เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 409 เหมาะสมจนไร้ที่ติ

ตอนที่ 409 เหมาะสมจนไร้ที่ติ

 

บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ เมิงจี่และหญิงสาวทรงเสน่ห์ต่างก็อ้าปากตาค้าง ราวกับไม่อาจมีปฏิกิริยากลับมาได้ นี้ยังเป็นแค่เพียงการเปิดฉากขึ้นมาเท่านั้น มู่ซูก็ได้ถูกยับยั้งและสังหารจนตายลง อีกทั้งยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ร่างกายยังถึงกลับถูกผู้คนกระทำจนเหมือนดั่งฟืนไฟ ฉากเบื้องหน้านี้หากว่าถูกเล่าออกไป ไม่ทราบว่าจะทำให้ผู้คนตกใจจนพูดไม่ออกได้มากน้อยเพียงใด

 

“ฟืนไฟก็ได้ถูกตระเตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว ต่อจากนี้ก็ได้เวลาของอาหารและคนปรุงอาหารแล้วสินะ” เยี่ยจงกล่าวออกมาจากมุมปาก เผยออกมาให้เห็นถึงเขี้ยวฟันที่ขาวสะอาดหมดจดออกมา มองเข้าไปแล้วกล่าวต่อเมิงจี่และหญิงสาวทรงเสน่ห์ เห็นได้ชัด ทั้งสองคนนี้ คนหนึ่งนั้นก็เป็นอาหารที่เขากล่าวออกมา ส่วนอีกคนที่นั่นก็คงจะต้องเป็นคนปรุงอาหารอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“เมื่อครู่เจ้ากล่าวออกมาแต่ละคำก็ล้วนแล้วแต่จะกินข้า ตอนนี้ ก็เป็นอาหารของข้าเสียเถอะ” เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นก็พลิกมือคราหนึ่ง วินาทีนั้นก็ได้พบเห็นกระบี่ไม้ของมู่ซูลอยเข้าไปยังใจกลางฝ่ามือของเขาในทันที ขณะนี้ มู่ซูก็ได้ตายลงไปแล้ว กระบี่ไม้ที่เปรียบเสมือนสัญญาณของเขาก็ได้ถูกเยี่ยจงใช้ออกไป หลังจากนั้นก็ได้พลิกมือไปมาเพื่อความเคยชินอยู่หลายครา

 

“ไป——”

 

เมิงจี่และหญิงสาวทรงเสน่ห์ก็ได้สบตากันคราหนึ่ง ต่างก็ทราบได้ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มู่ซูกลับยังถึงกับถูก” ซิง” เบื้องหน้าสายตาผู้นี้จัดการเพียงไม่กี่ครั้ง ต่อให้พวกเขาลงมือ ก็ใช่ว่าจะสามารถทำอันใดต่ออีกฝ่ายได้ ทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ ถอยออกไปเฉกเช่นนี้ นั้นก็เพราะว่าหากว่ายังฝืนอยู่ต่อไปแล้วละก็ ไม่รู้จักเวลาที่ควรจะถอยแล้วละก็ เป็นไปได้ว่าสภาพการณ์ต่อไปของพวกเขาก็คงจะไม่แตกต่างจากมู่ซูนัก

 

“ซวบ——”

 

จากนั้น ทันทีที่ทั้งสองคนยังไม่ทันจะได้ถอยออกไป กระบี่ไม้ในมือของเยี่ยจงก็ได้กวาดออกไปกระบี่หนึ่ง พลังความคมกล้าอันน่าหวาดกลัวของกระบี่ก็ได้พุ่งเข้ามา ตัดรอนหนทางถอยหนีของทั้งสองคนเอาไว้

 

“ทั้งสองท่าน พวกเจ้ายังหนีไม่ได้นะ ถ้าหากว่าหลบหนีไปแล้วละก็ อาหารที่ข้าคิดเตรียมเอาไว้ก็เสียเวลาเปล่ามิใช่หรือ ! ? ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง ร่างกายเยี่ยจงก็ได้พุ่งออกไป กระบี่ไม้ในมือก็ได้ฟาดฟันสังหารเข้าไปยังทางด้านของเมิงจี่ เมิงจี่ทอสีหน้าเปลี่ยนแปลงกลับกลาย พัดห้าสีในมือก็ได้ถูกขยับใช้ออกอย่างรวดเร็ว วินาทีนั้นก็ได้พบกับหงส์เพลิง、มังกรลม、เต่าดินเป็นต้นปรากฏออกมาไม่ขาดสาย มุ่งหน้าเข้าโจมตีไปยังทางด้านของเยี่ยจง เป็นที่ชัดเจนอย่างยิ่ง พัดด้ามนี้ในมือของเขา จะต้องมิใช่วัตถุธรรมดาอันใดอย่างแน่นอน

