เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 415 วิชาสายฟ้าเข้าประชัน

ตอนที่ 415 วิชาสายฟ้าเข้าประชัน

 

“โครม——”

 

ประสายฟ้าทั้งสองสายก็ได้ถูกรวมเอาไว้ที่แขน ในระหว่างวินาทีนั้นก็ได้เกิดความรุนแรงขึ้นมาพร้อมกัน ในขณะนั้นเอง ก็ได้มีประกายสายฟ้าพวยพุ่งออกมาเข้าปะทะกันนับครั้งไม่ถ้วน ประดุจอสรพิษสายฟ้าตัวหนึ่ง ไหลเวียนไปมาไม่หยุด……..ทั่วทั้งฟ้าดินในขณะนั้นเองราวกับสั่นสะเทือนขึ้นมา พลังที่ไหลเวียนไปมาในขณะนี้ก็ได้กลายเป็นประกายไฟทะยานขึ้นที่ท้องฟ้า จนราวกับว่าทั่วทั้งธาราเพลิงในขณะนี้ได้ปะทุขึ้นมา ก่อเกิดอักขระอัสนีเปล่งประกายขึ้นท่ามกลางอากาศนับไม่ถ้วน、ทั้งเข้าปะทะกัน、ทั้งทำลายทุกอย่าง ราวกับว่าภายในสถานที่ในตอนนี้กลายเป็นดินแดนแห่งอัสนีก็มิปาน

 

การเข้าปะทะกันเช่นนี้ ถือได้ว่าเพียงพอที่จะทำให้เกิดความหวั่นไหวได้แล้ว ควรทราบว่า นามเรียกขานตนเองว่าบุตรมารอัสนีย่อมต้องมิใช่เพียงแค่คำกล่าวขานเท่านั้น แน่นอนว่าเขาย่อมมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ตามคำเล่าขาน เขาเพื่อที่จะฝึกฝนร่างกาย ถึงกับได้เข้าไปยังพื้นที่ต้องห้ามของตำหนักอัสนี เพื่อที่จะใช้พลังจากภายในพลังมารอัสนีเพื่อสำเร็จพลังขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลาย อีกทั้งด้วยประสบการณ์เช่นนี้ ก็ได้ทำให้บรรยากาศทั่วทั้งร่างกายของเขาได้ก่อเกิดพลังแห่งมารชนิดหนึ่งขึ้น คำว่ามารนี้ เปรียบเสมือนเครื่องบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างชัดเจน ! วิชาสายฟ้าของเขาถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ อีกทั้งยังมีความน่าหวาดกลัวในตัวของมันเอง

 

การใช้พลังแห่งมรรคสายฟ้าเข้าปะทะกับบุคคลเช่นนี้ “ซิง” ก็มิได้เกิดความพ่ายแพ้แต่อย่างไร แน่นอนว่าเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนเกิดความแตกตื่นขึ้นมาได้แล้ว

 

“โครม——”

 

ท่ามกลางอากาศก็ได้เกิดการปะทะกันขึ้น ในขณะนี้ที่ได้แยกออกจากกัน เงาร่างทั้งสองสายก็ได้ทะยานออกมาอย่างรวดเร็ว ปรากฏขึ้นมาอยู่ท่ามกลางท้องนภาลัย

 

บุตรมารอัสนีขณะนี้มิได้มีอาการบาดเจ็บแม้แต่น้อย ทั่วทั้งร่างกายยังคงเปี่ยมไปด้วยพลังมารอัสนี แต่ว่าเขาก็ได้เหม่อมองสบตากับฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งผ่านในแววตายังแฝงเอาไว้ด้วยความเย็นชาอยู่หลายส่วน

 

บุตรมารอัสนีลอยขึ้นในระยะห่างจากพื้นนับหลายร้อยเมตร เยี่ยจงยังคงหยุดอยู่ที่เดิมไม่เคลื่อนไหว สีหน้าเย็นชาขึ้นมา ภายในร่างกายของเขาก็ได้แผ่กระจายออกมาประกายสีทองออกมาอย่างเข้มข้น เมื่อครู่ที่ได้เข้าปะทะกัน ประกายสายฟ้าเหล่านั้นกลับไม่อาจที่จะทำอันตรายใดเขาได้แม้แต่น้อยเช่นเดียวกัน

 

“ซิง ที่แท้ก็ถือได้ว่าเป็นสุดยอดอันดับหนึ่งได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังใช้วิชาสายฟ้าเข้าปะทะกับบุตรมารอัสนี ถึงกับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน ช่างเหนือความคาดหมายได้อย่างแท้จริง ! เผ่ามนุษย์ถึงกับสามารถปรากฏบุคคลเช่นนี้ออกมาได้จริง ราวกับเพียงพอที่จะจัดการกับเยี่ยจงได้เลย ! ” มีคนอดไม่มีที่จะกล่าวสิ่งที่รู้สึกได้ขึ้นมา อีกทั้งยังวิจารณ์ “ซิง” ผู้นี้อย่างสูงล้ำยิ่ง

 

เยว่จิ่งก็ได้ขยับกายเดินเข้ามา หันศีรษะมองเข้ายัง “ซิง” อย่างเร่งร้อน ทอสีหน้าหลากหลายขึ้นมา

 

รวมไปจนถึงอัจฉริยะผู้โดดเด่นคนอื่นๆ ที่แต่เดิมไล่สังหารเข้ามาเป็นต้น ขณะนี้ต่างก็หยุดเท้าลง วินาทีนั้นก็ไม่คิดที่จะเข้าปะทะต่อสู้เช่นนี้อีก นั้นก็เพราะว่าอาจจะเกิดลูกหลงขึ้นมาได้ทุกเวลา

 

“เป็นพลังกายเนื้อที่ไม่เลว คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถมีพลังใช้พลังกายเนื้อไม่สูญสลายเช่นนี้ได้ ? ทว่า ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ ที่เพียงแค่พึ่งพาแต่เพียงพลังกายเนื้อเพื่อที่จะต้านทานมรรคแห่งสายฟ้าของข้า เจ้าคิดหรือว่า เจ้าจะสามารถต้านทานได้จริงอย่างงั้นหรือ ? ” บุตรมารอัสนีหัวเราะเสียงเย็นชาขึ้นมา อีกทั้งยังทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างยิ่ง

 

เขาถือได้ว่ามีความเชื่อมั่นในตนเองอย่างถึงที่สุด เขาที่รวมเอาไว้ด้วยพลังมารแห่งวิชาสายฟ้า สามารถทำลายได้ทุกสรรพสิ่ง ต่อให้บุคคลเบื้องหน้าสายตา “ซิง” ผู้นี้จะมีขอบเขตกายเนื้อไม่สูญสลายที่ไม่ธรรมดาสามัญ อีกทั้งยังไม่อาจมีวิธีที่จะทำให้เขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาได้แม้แต่น้อย จากที่เขามอง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับตนเองแล้วละก็ ผลสุดท้ายก็มีแต่เพียงถูกสังหารเท่านั้น

 

“ข้าไม่จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น ข้าเพียงแต่แค่สงสัยอยู่เล็กน้อย หากว่าข้าสามารถที่จะใช้ออกด้วยวิชาสายฟ้าในการสังหารเจ้าแล้วละก็ เจ้าจะมีสีหน้าอย่างไร ยังจะสามารถที่จะเป็นเหมือนเช่นขณะนี้หรือไม่กันนะ ? ” เยี่ยจงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย กล่าวออกมาอย่างเย็นชา แต่ว่าภายในคำพูดก็ได้ทำให้บุตรมารอัสนีมีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงเป็นเย็นเยียบขึ้นมาในทันที

 

“เจ้ายอดมาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้วละก็ เช่นนั้นก็ขอให้ข้าได้ลองทดสอบดูหน่อยเป็นอย่างไร ! ? ”

 

หลังจากที่สิ้นเสียง บุตรมารอัสนีก็ได้ย่างก้าวออกมาอีกหนึ่งก้าว พลังขั้นสูงก็ได้ทอดลงมายังบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงมุ่งหน้าเดินเข้ามา เขาในขณะนี้ ประดุจเทพอัสนีเยาว์วัยที่กำลังย่างกรายเข้าสู่ดินแดนโลกมนุษย์ก็มิปาน ด้วยวิชาสายฟ้า ก็เพียงพอที่จะลบล้างทุกสรรพสิ่งได้

 

“ตูม——”

 

พลังมารอัสนีสีดำทมิฬนับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งออกมาจากตัวของเขา บริเวณใจกลางฝ่ามือขวาของเขาก็ได้รวมพลังเอาไว้อย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก พลังมารอัสนีเหล่านั้นก็ได้ถูกผนึกอักขระจนกลายเป็นหอกยาวประกายสายฟ้าด้ามหนึ่ง จากนั้นก็แทงออกไป มุ่งหน้าปรากฏขึ้นมาบริเวณทางด้านหน้าของขณะนี้เยี่ยจง

 

วินาทีนั้น พลังมารอัสนีก็ได้ลุกลามไปทั่วทั้งเก้าชั้นฟ้าทศทิศ บนท้องฟ้าใต้ผืนดินแห่งนี้ ทั่วทุกพื้นที่ทั้งหมดต่างก็ได้ก่อเกิดพลังมารอัสนีไร้รูปขึ้นมา

 

พลังมารอัสนีเหล่านี้ได้เคลื่อนไหวหมุนไหวไปตามการก้าวเดินของบุตรมารอัสนีออกมา พลังมารอันโดดเด่นของเขาก็ได้พุ่งสูงขึ้น、เปรียบเสมือนผู้ทำลายล้าง ! ให้ท่าทีอันน่าหวาดกลัวชนิดหนึ่งขึ้นมา ไม่แต่เพียงพลังฝีมือที่มีความแข็งแกร่งเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นพลังอันมหาศาลก็ยังเป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่ง เห็นได้ชัด บุตรมารอัสนีคิดที่จะมีใช้ความเชื่อมั่นของกายเนื้อ ทั้งหมดทุกอนุเพื่อที่จะกดดันบุคคลเบื้องหน้าสายตา “ซิง” ผู้นี้

 

ขณะนี้ยอดฝีมือคนอื่นๆ ที่ได้มองมา และก็ได้ทำการเปรียบเทียบพลังมารอัสนีของบุตรมารอัสนี ที่พลังอัสนีของ “ซิง” กลับเปรียบเสมือนมดแมลงก็มิปาน ราวกับไม่เห็นอยู่ในสายตา

 

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้……”

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา มิได้มีความหวาดเกรงต่อการโจมตีใดๆ จากความเคลื่อนไหวและพลังโจมตีของบุตรมารอัสนีขณะนี้แม้แต่น้อย เขาพลิกทั้งสองมือออกไปอย่างช้าๆ ยื่นมือขวาออกไป วิชาสายฟ้าฉางโยวก็ได้ถูกรวมเอาไว้ ประกายสายฟ้าสีทองก็ได้ถูกรวมขึ้นมาอย่างรุนแรง จนก่อเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาไม่ขาดสาย และบนมือขวานั้นเอง ก็ได้มีประกายสีแดงเพลิงของพลังอักขระจูเชวียนทอแสงสว่างสไหวขึ้นมาในขณะนี้

 

“โครม——”

 

เยี่ยจงก็ได้ย่างก้าวออกมาอีกหนึ่งก้าว วิชาสายฟ้าฉางโยวและพลังจูเชวียนก็ได้ถูกใช้ออกมาในขณะนี้เอง มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปบริเวณทางด้านหน้า

 

“ซูมซูมซูม——”

 

วินาทีนั้นการโจมตีทั้งสองสายก็ได้เข้าปะทะกัน จนก่อเกิดความเคลื่อนไหวอันน่าหวาดกลัวแผ่กระจายออกมา ทำให้ผู้คนเกิดความตกใจขึ้นมา

 

พลังมารอัสนีของบุตรมารอัสนีนั้นถือได้ว่าน่าหวาดกลัวเหลือคนา ในขณะนี้กระนั้นก็ยังมิได้มีความได้เปรียบจาก “ซิง” แม้แต่น้อย

 

“ซิงผู้นี้ถือได้ว่ามีความน่ากลัวได้อย่างแท้จริง กระนั้นถึงกับพึ่งพาวิชาสายฟ้าเพื่อต่อกรกับบุตรมารอัสนีได้”

 

“มิใช่เพียงแต่แค่วิชาสายฟ้าเท่านั้น พวกเจ้ามองไปที่มือขวาของเขาที่ผนึกเอาไว้ด้วยอักขระมรรคไฟสิ นั้นราวกับเป็นวิชาจูเชวียนที่เล่าขานกันเลยนะ……แต่ว่า นี้เป็นไปได้อย่างไร พลังปราณแห่งฟ้าทั้งสี่ถูกใช้ออกมาโดยที่ไม่เสื่อม ประดุจดั่งคำเล่าขานก็มิปาน หรือว่าเขาในตอนนี้ก็สามารถใช้ออกมาได้โดยทั้งสิ้นอย่างงั้นหรือ ? ”

 

“แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นเช่นไร เขาก็สามารถที่จะต่อกรกับบุตรมารอัสนีได้ เพียงแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ตกใจได้แล้ว ! ควรทราบว่า บุตรมารอัสนีนั้นนับตั้งแต่ปรากฏตัวจนถึงบัดนี้ ถือได้ว่าไม่เป็นสองรองใครอย่างถึงที่สุด เมื่อใช้ออกด้วยวิชาสายฟ้า จะสามารถสลายหมื่นศัตรู ! ซิงถึงกับสามารถต้านทานการโจมตีได้ เพียงแค่นี้ก็เรียกได้ว่าทั้งมีพลังไม่สูญสลายอย่างเพียงพอและทั้งไม่ธรรมดาอีกด้วย ! ”

 

“ตูม——”

 

บริเวณท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ เยี่ยจงก็ได้ผสานมือซ้ายและมือขวาเข้าด้วยกัน ในขณะนั้นเอง วิชาสายฟ้าฉางโยวและวิชาจูเชวียนก็ได้ถูกผนึกรวมเข้าด้วยกัน พลังอักขระทั้งสองสายก็ได้พันกันเป็นพัลวัน วินาทีนั้น เพลิงอัสนีก็ได้รวมเข้าด้วยกัน จะก่อเกิดพลังการโจมตีของเยี่ยจงขึ้นมา มุ่งหน้าเข้าสังหารออกไปบริเวณทางด้านหน้า

 

หากกล่าวว่าขณะนี้บุตรมารอัสนีเปรียบเสมือนดั่งเทพอัสนีเยาว์วัยแห่งแดนดิน เช่นนั้นขณะนี้เยี่ยจงเองก็เปรียบเสมือนเทพมหาราชันเยาว์เช่นเดียวกัน กระบวนท่าของเขาถือได้ว่ามีความรุนแรงกระบวนท่าหนึ่ง และเพลิงอัสนีที่ได้ถูกผสานเข้าด้วยกัน ในทุกๆ การโจมตีก็ได้ก่อเกิดพลังขึ้นมามากมายนับไม่ถ้วน น่าหวาดกลัวเกินกว่าธรรมดา

 

บุตรมารอัสนีและเยี่ยจงหลังจากที่ได้เข้าปะทะกันหลายสิบครั้งแล้ว เขาในที่สุดก็ได้หน้าเปลี่ยนสี เขาที่มีพลังมารอัสนีในการทำลายหมื่นสรรพสิ่งในขณะนี้ยังถึงกับไม่อาจที่จะทำร้ายอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บได้แม้แต่รูขุมขน แล้วก็ไม่อาจที่จะสลายพลังอักขระของอีกฝ่ายได้ด้วยเช่นเดียวกัน เรื่องที่เกิดขึ้นเช่นนี้ นับได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เขาพบเจอ

 

“เพลิงอัสนีผสานงั้นหรือ ? ” บุตรมารอัสนีทอสีหน้าเย็นชาขึ้นมา เขาทราบว่าอีกฝ่ายนั้นได้มีความเข้าใจถึงมรรคสายฟ้าและมรรคไฟถึงระดับใด ถึงแม้ว่าจะไม่อาจที่จะเทียบได้กับตนเอง แต่ว่าการพลังฝีมือในการใช้พลังทั้งสองสายเข้าผสานกัน เรียกได้ว่าสามารถกดดันได้ทุกแดนดิน จัดการชนชั้นรุ่นเดียวกันทั้งปวง !

 

นั้นก็เพราะว่า ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่สูงกว่าอีกรุ่นหนึ่ง ก็เรียกได้ว่าน้อยคนนักที่จะสามารถควบคุมพลังอักขระเช่นนี้ออกมาได้ แต่ว่าบุคคลเบื้องหน้าสายตา “ซิง” กลับทำโดยไม่ติดขัด เป็นที่แตกตื่นอย่างยิ่ง !

 

“โครม——”

 

จากนั้นบุตรมารอัสนีก็ได้กวาดหอกอัสนีในมือออกมา จะก่อรวมพลังมารอัสนีสายหนึ่งออกมาประดุจมังกรพวยพุ่งออกมา แฝงเอาไว้รังสีสังหารจนถึงขีดสุด หมายจะสังหาร “ซิง” ลง

 

“ซูม——”

 

เยี่ยจงก็ได้กวาดมือขวาฟาดออกไป พลังอักขระเพลิงอัสนีผสานก็ได้ก่อรวมกันกลายเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่ข้างหนึ่ง กวาดออกไปอย่างดุดัน วินาทีนั้นก็ได้ฟาดออกไปยังมังกรมารจะแหลกลาญ

 

ในขณะนี้บุตรมารอัสนีก็มีสีหน้าเริ่มที่จะปั้นยากขึ้นมาในที่สุด เมื่อครู่เขาได้ใช้กระบวนท่าที่เขาใช้ออกถือได้ว่าเป็นกระบวนท่าสังหารครั้งใหญ่กระบวนท่าหนึ่ง แต่ว่าก็ยังคงไม่อาจทำอะไรต่อเด็กน้อยผู้นี้ได้แม้แต่น้อย อีกทั้งจากที่เขาดูแล้ว อีกฝ่ายอย่างน้อยยังคงต้องมีกระบวนท่าตามหลัง ขณะนี้เขาก็ได้ควบคุมพลังเอาไว้ เพียงแต่มิได้ใช้ออกมาด้วยไพ่ตายที่แท้จริงของตนเอง เมื่อครุ่นคิดได้เช่นนี้ บุตรมารอัสนีก็มีสีหน้าปั้นยากขึ้นมาหลายส่วน ขณะนี้ การปรากฏตัวบุคคลเบื้องหน้าสายตา “ซิง” ผู้นี้ ก็เกือบที่จะทำลายความเชื่อมั่นในการเป็นไร้ผู้ต้านของเขาลง

 

ในขณะนั้นเอง บุตรมารอัสนีกลับมิได้ลงมือต่อแต่อย่างไร เขาเพียงสลายพลังประกายสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนลง ทอสีหน้าเคร่งเครียดจ้องมองไปทางด้านของขณะนี้ “ซิง”

 

“ไม่สู้แล้วอย่างงั้นหรือ ? ” เยี่ยจงหัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา เขามิได้ไล่ฆ่าสังหารต่อไป แต่เพียงยืนกอดอกอยู่ในจุดเดิม จ้องมองไปทางด้านของบุตรมารอัสนีอย่างเย็นชา

 

ตามความเป็นจริงแล้ว ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ทราบ ว่าจะสามารถตัดสินผลแพ้ชนะเป็นตายในสถานที่แห่งนี้อย่างไร การปะทะกันเมื่อครู่นี้ก็ถือได้ว่าเพียงพอแล้ว

 

บุตรมารอัสนีมิได้ลงมือต่อไป จากมองจากระดับพลัง เขาถือได้ว่าพ่ายแพ้ลงไปแล้ว

 

หลังจากที่ได้จ้องมองไปยังบุตรมารอัสนีอย่างเย็นชา เยี่ยจงก็ได้ข่มรังสีฆ่าฟันภายในจิตใจของตนเองลง การที่จะสามารถสังหารบุคคลเช่นนี้ลงได้ อย่างน้อยก็คงจะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่สูงล้ำแน่ หลังจากนี้คงจะต้องถูกผู้คนอื่นจัดการอย่างแน่นอน ดังนั้น เยี่ยจงจึงมิได้ลงมือต่อ เพียงแต่หันกาย เตรียมตัวที่จะจากไป

 

“ท่านซิง ผู้น้อยได้เตรียมพร้อมที่จะรับคำชี้แนะมาตั้งนานแล้ว กระนั้นโอกาสนั้นช่างหาได้ยากเสียจริง มิใช่หรือ ? ” ผู้ที่มาจากดินแดนคงฮวงอัจฉริยะแห่งเผ่าปีก——จินยี่ เขาก็ได้ย่างกรายขึ้นมาท่ามกลางอากาศอย่างช้าๆ บริเวณทางด้านหลังก็ได้ปรากฏปีกคู่สีทองอร่ามขึ้นมา ในขณะนี้ก็ได้แผ่พุ่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์อันเจิดจ้าขึ้นมา

 

เยี่ยจงมองไปที่เขา ทอสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง บุคคลผู้นี้ถือได้ว่าเป็นผู้ที่มาจากเผ่าปีก ถึงแม้ว่าจะมาจากดินแดนตงฮวง แต่ว่า เยี่ยจงก็ยังไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเผ่าพันธุ์นี้เลยแม้แต่น้อย ขณะนี้สีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างถึงที่สุด

 

บริเวณอีกทางด้านหนึ่ง ขณะนี้เยว่จิ่งก็ได้ถูกตัดเส้นทางเอาไว้ บนร่างกายของรางก็ได้ทอประกายแสงจันทราสาดส่องออกมา ต้านทานการโจมตีอันมากมายเอาไว้ ในเวลาเดียวกันก็ได้ลงมือเข้าไปหาทางด้านยังซูม่อหยง การปะทะของทั้งสองฝ่ายนั้นประดุจเทพเซียนจุติก็มิปาน ทุกๆ ท่วงท่าถือได้ว่าเป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่ง แต่ว่าในทุกๆ การปะทะ ภายในก็ได้รวมเอาไว้ด้วยขุมพลังอันน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดเอาไว้ เห็นได้ชัด ว่าทั้งสองฝ่ายต่างหากไม่ระมัดระวัง คงจะต้องมีทอดกายตายลงภายในน้ำมือของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

 

“น้องหญิงเยว่จิ่ง ให้พี่สาวดูแลเหล่าบัวเพลิงก่อฟ้าเหล่านั้นเป็นอย่างไร ? เจ้าพกติดตัวเอาไว้เพียงคนเดียว ถือได้ว่าอันตรายจนเกินไป” จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางซูม่อหยงอดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นพร้อมลงมือ บนใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มอย่างชัดเจน ประดุจดั่งนางเซียนก็มิปาน แต่ว่าการลงมือของนางก็ถือได้ว่ารุนแรงอย่างถึงที่สุด มิได้มีความตั้งใจจะลงมืออย่างไว้ไมตรีเลยแม้แต่น้อย

 

เยว่จิ่งทอสีหน้าเย็นเยียบ ขณะนี้มิได้กล่าวอันใดออกมา นั้นก็เพราะว่านางเองก็เข้าใจ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะอธิบายอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดเชื่อ มีแค่เพียงหนทางเดียวเท่านั้นก็คือการหลบหนีออกไป

 

“ตูม——”

 

อีกทางด้านหนึ่ง เยี่ยจงและจินยี่ก็ได้เข้าเผชิญหน้ากัน บนร่างบุตรมารอัสนีที่มีประกายสายฟ้าก็ได้สลายไป เขาทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้น จ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้า มิได้ลงมือต่อแต่อย่างไร

 

“โครม——”

 

ปีกคู่สีทองทางด้านหลังจินยี่ในขณะนี้ก็ได้เคลื่อนไหวไปมาอย่างช้าๆ จนก่อเกิดประกายแสงกระบี่คมกล้าสีทองพวยพุ่งแผ่กระจายออกมาจากขนปีก ให้ความรู้สึกถึงรังสีสังหารที่รุนแรงอย่างไร้ที่เปรียบสะเทือนไปทั่วทั้งฟ้าดินชนิดหนึ่ง จนทำให้อัจฉริยะผู้โดดเด่นทั้งหมดต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป

 

ปีกทองคู่ เรียกได้ว่าประดุจสัญลักษณ์ดั่งราชาแห่งเผ่าพันธุ์ มีความน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด กล่าวกันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ผู้ที่มีปีกทองคู่ของเผ่าจัดได้ว่าเป็นราชาแห่งเผ่าปีกทั่วทั้งสี่ดินแดนก็ว่าได้ รบร้อยครั้งชนะร้อยครา !

 

และขณะนี้พลังบรรยากาศไร้ผู้ต้านของจินยี่ก็ได้แผ่กระจายปกคลุมออกมาไปทั่วทั้งร่างกาย ด้านบนปีกคู่ของเขาที่เปี่ยมไปด้วยประกายกระบี่ส่องสว่างออกมา จนทำให้ผู้คนไม่น้อยต่างก็รู้สึกหนาวเหน็บไปทั่วทั้งร่างกาย นั้นก็เพราะว่าสิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความไม่ธรรมดาของเขาได้อย่างแน่นอน

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset