เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 443 พิษสงของนางงาม

ตอนที่ 443 พิษสงของนางงาม

“หากมองกลับมา สุดยอดรุ่นเยาว์ของเผ่ามนุษย์ถือได้ว่าแข็งแกร่งอย่างยิ่ง หากว่าข้าคาดเดาไม่ผิดแล้วละก็ เจ้าก็คงสมควรที่จะมีร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ในตำนานที่เล่าขานสินะ ? ที่มีพลังแห่งทำลายร่างเทวะแห่งแดนเทพของร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ จึงทำให้ข้าเจ็บมือได้ ไม่อาจที่จะเป็นนอกเหนือจากนี้ไปได้” ฮวาเพ่ยหยี่ยิ้มขึ้นมา ทอแววตาน่าดูขึ้นมา เส้นผมสีม่วงก็ได้พลิ้วไปตามแรงลม ฉากเบื้องหน้านี้ประดุจนางเซียนหลุดออกมาจากภาพวาดก็มิปาน

“นี่——” แม้แต่เสี่ยวหลุนเองก็ยังเกิดอาการตะลึงขึ้นมา หญิงสาวผู้นี้ถือได้ว่ามีความน่าหวาดกลัวจนเกินไปแล้ว ถึงกับเพียงแค่การประมือกันเพียงเสี้ยววินาที ก็สามารถมองออกมาได้ อีกทั้งยังเป็นการบ่งบอกถึงสถานะของเยี่ยจงออกมา ระดับความคิดเช่นนี้ เรียกได้ว่าอยู่เหนือกว่าคำว่าลึกล้ำไปแล้ว

“ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ของเผ่ามนุษย์งั้นหรือ ! ? ” ราชาปีศาจและพระยาปีศาจมากมายก็ได้เหม่อมองไปที่เยี่ยจงในเวลาเดียวกัน ภายในดวงตาก็ได้แสดงความแปลกประหลาดออกมา ตอนนี้เยี่ยจงในสายตาของพวกมัน ไม่เพียงแต่เปรียบเสมือนกล่องสมบัติล้ำค่า อีกทั้งยังประดุจโอสถล้ำค่าอย่างถึงที่สุด

“ตำนานแห่งร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ ? เป็นไปได้อย่างไรกัน ! ? ” กลุ่มอัจฉริยะที่มาจากภายนอกตอนนี้ต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมา พวกเขาทราบว่าเยี่ยจงนั้นมีพลังลมปราณเปลี่ยนแปลงเทวะ สมควรที่จะอยู่ในระดับร่างเทวะในตำนาน แต่ว่า ที่พวกเขากลับนึกไม่ถึงว่า สภาวะร่างกายของเยี่ยจงจะถึงกับเป็นหนึ่งในระดับตำนานโบราณไปได้ ที่มีพลังแห่งทำลายร่างเทวะแห่งแดนเทพอย่างร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ !

ในขณะนี้เอง ภายในดวงตาของอัจฉริยะมากมายก็ได้ปรากฏความซับซ้อนขึ้นมา การอยู่ร่วมกันกับบุคคลเช่นนี้ในยุคเดียวกันเช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าชนิดหนึ่งเลยทีเดียว

“มิใช่เป็นแค่จักรพรรดินีแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกเท่านั้น ยังมีพรสวรรค์ประดุจเทพสวรรค์ มีสายตาที่เป็นประกายแกร่งกล้า เป็นที่น่าตกใจและนับถือของผู้คนได้อย่างแท้จริง” เยี่ยจงหลังจากที่ได้ครุ่นคิดชั่วครู่ จึงได้สูดลมหายใจแล้วกล่าวออกมา ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การที่เขากล่าวออกมาเช่นนี้ ก็เหมือนกับการยอมรับว่าตนเองนั้นมีร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ในตำนานจริง แต่ว่า เยี่ยจงกลับไม่อาจที่จะกล่าวยอมรับออกมาได้โดยตรง นั่นก็เพราะว่าถ้าหากในตอนนี้ยอมรับแล้วละก็ เช่นนั้นจะต้องเกิดการแย่งชิงระลอกที่สองอย่างแน่นอน ตนเองจะกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปในทันที และเยี่ยจงก็มองได้ว่า ขอเพียงตนเองเปิดเผยแม้แต่น้อยก็ตามยังไงเสียก็ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่นอน จักรพรรดินีฟ้าตะวันตกผู้นี้ยอมไม่เกรงใจต่อตนเองอย่างแน่นอน

“เจ้ายอดมาก” ในขณะที่ฮวาเพ่ยหยี่มองไปที่เยี่ยจง ทันใดนั้นก็ได้หัวเราะอย่างน่ารักขึ้นมา “ที่ข้าปรากฏขึ้นมาในสถานที่เช่นนี้ มิใช่เป็นเพราะว่าต้องการที่จะเปิดศึกเปิดตายกับผู้ที่มีร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่แห่งเผ่ามนุษย์อย่างเจ้า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้น ก็คิดเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้นได้หรือไม่ ? ”

“เช่นนั้นท่านจักรพรรดินีมีอันใดจะชี้แนะ ? ” เยี่ยจงขมวดคิ้วขึ้นมา รู้สึกได้ว่าหญิงสาวผู้นี้ยากที่จะคาดเดาได้ เห็นๆ อยู่ว่ามีพลังฝีมือเป็นที่น่าตกใจ กลับยังวางท่าทีเช่นนี้อยู่อีก

“เจ้าคัดลอกสิ่งที่ได้มาจากสุสานจักรพรรดิฟ้าตะวันตกให้แก่ข้าชุดหนึ่งได้หรือไม่ ? นั้นถือได้ว่าเป็นประดุจดั่งตำนานที่เล่าขานสืบกันมาของตระกูลข้า หากว่าปล่อยให้สูญหายไปแล้วละก็ สายโลหิตของพวกเราคงต้องถึงกาลจบสิ้นแล้ว” ดวงตากลมโตของฮวาเพ่ยหยี่ก็ได้เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เป็นที่น่าสงสารจำใจ แต่ว่าไม่นานนักก็ได้ยิ้มขึ้นมาอย่างน่ารักอีกคราแล้วกล่าว “แน่นอนว่า เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อนที่จะปฏิเสธไป ข้าไม่ได้มีความคิดที่จะบีบเค้นเจ้าแต่อย่างไร ข้าจะนำลายคัดที่เขียนด้วยตัวของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกเหลือทิ้งไว้ในสมัยก่อนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเจ้า เป็นอย่างไร ? ”

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตดั้งเดิม หรือว่าจะเป็นอัจฉริยะที่มาจากภายนอกต่างก็นิ่งอึ้งขึ้นมา ทางหนึ่งนั้นก็เป็นเพราะว่าฮวาเพ่ยหยี่นั้นมีคลักษณะที่งดงามไร้สองใด อีกทางด้านหนึ่งก็เป็นเพราะว่า หากเป็นไปตามความหมายในคำพูดของนาง ถ้างั้นเยี่ยจงก็ได้รับประสบการณ์ของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกไปแล้วอย่างงั้นหรือ ? อีกทั้ง นางยังตระเตรียมที่จะแลกเปลี่ยนกับลายคัดของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกอย่างงั้นหรือ ? ควรทราบว่า สิ่งของเช่นนี้ต่างก็ถือได้ว่าเป็นการคงอยู่ในระดับตำนาน หากว่าปรากฏขึ้นมา ไม่ทราบว่าจะมีผู้คนมากน้อยเพียงใดที่ตกใจจนร่ำไห้ออกมา

“ลายคัดของจักรพรรดิฟ้าตะวันตก ไม่ว่าภายในนั้นแท้จริงแล้วจะเขียนถึงอันใด แต่ว่า ก็ยังถือได้ว่าเป็นของดีไม่น้อย จนทำให้ผู้คนเกิดความหวั่นไหวใจได้” เยี่ยจงสูดลมหายใจขึ้นมา กล่าวออกไปตามความสัตย์ ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถสงบจิตสงบใจต่อหน้าสิ่งของชิ้นนี้เมื่ออยู่เบื้องหน้าได้ ทว่าเขาทราบถึงเรื่องราวสิ่งที่อยู่ติดตัวกับเข้า ต้องรับผิดชอบคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ จนทำให้ลัทธิแห่งดวงดาวสูญสลาย หากว่าต้องมีเพิ่มลายคัดของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกอีกชุด บวกกับเป็นการยอมรับว่าตนเองได้รับคำสอนของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกแล้วละก็ เช่นนั้นเยี่ยจงมีความเป็นไปได้ว่า เมื่อเวลานั้นมาถึงความถึงก็จะมียอดฝีมือระดับมหาราชันคอยไล่ล่าตนเองไปทั่วทั้งผืนฟ้า ในช่วงเวลานั้นเช่นนั้น ตนเองก็แทบจะไม่หลงเหลือทางรอดเอาไว้ได้

“แต่ว่าน่าเสียดายอย่างยิ่ง ข้ากลับมิได้รับอะไรเลย จึงไม่อาจที่จะทำการแลกเปลี่ยนกับท่านจักรพรรดินีได้” เยี่ยจงถอนหายใจออกมา เหมือนกับกำลังเจ็บปวดอย่างยิ่ง

“หารือกันหน่อยสิ เด็กน้อยอย่างเจ้า ข้าทราบว่าเจ้ากำลังเป็นห่วงอะไรนะ อย่างมากข้าก็จะลงมือด้วยตนเอง ช่วยเจ้าสังหารผู้ที่มาจากทางด้านนอกทั้งหมด รับรองได้เลยว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางที่จะแพร่ออกไปด้านนอกได้แม้แต่น้อย” ฮวาเพ่ยหยี่หัวเราะขึ้นมาอย่างพราวเสน่ห์ ขาอันเรียวยาวก็ได้ย่างออกมา เดินออกมาทางด้านหน้า

“ท่านจักรพรรดินียังคงรักษาระยะห่างกับผู้น้อยสักหน่อยเถอะ ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ เกรงว่าจะกล่าวเป็นที่ครหาได้” เยี่ยจงถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ในเวลาเดียวกันก็ได้ตกใจขึ้นมา หญิงสาวกล่าวเรื่องเช่นนี้ออกมาด้วยความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยม เห็นได้ชัดว่า นางสมควรที่จะมีพลังฝีมือเช่นนี้ และในข้อนี้ก็ทำให้ผู้คนถือได้ว่าหวาดกลัวที่สุด ภายใต้การมีพลังฝีมือเช่นนี้ นางถึงกับยื่นข้อเสนอออกมา แต่กลับมิใช่เข้ามาสังหารตนเองทันทีอย่างงั้นหรือ ?

“ดูเหมือนว่า เหล่าผู้ที่มาจากทางด้านนอกจะมีอยู่อีกหลายคนที่ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดาอย่างนะ เจ้าที่เป็นถึงร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ ยังถึงกับเกิดความหวาดกลัวต่อพวกเขาด้วยงั้นหรือ ? ” ฮวาเพ่ยหยี่หัวเราะอย่างเย้ายวนติดต่อกัน จนทรวงทรงที่มีเสน่ห์นั้นสั่นไหวเบาๆ ให้ความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่ง หลังจากที่หัวเราะ จากนั้น นางในที่สุดก็หยุดก้าว ถอนหายใจออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “สิ่งที่เจ้าได้รับมานั้น เรียกได้ว่ามีความเก่าแก่อย่างยิ่ง เจ้าไม่อาจที่จะฝึกปรือไปได้ ไม่ก็นำออกมา เพื่อแลกเปลี่ยนกับข้า ข้าขอรับรองว่าลายคัดของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกจะต้องมีประโยชน์ต่อเจ้าอย่างมหาศาล”

“ลายคัดจักรพรรดิฟ้าตะวันตก แน่นอนว่าย่อมทำให้ผู้คนรู้สึกหวั่นไหว แต่ว่าข้านั้นมิได้รับสิ่งใดมาจริงๆ ” เยี่ยจงส่ายหน้าไม่ยอมรับ ต่อให้ตีให้ตายเขาก็ไม่อาจที่จะยอมรับได้ว่าเขานั้นได้รับคำสอนของจักรพรรดิฟ้าตะวันตกมาแล้ว นั้นก็เพราะว่านั้นหมายถึงหนทางสู่ความตายเลยก็ว่าได้

“อืม น่าเสียดายนะ คิดไม่ถึงว่าร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ในโบราณกาลที่ยากที่จะพบพาน ถึงกับเป็นเพียงเจ้าหนูขี้กลัวผู้หนึ่งเท่านั้น ความจริงถ้ายังคิดว่า หากว่าเจ้ายอมรับแต่โดยดีแล้วล่ะก็ ข้าอย่างมากก็แต่งให้กับเจ้า เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของเจ้า อืม ช่างน่าเสียดาย ” ร่างกายของฮวาเพ่ยหยี่ก็ได้ทอดตัวลงบนก้อนศิลาใหญ่ลูกหนึ่ง นางประดุจเทพเซียนหลุดจากภาพวาดก็มิปาน แต่จะว่าไป ก็ยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุกขึ้นมาได้

ผู้ที่มาจากทางด้านนอกทั้งหมดต่างก็ขมวดคิ้วขึ้นมา คำพูดของจักรพรรดินีฟ้าตะวันตกเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ ที่แท้มีกี่ส่วนจริงกี่ส่วนเท็จกันแน่ ? คนเช่นนี้เรียกได้ว่าไม่อาจที่จะคาดเดาได้เลย ยากที่จะต่อกรอย่างยิ่ง

“จักรพรรดินี ข้ามาเพื่อที่จะจัดการกับเผ่ามนุษย์ผู้นี้ ช่วงชิงคำสอนจักรพรรดิฟ้าตะวันตกกลับมา” ในเวลานี้ ก็ได้มีพระยาปีศาจตนหนึ่งเดินออกมา เขานั้นแทบจะไม่มีความแตกต่างจากเผ่ามนุษย์ปกติธรรมดากันเลยทีเดียว เพียงแต่ว่าบริเวณศีรษะนั้นเพิ่มเติมด้วยเขาหยกชิ้นหนึ่ง ตอนนี้ผมสีเงินของเขาก็ได้พลิ้วไหวไปมา เดินออกมาจากท่ามกลางกลุ่มพระยาปีศาจ

เป็นที่แน่นอนว่า พระยาปีศาจตนนี้มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง ต่อให้เป็นเยี่ยจงก่อนหน้านี้ที่เป็นดังเครื่องจักรสังหารไร้ที่เทียบได้ ตอนนี้เขากับยังคงมีความเชื่อมั่นในตนเองได้ถึงเพียงนี้

“เอาเถอะ หากว่าเจ้าสามารถที่จะจัดการกับเขาได้ ช่วงชิงคำสอนกลับมาให้ข้าได้ เช่นนั้นลายคัดจักรพรรดิฟ้าตะวันตกก็จะมอบให้เจ้าก็แล้วกัน” ฮวาเพ่ยหยี่ยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา รอยยิ้มนั้นเป็นที่หลงใหลอย่างยิ่ง เหมือนกับคำพูดนั้นได้สถิตเข้าไปยังภายในจิตใจของผู้คน

ราชาปีศาจและพระยาปีศาจตนอื่นๆ ก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน ภายในลายคัดจักรพรรดิฟ้าตะวันตกถือได้ว่าจดบันทึกสิ่งที่ผู้คนไม่อาจที่จะทราบได้ แต่ว่าสิ่งมีชีวิตพื้นเพนั้นต่างก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แต่ว่าก็ไม่อาจที่จะพลาดโอกาสในครั้งนี้ได้

“ขอบพระคุณท่านจักรพรรดินีที่ส่งเสริม……”

ชายหนุ่มผมเงินยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้เผชิญซึ่งๆ หน้ากับเยี่ยจง ยื่นมือออกมา บริเวณใจกลางฝ่ามือก็ได้เกิดโคมไฟเก่าแก่สีเงินขึ้น ดวงไฟโบราณก็ได้ทอเป็นประกายเพลิงไฟสีดำมืดขึ้นมา ให้ความรู้สึกที่หลอกหลอนอย่างยิ่ง

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นตะเกียงวิญญาณมารก็อยู่ในมือเจ้านี้เอง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงสมบัติป้องกัน แต่ว่าก็ยังถือได้ว่าไม่เลวเลย” จักรพรรดินีฮวาเพ่ยหยี่ยิ้มน้อยๆ ขึ้นมา แฝงเอาไว้ด้วยความชื่นชม

ราชาปีศาจและพระยาปีศาจตนอื่นๆ ก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเงียบงันในเวลาเดียวกัน ดุจอสรพิษพ่นพิษถอยออกมาก็มิปาน เห็นได้ชัดว่าตะเกียงวิญญาณมารนี้น่าหวาดกลัวถึงเพียงใด

“เด็กหนุ่มแห่งเผ่ามนุษย์ นี้ถือได้ว่าเป็นตะเกียงมารของบรรพบุรุษเผ่าข้า หากว่าลงมือแล้ว จะมีแต่ความตายไม่อาจมีชีวิตต่อไปได้ ผลลัพธ์เป็นที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ข้าจะให้โอกาสจะอีกครา ส่งมอบคำสอนจักรพรรดิฟ้าตะวันตกออกมาด้วยตัวเอง อย่าได้ให้ข้าลงมือบีบบังคับเจ้า” พระยาปีศาจผมเงินจ้องมองไปทางด้านของเยี่ยจงด้วยความเย็นชา นี้มิใช่คำข่มขู่ เพียงแต่เป็นความสัตย์จริง

เยี่ยจงหัวเราะเสียงเย็นชาขึ้นมา มิได้กล่าววาจาไร้สาระอันใด

“ซูม——”

พระยาปีศาจผมเงินตรงไปตรงมา เมื่อพบเห็นเยี่ยจงหัวเราะอย่างเย็นชา เขาก็ได้ถอนหายใจออกมาคำหนึ่งในทันที วินาทีนั้น ก็ได้พบกับเพลิงผีสางมืดทมิฬสายหนึ่งประดุจดั่งพลังอักขระที่ถูกเผาผลาญออกมาก็มิปาน ปกคลุมไปทั่วทั้งผืนฟ้าผืนดิน จนทำให้เยี่ยจงตลอดทั้งคนถูกกักขังเอาไว้อยู่ภายใน

“สุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์แล้วจะเป็นอย่างไร ? ข้าให้โอกาสแก่เจ้ากลับไม่ต้องกัน ก็อย่าได้โทษข้าเลย” ตะเกียงวิญญาณมารในมือของพระยาปีศาจผมเงินก็ได้เป่าออกไปทั้งหมดเก้าครั้งติดกัน จนก่อเกิดประกายดวงไฟดำทมิฬเก้าสายออกมา จนทำให้ตลอดทั่วทั้งสภาวะอากาศปกคลุมไปด้วยอักขระดำมืดเป็นสาย

กระนั้น ผู้คนมากมายต่างก็พบว่าน่าประหลาดอย่างยิ่ง เยี่ยจงถึงกับมิได้ถอยไปแต่อย่างไร เขาเพียงแต่จ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้าด้วยความเยือกเย็น บนใบหน้าแฝงเอาไว้ด้วยความเย้ยหยันอยู่หลายส่วน

“เคร้ง——”

ทันใดนั้นเอง เยี่ยจงก็ได้ลงมือ เขาพลิกรอยตราจากทั้งสองมือขึ้น มือหนึ่งชี้ขึ้นฟ้า、มือหนึ่งชี้ลงพสุธา พลังน่ากลัวอันมหาศาลก็กลุ่มหนึ่งก็ได้ปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดินในขณะนี้เอง แผ่กระจายออกมาจากใจกลางฝ่ามือออกไป การพวยพุ่งเหล่านั้นประดุจดั่งอักขระดำมืดเข้ามา ในขณะนี้เองก็ได้เกิดสภาวะแรงกดดันขึ้นมาท่ามกลางอากาศนับครั้งไม่ถ้วน

“โครม——”

เยี่ยจงก้าวออกไปทางด้าน ประดุจดั่งไหลไปตามพื้นดิน และก็ได้ใช้พลังอักขระผนึกไปทั่วทั้งสภาวะของอากาศ จนเกิดการมอดไหม้ทีละตัวอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัด นี้ถือได้ว่าเป็นพลังอันมหาศาลที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเพียงพอที่จะสามารถต้านทานพลังในการเผาผลาญของพลังแห่งการผนึกฟ้าได้ทั้งหมด

“นี้……เป็นไปได้อย่างไรกัน ! ? ”

ราชาปีศาจชนิดหนึ่งอ้าปากตาค้าง แต่ละคนต่างก็แสดงสีหน้าประดุจผีเข้าสิงก็มิปาน หากกล่าวในมุมของพวกเขา เยี่ยจงในตอนนี้เรียกได้ว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง น่าประหลาดอย่างไร้ที่เปรียบเช่นนี้ น่ากลัวจนถึงขั้นที่ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีเช่นไรก็ไม่มีผลต่อเขาแม้แต่น้อยเลยงั้นหรือ ? ยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้เขา ในช่วงที่ได้ลงมือออก ก็ได้ถูกคลี่คลายลงทันทีเลยงั้นหรือ ?

“เจ้า……”

พระยาปีศาจผมเงินก็ได้ตกใจขึ้นมายกใหญ่ เข้าใช้สองมือกุมไปที่ตะเกียงวิญญาณมาร มุ่งหน้าโจมตีเข้าไปแต่ก็ไม่อาจได้ชัย เขาผู้ซึ่งเคยสังหารราชาไปแล้วอย่างน้อยก็สามตน แต่ก็คิดไม่ถึงว่า กระบวนท่านี้ วันนี้กลับไม่อาจที่จะใช้ต่อเยี่ยจงได้

เขาหันกายหมายจะเดินจากไป นั้นก็เพราะทราบว่า กระบวนท่ามากมายเหล่านี้ไม่อาจที่จะส่งผลอันใดต่อเยี่ยจงได้ หากว่ายังเป็นเช่นนี้ต่อไปแล้วละก็ จะกลายเป็นเพียงหายนะกลับมาหาตนเท่านั้น

เยี่ยจงหัวเราะออกมาเสียงดังกังวาน ย่างเท้าออกไปคราหนึ่ง ตราผนึกนภากลางฝ่ามือก็ได้ถูกใช้กดดันติดต่อกันลงไป

“ฮูม——”

พลังอันน่าหวาดกลัวของตราผนึกนภาก็ได้แผ่กระจายออกมา พระยาปีศาจผมเงินแม้แต่ตะเกียงวิญญาณมารใจกลางฝ่ามือก็ได้แหลกลาญจนกลายเป็นฝุ่นผง ไม่หลงเหลือสภาวะใดๆ เอาไว้

เยี่ยจงใช้ออกมาด้วยพลังในจุดสูงสุดของตราผนึกนภา เดิมทีก็มีความน่าหวาดกลัวอยู่อย่างถึงที่สุดอยู่แล้ว และตอนนี้เขายังหยิบยืมพลังจากร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ จนทำให้ตนเองมีพลังในการต่อสู้จนถึงระดับขั้นราชัน ใช้ออกมาด้วยตราผนึกนภาด้วยพลังทั้งหมดจนก่อเกิดพลังอันน่าหวาดกลัว

ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพระยาปีศาจ、ราชาปีศาจหรือแม้แต่ยอดฝีมือที่มาจากภายนอกต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมาตามๆ กัน เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึง พลังการต่อสู้ของเยี่ยจงถึงกับน่ากลัวได้ถึงขั้นนี้เชียวหรือ ?

หรือว่า ตำนานแห่งร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ จะไร้ผู้ต้านเช่นนี้จริง ถึงกับสามารถต้านทานสรรพสิ่งเลยงั้นหรือ ?

“ไม่ต้องไปกลัวเขา เขาก็เพียงแค่หยิบยืมพลังจากร่างมหัศจรรย์หมื่นโบราณ จึงได้มีพลังการต่อสู้เช่นนี้ได้ ไม่นานนัก เขาก็จะอ่อนโทรมอย่างไร้ที่เปรียบ อย่าปล่อยให้เขาจากไปได้” หนึ่งในพระยาปีศาจหัวเราะแล้วกล่าวออกมา แต่ว่ามันกลับหลบอยู่ท่ามกลางกลุ่มของพระยาปีศาจ ไม่กล้าที่จะเผยหน้าออกมา แต่ว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ หลังจากที่สิ้นเสียงของเขาลง กลุ่มราชาปีศาจพระยาปีศาจก็ค่อยมีปฏิกิริยากลับมา พริบตานั้นก็ได้ค่อยๆ เข้าไปใกล้

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ
โปรโมชั่น กลุ่ม 5-12 ราคา 600
ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
#####Fanpage#####

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset