เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 464 การเข่นฆ่าสังหารครั้งใหญ่

ตอนที่ 464 การเข่นฆ่าสังหารครั้งใหญ่

เข้ามิได้ถอยไม่ออก ! ถือได้ว่าเป็นความจริงที่ได้เกิดขึ้น และก็เป็นความโหดร้ายอย่างแท้จริง แทบจะไม่มีตัวเลือกใดให้แก่พวกเขาอีก !

ในช่วงเวลาที่ฆ่าสังหารไปยังหัวมุมหนึ่งของหุบเขา ยอดฝีมือไม่น้อยต่างก็เริ่มที่จะเข้าใจอย่างกระจ่างแล้วว่านี้คือความจริงที่เกิดขึ้นของพวกเขาขณะนี้ แม้ว่าเยี่ยจงจะมิได้เอือนเอ่ย แต่ว่าในครั้งนี้เสี่ยวหลุนก็คิดที่จะทำอะไรเล่นอะไรดูเสียหน่อย นำสมบัติปราณทั้งหมดวางทิ้งเอาไว้ ดังนั้น ในบริเวณทางด้านมุมหนึ่งของค่ายกลขนาดใหญ่ มันก็ได้จัดวางเอาไว้มากเป็นพิเศษ เต็มเปี่ยมไปด้วย” ของชอบ” แต่ละชนิด ยอดฝีมือมากมายที่พึ่งจะเข้าไปใกล้ยังตำแหน่งนั้น ก็ได้กลายเป็นซากศพไปในทันที ตายจนไม่อาจที่จะตายลงไปได้อีก

และบริเวณทางด้านหลัง เพลิงกาฬสีดำก็ได้ดีดออกประดุจกำลังร่ายระบำอย่างรื่นเริงก็มิปาน อีกทั้งยังสามารถที่จะคร่าชีวิตของผู้คนไปอย่างง่ายดาย ประดุจดั่งภาพวาดที่มีความงดงามอย่างถึงที่สุดในตอนแรก แต่ว่าในขณะนี้ กลับแปรเปลี่ยนจนกลายเป็นแดนมรณะช่วงชิงชีวิตผู้คนก็มิปาน ยังคงคร่าชีวิตของยอดฝีมือไปอย่างไม่ขาดสาย

“จำเป็นที่จะต้องฆ่าเขา ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำลายค่ายกลนี้ได้แล้ว ! ”

ยอดฝีมือระดับเทวะขั้นที่สามที่หลงเหลืออยู่สี่คนก็ได้มีปฏิกิริยากลับมาในเวลาเดียวกัน พวกเขาขณะนี้ทั้งรุกมิได้ถอยไม่ออก หนึ่งในตัวเลือกที่หลงเหลือเอาไว้เพียงอย่างเดียว ในขณะนี้เอง พวกเขาก็มีแต่เพียงมุ่งหน้าเข้าไปยังบริเวณทางด้านที่เยี่ยจงอยู่ในเวลาเดียวกัน คิดที่จะฆ่าสังหารเขาลงไปในทันที

“ชิชิชิ——”

เยี่ยจงทอสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ดีดนิ้วไปมาเบาๆ ระหว่างความเคลื่อนไหวของเขา ก็ได้มีประกายเพลิงสีดำสาดออกมาปกคลุมไปทั่วทั้งบริเวณประดุจคมกระบี่สายฝนออกมา มุ่งหน้าพวยพุ่งเข้าไปยังทางบริเวณที่ชนชั้นราชันพลังเทวะระดับที่สามคนที่สี่อยู่

“อา——”

ชนชั้นราชันพลังเทวะระดับที่สามก็ได้กรีดร้องออกมาก่อน ในพริบตานี้เองเขาก็ได้ถูกทุบแหลกลาญจนกลายเป็นปุ๋ยผง ไม่หลงเหลือแม้แต่เลือดเนื้อเอาไว้

“อา——”

ส่วนชนชั้นราชันพลังเทวะระดับที่สามอีกคนก็ได้มีรูแหว่งสีดำมืดปรากฏขึ้นตรงกลางอก เขานั้นมีสีหน้าที่ไม่อยากที่จะเชื่อว่าจะต้องมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ได้ เมื่อถึงช่วงเวลาที่กำลังจะตายลงก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ว่าตนเองจะต้องมาตายตกลงไปอย่างง่ายดายเช่นนี้

ทว่าเขาก็ยังถือได้ว่าเป็นบุคคลแรกที่หลงเหลือกระดูกเอาไว้ได้หลังข้ามพ้นจากค่ายกลสังหารไร้อนันต์นี้ เพียงแค่นี้ก็เป็นเครื่องบ่งบอกได้แล้วว่าเขานั้นมีความแข็งแกร่งถึงเพียงไหน

“ชิ——”

เยี่ยจงถอยออกไป เกี่ยวกับค่ายกลสังหารไร้อนันต์นี้เขาย่อมเกิดความคุ้นเคยขึ้นมาอย่างมาก ในขณะนี้เอง เขาทั้งคนราวกับเป็นผู้ตัดสินการประหารผู้คนไปก็มิปาน เพียงแต่ถอยไปเล็กน้อย ท่ามกลางบรรยากาศของสถานที่แห่งนี้ก็ได้เกิดความเคลื่อนไหวไปมา จนเกิดพลังเพลิงไฟสีดำปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วนในเวลาเดียวกันเข้าไปยังบริเวณทางด้านร่างกายของชนชั้นราชันพลังเทวะระดับที่สามคนที่สามในตอนนี้

“เปรี้ยง——”

ชนชั้นราชันพลังเทวะระดับที่สามคนที่สามพริบตานั้นร่างกายก็ประดุจลูกหน้าที่เปี่ยมไปด้วยลมก็มิปาน สั่นไหวไปมาเบาๆ จากนั้นก็ได้แตกกระจายไปในทันที จนลอยหายไปในที่สุด

“ยังมีเจ้า——”

เยี่ยจงเดินมือไพล่หลังไปอย่างช้าๆ มุ่งหน้าไปทางด้านหลังบริเวณทางด้านของชนชั้นราชันพลังเทวะระดับที่สามราวกับมัจจุราชก้าวเดินออกไป ในขณะนี้เขามิได้ใช้ออกมาด้วยค่ายกลสังหารไร้อนันต์ เพียงแต่ทอประกายแสงสีทองไหลเวียนแผ่กระจายไปตลอดทั่วทั้งร่างกาย

“ข้าอยากที่จะลองทดลองดูมาตั้งแต่แรกแล้ว ว่าที่แท้กายาทองไม่สูญสลายข้าร้ายกาจ หรือว่าจะเป็นกายเนื้อของชนชั้นระดับราชันร้ายกาจ เจ้าถือได้ว่าเป็นคู่ทดสอบที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ! ” หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงก็ได้ก้าวเท้าเดินออกไป ร่างกายก็ได้พุ่งออกไปประดุจสายฟ้าแลบ กรีดนิ้วติดต่อกันออกไปบริเวณทางด้านหน้า

ยอดฝีมือระดับเทวะขั้นที่สามผู้นี้ตามปกติมีความแข็งแกร่งอย่างไร้ที่เปรียบ แต่ว่าขณะนี้เขาเพื่อที่จะต้านทานค่ายกลสังหารไร้อนันต์เอาไว้ ก็ได้สูญเสียพลังเทวะทั้งหมดไปอยู่ไม่น้อย ในขณะนี้เอง เขาก็ได้แต่เพียงตัดสินใจยกมือทั้งสองข้างขึ้นมา เพื่อต้านทานทางด้านหน้าร่างกาย

“เปรี้ยง——”

เลือดเนื้อก็ได้แตกกระจายออกไป แขนของราชันผู้นี้พริบตานั้นแตกระเบิดออก จากนั้นร่างกายของเขาก็ได้สั่นไหวขึ้นมายังท่ามกลางอากาศ บนใบหน้าแฝงเอาไว้ด้วยคล้ายกับได้เหยียบเข้าไปยังขวากหนามอย่างช้าๆ บริเวณใจกลางหว่างคิ้วของเขา ก็ได้มีรอยโลหิตขนาดใหญ่เท่าหัวแม่มือปรากฏขึ้นมา จนกระทั่งมีรอยโลหิตไหลรินออกมา

“กายเนื้อชนชั้นมหาราชัน ก็มิได้มีอะไรต่างซะหน่อย อ่อนแอไปนะ ” เยี่ยจงจ้องมองไปยังฉากเบื้องหน้าด้วยท่าทีที่เย็นชา มิได้มีสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่อย่างไร

ควรทราบว่า เขาไม่เพียงสำเร็จวิชากายเนื้อไม่สูญสลายในระดับสูงสุดเท่านั้น อีกทั้งยังได้เข้าสู่พลังกายาทองไม่สูญสลาย ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงระดับความสำเร็จระดับเล็กเท่านั้น แต่ว่าความแข็งแกร่งของกายเนื้อ ก็ถือได้ว่ายากที่จะพบพาน ชนชั้นราชันมากมายเมื่อได้เข้าสู่ระดับพลังถึงขั้นนี้ ต่างก็มีพลังฝึกปรือจนถึงขั้นก่อเกิดระดับที่เจ็ดเท่านั้นเอง เป็นแค่กายเนื้อเพียงถ่ายเดียว มีหรือที่จะสามารถเทียบเคียงได้กับของเยี่ยจงงั้นหรือ ?

“อา——”

ท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ ก็ได้มีกรีดร้องดังออกมาอย่างเจ็บปวดดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน ท่าทีของเยี่ยจงนั้นถือได้ว่าไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ประดุจดั่งเทพเซียน ลงมือโดยที่กำลังกอดอก อยู่ในท่าทีที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง แต่ว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้ว่าจะมียอดฝีมือระดับเทวะขั้นที่สามถึงห้าคนที่ยังถูกสังหารไปอย่างไม่ใส่ใจได้อย่างงั้นหรือ ? และบุคคลสุดท้าย ก็ยังคงถูกเขาใช้เพียงการดีดนิ้วเพื่อทำการระเบิดสังหารออกไป ฉากเบื้องหน้านี้ ทำให้ชนชั้นระดับราชัน ชนชั้นระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันอื่นๆ ในสถานที่แห่งนี้สามารถเกิดความหวาดกลัวได้ถึงเพียงนี้เชียวงั้นหรือ ? ผู้คนมากมายทั้งหมดต่างก็ได้กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แม้แต่ชนชั้นราชันพลังเทวะระดับที่สามก็ยังต้องตายตกลง แล้วในขณะนี้จะมีผู้ใดกันที่จะสามารถที่หยุดยั้งเยี่ยจงได้กัน ?

“ฝ่าออกไป ! จะต้องฝ่าออกไปได้อย่างแน่นอน อย่าว่าแต่มีแค่เพียงคนเดียวที่จะออกไปได้เลย ยังไงเสียก็อย่าได้ปล่อยเจ้าบัดซบนี้เอาไว้ ! ” คนมากมายก็ได้บ้าคลั่งขึ้นมา จากนั้นก็ได้ถอยออกไปทางด้านหลังไปอีกครั้งอย่างบ้าคลั่ง คิดที่จะใช้ชีวิตเข้าแลกเพื่อที่จะสร้างเส้นทางสายหนึ่งขึ้นมา

“เจ้าบัดซบน้อยที่น่าตาย เจ้าคงคิดไม่ถึงว่าพวกเรา ขอเพียงมีชีวิตต่อไปได้ พวกเราหุบเขาหมื่นปีศาจจะหั่นเจ้าเป็นร้อยครั้งร้อยครา ! ” ราชันปีศาจของหุบเขาหมื่นปีศาจก้าวเท้ากระโดด ตะโกนออกมาอย่างหวาดเกรง

“ตูม——”

เยี่ยจงกรีดนิ้วออกไปคราหนึ่ง ประกายเพลิงกาฬสีดำสายหนึ่งก็ได้ฆ่าสังหารออกไป จนทำให้ราชันปีศาจที่เอ่ยปากขึ้นมาต้องแหลกลาญจนกลายเป็นปุ๋ยผงไป

“ตูมตูมตูม——”

เรื่องเมื่อได้เกิดขึ้นมาจนถึงขั้นนี้แล้ว ค่ายกลสังหารไร้อนันต์ก็ได้ถึงใช้ออกมาจนถึงในระดับที่สุด ตลอดทั่วทั้งหุบเขา บริเวณสี่ด้านต่างก็ได้ปกคลุมไปด้วยเพลิงไฟสีดำ ราวกับออกมาจากความมืดมิดก็มิปาน

ในขณะนี้เอง ทั่วทั้งฟ้าดินประดุจดั่งกลายเป็นคมดาบขนาดใหญ่ขึ้นมาก็มิปาน ถูกเด็ดชีวิตไปอย่างไร้เยื่อใย มียอดฝีมือร่างกายสูญสลายกลับกลายไม่หยุด ไม่หลงเหลือแม้แกระดูก ไม่อาจที่จะไม่ยอมรับว่า ฉากเบื้องหน้านี้ถือได้ว่าเป็นเหมือนดั่งการลงมืออย่างหมดจดเลยก็ว่าได้

พลังทำลายของค่ายกลสังหารไร้อนันต์นี้ เรียกได้ว่าได้อยู่นอกเหนือไปจากที่เยี่ยจงคาดเดาเอาไว้ไปมาก ตามความคาดหมายของเยี่ยจงเดิมที พลังทำลายของค่ายกลสังหารไร้อนันต์นี้แม้จะไม่ธรรมดา สมควรที่จะยังต้องไล่ฆ่าสังหารยอดฝีมือเหล่านี้มิถึงกับจนมุมถึงเพียงนี้ แต่ว่าขณะนี้การที่มันใช้ออกมาด้วยพลังฝีมือที่ยากเกินกว่าจะคาดเดาเอาไว้ได้ อีกทั้งเยี่ยจงยังทราบว่า ขณะนี้ตนเองได้ให้เสี่ยวหลุนไปจัดตั้งค่ายกลสังหารไร้อนันต์ ยังคงถือได้ว่ามีข้อบกพร่องอยู่ หากว่าสามารถที่จะจัดวางค่ายกลได้สำเร็จสมบูรณ์แล้วละก็ เกรงว่าแม้แต่ชนชั้นมหาราชันก็ยังพอที่สามารถที่สังหารลงได้แล้วกระมั่ง ?

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนี้ ค่ายกลสังหารไร้อนันต์นี้ขณะนี้ที่จัดได้ว่าอยู่ในระดับค่ายกลยันต์ปราณระดับที่สี่ สิ่งมีชีวิตในดินแดนเหล่านี้ ขอเพียงมิได้หลุดพ้นจากระดับราชัน สำเร็จสู่ระดับมหาราชันแล้วละก็ เมื่อตกมาอยู่ภายใต้ค่ายกลเช่นนี้ ก็มีแต่ตายเพียงสถานเดียวเท่านั้น แม้แต่การจะหลุดจากที่แห่งนี้ก็ยังยาก

จากความเคลื่อนไหวต่างๆ ก็ได้มีทักษะเซียน รวมไปจนถึงสมบัติเซียนปล่อยออกมา ขณะนี้เอง กลับไม่มีประโยชน์แม้แต่นิดเดียว

อาภรสีขาวของเยี่ยจงพลิ้วไหวไปมา ค่อยๆ ที่จะก้าวออกไปท่ามกลางอากาศอย่างช้าๆ ประดุจดั่งยมทูตสีขาวกำลังรวบรวมชีวิตต่างๆ เอาไว้ แล้วก็ได้เกิดประกายแสงสีดำสาดระบำไปมาไม่ขาดสายไปกว่าร้อยพันรอบอย่างน่าหวาดกลัว ขอเพียงกวดเข้าไปโดนยอดฝีมือ แน่นอนว่าจะต้องกลายเป็นกองขี้เถ้าเท่านั้น

“อา——”

เสียงกรีดร้องออกมาดังเสียดหูไม่ขาดสาย ฉากเบื้องหน้านี้ถือได้ว่าโหดเหี้ยมจนมากจนเกินไปแล้ว เกิดการแตกระเบิดของซากศพขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ถึงแม้ว่าจะไม่มีเลือดเนื้อลอยกระเด็น แต่ก็ยังคงมีโลหิตสดๆ หลั่งรินราวกับสายธาร แต่ว่าท่ามกลางสถานที่แห่งนี้ก็เรียกได้ว่าเกิดการมอดไหม้เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ

หลายวันที่ผ่านมานี้ คนกลุ่มนี้ไล่ล่าสังหารต้อนจนเยี่ยจงไม่อาจที่จะรอดพ้นได้ เกือบที่จะต้องตายลงหลายต่อหลายครั้ง เพื่อที่จะช่วงชิงสายทางแห่งดวงตะวันและคัมภีร์กฎแห่งสวรรค์ คนที่ลงมือต่อเขานั้นเรียกได้ว่ามีอยู่มากมายกายกองเลย ขณะนี้ภายในคนเหล่านี้ เรียกได้ว่ามีอยู่อย่างล้นหลามเป็นภูเขาเลากา อีกทั้งยังไม่อาจที่จะปล่อยให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว

กล่าวได้ว่า การต่อสู้ครั้งนี้ ถึงแม้ว่าการลงมือของเยี่ยจงจะเป็นไปอย่างราบรื่นอย่างมาก แต่ว่าในเวลาเดียวกันก็ถือได้ว่าเป็นการต่อสู้ที่น่าหวาดกลัวที่สุด ไม่ว่าเมื่อครั้งก่อนเขาจะแสดงความเหนือชั้นมามากมายแค่ไหน อีกทั้งยังได้ฆ่าสังหารราชาปีศาจ พระยาปีศาจ ภายในดินแดนขนาดเล็กแห่งศิลาตะวันบริสุทธิ์มากแค่ไหนก็ยังไม่อาจที่จะเทียบได้กับฉากเบื้องหน้านี้ที่พอที่จะทำให้ผู้คนแตกตื่นขึ้นมาได้จนถึงเพียงนี้

นี้เรียกได้ว่าเปลี่ยนจนกลายเป็นสนามรบแห่งหนึ่งไปแล้ว เลือดเนื้อทั้งหมดต่างก็ได้ซึมหายไปภายในดิน ราวกับซึมซับเข้าหล่อเลี้ยงผืนดินเพิ่มขึ้นอีกชั้นหนึ่ง

“คนเหล่านี้ต่างก็ถือได้ว่าเป็นสุดยอดฝีมือ บนร่างย่อมต้องมีสมบัติอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ว่า ฆ่าคนพวกนี้ไปไม่คิดว่าเยอะไปหน่อยหรอกอย่างงั้นหรือ ? ” เสี่ยวหลุนลอยกลับมา ร่วงหล่นลงมายังไหล่ของเยี่ยจง ต่อให้เป็นมัน ขณะนี้ก็ยังต้องถอนหายใจแล้วกล่าวออกมามิได้

“ในเมื่อเปิดการเข่นฆ่าครั้งใหญ่แล้ว จะหยุดได้ยังไงกันเล่า ? หากว่าปล่อยคนเหล่านี้ไปแล้วละก็ หรือว่าจะสำนึกบุญคุณอีกกัน ? ไม่ลงมือมาก็ยังแล้วกันไป ในเมื่อลงมือต่อข้า ก็สมควรที่จะต้องตายไปเสียให้หมด ” เยี่ยจงกล่าวออกมาอย่างเย็นชา

“จัดการกับคนพวกนั้นเสร็จหรือยัง ? ” เขาหันกลับมา มองเข้าไปยังทางด้านหลัง

“เสร็จแล้ว เจ้าไปดูได้เลย” เสี่ยวหลุนหัวเราะไปมา จากนั้นก็ได้กวาดประกายสีขาว ลอยออกมาจากกลุ่มก้อนที่เต็มไปด้วยสมบัติเซียนกองเต็มไปหมด มันเริ่มที่จะยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้กินอาหารเช่นนี้ลงไป

เยี่ยจงมิได้มองไปที่มัน เพียงแต่หันกายกลับมา เข้ามายังบริเวณทางด้านหน้าของคนชุดไว้ทุกข์ในทันที จ้องมองไปที่คนเหล่านี้อย่างเย็นเยียบ

“เจ้า——”

คนชุดไว้ทุกข์จ้องมองเยี่ยจง สีหน้าแฝงเอาไว้ด้วยความหวาดกลัวขึ้นมาชนิดหนึ่งอย่างถึงที่สุด บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ เยี่ยจงในวันนี้ถือได้ว่าแสดงท่าทีจนเกินกว่าคำว่าธรรมดา ต่อให้เป็นเขาก็ยังมองดูจนเกือบที่จะสลบลงไปได้เลยทีเดียว

นับแต่โบราณกาลจนถึงวันนี้ มีสุดยอดรุ่นเยาว์ที่ไหนกันที่หาญกล้ากระทำเช่นนี้กัน ? เขาทราบหรือไม่กันว่าวันนี้เขาที่แท้ได้ฆ่าสังหารผู้คนมากน้อยแค่ไหนกัน ?

“เจ้า จะต้องไม่ได้ตายดีแน่ ! เยี่ยจง เจ้าทราบหรือไม่ว่าเจ้าในวันนี้ได้เข่นฆ่าสังหารคนจากที่ใดไปบ้างกัน ? แดนลับแล ตระกูลโบราณเก่าแก่ เผ่ามนุษย์กู่กวอ สิ่งมีชีวิตจากหมื่นเผ่าพันธุ์ เจ้าสังหารผู้คนไปมากมาย มากมายจนเกินไปแล้ว จะต้องไม่มีคนยอมปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน ! ” คนชุดไว้ทุกข์ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน จ้องเขม็งไปที่เยี่ยจง ภายในดวงตาทอประกายคมกล้าไม่หยุด

“ข้าก็ทราบอยู่แล้วว่าพวกเขานั้นไม่ปล่อยข้าไปแน่ เพียงแต่ว่า ข้าต้องการที่จะทำให้ทั้งหมดทราบว่า หาญกล้าที่จะลงมือต่อข้าแล้วละก็ เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นคนอะไร ต่างก็ย่อมจำเป็นที่จะจ่ายออกมาด้วยค่าตอบแทนเช่นเดียวกัน ” เยี่ยจงยิ้มน้อยๆ จากนั้นเขาก็ได้ยื่นมือเพื่อลงมือ ค่อยๆ ที่จะกดเข้าไปยังบริเวณหน้าอกของคนชุดไว้ทุกข์ แต่ก็หัวเราะแล้วกล่าวคราหนึ่ง “ตอนนี้ ข้าจะให้โอกาสแก่เจ้าหนึ่งครั้ง แม้แต่คนที่ต้องการจะขอร้องก็ยังไม่มีโอกาสที่จะขอร้อง ขอเพียงเจ้าบอกต่อข้า ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังเจ้านั้นที่แท้เป็นผู้ใดแล้วละก็ เช่นนั้นข้าก็จะปล่อยเจ้าจากไป เป็นอย่างไร ? ”

คนชุดไว้ทุกข์จ้องเขม็งไปด้วยสายตาที่ดุร้าย หลังจากนั้นเขาก็ได้หัวเราะขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด กล่าว : “เบื้องหลังของข้ายังจะมีใครได้กันอีก ? เจ้าต้องการที่จะให้ข้าขายสำนักของตัวเองอย่างงั้นหรือ ? เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่มีวันบอกต่อเจ้าหรอก ! ”

“งั้นหรือ ? เช่นนั้นข้าก็คงต้องเปลืองเรี่ยวแรงอีกสักหน่อยแล้ว คงต้องล้วงด้วยตัวเองแล้วละ ” เยี่ยจงหัวเราะไปมา จากนั้นยื่นมือออกมา ใช้ฝ่ามือฟาดเข้าไปยังบริเวณจุดตันเถียนของคนชุดไว้ทุกข์

“อา——”

คนชุดไว้ทุกข์กรีดร้องออกมา ภายในสายตาเผยให้เห็นถึงอาการเหม่อลอย เยี่ยจงถึงกับใช้เพียงฝ่ามือเดียวก็ทำให้เขาพิการได้ ทำให้เขาที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งจนไม่มีอะไรที่ไม่อันกระทำได้ กลับกลายเป็นเพียงบุคคลธรรมดาสามัญเพียงคนเดียว

“เยี่ยจง ! เจ้าไม่ตายดีแน่ ! ” เขาเกิดความอาฆาตขึ้นมาอย่างไร้ที่เปรียบ กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“มีวาจาที่ไหนมากมายถึงเพียงนี้กัน ! ” เยี่ยจงใช้ดัชนีติดต่อกันออกไป กดเข้าไปยังบริเวณใจกลางหน้าอกของเขา ในเวลาเดียวกันพลังปราณก็ได้ไหลหลั่งออกมา ค่อยๆ ที่จะรวมตัวกันเอาไว้

หลังจากนั้น เยี่ยจงจึงค่อยส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา กล่าวออกมาอย่างเย็นชา : “ที่แท้ก็เป็นเจ้า ยอดเยี่ยม เรื่องครั้งนี้ข้าจะจดจำเอาได้ วันหน้าข้าจะต้องไปคิดบัญชีนี้อย่างแน่นอน ”

หลังจากที่สิ้นเสียง เยี่ยจงกรีดนิ้วออกไปคราหนึ่ง จนทำให้พลังที่คนชุดไว้ทุกข์ผู้นี้มีมาทั้งหมดเกิดกายระเบิดจนไม่หลงเหลือแม้กระทั่งศีรษะร่างกาย จากนั้นเขาก็หันกายไป มุ่งหน้าออกไปอีกทางด้านหนึ่ง

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset