เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 407 เมิงจี่

ตอนที่ 407 เมิงจี่

 

เยี่ยจงไม่แม้แต่จะสนใจคนทั้งสองคนที่เข้ามาใกล้ สายตาของเขาเพียงแต่มองเข้าไปทางด้านหนึ่งที่เป็นท่ามกลางของเพลิงไฟ ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความสงสัยขึ้นมา หากเป็นไปตามบันทึกแผนที่ที่เขาได้รับมา ท่ามกลางเพลิงผลาญบริสุทธิ์ชนิดนี้ จะต้องมีการคงอยู่ของยาปราณแห่งมรรคไฟอันล้ำค่าชนิดหนึ่ง——บัวแดงเพลิง (炎红莲) ยาปราณชนิดนี้ถือได้ว่าก่อรวมเอาไว้ด้วยพลังของมรรคไฟเอาไว้ อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นพลังไฟที่บริสุทธิ์ ส่งผลต่อการบรรลุพลังเก้าเปลี่ยนแปลงไท่กู่จูเชวียนของตนเอง ที่มากมายอย่างยิ่ง

 

ทว่าหลังจากที่ได้ครุ่นคิดแล้ว เยี่ยจงก็มิได้ลงมืออีก เพียงแต่เตรียมตัวที่จะมุ่งหน้าต่อไปตามทางที่เสี่ยวหลุนชี้นำเอาไว้ ถึงกระนั้น บัวแดงเพลิงเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์ต่อตนเองเป็นอย่างมาก แต่ว่าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องลงมือกับผู้อื่นเช่นนี้ นั้นก็เพราะว่า สถานที่แห่งนี้ยังถือเป็นเพียงแค่หัวมุมของภายในธาราเพลิงก็เท่านั้น โอกาสวาสนาที่แท้จริงนั้นเกรงว่ายังอยู่ภายในส่วนที่ลึกเข้าไปอีก

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เยี่ยจงก็ได้หันกาย มุ่งหน้าออกเดินไปอีกทางด้านหนึ่ง มิได้หันศีรษะกลับมา

 

“ข้าบอกไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ว่าเจ้าสามารถไปได้งั้นหรือ ? “ทันใดนั้น เมื่อได้พบเยี่ยจงหันกาย หนึ่งในท่ามกลางทั้งสองคนนั้นก็ได้ก้าวออกมา ท่ามกลางหนึ่งในนั้นกลับเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ วินาทีนั้น ก็ได้ก่อเกิดพลังแรงกดดันอันน่ากลัวชนิดหนึ่งแผ่กระจายออกมา น้ำเสียงของเขานั้นมีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดต้องเป็นอัจฉริยะ、หรือไม่ก็บุคคลในชนชั้นแนวหน้า

 

“มีเรื่องงั้นหรือ ? “เยี่ยจงหันตอบกลับไป กวาดสายตามองเข้าไปยังบุคคลที่เอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชาคราหนึ่ง เขาเดินออกมาจากพื้นที่ที่ปลอดโปร่งผืนหนึ่ง สามารถทำให้ผู้คนมองออกว่า คนผู้นี้นั้นมีผมสีเงินทั่วทั้งศีรษะ แต่ว่าภายในดวงตากลับปรากฏแววตาสีทองของเด็กหนุ่มเอาไว้ บนร่างกายของเขาก็ได้มีบรรยากาศอันน่าประหลาดอยู่ชนิดหนึ่ง จนเผยออกมาให้เห็น ว่าเขานั้นมิใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์ เพียงแต่เป็นสิ่งมีชีวิตอย่างอื่น

 

“ไม่ว่าเจ้าจะจงใจมายังที่แห่งนี้ หรือว่าจะไม่ตั้งใจมายังที่แห่งนี้ ในเมื่อมาแล้ว ก็อย่าได้ไปเลย พวกเราตรงนี้กำลังขาดคนช่วยเก็บเกี่ยวยาอยู่ เจ้าไปเก็บยาทางด้านนั้น ขอเพียงเก็บมาได้สิบก้าน ข้าจะเป็นผู้ตัดสินใจไม่สังหารเจ้าเอง “ชายหนุ่มผมเงินดวงตาสีทองก็ได้เอ่ยขึ้นมาเสียงเย็นเยียบ น้ำเสียงในคำพูดเยียบเย็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยบรรยากาศของชนชั้นระดับสูงเอาไว้อยู่ชนิดหนึ่ง

 

เยี่ยจงส่งเสียงหัวเราะดัง “ชิ “ออกมา ความจริงเขาไม่คิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวเช่นนี้ แต่ว่ากลับคิดไม่ถึง ถึงกับมีคนคิดที่จะมาหาเรื่องตนเองถึงที่เช่นนี้

 

“เจ้าขำอะไรกัน ? “ชายหนุ่มผมเงินดวงตาสีทองขมวดคิ้ว ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏรังสีสังหารขึ้น

 

“ไม่ทราบว่าเจ้าแมวเจ้าสุนัขออกมาจากที่ใดกัน ถึงกับอาจหาญบังอาจต่อหน้าข้าถึงเพียงนี้เลยงั้นหรือ ? ช่างเถอะ ตอนนี้เจ้าส่งมอบบัวแดงเพลิงหนึ่งร้อยชิ้นออกมา ข้าก็จะไม่สังหารเจ้า “เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมาพร้อมด้วยสีหน้าที่จริงจัง เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังดี มิได้ตระเตรียมลงมือสังหารฝ่ายตรงข้าม

 

“เหอะ—— “ชายหนุ่มผมเงินดวงตาสีทองก็ได้หัวเราะขึ้นมาเสียงหนึ่งอย่างกะทันหัน เห็นได้ชัดว่า ยังไม่เคยมีผู้ใดที่หาญกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ต่อเขามาก่อน เขาก้าวออกไปหนึ่งก้าว แล้วก็ได้ตระเตรียมลงมือ

 

ตามความเคลื่อนไหวของเขา เงาร่างอีกสายอีกทางด้านหนึ่งในตอนนี้ก็ได้ก้าวออกมา นี้ก็คือหญิงสาวนางหนึ่ง บนร่างกายก็ได้ปกคลุมเอาไว้ด้วยบรรยากาศของมรรคไฟอย่างเย็นเยียบ อีกทั้งยังมีท่วงท่างดงามทรงเสน่ห์ ตอนนี้เขาก็ได้มองไปทางด้านของเยี่ยจงอย่างเสนาะสนใจ ไม่ทราบว่าคิดอะไรอยู่กันแน่

 

“ที่แท้ก็เป็นเจ้า ! “บริเวณส่วนลึกของที่โล่งของเพลิงผลาญ ก็ได้มีเงาร่างสายหนึ่งก้าวเดินออกมา ภายในคำพูดยังแฝงเอาไว้ด้วยความเย็นเยี่ยม “พี่เมิงจี่ ท่านมิใช่ต้องการที่จะกลืนกินสุดยอดฝีมือรุ่นเยาว์เยี่ยจงมาตลอดอย่างงั้นหรอกหรือ ? คนผู้นี้ถึงแม้ว่าจะมิใช่เยี่ยจง แต่ว่าสถานะของเขาก็สามารถเทียบเคียงได้ เขาก็คือซิง “

 

เมิงจี่ ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างมากของหุบเขาหลิงซาน มีกายสีเงินดวงตาสีทอง ประหลาดอย่างถึงที่สุด ตอนนี้ผู้ที่ออกมาได้เปิดเผยสถานะของชายหนุ่มผมเงินดวงตาสีทองออกมา เพื่อที่คิดจะสามารถสร้างความกดดันอันมหาศาลให้แก่เยี่ยจงได้

 

เพียงแต่ว่าเยี่ยจงตอนนี้กลับมิได้รู้สึกอะไร เขาเพียงแต่มองเข้าไปยังผู้ที่เดินเข้ามาคราหนึ่ง แล้วก็ได้ส่งเสียงหัวเราะดังออกมา : “มู่ซู ครั้งที่แล้วปล่อยให้เจ้าหลบหนีไปได้ ตอนนี้ เจ้ายังกล้าที่จะปรากฏตัวต่อหน้าข้าอีกอย่างงั้นหรือ ? “

 

ตอนนี้ก็ได้ปรากฏบุคคลที่สามออกมา แท้ที่จริงแล้วก็คือมู่ซูนั้นเอง ตอนนี้เขาได้ฟื้นคืนจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่ว่าเมื่อได้ทอดสายตามองเข้าไปยัง “ซิง “ผู้นี้ก็ได้เกิดรังสีฆ่าฟันออกมาอย่างเต็มเปี่ยม จากนั้นเขาก็ได้ถอนหายใจออกมายาวๆ คำหนึ่ง ทำเป็นมองไม่เห็นเยี่ยจง เพียงแต่หัวเราะอย่างเย็นชาติดต่อกัน

 

“อ๋อ ? เขาก็คือสุดยอดอันดับหนึ่งแห่งเผ่ามนุษย์ ซิงที่พึ่งจะมีชื่อเสียงเมื่อช่วงเวลาใกล้ๆ นี้เอง ? “บนใบหน้าของเมิงจี่ทอประหลาดกลับกลายออกมา เขาก็ได้จ้องมองไปที่เยี่ยจง ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏอาการโลภขึ้นมา “เผ่ามนุษย์ ถือได้ว่าเป็นรสชาติที่หอมละมุน โดยเฉพาะสุดยอดอันดับหนึ่งเช่นนี้ หากว่ากลืนกินเข้าไปแล้วละก็ รสชาติน่าจะไม่เลวเลยทีเดียว มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะรสชาติยอดเยี่ยมมากกว่าเหล่าองค์ชายแห่งรัฐเหยียนที่กินไปก่อนหน้านี้หลายคนอีก “

 

กล่าวจบ เมิงจี่แลบลิ้นเลียริมฝีปากไปมา เผยให้เห็นฟันขาวที่เย็นเยียบออกมา มุ่งหน้าเข้าไปยังปากของเยี่ยจง เห็นได้ชัด เขาคิดที่จะยั่วยุให้เยี่ยจงโกรธ ดูว่าเขาในตอนนี้จะโกรธขึ้นมาหรือว่าจะตกใจจนถอยออกไป

 

“เผ่ามนุษย์กินคน “เยี่ยจงเงียบงัน จากนั้นก็ได้พยักหน้าตกลงอย่างช้าๆ “ดีมาก เจ้าเพื่อที่จะหาวิธีการตายที่ดูดีที่สุด รอจนเจ้าตายไปแล้ว ข้าจะขอดูหน่อยว่าจะนำเจ้าไปปิ้ง หรือว่าไปย่างกันดี “

 

“เหอะ เผ่ามนุษย์มักจะชมชอบคุยโวโอ้อวด “เมิงจี่จ้องเขม็งไปที่เยี่ยจง ค่อยๆ ขบริมฝีปากเบาๆ “ต่อให้ข้าให้เจ้ากินเข้าไป เจ้ากล้างั้นหรือ ? ไม่เกรงกลัวว่าจะส่งผลกระทบต่อเผ่าพันธุ์ของเจ้า จนสูญสลายไปจากโลกนี้งั้นหรอกหรือ ? “

 

หญิงสาวนางนั้นก็ได้หัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน นางมองไปทางด้านของเยี่ยจง กรอกนัยน์ตาแวววับ กล่าวออกมาว่า : “พี่ใหญ่เมิงจี่ เหตุใดต้องมากล่าววาจาไร้สาระมากมายกับเขานานถึงเพียงนี้ กินเข้าไปเลยก็เพียงพอแล้ว เพียงแต่ว่า คนผู้นี้ถ้าหากเป็นซิงผู้นั้นจริงแล้วละก็ สมควรที่จะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ต้องระวังเอาไว้หน่อยนะ “

 

“เจ้ายังไม่ทราบรสนิยมของข้าอีกงั้นหรือ ? สิ่งที่เป็นอาหารยิ่งมีความแข็งแกร่งมากเท่าไร ยิ่งข้ากินลงไปยิ่งทำให้มีรสชาติมากยิ่งขึ้น ช่างเป็นการเฝ้ารออย่างแท้จริง ! เจ้าที่แท้มีรสชาติอย่างไรกันแน่นะ ! “เมิงจี่หัวเราะออกมาฮาฮาอย่างบ้าคลั่ง แต่ว่าภายในดวงตาของเขากลับทอความเย็นเยียบขึ้นทั้งใบหน้า มิได้มีอาการบ้าคลั่งปรากฏออกมาแต่อย่างไร

 

“พี่เมิงจี่ ไม่เช่นนั้นก็ให้ข้าลงมือเถอะ ข้าจะจับเป็นเขา ส่งมอบให้เป็นของขวัญแก่ท่านเป็นอย่างไร ? “มู่ซูเอ่ยขึ้นมา สายตาจ้องมองเข้าไปยัง “ซิง “ที่อยู่เบื้องหน้า ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วเขาจะพลาดท่าครั้งใหญ่ไป แต่ว่าก็ยังไม่คิดว่าตนเองมิใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย เพียงแต่เพราะว่าอีกฝ่ายนั้นหลอกใช้พลังจากราชาแมลง

 

ในเวลาเดียวกัน ครั้งที่แล้ว “ซิง “ได้ทำให้เขาขายหน้าอย่างใหญ่หลวง จนทำให้ไม่อาจที่เผชิญหน้าต่อหน้าซูม่อหยงได้ ในครั้งนี้กลับได้พบกับ “ซิง “อย่างไม่ได้ตั้งใจ จะไม่ให้เขาลงมือได้อย่างไรกัน ? นั้นก็เพราะว่ามีแต่เพียงสังหาร “ซิง “จึงจะสามารถล้างมลทินของเขาไปได้

 

“ไม่เลว ถือได้ว่าเป็นคนที่ใช้ได้ อีกสักครู่ก็ไปเตรียมไม้ฝืนมาเตรียมการย่างเนื้อ อาหารเช่นนี้ ก็อย่าได้สังหารลงไปละ ให้นางมาช่วยย่างเนื้อด้วยก็ดี “เยี่ยจงเหมือนดั่งไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาทั้งสามคนกำลังคุยกันอยู่ เพียงแต่มองดูวิเคราะห์บุคคลทั้งสามคน จากนั้นเขาก็กล่าวออกมากับตัวเอง ในเวลาเดียวกันก็ได้ก้าวออกไปหนึ่งก้าว มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณทางด้านหน้าใกล้เข้าไป

 

หลังจากที่กล่าวออกมาเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวที่ทรงเสน่ห์ หรือว่าจะเป็น มู่ซูที่มีผมสีเงินดวงตาสีทอง หรือว่าจะเป็นอัจฉริยะมู่ซูแห่งตระกูลมู่ ในตอนนี้ต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน เด็กน้อยเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ยังถึงกับหาญกล้ากว่าพวกเขาอีก เรียกได้ว่าแทบจะไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาโดยทั้งสิ้น

 

“เหอะ ครั้งที่แล้วที่ถูกเจ้าสบประมาทไปเล็กน้อย เจ้าคิดจริงหรือยังไงว่าตนเองนั้นไร้ผู้ต้านจริงอย่างงั้นหรือ ? “มู่ซูหัวเราะออกมาอย่างเย็ฯ ชา ก้าวออกไปทางด้านหน้าหนึ่งก้าว กระบี่ไม้ในมือก็ได้ทอเป็นประกายขึ้นมา

 

“ข้ามิได้คิดว่าตนเองนั้นไร้ผู้ต้านทาน อย่างน้อยก็เยี่ยจง、จื่อจุนเทียน、นางเซียนชิงหญิงแล้วก็อีกหลายๆ คน ข้าแน่นอนว่าไม่คิดว่าตนเองนั้นจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้ ทว่า พวกเจ้านั้นมิใช่ ? “เมื่อกล่าวมาจนถึงตรงนี้ เยี่ยจงก็ได้ยิ้มขึ้นที่มุมปาก ภายในน้ำเสียงนั้นแฝงเอาไว้ด้วยความเหยียดหยามอยู่ชนิดหนึ่ง ในเวลาเดียวกันก็ยังคงยืนอยู่กับที่ใบหน้าไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงจังหวะหัวใจยังคงเดิมประดุจทองพันชั่ง

 

หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงก้าวออกไปทีละก้าว มุ่งหน้าเข้าไปใกล้ทางด้านหน้า เป็นที่น่าตกใจของผู้คน ตอนนี้เขาก็ได้ลอกเลียนวิชาท่าร่างดอกบัวของตระกูลถังออกมา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อาจที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับท่าร่างของเขาได้ แต่ว่าการก้าวย่างนั้นกลับมีจังหวะการรุกรับที่น่าหวาดกลัวอยู่ชนิดหนึ่ง ทุกๆ การย่างก้าว ภายในร่างกายก็ได้ปะทุพลังความน่าหวาดกลัวของพลังอำนาจฟ้าดินแผ่กระจายออกมาหนึ่งส่วน จนถึงท้ายที่สุด ก็ได้ทำให้เกิดเพลิงไฟแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศในเวลาเดียวกัน ปกคลุมออกไปทั่วทั้งฟ้าดิน

 

สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นบรรยากาศที่น่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด พลังฝีมือของเยี่ยจงในตอนนี้ เมื่อเทียบกับครั้งที่อยู่ในอาณาจักรเหลียนที่หอสวรรค์ถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่ามากนัก เมื่อครั้งก่อนที่เขาได้ก้าวออกไปถึงสามก้าว ก็ได้ทำให้ยอดฝีมือของหุบเขาเมฆาม่วงและสำนักหวูหว่างต่างก็กระอักโลหิตถอยออกไป พลังฝีมือของเขาในตอนนี้กลับแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เมื่อก้าวออกไปถึงห้าก้าว ก็ได้ก่อให้เกิดพลังอำนาจอันแข็งแกร่งจนถึงระดับขีดสุด

 

“พี่ท่านไม่แต่เพียงถูกเรียกขานว่าสุดยอดอันดับหนึ่ง ยอดเยี่ยมมาก ไม่เลวเลยทีเดียว ผู้น้องขอนับถือ “หญิงสาวทรงเสน่ห์ยิ้มแล้วกล่าวออกมา แต่ว่ถึงแม้ว่านางจะกำลังยิ้มอยู่ แต่ภายในดวงตากลับปรากฏแววตาความเคร่งเครียดออกมา จากนั้นก็ได้พบว่านางกรีดนิ้วออกมาคราหนึ่ง แล้วก็ได้มีแสงสีแดงเพลิงฟาดออกมาจากท่ามกลางอากาศ วนเวียนอยู่รอบตัวของนาง เห็นได้ชัด ถึงแม้นางจะกำลังยิ้มอยู่ แต่ว่าตอนนี้กลับเกิดความหวาดกลัวต่อเยี่ยจงอย่างไร้ที่เปรียบ เตรียมพร้อมที่จะจู่โจมออกไปประดุจสายฟ้าฟาดทุกเมื่อ

 

“ก็เป็นเพียงแค่อาหาร แต่ก็ถือได้ว่ามีพลังใจที่ยอดเยี่ยมไม่เลว แต่ก็ช่างเถอะ วันนี้ข้าจะนำเจ้าไปเผาก็แล้วกัน ให้สุกเข้าไปจนถึงกระดูกส่วนในถึงจะดี เมื่อเวลานั้นถึง กลิ่นคงจะหอมหวนอย่างยิ่ง ! “เมิงจี่แสยะยิ้มขึ้นมา ทอสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดังโครมขึ้นมา ใจกลางฝ่ามือของเขาก็ได้ปรากฏพัดห้าสีขึ้นมาเล่มหนึ่ง มุ่งหน้าพัดเข้าไปยังในบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

“ตูม—— “

 

วินาทีนั้น ก็ได้พบเจอกับสายลมโชยพัดลูกใหญ่ปรากฏขึ้นมา มุ่งหน้าหมุนวนเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่ หมายที่จะสับสังหารเยี่ยจงเป็นชิ้นๆ

 

“โครม—— “

 

ประดุจประกายสายฟ้าฟาดสายหนึ่งระเบิดขึ้นมา เยี่ยจงยกมือขวาขึ้นชี้ออกไป แล้วก็ได้มีประกายสายฟ้าพวยพุ่งออกมาสายหนึ่ง เข้าต้านทานกับสายลมมังกรนั้นทันที จากนั้นก็ได้เกิดการระเบิดขึ้นท่ามกลางอากาศ

 

“เจ้าอย่าได้ใช้พลังปราณประจำตระกูลมากจนเกินไป ไม่เช่นนั้นอยู่เดียวเนื้อจะแก่จนเกินไป ไม่อร่อยนะ “เมิงจี่สาดประกายดวงตาแวววับ เห็นได้ชัดเขาก็คิดไม่ถึง ตอนนี้ “ซิง “เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ถึงกลับสามารถต้านทานการโจมตีที่คุกคามเข้าไปของตนเองได้อย่างง่ายดายได้ ควรทราบว่า พัดที่มันถือเอาไว้อยู่นั้นถือได้ว่าเป็นสมบัติเซียนระดับสูง พลังทำลายไม่ธรรมดาสามัญ แต่ว่าก็คิดไม่ถึงว่าจะถึงกับปรากฏผลลัพธ์เช่นนี้ขึ้นมาได้

 

“พี่เมิงจี่ไม่จำเป็นต้องโกรธเคืองไป ยังคงมอบให้แก่ข้าเถอะ รับรองได้ว่าเนื้อของเขายังคงสดใหม่อย่างแน่นอน “มู่ซูกล่าวออกมา เขาตอนนี้ก็ได้ก้าวออกไป ตั้งใจที่จะออกกระบวนท่าฆ่าสังหารเยี่ยจง ชำระความโกรธแค้นที่อยู่ภายในใจ

 

“เจ้าก็เป็นเพียงแค่สุนัขที่ซูม่อหยงรับเลี้ยงเอาไว้ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง เจ้ายังคงคิดว่าจริงหรือว่าตนเองเป็นอัจฉริยะแห่งตระกูลมู่จริงงั้นหรือ ? สุนัข ยังไงก็คงเป็นสถานะเป็นสุนัข หรือไม่ก็ลองเรียนรู้จากคนอื่นในที่นี้บ้าง มิใช่เอาแต่ตีหน้าฉีกรอยยิ้ม เลียแข้งเลียขาไปเท่านั้น ! “เยี่ยจงจ้องมองไปที่เขา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา

 

มู่ซูโกรธจัดขึ้นมา ทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมาอย่างถึงที่สุด เขาที่ถือถูกเรียกขานเป็นอัจฉริยะแห่งตระกูลมู่ เปล่งประกายอย่างถูกที่สุด ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนต่างก็หวาดกลัวเขาอย่างไร้ที่เปรียบ ต่อให้ไล่ตามซูม่อหยง ในดินแดนทางตอนเหนือต่างก็เล่าขานกันเช่นนี้ อีกทั้งผู้คนมากมายต่างก็เห็นด้วย

 

แต่ว่า ตอนนี้ คำพูดนี้เมื่อถูก “ซิง “เบื้องหน้าสายตาผู้นี้กล่าวออกมา กลับทำให้เขาเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นถึงอัจฉริยะแต่กลับถูกดูแคลนได้ถึงเพียงนี้ นี้ถือได้ว่าเป็นความอับอายอย่างถึงที่สุดของเขา นับตั้งแต่ลืมตาออกมาดูโลกเลยก็ว่าได้

 

ประกายกระบี่เคลื่อนไหวแวววับ ในขณะนี้ กระบี่ไม้ภายในมือมู่ซูก็ได้ถูกยกขึ้น คมกระบี่สาดประกายออกมา เขาก็ได้ปะทุรังสีสังหารออกมา

 

“ซิง ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ที่มาจากดินแดนลับแลจากที่ใด วันนี้เจ้าก็จำเป็นที่จะต้องตายอย่างไร้ที่กลบฝัง ข้าถึงแม้จะไม่ทานอาหารคาว แต่ว่าหลังจากสังหารเจ้าไปแล้ว จะต้องขอลิ้มลองรสชาติของเจ้าสักหน่อยแล้วละ ! “

 

มู่ซูกล่าวจบ ระหว่างนั้นเองก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังกระบี่สายหนึ่งมุ่งหน้าเข้าสังหารไปยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจง วินาทีนั้น คมกระบี่ก็ได้สาดออกมาทั่วท้องฟ้า อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยเงามากมายนับไม่ถ้วน ลอยระบำประดุจเทพมรณะ เห็นได้ชัดว่าน่ากลัวอย่างไร้ที่เปรียบ

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset