปได้

 

จินเฉิงกลับหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง แล้วก็ได้พุ่งออกไป ตอนนี้การโจมตีของราชาแมลงพึ่งจะสิ้นสุด ถือได้ว่าอยู่ในสภาวะที่อ่อนล้าอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดในการเก็บเกี่ยวก็ว่าได้

 

ท่ามกลางอากาศ เยี่ยจงก็ได้ลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เขาก็ได้ควบคุมพลังความเปลี่ยนแปลงของไท่กู่จูเชวียนขั้นที่สองเข้าสู่สภาวะสูงสุดในชั่วขณะ พลังอันน่าเกรงขามก็ได้แผ่กระจายออกมา ราวกับสามารถทำให้ผู้คนพบเห็นถึง วิหคขนาดใหญ่ตนหนึ่งที่กำลังกางกรงเล็บจากปีกทั้งเก้าก็มิปาน

 

“ตูม—— “

 

ระดับความเร็วของเยี่ยจงเมื่อเทียบกับซูม่อหยงและจินเฉิงทั้งสองคนยังถือได้ว่าเหนือกว่ามาก ในขณะที่ราชาแมลงยังมีปฏิกิริยากลับไม่ทัน ก็ได้ถูกเหยียบลงบนบริเวณศีรษะไปในทันที

 

“ปุ—— “

 

ร่างกายของราชาแมลงก็ได้แตกออกไปครึ่งซีก เผยให้เห็นผลึกศิลาโลหิตสีแดงอร่ามกระจ่างสดใสก้อนหนึ่ง เยี่ยจงปาดฝ่ามือเข้าไป แล้วก็ได้คว้าก้อนผลึกศิลาแห่งมรรคไฟเอาไว้ จากนั้นก็ได้โยนมันลงไปในแหวนจักรวาลไปอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากนั้นในที่สุดร่างกายก็ได้หยุดอยู่บนท่ามกลางอากาศ ปลดปล่อยสภาวะของพลังยันต์หายสาบสูญไป หันกลับไปมองบริเวณทางด้านหลัง

 

ราชาแมลงที่ได้ถูกฟาดฟันลงไป พริบตานั้นกลุ่มแมลงต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล มุดดำกลับเข้าไปภายในพื้นดิน จนกลายเป็นพื้นที่เรียบขนาดใหญ่ผืนหนึ่ง

 

ตอนนี้ คนอื่นๆ อีกสามคนก็ได้มองเข้าไปในเวลาเดียวกัน จินเฉิงทอประกายแววตาคมกล้า ทว่าในที่สุดก็อดไม่เอาไว้ไม่อยู่ มิได้ลงมือออกมา นั้นก็เพราะว่าการแสดงออกของ “ซิง “เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ที่เปี่ยมไปด้วยกระแสกลิ่นอายแห่งความเยียบเย็น เขาไม่อาจที่จะรับรองได้ว่า ตนเองนั้นจะสามารถต้านทานอีกฝ่ายได้หรือไม่

 

ทางด้านของซูม่อหยงก็ได้ยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา นางมิได้ขยับร่างกายอีก ภายในดวงตาถึงแม้จะแสดงออกมาถึงความไม่อยากที่จะเชื่อ แต่ว่าก็มิได้ลงมือต่อ หลังจากที่ได้พบเห็นการลงมือของ “ซิง “ผู้นี้ ภายในส่วนลึกของดวงตาก็ทำให้ทราบได้ว่าบุคคลผู้นี้ไม่สมควรที่จะเข้าไปยุ่งด้วยโดยเด็ดขาด มิใช่สิ่งที่อัจฉริยะโดยทั่วไปจะสามารถเปรียบเทียบได้ เพียงเพื่อราชาแมลงเพียงตัวเดียวในที่แห่งนี้กลับต้องลงมือต่อสู้กับเขา ถือได้ว่าไม่คุ้มค่าอย่างถึงที่สุด

 

ร่างกายของมู่ซูตอนนี้ที่มีบาดแผลอยู่ อีกทั้งยังมีโลหิตไหลรินออกมา เขาตอนนี้ไม่ง่ายที่จะถอนตัวกลับมา แต่ว่าก็ได้ปลุกปลอบพลังสภาวะจนถึงขีดสุด เมื่อครู่เขาเกือบที่จะต้องทอดกายลงในสถานที่แห่งนี้แล้ว อีกทั้งยังตายตาไม่หลับ นี้ทำให้เขาเกิดประกายไฟปะทุขึ้นภายในสายตาของเขา ขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ กระนั้นกลับต้องถูกจู่โจมจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ นี้ถือได้ว่าเป็นความอับอายครั้งยิ่งใหญ่ก็ว่าได้

 

“ซิง! วันนี้ข้าจะต้องสังหารเจ้าให้ได้! “มู่ซูขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ภายในสายตาก็มีรังสีสังหารเดือดขึ้นมา

 

“กับแค่เจ้างั้นหรือ? “เยี่ยจงไม่แม้แต่จะมองมู่ซู ภายในสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่ใส่ใจและไม่แยแสแม้แต่น้อย

 

มู่ซูก้าวขึ้นไปทางด้านหน้า กระบี่ไม้ในมือก็ได้ปะทุพลังออกมา แต่ว่าไม่นานนัก พลังก็ได้มอดดับลง เขามิได้ลงมือต่อ นั้นก็เพราะว่าเขาพบว่าตนเองนั้นอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่อย่างถึงที่สุด หากว่าแข็งขืนลงมือแล้วละก็ ก็คงจะมีความเป็นไปได้ที่จะต้องตายในสถานที่แห่งนี้สูง

 

เยี่ยจงหัวเราะขึ้นมาอย่างเย็นชา กำลังเตรียมพร้อมที่จะก้าวออกไปทางด้านหน้า เพื่อสังหารคนผู้นี้ แต่ว่าทันใดนั้นเขาก็ได้ขมวดคิ้วขึ้นมา มองไปยังสถานที่ห่างไกลออกไป เขาก็ตรวจพบได้อย่างชัดเจนว่า ตอนนี้ได้มีคนกำลังลอบจับตามองอยู่ ตอนนี้หากว่าตนเองลงมือสังหารมู่ซูลง เกรงว่าซูม่อหยงคงจะไม่อาจทำเป็นไม่เห็นได้แน่ ตนเองถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ที่จะไม่พ่ายแพ้อยู่หลายส่วน อีกทั้งยังสามารถสังหารบุคคลทั้งสองเบื้องหน้านี้ได้ แต่ว่า ถ้าหากมีคนอื่นกำลังจับตามองดูเช่นนั้นก็ถือได้ว่าขาดทุนจนเกินไปแล้ว……

 

ในชั่วที่กำลังครุ่นคิด เยี่ยจงก็ได้หัวเราะออกมาเสียงเย็นชา แน่นอนไม่ขยับเคลื่อนไหว

 

มู่ซูจ้องมองไปอย่างเยียบเย็นไปทางด้าน “ซิง “หลังจากนั้น เขาก็ได้หัวเราะเสียงเย็นชาขึ้น ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันแล้วกล่าว : “ภูเขาลำธารย่อมมีวันบรรจบกัน ท่านซิง เราท่านคงจะได้พบเจอกันอีก “

 

“กับเจ้าอย่างงั้นหรือ? “เยี่ยจงยังคงกล่าวคำเดิม ถึงแม้จะราบเรียบ แต่ว่าก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความไม่แยแส อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยความดูแคลนชนิดหนึ่ง ทำให้มู่ซูเกือบที่จะกัดฟันจนแหลกลาญ

 

แต่ในตอนนี้เขากลับไม่กล้าที่จะกล่าวอันใด เกรงว่าตนเองจะอดไม่ได้ที่จะลงมือออกมา เพียงแต่หันกายกลับไป ถอยหลบไปอย่างรวดเร็ว

 

ซูม่อหยงมองเข้าไปทางด้านของเยี่ยจงอย่างลึกซึ้งคราหนึ่ง จากนั้นก็ได้หัวเราะออกมาอย่างทรงเสน่ห์ จากนั้นก็ได้โค้งกายอย่างมีมารยาท ขยับร่างกายหายไปอย่างช้าๆ

 

จินเฉิงจ้องมองไปที่เยี่ยจง หลังจากนั้น จึงค่อยได้กล่าวออกมาอย่างเย็นชา : “สุดยอดฝีมืออันดับหนึ่งซิง ที่แท้ก็ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง น่าเสียดายที่ในสถานที่แห่งนี้ยังมิใช่โอกาสที่เหมาะสมต่อการลงมือ คราวครั้งหน้าหวังว่าคงจะได้มีโอกาสพบกันอีก “

 

“เช่นกัน “เยี่ยจงยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา เกี่ยวกับอัจฉริยะแห่งตำหนักดวงตะวันผู้นี้ถึงแม้จะไม่เห็นอยู่ในสายตา นั้นก็เพราะว่า ท่ามกลางดินแดนขนาดเล็กภายในศิลาตะวันบริสุทธิ์นี้ พลังแห่งมรรคไฟถือได้ว่าอยู่ในจุดสูงสุด จินเฉิงฝึกปรือพลังแห่งมรรคไฟ ย่อมสามารถที่สำแดงพลังฝีมือได้เกินกว่าปกติในที่แห่งนี้อย่างแน่นอน ยากที่จะต่อกรได้

 

จากนั้นก็ได้ค่อยๆ หยักหน้าให้แก่เยี่ยจง แล้วจินเฉิงก็ได้ขยับกายเล็กน้อย ก็ได้กลายเป็นประกายแสงหายวับออกไป

 

“ใช่แล้ว ช่วงเวลาอันใกล้นี้ได้ยินข่าวคราวมาว่า ว่ามีการปรากฏตัวขึ้นของแมลงหยก ท่านพี่ซิงถ้าหากว่ามีความเสนาะสนใจแล้วละก็ ก็ขอให้ลองไปแย่งชิงดูสักครา “ในที่ห่างออกไป เสียงของจินเฉิงก็ได้ดังลอดออกมา อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยความประหลาดชนิดหนึ่งออกมา

 

“แมลงหยก “

 

เยี่ยจงขยับสีหน้าไปมา ภายในสายตาก็ได้ปรากฏสีหน้าแปลกใจขึ้นมา กล่าวกันว่า แมลงหยกนั้นถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมโอกาสต่างๆ เอาไว้ เมื่อชาติที่แล้วยังไม่อาจที่จะพบเจอกับแมลงชนิดนี้ได้ แมลงชนิดนี้ถือได้ว่าเป็นราชาในหมู่ของราชาแมลงนับตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ สามารถควบคุมแมลงนับหมื่น ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งภายในร่างกายยังรวมเอาไว้ด้วยพลังอันมหาศาลอยู่ หากว่าสามารถครอบครอง เช่นนี้ย่อมต้องมีประโยชน์ต่อการฝึกปรือสู่การบรรลุเป็นอย่างมากแน่นอน

 

“ไม่แปลกใจเลย ว่าในสถานที่แห่งนี้จะรวมตัวเอาไว้ด้วยอัจฉริยะได้อย่างมากมายได้ถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ “เยี่ยจงพยักหน้า จากนั้นก็ได้ทอดตามองไปอีกทางด้านหนึ่ง บริเวณทางด้านนั้น ตอนนี้ยังคงแผ่พุ่งพลังอันน่าหวาดกลัวเอาไว้อยู่ เป็นที่ชัดเจนยังคงมีอัจฉริยะกำลังประมือกันอยู่

 

หลังจากที่ครุ่นคิดใคร่ครวญดูแล้ว เยี่ยจงก็ได้ขยับร่างกายเล็กน้อย มุ่งหน้าออกไปอีกทางด้านหนึ่งออกไป หากว่าสามารถพบกับโชควาสนาแล้วละก็ แน่นอนว่าย่อมต้องขอทดลองดูสักครา ย่อมไม่ผิดพลาดไปได้อย่างแน่นอน

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset