เทพยุทธสะท้านภพ – ตอนที่ 475 การปะทะของทักษะยุทธ์

ตอนที่ 475 การปะทะของทักษะยุทธ์

 

 

ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การปะทะกันครั้งแรก ก็สามารถที่จะทำลายทุกอย่างพินาศย่อยยับไปได้อย่างง่ายดาย บนพื้นดินก็ได้ปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมานับไม่ถ้วน ตึกอารามทานบนยอดเขาในขณะนี้ต่างก็ได้ถูกทำลายจนเป็นอากาศธาตุ ความเคลื่อนไหวแบบไร้สภาพก็ได้แผ่ขยายเป็นวงกว้างกระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน เสียงที่ดังนั้นได้ดังเสียดหูจนทำให้คนที่ได้ยินได้ฟังเกิดอาการขนลุก ราวกับสมองจะระเบิด

 

ตลอดมาทั้งหมดทั้งมวลนี้ ในขณะนี้ก็ได้กลายเป็นพื้นที่ราบไปเป็นจำนวนมาก หลงเหลือไว้เป็นเพียงความว่างเปล่าผืนใหญ่ บนพื้นดินเกิดรอยแตกเป็นสาย ดูไปแล้วเป็นที่สยดสยองอย่างยิ่ง ประดุจดั่งวันสุดโลกก็มิปาน

 

ยอดฝีมือทั้งหมดที่จดจ่อกับการต่อสู้ต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมา ผู้คนทั้งหมดพริบตานั้นต่างก็ได้มุ่งหน้าถอยออกไปบริเวณทางด้านหลัง บนใบหน้าแฝงอาไว้ด้วยสีหน้ายากที่จะเชื่อได้ เห็นได้ชัดว่า พวกเขายากที่จะเชื่อได้ว่า ฉากเบื้องหน้าสายตานี้ถึงกับเป็นการลงมือของยอดฝีมือที่อยู่ในระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันสองคนจริงงั้นหรือ

 

“สวนดอกไม้ของข้า!” จงหลี่ยกมือกุมไปที่ศีรษะ ทอใบหน้าแสดงอารมณ์เจ็บปวดขึ้นมา สวนดอกไม้นี้ซึ่งเขาได้ใช้ทั้งเวลาทั้งการทุ่มเทจิตใจขึ้นมาอย่างมากมาย วันนี้กลับเป็นเช่นนี้ เด็กน้อยทั้งสองคนนี้เพียงแค่การปะทะกันเพียงกระบวนท่าเดียวก็ทำลายสถานที่แห่งนี้ไปจดหมด ทำให้เขาเกิดอาการหดหู่ภายในจิตใจจนแทบจะกระอักโลหิตออกมา หากว่ามิใช่ว่าพลังฝีมือไม่เพียงพอแล้วละก็ ขณะนี้จงหลี่คงจะฆ่าสังหารออกไปแล้ว เพื่อที่จะฟาดสือซิ่งใดตายคามือ

 

“ครืน——”

 

บริเวณสถานที่แห่งนี้ ภายในดวงตาของสือซิ่งก็ได้ทอเป็นประกายร้อนแรงขึ้นมา ตลอดทั่วทั้งร่างกายของเขาก็ได้มุ่งหน้าพุ่งออกไปบริเวณทางด้านหน้า ในขณะนี้เอง คมหมัดของเขาก็ประดุจดั่งกลายเป็นพลังยุทธ์อันแสนลี้ลับแขนงหนึ่งก็มิปาน ห่อหุ้มเอาไว้ด้วยพลังแห่งความเยือกเย็นแห่งหยินเอาไว้กลุ่มหนึ่ง มุ่งหน้าเข้าปะทะสังหารออกไปบริเวณทางด้านหน้า ก่อเกิดบรรยากาศเก่าแก่โบราณชนิดหนึ่งปกคลุมออกมา ราวกับว่าพลังหมัดนี้ของเขานั้นมีการคงอยู่มานับแต่โบราณจวบจนบัดนี้ก็มิปาน

 

“ผัวะ——”

 

เยี่ยจงยังคงฝ่ามือฟาดออกไปไม่หยุด ประกายแสงคมกล้าสีทองก็ได้สาดทออยู่บนแขนของเขา พลังกายาทองไม่สูญสลายในขณะนี้ก็ได้ถูกเขาใช้ออกมา จนทำให้ตลอดทั่วทั้งแขนของเขาประดุจดั่งทองคำขึ้นมา และหมัดของสือซิ่งนั้นก็เทียบได้กับความเยือกแข็งสดใหม่ชนิดหนึ่งก็มิปาน

 

“กร๊อบ——”

 

เมื่อทั้งสองเข้าปะทะกันในครั้งที่สอง พลังอันมหาศาลทั้งสองสายอันน่าหวาดกลัวก็ได้เข้าปะทะกันในวินาทีนั้นจากนั้นก็ได้พวยพุ่งขึ้นสู่ฟ้าในเวลาเดียวกัน ประดุจดั่งลมพายุมังกรคลั่งอันน่าหวาดกลัวสองสายก็มิปาน หมุนวนไปทั่วทั้งทศทิศ

 

“กึก——”

 

บนพื้นดินก็ได้เกิดการรอยแตกขึ้นมาอีกครั้ง จนเกิดเสียงที่ดังสนั่นเสียดแก้วหูดังขึ้นมา พื้นดินที่ตามปกติแล้วได้เกิดร่องรอยของหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา แม้กระทั่งก้อนศิลาที่มีมวลความหนาแน่นแต่ละก้อนในขณะนี้ก็ยังต้องแหลกอย่างละเอียด ลอยพุ่งกระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้าน ฉากนี้ประดุจดั่งสิ่งที่ยังไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิตก็ว่าได้

 

เยี่ยจงและสือซิ่ง ประดุจดั่งเทพราชารุ่นเยาว์สองคนเข้าปะทะกันก็มิปาน ต่างก็ถือได้ว่ามีสายตาที่คมกล้าอย่างยิ่ง

 

“เจ้าก้อนหิน (สือโถว-คำเรียกสือซิ่ง) ก็บ้าเกินไปแล้ว พี่เยี่ยจงที่ได้ฝึกกายาทองไม่สูญสลาย เขายังถึงกับสามารถเผชิญหน้าโดยที่ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างเลย ช่างเหนือความคาดหมายจริงๆ !” จงหลี่เกิดอาการตกใจขึ้นมา เรื่องราวเช่นนี้ มิใช่สิ่งที่บุคคลทั่วไปจะสามารถทำได้

 

“ในตำนานเล่าขาน ราชวงศ์รัฐซือนั้นมีวิชาฝึกกายอยู่ เรียกกันว่ากายไม่ตายไม่สิ้น ทำให้ร่างเนื้อของพวกเขามีความสามารถที่อยู่เหนือใต้หล้า ยากที่จะมีสิ่งใดเทียบเคียง องค์ชายหกอย่างน้อยก็คงจะฝึกปรือวิชาฝีมือนี้แล้วละ ยังไงเสียเขาก็ยังถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะที่ทางราชวงศ์รัฐสือนั้นภาคภูมิไม่เป็นรองผู้ใด ” ซือคงชิงฉีทอสีหน้าหนักแน่นขึ้นมา

 

“ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าก้อนหินนี้มีความบ้าคลั่งได้ถึงเพียงนี้ แทบจะไม่เป็นรองกายาทองไม่สูญสลายถึงกับของพี่เยี่ยจงเลยแม้แต่น้อย เดิมทีกายเนื้อของเขานั้นก็มีความแข็งแกร่งเช่นนี้อยู่แล้ว!” จงหลี่ถอนหายใจ บนใบหน้าเต็มเปี่ยมไปด้วยเคร่งเครียด ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือคนใดที่ฝึกปรือพลังกายเนื้ออยู่ในระดับสูงสุดได้ ต่างก็จะถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีพลังกาย จิตวิญญาณที่สูง บุคคลเฉกเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ไม่มีใครที่ธรรมดาแม้แต่คนเดียว

 

“ตูม——”

 

บริเวณสถานที่แห่งนี้ เยี่ยจงลงมือออกมาไม่หยุด ฝ่ามือสีทองของสือซิ่งพวยพุ่งออกไปประดุจดั่งเข้าปะทะกับผาศิลานับสิบครั้งก็มิปาน และการโจมตีทุกครั้งก็ได้ทำให้เกิดรอยร้าวที่พื้นขึ้นมา จนลอยปลิ้วกระจัดกระจายไปทั่ว

 

ทว่าหลังจากที่ปะทะกันไปสิบกว่าครั้ง เยี่ยจงก็ได้ขมวดคิ้วไปมา เขาขณะนี้ก็ได้ใช้ออกมาด้วยพลังกายาทองไม่สูญสลาย แต่ว่าคิดไม่ถึงว่ากายเนื้อของเขาจะถึงกับสามารถปะทะต่อสู้กันโดยที่ไม่ลงเป็นรองถึงขั้นนี้ได้ สือซิ่งนั้นถือได้ว่ามีความมั่นใจอย่างยิ่ง ถึงกับทานรับกระบวนท่าทุกกระบวนท่าจำนวนมากของเขาได้

 

หากมองความหมายในข้อนี้แล้ว นี้ก็เพียงพอที่จะบ่งบอกได้ว่า กายเนื้อของสือซิ่งถึงกับสามารถที่จะเทียบเท่าได้กับของเยี่ยจงได้ มีพลังความสามารถเทียบได้กับกายาทองไม่สูญสลายความสำเร็จเล็กได้

 

“ตูม——”

 

ทั้งสองแยกออกจากกัน เยี่ยจงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา พลิกทั้งสองมือเปลี่ยนแปลงรอยตรา วินาทีนั้นก็ได้พบกับมังกรทองคำเก้าสายปรากฏพัวพันกันขึ้นมาท่ามกลางอากาศ ร่างกายก็ได้กลายเป็นพระราชลัญจกรทองคำขนาดใหญ่ บริเวณทางด้านล่างพระราชลัญจกร ก็ได้มีตัวอักษรทั้งสี่ศรัทธา สวรรค์ สดุดี โชคลาภตัวใหญ่ปรากฏขึ้นมา จนแสบนัยน์ตาอย่างถึงที่สุด

 

เยี่ยจงก้าวเท้าใช้ออกมาด้วยวิชาดำดินรุกคืบ พริบตานั้นก็ได้เข้ามาจนถึงบริเวณทางด้านหน้าของสือซิ่ง จากนั้นก็ได้ใช้พลังตราแห่งราชาแดนมนุษย์ฟาดออกไป หมายจะสังหารสือซิ่งลง

 

“นี้มันพลังฝีมืออะไรกัน!?” ยอดฝีมือทั้งหมดต่างก็เกิดอาการตกใจขึ้นมาในขณะนี้ แม้ว่าพลังตราประทับนี้จะมิได้มีเป้าหมายอยู่ที่พวกเขา แต่ว่าก็แทบจะทำให้พวกเขาต้องก้มลงกับพื้นเพื่อกราบไหว้ด้วยความตื่นเต้น พลังขนาดใหญ่ขุมนี้ ถือได้ว่าเกินกว่าที่จะคาดเดาไปมากแล้ว บริเวณสถานที่แห่งนี้ที่สือซิ่งอยู่ก็ได้รับสภาวะจากแรงกดดันไปเช่นนี้

 

ในขณะนั้น ก็ได้มีเสียงดังสนั่นขึ้นมา มังกรทองคำทั้งเก้าตัวราวกับพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าก็มิปาน ก่อเกิดพลังความน่าหวาดกลัวขุมหนึ่งแผ่กระจายออกไป ราวกับเป็นตราประทับของมหาราชันเผ่ามนุษย์จากแดนเทพผู้หนึ่งจริงก็มิปาน

 

“ตราแห่งราชาแดนมนุษย์!? กับสวะอย่างเจ้าเนี่ยนะ ถึงกับมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะใช้ออกด้วยตราแห่งราชาแดนมนุษย์!?” สือซิ่งมีโทสะขึ้นมา ตราแห่งราชาแดนมนุษย์เดิมทีแล้วก็ถือได้ว่าเป็นวิชาแห่งมวลเผ่ามนุษย์อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเผ่ามนุษย์หลังจากที่แบ่งออกเป็นเก้ารัฐใหญ่โบราณไปแล้ว ตราแห่งราชาแดนมนุษย์นี้ก็ได้หายสาบสูญไป แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าวันนี้กลับถูกเยี่ยจงใช้ออกมา นี้ทำให้เขาผู้ซึ่งเป็นองค์ชายหกแห่งรัฐสือกับความอัดอั้นจะแทบจะกระอักโลหิตออกมา

 

ในขณะนี้ ฟ้าดินเกิดการสั่นสะเทือน ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ก็ได้ถูกฟาดลงไป สือซิ่งมองขึ้นฟ้าไปอย่างบ้าคลั่ง ลงมือโดยใช้พลังทั้งหมดออกไป

 

“ตูมตูม——”

 

จากนั้น ทางด้านตราแห่งราชาแดนมนุษย์ที่มีพลังความน่าหวาดกลัวอย่างมาก ขณะนี้ก็ได้ถูกใช้ออกมาจนมีพลังทำลายที่สยบฟ้าสยบดินได้เลย พริบตานั้นก็ได้กดทับลงไปยังทางด้านของสือซิ่งที่อยู่ทางด้านล่าง

 

สายตาที่ชมดูการต่อสู้ของยอดฝีมือทั้งหมดก็ได้แปรเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน การโจมตีสายนี้ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง ทั้งยัง ตราแห่งราชาแดนมนุษย์สามคำนี้เปรียบเสมือนดั่งตัวแทนของกระบวนท่าอันน่าหวาดกลัวได้อย่างแท้จริง ขอเพียงเป็นยอดฝีมือของเผ่ามนุษย์ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบวนท่านี้ เกรงว่าก็คงจะต้องกระตุ้นพลังสภาวะขึ้นมาก่อนเสียหลายส่วนแล้วค่อยว่ากล่าวกันถึงเรื่องอื่น

 

ผู้คนมากมายต่างก็ถามตัวเอง หากว่าตนเองต้องมาพบเจอกับกระบวนท่าเช่นนี้ อย่าว่าแต่ต้านรับเลย คงจะยินยอมรับความพ่ายแพ้ไปในทันทีก็เป็นได้ นั้นก็เพราะว่าตราแห่งราชาแดนมนุษย์เปรียบเสมือนตัวแทนของมหาราชันแดนเทพในสมัยโบราณ ถือได้ว่าน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง

 

“อา——”

 

ภายใต้วิชาตราแห่งราชาแดนมนุษย์ ทันใดนั้นสือซิ่งราวกับบ้าคลั่งขึ้นมา เส้นผมสีดำก็ได้ยุ่งขึ้นมาในทันที ในขณะนี้เอง เขาก็ได้พลิกมือคราหนึ่ง พลังฝ่ามือขนาดใหญ่ที่สามารถที่จะพลิกฟ้าพลิกตะวันได้ก็ได้ปรากฏขึ้นมาบริเวณทางด้านหลัง มุ่งหน้าเข้าปะทะออกไปทางด้านบน

 

บนมือขนาดใหญ่ข้างนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแห่งคลื่นเกลียวทุกบริเวณ ภายในคลื่นเกลียว ราวกับว่ามีการคงอยู่ของช่องว่างของมิติปรากฏขึ้นไม่หยุดก็มิปาน ดูไปแล้วลี้ลับอย่างยิ่ง

 

“วิชาประจำรัฐสือ ฝ่ามือประทับห้วงอากาศ!” ซือคงชิงฉีแปรเปลี่ยนสีหน้าไป คิดไม่ถึงว่าเยี่ยจงจะสามารถที่จะกดดันให้สือซิ่งใช้กระบวนท่านี้ออกมาได้เร็วจนถึงเพียงนี้

 

รอยตราอันน่าหวาดกลัวก็ได้พุ่งขึ้นสู่ฟ้า แผ่ปกคลุมไปทั่วทั้งสิบลี้ ต้านทานตราแห่งราชาแดนมนุษย์ของเยี่ยจง

 

“บรึม——”

 

พลังการโจมตีอันน่าหวาดกลัวทั้งสองสายก็ได้เข้าปะทะกันในทันที พุ่งเข้าชนกันอย่างรุนแรง วินาทีนั้น ก็ได้มีความเคลื่อนไหวแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านออกไป จนทำให้พื้นที่ในระยะสูงต่ำนับสิบลี้มลายหายไปโดยสิ้นเชิง ทั้งสองคนยืนอยู่ในสภาวะพื้นดินที่ว่างเปล่า ราวกับว่ากลายเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ผืนหนึ่ง

 

“กร๊อบ——”

 

ตราแห่งราชาแดนมนุษย์และฝ่ามือประทับห้วงอากาศก็ได้สลายหายไปในเวลาเดียวกัน เกิดสภาวะการดับสูญอยู่บนท่ามกลางอากาศ นี้เพียงพอที่จะบอกได้ว่า ขอบเขตพลังของสือซิ่งนั้นแข็งแกร่งถึงเพียงใด เขาและเยี่ยจงเข้าชิงชัยกัน จนกระทั่งยากที่จะแบ่งแยกความสูงต่ำได้

 

เยี่ยจงทอสีหน้าเยียบเย็นขึ้นมา แต่ก็มิได้มีความเปลี่ยนไปมากมายนัก เขายังคงยืนลอยตัวอยู่ท่ามกลางอากาศ ฟาดมือขวาออกไป ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ก็ได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ตูม——”

 

ตราแห่งราชาแดนมนุษย์ขนาดใหญ่ก็ได้กดทับลงมาจากฟากฟ้า มังกรทองเก้าสายก็ได้พวยพุ่งออกมา มุ่งหน้ากดดันสังหารลงไปยังบริเวณทางด้านล่างที่สือซิ่งอยู่อีกครั้ง

 

“กร๊อบ——”

 

สือซิ่งใช้พลังฝีมือออกมาทั้งหมด ฟาดฝ่ามือประทับห้วงอากาศออกไป เพื่อที่จะสลายพลังตราแห่งราชาแดนมนุษย์ออกไป

 

“ตูมตูมตูม——”

 

ตลอดทั่วทั้งร่างกายของเยี่ยจงก็ได้ทอเป็นประกายแสงสีทองออกมาเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม ฝ่ามือทั้งสองข้างก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงไปมาไม่หยุด แสงสีสองของตราแห่งราชาแดนมนุษย์แต่ละสายก็ได้ฟาดออกไปติดต่อกันอย่างไม่ขาดสาย ประดุจดั่งว่าพลังลมปราณภายในร่างกายมีการใช้ออกได้ไม่จำกัดก็มิปาน

 

สถานที่ห่างไกลออกไป ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ไม่น้อยต่างก็มองออกไปจนอ้าปากตาค้าง เยี่ยจงผู้นี้ถึงกลับแปรเปลี่ยนไปมากมายเช่นนี้ มีคนใดบ้างที่สามารถที่จะใช้ออกมาด้วยวิชาเช่นนี้ไม่หยุดออกมาได้ นี้ก็เป็นเหมือนกับการรังแกผู้คนอย่างหนึ่งก็ว่าได้

 

จงหลี่ก็มองจนอ้าปากตาค้าง หลังจากนั้นสักพักก็ได้กล่าวออกมาภายในลำคอ : “บ้าไปแล้ว คงจะไม่อาจที่จะแตกคอกับเด็กน้อยเยี่ยจงผู้นี้ได้โดยเด็ดขาด เด็กน้อยผู้นี้เปลี่ยนจนร้ายกาจเกินไปแล้ว ถ้านี้มันเป็นความน่ากลัวของระดับครึ่งก้าวสู่ระดับราชันแล้วละก็ ช่างยากที่จะคาดคิดเอาไว้ได้จริง……”

 

คิ้วอันเรียวงามของซือคงชิงฉีก็ได้ทอเป็นประกายด้วยความแตกตื่นขึ้นมาส่วนหนึ่ง แม้แต่นางเองก็ยังคิดไม่ถึงว่า พลังลมปราณภายในร่างกายของเยี่ยจงถึงกับลึกล้ำถึงเพียงนี้ ประดุจดั่งไม่มีวันสิ้นสุด ช่างยากที่จะคาดคิดได้จริงๆ

 

บริเวณทางด้านล่าง สือซิ่งเกิดความอัดอั้นราวกับกระอักโลหิตออกมาอยู่หลายครา ร่างกายของเขาก็ได้จมเข้าไปยังภายในพื้นดินลึกลงไปนับสิบเซ็น แต่ว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังคงฟาดฝ่ามือต้านทานตราแห่งราชาแดนมนุษย์เอาไว้ได้ ต่อให้สามารถต้านทานต่อไปเอาไว้ได้จริง ท้ายที่สุดเขาก็ยังเกิดความอึดอัดอย่างถึงที่สุด

 

“ตูม——”

 

พริบตานั้นเอง ร่างกายของเขาก็ได้ปรากฏเกราะศิลาโบราณขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ด้านบนของเกราะศิลาก็ได้มีพลังของอักขระไหลเวียนอยู่ จนทำให้พลังสภาวะของตลอดทั่วทั้งร่างกายของคนปะทุขึ้นมาเต็มเปี่ยมอย่างบ้าคลั่ง

 

“ตูม——”

 

สือซิ่งก็ได้ก้าวเท้าออกไปเหยียบอยู่บนพื้นดินก้าวหนึ่ง พริบตานั้นก็ได้พุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า ในขณะนี้เอง ร่างกายของเขาราวกับเป็นเครื่องจักรสู้รบขึ้นมาก็มิปาน ถูกเกราะศิลาห่อหุ้มอยู่ทั่วทุกอนูของร่างกายส่วนหนึ่ง ปะทุพลังการต่อสู้ออกมาอย่างน่าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

 

หัวกระแทก หมัดจู่โจม นิ้วทิ่มแทง ศอกสนั่น วาดเท้า……

 

กระบวนท่าเหล่านี้ก็ได้แปรเปลี่ยนจนกลายเป็นพลังจู่โจมอันน่าหวาดกลัวขึ้นมา ยากที่จะต้านทานเอาไว้ได้ พลังทั้งหมดที่กระทบเข้ามาก็ได้มลายหายไปเป็นเพียงอากาศธาตุ

 

จากนั้นเขาก็ได้พุ่งขึ้นสู่ฟ้าไปพร้อมกัน ตราแห่งราชาแดนมนุษย์แต่ละสายต่างก็ได้ถูกบดขยี้ไปในทันที

 

นี้คือพลังที่ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงของสือซิ่ง ขณะนี้เขาได้แผ่ขยายบรรยากาศความน่ากลัวออกมา ราวกับคิดจะใช้วิธีนี้ในการกดดันเยี่ยจงก็มิปาน

 

“คิดหรือว่ามีแต่เพียงเจ้าที่ใช้การละเล่นเยี่ยงนี้เป็น?”

 

เยี่ยจงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา ก้าวเดินออกมาหนึ่งก้าว พลังอักขระกิเลนสีม่วงก็ได้ปรากฏขึ้นมาตอนนี้ในบริเวณร่างกายของเขาภายในพริบตา หลังจากนั้น ก็ได้มีพลังกระจ่างใสสายหนึ่งปรากฏขึ้นมาจนกลายเป็นเกราะกิเลนอยู่บริเวณร่างกายของเขา

 

“ตูม——”

 

ร่างกายขยับออกไปคราหนึ่ง พริบตานั้นเยี่ยจงก็ได้เข้ามาจนถึงบริเวณทางด้านหน้าร่างกายของสือซิ่ง บนแขนก็ได้ปรากฏขึ้นมาด้วยพลังอักขระกิเลน จากนั้นก็ได้พวยพุ่งหมัดเข้าปะทะออกไปบริเวณทางด้านหน้า

 

นี้ก็คือแขนกิเลน จากนั้นก็ได้พุ่งหมัดปะทะออกไป ประดุจดั่งพลังเทพกิเลนเย้ยสวรรค์เก้าชั้นก็มิปาน แฝงเอาไว้ด้วยพลังแห่งจักรพรรดิฟ้าอยู่ชนิดหนึ่งยากที่จะถอยไปได้

 

ในขณะนี้เอง สือซิ่งก็ได้เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา ตนที่พลังทำลายนั้นแข็งแกร่งไร้ผู้ต้านทาน แต่ว่าเยี่ยจงถึงกับยังหาญกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา ยิ่งปะทะกันก็ยิ่งลงมือหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ พลังทำลายเช่นนี้ พลังฝีมือเช่นนี้ เพียงแค่มองประกายสักสองครา ก็พอที่จะทำให้ผู้คนรู้สึกตกใจกับการต่อสู้ในครั้งนี้ได้แล้ว

 

“เปรี้ยง——”

 

สือซิ่งมีปฏิกิริยากลับมาภายในพริบตา แล้วก็ได้พุ่งหมัดออกไปบริเวณทางด้านหน้าเข้าปะทะออกไป การโจมตีของทั้งสองฝ่ายก็ได้เข้าปะทะชนกันเข้าไปในพริบตาอีกครั้ง

 

“ตูมบรึมบรึม——”

 

หมัดเยี่ยจงก็ได้ทอประกายประดุจแสงหลั่งไหลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ออกกระบวนท่าทีหลังแต่ถึงก่อน ฟาดปะทะเข้าไปยังบริเวณทรวงอกของสือซิ่งเข้าไปเต็มๆ วินาทีนั้น ก็ได้ปะทุพลังความน่ากลัวขึ้นมาสายหนึ่ง ร่างกายของสือซิ่งก็ได้ลอยกระเด็นออกไป

.

.

.

.

กลุ่มละ 80ตอน/กลุ่ม/100บาทครับ

โปรโมชั่น กลุ่ม 6-12 ราคา 550

VIP5 https://goo.gl/ekcF7V

VIP6 https://goo.gl/4rqw89

VIP7 https://goo.gl/qrQ7GA

VIP8 https://goo.gl/Uzqf2x

VIP9 https://goo.gl/1jPZtn

VIP10 https://goo.gl/L8awva

VIP11 https://goo.gl/rojEiG

VIP12 https://1th.me/o9CD

ช่องทางการโอนเงิน https://goo.gl/MnYB81

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่

INBOX m.me/ZuiQiangWuShen

#####Fanpage#####

https://www.facebook.com/ZuiQiangWuShen/

 

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ

天帝路 (Tiāndì Lù) : lit. Heavenly Emperor Road, 星空下无敌 (Xīngkōng Xià Wúdí) : lit. Invincible Under the Starry Heavens, 最强武神 (Zuìqiáng Wǔshén)
Score 6.8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2008 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Strongest Martial God เทพยุทธสะท้านภพ หลังจากที่เยี่ยจงนั้นได้ตื่นขึ้นมา ปรากฏว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนไป กำลังภายในของเขานั้นได้หายไป อาจารย์คนสวยก็ไม่อยู่ ในตอนนี้เขาเป็นเพียงขยะของตระกูลเยี่ย ถูกเปลี่ยนตัวคู่หมั่นหมาย เป็นคนพิการไม่สามารถที่จะฝึกวิชาได้ อีกทั้งยังมีหลายคนที่กำลังหมายหัวเอาชีวิตเขาอยู่ ถ้าหากต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชะตาฟ้าลิขิต มีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้น ใช้มือของตนไคว่คว้าเอาไว้ เปลี่ยนเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้า

Comment

Options

not work with dark mode
Reset