 

“น่าเสียดาย ที่ข้าไม่มีเวลาพอที่จะอยู่เล่นกับพวกเจ้าแล้ว ! ” เยี่ยจงถอนหายใจออกมา กระบี่ไม้ภายในมือ ก็ได้ก่อรวมเอาไว้ด้วยพลังอันน่าหวาดกลัวของคมกระบี่ จากนั้นคมกระบี่ก็ได้สายนี้ก็ได้ถูกเขาใช้ฟาดฟันออกไป จนก่อเกิดเสียงครืนคราดดังออกไปบริเวณทางด้านหน้า สำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าก็ได้ถูกเยี่ยจงใช้ออกไป พลังความน่าหวาดกลัวของคมกระบี่ก็ได้พวยพุ่งออกมา

 

“ฝุบ——”

 

การโจมตีของเมิงจี่ก็ได้ถูกทำลายลงไปในทันที วินาทีนั้นกระดูกก็ได้หักลงไปนับสิบชิ้น กระอักโลหิตออกมาคำโต พัดห้าสีภายในมือในตอนนี้ก็ได้ถูกทำลายลง จนทำให้สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาอย่างถึงที่สุด

 

“ฮูม——”

 

ในขณะนั้นเอง เมิงจี่ถูกทำให้โกรธขึ้นมา กลับกลายสู่ร่างเดิม แล้วก็ได้ปรากฏสิ่งมีชีวิตที่มีนัยน์ตาสีทองขนสีเงินขึ้นตนหนึ่ง ประดุจเสือดาวขนาดใหญ่ก็มิปาน ร่างกายของมันนั้นก็ได้มีพลังอยู่ทั้งหมดห้าธาตุ กลายเป็นการโจมตีอันน่าหวาดกลัวแผ่กระจายออกมา

 

เมิงจี่ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังทั้งห้าธาตุไหลเวียนอยู่ หากว่าสามารถสำเร็จไปจนถึงขั้นมหาราชันได้แล้วละก็ พลังฝีมือคงจะน่ากลัวจนยากที่จะคาดคิดเอาไว้ได้ เพียงแต่น่าเสียดายที่เมิงจี่เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ยังมีพลังฝีมืออยู่ในระดับราชันเท่านั้น เกี่ยวกับการใช้ออกด้วยห้าธาตุยังไม่ถือว่ายอดเยี่ยมนัก ถึงแม้ว่าจะมียอดฝีมือระดับราชันจำนวนมาก ต่างก็ใช่ว่าจะสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้ แต่ว่าเมื่อยู่ต่อหน้าเยี่ยจง การโจมตีเช่นนี้ ย่อมไร้ความหมายโดยทั้งสิ้น

 

“ตูม——”

 

เมิงจี่ใช้ออกมาด้วยพลังทั้งหมด พลังของทองไม้น้ำไฟดินทั้งห้าธาตุก็ได้พวยพุ่งออกมาในเวลาเดียวกัน กลายเป็นพลังอักขระออกมา คิดหมายจะสังหารเยี่ยจงไปทันที แต่ว่าก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย เพียงแค่การกวาดกระบี่ด้วยวิชาสำนึกกระบี่ตัดความว่างเปล่าไปมาอย่างไม่ใส่ใจของเยี่ยจง อักขระทั้งหมดต่างก็ได้มอดดับไปในทันที

 

“โครม——”

 

เยี่ยจงก้าวเดินออกไปหนึ่งก้าว ในช่วงเวลาที่ได้ก้าวออกไปนั้นเอง ก็ได้มาจนถึงบริเวณเหนือศีรษะของเมิงจี่ จากนั้นก็ได้เหยียบลงไปบนศีรษะของเมิงจี่อย่างรุนแรง

 

“เปรี้ยง——”

 

ศีรษะขนาดใหญ่ของเมิงจี่ก็ได้กระแทกเข้ากับพื้นลงไปอย่างรุนแรง กระอักโลหิตออกมาคำโต ไม่อาจที่จะดิ้นรนได้ แต่ว่าในตอนนี้มันกลับถูกเยี่ยจงกดทับร่างกายเอาไว้ ประดุจก้อนศิลาขนาดใหญ่ชิ้นหนึ่งก็มิปาน ไร้ซึ่งหนทางหลบหนีได้

 

“น่าเสียดายที่เจ้านั้นกินมนุษย์มาก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วยังพอที่จะมากลายเป็นพาหนะของข้าได้อยู่บ้าง ก็คงจะไว้ชีวิตนี้ของเจ้าเอาไว้” เยี่ยจงถอนหายใจออกมา รู้สึกเสียดายอยู่เล็กน้อย เมื่อมีพาหนะเช่นนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าโออวดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว” ช่างเถอะ เจ้าก็นำเอาความลับความสามารถของพลังแห่งเทพของเผ่าพันธุ์เมิงจี่ของพวกเจ้าบอกต่อข้า ข้าก็จะไม่กินเจ้า ให้ความรวบรัดแก่เจ้า ดีหรือไม่ ? ”

 

เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย เข้าสู่การต่อรอง อีกทั้งยังโน้มน้าว หมายจะทำการแลกเปลี่ยนกับเมิงจี่

 

เมิงจี่คลั่งขึ้นมา、อีกทั้งยังแตกตื่นขึ้นมา มันซึ่งถือได้ว่าเป็นชนชั้นแนวหน้าของเผ่าเมิงจี่ มีความสามารถไร้คนานับ กลืนกินสิ่งมีชีวิตยอดฝีมือต่างๆ ไปก็ไม่น้อย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าในวันนี้กลับต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ จนทำให้มันเกิดความรู้สึกอับอายขึ้นมา

 

บริเวณที่ไม่ไกลมากนัก ร่างกายของหญิงสาวทรงเสน่ห์ก็ได้สั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย ต่อให้นางที่เป็นถึงอัจฉริยะชั้นแนวหน้า ในตอนนี้ก็ยังไม่มีความกล้าที่จะลงมือออกไปแต่อย่างไร เพียงแต่หันกายพยายามที่จะหลบหลีกออกไป

 

“เหว่ย เจ้าจะไปไหนกัน เจ้าเป็นคนปรุงอาหารให้แก่ข้านะ อีกเดี๋ยวก็ต้องมาช่วยข้าทำการปิ้งย่าง……หรือจะบอกว่า เจ้าก็อยากจะกลายเป็นอาหารแล้วเช่นเดียวกันงั้นหรือ ? ในเมื่อ เจ้าก็มิใช่เผ่ามนุษย์อยู่แล้วนิ ? ” เยี่ยจงไม่แม้แต่จะหันหน้าไป เพียงแต่เอ่ยปากขึ้นมาอย่างเย็นชา เขามองออกได้ตั้งแต่แรก หญิงสาวนางนี้ร่างจริงน่าจะเป็นกระเรียนเพลิง ถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความแข็งแกร่งอยู่

 

“เจ้า——” ร่างกายหญิงสาวทรงเสน่ห์ก็ได้สั่นไหวขึ้นเบาๆ แต่ว่าในที่สุดก็ไม่กล้าที่จะหลบหนีออกไป นั้นก็เพราะว่าความแข็งแกร่งของ” ซิง” เบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ได้ทำให้นางสูญเสียความเชื่อมั่นไป บุคคลปกติธรรมดาจะสามารถมาจนถึงระดับของบุคคลเบื้องหน้าสายตาได้อย่างไร ? เด็กน้อยผู้นี้เห็นๆ อยู่ว่ายังไปไม่ถึงแม้แต่ระดับราชัน เพราะเหตุใดถึงได้มีพลังการต่อสู้เช่นนี้ได้กัน

 

ตามความเป็นจริง เยี่ยจงที่ได้สังเกตคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์มาก่อน ฝึกปรือเคล็ดวิชาจากต้นกำเนิด เข้าผ่านบันไดแห่งการบรรลุ เคยได้ฟังบทสวดหวูส่าง ยิ่งกว่านั้นยังได้ผ่านการกลับสู่จุดเริ่มต้นนับร้อยครั้ง ไม่ต้องกล่าวถึงอย่างอื่น เพียงแค่พลังกายเนื้อของเขาเพียงอย่างเดียว ก็ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าตกใจนับตั้งแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นดั่งกายาเทพก็ไม่เกินเลยไป ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ เป็นสิ่งที่อัจฉริยะธรรมดาไม่อาจจะเทียบเคียงได้、ชนชั้นแนวหน้าจะสามารถต้านทานได้อย่างงั้นหรือ ?

 

“เจ้าคงไม่ส่งมอบความลับความสามารถของพลังแห่งเทพของเผ่าพันธุ์เมิงจี่พวกเจ้ามาจริงอย่างงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงหลังกล่าวเตือนหญิงสาวทรงเสน่ห์เสร็จ จากนั้นก็ได้มองไปทางด้านของเมิงจี่ที่อยู่ใต้เท้าคราหนึ่ง กล่าวออกมาอย่างเยียบเย็น

 

เมิงจี่คำรามก้อง มิได้ตอบกลับอันใด

 

“ในเมื่อไม่ยินยอม เช่นนั้นก็ช่างมันเถอะ เจ้าอย่าได้ขยับตัววุ่นวายไปละ เดี๋ยวจะมีแต่ทำให้เนื้อของเจ้ายิ่งแก่ขึ้น มันจะไม่อร่อย” เยี่ยจงถอนหายใจ จากนั้นก็ได้ฟันกระบี่สังหารลงไปฉับหนึ่ง เด็ดตัวศีรษะของเมิงจี่ลงไปในทันที

 

โลหิตสายใหญ่ก็ได้พวยพุ่งออกไป เมิงจี่ยังคงอยู่ในสีหน้าที่ไม่อาจจะเชื่อได้ลง เกรงว่าแม้แต่ตัวของเขาเองก็ยังคิดไม่ถึง ตนเองถึงกับต้องมาทอดร่างตายอยู่ในสภาพเช่นนี้

 

“ยังถือว่าไม่เลวเลย เนื้อไม่แก่จนเกินไป” เยี่ยจงวิจารย์ออกมา จากนั้นเขาก็ได้เตะออกไปเท้าหนึ่ง จนทำให้กายเนื้อของเมิงจี่กระเด็นเข้าไปยังฝืนไฟ แล้วก็ได้ยื่นกระบี่ไม้ในมือให้แก่หญิงสาวทรงเสน่ห์นั้น กล่าวออกมาอย่างเย็นชา : ” ใช้วิชาไฟของเจ้าช่วยข้าปิ้งย่างด้วยละ จำไว้ ต้องย่างด้วยความอ่อนช้อยด้วย เช่นนี้อาหารจานนี้จะถือได้ว่าล้ำค่าอย่างไร้ที่เปรียบ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นใดก็เปรียบเสมือนโอสถปราณเม็ดหนึ่ง หรือไม่ก็ถือได้ว่าเป็นดั่งยาปราณชุดหนึ่งเลยละ”

 

กล่าวจบ เยี่ยจงก็ได้เสาะหาศิลาก้อนหนึ่งเพื่อที่จะได้ให้ตนเองนั่งสมาธิลง มิได้ให้ความสนใจต่อหญิงสาวทรงเสน่ห์นางนั้นอีก เพียงแต่หวนนึกเข้าสู่การต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ตนเองที่ได้เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงขั้นที่สามของวิชาไท่กู่จูเชวียนก่อนหน้า

 

หญิงสาวทรงเสน่ห์จ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังของ” ซิง” ที่อยู่เบื้องหน้าสายตา บนใบหน้าก็ได้ปรากฏความคิดดิ้นรนขึ้น คิดหมายที่จะถอยจากไป แต่ว่าในตอนนี้กลับสูญเสียความกล้านั้นไปแล้ว อัจฉริยะทั้งสองที่ได้ถูกเขาสังหารลงไปในทันทีนั้น ก็ได้กลายมาเป็นฟืนไฟและอาหารไปแล้ว จนทำให้สีหน้าของนางเองนั้นก็ได้ขาวซีดขึ้นมา เกรงว่าตนเองนั้นจะมีสภาพเช่นเดียวกัน เมื่อนึกถึงหากว่าตนเองถูกสะบัดศีรษะภายในกระบี่เดียว จากนั้นก็ขึ้นเขียงนำมาปิ้งย่าง เพียงแค่ความคิดชั่ววูบ หญิงสาวทรงเสน่ห์ก็ได้เนื้อตัวสั่นเทาขึ้นมาในทันที รีบเก็บสีหน้ากลับคืน คว้าออกไปที่กระบี่หมายที่จะไปเป็นผู้ปรุงอาหาร

 

แต่ว่าในขณะที่จับกระบี่ไม่ นางยิ่งกล่าวอะไรไม่ออก กระบี่ไม้นี้ถือได้ว่าเป็นสมบัติประจำตระกูลมู่ก็ว่าได้ ใช้ไม้ดวงดาวในการหล่อหลอมจนสำเร็จขึ้นมา ถือได้ว่าเป็นสมบัติเซียนที่ขึ้นชื่ออย่างมาก แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเด็กน้อยที่น่าชังเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ นำมาทำเป็นมีดหั่นเนื้อหั่นผักเท่านั้น หากว่าเรื่องเช่นนี้เข้าไปถึงหูของบรรพบุรุษตระกูลมู่แล้วละก็ อย่างน้อยก็คงจะทำให้โกรธแค้นแทบจะคืนชีพขึ้นมาได้เลยทีเดียว เพื่อที่จะมาฟาดฟันเด็กน้อยน่าชังผู้นี้สักแปดร้อยแปดพันชิ้น

 

แต่ว่าถึงแม้ภายในใจจะเกิดความโกรธไม่คลายก็ตาม หญิงสาวทรงเสน่ห์ในตอนนี้ก็ทราบถึงสภาพของตนเองดี นางราวกับกำลังบดฟันสีเงินในแกอยู่หลายครา แต่ว่าพยายามหั่นเนื้อบนร่างของเมิงจี่อย่างระมัดระวัง จนกลายเป็นชิ้นๆ จากนั้นก็ได้นำไปย่างก่อนที่จะก่อไฟจากฟืนไม้จากร่างที่กลายเป็นไม้ของมู่ซู แบ่งเนื้อของเมิงจี่เป็นชิ้นๆ แล้วนำมาย่าง

 

นับตั้งแต่ช่วงเวลาแรกเริ่ม ความเคลื่อนไหวของนางยังคงฝืดเคืองอยู่หลายส่วน พอทำไปได้ซักหลายรอบ ไม่นานนักก็เริ่มที่จะเคยชินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว คล้ายกับผู้ปรุงอาหารที่มีประสบการณ์ผู้หนึ่งก็มิปาน

 

หญิงสาวทรงเสน่ห์ทั้งผมทั้งหน้าดำไปหมด นางที่เป็นถึงชนชั้นแนวหน้าของเผ่ากระเรียนเพลิง กลับต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ หากว่าถูกเล่าขานออกไปแล้วละก็ อย่างน้อยนางก็คงไม่มีหน้าที่จะอยู่อีกต่อไปได้แล้ว

 

ไม่นานนัก ในตอนที่หญิงสาวทรงเสน่ห์กำลังย่างอยู่นั้นเอง เนื้อของเมิงจี่ก็ใกล้จะสุก ค่อยๆ ส่งกลิ่นหอมหวนออกมา จนทำให้ผู้คนน้ำลายสอออกมาได้

 

เยี่ยจงก็ได้ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา มองเข้าไปยังฉากเบื้องหน้า จากนั้นก็พยักหน้าไปมา แฝงเอาไว้ด้วยความเกียจคร้านลุกขึ้นมา กล่าวออกมากับตนเองว่า : ” ข้านี้ก็ช่างมีสายตาที่คมกล้าเสียจริง สามารถเสาะหาฝืนไฟมาได้แล้ว、ยังมีทั้งอาหารและคนปรุงอาหารอย่างพร้อมสรรพ เมื่อทั้งสามอย่างรวมเข้าด้วยกันแล้ว ถือได้ว่าเหมาะสมจนไร้ที่ติ ! ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง เขาก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป จากนั้นก็ได้ยื่นมือคว้าหยิบไปที่เนื้อของเมิงจี่ที่ย่างสุกชิ้นหนึ่งแล้วกัดไปคำหนึ่ง

 

“ตูม——”

 

พลังบริสุทธิ์อันเข้มข้นในตอนนี้ก็ได้พวยพุ่งไปทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงในตอนนี้ จนทำให้สภาวะร่างกายของเขาสบายขึ้นมา ในตอนนี้เขาก็ได้มาอยู่ในพลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตปราณสูงสุด อย่างน้อยๆ ก็คงจะเป็นเพียงแค่พลังชนิดหนึ่งเท่านั้น ตอนนี้เมื่อได้กินเนื้อของเมิงจี่ไปแล้วคำหนึ่ง ยิ่งทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความผ่อนคลายของระดับขอบเขต

 

ภายในดวงตาของเยี่ยจงก็ได้ทอประกายประหลาดขึ้นมา ความจริงแล้วเขาคิดว่าตนเองอย่างน้อยก็ยังไม่อาจที่จะเข้าใกล้การสำเร็จระดับราชันได้ แต่คิดไม่ถึงว่า ยังถึงกับมีวาสนาเช่นนี้ ขอเพียงกินเนื้อของเมิงจี่ไปอีกหน่อยแล้วละก็ ไม่แน่ว่าอาจจะมีความสำเร็จประดุจดั่งเขื่อนที่ทะลักออกมาก็เป็นได้ ?

 

ในช่วงที่กำลังครุ่นคิด เยี่ยจงก็ไม่เกรงใจอีกต่อไป ทางหนึ่งเขาก็ได้หล่อหลอมพลังบริสุทธิ์ เพื่อที่จะเริ่มต้นควบคุมพลังวิชา ทางหนึ่งก็กินเนื้อเข้าไปคำโต

 

หญิงสาวทรงเสน่ห์มองดูเช่นนี้จนอ้าปากตาค้าง บนใบหน้าก็ได้ปรากฏอาการตกใจขึ้นมา นางก็ถือได้ว่ามิใช่บุคคลธรรมดา มิใช่ว่าจะมองไปออกว่า เจ้าเด็กน้อยน่าชังเบื้องหน้าสายตาผู้นี้คิดที่จะหยิบยืมพลังจากเนื้อเมิงจี่รวมเอาไว้อยู่หล่อหลอมพลังกระจ่าง เพื่อทะลวงเข้าสู่ขอบเขตอีกขอบเขตหนึ่ง

 

และหากดูจากพลังความเคลื่อนไหวที่แผ่ออกมาจากร่างของเขาในตอนนี้ เช่นนั้นเขาก็ได้ทะลวงเข้าสู่พลังขั้นก่อฟ้าขอบเขตพลังปราณเทวราชแล้วอย่างงั้นหรือ ?

 

ในชั่วเพียงอึดใจเดียว บนใบหน้าของหญิงสาวทรงเสน่ห์ก็ได้แสดงอาการยากที่จะเชื่อในสิ่งที่เห็นออกมา นางความจริงแล้วยังคิดเอาไว้ว่า เด็กน้อยเบื้องหน้าสายตาผู้นี้สมควรที่จะเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับสูงกว่าระดับราชันเท่านั้น จึงจะสามารถเข่นฆ่าสังหารพวกเขาทั้งสามเช่นนี้ลงได้ แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือเด็กน้อยผู้นี้กลับยังอยู่ไม่ถึงขั้นระดับมหาราชัน ก็ถึงกับมีพลังการต่อสู้ที่น่ากลัวเช่นนี้แล้วอย่างงั้นหรือ ?

 

ในขณะนั้นเอง หญิงสาวทรงเสน่ห์สั่นไหวร่างกายเบาๆ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอยู่ภายในจิตใจก็ได้หายไป ต่อมาก็ได้ค่อยๆ ย่างเนื้ออย่างว่าง่ายต่อไป ไม่กล้ามีความคิดอื่นใดอีก เด็กน้อยผู้นี้ยังไม่ถึงระดับมหาราชันก็มีพลังฝีมือน่าหวาดกลัวได้จนถึงเพียงนี้ แล้วถ้าหากอยู่ในระดับมหาราชันเมื่อไหร่จริงขึ้นมา ยอดฝีมืออัจฉริยะทั้งมวลจะสามารถต้านทานพลังฝีมือเช่นนี้ได้อย่างงั้นหรือ ?

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600
VIP5 https://goo.gl/ekcF7V
VIP6 https://goo.gl/4rqw89
VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA
VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x
VIP9 https://goo.gl/1jPZtn
VIP10 https://goo.gl/L8awva
VIP11 https://goo.gl/rojEiG
VIP12 https://1th.me/o9CD
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
INBOX m.me/ZuiQiangWuShen
#####Fanpage#####
https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset