เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 458 มหาราชันคู่

ตอนที่ 458 มหาราชันคู่

“จากที่ข้าดูแล้ว พี่ซือคงท่านดูยังไงก็ไม่ชราเลยแม้แต่น้อย ไม่สิ ตอนนี้ที่วิ่งตาลีตาเหลือกมายังสถานที่แห่งนี้ ที่แท้คิดที่จะมาสอดมือยุ่งอย่างงั้นหรือ ? ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนตอนนี้แทบจะไม่เห็นเยี่ยจงอยู่ในสายตาอย่างสิ้นเชิง เขากอดอกลอยตัวปรากฏอยู่เหนือเมืองซร่าซวี จ้องเขม็งไปที่ซือคงจาเช่นนี้ ทอสีหน้าเย็นเยียบออกมาเป็นสาย

“เหอะเหอะ พี่ทุนเทียนก็ช่างชื่นชมกล่าวเป็นเล่นไปได้ วันนี้ข้าไม่มีสิ่งอื่นใดให้กระทำ ก็พึ่งจะนึกขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน ว่าเนิ่นนานแล้วที่มิได้พบเจอกับพี่ทุนเทียน ยากนักที่จะมีความรู้สึกเช่นนี้ได้ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องขอพบพานสักครา มิใช่หรือ ? ” ซือคงจาอมยิ้มขึ้นมา ทอสีหน้ามิได้เปลี่ยนแปลงมากนัก

มหาราชันปีศาจทุนเทียนทอประกายดวงตาสงบเยือกเย็น เขาเงยหน้าขึ้นจ้องมองไปยังบริเวณทางด้านบนของซือคงจา จากนั้นก็หัวเราะไปมาแล้วกล่าว : “ระหว่างเราท่าน จำเป็นที่จะต้องกล่าววาจาไร้สาระมากมายถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ มิสู้บอกกล่าวออกมาตามตรงมิดีกว่าหรอกหรือ ? เป็นไรไป ? ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาราชันแห่งเผ่ามนุษย์อย่างท่านก็ยังอดเอาไว้ไม่ไหวงั้นหรือ คิดที่จะสังหารอัจฉริยะด้วยน้ำมือตนเอง เกรงว่าวันข้างหน้าเขาจะกลายเป็นคนที่ขวางทางท่านอย่างงั้นหรือ ? ”

เส้นผมซือคงจาลอยระบำไปมา ร่างกายกำยำ เขาหัวเราะไปมา กล่าว : “เดิมทีพี่ทุนเทียนยังถึงกับเป็นห่วงในความปลอดภัยของน้องชายท่านนี้เช่นนี้ ดูเหมือนว่าเดิมทีแล้วข้าก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาอยู่แล้ว น้องชายเยี่ย ได้ยินแล้วหรือไม่ มหาราชันปีศาจทุนเทียนเกรงว่าเจ้าจะพลาดท่าภายใต้น้ำมือของข้า ดูจากลักษณะท่าทีแล้วคงจะเตรียมพร้อมที่จะขัดขวางข้าสินะ เจ้าไปก่อนเถอะ อย่าได้เป็นห่วงกับมหาราชันปีศาจไปเลย”

ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ต่างก็ซวนเซไปมาเวลาเดียวกัน จนเกือบที่จะล้มลงไปตามถนน ฝีปากของชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์ผู้นี้ แทบจะสามารถพลิกจากความตายกลับกลายมามีชีวิตต่อไปได้

เยี่ยจงก็ซวนเซเช่นเดียวกัน เกือบที่จะร่วงหล่นจากฟ้าลงสู่พื้น ทว่าเขาตอนนี้ก็พอที่จะคาดเดาขึ้นมาได้ การปรากฏตัวของชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์ผู้นี้ อย่างน้อยก็คงจะมาเพราะตนเองแล้ว

มหาราชันปีศาจทุนเทียนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาแล้วกล่าว : “นับตั้งแต่โบราณกาลมา เผ่ามนุษย์นั้นเมื่ออ้าปากเมื่อไหร่ต่างก็ถือได้ว่าคมกริบไม่น้อย พลิกจากความตายกลับมามีชีวิตได้ วันนี้ได้พบอีกครั้ง ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับได้ ดูเหมือนว่าวันหน้าซือคงจาเจ้าจะสามารถกระทำได้อย่างที่กล่าวออกมา อย่างน้อยก็พึ่งพาฝีปากนั้นของเจ้าก็แล้วกัน ? ”

“จำเป็นที่จะต้องกล่าวไปอย่างยาวไกลเช่นนั้นด้วยงั้นหรือ ? ” ซือคงจายิ้มขึ้นน้อยๆ “หรือไม่เราท่านสองคนมาช่วยกันส่งน้องชายผู้นี้จากไป จากนั้นพวกเราค่อยเสาะหาสถานที่แห่งหนึ่ง พูดคุยถกหลักการฝึกยุทธ์ มิใช่ดียิ่งกว่างั้นหรือ ? หรือว่าท่านมหาราชันปีศาจทุนเทียนคิดที่จะตะบัดสัตย์ ผู้น้อยก็พร้อมที่จะสนอง”

“การตัดสินใจของเจ้าถือได้ว่าเตรียมการมาดียิ่ง” มหาราชันปีศาจทุนเทียนกอดอกอย่างสงบ ทอสีหน้าแปลกใจ “ทว่าในเมื่อเจ้าผู้ที่สำเร็จชนชั้นมหาราชันได้เมื่อแปดร้อยปีก่อนของเผ่ามนุษย์เอ่ยขึ้นมา ข้าจะเห็นแก่หน้าของเจ้าสักครา เจ้าเด็กน้อย เจ้ามอบสิ่งที่เจ้าบอกว่าเป็นเคล็ดวิชาของคัมภีร์โบราณต้องห้ามออกมา เช่นนี้ก็จะสามารถจากไปได้แล้ว”

เยี่ยจงกลอกตาไปมา ฝีปากเริ่มข่มขึ้นมา ในครั้งนี้คล้ายกับว่าตนเองได้ผูกหินก้อนใหญ่เอาไว้ที่เท้าตนเองอย่างแท้จริง ตนเองจะไปหาคัมภีร์โบราณต้องห้ามเล่มนี้มาให้ได้จากไหนกัน

“มหาราชันปีศาจทุนเทียน เจ้าเกินไปแล้ว ! ” ซือคงจาที่มีลักษณะนอบน้อม จ้องเขม็งไปที่มหาราชันปีศาจทุนเทียน ทอสีหน้าเย็นเยียบขึ้น “ไม่ว่าน้องชายเยี่ยจะได้รับเคล็ดคัมภีร์ของจักรพรรดิตะวันตกหรือไม่ ไม่ว่าจะได้รับคัมภีร์โบราณต้องห้ามนั้นหรือไม่ ต่างก็เป็นวาสนาของตัวน้องชายเยี่ยเอง เจ้าที่เป็นถึงชนชั้นมหาราชันแห่งยุค จำเป็นที่จะคิดที่จะไปกันไม่ได้กับผู้เยาว์เพียงคนเดียวอย่างงั้นหรือ ? ”

“เหอะ ซือคงจาเจ้าตอนนี้กล่าวก็เหมาะเจาะอย่างยิ่ง ในเมื่อปรากฏตัวขึ้นตอนนี้ พวกเราต่างก็ถือว่าอยู่ในดินแดนทางด้านนี้ ชนชั้นมหาราชันก็คือแข็งแกร่งที่สุด เป็นดั่งตำนานที่ยังไม่ขาดหาย ตอนนี้ในเมื่อสามารถที่จะมีคัมภีร์โบราณต้องห้ามปรากฏออกมาเพื่อข้ามสู่ความเป็นชนชั้นมหาราชัน ข้าก็ไม่เชื่อว่าซือคงจาเจ้าจะสามารถไม่เก็บเอามาใส่ใจได้” มหาราชันปีศาจทุนเทียนยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา “วิทยายุทธ์โบราณของชนชั้นมหาราชัน เปรียบเสมือนดั่งทวยเทพที่ยากจะก้าวเข้าถึง ! มหาราชันในสมัยโบราณของพวกเจ้าเผ่ามนุษย์ท่านหนึ่งก็ยังทอดถอนใจกล่าวออกมาเช่นนี้ ชนชั้นมหาราชันมากมายเมื่อได้ยินข่าวสารเช่นนี้ ตอนนี้ต่างก็มุ่งหน้าเพื่อที่จะมาหาโอกาสสายนี้ หรือว่ามหาราชันเช่นท่านก็ต้องการที่จะผิดพลาดไปเช่นเดียวกันงั้นหรือ ? ”

“คิดที่จะต้องการหลุดพ้นเข้าสู่ระดับที่เหนือกว่าชนชั้นมหาราชัน ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากเย็นเกินกว่าที่จิตใจและวาสนาของคนปกติจะอาจเอื้อมได้ ในเวลาเดียวกันก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายออกไปด้วยค่าตอบแทนที่มหาศาล มิใช่สิ่งที่จู่ๆ ก็จะสามารถนำโชคชะตาไปเข้าแลกมาได้เลยในทันที” ซือคงจาตอบกลับไปอย่างนอบน้อม “ข้ามาสนว่าในมือของเขานั้นจะมีคัมภีร์โบราณต้องห้ามนั้นหรือไม่ ข้าเพียงทราบว่า การเป็นชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์ ข้าก็ไม่อาจที่จะเอาแต่มองดูสุดยอดรุ่นเยาว์แห่งเผ่าพันธุ์ข้า ต้องมาตายด้วยน้ำมือของเผ่าปีศาจอย่างพวกเจ้า”

“เหอะ สุดยอดรุ่นเยาว์เผ่ามนุษย์、ร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่เผ่ามนุษย์ ความภาคภูมิของเผ่ามนุษย์ ถึงกับเป็นสิ่งที่เปล่งประกายเช่นนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์อย่างพวกเจ้าจะระงับอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนยืนกอดอกอยู่กับที่ บรรยากาศเริ่มที่จะบิดเบี้ยว เป็นครั้งแรกที่เขามองเข้าไปยังภายในดวงตาของเยี่ยจงอย่างลึกซึ้งคราหนึ่ง กล่าวออกมาอย่างช้าๆ “เด็กน้อยผู้นี้ก็ช่างมีพรสวรรค์เหนือธรรมดาจริงๆ แน่นอนว่าไม่เลว เพียงแต่ว่า นับตั้งแต่โบราณกาลมาย่อมมิใช่เรื่องที่ง่ายดาย ขอเพียงไม่สำเร็จสู่ขั้นชนชั้นมหาราชัน เขาก็ไม่ถือว่าเป็นตัวอะไรไปได้ จำเป็นที่จะต้องไปกันไม่ได้กับข้าเพียงเพราะผู้เยาว์เพียงคนเดียวอย่างงั้นหรือ ? ”

บริเวณทางด้านข้าง เยี่ยจงทอสีหน้าแปลกใจขึ้นมา ราวกับว่าระหว่างนั้นเข้าใจขึ้นมาหลายส่วน ว่าเพราะอะไรในช่วงสถานการณ์คับขันเช่นนี้ ชนชั้นมหาราชันแห่งเผ่ามนุษย์ผู้นี้ถึงกับปรากฏกายลงมือออกมา จากความหมายที่ได้กล่าวออกมา ซือคงจาผู้นี้มิได้มีจิตใจที่ละโมบ เพียงแต่ว่าเพราะว่าทุกผู้คนนั้นต่างก็ถือได้ว่าเป็นเผ่ามนุษย์เฉกเช่นเดียวกัน

คำว่าเป็นเผ่ามนุษย์เฉกเช่นเดียวกันนี้ หากมองในระดับต่ำย่อมมีคุณค่าที่น้อยนิดอย่างยิ่ง แต่ว่าหากมองจากเบื้องสูงลงมา กลับเปรียบดั่งสิ่งที่ชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์ซือคงจาผู้นี้มองออกมาด้วยความลำบากใจเช่นนี้

ควรทราบว่า ตอนนี้เยี่ยจงสามารถที่จะเรียกได้ว่าเป็นศัตรูกับทั่วทั้งดินแดนไปแล้ว ในช่วงเวลาเช่นนี้เขายังปรากฏตัวขึ้นมา ก็เป็นเหมือนกับต้นกล้าที่ผุดขึ้นมาแต่กลับมีศัตรูนับไม่ถ้วน ไม่ว่าชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์ผู้นี้เบื้องหลังนั้นที่แท้จะมีเป้าหมายอะไร ต่างก็ทำให้ผู้คนรู้สึกทอดถอนใจออกมา เกรงว่าจะมีความผูกพันกันคำว่าเผ่าพันธุ์นี้อย่างแท้จริง หรืออาจจะเป็นได้ไปว่าเผ่ามนุษย์ภายใต้ทั่วทั้งฟ้าดินแห่งนี้จะมีเพียงชนชั้นมหาราชันผู้เดียวเท่านั้น ที่จะลงมือเช่นนี้ออกมาได้

“ซือคงจา อย่าได้กล่าววาจาไร้สาระอีกเลย ! ที่เจ้ากล่าวออกมามากมายเพียงนี้ แทบจะไม่มีสาระอันใดเลยแม้แต่น้อย เจ้าก็ตอบกลับข้าเพียงประโยคเดียว ว่าตอนนี้ใช่ต้องการที่จะเข้ามาสอดมือใช่หรือไม่ ขัดขวางเรื่องของข้างั้นหรือ ? ” บนใบหน้ามหาราชันปีศาจทุนเทียนก็ได้ปรากฏอารมณ์อดกลั้นเอาไว้ มันสูดลมหายใจเข้ายาวๆ คำหนึ่ง ยิ้มขึ้นอย่างเย็นชาเอ่ยปากกล่าว

“เผ่ามนุษย์นั้นถือได้ว่าแตกต่างจากเผ่าพันธุ์อื่น ยากนักที่จะเกิดตำนานอย่างร่างศักดิ์สิทธิ์ไท่กู่ขึ้นมา หากว่าปล่อยให้ตายตกไป กล่าวไปจากมุมมองของเผ่าข้า ถือได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ส่วนความคิดของชนชั้นมหาราชันคนอื่นๆ นั้นข้าไม่อาจที่จะทราบได้ แต่ว่าข้าซือคงจานับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่ให้ผู้อื่นแตะต้องเขาได้” ซือคงจากล่าวออกมาอย่างเรียบเฉย ตอนนี้เขาถือได้ว่ายอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ถือได้ว่าเป็นการปล่อยวางที่เกินกว่าธรรมดา

“ซือคงจา พวกเจ้าเผ่ามนุษย์คิดที่จะต้องการเป็นปรปักษ์กับพวกเราหมื่นเผ่าพันธุ์ให้ได้จริงอย่างงั้นหรือ ? ผู้เยาว์เช่นนี้ที่แท้ทำอะไรกันแน่ เจ้าทางที่ดีคิดให้ละเอียดถี่ถ้วน หากว่าหมื่นเผ่าพันธุ์ร่วมมือกัน ต่อให้พึ่งพามหาราชันหลายคนของพวกเจ้า จะต้านทานไว้ได้อย่างงั้นหรือ ? เจ้าทางที่ดีคิดให้ละเอียด อย่าได้ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่” ภายในดวงตาของมหาราชันปีศาจทุนเทียนในตอนนี้ก็ได้แปรเปลี่ยนจนกลายเป็นเจ็บปวดขึ้นมา มันในตอนนี้ บริเวณทางด้านหลังก็ได้ปรากฏเงาของปีกปักษาขนาดใหญ่ขึ้นมาก็ปาน พลังแห่งปีศาจอันเยือกเย็นและเข้มข้นก็ได้แผ่กระจายออกมาจากภายในร่างกายของเขา หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นหมอกควัน

“มหาราชันปีศาจทุนเทียน ในฐานะสหายเก่า เจ้าจะไม่เห็นแก่หน้าในครั้งนี้ให้ข้าเลยอย่างงั้นหรือ ? เจ้าข้าต่างก็รู้อยู่แก่ใจ ต่อให้ได้ครอบครองคัมภีร์โบราณต้องห้ามในตำนานได้จริง เช่นนั้นยังไงซะก็ไม่อาจที่จะตกไปอยู่ในการครอบครองของเขาได้อยู่ดี การที่ตำนานของสายโลหิตแห่งจักรพรรดิฟ้าตะวันตกปรากฏสู่ดินแดน เขาจึงจะเป็นผู้ที่มีความสามารถที่เพียงพอที่จะครอบครองม้วนคัมภีร์ลับนี้ได้ทั้งสองเล่ม ที่สุดแล้วก็คงจะสามารถครอบครองสายทางแห่งดวงตะวันได้เพียงแค่เล่มเดียว เพียงเพื่อเศษม้วนคัมภีร์เพียงม้วนเดียว จำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้งั้นหรือ ? ไม่เช่นนั้นแล้วละก็ เจ้าที่เป็นถึงมหาราชันปีศาจทุนเทียน ทอดตากว้างไกลไปทั่วแดน อีกทั้งยังเป็นที่จับตามองของทุกหนแห่ง ! ” ซือคงจากล่าวออกมาอย่างเย็นชา กำลังพูดโน้มน้าว คล้ายกับเป็นเหตุและผลเพียงหนึ่งเดียว

“ต่อให้จะมีเพียงแค่ส่วนพลังยุทธ์ขั้นก่อฟ้าแค่ส่วนเดียวแล้วจะอย่างไร ? ถ้างั้นในเมื่อองค์จักรพรรดิฟ้าตะวันตกนั้นเหลือทิ้งสายทางแห่งดวงตะวันเอาไว้ เจ้าข้าต่างก็ทราบดี ว่าสิ่งของชนิดนี้แน่นอนว่าย่อมต้องมีประโยชน์มหาศาล อย่าว่าแต่จะสามารถช่วยให้พวกเราพบกับโอกาสที่ก้าวสู่อีกระดับได้ ก็ยังถือได้ว่าเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล ! ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา ภายในดวงตาก็ได้เปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมา “คัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ ข้าสามารถที่จะไม่เอาก็ได้ แต่ว่าสายทางแห่งดวงตะวัน ข้ายังไงก็ต้องครอบครองให้ได้ ! ”

“ดูเหมือนว่า ข้าคงไม่อาจที่จะโน้มน้าวเจ้าได้อีกแล้ว” ซือคงจาส่ายหน้า กำลังถอนหายใจ

“มีวาจาไร้สาระมากมายเท่าใดกัน สังหารเจ้าลง แล้วค่อยชิงคัมภีร์ก็แล้วกัน” มหาราชันปีศาจทุนเทียนทอดวงตาเป็นประกายคมกล้าอย่างไร้ที่เปรียบ ประดุจดั่งมารปีศาจแผ่กระจายพลังรังสีออกมา “วันนี้ข้าจะสังหารเจ้าทิ้ง ใช้กำลังมาคุยกันเถอะ ! ”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นก็ช่างมันเถอะ ! ” ประกายแสงสีรุ้งเทวะก็ได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณทางด้านหลังของซือคงจา เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็ได้ฟาดออกไปหนึ่งฝ่ามือไปบริเวณทางด้านหน้า จนก่อเกิดการร่ายระบำของพลังเทวะออกมา

“น่าจะลงมือเสียตั้งแต่แรก กล่าววาจาไร้สาระมาตั้งนาน มีประโยชน์อะไรกัน ? ” มหาราชันปีศาจทุนเทียนยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา ตอนนี้เขาก็ยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา บริเวณหว่างคิ้วก็ได้ผนึกรวมพลังปีศาจจนก่อเกิดกระบี่คมกล้าเล่มหนึ่ง มีพลังแรงกดดันสยบผู้คน มุ่งหน้าพวยพุ่งออกมายังบริเวณทางด้านหน้า ต้านทานการโจมตีของซือคงจา

“ตูม——”

ความน่ากลัวของชนชั้นมหาราชันกดดันจนในขณะนี้แผ่กระจายตัวกันออกไป ทั่วทั้งฟ้าก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยเงาบางอย่างอยู่ประดุจถูกห่อเกี๊ยวก็มิปาน จนทำให้เกิดรอยแตกร้าวขึ้นตามพื้นดินอยู่นับไม่ถ้วน

“ผู้อาวุโส” เยี่ยจงส่งเสียงออกมา มหาราชันปีศาจทุนเทียนมองเข้ามาด้วยพลังแรงกดดันของปีศาจพุ่งเข้ามา เขาจึงเริ่มที่จะเป็นห่วงซือคงจาอยู่หลายส่วน

“ช่างเถอะ เขาจะทำอย่างไรข้าได้กัน ข้าทราบว่าเจ้านั้นได้ครอบครองวิชาเฉพาะของเผ่ามนุษย์เอาไว้ จงรีบถอยออกไป วันข้างหน้าก็ระวังไว้ ข้าช่วยเจ้าได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ใช่ว่าจะสามารถช่วยเหลือเจ้าได้เป็นครั้งที่สอง ! ” ซือคงจาส่งเสียงออกมา ในเวลาเดียวกันก็ได้กดฝ่ามือลงไป พลังแรงกดดันก็ได้ปกคลุมอยู่ตลอดทั่วทั้งร่างกายของผู้คน

“ไป ! อย่าได้พลาดโอกาสนี้ไป ! ” เสี่ยวหลุนเอ่ยขึ้นมาเสียงแผ่วเบา เพื่อกระตุ้นเยี่ยจง

“บุญคุณครั้งใหญ่นี้จะไม่ขอลืมเลือน ! ”

เยี่ยจงยกมือขึ้นคารวะไปยังทางด้านของซือคงจาที่อยู่ท่ามกลางอากาศ จากนั้นก็ได้ย่างกรายใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ร่างกายก็มุ่งหน้าถอยหลังออกไปบริเวณทางด้านหลังประดุจสายฟ้าหอบหนึ่งก็มิปาน หลุดรอดออกไปจากเขตแดนของเมืองซร่าซวีผืนนั้น

“เจ้า——”

กลุ่มพระยาปีศาจต่างก็กระโดดหนีขึ้นพร้อมกัน แต่ว่าไม่นานนักก็ได้ถูกพลังแรงกดดันของชนชั้นมหาราชันซือคงจากดดันเอาไว้ จนทรุดล้มลงกับพื้น

“ตูม——”

มหาราชันปีศาจทุนเทียนในขณะนี้เองก็ได้ลงมือโดยใช้พลังทั้งหมดออกมา จนก่อเกิดพลังปีศาจขึ้นมาอย่างเข้มข้น ตลอดทั่วทั้งร่างกายบนล่างของซือคงจาก็ได้มีพลังสีรุ้งหมุนวนไปมา ใช้พลังทั้งหมดเข้าต้านทานพลังการโจมตีของมหาราชันปีศาจทุนเทียนเอาไว้

ในขณะนี้เอง ชนชั้นระดับมหาราชันทั้งสองคน ก็เริ่มต้นที่จะปะทะกันแล้ว

บริเวณที่ห่างไกล เยี่ยจงหันหน้ากลับไปมองคราหนึ่ง นี้ถือได้ว่าเป็นศึกของผู้ที่อยู่ในระดับสูงสุดแห่งยุค ที่ยากจะพบพานได้ อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นการปะทะของชนชั้นมหาราชันอย่างแท้จริงได้ หากว่าสามารถที่จะคอยจับตามองแล้วละก็ ย่อมต้องมีประโยชน์ต่อการฝึกปรือต่อเขาอย่างมากมายมหาศาล

ทว่าเยี่ยจงในตอนนี้กลับมิได้หยุดลง เพียงแต่ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ ไม่หันหน้ากลับไปอีก พริบตาเดียวก็ได้หายลับขอบฟ้าไป

จากนั้นก็ได้ใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบถอยหนีไปไกลกว่าเกือบพันลี้ เยี่ยจงเริ่มต้นที่จะหาที่ตั้งในการจัดวางค่ายกล จากนั้นจึงได้เลือกพื้นที่หนึ่งเพื่อทะยานออกไป จากนั้นจึงได้พลิกมือใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือต่างๆ

ในครั้งนี้ชนชั้นมหาราชันเผ่ามนุษย์ซือคงจาได้ลงมือ ให้โอกาสของทางรอดให้แก่เยี่ยจงสายหนึ่ง และตอนนี้เขาก็ได้คว้าหนทางรอดเช่นนี้เอาไว้ หลบหนีออกไปจากพื้นที่แห่งนี้

“เป็นดวงชะตาที่แข็งแกร่งยิ่งนัก มหาราชันปีศาจทุนเทียนแห่งหุบเขาหมื่นปีศาจลงมือด้วยตนเอง ถึงกับยังปล่อยให้เจ้าหนีมาได้ ดูเหมือนว่า พวกเราจะดูแคลนเจ้าไปหน่อยแล้วละ ! ”

บริเวณทางด้านหน้า ก็ได้มีสุ่มเสียงอันเย็นเยียบดังออกมา ด้านบนของยอดเขา ก็ได้มีชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมไว้ด้วยชุดไว้ทุกข์ยืนกอดอกเอาไว้อยู่ จ้องมองมาอย่างเย็นชาไปทางด้านของเยี่ยจง ทอสีหน้าเย็นเยียบอย่างถึงขีดสุด

ราวกับว่าในเวลาเดียวกันนี้ บรรยากาศตลอดรอบด้านก็ได้ทวีเพิ่มขึ้นมา จนปรากฏอยู่ตลอดทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน ขัดขวางเส้นทางทั้งหมดของเยี่ยจงเอาไว้

เยี่ยจงยกมือขึ้นป้องกัน ไม่ทราบจะกล่าวอะไรออกมา คิดไม่ถึงว่าจะมาจนถึงขั้นนี้ได้ ถึงกับยังมีคนลงมือ เข้าขัดขวางตนเอง

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset