เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 457 การปรากฏกายของชนชั้นมหาราชัน

ตอนที่ 457 การปรากฏกายของชนชั้นมหาราชัน

บรรยากาศท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ตอนนี้ถือได้ว่าประหลาดอย่างยิ่ง เยี่ยจงทอหัวเราะอย่างเย็นชาไปทั่วใบหน้า จ้องมองอย่างเยียบเย็นไปบริเวณทางด้านหน้า และเหล่าราชันปีศาจต่างก็ไม่ทราบจะกล่าวอันใด พระยาปีศาจทางด้านข้างแต่ละตนต่างก็กระทืบเท้าไปมาประดุจถูกไฟแลบเข้าที่เท้า ไม่อาจที่จะทนรับสภาพเฉกเช่นเหตุการณ์เช่นนี้ได้

“ท่านราชา ยังรออะไรอีกกัน ? สังหารเขา ! ล้างแค้นให้กับราชาที่แปด ! ”

“ให้พวกเราลงมือ เขาก็จะไม่มีแม้แต่โอกาสใดๆ อีกแล้ว ! ”

“คัมภีร์บ้าอะไรกัน พวกเราหุบเขาหมื่นปีศาจไม่ทราบแม้แต่น้อย พวกเราเพียงต้องการที่จะสังหารเขาเท่านั้น ! ”

“สังหารมนุษย์ผู้นี้ ! กลืนกินเจ้าเด็กน้อยผู้นี้ ! เพื่อเป็นที่ประจักษ์ของพวกเราหุบเขาหมื่นปีศาจใหม่อีกครั้ง ! ไม่ว่าเขาจะมีประโยชน์มากแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะมีสมบัติอะไรก็ตาม ยังไงก็จำเป็นที่จะต้องตาย ! ”

พระยาปีศาจกลุ่มหนึ่งแต่ละคนก็ได้พุ่งฆ่าสังหารออกมา แต่ว่าพวกมันต่างก็ถือได้ว่าฉลาดอย่างยิ่ง ปลดปล่อยรังสีสังหารออกมาอย่างเด็ดเดี่ยวเต็มสิบส่วน

“ข้าจะบอกคำพูดสุดท้าย พวกเจ้าไม่ไสหัวไปแล้วละก็ ข้าจะช่วยสนองให้แก่พวกเจ้าเอง ” ” หลังจากที่เยี่ยจงจ้องมองไปบริเวณทางด้านหน้าอย่างเย็นชา หลังจากนั้น ทันใดนั้นก็ได้หัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ชนชั้นหยาง (阳者) เป็นดั่งพลังที่แท้จริงแห่งฟ้าดิน แห่งอดีตกาล……”

เมื่อกล่าวออกมาจนถึงตอนนี้ เสียงของเยี่ยจงราวกับไม่อาจที่จะตรวจสอบได้แม้แต่น้อย แต่ว่าริมฝีปากกลับเกิดความเคลื่อนไหวไม่หยุด ตลอดทั่วทั้งเมืองซร่าซวีราวกับปะทุความเคลื่อนไหวในตอนนี้

“สายทางแห่งดวงตะวัน ! ถึงกับเป็นสายทางแห่งดวงตะวัน ! ”

ยอดฝีมือกลุ่มนี้ต่างก็คำรามก้อง คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงถึงกับได้รับการถ่ายทอดจริง

สี่ราชันปีศาจก็ได้มีสีหน้าเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน ถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว นั้นก็เพราะว่าการกระทำของเยี่ยจงนี้เห็นได้ชัดว่าวางแผนร้ายให้กับอีกฝ่าย พวกมันแทบจะไม่ได้ยินคำพูดสุดท้ายของเขาว่าได้กล่าวอะไรออกมา

“เป็นไรไป ? นี้ก็คือเคล็ดวิชาหลักของสายทางแห่งดวงตะวัน ทั้งสี่ท่านรู้สึกว่ามีความลี้ลับเพียงพอหรือไม่ ? พวกเจ้าอย่าได้ไป ไม่นานนักข้าก็จะส่งมอบถ่ายทอดเคล็ดวิชาทั้งหมดให้แก่พวกเจ้า จากนั้นก็อัตวินิบาตตนเอง ” เยี่ยจงหัวเราะออกมา ก้าวเดินอยู่ท่ามกลางอากาศ มุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณทางด้านของสี่ราชันปีศาจ

สี่ราชันปีศาจราวกับว่าแต่คนต่างก็มีอาการร่างกายสั่นไหวขึ้นมา เรื่องราวเช่นนี้แทบจะเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายขึ้นมาได้ ตอนนี้ต่อให้บอกต่อผู้อื่น ว่าเมื่อครู่พวกมันนั้นความจริงต่างก็ไม่ได้ยินถึงเรื่องอันใด จะมีผู้ใดยอมเชื่อกัน ?

“อา——”

ราชันปีศาจตนหนึ่งก็อดที่จะตะโกนออกมามิได้ จนอดไม่ได้ที่จะเก็บอาการไว้ภายในจิตใจ มันโบกมือคราหนึ่ง ทำให้พระยาปีศาจกลุ่มนี้ไม่อาจที่จะไม่ถอยออกไปได้

ทางด้านล่าง กลางเมืองซร่าซวี ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนต่างก็อ้าปากตาค้าง ถึงกับใช้วิธีการเช่นนี้กดดันจนคนหมู่มากของหุบเขาหมื่นปีศาจถอยออกไปได้ สุดยอดรุ่นเยาว์ผู้นี้ ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่เยี่ยจง ช่างถือได้ว่าน่าแปลกเสียจริง

แต่ว่า ถ้าหากตอนนี้เยี่ยจงมีลูกไม้อะไรอีกแล้วละก็ เช่นนั้นพวกเขาเกรงว่าบัดนี้คงจะต้องตกอยู่ในหลุมพรางของเยี่ยจงแล้ว อย่างน้อยแม้แต่หุบเขาหมื่นปีศาจก็ยังไม่อาจที่จะปกป้องพวกเขาไว้ได้

การลงมือของเยี่ยจงผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะน่าแปลก แต่ว่าก็ยังถือได้ว่าน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ! เกรงว่านับจากวันนี้เป็นต้นไป นามแห่งเยี่ยจงสองคำนี้คงจะต้องส่องเป็นประกายอย่างแน่นอน

“ไม่แปลกใจเลยที่พี่ลิ่วเอ่อจะชื่นชอบเจ้าถึงเพียงนี้มาโดยตลอด ต่อให้ยังอยู่ในระดับขอบเขตเพียงแค่นี้ เจ้าก็ยังสามารถที่จะคิดหาวิธีเอาตัวรอดเช่นนี้ได้ ผู้น้อยขอนับถือ ” ในเวลานี้เอง ก็ได้มีเสียงแหลมสูงดังขึ้นมา จากนั้นก็ได้พบกับเด็กหนุ่มที่ดูไปราวกับอายุสิบหกสิบเจ็ดปีผู้หนึ่ง ร่างกายผอมบางอยู่ส่วนหนึ่ง เห็นได้ชัดถึงความอ่อนแอ เขาก็ได้ค่อยๆ ที่จะเดินออกมาจากท่ามกลางกลุ่มคนเช่นนี้ เดินจนมาถึงท่ามกลางอากาศ

เด็กหนุ่มผู้นี้ดูไปแล้วแทบจะมีอายุไม่แตกต่างไปจากเยี่ยจงมากนัก แต่ว่าเขากลับยิ่งดูเป็นสง่ายิ่งกว่า ภายในร่างกายก็มีบรรยากาศคล้ายกับของล้ำค่าอยู่ชนิดหนึ่ง

“นี้มันคนอะไรกัน ! ? ” เมื่อพบเห็นเด็กหนุ่มผู้นี้ปรากฏตัวขึ้นมา ภายในดวงตาของเยี่ยจงก็ได้บีบตัวลงไปเล็กน้อย นั้นก็เพราะว่าเด็กหนุ่มเบื้องหน้าสายตาผู้นี้ยิ่งดูไปก็ยิ่งธรรมดาอย่างยิ่ง มิได้มีอันใดที่พิเศษแต่อย่างไร ไม่คล้ายกับเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แต่ว่าถึงจะเป็นอย่างนั้น เขากลับค่อยๆ เหยียบย่างขึ้นท่ามกลางอากาศขึ้นมา สภาวะเช่นนี้เรียกได้ว่าขัดแย้งกันอย่างยิ่ง จนทำให้เยี่ยจงกระจ่างแจ้งขึ้นมาได้ วันนี้ตนเองไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นพบเจอกับปัญหาครั้งใหญ่แล้ว

“น้อมพบมหาราชันปีศาจทุนเทียน (กลืนฟ้า) ” บริเวณทางด้านหลัง เมื่อสี่ราชันปีศาจและกลุ่มพระยาปีศาจมากมายเมื่อพบเจอคนที่ปรากฏตัวขึ้น ก็ตกใจแตกตื่นขึ้นมายกใหญ่ในเวลาเดียวกัน แสดงการคารวะออกมาอย่างรวดเร็ว

“มหาราชันปีศาจทุนเทียน ! ? ” เยี่ยจงกรอกนัยน์ตาไปมา พริบตานั้นก็ได้เข้าใจแล้วว่าชายวัยกลางคนที่พบเห็นผู้นี้เป็นผู้ใด คนผู้นี้ก็คือหนึ่งในเก้ามหาราชันปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจ เดิมทีที่มีร่างเป็นปักษานรกกลืนฟ้าที่มีนามว่ามหาราชันปีศาจทุนเทียน มหาราชันปีศาจตนนี้กลับมีการกระทำหักหาญคึกโครมแตกต่างจากมหาราชันปีศาจลิ่วเอ่อ ประดุจดั่งสายน้ำที่สะอาดผืนหนึ่งก็มิปาน กระจ่างสดใสเป็นอย่างยิ่ง แต่ว่า กระนั้นเขาก็ยังคงเป็นถึงหนึ่งในเก้ามหาราชันปีศาจแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจ ในช่วงการปรากฏตัวขึ้นมา เมื่อในขณะที่จดจำฐานะได้ เยี่ยจงก็เกิดอาการขนลุกจนชาขึ้นไปทั้งหัว ราวกับคิดหันกายหมายวิ่งหนี นั้นก็เพราะว่าเขาเข้าใจได้เป็นอย่างดี เมื่ออยู่ต่อหน้ามหาราชันปีศาจที่แท้จริงตนนี้ ตนเองแม้แต่โอกาสในการอัตวินิบาตตนเองก็ยังไม่อาจที่จะทำได้

“มหาราชันปีศาจทุนเทียน ! ? ”

บริเวณทางด้านล่าง ตอนนี้ก็ได้มียอดฝีมือจากขุมกำลังนับไม่ถ้วนต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมา กลอกตาไปมาไม่หยุด คล้ายกับไม่อยากที่จะเชื่อ ชนชั้นมหาราชัน ถือได้ว่าเป็นการคงอยู่ในจุดสูงสุดท่ามกลางดินแดนซีฮวง ถึงกับมีการปรากฏตัวขึ้นมาของบุคคลเช่นนี้อยู่เบื้องหน้า นี้ได้ทำให้ยอดฝีมือมากมายทั้งสี่ด้านต่างก็ไม่ทราบว่าจะอธิบายความรู้สึกเช่นนี้อย่างไรดี อีกทั้งยังมีผู้คนไม่น้อยที่ถอนหายใจอยู่ภายในใจออกมา ตอนนี้ในเมื่อมีการลงมือของชนชั้นมหาราชัน เช่นนั้นต่อจากนี้เป็นต้นไป แทบจะไม่มีส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

ระดับที่อยู่ต่ำกว่าชนชั้นมหาราชันต่างก็ถือได้ว่าเป็นเพียงแค่มดแมลงเท่านั้น สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นระดับความห่างชั้นของพลังอย่างชัดเจน หนึ่งโทสะแห่งชนชั้นมหาราชัน สามารถที่จะทำให้เกิดการนองเลือดไปนับหมื่นแสนขุนเขาธารา ต่อให้ยอดฝีมือทั้งหมดเบื้องหน้าสายตาเหล่านี้ลงมือพร้อมกัน คาดว่าก็คงจะมิใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยด้วยซ้ำ

“เจ้าไม่เลวเลยทีเดียว ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนมองไปที่เยี่ยจง ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความสดใสอย่างยิ่ง ที่เขากล่าวออกมาเช่นนี้ก็ถือได้ว่ามิได้เป็นความจงใจ เพียงแต่เรื่องจริงกลับเป็นเฉกเช่นนี้ “ข้านั้นได้หลบซ่อนสังเกตเจ้ามาหลายวันแล้ว ภายใต้สถานการณ์การถูกยอดฝีมือมากมายรายล้อมเอาไว้ เจ้ายังคงสามารถสงบจิตใจฝึกปรือได้ ภายใต้ระดับขอบเขตเช่นนี้ เจ้ายังจะสามารถที่จะเสาะหาหนทางรอดของโอกาสหนึ่งในร้อยออกมาได้ นี้ถือได้ว่าเจ้านั้นไม่เลวเลยทีเดียว ”

เยี่ยจงเหม่อมองไปยังมหาราชันปีศาจทุนเทียนตนนี้ หนังตากระตุกไปมาอย่างบ้าคลั่ง หลังจากนั้น เขาจึงค่อยได้ยกมือคารวะขึ้นมา กล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา : “ขอบคุณท่านมหาราชันปีศาจที่ชื่นชม ”

“ตอนนี้ข้าจะให้หนทางรอดสายหนึ่งแก่เจ้า ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนจ้องมองไปทางด้านของเยี่ยจงอย่างเย็นชา ราวกับกำลังยื่นข้อเสนอที่ประดุจเรื่องเล็กน้อยก็มิปาน “สายโลหิตของข้านี้ยังไม่มีผู้สืบทอด หากเจ้ายินยอมกราบเข้าร่วมกับสำนักพวกข้า ข้าจะลงมือด้วยตนเอง เปลี่ยนแปลงสภาวะโลหิตภายในร่างกาย นับจากนี้เป็นต้นไปเจ้าก็จะมีความเกี่ยวข้องเป็นศิษย์ของข้าแล้ว ย่อมไม่มีผู้ใดที่หาญกล้าพอที่จะมาตอแยกับเจ้าอีกต่อไป ”

บริเวณทางด้านล่าง ยอดฝีมือมากมายนี้ก็ได้เกิดอาการแตกตื่นขึ้นมาในเวลาเดียวกัน คิดไม่ถึงว่ามหาราชันปีศาจทุนเทียนตนนี้กลับมองออกมาได้อย่างกระจ่างถึงเพียงนี้ ถึงกับยื่นข้อเสนอเช่นนี้ออกมาได้

เยี่ยจงแตกตื่นขึ้นมา คิดไม่ถึงว่ามหาราชันปีศาจทุนเทียนนี้ถึงกับยื่นข้อเสนอเช่นนี้ออกมา อีกทั้งเขายังมองออกว่า อีกฝ่ายนั้นมีความตั้งใจจริงที่จะรับศิษย์เอาไว้ กลับมิได้มีความตั้งใจเป็นอื่น

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ หลังจากที่เขาครุ่นคิดใคร่ครวญดูแล้ว จึงได้น้อมกายก้มตัวลง กล่าวออกมาอย่างราบเรียบ : “ขอบคุณในความเอ็นดูของท่านมหาราชันปีศาจ แต่ว่า ข้ายังไงเสียก็ยังเป็นมนุษย์ ”

ท่ามกลางเมืองซร่าซวีผืนนี้ก็ได้เกิดความเงียบขึ้น ผู้คนทั้งหมดต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมาหลายส่วน คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงถึงกับปฏิเสธข้อเสนอนี้ไปเสียได้

ทว่า เผ่ามนุษย์ส่วนหนึ่งต่างก็มีสีหน้าประหลาดขึ้นมาอย่างยิ่ง โดยส่วนมากแล้วต่างก็เข้าใจในความหมายของเยี่ยจงอยู่หลายส่วน มหาราชันปีศาจทุนเทียนต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงสภาวะโลหิตให้ด้วยตนเอง ก็เปลี่ยนเหมือนกับว่าต้องการที่จะให้เขาปล่อยวางการเป็นมนุษย์ นับแต่นี้กลายเป็นปีศาจ เยี่ยจงถึงกับปฏิเสธ คำตอบเช่นนี้ ราวกับก็มิได้มีอันใดที่ทำให้ผู้คนแปลกใจได้มากนัก

ในที่สุด เยี่ยจงที่ถูกเรียกขานว่าสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่ามนุษย์ ถือได้ว่าเป็นความภาคภูมิใจของเผ่ามนุษย์ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน

“เจ้าช่างไม่เลวเลยทีเดียว ช่างน่าเสียดายโดยแท้ ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนยิ้มขึ้นมา เขาจ้องมองไปที่เยี่ยจงอย่างเย็นชา สีหน้ายังคงมิได้มีความเคลื่อนไหวอันใดมากนัก

“ข้านั้นมีความสนใจต่อสิ่งที่เจ้าพึ่งจะกล่าวออกมาว่าเป็นคัมภีร์โบราณต้องห้ามแห่งสายทางแห่งดวงตะวันอยู่หลายส่วน ลองให้ข้าหยิบยืมดูสักหน่อยสิ ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนอมยิ้มขึ้นมา จากนั้นมันก็ได้ค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ท่ามกลางอากาศ มุ่งหน้าเข้าไปใกล้ยังบริเวณทางด้านของเยี่ยจง

เยี่ยจงแข็งทื่อไปทั้งร่างกาย ตอนนี้เขาราวกับถูกสภาวะชนิดหนึ่งกักขังเอาไว้ก็มิปาน แทบจะไม่อาจที่จะขยับเคลื่อนไหวได้ แต่ว่าถึงจะเป็นแบบนั้นเยี่ยจงกลับเข้าใจได้เป็นอย่างดี อีกฝ่ายนั้นแทบจะมิได้แสดงบรรยากาศอันใดออกมา เพียงแต่เป็นการเคลื่อนไหวไปตามสายลเท่านั้น

นี้ก็คือชนชั้นมหาราชันอย่างแท้จริง ในทุกๆ อัปกิริยา ชนชั้นมหาราชันก็จะมีการแผ่กระจายแรงกดดันออกมา นี้ก็คือชนชั้นมหาราชันอย่างแท้จริง ในทุกๆ อัปกิริยา ชนชั้นมหาราชันก็จะมีการแผ่กระจายแรงกดดันออกมา

การเผชิญหน้ากับชนชั้นมหาราชัน เยี่ยจงแทบจะไม่มีพลังพอที่จะต่อกรได้เลย การเผชิญหน้ากับชนชั้นมหาราชัน เยี่ยจงแทบจะไม่มีพลังพอที่จะต่อกรได้เลย

มหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้เดินเข้ามาจนถึงบริเวณทางด้านหน้าของเยี่ยจง จากนั้นเขาก็ได้กรีดนิ้วออกมาเล็กน้อย คิดที่จะตรวจสอบความทรงจำของเยี่ยจง

“ฮูม——”

ในขณะนี้เอง เสี่ยวหลุนที่อยู่บริเวณหน้าอกของเยี่ยจง ระหว่างนั้นเองก็ได้ปลดปล่อยพลังสภาวะออกมาขึ้นมาเป็นสาย จนรายล้อมตลอดทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงเอาไว้ จากนั้นก็ได้มุ่งหน้าถอยไปยังทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

“อ๋อ ? ” มหาราชันปีศาจทุนเทียน “อ๋อ ? ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนประหลาดใจขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่เงยหน้ามองเข้าไปยังเยี่ยจงที่กำลังถอยไปทางด้านหลังตอนนี้ ก็อดที่จะหัวเราะแล้วกล่าวออกมามิได้ “คิดไม่ถึงว่าเจ้าถึงกับได้รับวาสนาเช่นนี้ ถึงกับได้รับสิ่งของเช่นนั้น ดูเหมือนว่าข้าจะดูแคลนเจ้าไปแล้วสินะ ”

“ระวังหน่อยละ ข้าต่อให้ลงมือด้วยพลังทั้งหมด ก็ใช่ว่าจะสามารถที่จะช่วยเหลือเจ้าให้ออกไปได้ ในครั้งนี้เกรงว่าพวกเราคงจะยุ่งยากขึ้นมาแล้ว ” ” เสี่ยวหลุนส่งเสียงดังขึ้นมาให้แก่เยี่ยจง น้ำเสียงแห้งผาดอย่างยิ่ง

เยี่ยจงตกตะลึงขึ้นภายในใจ เขาย่อมเข้าใจอย่างกระจ่าง อีกฝ่ายหากมิใช่เป็นเพราะเสี่ยวหลุนลงมือออกมาในเวลาที่เหมาะเจาะแล้วละก็ เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นความลับใดๆ ของตนเองตอนนี้ก็คงจะถูกมหาราชันปีศาจทุนเทียนสอดส่องมองเข้าไปจดหมดจดอย่างแน่นอน อีกทั้งหากกล่าวในมุมมองของตนเองแล้ว นี้ถือได้ว่าเป็นภัยพิบัตอย่างมากมายอย่างมิต้องสงสัย ในเมื่อความลับของตัวเขาเองนั้นมีอยู่มากมายจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดห่างถูกเปิดเผยออกไป คงจะทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของฟ้าดินอย่างถึงที่สุดแล้ว

“เจ้าถือได้ว่าไม่เลวอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าเจ้าตอนนี้ยินดีที่จะมาเป็นศิษย์ข้าแล้วละก็ เช่นนั้นข้าก็ขอใคร่ครวญหลงเหลือสภาพความเป็นมนุษย์ให้แก่เจ้า ” ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนหรี่ตาจ้องมองไปที่เยี่ยจง บนใบหน้าก็ได้ปรากฏรอยยิ้มออกมาอย่างได้ใจ เห็นได้ชัดว่าชมชอบการแสดงออกมาเขาของอย่างยิ่ง

“ขอบคุณในความกรุณาของท่านมหาราชันปีศาจ ทว่าข้าเกรงว่าข้าจะรับไว้ไม่ไหว ” เยี่ยจงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน

ครุ่นคิดอยู่ภายในจิตใจอย่างรวดเร็ว คิดที่จะหาหนทางในการหลบเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้โดยเร็ว

มหาราชันปีศาจทุนเทียนหัวเราะออกมา ในขณะที่กำลังจะเดินออกมา แต่ว่าพริบตานั้น เขาก็ได้ขมวดคิ้วไปมา จ้องมองไปอีกทางด้านหนึ่ง กล่าวออกมาอย่างเย็นชา : “ซือคงจา ในเมื่อมาแล้ว ใยไม่ปรากฏตัวเล่า ? หรือว่าเจ้ายังคงมีลักษณะที่หยาบกร้านเฉกเช่นกาลก่อนกัน ? ” ? ”

ท่ามกลางอากาศ ทันใดนั้นก็ได้มีการปรากฏขึ้นมาของสายรุ้งเป็นประกายขึ้นมา ทันใดนั้นก็ได้กลายเป็นแท่นเจ็ดสีสายหนึ่ง จากนั้นก็ได้พบว่าที่ด้านบนแท่นนั้น ได้มีชายหนุ่มสวมเอาไว้ด้วยชุดสีเขียวปรากฏขึ้นมา ชายหนุ่มลักษณะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ดวงตาทอเป็นประกาย ผมขาวดุจหิมะ ลอยระบำไปมาอยู่ท่ามกลางสายลมไม่หยุด ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เพียงพอที่จะสามารถมองเห็นได้ถึงเค้าของวีรบุรุษได้

“นี้คือ ชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์ ซือคงจา ? ” เยี่ยจงเหม่อมองไปยังเงาร่างที่สูงใหญ่ท่ามกลางอากาศ ทอสีหน้าประหลาด

ซือคงจา ถือได้ว่าเป็นบุคคลระดับตำนานแห่งเผ่ามนุษย์ เขากลับมิใช่บุคคลระดับหาราชันจากรัฐกู่กว่อ แต่ว่ากลับสำเร็จสู่ชนชั้นมหาราชันได้ตั้งแต่เมื่อแปดร้อยปีก่อน ถือได้ว่าเป็นตำนานที่ยังคงอยู่ของเผ่ามนุษย์ก็มิปาน ต่อให้ลัทธิแห่งดวงดาวในครั้งสมัยก่อน เจ้าลัทธิอันเว่ยเจินก็ยังต้องให้ความยกย่องซือคงจาอย่างถึงที่สุด

“พริบตาผ่านไปแปดร้อยปี คิดไม่ถึงว่าพี่ทุนเทียนจะยังมีท่าทีเฉกเช่นเดิม แต่ว่าข้ากลับแก่ตัวลง ” ชนชั้นมหาราชันซือคงจาแห่งเผ่ามนุษย์ ตอนนี้เขาก็ได้ก้าวออกมาประดุจลงมาจากชั้นสายรุ้ง จนลงมาถึงยังบริเวณทางด้านบนฟ้าเหนือเมืองซร่าซวี กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมา

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset