เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 408 พ่ายแพ้อีกครั้ง

ตอนที่ 408 พ่ายแพ้อีกครั้ง

 

 

กระบี่นี้ได้สั่นสะเทือนท้องฟ้า พวยพุ่งออกไป มุ่งหน้าหมุนวนเข้าไปยังบริเวณที่” ซิง” อยู่ สภาพสถานที่แห่งนี้ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด ราวกับมีแต่เพียงคมกระบี่ตัดไปมาเท่านั้น ราวกับ” ซิง” จะต้องตายลงอย่างแน่นอนก็มิปาน

 

บริเวณอีกทางด้านหนึ่ง เมิงจี่และหญิงสาวทรงเสน่ห์ต่างก็พยักหน้าเล็กน้อย ภายในดวงตาก็ได้ปรากฏความนับถือขึ้นมา มู่ซูไม่เพียงแต่เป็นอัจฉริยะแห่งตระกูลมู่ กระบี่เช่นนี้ สามารถเรียกได้ว่าอยู่ในด่านของสำนึกกระบี่ได้แล้วหลายส่วน เพียงพอที่จะสามารถฆ่าสังหารยอดฝีมือระดับราชันหลายคนได้แล้ว ในข้อนี้ก็เพียงพอที่จะบอกได้ถึงความแข็งแกร่งของเขาได้แล้ว

 

จากนั้น เยี่ยจงกลับยังคงยืนอยู่ภายในสถานที่แห่งนี้ มิได้หลบเลี่ยงแต่อย่างไร เพียงแต่ยื่นมือขวาไขว้นิ้วมือทั้งสองนิ้วขึ้น ค่อยๆ ที่จะคีบออกไปทางด้านหน้า

 

“เคร้ง——”

 

เสียงของเหล็กกระทบกันดังสนั่นออกมาเป็นสาย เงาของคมกระบี่ที่ไร้ลักษณ์คล้ายดั่งมีสภาพขึ้นมาก็มิปาน กระนั้นกลับยังถูกเยี่ยจงใช้เพียงสองนิ้วคีบเอาไว้ เกิดการสั่นไหวไม่หยุด จากนั้นก็ได้หายลับไป

 

ตามความเป็นจริง เยี่ยจงไม่แต่เพียงฝึกปรือเคล็ดวิชาลมปราณกระบี่หกสุสานเท่านั้น、อีกทั้งยังฝึกปรือพลังกระบี่ตราประทับ ฝ่ามือยังรวมเอาไว้ด้วยพลังสำนึกกระบี่ตัดอากาศ หากกล่าวออกมาจากสิ่งเหล่านี้แล้วละก็ การที่เขาสามารถใช้มือเปล่ารับมรรคกระบี่เอาไว้ได้ ก็ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่อยู่จุดสูงสุดแขวงหนึ่งแล้วก็ว่าได้ ตอนกระบี่นี้ของมู่ซูหากมองโดยผู้อื่น แน่นอนว่าย่อมไร้ที่เปรียบเป็นรองสองวิชาใดๆ แต่ว่าในสายตาของเยี่ยจง กลับเป็นเหมือนการควงขวานต่อหน้าหลู่ปันเท่านั้น

 

จากนั้นก็โยนออกไปอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากที่ได้โยนพลังคมกระบี่ที่พุ่งเข้ามาแล้ว เยี่ยจงก็ได้เงยหน้าขึ้น ทอสีหน้าเย็นเยียบมองเข้าไปยังมู่ซูคราหนึ่ง แล้วก็ยิ้มออกมาแล้วกล่าว : ” อัจฉริยะตระกูลมู่ นี้คือพลังฝีมือของเจ้าอย่างงั้นหรือ ? นี้คือไพ่ตายของเจ้าแล้วอย่างงั้นหรือ ? หากเพียงพึ่งพาพลังฝีมือเช่นนี้ก็สามารถถูกเรียกขานว่าอัจฉริยะแล้วละก็ นี้ก็เพียงพอที่จะบอกได้ถึงว่าตระกูลมู่ของเจ้านั้นมีความอ่อนแอถึงระดับใดกัน ? เจ้ายังหาญกล้าลงมือต่อข้าอีกงั้นหรือ ? ช่างไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำเสียจริง ! ”

 

ด้วยการประเมินจากเยี่ยจงในตอนนี้ แน่นอนว่าย่อมต้องมีคุณสมบัติที่จะกล่าวออกมาเช่นนี้อยู่แล้ว แต่ว่าเมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ไม่เพียงแต่แค่เมิงจี่และหญิงสาวนางนั้นต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงกลับกลาย ต่อให้เป็นมู่ซูก็ยังอดไม่ได้ที่จะทอสีหน้าแทบคลั่งขึ้นมา เขาขบเคี้ยวเขี้ยวฟันมองเข้าไปที่” ซิง” เกลียดชังจนแทบจะกลืนกินทั้งเป็นให้ได้

 

“ซิง เจ้าอย่าได้ประมาทไป วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่า ความน่ากลัวของตระกูลมู่ข้า ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง มู่ซูก็ได้ขยับทั้งสองมือขึ้น ตลอดทั่วทั้งคนก็ได้ถูกพลังบางอย่างทำให้ลอยขึ้นไปยัง ท่ามกลางอากาศ ราวกับว่าตอนนี้ ท่ามกลางอากาศก็ได้ปรากฏเงาร่างของผู้คนขึ้นมาสายหนึ่งก็มิปาน ในเวลาเดียวกัน ฉากที่อยู่บนท้องฟ้าก็ได้แผ่กระจายแสงสีเขียวออกมา ตลอดรายทางต่างก็ได้มีประกายอักขระของพลังสีเขียวเปล่งประกายไปทั่ว เป็นที่แสบนัยน์ตาอย่างยิ่ง

 

“นี้คือ……หกกระบี่ปราบมาร ? ” เมิงจี่ร้องเสียงหลงออกมา ทอสีหน้าแปลกใจ เห็นได้ชัดว่าก็คิดไม่ถึง เพียงแค่” ซิง” เพียงคนเดียวเท่านั้น ยังถึงกับบีบคั้นให้มู่ซูอัจฉริยะตระกูลมู่มาจนถึงขั้นนี้ได้

 

ฉากที่อยู่บนฟ้า มู่ซูก็ได้ยืนอยู่ด้านบนของเงามายานั้น จากนั้นเขาก็ได้ปะทุพลังสีเขียวแห่งประกายเซียนออกมาจากกระบี่ไม้ในมือในตอนนี้ จากนั้นก็ได้ขยับขึ้นเบาๆ วินาทีนั้น ก็ได้เกิดคมกระบี่ขึ้นทั้งหมดหกสายพวยพุ่งออกไปในเวลาเดียวกัน สาดทอประกายของคมกระบี่ขึ้นในตอนนี้ ในตอนนี้พลังปราณก็ได้เดือดขึ้นมา เกิดเสียงฮูมฮัมขึ้นทั่วทั้งฟ้าดิน

 

“ซวบ——”

 

กระบี่ที่หนึ่ง ก็ได้มีมังกรไม้ลอยลงมาจากท่ามกลางอากาศ มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปอย่างรวดเร็ว

 

“ซูม——”

 

กระบี่ที่สอง ประดุจขอนไม้ขนาดยักษ์ชิ้นหนึ่งลอยพุ่งลงมาจากฟากฟ้าก็มิปาน ก่อเกิดบรรยากาศอันน่ากลัวและความวุ่นวายขึ้นมาท่ามกลางอากาศ

 

“ติง——”

 

กระบี่ที่สาม ไร้รูปไร้ร่องรอย ราวกับมีแต่เพียงเสียงร้องของกระบี่สายหนึ่งดังขึ้นสะท้อนขึ้นมาจากภายในจิตใจก็มิปาน ในเวลาเดียวกันก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวหมุนวนออกมาขึ้นมาอยู่กลุ่มหนึ่ง จนทำให้ผู้คนในตอนนี้เลือดลมเดือดพล่านขึ้นมา ราวกับพร้อมจะแตกระเบิดขึ้นมาได้ในทันที

 

“โครม——”

 

กระบี่ที่สี่ ประดุจสิ่งที่หลอมมาจากพลังอัสนีก็มิปาน ก่อเกิดการรวมตัวของคมกระบี่ขนาดยักษ์ลอยรวมตัวกันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้คมกระบี่ในตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงประกายสายฟ้าขึ้น ประดุจการลงมือจากเทพสายฟ้าก็มิปาน

 

“ตูม——”

 

กระบี่ที่ห้า ประดุจดาวตกที่ร่วงหล่นลงมาจากนอกท้องฟ้าก็มิปาน รวมเอาไว้ด้วยพลังความงดงามส่องสว่างไสวขึ้นมา พวยพุ่งออกไป

 

“เคร้ง——”

 

กระบี่ที่หก ถือได้ว่าเป็นเพียงการใช้ออกมาด้วยกระบี่อย่างเรียบง่าย แต่ว่าในขณะนั้นเอง กระบี่นี้กลับทอเป็นประกายห่อหุ้มทั่วทั้งตัวของกระบี่อยู่ก็มิปาน รวมเอาไว้ด้วยพลังการสังหารจากพลังแห่งฟ้า

 

หกกระบี่ที่ใช้ออกไปทั้งหมด มีพลังความน่ากลัวและความลี้ลับทั้งหกชนิดรวมเอาไว้ที่แตกต่างกัน ในเวลาเดียวกันก็ได้ก่อเกิดขบวนการสังหารขนาดใหญ่ขึ้นมาก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าประทับเข้าไปยังบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

กระบี่ทั้งหกสายนี้ ได้ทำให้สีหน้าของเมิงจี่นั้นเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างรุนแรง นั้นก็เพราะว่ากระบวนท่านี้มีความแข็งแกร่งจนเกินไป มิใช่สิ่งที่บุคคลธรรมดาจะสามารถต้านทานเอาไว้ได้

 

“หกกระบี่ปราบมาร ไม่เลว”

 

เยี่ยจงขมวดคิ้ว จ้องเขม็งไปยังเคล็ดกระบี่สายนี้ ต่อให้เป็นเขาเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องพยักหน้ายอมรับ ไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่าเคล็ดกระบี่นี้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก แทบจะมิใช่สิ่งที่บุคคลปกติธรรมดาจะสามารถต้านทานได้

 

“ซวบ——”

 

พริบตานั้นเอง เยี่ยจงก็ได้ขยับเคลื่อนไหว เขาบีบมือขวาใช้ออกมาด้วยเคล็ดกระบี่ ตลอดทั่วทั้งร่างกายของคนก็ได้ปะทุออกมาด้วยพลังอักขระแวววับขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้พลิกมือขวาออกมาเล็กน้อย วินาทีนั้น ก็ได้เกิดคมกระบี่อันน่าตกใจสายหนึ่งขึ้นมา มุ่งหน้าพวยพุ่งเข้าไปยังบริเวณทางด้านหน้า

 

คมกระบี่สายนี้บริสุทธิ์อย่างไร้ที่เปรียบ ก่อรวมเอาไว้ด้วยบรรยากาศแห่งพลังแห่งดวงตะวันและพลังแท้จริงเอาไว้ มิได้มีความเปลี่ยนแปลงแต่อย่างไร เพียงแค่การลงกระบี่ปกติธรรมดาเท่นั้น ประดุจดาวหางลอยพุ่งมาจากอากาศ สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้า

 

สำนึกกระบี่ได้ตัดอากาศออก ถือได้ว่าเป็นการใช้ออกของหนึ่งในมนต์ตราเทพของเยี่ยจง หากว่ามิใช่สถานการณ์ที่คับขันอันตรายอย่างแท้จริง วิชาเช่นนี้ที่เพียงพอที่จะทำให้เปิดเผยสถานะของเขาออกมาได้ เขาย่อมไม่ยินยอมใช้ออกมาอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าในตอนนี้เขากลับไม่อาจสนใจสิ่งเหล่านี้มากได้ พลังกระบี่ไร้ที่สองรองใด พุ่งประชันเข้าไประหว่างพลังกระบี่และกระบี่ จึงจะถือได้ว่าเป็นวิชาที่สมควรใช้ที่สุด

 

“ตายให้ข้าซะ ! ”

 

เมื่อพบเห็นพลังฝีมือเช่นนี้ของเยี่ยจง มู่ซูก็ร้องขึ้นมา ทอสีหน้าบ้าคลั่งอย่างไร้ที่เปรียบ คมกระบี่ทั้งหกสายก็ได้ลอยรวมตัวกันขึ้นกรีดร้องอยู่ท่ามกลางอากาศอย่างรวดเร็ว คิดที่จะสังหารเยี่ยจงลงไปในช่วงเวลาตั้งแต่วินาทีแรก

 

“สลายไปซะ ! ”

 

จากนั้น เยี่ยจงยังคงทอสีหน้าสงบไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคงใช้ออกมาด้วยเงาของกระบี่ในมือพุ่งออกไป แล้วก็ได้ยินเสียง” เพล้งเพล้งเพล้ง——” ดังขึ้นมาไม่ขาดสายภายในหู กระบี่ทั้งหกสายก็ได้รวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นเพียงคมกระบี่สายเดียว พริบตานั้นก็ได้ถูกวิชาสำนึกกระบี่ตัดอากาศของเยี่ยจงสลายหายไป แตกกระจายออกไปท่ามกลางอากาศในทันที กลับกลายเป็นเพียงประกายแสงมากมายนับไม่ถ้วน

 

“อะไรกัน ! ? ” มู่ซูดวงตาแข็งทื่อ ราวกับกำลังบ้าคลั่งขึ้น เป็นไปได้อย่างไรกัน วิชาที่ถูกร้ายกาจที่สุดของตนเองที่เรียกว่าหกกระบี่ปราบมาร ถึงกับถูกอีกฝ่ายหยุดยั้งเอาไว้เพียงคมของกระบี่สายหนึ่งอย่างงั้นหรือ ? นี้มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ! ?

 

“อย่างที่ถูกเล่าขานกันมาแต่โบราณ หนึ่งกระบี่สลายหมื่นเปลี่ยนแปลงอย่างงั้นหรือ ? ” ทางด้านข้าง หญิงสาวทรงเสน่ห์ก็ได้มีสีหน้าแตกตื่นขึ้นมา บนใบหน้าได้เต็มไปด้วยความไม่อยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็น บุคคลเบื้องหน้าสายตา เหตุใดถึงได้มีความน่าหวาดกลัวถึงเพียงนี้ได้กัน ?

 

“หนึ่งกระบี่สลายหมื่นเปลี่ยนแปลง ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ยอดฝีมือระดับมหาราชันก็ใช่ว่าจะสามารถกระทำได้ แต่ว่า บุคคลผู้นี้กลับถึงกับสามารถควบคุมเคล็ดกระบี่ออกมาได้อย่างน่ากลัวถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังสามารถใช้ออกมาด้วยวิชาระดับมนต์ตราเทพ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากวิชาหกกระบี่ปราบมารของมู่ซู ! ” เมิงจี่ตอนนี้ส่งเสียงออกมาด้วยความแห้งผาดอยู่หลายส่วน ถึงกับสามารถสลายกระบวนท่าสังหารของมู่ซูได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ บุคคลเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ถือได้ว่ามีความน่าหวาดกลัวจนเกินไปแล้ว

 

“ข้าไม่เชื่อ ! ข้าไม่เชื่อ ! เป็นเพียงแค่เผ่ามนุษย์เท่านั้น ! จะมาสลายเคล็ดกระบี่ของตระกูลข้าได้อย่างไรกัน ! ”

 

มู่ซูบ้าคลั่งขึ้นมา ร่ำร้องออกมาเสียงดัง ร่างกายของเขาก็ได้ทอประกายแสงสีเขียวปะทุออกมา กระบี่ไม้ภายในมือก็ได้ปะทุอักขระขึ้นมา มุ่งหน้าเข้าสังหารในบริเวณที่เยี่ยจงอยู่

 

“บังอาจ”

 

เยี่ยจงถอนหายใจออกมา มือขวาก็ได้พลิกรอยตราขึ้นมา กลายเป็นฝ่ามือประทับออกไป วินาทีนั้นก็ได้ใช้ออกมาด้วยกายเนื้อปะทะออกไป ฝ่ามือนี้ก็ได้กระทบเข้าไปยังบริเวณหน้าอกของมู่ซู ในขณะนี้เอง ร่างของทั้งก็ได้ลุกไหม้ไปด้วยพลังของอักขระ ใช้พลังปราณเข้าปะทะกัน นี้เรียกได้ว่าเป็นการปะทะกันได้อย่างแท้จริง ไม่นานนักก็สามารถที่จะแบ่งผลแพ้ชนะออกมาได้

 

“ซูม——”

 

มู่ซูกระอักโลหิตออกมาคำโต กระบี่ไม้ในมือหลุดออกไป ใบหน้าขาวซีด ถอยออกไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว เพราะมือที่ถือเอาไว้ด้วยกระบี่ไม้ในตอนนี้ได้เกิดอาการชาด้านขึ้นมาก็มิปาน เขาไม่เคยที่จะคาดเอาได้ว่า ด้วยวิชาลับแห่งตระกูลมู่ของตนเอง ที่มีความสามารถในพลังไม่สูญสลาย แต่ว่าทันทีที่ร่างกายได้เข้าปะทะกันในพริบตานั้น ก็ถึงกับจบลงเพียงฝ่ามือเดียว ร่างกายของ” ซิง” ผู้นี้ ที่แท้แล้วมีความน่าหวาดกลัวอยู่ในระดับใดกันแน่ ?

 

“อัจฉริยะตระกูลมู่ ที่แท้ก็ไม่ธรรมดาสามัญแม้แต่น้อย หากเปลี่ยนเป็นอีกคนแล้วละก็ ฝ่ามือที่ฟาดลงมาเมื่อครู่นั้น คงจะต้องตายลงอย่างแน่นอนแล้ว” เยี่ยจงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา หากกล่าวในเชิงของความเป็นจริงแล้ว แน่นอนว่ามู่ซูผู้นี้ถือได้ว่ามีความสามารถอยู่บ้าง ในช่วงเวลาคับขันยังสามารถถอยหนีไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะมิใช่แค่สูญเสียแขนเพียงข้างเดียวเท่านั้นแล้ว

 

จากนั้น คำพูดเหล่านี้ก็ได้ทำให้ร่างกายของมู่ซูสั่นไหวไปมา เขาที่เป็นถึงอัจฉริยะตระกูลมู่ มิใช่สวะ กลับถูกทั้งชี้ทั้งด่าว่าจนน่าอับอาย จนทำให้เขาเกิดอาการคันที่ศีรษะอย่างรุนแรง ภายในดวงตาราวกับได้ลุกโชนไปด้วยเพลิงไฟ

 

“อย่าได้มองดูอีกต่อไปแล้ว ลงมือ ! ”

 

หญิงสาวทรงเสน่ห์เอ่ยปากขึ้น ในเวลาเดียวกันนางก็ได้กรีดนิ้วออกไป จนแส้สีแดงที่ล้อมรอบตัวของนางเริ่มขยับไปมา ประดุจอสรพิษสีแดงพวยพุ่งออกมาก็มิปาน มุ่งหน้าเข้าสังหารในบริเวณที่เยี่ยจงอยู่เข้าไป

 

“โครม——”

 

เยี่ยจงพลิกมือฟาดออกไปคราหนึ่ง วินาทีนั้นเอง ก็ได้เกิดคมสายฟ้าฟาดปะทุลงมาท่ามกลางอากาศ มุ่งหน้าเข้าไปปะทะไปยังแส้สีแดงที่กำลังพุ่งเข้าสังหารเข้ามา ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ขยับร่างกาย ปรากฏตัวขึ้นมาบริเวณทางด้านหน้าของมู่ซู หมายจะฟาดฝ่ามือสังหารลงไป

 

“ต้องการที่จะฆ่าข้า เจ้าคงจะกำลังฝันหวานอยู่กระมั่ง ! ”

 

มู่ซูหัวเราะออกมาอย่างเยียบเย็น สีหน้าก็ได้บ้าคลั่งขึ้นมาจนถึงขีดสุด จากนั้นก็ขยับไหล่ทั้งสองข้าง วินาทีนั้น ควันพิษสีเขียวนับไม่ถ้วนแผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าหมุนวนเข้าไปยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจงเข้าไป

 

“นี้คือพิษจากไม้หมื่นปีของตระกูลมู่ข้า ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับมหาราชันก็ยังต้องพิษจนตาย เจ้าจบสิ้นแล้ว ! ”

 

เมื่อมองไปยังฉากเบื้องหน้า เยี่ยจงก็ได้ค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น พริบตานั้นเอง เขากระตุกทั้งสองไหล่ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง การเปลี่ยนแปลงที่สามของไท่กู่จูเชวียนก็ได้ถูกใช้ออกมาในตอนนี้ เขาในตอนนี้ ก็ได้ฟาดฝ่ามือที่ไหลเวียนไปด้วยพลังอักขระของจูเชวียนออกไป เมื่อฝ่ามือนี้ประทับออกไป ก็ได้พบกับประกายเงาของจูเชวียนสีแดงเพลิงกอปรไปด้วยพลังเทพออกมาสายหนึ่ง ปกป้องคุ้มครองบริเวณร่างกายที่เขาอยู่ ในเวลาเดียวกันก็ได้พวยพุ่งกระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศ

 

“ชิ——”

 

ควันสีเขียวก็ได้เมื่อได้พบกับพลังอักขระจูเชวียน ทันใดนั้นก็ได้ถูกเผาผลาญมอดไหม้ไป หายไปอย่างรวดเร็ว

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน ! ? ” มู่ซูอ้าปากตาค้าง นี้ถือได้ว่าเป็นไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา เป็นไปได้อย่างไรที่ถูกผู้คนทำลายลงไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้

 

“ชนชั้นสวะยังไงก็คือชนชั้นสวะ ถึงแม้จะมีวัตถุนับหมื่น มั่งมีมานับแต่เกิด ต่อให้ไม้พิษของเจ้าแข็งแกร่งกว่านี้อีกนับหมื่นเท่า ยังไงก็ต้องถูกเพลิงไฟจูเชวียนกัดกร่อนอยู่ดี” เยี่ยจงเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา พลิกรอยตราบนมือขึ้นอีกครา พลังอักขระจูเชวียนนั้นก็ได้ล้อมไปด้วยพลังแห่งเซียนเป็นชั้น เผาไหม้พิษจำนวนมากทั้งหมดจนสิ้น ในเวลาเดียวกันวงล้อมพลังเซียนจูเชวียนก็ได้พุ่งเข้าสังหารออกไป มุ่งหน้าพวยพุ่งเข้าไปยังบริเวณทางด้านของมู่ซู

 

“เป็นไปได้อย่างไรกัน เจ้าถึงกับสามารถใช้ออกด้วยวิชาของจูเชวียน เป็นไปได้อย่างไรกัน ! ? ” มู่ซูคร่ำครวญขึ้นมา ใบหน้าขาวซีด ตระกูลมู่ถือได้ว่าแพ้ไฟมาแต่กำเนิด ถึงแม้ว่าระดับการฝึกปรือของเขาจะจัดได้ว่าอยู่ในระดับเช่นนี้แล้วก็ตาม ซึ่งเพลิงไฟธรรมดามักจะถูกกลืนกินเข้าไปได้ แต่ว่าเพลิงไฟของจูเชวียน กลับเป็นพลังฟ้าดินหมื่นเพลิงผลาญระดับจักรพรรดิ เขาจะไม่เกรงกลัวได้อย่างไร

 

“ตูม——”

 

เพียงแค่กระบวนท่าเดียว ร่างกายครึ่งท่อนร่างของมู่ซูก็ได้มอญไหม้จนกลายเป็นเพียงฝุ่นผง หลงเหลือแต่เพียงร่างกายส่วนบนที่ร่วงหล่นลงบนพื้น พร้อมกับเรื่องกรีดร้องคร่ำครวญและกลิ้งไปมา

 

“ใช่แล้ว ยังคงเอาเจ้ามาทำเป็นฟืนไว้เผาก็แล้วกัน ถ้าหากเผาไม่ได้ ฆ่าไปก็เป็นใช้ได้แล้ว” ทันใดนั้นเยี่ยจงก็เหมือนกับนึกอะไรขึ้นมาได้ จากนั้นก็ได้พลิกฝ่ามือทั้งสองข้างคราหนึ่ง แบ่งพลังวิชาจูเชวียนออกไป จากนั้นก็ได้บีบมือขวาใช้ออกมาด้วยเคล็ดกระบี่ พร้อมกับคมกระบี่สายหนึ่งก็ได้กวาดออก

 

“ซวบ——”

 

ศีรษะมู่ซูลอยกระเด็นออกไป โลหิตก็ได้ฉีดพุ่งออกมาเป็นทางยาวประดุจสายน้ำ บริเวณพื้นที่ร่างกายของเขาอยู่กลับไม่มีเสียงของความเคลื่อนไหวแต่อย่างไร เพียงแต่ในที่สุดก็กลายเป็นท่อนไม้ท่อนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าครึ่งร่างที่เหลือเป็นแค่เพียงต้นสนเท่านั้น

 

“เป็นฟืนไฟที่ดีเลยทีเดียว ! ” เยี่ยจงตกใจขึ้นมา จากนั้นก็ได้ดีดนิ้วออกมาติดต่อกัน คมกระบี่ก็ได้พวยพุ่ง พริบตานั้นก็ได้สับหันร่างกายของมู่ซูกลายเป็นประดุจท่อนไม้เป็นชิ้นๆ

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://1th.me/o9CD
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset